(เออๆดีแล้ว ยังไงก็เก็บปืนไว้ที่ห้องนั่นแหละ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่ำๆพี่แวะไปเอา ไม่ต้องเอาติดตัวมาหรอก เดี๋ยวเจอตำรวจเข้าแล้วจะลำบาก)
"ครับ ขอบคุณมากนะ" ชนกานต์เอ่ยขอบคุณ เพราะถ้าไม่ได้ดนัยที่มีใบอนุญาตมีปืนให้ยืมมาเขาก็คงทำตามแผนไม่สำเร็จ คิดแล้วก็นึกอยากไปทำใบอนุญาตขอมีปืนไว้เหมือนกัน เผื่อต้องใช้ป้องกันตัวเอง หรือไม่ก็คงต้องหาปืนโมเดลมาไว้สักอัน คงพอใช้ขู่ปวีร์ได้
ชนกานต์คิดได้สักพักก็เริ่มรู้สึกง่วงงุน หลายวันที่ไปอยู่กับปวีร์นั้นถึงจะได้นอนแต่ก็หลับไม่เต็มตา เขาถอดสูทโยนไปแล้วก็เดินไปอาบน้ำไวๆก่อนกลับออกมาทิ้งตัวนอน
ในความอ่อนเพลีย ชนกานต์ยังครุ่นคิดถึงการเปลี่ยนชุดกุญแจห้องใหม่ยกเซ็ตกันเอาไว้ด้วยความระแวงว่าปวีร์จะเอากุญแจของเขาไปปั๊มเอาไว้หรือเปล่า
หลังจากที่ชนกานต์ทำลายไฟล์รูปได้ เวลาก็ล่วงเลยไปเกือบเดือน เป็นเวลาที่ยุ่งวุ่นวายกับโปรเจคที่ต้องรับผิดชอบจนแทบไม่ได้มีเวลาพักผ่อน ปวีร์เองก็ถูกหน้าที่รุมเร้าจนไม่มีเวลามาเกาะแกะด้วยเช่นกัน จากตอนแรกที่กังวลเรื่องท้อง ชนกานต์ก็ลืมมันไปเสียสนิทใจ
"เหนื่อยกันหน่อยนะทุกคน แต่ถ้าผ่านก็จะได้โบนัสเพิ่มกันแน่ๆ" ชนกานต์เอ่ยให้กำลังใจกับลูกน้อง ทั้งที่ตัวเองเหนื่อยแทบขาดใจ
"หัวหน้าพักบ้างนะครับ หน้าคุณซีดมากเลย"
ชนกานต์ยิ้มให้ก่อนส่ายหน้า ปากบอกไม่เป็นอะไร แต่พอลุกขึ้นก็เวียนหัวเหมือนพื้นมันหมุนจนต้องวางมือพยุงตัวไว้กับโต๊ะ
"เป็นอะไรหรือเปล่าครับ!?" ลูกน้องอุทานถามอย่างประหลาดใจ
"แค่มึนหัวน่ะ คงจะนอนน้อยไปหน่อย ขอผมพักครู่หนึ่งก็แล้วกัน" ชนกานต์ว่าแล้วยืดตัวตรง ขยับแว่นที่เลื่อนลงมาตรงดั้งจมูกให้กลับเข้าที่แล้วเดินออกไป
ชนกานต์เดินตรงไปยังห้องน้ำ เขาพุ่งตัวเข้าห้องที่อยู่ใกล้ที่สุดแล้วปิดล็อกก่อนหันไปอาเจียนใส่โถชักโครกทันที ชนกานต์อาเจียนจนแสบคอและใจสั่นไปหมด แทบจะล้มนั่งลงกับพื้นแต่ก็ฝืนทนกดชักโครกแล้วเปิดประตูออกมา ผงะเล็กน้อยเมื่อเห็นหน้าพัสกรยืนอยู่หน้าห้องน้ำ
"ผมได้ยินเสียงคุณอาเจียน เป็นอะไรหรือเปล่า?" ชนกานต์สั่นหน้า พึมพำบอกแค่ว่าเครียดเรื่องงานแล้วเดินไปที่อ่างล้างมือ เปิดก็อกแล้ววักน้ำมากลั้วปาก
