[ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep28-END] 30/3/57
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep28-END] 30/3/57  (อ่าน 67175 ครั้ง)

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep20] 19/2/57
«ตอบ #90 เมื่อ19-02-2014 23:08:26 »

รักกันฮาร์ดคอจริงๆ

เอาอีกกกกกกกกกกๆ  :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ O[]OVampire

  • เพียงเธอสบตา...แทบลืมหายใจ เพียงเธอ...จากไป...ตราบชั่วลมหายใจ ...ไม่ลืม
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-0
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep20] 19/2/57
«ตอบ #91 เมื่อ21-02-2014 00:00:00 »

คิคิ นาทีกับป่านน่ารักมาก ตอนนี้นาทีคงน่วมได้ที่
กินขนมตุ๊บตั้บจากป่านอิ่มไปเลยทีเดียว รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ ๐๐ตะวัน๐๐

  • ๐๐๐ลูกตาล๐๐๐
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep20] 19/2/57
«ตอบ #92 เมื่อ21-02-2014 08:37:58 »

นาทีเนี่ยกลัวเมียน่ะเนี่ย ไม่ตอบโต้เลย  :laugh:

ออฟไลน์ Maytbb

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1763
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep20] 19/2/57
«ตอบ #93 เมื่อ22-02-2014 15:04:19 »

 :z13:
ชอบประโยคสุดท้ายมากๆเลย

ออฟไลน์ candynosugar+

  • กลัวแล้ว
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-2
    • CDNSG+
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep21]
«ตอบ #94 เมื่อ22-02-2014 15:35:59 »

21

 
            สัญญาของลูกผู้ชายอย่างงั้นเหรอ
            บ้าชะมัด
            ผมเก็บสมุดหนังสือใส่กระเป๋าหลังจากที่นั่งคิดอะไรมาได้ซักพัก อาจารย์ปล่อยตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว ไอ้ฟ้าก็ไปรับน้องสาวมันแล้วก็กลับบ้านไปแล้วด้วย เหลือผมกับไอ้พวกเพื่อนๆที่ต้องทำความสะอาดห้องที่ยังหลงเหลืออยู่ ประตูโรงเรียนที่เปิดอ้ากว้างกับพวกนักเรียนที่ค่อยๆทยอยกันออกไป ผมมองท้องฟ้าที่ปลอดโปร่ง
            หวังว่าคงไม่มีเรื่องแย่ๆเกิดขึ้นแล้วนะ
            ก่อนจะพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นยืนพลางมองไปยังเงาที่สะท้อนที่กระจกหน้าต่าง ริมฝีปากที่มักจะไม่ค่อยยิ้มให้ใครของตัวเองกลับยิ้มออกมาเหมือนคนบ้า ผมใช้มือตบๆหน้าตัวเองสองทีก่อนจะกลับมาบึ้งตึงเหมือนเดิม แต่พอเดินก้าวพ้นออกมาจากประตูห้องเรียนก็ต้องยิ้มออกมาอีกรอบ
            บ้าเอ้ย
            ผมไปหลงคารมกับคำพูดของผู้ชายแย่ๆแบบนั้นได้ไงวะ
            “ยืนยิ้มเป็นตาแป๊ะอยู่ได้!” เสียงๆหนึ่งดังขึ้นที่ระเบียงทางเดิน ผมหันไปมอง ร่างเล็กๆที่สวมแว่นตายืนถือกองเอกสารกองเบ้อเริ่มเดินเข้ามาใกล้ผม
            “ไง”
            “ยังไม่ตาย สบายดี” ไอ้กี้ตอบกวนส้นตีนแล้วดันผมให้หลีกทาง ผมก็เกิดอาการอยากจะกวนคนตรงหน้าขึ้นมาเลยยืนขวางเอาไว้
            “ค่าผ่านทาง” ผมยิ้มพลางยื่นมือออกไปตรงหน้า ไอ้กี้มองหน้าผมลอดผ่านแว่นของมัน
            “บ้านมึงเป็นทางด่วนเหรอไอ้ห่า”
            กรรม
            ปากคอเราะร้าย!
            “เออว่าแต่ ไอ้นาทีเป็นไงบ้างอ่ะ?” คนตรงหน้าผมเลี่ยงถาม ผมหัวเราะนิดๆก่อนจะเอื้อมมือไปขยี้หัวหยอยๆที่เหมือนหมูหยองของมันเบาๆ
            “แน่ใจเหรอว่าจะถามถึงไอ้ที?” ไอ้กี้เบะปากไม่พอใจ
            “กูไม่อยากรู้ละ”
            “พวกมันโดนไล่ออกทั้งสี่คน ประธานสภา ไอ้พีท ไอ้ริค แล้วก็ไอ้ที” ผมว่า แต่เลี่ยงที่จะพูดชื่อของพระกาฬออกมา คำดูถูกที่ออกจากปากมันเมื่อวานทำให้ผมโมโหมาก
            ผมไม่นึกเลยว่าผู้ชายคนนั้นจะดูถูกคนได้เก่งขนาดนี้ทั้งๆที่ยังหาความจริงไม่ได้ ได้แต่ปากพล่อยพูดอะไรที่ทำร้ายความรู้สึกของคนอื่นอย่างเดียว
            “เรื่องอะไรวะ?”
            “มีคนใส่ความว่าค้าประเวณี”
            “งั้นเหรอ…” ไอ้กี้มีสีหน้าสลดลง ก่อนมันจะหันกลับมาทำหน้าจริงจังอีกครั้ง
            “ไม่เกี่ยวกับกูนี่เนอะ หลบดิ๊!!!” ขาเล็กๆเตะขาผมแล้วเดินชนไหล่ผมอย่างจัง ผมมองท่าทีเหล่านั้นก็รู้แล้วว่าไอ้กี้ต้องเป็นห่วงเพื่อนสนิทมันอยู่แล้ว
            แต่ผมไม่อยากให้กี้คบกับพระกาฬ … ผมเห็นแก่ตัวไปมั้ย?
            “กี้!” ผมตะโกนเรียกคนที่กำลังจะเลี้ยวเข้าห้องพักครู ไอ้หมาแว่นมันหันมาทำหน้างงๆใส่
            “มึงไม่ได้ชอบพระกาฬใช่มั้ย?” ไอ้กี้มองหน้าผมแล้วเลิกคิ้วสูง
            “หน้าอย่างมันอ่ะนะ? ให้ฟรีแถมข้าวกูยังไม่เอาเลยเว้ย!!!!” ก่อนร่างเล็กจะหายเข้าไปในห้องพักครูทันทีที่ตะโกนดังลั่น ผมอึ้งไปนิดๆกับคำพูดนั้น
            ถ้าไอ้กาฬได้ยินคงช้ำชอก …
            ให้แม่งรู้ซึ้งซะบ้างไอ้พวกพูดก่อนคิดเนี่ย
            ผมเดินออกจากตึกเรียนแล้วโบกแท็กซี่เพื่อกลับไปที่บ้านของตัวเอง วันนี้ผมต้องกลับไปดูพวกจดหมายพวกค่าน้ำค่าไฟของเมื่อเดือนที่แล้ว รวมไปถึงกลับไปรดน้ำต้นไม้ที่บ้านด้วย
            ‘ครืด ครืด’
            จู่ๆโทรศัพท์ที่ปิดเสียงอยู่ก็สั่นขึ้น ผมรีบคว้ามันออกจากกระเป๋ากางเกงพลางมองชื่อที่หน้าจอ
            “ว่าไง?” ผมทักทายด้วยคำปกติที่ชอบใช้เมื่อรู้ว่าใครโทรมา ปลายสายเงียบไป
            อะไรของแม่งวะ โทรมาก็ไม่พูด
            “นาที … มึงจะเงียบทำไมวะ?”
            (ป่าน เลิกเรียนหรือยัง?) เสียงเบาๆที่แทบจะจับใจความไม่ได้ดังลอดมาจากปลายสาย ผมขมวดคิ้ววุ่น เสียงของนาทีดูสั่นๆผิดปกติชอบกล
            “อือ เลิกแล้ว มีอะไรวะทำไมเสียงเบาจัง?”
            (…) นาทีเงียบไปอีกครั้งพร้อมกับเสียงที่เหมือนกับเสียงสะอื้นเบาๆ
            “ที…”
            ผมชักใจคอไม่ดีขึ้นทุกทีเมื่อเสียงสะอื้นเหมือนปลายสายกำลังร้องไห้นั่นดังขึ้นเรื่อยๆ
            “ที เกิดอะไรขึ้น!?”
            (รถนาราโดนเจาะยาง อาการโคม่าอยู่ที่โรงพยาบาล)
            “ว่าไงนะ!!!”
 

