ตอนพิเศษ เราและนาย / Happy Halloween
‘ซอมบี้น้อย.....นายช่างน่าร๊ากกกกกกก’
‘เอ๊ะ!!!! ตายจริง...ทำไมเรียกน้องอย่างนั้นล่ะเจ้าบื้อ’
‘ก็เค้าเหมือนซอมบี้เด็กในหนังผีเมื่อคืนนี้อ่ะ’
.
.
.
.
.
“หมอก.....หมอก.....”
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ เป็นวันหยุดเพียงวันเดียวของนายม่านหมอก นิสิตเฟรชชี่ปีหนึ่งควบด้วยตำแหน่งพนักงานพาร์ทไทม์กะดึกร้านหมูกระทะ หมอกกะว่านอนไปจนถึงเที่ยง เพื่อกักตุนเรี่ยวแรงเอาไว้ใช้ในสัปดาห์ถัดไป แต่ทว่าเสียงใหญ่ ๆ ดัง ๆ ของบื้อก็กำลังรบกวนเวลานอนของเขาแต่เช้าตรู่
“อื้อ....จะเอาขนมก็ไปขอน้าอรไปบื้อ”
“เปล่าซักหน่อย...บื้อมีธุระสำคัญต่างหาก”
“เอาไว้ค่อยคุยสิ”
“ไม่ตื่นเค้าทับตัวนะ”
“....”
“นี่หมอก....หมอก...ถ้าไม่ตื่นขึ้นมาล่ะก็....พลาดของดีไม่รู้ด้วยนะ”
“....”
“....”
“อ๊ากกกกกกกกกก....เฮ้ย.....ไรของบื้อฟะ.....ทับเราทามม๊ายยยยยย”
“ก็หมอกไม่สนใจบื้ออ่ะ”
“เฮ้อ”
“ถอนหายใจอีกแล้ว....ชอบถอนหายใจ ๆ ๆ ๆ เดี๋ยวงอนหมอกนะ”
“ครับผม....ตื่นแล้วก็ได้ วันนี้ไม่ต้องไปยกของเหรอ มาแต่เช้าเลยนิ”
“วันนี้วันหยุดประจำเดือนไง...โรงน้ำแข็งปิดไงหมอก....นี่....วันหยุดของบื้อกับหมอก....เหมือนสวรรค์เป็นใจเลยเนาะ....หยุดตรงกันเลยอ่ะ...คิกคิกคิก”
“เฮอะ....เดี๋ยวนี้บื้อเก่งเนอะ...พูดประโยคยาก ๆได้ด้วย...แบบนี้ต้องให้รางวัล”
“หอมแก้มใช่มั้ย”
“เปล่าเว้ย....เลี้ยงติมแท่งบื้อต่างหาก เหมือนทุกทีอ่ะ”
“เซ็ง....กินมากเดี๋ยวตัวแตก...ตอนนี้ใคร ๆ ก็บอกว่าหุ่นเค้าเหมือนเดอะร็อค รู้แม๊ะ...”
หมอกสลัดผ้าห่มออกจากตัวพร้อมบิดขี้เกียจ ผมสั้น ๆ ธรรมดาของเขา ที่ไม่ได้ตัดตามแฟชั่น ทำให้พ่อหนุ่มน้อยดูสะอาดสะอ้าน ถ้าไม่ติดว่ามีรอยแผลเป็นวงใหญ่ กับดวงตามัวหม่นข้างหนึ่ง หมอกคงติดธรรมเนียบหนุ่มป๊อปในมหาวิทยาลัยไปแล้ว ขนาดที่ว่า...คนที่เห็นใบหน้าของเขาอีกข้างหนึ่งที่เป็นปกติ ยังอดใจไม่ได้ ถึงกับตรงดิ่งหมายเข้ามาจีบ(แน่นอนว่าต้องเป็นเก้งกวาง) แต่พอเห็นหน้าเขาเต็ม ๆ รายไหนรายนั้น เป็นได้ถอยกรูด หนีหายสลายโต๋ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งนาที
“เฮ้....บื้อ...มองอะไรวะ....จะจ้องให้ทะลุเลยไง๊?”
“หมอกขาวจัง”
“ไอ้หื่น!!!!”