"พักบ้างก็ได้นะครับ" พัสกรว่าแล้วเดินตามติดมายืนข้างๆ เกรงว่าชนกานต์ที่หน้าซีดจะล้มพับไปกับพื้น
"แต่เห็นอาเจียนขนาดนี้นี่ไม่บอกผมก็นึกว่าคุณท้องเสียอีก"
พัสกรพูดแล้วหยุดทันทีเพราะดวงตาคู่สวยหลังเลนส์มองถมึงทึงผ่านกระจกตรงอ่างล้างหน้ามาราวกับจะกินหัวกัน
"ขอโทษครัว พอดีลูกน้องผมเขากำลังแพ้ท้องอยู่ เห็นอาเจียนเหมือนกันก็เลย.." พัสกรหยุดพูดไปเพราะอีกฝ่ายโบกมือแล้วตีสีหน้ารำคาญใจ
"ช่างเถอะ" ชนกานต์บอกปัดแล้วเดินหนีไป พอออกห่างมาได้ก็หยุดยืนหลบมุมที่ไร้คน สีหน้าปรากฏความเป็นกังวลขึ้นมา
"คงไม่...หรอกนะ" ชนกานต์ครางแผ่วกับตัวเอง มือยกขึ้นแตะตรงท้องน้อย นึกกังวลว่าหากภายในนี้มีชีวิตใหม่กำลังจะถือกำเนิดแล้วจะทำอย่างไร
"ไม่อะไรหรอครับ?" เสียงที่โพล่งขึ้นมาข้างหูทำเอาชนกานต์สะดุ้ง หันกลับไปก็เจอหน้าปวีร์ยืนอยู่ ชนกานต์รีบเก็บสีหน้าและแสดงความเย็นชาไร้อารมณ์ออกมา
"มีอะไร?"
"ไอ้กรมันบอกว่าเห็นคุณอาการไม่ดีเท่าไหร่ ผมเลยตามมาดู กลัวคุณไปล้มหัวฟาดที่ไหนแล้วจะยุ่งเอา ผมยังไม่อยากเลื่อนขึ้นเป็นหัวหน้าโปรเจคของเราน่ะครับ"
ปวีร์ยิ้มยียวน ทำเอาชนกานต์หน้าตึง หงุดหงิดทันที
"ฉันไม่ยอมให้นายได้เลื่อนขึ้นเป็นหัวหน้าโปรเจคนี้ง่ายๆหรอกนะ"
ปวีร์ยักไหล่แล้วเอื้อมมือไปจะแตะหน้าผาก แต่ชนกานต์ปัดมือออกไป ดวงตาตวัดมองฉุนเฉียว
"อย่ามาถูกตัวฉันนะ" ชนกานต์ขู่ฟ่อเหมือนแมวพองขน ปวีร์ถอนหายใจแล้วส่ายหน้า
"คุณนี่ทำตัวเป็นพวกนางเอกหวงตัวไปได้ ตัวคุณไม่น่าเหลืออะไรไว้หวงกับผมแล้วนะครับ" คำพูดกวนประสาทพาเอาความอดทนที่มีอยู่น้อยนิดพัดหายไป ชนกานต์ยกหมัดขึ้นต่อยหมายจะตั๊นหน้าหล่อๆของปวีร์ให้เสียโฉม แต่เพราะไม่มีแรงกอปรกับยังไม่หายมึน หมัดที่ต่อยจึงวืดไปพร้อมกับร่างๆที่โงนเงน ปวีร์ผวารับไว้อย่างตกใจ
"หัวหน้ากานต์!" ชนกานต์ได้ยินเสียงปวีร์อุทานอย่างนั้นก่อนหมดสติไป
ชนกานต์มาฟื้นอีกทีก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องพยาบาลของบริษัทเพียงลำพัง มองดูนาฬิกาข้อมือก็เห็นว่ามันยังอยู่ในเวลางานจึงลุกขึ้นมา คอที่แห้งผากทำให้หันมองหาน้ำก็เจอว่ามีขวดน้ำตั้งอยู่ตรงโต๊ะด้านข้างกับถ้วยยาที่มียาแกะไว้ ใต้ถ้วยยามีกระดาษโน้ตวางอยู่ ชนกานต์หยิบมันขึ้นมาดู