            ผมรีบบึ่งมาที่โรงพยาบาลทันทีที่รู้ว่าพี่นาราเกิดอุบัติเหตุ เหตุการณ์นั่นยิ่งตอกย้ำเมื่อรถแท็กซี่จอดลงตรงหน้าโรงพยาบาลที่มีผู้คนมากมายยืนอยู่ด้านหน้านั่นพร้อมนั่งเงียบราวกับส่งกำลังใจให้ใครซักคน ท้องฟ้าที่เริ่มจะมืดไม่เป็นอุปสรรคต่อพวกเขา ในมือของพวกเขามีป้ายผ้าและป้ายไฟเหมือนที่เคยเห็นเวลาที่แฟนคลับตามพวกดารา ป้ายพวกนั้นมีชื่อไอริสติดอยู่
ผมกำโทรศัพท์ในมือแน่น ใจที่ร้อนรนทำให้ต้องเดินก้าวยาวๆตรงไปที่เคาน์เตอร์พยาบาลก่อนจะสอบถามห้องไอซียูที่มีร่างของพี่นาราอยู่ข้างใน
            ใครกัน … ใครกันที่โหดร้ายขนาดนี้
            ผมออกจากลิฟท์แล้วตรงไปที่ห้องไอซียู เมื่อเลี้ยวพ้นหัวมุมมา สิ่งที่เห็นตรงหน้ากลับทำให้ผมเข่าอ่อนลงดื้อๆ ภาพที่คุณพ่อที่รักลูกชายสุดหัวใจกำลังนั่งวอนขอให้คุณหมอผ่าตัดให้ดีที่สุด ภาพที่ไอริสคุกเข่าอยู่ที่หน้าประตูห้องไอซียู และภาพที่นาทีกำลังนั่งนิ่งราวกับคนไร้วิญญาณอยู่ริมกำแพง
            “ที” สองขาผมก้าวเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้านาที ใบหน้าซีดเซียวเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาเงยหน้ามามองผมก่อนจะคว้าร่างผมเข้าไปกอด ใบหน้าซุกอยู่ที่หน้าท้องพร้อมกับการร้องไห้แบบไร้เสียงสะอื้น
            ผมลูบหัวนาทีเบาๆ ในใจก็รู้สึกโหวงและหนักอึ้งไปหมด
            “ไม่ร้องนะ ไม่ร้อง พี่นาราจะต้องปลอดภัย … เชื่อกูสิ”
            ที่ผมทำได้ … ก็คงทำได้เพียงแค่ปลอบคนตรงหน้านี่อย่างเดียวจริงๆ
            เวลาเดินไปเรื่อยๆ พร้อมกับผู้คนที่เดินผ่านไปมา ทั้งนางพยาบาล คุณหมอท่านอื่นๆ คนไข้ผู้ป่วย บางคนหยุดมองร่างของผู้ชายที่นั่งคุกเข่าอยู่ที่หน้าห้องไอซียู แต่ก็ไม่ได้จะเข้ามาถามว่าเขาใช่ไอริสมือกลองของวงร็อคชื่อดังที่กำลังเป็นที่กล่าวขานในเวลานี้อยู่หรือเปล่า
            นาทีหยุดร้องไห้แล้วแต่ก็ยังเงียบและไม่คุยอะไรกับใคร คุณพ่อกลับบ้านเพื่อไปพักผ่อนแล้วโดยผมจะเป็นคนติดต่อคุณพ่อเมื่อหมอออกมาจากห้องผ่าตัด ซึ่งตอนนี้ก็ใช้เวลาไปประมาณสองชั่วโมงเห็นจะได้
            ผมบีบมือนาทีพลางมองร่างของไอริสที่นั่งคุกเข่าก้มหน้าอยู่ที่พื้น มันนานพอๆกับเวลาที่พี่นาราเข้าไปในห้องไอซียู ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้เพื่อที่จะเข้าไปหาไอริส บอกให้เขามานั่งที่เก้าอี้ มันอาจจะดีกว่าที่เขาต้องนั่งคุกเข่าอยู่แบบนี้ แต่นาทีคว้ามือผมเอาไว้ก่อน
            “เรียกเฮียว่าพี่วิน … นาวิน …” นาทีว่าก่อนจะเมินหน้าไปอีกทางเหมือนไม่อยากจะเห็นอะไรก็ตามที่กำลังจะเกิดขึ้น ผมกดจูบลงบนหน้าผากของนาทีเบาๆแล้วเดินเข้าไปหาไอริส
            “พี่…” มือของผมแตะลงบนไหล่ของพี่ไอริส … เขาไม่ขยับเลยซักนิด ผมหันไปมองนาทีที่ยังคงเบือนหน้าไปอีกทาง ก่อนจะถอนหายใจ ผมรู้ว่าพี่แกเป็นห่วงน้องชาย แต่ถ้าทำแบบนี้คนที่จะไม่สบายอาจจะเป็นเขาก็ได้
            “พี่นาวิน ไปนั่งที่เก้าอี้เถอะครับ”
            “น้องชายฉันทำอะไรผิด” เสียงของพี่วินดังขึ้นพร้อมกับใบหน้าที่ค่อยๆเงยขึ้นจากพื้น
            “น้องชายฉันทำอะไรผิดทำไมถึงต้องทำร้ายกันแบบนี้” ดวงตาเศร้าสร้อยที่บวมจากการร้องไห้อย่างหนักจ้องมองไปยังประตูห้องไอซียู ผมรู้สึกหดหู่เกินจะทน
            “น้องชายฉันไปทำอะไรให้ทำไมถึงต้องทำกับเขาแบบนี้!!!! ตอบพี่ทีสิป่าน ตอบพี่ที!!!!”
            คนตรงหน้าผมตะคอกลั่นก่อนจะโผเข้ากอดผมแน่น น้ำตาของลูกผู้ชายไหลออกมาอย่างหยุดไม่อยู่ ร่างสูงสะอื้นอย่างหนักเรียกสายตาสงสารจากคนที่เดินผ่านไปผ่านมาได้อย่างสุดขั้วหัวใจ ผมกอดตอบพี่นาวิน พี่ชายคนโตของบ้านธาราทรัพย์ ผู้ที่เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดของบ้าน พยายามกลั้นความอ่อนแอของตัวเองไว้ด้านใน แค่สองคนนี้อ่อนแอก็แย่พอแล้ว ผมจะไม่เป็นตัวถ่วงแน่ๆ
            ผมต้องเข้มแข็ง และพวกเขาเองก็เหมือนกัน
            “พี่นาราจะต้องปลอดภัยครับพี่ พี่เขาจะต้องปลอดภัย…”
            ผมพยุงร่างของพี่วินขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าพอเรียกชื่อไอริสออกไปด้วยชื่อเล่นจริงๆที่พ่อตั้งให้ไม่ใช่ชื่อในวงการ เขาก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนักก่อนจะโผเข้ากอดทั้งผมและนาทีอยู่เป็นเวลานาน จนกระทั่งหมดแรงที่จะร้องไห้อีกต่อไป พี่วินเลยนอนลงที่โซฟาด้านหน้าแล้วใช้หนังสือปิดหน้าเอาไว้เพื่อไม่ให้ใครสังเกตเห็นเขา
            “รู้อาการของพี่นาราหรือเปล่า?” ผมหันไปถามนาทีที่นั่งนิ่งมาจะครึ่งชั่วโมงได้ ก่อนริมฝีปากสีซีดจะค่อยๆขยับพูด ทั้งๆที่ผมรู้ดีว่ามันอาจจะทำให้นาทีรู้สึกแย่ขึ้นมาอีกที่ต้องพูดอาการของพี่ชาย แต่ถ้าผมไม่รู้อะไรเลยผมจะปลอบพวกเขาได้ยังไง
            “กระดูกซี่โครงหักแทงทะลุปอด กระดูกขาซ้ายแตกละเอียด เลือดไหลไม่หยุด…” พูดออกมาแค่นั้นนาทีก็ก้มหน้าลงไปกุมขมับแล้วร้องไห้ออกมาอีกครั้ง ผมเบิกตากว้างกับอาการที่หนักจนแทบจะเรียกได้ว่าสาหัสมาก
            “ที…”
            “ทำไมต้องทำกันขนาดนี้ด้วย พี่นาราไปทำอะไรให้ เขาไม่เคยมีศัตรูที่ไหน พี่นาราไม่สมควรจะได้รับอะไรแบบนี้” ผมดึงร่างของนาทีที่เริ่มสะอื้นเข้ามากอดเอาไว้แล้วปลอบมันอีกครั้ง แต่ร่างโปร่งก็ยังพูดออกมาไม่หยุด
            “พี่ชายกูเจ็บ กูก็เจ็บ เจ็บกว่าเป็นล้านเท่า…”
            นาทีกอดตอบผมแน่น มือสองข้างกำอยู่ที่เสื้อนักเรียนของผมจนมันตึงไปหมด ยังไม่ทันที่เราสองคนจะได้พูดอะไรต่อ เงาที่ประตูห้องไอซียูก็ปรากฏขึ้น ผมดันร่างของนาทีออกพลางวิ่งเข้าไปหาคุณหมอที่เปิดประตูออกมา พอๆกับพี่วินที่ลุกพรวดขึ้นจากโซฟาแล้วตรงเข้าไปหาคุณหมอ
            “น้องชายผมเป็นยังไงบ้างครับหมอ” พี่วินพยายามจะเขย่าตัวคุณหมอที่ดูเอกสารอะไรบางอย่างในมือ ผมดึงแขนพี่เขาเอาไว้แล้วหันไปมองนาทีที่เลือกที่จะนั่งมองอยู่นิ่งๆ
            “ใจเย็นๆครับคุณไอริส น้องชายคุณพ้นขีดอันตรายแล้ว”
            เหมือนยกภูเขาลูกโตออกจากอก ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่พอๆกับพี่วินที่หันมากอดผมแน่น
            แต่หลังจากนั้น มันต้องมีคำว่า…
            “แต่…”
            คุณหมอขัดขึ้น อารมณ์ของพวกผมถูกขัดตามไปด้วย
            มันเป็นสิ่งที่แพทย์ต้องทำเพื่อที่จะปลอบใจญาติของคนไข้ พ้นขีดอันตราย แต่ก็ไม่ได้แปลว่าหายดี
            “เขาอาจจะมีอาการแทรกซ้อนในระยะแรก หมอจึงไม่สามารถให้เยี่ยมได้”
            “แทรกซ้อน? แทรกซ้อนยังไงครับหมอ?” พี่วินหันไปถามหมออย่างร้อนรน ผมกระตุกแขนเขาเพื่อให้เขาควบคุมอารมณ์ของตัวเองหน่อย เพราะดูท่าทางพี่แกอยากจะกระชากคอเสื้อหมอใจจะขาดแล้ว
            “ไปคุยกันในห้องแล้วกันครับ”
            คุณหมอว่าพลางผายมือเดินตรงไปที่ห้องที่อยู่ด้านข้าง พี่วินมองหน้าผมก่อนจะกดจูบลงบนหัวผมเหมือนพี่ชายปลอบน้องชายแล้วเขาก็เดินหายเข้าไปพร้อมกับหมอ ผมยืนอยู่ด้านนอกพร้อมกับลูกชายคนเล็กของบ้านที่เลือกที่จะไม่เปิดใจรับฟังอะไรทั้งนั้น
            “พี่นาราปลอดภัยแล้ว โทรบอกคุณพ่อกันเหอะ” นาทีพยักหน้า ก่อนจะจับมือผมเอาไว้แน่น
            ไม่หรอก เราต่างก็รู้ดีว่าพี่นารายังไม่ปลอดภัย
            ไม่อย่างนั้นต้องออกจากห้องผ่าตัดไปที่ห้องพักฟื้นแล้ว…
            “นาที!!” จู่ๆเสียงทุ้มๆที่ดังขึ้นด้านหลังก็เรียกความสนใจจากผมและนาที ผู้ชายร่างโปร่งสวมชุดกราวน์สีขาววิ่งเข้ามาหานาที นาทีปล่อยมือจากผมแทบจะทันทีก่อนจะโผเข้ากอดร่างโปร่งของคุณหมอคนนั้น
            “พี่หมอ!” ผมมองภาพตรงหน้าด้วยความไม่เข้าใจ นาทีเหมือนเด็กเล็กๆเมื่อคุณหมอคนนั้นลูบหัวของมันเบาๆ เสียงสะอื้นที่เก็บไว้ต่อหน้าผมกลับถูกปล่อยออกมาจนทำให้คนที่เดินผ่านไปผ่านสะเทือนใจกับเสียงร้องไห้ของลูกผู้ชายคนหนึ่ง
            “วินล่ะ?” คุณหมอร่างโปร่งถามขึ้น นาทีชี้เข้าไปที่ห้องด้านข้าง
            “ทีไม่เข้าไปเหรอ?”
            “ไม่ ผมไม่อยากได้ยินอะไรอีกแล้ว”
            มือของนาทีจิกเสื้อกราวน์ไว้แน่นจนคุณหมอที่พยายามจะสะบัดตัวออกไปไหนไม่ได้
            “ทีปล่อยพี่ก่อนนะ พี่ต้องรู้อาการของนารา”
            “พี่อย่าทิ้งผมไปนะ!! อย่าทิ้งผม”
            “ที … พี่ต้องเข้าไปฟังอาการของนารา ไม่งั้นพี่จะช่วยอะไรไม่ได้”
            ‘หมับ’
            ผมที่ฟังบทสนทนาของทั้งสองอยู่นานสองนานเดินเข้าไปดึงแขนนาทีออกมา มือของผมบีบแน่นลงบนแขนหนาๆของนาทีพลางมองไปยังคุณหมอร่างโปร่งที่ดูจะอายุมากกว่าผม
            “ผมดูเขาให้เองครับ” ผมว่า พี่หมอก้มหัวให้ผมก่อนจะขยี้หัวนาทีแล้วเดินหายเข้าไปในห้องที่มีพี่วินกับคุณหมอเจ้าของไข้ของพี่นารา
            “เลิกทำตัวงี่เง่าซักที พี่นาราไม่เป็นอะไรแล้ว”
            “มึงก็พูดได้นี่ ไม่ใช่พี่ชายมึงซักหน่อย!” นาทีตะคอกใส่ผมกลับอย่างหัวเสีย ผมเบิกตากว้างแล้วมองคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจในอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของมัน
            ผมค่อยๆคลายมือออกจากแขนของนาทีแล้วมองร่างตรงหน้าอย่างผิดหวัง นาทีเหมือนรู้ตัวว่าพูดอะไรออกมา ใบหน้าของมันสำนึกผิด เรียวคิ้วขมวดกับขอบตาที่บวมเฉ่ง มือของมันเอื้อมมาหมายจะจับตัวผมแต่ผมกระถดถอยหนี
            ทำไม … ถึงพูดอะไรไม่คิด
            “ป่าน …”
            “ใช่ พี่นาราไม่ใช่พี่ชายกู…” ผมสบถเสียงแผ่ว ก่อนจะเดินถอยหลังออกมาเรื่อยๆพอๆกับนาทีที่เดินตามมา
            “มันไม่ใช่แบบนั้น กู…”
            “แต่เขาเป็นพี่ชายมึง … เป็นพี่ชาย … คนที่ … กู … รัก” เสียงที่เบาลงเรื่อยๆ คำว่ารักที่แทบจะกลืนหายเข้าไปในลำคอ ความร้อนที่ใบหน้าที่เอ่อขึ้นไม่ใช่เพราะความโกรธ แต่เป็นความรู้สึกแย่ลึกๆที่มันพูดแบบนั้น
            ถึงผมจะเคยเจอพี่นาราแค่ครั้งเดียว แต่เพราะเป็นคนที่นาทีรัก เป็นพี่ชายของนาที ผมก็เคารพเขาเหมือนพี่แท้ๆคนหนึ่ง ไม่ใช่ว่าผมไม่เสียใจที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น แต่เพราะนาทีไม่ฟังบ้าอะไรเลย
            “ป่าน…”
            มือของนาทีคว้าเข้าที่แขนของผม ผมเงยหน้ามองมันอย่างผิดหวัง
            “ป่าน กูขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ”
            ‘ผั่วะ!!!’
            ผมฟาดหมัดลงที่ใบหน้าของคนที่เพิ่งร้องไห้อย่างหนักมาจนลงไปกองกับพื้น พยาบาลร้องตกใจแล้วจะเข้ามาห้ามพวกผมแต่พี่นาวินก็ออกมาจากห้องพร้อมกับหมอทั้งสองคนแล้วเข้ามาห้ามผมกับนาทีเอาไว้ก่อนที่จะเลยเถิดไปกว่านี้
            “ใจเย็นๆป่าน” พี่วินว่า เหมือนเขาจะได้ยินบทสนทนาของผมกับนาทีเมื่อตะกี้ แต่ผมไม่ได้ใส่ใจเลย
            “ขอโทษงั้นเหรอ! ง่ายขนาดนั้นเลยดิ!! ทำไมเวลาพูดไม่หัดคิดก่อน สมองน่ะมีมั้ย!!!” ผมตะคอกลั่นแล้วดิ้นอย่างสุดแรงเมื่อมือของพี่วินล็อคตัวผมเอาไว้ ผมกำหมัดแน่น อยากจะชกหน้าคนตรงหน้าให้ตายคาโรงพยาบาลไป แต่ก็ทำได้เพียงแค่สั่งสอน
            “กูไม่ได้ตั้งใจ…” นาทีก้มหน้ามองพื้นอย่างสำนึกผิด
            “มึงก็สักแต่พูดนั่นแหละนาที มึงเคยแคร์ความรู้สึกของคนที่มึงรักบ้างหรือเปล่าวะ เห็นกูเป็นหัวหลักหัวตอที่เวลามึงอยากจะพูดห่าอะไรก็พูดออกมาเลยงั้นเหรอ!!!”
            “ป่าน … พอเถอะ ไปหาพ่อกับพี่” พี่วินว่าก่อนจะโยนกุญแจรถให้กับพี่หมอที่นาทีเข้าไปกอดเมื่อตะกี้ พี่หมอคนนั้นทำหน้างงๆ “ฝากสั่งสอนน้องสุดที่รักของแกระหว่างทางไปบ้านฉันด้วยแล้วกัน ฉันเบื่อที่จะบ่นมัน ไอ้เด็กปากหอยปากปู ปากพล่อย
            พี่วินด่าน้องชายคนเล็กของบ้านก่อนจะลากผมออกไปที่ลานจอดรถ ผมเดินไปขึ้นรถตู้สีดำซึ่งเป็นรถที่จำได้ว่าเป็นรถของทางบริษัทของพี่วิน มองไปด้านหลังก็เห็นว่าพี่หมอคนนั้นพานาทีขึ้นรถบีเอ็มสีขาวไป
            “อย่าไปถือสาไอ้ทีมันเลยนะ มันโดนตามใจแต่เด็กน่ะ” พี่วินว่าพลางนั่งลงข้างผมแล้วสั่งให้คนขับรถขับตรงไปที่บ้านของเขา ผมกัดริมฝีปากแน่นแล้วหันไปมองกระจกด้านหลังที่มีบีเอ็มสีขาวขับตามมา
            “คุณหมอคนนั้นใครเหรอ?” ผมถามขึ้น พี่วินหันตามไปมองแล้วยิ้มออกมานิดๆ
            “หึงแฟนหรือไง?”
            ผมชะงักไป
            “เปล่า”
            “ฮ่ะๆ หมอนั่นชื่อกวาง เป็นเพื่อนพี่ตั้งแต่สมัยเด็กๆ นาทีติดเจ้านั่นแจเลยล่ะ” พี่วินว่า ผมสังเกตเห็นความบวมช้ำที่ใต้ตาของเขาเป็นอย่างดี บ่งบอกว่าพี่วินร้องไห้หนักขนาดไหน
            “ติด?”
            “อือ ไอ้กวางก็เหมือนกับพี่ชายอีกคน ติดที่ว่าไอ้นั่นมันชอบยอไอ้ที จนเด็กมันติดนิสัยแย่ๆมาไง” ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะนิ่งไปเมื่อพี่วินมองออกไปนอกหน้าต่าง
            “พี่นาราเป็นยังไงบ้างเหรอครับ?” ผมรู้ว่าอาจจะไม่ถูกกาลเทศะที่ผมจะเข้าไปรู้เรื่องของครอบครัวของคนตรงหน้า แต่ผมเป็นห่วงพี่นาราจริงๆ
            “ที่นาทีไม่นั่งรถมากับเรา ก็เพราะแบบนี้ล่ะ” พี่วินหันมามองผม ดวงตาสีดำสนิทสั่นไหวเล็กน้อยก่อนเจ้าตัวจะเงยหน้าขึ้นเหมือนกลั้นน้ำตาให้ไหลย้อนกลับเข้าไป
            เกิดอะไรขึ้น
            “เลิกปกป้องผู้หญิงที่ชื่อหญิงซักทีป่าน…” จู่ๆเสียงทุ้มก็พูดขึ้นมา ผมชะงักไป
            “ครับ?”
            “จดหมายนี่ถูกทิ้งไว้ที่คอนโซนรถของนาราตอนที่พี่ไปดูที่เกิดเหตุ”
            กระดาษเปื้อนเลือดยับยู่ยี่จนแทบขาดแผ่นหนึ่งถูกวางลงบนตักผม ผมหยิบมันขึ้นมาคลี่ดูแทบจะทันที
            ‘มันยังไม่จบหรอกนะ … กับสิ่งที่น้องชายแกทำไว้กับฉัน’
            “พี่แน่ใจได้ยังไงว่าเป็นหญิง?” ผมเลิกคิ้วถามคนตรงหน้า มือก็สั่นจนแทบจะควบคุมไม่ได้
            “ปฏิเสธสิว่า คนๆนี้ไม่ใช่ผู้หญิงที่ป่านรู้จัก” มือหนายื่นกระดาษมาให้ผมอีกใบ รูปถ่ายที่ชัดเจนจากกล้องวงจรปิดของลานจอดรถชื่อดัง ร่างของผู้หญิงตัวเล็กกับเสื้อยืดสีขาวและกางเกงยีนส์ขายาวสีดำที่คุ้นตา ผมสีน้ำตาลที่ยาวถึงกลางหลัง กับลูกน้องคนสนิทที่สวมชุดสีดำกำลังทำอะไรบางอย่างกับรถบีเอ็มสีดำคันหนึ่ง
            ร่างทั้งร่างของผมกำลังถูกไฟฟ้าภายในร่างกายช็อต
            ถึงนาทีจะควงผู้หญิงมาเยอะก็จริง แต่นั่นคือน้องหญิงจริงๆ ผมไม่รู้ว่าทำไมพี่วินถึงได้รู้ว่าคนๆนี้คือน้องหญิง แต่เท่าที่ฟังจากปากเขามา ผู้ชายคนนี้ ถ้าอยากรู้อะไรก็น่าจะรู้ได้ง่ายๆ จริงๆแล้วผมจำได้เพียงแค่แวบเดียวที่เห็น แม้มันอาจจะมีผู้หญิงหลายสิบคนที่แค้นไอ้นาที แต่สาบานจากคนที่เคยอยู่ด้วยกันมาทั้งชีวิตได้เลย ไม่มีใครที่กล้าทำแบบนี้นอกจากผู้หญิงคนนั้น…
            “นั่นคือรถของนารา”
            “แต่มันอาจจะไม่ใช่…” อาจจะไม่ใช่หญิงจริงๆก็ได้ ผมอาจจะจำผิดไป ยังไงผมก็ยังลังเล…
            “นารากลายเป็นเจ้าชายนิทราไปแล้วป่าน!!!! แล้วทีนี้ ยังจะปกป้องผู้หญิงคนนั้นอยู่อีกหรือไง!!!” พี่วินตะคอกลั่นรถ มือหนากระชากร่างผมเข้าไปแล้วเขย่าตัวผมอย่างแรง
            ผมช็อคไปกับสิ่งที่ได้ยิน…
            “ได้ยินมั้ยป่าน!!! นารากลายเป็นเจ้าชายนิทราไปแล้ว!!!”   
            ร่างสูงตะคอกออกมาทั้งน้ำตา ก่อนที่ใบหน้าของเขาจะร่วงลงสู่ไหล่ของผม พี่วินร้องไห้สะอื้นจนตัวโยน แต่กลับไม่มีเสียงร้องเล็ดลอดออกมา หัวใจผมถูกบีบรัดจนแตกสลาย ไหนบอกว่าพี่นาราปลอดภัยแล้วยังไง... แล้วนี่มันหมายความว่ายังไง ... เจ้าชายนิทราเนี่ยนะ!!!
            นี่มันจะมากเกินไปแล้ว มากเกินไปแล้วจริงๆ หมดสิ้นกันทีหญิง …
            เธอเป็นเพียงแค่ฆาตกรสำหรับผมไปแล้ว…
            “ผมขอโทษ ขอโทษ” ด้วยอาการช็อคที่เกิดขึ้น ปากผมพร่ำบอกคำขอโทษกับร่างตรงหน้า ทั้งๆที่รู้ว่ายังไงก็ไม่สามารถลบความผิดของผู้หญิงคนนั้นได้
            เรื่องทั้งหมดมันเป็นเพราะผม
            ถ้าผมไม่เข้าหาไอ้นาทีเพราะต้องการให้หญิงเลิกยุ่ง หญิงก็อาจจะไม่ได้เข้าหานาที เธออาจจะทำได้แค่ปลื้มนาทีแต่ไม่มีสิทธิ์สัมผัสนาที ไม่มีสิทธิ์ที่จะแตะต้องครอบครัวของนาที ไม่มีสิทธิ์ … ที่จะทำลายครอบครัวของคนอื่น
            “ผมขอโทษ”