ก็มันน่าหื่นอยู่น้อยเสียเมื่อไหร่ สำหรับบื้อ ก็หมอกของเขานั้นตัวหอมเหมือนเด็ก ๆ แก้มก็ป่องน่าหยิก กางเกงนอนขากว้าง ทำให้เห็นโคนขาขาว ๆ มองแล้วมันหวิว ยิ่งตอนหมอกถอดเสื้อ มันแบบว่า.....น่าฟัดน่าหยอกเล่น
ถึงจะมีแผลก็ไม่เป็นไร ยังไงหมอกก็ยังน่ารัก ไม่ว่ามองจะมีแผลหรือไม่มี แผลจะเล็กหรือใหญ่ แต่หมอกของบื้อน่ารักเสมอ
ถ้าเทียบจากอายุสมอง บื้อก็เหมือนน้องชายของหมอก
แต่ถ้าพูดถึงร่างกายแล้ว....
แค่มองหมอกเปลี่ยนผ้า นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเตรียมอาบน้ำ น้องชายของบื้อมันก็แข็งปั๋ง
แล้วของบื้อน่ะมันก็ใช่น้อย....น้อง ๆม้าศึกพร้อมโจนทะยาน
บางคืนก็แอบเก็บเอาหมอกไปฝันลามก ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าตัวเองนั้นรู้สึกอะไร ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังฝันลามก รู้แต่ว่ามันหวิว ๆ เบา ๆ ระยิบระยับเหลือเกิน ตื่นขึ้นมาก็เป้าเหนียวหนึบ
“อะไรของนายอีกอ่ะ”
“ลูกสาวเสี่ยให้บื้อมา....ตั๋วหนังผี”
“ใช่เหรอบื้อ”
หมอกรับบัตรอะไรสักอย่างจากอีกฝ่ายมาดู แล้วก็ร้องอ๋อ มันเป็นบัตรวีไอพีที่ใช้สำหรับเข้าร่วมงานปาร์ตี้วันปล่อยผี ที่จัดขึ้นอย่างหรูหราในผับชื่อดังย่านคนรวย มีเหล้าฟรี กับดนตรีชวนปวดหัว แต่ค่าเข้านั้นแพงยิ่งกว่าค่าแรงรายวันของพวกเขาสองคนรวมกัน และมีข้อแม้ว่าต้องแต่งกายเป็นผีเพื่อให้เข้าธีม
“ทำไมเค้าให้บื้อมา”
“เค้าชอบบื้อมั้ง”
“หลงตัวเองนะเรา”
“ก็บื้อหล่อนิ”
“เอาความเจงงงง”
“เค้าให้เพราะบื้อขยันทำงานไง....."
"หราาาาา"
"แหะ ๆ จริง ๆแล้วมันเหลือน่ะ...”
“บื้อ......เอาความเจงงงงงงง”
“ก็....ก็....ก็”
“คนโกหกมักติดอ่างนะบื้อนะ”
ไม่ชอบหมอกก็ตรงนี้ รู้ทันกันเรื่อยเชียว
ใช่....จริง ๆ แล้วมันเหลือ เพราะเจ้าหล่อน(คุณเจน : ลูกสาวเจ้าของโรงน้ำแข็ง)เพิ่งเลิกกับแฟนหนุ่มอย่างฉุกละหุก ก็เลยเอาบัตรมาโยนทิ้งลงถังขยะ นายบื้อเก็บได้ก็เลยดีใจยกใหญ่ เพราะนึกว่าเป็นตั๋วหนังผี วันนี้ตั้งใจอุตส่าห์จะมาชวนหมอกไปดูหนังเลยนะนั่น
“คุณเจนเค้าทิ้ง บื้อเลยหยิบมา เปล่าขโมยนะ แล้ว...แล้ว....แล้วก็กลัวหมอกโกรธ เพราะเก็บมาจากถังขยะ”
“เราไม่เคยโกรธบื้อเลยนะ บื้อเป็นเพื่อนเรานี่”
“ก็ซอมบี้น้อยชอบถอนหายใจอ่ะ....แบบนี้อ่ะ....พรืดดดด....พรืดดดดด....ปวดใจนะ”
“เค้าเรียกว่าเอือม ไม่ใช่โกรธ โกรธต้องแบบลุงชดขี้เมา เมาแล้วไล่เตะหมา”
“ยอมให้หมอกเตะดีกว่าถ้างั้นอ่ะ”
หมอกวางบัตรฟรีสองใบไว้ที่หัวเตียง ก่อนจะหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านทบทวน แต่อ่านได้สามหน้า มือใหญ่ ๆ ของบื้อก็สะกิดหัวไหล่ยิก ๆ
“อะไรอีก....ไปหยิบการ์ตูนตรงโน้นมาอ่านสิ”
“ตกลงมันคืออะไรเหรอ...ตั๋วน่ะ....บื้อไม่เข้าใจ”
“เฮ้อ”
“ถอนใจ!!!!”