‘เม็ดเล็กคืออยากแก้คลื่นไส้ ส่วนเม็ดใหญ่คือยาแก้ปวด อย่าลืมหาอะไรกินด้วยล่ะ’
ชนกานต์อ่านข้อความสั้นๆที่ไม่ระบุชื่อคนเขียน แต่ตัวลายมือก็เป็นตัวบอกได้ดีว่าคนเขียนก็คือไอ้คนที่มากวนประสาทก่อนเขาจะหมดสติไป ชนกานต์เบ้ปากมองยาในถ้วยอย่างไม่ไว้ใจ
“ใครเขาจะไว้ใจคนอย่างนายกันล่ะไอ้บ้า!” ชนกานต์ว่าก่อนหยิบถ้วยยาไปเทยาทิ้งแล้วเดินไปค้นยาในตู้มาทานเอง
ถึงปวีร์จะหยิบยามาถูกแต่จะไว้ใจได้อย่างไรว่าปวีร์ไม่ได้ทำมันหล่นพื้นแล้วเอามาให้เขากิน
ชนกานต์คิดอย่างหงุดหงิดใจก่อนจะเปลี่ยนเป็นวิตกเมื่อเห็นคำเตือนของยาว่าห้ามผู้ที่มีครรภ์รับประทาน เขาวางยากลับเข้าชั้น ฝืนทนอาการคลื่นไส้และอ่อนเพลียของตัวเองเดินออกจากห้องพยาบาลไป ชนกานต์เดินลงไปซื้อขนมปังและโกโก้ร้อนมาทานประทังความหิว แม้จะรู้สึกอยากจะอาเจียนแต่ก็ฝืนทานไปจนหมดก่อนเดินกลับเข้าไปออฟฟิศอีกครั้ง
ภาพที่เห็นคือทุกคนกำลังทำงานกันอย่างแข็งขันโดยมีปวีร์เป็นศูนย์กลางความคิดอยู่ ชนกานต์หน้าตึงเล็กน้อยที่เห็นปวีร์ทำหน้าที่แทนตัวเองและทำมันได้ดีมาก พอปวีร์หันมาเห็นชนกานต์ยืนมองอยู่ก็เงียบลงแล้วยกยิ้มมุมปากหลิ่วตาให้ ชนกานต์นึกอยากชูนิ้วกลางให้แต่ก็ติดตรงที่ลูกน้องในทีมหันมามองพอดี
“อ้าว! หัวหน้าค่อยยังชั่วแล้วหรอครับ?” ชนกานต์พยักหน้าก่อนเดินไปนั่งที่ตัวเอง
“ไปถึงไหนกันแล้ว?” ชนกานต์เอ่ยถามแต่ไม่มองหน้าปวีร์ ปวีร์อมยิ้มขำ รู้ว่าชนกานต์ไม่พอใจเขาแต่ก็เลือกที่จะไม่กวนประสาทเพิ่มเติมเพราะเห็นว่าชนกานต์ยังหน้าซีดเซียวอยู่
“หัวหน้าวีร์เขาจัดการส่วนที่หัวหน้าพูดค้างไว้เมื่อเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ”
คำบอกนั้นทำให้ชนกานต์หน้าตึงยิ่งกว่าเก่าแต่จะเอ่ยตำหนิก็ใช่ที่ ได้แต่มองอีกฝ่ายที่อย่างอาฆาตก่อนจะจัดการถามความคืบหน้าในส่วนอื่นต่อ ส่วนปวีร์นั้นจากตอนแรกที่อารมณ์ดีก็เปลี่ยนมาขมวดคิ้ว เพราะมองดีๆก็เห็นว่าคนบ้างานกำลังฝืนกำลังตัวเองอยู่
“หน้าคุณดูซีดมากเลยนะ ผมวางยาไว้ให้ คุณได้กินหรือเปล่า?”