TBC
สิ่งที่เรียกว่าดราม่า.. ยังไม่จบลงง่ายๆสินะ :z6:

ออฟไลน์ Mancha KHIRI

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep21] 22/2/57
«ตอบ #95 เมื่อ22-02-2014 16:14:36 »

ป่านเอ้ยยย ปกป้องกันจนวินาทีสุดท้ายจริงๆ นะ นี่ถ้านาราไม่เป็นเจ้าชายนิทรา แค่เจ็บหนักแกจะเลิกโง่ได้มั้ยเนี่ย จะได้ยึดมั่นกับสิ่งที่เคยเห็นอะไรนักหนายะ!!!

ตอนนี้สงสารนาราที่สุดแล้ว ไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ต้องมารับกรรมแทน TT

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep21] 22/2/57
«ตอบ #96 เมื่อ22-02-2014 19:23:21 »

อยากตบชะนี  :beat: :beat:

ออฟไลน์ Maytbb

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1763
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep21] 22/2/57
«ตอบ #97 เมื่อ22-02-2014 19:55:38 »

รอวันที่หญิงได้รับกรรม เลวเกินอายุไปนะ พ่อแม่เลี้ยงมายังไง ลูกถึงได้สารเลวขนาดนี้ 

ออฟไลน์ eye-lifestyle

  • พรุ่งนี้ไม่เคยมีจริง
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep21] 22/2/57
«ตอบ #98 เมื่อ23-02-2014 00:43:59 »

 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ ๐๐ตะวัน๐๐

  • ๐๐๐ลูกตาล๐๐๐
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep21] 22/2/57
«ตอบ #99 เมื่อ24-02-2014 11:13:03 »

หญิงนี่มันโรคจิต หรือเป็นบ้ากันแน่เนี่ย

แค่คนเค้าไม่รักต้องทำกันถึงขนาดนี้เลยเหรอ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep21] 22/2/57
« ตอบ #99 เมื่อ: 24-02-2014 11:13:03 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep21] 22/2/57
«ตอบ #100 เมื่อ24-02-2014 11:47:13 »

ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อายุยังน้อย ๆ คนหนึ่งทำอะไรได้ถึงขนาดนี้
คือ ยกให้หล่อนเป็นลูกมาเฟียที่ผ่านการบ่มเพาะเพื่อให้เป็นใหญ่ในอนาคตจะเชื่อมากอ่ะ
... ตอนนี้เริ่มเบื่อ ๆ กับพระเอก นายเอกนิดหน่อย ดูจะอ่อนไหวกันทั้งคู่
มันใช่เรื่องที่ต้องมาฟาดปากกันเพราะคำพูดที่พูดเพราะความกดดันนั่นหรือเปล่า
เฮ้ พี่ชายพวกแกอาการหนักขนาดนั้น มันต้องให้ความสำคัญเรื่องไหนก่อนกันเนี่ยะ
ตอนนี้ มีหลักฐานขนาดนี้แล้ว ถ้านายเอกจะยังเข้าข้างหญิงขนาดนี้
ก็ไม่ต้องให้มันเป็นนายเอกหรอก เรื่องแค่นี้คิดไม่ได้เลยเหรอไงฟระ
แว๊กกก ... อย่าถือสาเลยนะ ก็แค่อินน่ะ

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep21] 22/2/57
«ตอบ #101 เมื่อ24-02-2014 12:00:22 »

น่าจับหญิงไปดัดนิสัยนะะะ  :mew5: :mew5:

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep21] 22/2/57
«ตอบ #102 เมื่อ24-02-2014 12:54:34 »

ป่าน ผิด
แต่เราก็รู้สึกว่าไม่ใช่ความผิดของป่านอยู่ดี
เพราะอีชะนีนั่นแท้ๆ :beat: :beat:

ออฟไลน์ Ali$a฿eth

  • [จิ้น]ตนการ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep21] 22/2/57
«ตอบ #103 เมื่อ24-02-2014 15:53:05 »

โรคจิต เหอะ ๆ

ออฟไลน์ candynosugar+

  • กลัวแล้ว
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-2
    • CDNSG+
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep21] 22/2/57
«ตอบ #104 เมื่อ24-02-2014 16:58:18 »

22

 
            ผมถูกสั่งห้ามไม่ให้บอกอะไรกับนาที เพราะพี่วินจะเก็บเรื่องที่พี่นารากลายเป็นเจ้าชายนิทราเป็นความลับ หลังจากที่รถตู้จอดที่หน้าประตูบ้านหลังใหญ่ พี่กวางที่เป็นเพื่อนสนิทพี่วินก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา
            “ทีเป็นไรไม่รู้ กลับถึงบ้านก็วิ่งเข้าห้องตัวเองแล้วก็ไม่ยอมเปิดประตูห้องให้ฉันเลย!” พี่กวางว่าก่อนจะรีบวิ่งพาผมและพี่วินเข้าไปในบ้าน ขึ้นไปยังชั้นสองที่มีห้องนอนเรียงรายอยู่ มือของพี่กวางเคาะลงที่ประตูไม้เนื้อดีแต่ไม่มีเสียงตอบรับ
            เพราะกลัวว่าลูกชายคนเล็กจะคิดสั้น เหล่าพี่ชายเลยได้แต่เป็นกังวลกัน
            “ที! เปิดประตูให้พี่หน่อยสิ” เคาะประตูอยู่นานสองนานก็ไม่มีเสียงตอบรับจนพี่วินต้องเป็นฝ่ายเคาะเสียเอง ผมยืนมองสถานการณ์ตรงหน้า เจ้าเด็กโง่เอาแต่ใจที่ไม่ห่วงความรู้สึกของคนอื่นข้างในห้องนั่นมันชักจะมากเกินไปแล้วจริงๆ
            “ไอ้ที!!! เปิดประตูเดี๋ยวนี้!!!” พี่วินตบประตูจนแทบจะเรียกได้ว่าจะพังมันเข้าไป ก็ยังคงไม่มีสัญญาณตอบรับจากคนด้านใน ผมมองทั้งสองด้วยแววตาอ่อนล้าก่อนจะขออนุญาตแทรกตัวเข้าไปแล้วเคาะลงบนประตูไม้นั่น
            “ที … นี่ป่านนะ”
            ‘ตึง!’
            เสียงเหมือนของตกภายในห้องทำให้พี่ทั้งสองร้อนรนจนแทบจะกินหัวผม กลัวว่านาทีจะโง่ฆ่าตัวตายหรือทำอะไรที่สิ้นคิด ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่
            “ถ้าไม่เปิดประตู ก็ไม่ต้องเจอหน้ากันอีก!!”
            ‘ผ่าง!’
            “ไม่เอา!” แค่ทริคหลอกเด็กเล็กน้อย นาทีก็เปิดประตูออกมาแทบจะทันทีแล้วลากผมเข้าไปในห้องก่อนจะปิดประตูใส่หน้าพี่ๆทั้งสองอย่างไร้กาลเทศะ ผมมองเจ้าของห้องที่อยู่ในชุดเสื้อยืดกับกางเกงบ็อกเซอร์แล้วถอนหายใจ
            มือหนาลากผมไปที่เตียง นาทีนั่งลงกับเตียงแล้วกอดเอวผมเอาไว้ ซุกหน้าหล่อๆของมันลงที่หน้าท้องแบนๆของผม
            “เลิกทำตัวเป็นเด็กๆซักที” ผมลูบหัวคนตรงหน้า นาทีพ่นลมหายใจ
            “มึง…”
            “อะไร?”
            “นารา ตื่นหรือยัง?” นาทีถามขึ้น ผมกลืนน้ำลายอย่างยากลำบากพลางดึงแขนนาทีออกจากตัวแล้วมองคนตรงหน้าด้วยความสงสาร
            “เดี๋ยวพี่นาราก็ตื่นแล้ว”
            “โกหก … พี่หมอไม่บอกกูแถมยังทำหน้าเหมือนอมความลับอะไรซักอย่าง” ไอ้คนช่างสังเกตบ่นอุบแล้วลุกขึ้นเดินพล่านไปมาในห้องราวกับหนูติดจั่น
            “วินบอกอะไรมึงใช่มั้ย?” ก่อนที่นาทีจะหยุดอยู่ตรงหน้าผมที่นั่งลงบนเตียงแทน ผมส่ายหน้า
            “ไม่นี่ มึงคิดมากไปแล้วนะ”
            “แล้วทำไมถึงออกมาจากโรงพยาบาล นารายังอยู่นั่น ถ้าพี่นาราฟื้นขึ้นมาแล้วหาพวกเราไม่เจอ…” ผมกระชากเสื้อคนตรงหน้าอย่างใจเย็นก่อนจะบดเบียดริมฝีปากขึ้นไปแตะริมฝีปากสีซีดนั่น ค่อยๆละเมียดเบาๆแล้วละออก นาทีเบิกตากว้างอย่างตกใจแล้วมองหน้าผม
            “เลิกคิดก่อนได้มั้ย พี่นาราไม่เป็นอะไรแล้ว ไม่เชื่อใจหมอหรือไง”
            นาทีหลับตาลงแล้วถอนหายใจอีกครั้ง
            “ไม่ใช่ไม่เชื่อ … แต่ …” ร่างโปร่งชะงักไปเมื่อผมค่อยๆแกะกระดุมเสื้อออกจากตัวแล้วเลื่อนมือไปดึงร่างของนาทีให้นอนลงบนเตียง ผมตามขึ้นไปคร่อมร่างของคนตรงหน้าเอาไว้แล้วซุกหน้าลงที่ซอกคอของนาทีโดยไม่ปริปากพูดอะไร
            “ป่าน…” นาทีคงตกใจที่จู่ๆผมก็มีท่าทีแปลกๆ ผมพยายามกลั้นความอ่อนแอไว้ในใจ
            ยังไงผมก็ต้องเป็นหลักให้นาที เพราะนาทีสูญเสียมากเกินไป ทั้งแองจี้ และพี่นาราที่อาจจะไม่ฟื้นขึ้นมาถ้านึกถึงความเป็นจริง เพราะสงสารคนตรงหน้า …
            หรือเพราะว่า … ไม่อยากจะให้นาทีสูญเสียคนที่รักอีกต่อไปแล้ว
            มันมากเกินไป มากเกินกว่าที่ผู้ชายคนนี้จะรับไหวจริงๆ
            “คืนนี้อยู่ด้วยกันนะ”
            ผมกระซิบข้างหูร่างโปร่งเบาๆ ก่อนจะหลับตาเพื่อรับสัมผัสที่วาบหวิวเพื่อให้ลืมเรื่องราววันนี้ไปทั้งหมด กลิ่นของนาทีที่ติดอยู่ที่จมูก มือที่ไล้ผ่านร่างกาย สัมผัสอ่อนโยนและรุนแรงไปพร้อมๆกันทำให้ผมอยากจะจดจำมันไปตลอด อยากจะสัมผัสให้มันมากกว่านี้ ให้ความรู้สึกกลายเป็นเครื่องกลบเกลื่อนเรื่องราวบ้าๆที่เกิดขึ้น ให้ตายสิ …
ผมแพ้ความเร่าร้อนของนาทีอย่างราบคาบเลยล่ะ…
 