“แหะ ๆ อย่างอนน่าบื้อ....รู้จักวันฮาโลวีนมั้ย เทศกาลปล่อยผี ที่พวกเด็ก ๆ จะแต่งตัวเป็นผีแล้วไปเคาะประตูบ้านขอขนมอ่ะ....นึกไม่ออก....งั้นก็....เป็นวันที่พวกคนรวย ๆ เข้าแต่งตัวเป็นผี แล้วไปดื่มเหล้า เที่ยวกลางคืนกันไง”
“อ๋อ.....น่าสนุกนะ”
“ไม่เหมาะกับพวกเราหรอก”
“ทำไมอ่ะ”
“....”
“ทำไมอ่ะ”
“.....”
“ทำไมอ่ะ”
“มีชุดผีใส่เหรอ”
“ไม่มี....ต้องใส่ด้วยเหรอ”
“ไม่ใส่ก็ได้....แต่คนเค้าจะมองเอาน่ะ....เราอ่ะรอดตัว เพราะหน้าผีอยู่แล้ว”
“ซอมบี้น้อย!!! ถ้าว่าตัวเองอีกครั้งเดียว บื้อจะไม่มาหาอีกแล้วนะ”
คำขู่ช่างน่ากลัวชะมัด!!!! และแล้วหมอกก็ถูกเจ้าเด็กโข่งคว้าตัวไปกอด มันตั้งใจจะปลอบเขานั่นแหละ แต่คนปลอบกลับน้ำตาแตกเป็นเด็ก ๆ เสียเอง
“โอเค...ไม่พูดแล้วก็ได้....ไม่ถอนหายใจใส่ด้วย มีมันเชื่อมในตู้เย็น ไปเอามากินไป”
“แค่แต่งชุดผีใช่มั้ย งั้นรับปากนะ จะไปเที่ยวงานผีกัน เดี๋ยวบื้อจัดให้ทุกอย่าง”
“บื้ออยากไปเหรอ”
“อยากพาหมอกไปเที่ยว”
“ก็ได้....แต่ถ้าไม่มีชุดผีไม่ไปนะ”
“อื่อ”
หมอกก็รับปากไปอย่างนั้นแหละ ไม่คิดหรอกว่าอีกฝ่ายจะไปเสาะหาคอสตูมผีมาให้เขาได้ แล้วก็คิดว่าไม่เกินพรุ่งนี้ เดี๋ยวบื้อก็ลืม แล้วก็หันไปตื่นเต้นกับเรื่องใหม่ ๆ แทน
เชื่อสิ!!!
.
.
.
.
.
“สัญญาต้องเป็นสัญญานะ”
“เย้ยเอาจริงง่ะ...คิดว่าล้มเลิกไปแล้ว”
“แท๊แดน....แค่ใส่หน้ากากผีก็เหมือนผีแล้ว....บื้อวาดเลือดปลอมลงไปด้วย....เหมือนป่ะล่ะ”
“นี่บื้อทำเองเหรอเนี่ย”
“สุดผีมือเลย....แม่สอนทำ...ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์”
“แล้วเสื้อคลุมนี่ล่ะ”
“แม่ทำให้ แม่บื้อเก่งนะ แต่หน้ากากบื้อทำเอง....ชมสิ...บอกว่าบื้อเก่งมาก”
“ฮ่าฮ่าฮ่า....เก่งครับเพื่อน....สรุปต้องไปจริงเหรอเนี่ย”
“ไปนะไปนะไปนะ....อยากไปอยากไปอยากไป”
หมอกยอมแพ้ ตั้งแต่รู้จักกันมา เขาแทบจะไม่เคยได้ขัดใจบื้อเลยสักครั้ง บื้ออยากได้อะไร หมอกก็ให้ตลอด จะเป็นขนม หรือให้หอมให้กอด(บางครั้งก็ต่อหน้าคนเยอะ ๆ) แต่ใช่ว่าบื้อจะคอยมารบเร้าขอโน่นขอนี่บ่อย ๆ อย่างที่บอก....ว่าบื้อก็เหมือนน้องชายของหมอกคนหนึ่ง แล้วที่ผ่านมาเขาก็ได้รับทั้งการปกป้องและดูแลจากอีกฝ่าย เท่าที่คนพิการทางสมองคนหนึ่งจะทำให้เขาได้ จะว่าไป ความรักที่บื้อมีให้หมอก มันก็ช่างมากมายมหาศาลเสียเหลือเกิน ราวกับหมอกเป็นพระเจ้าของบื้อก็ไม่ปาน