เห็นชนกานต์พูดไปได้สักพักก็หยุดนิ่งเหมือนคนที่กำลังจะอาเจียนแต่ฝืนไว้ ชนกานต์ทำเพียงแค่กลอกตามามองแล้วยืนสูดหายใจลึกๆ ใบหน้าที่ซีดลงกว่าเก่าชวนให้เป็นห่วง ปวีร์ลุกจากโต๊ะแล้วก้าวยาวๆไปหา กำลังจะถึงตัวแต่ชนกานต์ก็ถอยหนี มองหน้าปวีร์เพียงชั่ววินาทีก่อนจะโผไปทางห้องน้ำอีกหน ทุกคนในโปรเจคตกใจเล็กน้อย ต่างก็มองตามแผ่นหลังบางที่หายลับไปจากกรอบประตู ปวีร์ยืนงงเล็กน้อยก่อนจะหันมาบอกให้ลูกทีมจัดการงานกันต่อและเดินตามออกไปดูอาการของชนกานต์
ปวีร์เดินตามไปจนถึงห้องน้ำ ได้ยินเสียงชนกานต์โก่งคออาเจียนอยู่ในห้องริมขวาสุดก็ยืนพิงอ่างล้างมือ คอยกระทั่งเสียงชักโครกดัง ประตูก็เปิดล็อก ชนกานต์ผงะที่เห็นเขายืนอยู่
“ไหวไหม?” ปวีร์ทอดเสียงถามอย่างนึกห่วง ชนกานต์ไม่พูดอะไรแต่เดินไปล้างปาก นึกหงุดหงิดที่กายป่วยแล้วยังต้องมาเจอปวีร์อีก
“ผมว่าคุณไปหาหมอหน่อยดีไหม?” ชนกานต์ปรายตามองด้วยสีหน้าไม่ยินดียินร้ายกับคำแนะนำ ปวีร์เห็นคนหัวดื้อมองมาอย่างนั้นก็ยักไหล่
“ผมก็แค่กลัวคุณเดี้ยงก่อนวันพรีเซ้นส์โปรเจคก็เท่านั้น” ปากแข็งบอกไปอย่างนั้นแต่ในใจนึกห่วงมากกว่า
ชนกานต์ไม่ตอบแต่สะบัดหน้าเดินกระแทกส้นออกจากห้องน้ำไป
ปวีร์ได้แต่ส่ายหน้าแล้วเดินตามไป
พอเลิกเงินวันนี้ ชนกานต์ก็ขอตัวกลับไปแทนที่จะอยู่ทำโอทีเช่นเคย ระหว่างทางก็แวะร้านขายยา ซื้อเอาที่ตรวจครรภ์มาก่อนเดินไปร้านสะดวกซื้อข้างๆเพื่อซื้อข้าวกล่องก่อนขับรถต่อไปยังคอนโดของตัวเอง โดยไม่รู้ว่าปวีร์แอบขับรถตามมาจนกระทั่งถึงคอนโด เห็นว่าถึงที่หมายอย่างปลอดภัยแล้วปวีร์จึงขับรถกลับคอนโดของตัวเอง
ถึงห้องพักแล้วชนกานต์ก็วางของลงบนโต๊ะและถอดสูทเหวี่ยงไปไว้ที่โซฟา สายตาหันมองถุงของร้านขายยาก่อนหยิบมันขึ้นมา ชนกานต์เม้มริมฝีปากนึกสมเพชตัวเองในใจขณะหยิบกล่องที่ตรวจขึ้นมาแกะ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าชีวิตนี้จะต้องใช้มัน
ชนกานต์กวาดตาอ่านวิธีใช้เสร็จเรียบร้อยแล้วก็นั่งทำใจอยู่พักหนึ่งก่อนตัดสินใจเข้าห้องน้ำไปจัดการตามวิธีตรวจ เสร็จแล้วก็มานั่งรอดูผลด้วยใจกระวนกระวาย ชนกานต์รู้สึกว่าตัวเองมือเย็นเฉียบ ไม่กล้ามองไปที่แท่งตรวจ กลัวจะเห็นผลปรากฏขึ้นมาว่ามันมีสองขีด ชนกานต์นั่งทำใจอยู่พักใหญ่ถึงหยิบมันขึ้นมาดูได้
แกร็ก!
ที่ตรวจในหล่นจากมือของชนกานต์ไปที่พื้น ถึงจะทำใจแล้วก็ตามทีแต่ขีดสองขีดที่ปรากฏอยู่บนที่ตรวจมันก็ทำให้ชนกานต์รู้สึกช็อคอยู่ดี
เขากำลังตั้งท้อง!
กำลังตั้งท้องลูกของปวีร์อยู่!