            *


            ผมนั่งมองร่างโปร่งที่ยืนอยู่ที่ระเบียงบ้านพร้อมกับบุหรี่มวนหนึ่ง ควันสีขาวพวยพุ่งออกจากริมฝีปากสีซีด ผมที่เป็นคนไม่ชอบสูบบุหรี่และไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ได้แต่นั่งมองอยู่แบบนั้น ก่อนจะตัดสินใจเดินไปกอดเอวของนาทีเอาไว้นิ่งๆ ร่างโปร่งสะดุ้งเฮือก
            “อะไร? อ้อนเป็นด้วยหรือไง?” นาทีว่าพลางใช้มืออีกข้างที่ว่างอยู่ขยี้หัวผม ผมส่ายหน้า
            “ถ้าเกิดวันหนึ่งกูเป็นอะไรขึ้นมา … มึงจะเศร้ามั้ยวะที …” ผมพูดเสียงแผ่ว ไม่ทันไรคนที่กอดอยู่ก็กระชากแขนผมออกอย่างแรงก่อนจะฟาดร่างผมลงที่ผนังห้อง ร่างโปร่งกัดฟันกรอดก่อนจะปล่อยบุหรี่มวนนั้นลงพื้นแล้วใช้รองเท้าผ้าขยี้ซะจนบี้ติดไปกับร่องกระเบื้อง
            “มึงพูดอะไรออกมา” นาทีกัดฟันกรอด ผมจ้องดวงตาสีเทานิ่งๆ
            “กูแค่ถามเฉยๆ”
            “ถามแบบนั้นกูไม่ชอบ”
            “กูก็ไม่ได้ให้ชอบ กูแค่ถามดู กูเข้ามาในชีวิตมึงแล้วก็อยู่กับมึงมาระยะหนึ่งจนพอผูกพันกัน แค่ถ้าเกิดวันหนึ่งกูไม่อยู่ตรงนี้ จะได้มั่นใจว่ามึงยังอยู่ได้”
            ‘เพี๊ยะ!!’
            มือหนาฟาดลงมาที่ใบหน้าของผมอย่างแรงจนชาไปครึ่งแถบ ผมเบิกตากว้างแล้วมองนาทีอย่างเอาเรื่องแต่อารมณ์คุกรุ่นของคนตรงหน้าชักจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ นาทีกระชากคอชุดคลุมอาบน้ำของผมอย่างแรง
            “มึงเข้ามาในชีวิตกูเองก็จริง”
            นาทีเม้มริมฝีปากแน่น แล้วผลักผมไปชิดกำแพงอีกครั้งจนชุดคลุมอาบน้ำหลุดลุ่ยไปหมด
            “แล้วมึงคิดว่าจะออกไปง่ายๆอย่างงั้นเหรอ!!!”
            ร่างโปร่งพุ่งเข้ามาฉกริมฝีปากผมและบดเบียดลงมาอย่างแรงจนแทบจะต้องร้องด้วยความเจ็บจากกลิ่นคาวเลือดที่ซึมตามริมฝีปาก ผมเบิกตากว้างพยายามจะผลักนาทีที่ไร้สติออกไปแต่ขายาวๆของคนตรงหน้าก็แทรกเข้ามาที่หว่างขาของผมอย่างถือวิสาสะ!
            “ที ไม่เอาแล้ว!”
            ผมผลักร่างโปร่งออกแล้วหอบหายใจพลางกระชับชุดคลุมอาบน้ำที่หลุดลุ่ย ใบหน้าผมตอนนี้คงจะแดงก่ำเพราะความเอาแต่ใจของคนตรงหน้า แต่พอเห็นใบหน้าที่ซึมลงไปของนาทีก็ทำให้ผมใจอ่อน
            “มึงจะทิ้งกูไปเหรอป่าน” นาทีถามขึ้น ผมใจร่วงไปอยู่ตาตุ่ม
            “ใครบอกวะ!!” ก่อนจะกระชากร่างที่ก้มหน้างุดๆมากอดเอาไว้
            “กูแค่สมมติ ถ้าเกิดวันนึงน้องหญิงทำอะไรกูขึ้นมาแล้วกูเป็นแบบพี่นารา มึงจะได้ไม่ต้องร้องไห้ขี้มูกโป่งไปขอหมอให้บริจาคอวัยวะให้กู” ผมกลั้วหัวเราะราวกับว่ามันเป็นเรื่องตลก พยายามที่จะทำให้นาทียิ้มออกมา แต่ไม่เลย
            “ไม่ขำ” นาทีว่า ผมหัวเราะฝืดขึ้นทันที
            “ถ้าผู้หญิงคนนั้นทำอะไรมึงจริงๆ กูยอมเป็นไอ้หน้าตัวเมีย” ไอ้ลูกช่างตีมันบ่นอุบ ผมขยี้หัวนาทีอย่างหมั่นไส้แล้วดึงแขนของมันให้เข้ามาอยู่ในห้องพลางกดปิดประตูกระจก ยุงชักจะเริ่มเยอะ
            “มึงก็ต้องระวังเหมือนกัน” ผมดึงนาทีให้นั่งลงที่พื้นข้างเตียงก่อนจะนั่งลงตรงหน้าร่างโปร่ง
            “ไม่มีใครทำอะไรกูได้หรอก”
            แหม่ มั่นใจซะจริงนะ
            “แน่เหรอ?”
            “เออดิ”
            “แล้วที่กูต่อยมึงทุกวันนี่คืออะไรวะ” ผมว่าก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปหยอกคนตรงหน้าแล้วหดหน้ากลับเมื่อนาทีทำท่าจะจูบลงบนริมฝีปากของผมที่เริ่มจะแสบหลังจากโดนกระแทกจนเป็นแผลเมื่อกี้
            “มันคนละแบบกัน มึงเป็นแฟนกู” นาทีเบ้ปาก ผมหัวเราะร่วน
            “มึงคิดเองเออเองนะนาที กูยังไม่เคยพูดคำว่ารักหรือว่าตอบตกลงเป็นแฟนมึงเลย” ผมกวนคนตรงหน้าแล้ววิ่งขึ้นเตียงไป นาทีเบิกตากว้างพลางสบถอย่างโมโหแล้วคว้าข้อเท้าผมเอาไว้จนร่างผมร่วงลงไปกระแทกกับเตียงอย่างแรง! โอ้ย จมูกแทบหัก กรรมเวร!
            “มึงทำงี้ไม่ได้นะป่าน!!” นาทีลากขาของผมพรวดเดียวจนไปอยู่ใต้ร่างของมัน ผมหัวเราะ
            “ทำไมจะทำไม่ได้ กูยังไม่มีเหตุผลที่จะรักมึงเลยนี่” ผมว่า นาทีชะงักไป
            “ช็อคเหรอ?” ผมตบหน้าคนด้านบนเบาๆ
            “จริงเหรอที่มึงไม่เคยรักกูเลย?” นาทีว่าก่อนจะลุกออกจากตัวผมแล้วลงไปนั่งกอดเข่าที่เดิม ผมยันตัวขึ้นมาพลางมองกลุ่มผมสีดำสนิทที่หันหลังให้พลางส่ายหน้าให้กับความขี้น้อยใจของนาที
            เจอกันวันแรกๆยังเป็นไอ้สารเลวที่นอนกับคนอื่นไปทั่วอยู่เลย
            พอมาวันนี้กลับกลายเป็นเด็กขี้งอนไปซะแล้ว
            “ไม่รู้จะพูดไงดี …” ผมพึมพำ
            ไม่รู้จะตอบยังไง
            ไม่รู้ว่าใช่คำว่ารักหรือเปล่า
            ทั้งๆที่ผมเคยคิดว่ารักนาทีและพูดมันออกไป แต่ก็ไม่เคยมั่นใจกับคำๆนี้เลย
            “รักไม่เห็นต้องมีคำอธิบายให้ยุ่งยาก ไม่ใช่สูตรคณิต” นาทีว่า มือหนากอดเข้าหากัน ผมมองภาพตรงหน้าแล้วหัวเราะออกมานิดๆก่อนจะกระเถิบตัวลงนอนราบบนเตียงแล้วกอดคอนาทีจากด้านหลัง วางคางลงบนไหล่กว้างอย่างเอาใจ
            “จริงๆก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกอะไรแบบนั้นหรอกนะ”
            “มึงไม่รักกู กูคิดไปเองคนเดียวสินะ” ผมเขกหัวไอ้เด็กโข่งไปเบาๆ
            “มีคนแถวนี้เคยบอกกูว่า มันรู้แล้วล่ะว่ารักหน้าตาเป็นยังไง บอกกูหน่อยได้ป่ะว่ารักมันหน้าตาเหมือนปิกาจูมั้ย?” ผมถามนาที นาทีจับมือผมแล้วหันหลังมามองหน้า
            “ความรักของมึงอ่ะ หน้าตาหล่อๆเหมือนกู”
            อื้อหือ มึงจะบอกว่าตัวมึงเองก็พูดมาเถอะว่ะ
            “เหรอ ไอ้กาฬก็หล่อนะ นั่นอาจจะเป็นความรักของกูก็ได้”
            “ป่าน!!! มึงเป็นแฟนกูนะ” นาทีตะโกนลั่นแล้วทำหน้าบึ้ง ผมหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลัง
            “มึงคิดเองเออเองคนเดียวอ่ะที … เอางี้  มึงลองขอกูเป็นแฟนดูดิ เผื่อกูจะยอมตกลงให้” ผมยื่นข้อเสนอให้นาทีแล้วอมยิ้มเล็กๆก่อนจะนั่งจ้องหน้าคนตรงหน้าพลางกระพริบตาปริบๆอย่างกวนๆ
            “ว่าไง ชักช้าลีลาตายพวกนะมึง”
            “เป็นแฟนกันนะ” นาทีว่า ผมส่ายหน้า
            “ห้วนไป”
            “เป็นแฟนกันนะครับ”
            “ห้วนอยู่ดี” ผมหัวเราะกับท่าทางที่เริ่มฟึดฟัดของนาที
            “เป็นแฟนกับผมนะครับ”
            “ไม่”
            “ป่าน!!!”
            “อีกทีเร็วเผื่อจะยอม”
            มือของนาทีกระชากผมเข้าไปใกล้ก่อนจะจรดจมูกลงบนจมูกของผม ดวงตาสีเทาอ่อนจ้องมองเข้ามาในดวงตาของผมไม่กระพริบ ราวกับว่าต้องการจะบอกว่ามันจริงจังจริงๆ หน้าผมร้อนฉ่าขึ้นมาอย่างน่าประหลาดใจ
            “เป็นแฟนกับทีนะ … ป่าน”
            อ่ะ…
            “อืม” ผมครางในลำคออย่างลืมตัว
            อากาศร้อนจัง
            ก่อนนาทีจะหัวเราะในลำคอแล้วผลักผมออก
            “แค่นี้ก็ทำเป็นหน้าแดง สตอเบอร์รี่!”
            ... หมดกันอารมณ์เขินเมื่อกี้
            “ตายไปเลยไอ้ห่า!!!” ผมหยิบหมอนฟาดลงที่หัวของนาทีอย่างแรงจนมันร่วงลงไปนอนกลิ้งที่พื้นพรมแล้วร้องออกมาเหมือนหมาโดนเชือด
            “โอ้ยย เจ็บ!!! เมื่อกี้มึงตอบ ‘อืม’ ว่าตกลงเป็นแฟนกูแล้วนะ ทำแบบนี้กับแฟนไม่เกินไปหน่อยเหรอ” 
            ผมแลบลิ้นใส่ไอ้นาทีแล้วหยิบหมอนข้างฟาดลงไปที่ตัวของมันอีกครั้ง
            “เออ! รู้ไว้ซะด้วยว่าต้องเจอแบบนี้ไปอีกนาน แล้วขอบอกไว้อย่างนึงนะ!!!”
            “เป็นแฟนกูต้องอดทน สิบล้อชนต้องไม่ตายเว้ย!!!! ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” แล้วผมก็ตะลุมบอนอย่างอ่วมอรทัยกับนาทีจนแทบสิ้นแรง
            ผมนอนหอบหายใจที่พื้นห้องพลางมองไปยังคนด้านข้างที่ลิ้นแทบห้อย ก่อนจะยื่นมือไปเขย่าตัวนาทีเล็กน้อย
            “อะไร” ผมว่าผมอาจจะมั่นใจ ...

            “กูอาจจะ ‘รัก’ มึงจริงๆก็ได้ว่ะนาที”


            *
 
            ผมเดินลงมาจากชั้นสองของบ้านพร้อมกับเจ้าของบ้านที่อายุน้อยที่สุดที่เดินตามหลังมา นาทีตาบวมเฉ่งหลังจากที่ร้องไห้อย่างหนักเมื่อวานเลยต้องสวมแว่นกันแดดปิดเอาไว้พอๆกับพี่วินที่สวมแว่นเหมือนกัน สองพี่น้องมองหน้ากันนิดหน่อยแล้วหันหน้าเมินหนี
            นาทีคงโกรธพี่มันที่ด่าว่า ปากหอยปากปูและปากพล่อย
            ผมมองสมาชิกใหม่ในบ้านที่นั่งยิ้มอยู่ที่โต๊ะกินข้าว สายตาที่มองนาทีนั้นมันอาจจะมากเกินกว่าเพื่อน แต่เท่าที่ได้ยินจากปากของพี่วิน พี่หมอหรือพี่กวางนั้นอาจจะเป็นคนที่นาทีรัก…
            จริงสินะ เพราะมัวแต่เล่นกันผมเลยไม่ได้ถามความสัมพันธ์ของนาทีกับพี่กวางเลย
            “ที…” ผมหันไปกระซิบกับนาทีที่กำลังจะเดินแซงผมลงจากบันได
            “หืม”
            “กูหึงโหดถึงขั้นตัดเจี๊ยวมึงได้นะ” ผมยิ้มร่า ไอ้นาทีหน้าซีดเผือกแล้วเลือกที่จะยืนนิ่งอยู่กับที่ปล่อยให้ผมเดินนำลงไป ผมยกมือไหว้คุณพ่อที่นั่งดื่มกาแฟอยู่ที่หัวโต๊ะกินข้าว
            “ให้ไปปลอบกัน เล่นปลอบกันถึงเช้า ไม่รู้ปลอบอิท่าไหน” พี่วินพูดขึ้นมาพร้อมกับคุณพ่อที่หัวเราะชอบใจใหญ่ ผมหัวเราะแหะๆกลับไปแล้วนั่งลงข้างๆพี่วิน ส่วนนาทีก็นั่งลงข้างๆพี่กวางที่ยิ้มให้นาทีมากเกินจนผมเริ่มจะหมั่นไส้
            ตกลงเป็นพี่น้องกันหรือว่าเกินกว่านั้นวะ!?
            บรรยากาศในครอบครัวดูต่างจากเมื่อวานมาก เล่นบทโศกกันไม่ถึงวัน วันนี้คุณพ่อก็สามารถปล่อยมุขได้ แต่เบื้องหลังรอยยิ้มพวกนั้น ดูก็ออกว่าพวกเขากำลังกลบความเศร้ากับเรื่องที่เกิดขึ้น
            “วันนี้จะไปเยี่ยมนารา”
            “ไม่ได้!!! / ไม่ได้นะ!!!” เป็นคุณพ่อ พี่วิน และพี่กวางที่ตะโกนแข่งกันจนบ้านแทบจะกลายเป็นสนามเชียร์มวยหลังจากนาทีพูดคำๆหนึ่งออกมา ผมหันไปมองหน้าแต่ละคนด้วยความตกใจที่ตบโต๊ะจนไข่คนที่อยู่ในจานแทบจะกระเด้งลอยเคว้งในอากาศ นาทีมองหน้าคนในครอบครัวงงๆ
            “ทำไม?”
            “วันนี้จะไปดูโรงเรียนใหม่ไม่ใช่หรือไง เห็นไอ้เจ้าวินบอก” คุณพ่อพยักพเยิดหน้าไปยังพี่ชายคนโตสุดของบ้าน พี่วินพยักหน้าส่วนนาทีส่ายหน้ายิก
            “ไม่เห็นพูดอะไร / ฉันนัดผ.อ.ไว้แล้ว” พี่น้องพูดขึ้นพร้อมกันก่อนจะมองกันด้วยสายตาอาฆาต
            “ใช่ไหมป่าน เมื่อวานพี่บอกป่านไปแล้ว” พี่วินหันมาถามผม ผมมองเขานิ่งๆก่อนจะได้สายตาอำมหิตส่งกลับมาจนพยักหน้ารับแทบไม่ทัน
            “เออ ใช่ ลืมบอกเลยว่าพี่วินบอกว่านัดผ.อ. ไว้ให้แล้ว”
            นาทีขมวดคิ้วมองผม แม้สายตาจะถูกซ่อนอยู่ภายใต้แว่นดำ แต่ผมมั่นใจว่ามันกำลังโมโหอยู่
            “นี่พ่อกับพี่เป็นอะไรกันไปหมดวะ! หา?! ลูกชายจะตายทั้งคนยังนั่งหัวเราะอยู่เนี่ยนะ แล้วเฮียอ่ะ ยกเลิกไปเหอะ ไม่มีอารมณ์จะเรียน!!!!” นาทีตะคอกเสียงดังก่อนจะเดินออกไปจากโต๊ะอาหาร พี่กวางทำท่าจะลุกไปแต่ผมชิงโอกาสนั้นวิ่งปราดตามนาทีออกไปนอกบ้าน
            “นาที!! จะไปไหนวะ?” ผมรีบสวมรองเท้าแล้วมองคนที่กำลังกดกุญแจรถ
            “จะไปเยี่ยมนารา”
            “ไปไม่ได้นะ!!!” พี่กวางวิ่งพรวดพราดออกมาจากบ้านพร้อมกับพี่วิน ผมพยายามดึงแขนนาทีเอาไว้
            “นี่มันบ้าอะไรวะเนี่ย!!!? พวกพี่เป็นบ้าอะไรกัน!!!! นาราเป็นพี่ชายผม!!!! อย่ามาห้าม!!!” นาทีตะคอกด้วยความเหลืออดแล้วลากผมขึ้นรถก่อนจะพุ่งออกไปนอกบ้านด้วยความรวดเร็ว
            ผมมองมือหนาของนาทีที่กำพวงมาลัยรถแน่น
            บางทีอาจจะถึงเวลาที่นาทีจะต้องรู้…
            ‘ครืด ครืด’
            โทรศัพท์ของนาทีสั่น เจ้าตัวดูหน้าจอก่อนจะโยนมันไปไว้เบาะหลัง ไม่ทันไรโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้นตาม นาทียึดมันไปแล้วกดรับอย่างหัวเสีย
            “ไอ้พี่เฮงซวย!!!!” นาทีตะคอกใส่โทรศัพท์แล้วโยนมันไปไว้เบาะหลังอีกครั้ง ผมมองคนที่โมโหจนเหยียบคันเร่งแทบจะมิดแล้วเลือกที่จะไม่พูดอะไร
            “บอกมาให้หมดเลยนะ ปิดบังอะไรกันอยู่” นาทีว่า ผมจับแขนนาทีเบาๆ
            “เบาคันเร่งก่อนเหอะว่ะ”
            “บอกมาสิวะป่าน!!!!!” นาทีตะคอกลั่นจนผมสะดุ้ง
            ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่
            “เบาคันเร่งก่อนแล้วจะบอก…”
            “ไม่ต้องแล้วล่ะ ไปดูที่โรงพยาบาลกันเลยแล้วกัน!!!!”
            รถสปอร์ตสีเทาจอดลงที่ลานจอดรถของโรงพยาบาล นาทีกระชากผมให้ลงจากรถก่อนจะตรงเข้าไปที่เคาน์เตอร์พยาบาลเพื่อสอบถามห้อง ผมไม่เข้าใจนิดหน่อยว่าทำไมพยาบาลถึงบอกว่าพี่นาราย้ายมาอยู่ห้องวีไอพีแล้ว
            เขาควรจะยังอยู่ในห้องไอซียูนี่ ไม่ใช่เหรอสำหรับคนที่ยังไม่ฟื้นน่ะ
            นาทีลากผมไปหยุดอยู่ที่ห้องผู้ป่วยวีไอพีก่อนจะเปิดประตูเข้าไปเบาๆ ผมมองภาพตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ
            “พักผ่อนก่อนนะคะ” พยาบาลชุดขาวยืนอยู่ด้านข้างเตียงแล้วพูดกับใครบางคน นาทีปราดเข้าไปหาพี่นาราที่นอนอยู่เตียง ก่อนภาพที่ปรากฏตรงหน้าจะทำให้ผมแทบช็อค ดวงตากลมโตนั่นปรือขึ้นมาอย่างช้าๆและเหนื่อยอ่อน
            “นาที…”
            พี่นารา … ไม่ได้เป็นเจ้าชายนิทรานี่?!!