ก็มีแค่บื้อเท่านั้น ที่เห็นความสำคัญของเขามากกว่าใคร ๆ ถ้าไม่มีบื้อเป็นเพื่อน เขาคงอยู่แบบไร้ตัวตน ถึงจะมีน้ากับยาย แต่นั่นมันก็โลกในบ้านแคบ ๆ ไม่ใช่โลกภายนอก หลังจากวันนั้น นายความฝันก็ถอยห่างไปอย่างถาวร และกลายเป็นบื้อที่เข้ามาสนิทมากขึ้น....มากขึ้นไปอีก
สำหรับหมอก....ไม่มีใครจะอบอุ่นได้เท่าบื้ออีกแล้ว
แล้วนี่ก็เป็นครั้งแรก ที่บื้อมารบเร้าขอในสิ่งที่ค่อนข้างยิ่งใหญ่และอันตรายเหลือเกินสำหรับคนอย่างพวกเขา มันไม่ใช่การไปกินไก่ทอดหรือแมคโดนัลด์ หรือกินขนมในตลาด แต่เป็นการล่วงล้ำเข้าไปในดินแดนที่ไอ้หน้าผีกับไอ้ปัญญาอ่อนไม่ควรจะย่างกรายไปถึง
“โหซอมบี้น้อยอย่างเท่ห์อ่ะ”
“บื้อก็เหมือนกัน”
ไอ้ตัวใหญ่บรรจงสวมหน้ากากให้อีกฝ่าย หน้ากากสีขาวที่เขาอุตส่าห์ทำขึ้น หน้ากากเพียงเสี้ยวเดียว สำหรับปกปิดใบหน้าซีกหนึ่งที่เป็นแผลของหมอก ทั้งเขาและหมอก สวมชุดดำอย่างพวกยมฑูต
“เรียบร้อย แค่นี้ก็ไม่มีใครเห็นแผลเป็นหมอกแล้ว”
“งานฮัลโลวีนนะ ยิ่งเห็นสิยิ่งหลอน ไม่ต้องพึ่งเอฟเฟคไง....น่าจะปิดด้านที่ไม่มีแผลนะ”
“ก็อยากให้หมอกเป็นอย่างอื่นบ้าง เป็นเหมือนคนอื่น.....หมอกเข้าใจบื้อไหม”
เข้าใจสิ หมอกเข้าใจว่าบื้อหมายถึงอะไร บื้อตั้งใจจะบอกว่าวันนี้เป็นวันปล่อยผีของหมอก เขาควรจะไล่ผีร้ายในตัวเขาออกไปก่อนชั่วคราว แล้วสนุกเหมือนเด็กคนอื่น แต่งตัวเป็นผีเหมือนกับคนอื่น ๆ ในงาน โดยไม่ต้องสนใจแผลเป็นบนหน้าสักวันหนึ่ง
“บื้อก็ทำของบื้อมานะ หน้ากากน่ะ แค่นี้เราก็เป็นเหมือนกันแล้ว หมอกเห็นมั้ย บื้อกับหมอก....เหมือนกัน...เป็นคนที่แต่งตัวเป็นผี....ไม่ใช่ผี”
“ขอบใจบื้อมากนะ อุตส่าห์เหนื่อยทำให้เรา รักบื้อนะ”
“เพื่อนกันนี่ คิดไรมาก ใช่มั้ย”
“อื่อ”
"บื้อก็รักหมอกนะ...ไปกันเถอะ....ไปหลอกคนกัน"
แล้วพวกเขา เจ้าผีตัวใหญ่กับผีตัวเล็ก ก็ออกเดินทางไปยังดินแดนต้องห้าม
โลกของคนปกติที่พวกเขาไม่มีสิทธิ์ก้าวล้ำ
พวกเขากำลังก้าวเข้าไปแล้วยังไงล่ะ
.
..
.
.
End
จบแล้วจ้ะ