ชนกานต์หน้าซีดลง ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาอย่างหมดแรง ไม่รู้ว่าอนาคตจากนี้ไปจะเป็นอย่างไร คนจะมองมาแบบไหนที่เขาตั้งท้องทั้งที่ยังโสดเช่นนี้ แน่นอนว่าการตั้งท้องมันมีผลต่อการทำงานของเขาด้วยเช่นกัน
มือเรียวยกขึ้นทาบท้องน้อย ใจมันเต้นแปลกๆที่ได้รู้ว่าในกายยังมีอีกหนึ่งชีวิตที่รอวันลืมตาขึ้นบนโลกใบนี้ ถึงเด็กคนนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นมาเพราะความรักแต่ชนกานต์ก็ถือว่าเด็กคนนี้คือลูกของตน เรื่องจะเอาออกคงตัดทิ้งไปได้เลย เขาทำไม่ลง...แต่อนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร และถ้าปวีร์รู้มันจะเกิดอะไรขึ้น
ชนกานต์ได้แต่ทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาแล้วยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก ครุ่นคิดหาทางออกอย่างกังวลใจ...
-TBC-
โอ้ว ตกใจมาก ตอนที่ผ่านมาคนเม้นส์เยอะเลย ขอบคุณทุกคอมเม้นส์มากนะคะ
เห็นผ่านตาอยู่ว่ามีคนงงเรื่องผู้ชายท้องได้ในเรื่องนี้ ลองกลับไปอ่านทอล์คท้ายตอนของตอนที่แล้วนะคะ มีอธิบายไว้แล้วค่ะ ^^
นี่มันอาชญากรรมชัดๆ
ถ้าไม่ติดขนบนิยาย ที่คนอ่านญิงสาวชอบแฟนตาซีให้ตัวเอง โดนหนุ่มรูปหล่อ มาเติมเต็มจินตนาการทางเพศผ่านตัวแทนนายเอกที่อ้อนแอ้นโดยการขืนใจ (เพราะว่าไม่ได้ยินยอม แต่ต้องตามเพราะฝืนธรรมชาติของร่างกายไม่ได้) ผ่านการมีเซ็กซ์รูปแบบต่างๆ จนฟินกัน ในความเป็นจริง เป็นไอ้อ้วนหื่นสักคนมาทำอย่างนี้ เกิดขึ้นกับใครคงมีฆ่าตัวตายหรือไม่ก็ฆ่าไอ้อ้วนหื่นไปแล้ว ต้องตายกันไปข้าง การข่มขืน ลดทอนศักดิ์ศรีมนุษย์ครั้งที่หนึ่ง ดันมีแบล็กเมล์ข่มขู่อีก ศักดิ์ศรีโดนเหยียบย่ำครั้งแล้วครั้งเล่า พระเอกเองหน้าตาก็มี สมองก็มี ไม่มีทางพิชิตใจแล้วหรอ ทำวิธีนี้มันเลวและอึดอัดแทนนางเอกมากๆ ไม่ฟินเลยแม้แต่นิดค่ะ
จัดเถอะ จะรออ่าน วิจารณ์อะไรแรงไปก็ขออภัย แต่จัดให้คนเลวได้รับผลกรรมเถอะ อย่าให้เป็นขนบนิยายเชยๆที่คนหน้าตาดีชนะทุกอย่างและได้ครองคู่อย่างราบรื่นนะ รับไม่ได้
ขอบคุณมากนะคะสำหรับคำวิจารณ์ แต่ไม่รู้ว่าเนื้อเรื่องที่ต่อจากนี้ไปจะเป็นขนบนิยายเชยๆหรือไม่นะคะ การันตีไม่ได้เหมือนกัน
แต่เนื่องจากเรื่องนี้วางพล็อตไว้ไม่ให้ดราม่าเคล้าน้ำตานัก (ไม่มีเวลาให้ดราม่านักด้วยเพราะอย่างที่เคยบอกแล้วว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสั้น(ที่มันยาวกว่าเรื่องสั้นปกติไปเสียแล้ว - - ) จึงอาจกลายเป็นนิยายขนบเชยๆได้ (ที่สำคัญคืออิคนเขียนยกหางคุณปวีร์ค่ะ555)
ถ้าทำให้ผิดหวังก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ ยังไงจะรับคำวิจารณ์ไว้เผื่อในอนาคตข้างหน้าได้มีโอกาสเขียนนิยายแนวนี้อีกจะเอามาใช้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ^^