TBC
อย่าเพิ่งเบื่อกันเลยนะคะ อีกไม่กี่ตอนก็ใกล้จะจบแล้วล่ะ :sad4:

ออฟไลน์ Maytbb

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1763
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep22] 24/2/57
«ตอบ #105 เมื่อ24-02-2014 17:25:15 »

 :monkeysad:  ดีแล้วที่พี่นาราฟื้นขึ้นมา

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep22] 24/2/57
«ตอบ #106 เมื่อ24-02-2014 17:36:51 »

หักมุมอีกแล้ว!!!!

ตกใจแปบ  :katai1:

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep22] 24/2/57
«ตอบ #107 เมื่อ24-02-2014 18:58:19 »

ดีใจมากที่ฟื้นนนน  :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ parakoparako

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-3
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep22] 24/2/57
«ตอบ #108 เมื่อ24-02-2014 19:14:55 »

อ้าววว ก็ดีใจนะที่พี่นาราฟื้น
แต่จะหักมุมเปงไรอีกป่าวอ่ะ :mew6:

ออฟไลน์ หมูน้อย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep22] 24/2/57
«ตอบ #109 เมื่อ24-02-2014 21:50:08 »

 :hao4:

ยังไง ?  พี่นาราหายแล้วววว หรือไม่ได้เป็นเจ้าชายนิทราตั้งแต่แรก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep22] 24/2/57
« ตอบ #109 เมื่อ: 24-02-2014 21:50:08 »





ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1251
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep22] 24/2/57
«ตอบ #110 เมื่อ24-02-2014 21:58:10 »

เฮ้ย มาต่อที คือแบบติดมากเลยอ่ะ สนุกเว่อร์ๆ มันแบบโดนใจอ่ะ ชอบ ลุ้นจนปวดท้องแล้วเนี่ย อินเกิน  :hao7:

ออฟไลน์ happy-jigsaw

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep22] 24/2/57
«ตอบ #111 เมื่อ24-02-2014 23:55:46 »

เห็นชื่อคนแต่งแล้วพุ่งมาแปะป้าบบบไว้ทันที  :hao7:

ออฟไลน์ Ali$a฿eth

  • [จิ้น]ตนการ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep22] 24/2/57
«ตอบ #112 เมื่อ25-02-2014 02:29:21 »

เฮียไม่ตื่นนี่ ใจหายใจคว่ำ ก้มต่ำไปอยู่ตาตุ่ม

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep22] 24/2/57
«ตอบ #113 เมื่อ25-02-2014 08:21:22 »

บางทีก็ รักกัน แกล้งกัน หยอกกันแรงไปนะอิหนู  :z3: :katai5:

ออฟไลน์ ๐๐ตะวัน๐๐

  • ๐๐๐ลูกตาล๐๐๐
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep22] 24/2/57
«ตอบ #114 เมื่อ25-02-2014 08:21:50 »

พี่นาราฟื้นแล้วดีใจจังเลย

ออฟไลน์ candynosugar+

  • กลัวแล้ว
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-2
    • CDNSG+
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep23] 26/2/57
«ตอบ #115 เมื่อ26-02-2014 17:00:55 »

23
   
 
            ‘ปึง!’
            ประตูถูกเปิดตามเข้ามาพร้อมกับร่างของพี่วินและพี่กวางที่วิ่งกันเหนื่อยหอบจนเหงื่อซก พี่วินดูตกใจที่เห็นพี่นาราตื่นมาคุยอยู่กับนาที แม้ท่าทางของพี่นาราจะอิดโรยมากก็ตามที ในที่นี้อาจจะมีผมคนเดียวที่งงเป็นไก่ตาแตกกับสิ่งที่ได้ยินมา
            ผิดกับนาทีที่ไม่รู้เรื่องอะไรซักอย่าง มันยืนอยู่ข้างเตียงกับพี่นาราแล้วยิ้มอย่างดีอกดีใจที่พี่นาราฟื้น พี่กวางเองก็ยิ้มร่าออกมาแล้ววิ่งไปหาพี่นารา พี่วินมีทีท่าอยากจะเมินผมเพื่อเข้าไปหาน้องชายเหมือนกับคนอื่นๆบ้าง แต่ทำไม่ได้เพราะผมจ้องเขาเขม็ง
ผู้ชายคนตรงหน้ากำลังทำอะไร…
            “ไปหาพี่นาราเถอะ” แต่เพราะผมมีมารยาทพอ เขาเป็นพี่ชายที่ห่วงน้องชายและเขาควรจะได้เจอหน้าคนที่เขารัก ผมพูดขึ้นเสียงแผ่วแล้วหลีกทางให้กับผู้ชายร่างสูง เจ้าตัวเลิกคิ้วสงสัยอย่างไม่เข้าใจ พี่วินพยายามจะอธิบายบางอย่างแต่ก็ไม่ได้พูดมันออกมา ทั้งห้องเงียบไปชั่วระยะเวลาหนึ่งก่อนที่พี่วินจะเดินเข้าไปกอดพี่นาราแล้วก็ปล่อยให้พี่นาราหลับไปเพราะฤทธิ์ยา
            ผมยืนนิ่งอยู่กับที่ด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้
            “พี่ขอโทษป่าน…” เสียงของพี่วินดังขึ้น ผมมองร่างสูงที่หันหลังกลับมา
            “ผมขอคุยด้วยหน่อยครับ” ผมว่าก่อนจะเดินไปที่ระเบียงห้องพักของผู้ป่วย พี่วินตามเข้ามาพร้อมกับนาทีแต่นาทีถูกผลักออกไปแล้วพี่วินก็ปิดประตูกระจกก่อนจะกดล็อค
            “พี่นาราไม่ได้เป็นเจ้าชายนิทรา…” ผมพูดเสียงแผ่ว ก่อนจะมองหน้าคนตรงหน้าที่มีท่าทีสำนึกผิดอย่างเห็นได้ชัด ผมเม้มปากแน่น
            นี่เขาเห็นผมเป็นอะไรเนี่ย…
            ทำไมถึงต้องโกหกกัน?
            “.. ทำไมพี่ทำแบบนี้!! ทำไมต้องโกหกด้วย!!!” ผมผลักอกที่วินอย่างแรงจนร่างของเขาเซไป ผู้ชายที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ที่กระจกด้านในห้องทุบมันเพราะอยากรู้เรื่องราวของพวกผม แต่ผมไม่ได้สนใจนาที
            ผมสนใจว่าทำไมคนตรงหน้าต้องโกหก
            “ความเป็นความตายมันใช่เรื่องล้อเล่นซะที่ไหน?!!!” มือของผมบีบแขนคนร่างสูงแน่นก่อนจะเขย่าตัวเขา
            “ก็ถ้าพี่ไม่โกหก ป่านจะยอมทิ้งผู้หญิงคนนั้นหรือไง!!!” กลายเป็นพี่วินที่หัวเสียแทน เขาบีบแขนผมกลับด้วยแรงมหาศาลที่ทำเอาผมเจ็บไปหมด ผมมองคนตรงหน้าเขม็ง ... อีกแล้ว ผู้หญิงคนนั้นอีกแล้วงั้นเหรอ
            ผมเบื่อที่จะต้องฟังชื่อเธอซ้ำๆแล้วรู้ไหม!!!!
            “ถ้าพี่บอกว่านาราไม่เป็นอะไรมาก ป่านก็คงไม่เอาโทษผู้หญิงคนนั้น!!!”
            “แต่พี่ไม่ควรบอกแบบนี้ ถ้าเกิดนาทีรู้ขึ้นมาจะเป็นยังไง!!!”
            พี่วินนิ่งไปเมื่อผมพูดชื่อของน้องชายคนเล็กของเขาออกมา ผมกับพี่วินผละออกจากกันเมื่อนาทีเริ่มทุบประตูข้างนอกนั่นอย่างแรงจนพี่กวางต้องเข้ามาห้ามเพราะกลัวพี่นาราจะตื่น
            "พี่จำไว้นะ เรื่องอื่นผมอาจจะยอมได้ แต่อย่าเอาความเป็นความตายมาเล่นกับผม พี่บอกแค่คำเดียว!! แค่คำเดียวว่าหญิงเป็นคนเจาะยางรถของพี่นารา แค่นั้นผมก็เอาโทษผู้หญิงคนนั้นอยู่แล้ว” ผมว่าก่อนจะผลักอกคนตรงหน้าอีกครั้งแล้วเปิดล็อคประตูกระจก
            ใช่ ผมเอาโทษผู้หญิงคนนั้นอยู่แล้ว แล้วก็เลิกพูดถึงเธอซักที มากๆไป ผมชักจะเริ่มหงุดหงิดขึ้นเรื่อยๆ
นาทีวิ่งพรวดพราดเข้ามาคนแรกแล้วมองหน้าพี่วินเขม็ง
            “เฮียทำอะไรป่าน ทำไมป่านถึงโมโหจนหน้าแดงแบบนี้?” ร่างโปร่งพูดเสียงแข็ง พี่วินถอนหายใจ
            “พี่โกหกป่านว่านาราเป็นเจ้าชายนิทรา จะได้ให้ป่านตัดใจแล้วก็ไปเอาผิดกับหญิง” ร่างสูงว่า นาทีเบิกตากว้างก่อนจะปราดเข้าไปชกหน้าพี่ชาย!
            “ว่าไงนะ!!!! พี่บอกป่านว่านาราเป็นเจ้าชายนิทราทั้งๆที่นาราไม่ได้เป็นงั้นเหรอ?!!!”
            “นาทีใจเย็นๆน่า” พี่กวางเข้ามาห้ามพี่น้องสองคนเอาไว้ก่อนที่จะมีเรื่องไปมากกว่านี้ พี่วินถูกลากกลับเข้าไปในห้อง
            “ที่ฉันโกหกก็เพื่อแกนะที เพราะแฟนแกมันไม่ตัดใจจากผู้หญิงคนนั้นซักที!!! อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าป่านคิดอะไรกับหญิง!!!! ถ้าไม่บอกว่านาราเป็นหนัก มันอาจจะไม่สำนึกว่าผู้หญิงคนนั้นมันเป็นยัยโรคจิตดีๆนั่นเอง!!!!”
            ประตูถูกปิดลงด้วยมือของพี่กวางพร้อมกับผ้าม่านในห้องที่ถูกลากปิดลง นาทีจะปราดเข้าไปเปิดประตูเพื่อที่จะกลับเข้าไปในห้องแต่ผมกระชากแขนมันเอาไว้แล้วปิดประตูกระจกลงเบาๆ
            “พอเหอะ”
            “ไม่ต้องบอกก็รู้แล้วเว้ย ป่านไม่โง่หรอกไอ้พี่บ้า!!” นาทีตะคอกกลับไป ผมส่ายหัวกับความบ้าของคนตรงหน้าก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ด้านนอกระเบียง นาทีเดินมานั่งลงตรงหน้าผม ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่
            “ขอบุหรี่มวนดิ๊”
            ก่อนจะยื่นมือขอสิ่งที่เกลียดจากร่างโปร่ง ผมเคยสูบบุหรี่มาก่อนแต่ไม่บ่อย จนหลังๆตั้งใจว่าจะเลิกเลยอุปทานตัวเองว่าเกลียดของสิ่งนี้นักหนา แม้แต่กลิ่นก็ไม่อยากจะดม
            แต่ตอนนี้ผมปวดหัวไม่ไหวแล้ว
            “แต่มึงไม่สูบ…”
            “เอามาเหอะน่า!!!” ผมตะคอกใส่คนตรงหน้าก่อนจะกวักมือขอ นาทีหยิบบุหรี่ออกจากซองมามวนหนึ่งแล้ววางบนมือผมก่อนจะวางไฟแช็คตามลงมา ผมหยิบมันเข้าปากแล้วจุดโดยไม่รีรอ
            “แค่กๆ”
            เพราะไม่ได้รับสิ่งๆนี้เข้าปอดเป็นระยะเวลานานทำให้ผมสำลักกับกลิ่นและความฝาดของมันอย่างช่วยไม่ได้ ผมหอบไอจนตัวโยนก่อนจะพยายามยัดสิ่งชั่วร้ายเข้าปากแล้วสูดมันเข้าไปก่อนจะพ่นออกมา
            “พอเหอะ” นาทียื่นมือมาหมายจะดึงบุหรี่จะมือผม ผมชักกลับ
            “ยุ่ง!!”
            “ป่าน!”
            “กูไม่ได้รักหญิงแล้ว เข้าใจยัง มึงเข้าใจมั้ยหา!!!! เลิกพูดถึงชื่อนี้ซักที ปวดหัว น่าเบื่อ!!!! โว้ยยยยยย” ผมตะโกนอย่างเหลืออดแล้วอัดบุหรี่เข้าปอดอีกรอบ
            “เซ็งว่ะแม่ง เซ็ง!!!!” ผมบ่นอุบอิบแล้วเคาะก้นบุหรี่ลงในช่องระบายน้ำที่ระเบียงก่อนจะสะบัดหัวไล่ความคิดบ้าบอออกไป
            พอกันที!!!! ถึงเวลาต้องคุยกันยาวแล้ว!!!
            “กูจะไปหาหญิง ไม่ไหวแล้ว!!!”
            “ไม่เอา!” นาทียืนขวางผมทันทีที่ผมลุกจากเก้าอี้ ผมมองมันตาขวาง
            “อย่ามายุ่ง”
            “ไม่ให้ไป!!”
            “หลบไปนาที อย่าให้กูต้องเตะก้านคอมึ๊ง โอ้ยยย!!!” นาทีปราดเข้ามาประชิดตัวผมก่อนจะบีบสะโพกผมอย่างแรงจนกระดูกแทบจะแตก ผมบิดเร่าๆด้วยความเจ็บพลางมองหน้านาทีอย่างโมโห
            “อยากโดนบุหรี่จี้หรือไง!!! อื้อ!!” ริมฝีปากสีซีดกดจูบลงมา ผมสะบัดหน้าหนี
            “โว้ยยย มาหื่นอะไรตอนนี้อีกวะ”
            “กูบอกว่าไม่ให้ไป … ยังจะดื้ออีกหรือไง” นาทีกดเสียงทุ้มต่ำจนเรียกได้ว่าคำรามอยู่ในคอ ผมถอนหายใจพลางงับบุหรี่เข้าปากแล้วสูดเข้าไปก่อนจะพ่นใส่หน้าคนตรงหน้า นาทีขมวดคิ้ววุ่น
            “ป่าน อย่าให้กูหมดความอดทน”
            “ทำไม? จะโยนกูลงจากระเบียงหรือไง?”
            “จะจับมึงปล้ำตรงนี้เนี่ยแหละ!!!”
            “!!!”
            “เฮ้ยๆ! ไม่เอา!!” ผมเอาแขนผลักนาทีออกเมื่อมือของมันชักจะอยู่ไม่สุข มือสากๆสอดเข้ามาใต้เสื้อผมแล้วลูบไล้แผ่นหลังของผมจนขนลุกซู่ไปหมด ผมปล่อยบุหรี่ทิ้งลงพื้นแล้วออกแรงผลักคนที่โถมเข้ามาเต็มที่
            “ไอ้ที!!! หยุด!!”
            เมื่อเห็นว่านาทีไม่ยอมหยุด ผมยกมือฟาดหัวมันอย่างแรงจนร่างโปร่งร้องขึ้นมาแล้วกุมหัวก่อนจะลงไปนั่งยองๆที่พื้น ผมชะงักไป ปกตินาทีไม่เคยร้องขนาดนี้เลยนะ ผมยื่นมือไปแตะไหล่คนตรงหน้าเบาๆอย่างตกใจ
            “เฮ้ย ขอโทษ เป็นไรป่ะวะ?” นาทียังคงร้องโอดโอยจนน่าใจหาย
            ให้ตายสิ
            ผมตบแรงไปแน่ๆเลย มันจะความจำเสื่อมมั้ยเนี่ย
            “ที…” ผมนั่งยองๆตามลงไปแล้วเขย่าแขนของนาทีอย่างเป็นห่วง
            “เจ็บมากมั้ย … เฮ้ย!!!”
            ไม่ทันได้ตั้งตัวมือของนาทีก็คว้าร่างผมให้ลงไปนอนราบที่พื้น ร่างโปร่งขึ้นคร่อมผมแทบทันที ผมเบิกตากว้างอย่างตกใจ ไอ้นาทีหัวเราะออกมาราวกับว่าผมติดกับดักของมันเข้าไปเต็มๆ ริมฝีปากสีซีดคลี่ยิ้มแล้วหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข ส่วนผมน่ะเหรอ! …
            “แม่ง!!! กูตกใจหมดเลย!!!” ใจหายใจคว่ำหมดแล้ว!
            “ฮ่าๆๆ หน้ามึงเอ๋อมาก”
            “ไอ้เวร ไอ้ห่านี่!!” แม่ง ผมอุตส่าห์เป็นห่วงมัน!
            “แค่นี้เจ็บ ก็ไม่ใช่กูแล้วป่าน” นาทีว่าพลางก้มลงมาซุกไซร้ซอกคอผม ผมดิ้นพล่านเป็นเจ้าเข้าก่อนจะชะงักไปเมื่อมือของนาทีคว้าหมับเข้าที่ขอบกางเกงยีนส์ของผม
            “ที!!! ไม่เอา กูไม่เล่นนะไอ้ห่า นี่มันระเบียง!!” ลิ้นร้อนๆลากสัมผัสลงที่ใบหูของผมจนผมแทบชักหงิกๆเพราะความอาย พี่วินอยู่ข้างในกับพี่กวางนะเว้ย!!! เล่นบ้าอะไรเนี่ย!!
            “นาที!!!”
            “ระเบียงก็จะเอา” เว้ยยย!!!!
            พูดบ้าอะไรเนี่ย!!!
            มือหนาปลดซิบกางเกงของผมแล้วเลื่อนมันลงไป ผมชักเป็นปลาขาดน้ำทันที ริมฝีปากสีซีดครอบครองริมฝีปากของผมอีกครั้ง ไล่ลงมาที่ซอกคอก่อนจะกลับมาบดเบียดจูบร้อนแรงซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนมือที่ผลักไสไล่ส่งคนตรงหน้ากลับกลายเป็นต้องจิกเสื้อเชิ้ตที่ยับยู่ยี่นั่นเอาไว้
            “ที ไม่ทำตรงนี้…”
            “ทนไม่ไหวแล้วป่าน”
            “ที่นีมันโรงพยาบาลนะ” เสียงของใครบางคนดังขึ้นพร้อมกับผมที่กระเด้งตัวลุกขึ้นแทบจะทันที ไม่รู้ว่าประตูกระจกถูกเปิดออกด้วยมือคุณหมอหนุ่มตั้งแต่เมื่อไร แต่เมื่อเจอแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ผมก็ผลักไอ้นาทีออกไปแล้วลุกขึ้นใส่กางเกงก่อนจะวิ่งเข้าไปในห้อง
            ขอบคุณมากพี่กวาง … ผมพึ่งเห็นว่าพี่ดีก็ตอนนี้แหละ!!!
            ผมเข้ามายืนในห้องพลางมองพี่วินที่ยังนั่งจับมือพี่นาราอยู่ที่เตียงคนไข้ พี่วินเงยหน้ามองผมนิดๆก่อนจะมองเลยไปด้านหลังที่มีนาทีเดินตามเข้ามา
            “ผมกลับก่อนนะครับ” ผมก้มหัวให้กับพี่อาวุโสทั้งสองก่อนจะเดินออกมาจากห้องคนไข้ทันที ให้ตายเถอะ หน้าผมร้อนผ่าวไปหมด
            ไอ้บ้านาทีไม่เคยฟังอะไรเลย บอกอยู่ว่าไม่เอาก็ยังจะตื้ออยู่นั่น
            ‘ปึก’
            “โอ้ย!” ด้วยความที่ผมรีบเดินออกมาจากห้องเลยชนเข้ากับใครคนหนึ่งจนเซไปด้านหลัง ผมบ่นอุบอิบแล้วเงยหน้ามองคนที่ตัวเองเดินชน กะว่าจะขอโทษ แต่พอเห็นใบหน้ากับริมฝีปากที่เป็นเส้นตรงของคนตรงหน้าผมก็แทบจะคว่ำปากลงทันที
            ไอ้กาฬ
            “ป่าน…”
            “ใครวะ ไม่รู้จัก” ผมทำท่าจะเดินหนี แต่มือหนาก็คว้าแขนผมเอาไว้ซะก่อน
            “ปล่อยกู”
            “มึงยังไม่หายโกรธอีกหรือไง…” พระกาฬพยายามรั้งให้ผมฟังสิ่งที่มันพูด แต่ผมไม่มีอะไรจะฟัง ก่อนจะชะงักไปเมื่อมือของใครอีกคนดึงผมออกจากพระกาฬ
            “นาที…” ผมพึมพำเสียงแผ่วแล้วมองใบหน้าของนาที นาทีหันไปมองเพื่อนที่ถือดอกไม้ช่อหนึ่งไว้
            “มาเยี่ยมพี่นาราเหรอ” นาทีพูดเสียงเรียบ พระกาฬหยักหน้าเล็กน้อย
            “อยู่ห้องหัวมุม”
            “อืม” ทั้งสองคนเมินหน้ากันก่อนที่พระกาฬจะเป็นคนเดินออกไป เพราะนาทีโกรธเรื่องที่พระกาฬฟังพ่อมันมากเกินไป มันโกรธที่พระกาฬจูบผมต่อหน้ามัน แต่สำหรับผม ผมโกรธที่ว่าพระกาฬดูถูกผมจนแทบไม่น่าให้อภัย
            จู่ๆฝีเท้าของไอ้กาฬก็ชะงักลง ใบหน้านิ่งสนิทแฝงความเศร้านั่นหันมามองผม
            “ไม่ว่ามึงจะรู้สึกยังไงกับกูตอนนี้ กูแค่อยากให้รู้ว่ากูไม่ได้ตั้งใจ” พระกาฬว่าก่อนจะเดินต่อแล้วหายลับตาพวกผมเมื่อมันเดินเข้าไปในห้องของพี่นารา ผมถอนหายใจ
            ก็เพราะความไม่ได้ตั้งใจนั่นแหละ ถึงทำให้ใครต่อใครพลาดมานักต่อนัก
            “พี่นาราก็ปลอดภัยแล้ว เหลือแต่เรื่องหญิงสินะ” นาทีหยิบหมากฝรั่งขึ้นมาเคี้ยวแล้วเดินล้วงกระเป๋านำหน้าผมไป ผมขมวดคิ้ววุ่นเมื่อได้ยินชื่อนั้น
            นั่นสินะ
            ‘ครืดๆ’
            ยังไม่ทันไรโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงผมก็สั่นเป็นเจ้าเข้า ผมรีบหยิบมันออกมาแล้วดูชื่อสายเรียกเข้าแต่มันเป็นเบอร์แปลกๆ ผมกดรับก่อนจะกรอกเสียงลงไปในขณะนาทีเดินไปถึงลิฟต์ก่อนแล้ว
            “ครับ”
            (ป่านเหรอลูก) เสียงของหญิงวัยกลางคนดังขึ้น ผมดึงโทรศัพท์ออกอย่างสงสัย
            ใครกัน
            “ครับ”
            (นี่แม่เองนะ) เพียงแค่คนปลายสายเรียกแทนตัวเองว่าแม่ผมก็ใจร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที
            แม่น้องหญิง…
            “ครับแม่”
            (แม่ขอคุยกับป่านเป็นการส่วนตัวที่บ้านแม่ได้มั้ยลูก) เสียงสั่นๆของคุณแม่บ่งบอกอาการที่ไม่ค่อยดีของท่านเลย ด้วยความเป็นห่วง และตัวผมที่ถือความกตัญญูเป็นหลักเลยตอบตกลงไปแทบจะทันที
            “ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้ครับ”
            วางสายไปพร้อมกับออกวิ่งไปที่ลิฟต์ นาทียืนกดลิฟต์รอผมอยู่ตรงนั้นแล้ว ผมวิ่งเข้าไปในลิฟต์ก่อนจะยิ้มให้คนข้างๆที่ยืนเคี้ยวเจ้ายางยืดเหนียวๆตุ้ยๆอยู่ในปาก
            “มีอะไร?” นาทีถามขึ้นเมื่อเห็นผมมองหน้ามัน ผมส่ายหน้านิดๆ
            ตอนแรกตั้งใจจะบอกนาที แต่คิดอีกที … ไม่ดีกว่า ถ้าขืนไอ้เด็กช่างตีไปด้วย คงจะคุยไม่รู้เรื่องพอดี
            “ไปส่งกูที่โรงเรียนที ไอ้ฟ้าบอกอาจารย์จะให้ตกแล้วถ้าไม่เข้าเรียน”
            การโกหกเพื่อให้คนที่รักเราสบายใจ คงไม่ใช่สิ่งที่ผิดหรอกนะ
            ผมว่างั้น…
 
            *

            นาทีมาส่งผมที่โรงเรียนก่อนที่มันจะกลับไปที่คอนโดเพื่อไปเก็บกระเป๋า นาทีจะไปนอนเฝ้าพี่นารา ผมไม่ได้ทักท้วงอะไรก่อนจะโบกมือบ๊ายบายไอ้นาทีที่ค่อยๆขับรถออกไปจากโรงเรียน เมื่อรถสปอร์ตลับสายตาไปแล้ว ผมก็รีบวิ่งออกไปหน้าโรงเรียนแล้วโบกแท็กซี่ไปบ้านน้องหญิงทันที
            หวังว่าคงไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรอกนะ
            รถแท็กซี่จอดลงตรงหน้าบ้านหลังใหญ่ที่คุ้นตา ผมยืนกดกริ่งอยู่หน้าบ้าน ไม่นานนักคนรับใช้ของบ้านก็มาเปิดให้ ผมเดินเข้าไปในตัวบ้านก่อนจะถอดรองเท้าแล้วเปลี่ยนเป็นรองเท้าผ้า เดินตรงเข้าไปที่ห้องรับแขกที่ตอนแรกคิดว่าจะมีเพียงคุณแม่เพียงคนเดียว
            แต่ในห้องรับแขกนั้น กลับมีทั้งคุณพ่อ คุณแม่ และนายตำรวจในชุดเครื่องแบบอีกสามสี่คน
            “ป่าน” คุณแม่เรียกชื่อผม ใบหน้าท่านดูอิดโรยมาก
            “สวัสดีครับคุณพ่อ คุณแม่” ผมไหว้บุคคลที่ผมเคารพทั้งสองก่อนจะเดินไปนั่งลงที่พื้นข้างๆกับขาของคุณแม่ คุณแม่กอดผมแล้วร้องไห้ออกมายกใหญ่
            “ถ้าเจอตัวน้องยังไง ติดต่อกลับหาผมทีนะครับ”
            “…” คุณตำรวจบอกคุณพ่อแล้วก้มหัวอย่างสุภาพก่อนจะค่อยๆทยอยเดินออกไปจากห้องรับแขก คุณพ่อทุบโต๊ะทันทีที่ตำรวจออกไปจากบ้านก่อนจะสบถอย่างหัวเสีย
            “ทำไมยัยหญิงถึงได้ทำตัวแบบนี้นะ!!!!”
            “คุณคะ…” คุณแม่ร้องไห้สะอื้นจนตัวโยน ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
            “ป่านรู้เรื่องใช่มั้ย? ยัยหญิงไปเจาะยางรถของลูกบ้านตระกูลธาราทรัพย์จนลูกเขาเกือบจะเสียชีวิต ตอนนี้ตำรวจกำลังตามล่าน้องอยู่ เจ้าตัวก็หนีออกจากบ้านไปตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วแล้ว!!!” คุณพ่อมองผมแล้วพูดออกมา ดวงตาที่เปี่ยมด้วยความเป็นห่วงลูกฉายออกมาแวบเดียวก่อนจะเปลี่ยนเป็นโมโหอย่างเกรี้ยวกราด
            หญิงหนีออกจากบ้านอย่างงั้นเหรอ…
            “พ่อโดนตัดออกจากตำแหน่งอธิการบดีของโรงเรียนก็แล้ว ทำทุกอย่างที่ลูกขอก็แล้ว แต่ทำไมยัยหญิงถึงไม่ยอมหยุดซักที!!! จะต้องให้พ่อเสียหน้าไปอีกซักเท่าไร!!!” คำพูดที่แฝงไปด้วยอารมณ์รุนแรงทำให้ผมเลิกคิ้ว ผมบีบมือคุณแม่ก่อนจะมองคุณพ่อนิ่งๆ
            “คุณพ่อบอกผมทีได้มั้ยครับ ว่าน้องหญิงขออะไร…”
            ผมถามขึ้นนิ่งๆ คุณพ่อมองหน้าผมก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่
            “น้องหญิงชอบไอ้ลูกชายคนเล็กของบ้านธาราทรัพย์มาก แต่พอเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อน น้องหญิงก็เปลี่ยนท่าทีไป รูปของเจ้าลูกชายคนเล็กของบ้านนั้นน้องหญิงเอาไปเผาทิ้งหมดเลย เปลี่ยนเป็นเอารูปป่านขึ้นแทนเต็มห้องไปหมด แล้วก็ขอให้ใส่ความเด็กพวกนั้นแล้วไล่ออกจากโรงเรียน …” ผมชะงักไป
            ว่าไงนะ…
            “พ่อนึกว่าป่านจะรู้เรื่องอะไรบ้าง น้องหญิงไม่ยอมกินข้าว ไม่ยอมไปโรงเรียน แล้วเมื่อวันจันทร์ก็หนีออกจากบ้านไปยังตามตัวไม่เจอเลย” คุณพ่อว่าพลางกุมขมับ ผมเองก็มีสภาพไม่ต่างกัน
            คุณพ่อจะฆ่าผมหรือเปล่า
            ถ้าผมบอกว่าตัวการที่ทำให้น้องหญิงเป็นแบบนั้น
            นั่งอยู่ตรงหน้าคนพ่อในตอนนี้…
            “แล้วอีกอย่าง ป่านรู้หรือเปล่าว่าน้องหญิงกินยาระงับประสาท…” คุณพ่อพูดขึ้นอีกครั้ง ผมเบิกตากว้างพลางมองหน้าคุณพ่ออย่างตกใจ
            “ไม่ครับ”
            “พ่อเจอยานี่ในห้องน้อง ไม่ได้บอกตำรวจเรื่องนี้” คุณพ่อยื่นยากระปุกหนึ่งมาให้ผม ผมมองที่ฉลากยา มันเป็นยาระงับประสาทจริงๆ ก่อนจะมองขนาดยาในกระปุกใสที่เหลือเพียงแค่ไม่กี่เม็ด
            “หญิงเป็นอะไรหรือเปล่าป่าน ทำไมหญิงไม่บอกแม่เลย” คุณแม่พูดเสียงสั่นแล้วบีบมือผม ผมบีบมือท่านกลับ
            “ผมก็ไม่ได้เจอหญิงเลยครับ ช่วงหลังๆมานี่ คุณแม่พอจะรู้มั้ยครับว่าหญิงหายไปไหน” ผมถามขึ้น คุณแม่ส่ายหน้า พอหันไปหาคุณพ่อ คุณพ่อก็ส่ายหน้าเช่นเดียวกัน
            “ไอ้เจ้าลูกน้องที่ไปช่วยน้องหญิงเจาะยางรถของลูกบ้านธาราทรัพย์กลับมารายงานว่าน้องหญิงหายตัวไป ตามตัวไม่เจอ” ความเครียดเริ่มจะเกาะกุมพื้นที่สมองของผมเรื่อยๆ ผมพยายามคิดว่ามีที่ไหนที่น้องหญิงชอบไป แต่ก็คิดไม่ออกเลยเพราะว่าที่ที่นั้นมักจะเป็นบ้านผมเพียงที่เดียว…
            บ้าน…
            “พ่อครับ ผมจะช่วยออกตามหาหญิงเอง” ผมลุกพรวดขึ้นก่อนจะคว้ามือถือที่วางอยู่ที่โซฟายัดใส่กระเป๋ากางเกง คุณแม่ปล่อยมือผมส่วนคุณพ่อก็ลุกขึ้นตาม
            “ช่วยทีนะ”
            “ครับ” ผมทำท่าจะเดินหันหลังออกไป แต่ชะงักกึกไว้ ก่อนจะถามบางอย่างที่รู้ว่าอาจจะไม่ควรถามออกไป แต่ผมอยากรู้ …
            “ถ้าเจอตัวน้องหญิง … แล้วเรื่องจะเป็นยังไงต่อครับพ่อ”
            ทั้งบ้านเงียบราวกับว่าไม่มีใครอยู่บริเวณนี้ ทั้งๆที่ยังมีผู้ใหญ่สองคนอยู่ด้านหลังของผม จริงๆสำหรับครอบครัวของน้องหญิงสามารถยัดเงินเพื่อปิดคดีและไม่ต้องมีใครสูญเสียได้ง่ายๆ แต่ผมไม่แน่ใจเลย ว่าบ้านธาราทรัพย์ครอบครัวของนาทีจะยอมเหรอ ... คุณพ่อของนาทีคงไม่ยอม ในเมื่อเขาเกือบจะสูญเสียลูกชายของเขาทั้งคน ... ลูกใครใครก็รักนะครับ
            “น้องอาจจะเข้าศาลเยาวชน ไม่ก็เจอข้อหาพยายามฆ่า … ทางบ้านธาราทรัพย์ไม่ยอมให้ปิดคดีแน่ๆถ้ายังไม่เจอตัวน้อง”
            ผมนิ่งไป ก่อนจะกำหมัดแน่น
            “มีทางลดโทษมั้ยครับ”
            “มีทางเดียวที่เขาจะลดโทษให้ … น้องหญิงต้องกลายเป็นคนสติไม่สมประกอบ…
            “!!!!!”






TBC

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep23] 26/2/57
«ตอบ #116 เมื่อ26-02-2014 17:44:07 »

จับไปขังไว้จะได้ไม่ต้องออกมาสร้างความเดือดร้อนอีก  :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ หมูน้อย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep23] 26/2/57
«ตอบ #117 เมื่อ26-02-2014 18:09:49 »

ช่วยมากไปหรือเปล่า  ถ้าคนไม่ยอมหยุดให้ตายก็กลับมาทำร้ายเราได้ใหม่   

ถ้าไม่มีเหตุผลดีดี ที่หญิงกลายเป็นแบบนี้ก็ไม่เห็นใจหรอกนะ  :angry2:

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep23] 26/2/57
«ตอบ #118 เมื่อ26-02-2014 20:18:35 »

ตื่นเต้นจริงจังอ่ะเรื่องนี้  :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ ๐๐ตะวัน๐๐

  • ๐๐๐ลูกตาล๐๐๐
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep23] 26/2/57
«ตอบ #119 เมื่อ27-02-2014 08:38:22 »

ป่านจะช่วยหญิงอีกแล้วสิน่ะ

 :katai1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด