[ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep28-END] 30/3/57
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep28-END] 30/3/57  (อ่าน 67204 ครั้ง)

ออฟไลน์ ๐๐ตะวัน๐๐

  • ๐๐๐ลูกตาล๐๐๐
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
ตกหลุมรักป่านแล้วล่ะซิ


Aun@im

  • บุคคลทั่วไป
 :o8: :o8:
ชอบอ่ะ มาต่อไวๆน้าาา

ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
รู้สึกงงๆ หักมุมไปหมดเรื่องนี้ แต่เฮ้ย ชอบงะ

ไม่ชมพูแต่เทากำลังดี >< #หึหึ

ออฟไลน์ mapreaw

  • เคยคิดว่า "รักแท้มีอยู่จริง"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 615
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
หวานซ้าาาาาา :กอด1:

ออฟไลน์ Mancha KHIRI

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
นึกว่าจะดราม่ากันซะแล้ว ไปๆ มาๆ ได้ลูกกลับมาอีกหนึ่ง 5555

ออฟไลน์ Arancia

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 463
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-2
ต๊ายยยย น่ารักทั้งหมาทั้งคน ดีแล้วคะอย่าเพิ่งมาม่าเลย กลับมาหวานซะ
เรื่องนี้มันมีอะไรให้น่าค้นหาอีกมากมายเลยจริงๆ

อย่าหักมุมให้เศร้าละกัน คนอ่านเครียด อิอิอิ

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
มีอะไรให้แปลกใจอยู่เรื่อยๆ
น่าติดตามสุดๆ

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกก อ่านรวดเดียวเลย

กว่าจะเฉยอะไรคือความจริง

เอาเลิฟๆกันนะ

อย่าลืมคู่(?)กาฬกับจี้หล่ะ

หญิงนี่น่ากลัวนะ แล้วจัดการยังไง?

มาต่ออออออออออออออออออออออ

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
เป็นเรื่องที่พลิกล็อกทุกสองนาที

อะไรคือความจริง..?

ออฟไลน์ candynosugar+

  • กลัวแล้ว
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-2
    • CDNSG+
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep.17] 15/2/57
«ตอบ #69 เมื่อ15-02-2014 22:00:36 »

17

            “แค่กๆ”
            อาการเจ็บคอที่เกิดขึ้นกับเรี่ยวแรงที่หายไปหมดทำให้วันนี้ผมต้องนอนซมอยู่บนเตียง ตากฝนมาสองสามวันติดๆกันทำให้ร่างกายผมอ่อนแอจนแทบเรียกได้ว่าปวกเปียก ผิดกับอีกคนที่ถึงจะตากฝนมาเหมือนกันแต่ก็แข็งแรงไม่เป็นอะไรเลย
            “ลุกขึ้นมากินยาก่อน”
            มือของไอ้นาทีฉุดผมให้ลุกออกจากผ้าห่มผืนหนาที่ผมไม่อยากหนีจากมันไปไหน ผมค่อยๆพยุงร่างกายของตัวเองขึ้น อาการปวดหัวจี๊ดๆและตัวที่ร้อนจนแทบจะไหม้ทำให้ผมไม่อยากจะขยับตัว ผมหยิบยาจากฝ่ามือของเจ้าของห้องแล้วกรอกเข้าปาก ก่อนจะล้มตัวลงนอนอีกรอบ
            เกลียดจังเวลาไม่สบาย!
            ผมซุกตัวกับผ้าห่มโดยมีเจ้าหมาตัวสีน้ำตาลที่ขนสะอาดและหน้าตาไม่มอมแมมเหมือนเมื่อคืนนอนคลอเคลียอยู่ข้างๆ ผมกอดเจ้าหมาโง่เอาไว้ก่อนจะค่อยๆหลับตาลง ได้ยินเสียงกุกกักภายในห้องเลยต้องลืมตาขึ้นแล้วมองคนที่กำลังสะพายเป้สีดำขึ้นพาดบ่า
            “ไปเรียนเหรอ”
            “อืม” ไอ้นาทีว่าพลางเดินมาหาผมแล้วใช้ฝ่ามือมันแตะลงบนหน้าผากของผม ก่อนมันจะเดินหายไปแล้วกลับมาพร้อมกับแผ่นเจลลดไข้
            “เดี๋ยวเที่ยงๆจะกลับมาหา”
            “อือ”
            ผมครางในลำคอแล้วพลิกตัวกลับไปอีกด้าน ค่อยๆปิดตาลงจนกระทั่งเจ้าของห้องเดินออกไป เสียงปิดประตูทำให้ผมรู้ว่าไอ้นาทีออกไปจากห้องแล้ว ผมดันตัวขึ้นมานั่งอีกครั้งพลางมองไปที่โทรศัพท์มือถือที่ตั้งอยู่บนหัวเตียง
            น้องหญิงโทรเข้าหาผมเป็นร้อยสาย แต่ผมไม่ได้รับเลยซักสาย โชคดีที่ผมกดปิดเครื่องเอาไว้ ไม่งั้นไอ้นาทีมันคงคว้าไปรับเอง แต่ก็เห็นช่วงหลังๆนี่ไอ้นาทีก็ไม่ได้คุยกับหญิงซักเท่าไร ถ้าถามผม ผมเอก็รู้สึกโล่งใจ แต่ไอ้ที่ตะขิดตะขวงใจก็คือ สิ่งที่น้องหญิงจะทำต่อไปมากกว่า…
            “เฮ้อ”
            ผมถอนหายใจพลางหันไปเห็นเสื้อผ้าที่กองอยู่ที่พื้นกับพวกขนมหรืออะไรต่างๆที่เลอะเทอะเกลื่อนพื้นห้อง สงสัยเมื่อวานผมกับไอ้นาทีกินแล้วไม่ได้ทิ้งมันถึงระเกะระกะไปหมด ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่สามสี่รอบก่อนจะพยุงตัวเองให้ลุกจากที่นอนแล้วเก็บของพวกนั้นให้เข้าที่
            ผมลากสังขารตัวเองกลับมาที่ห้องนอนเมื่อห้องสะอาดเรียบร้อยดีก่อนจะหยิบโพสอิทบนโต๊ะเขียนหนังสือภายในห้องแล้วเขียนข้อความลงไปเพื่อบอกไอ้นาทีเมื่อมันกลับมาที่ห้อง
            ‘กูจะไม่ตื่นจนกว่าจะเย็น ไม่ต้องรอกินข้าวนะ มึงกินไปก่อนเลย’
เพราะผมไม่อยากจะตื่นกลางคัน ทางที่ดีให้ผมได้นอนสบายๆหน่อยก็แล้วกัน
            ก่อนที่ผมจะค่อยๆหลับตาลง แล้วเข้าสู่ความมืดมิดที่แสนยาวนาน…
            …
            ‘แตะ’
            สัมผัสที่แตะลงบนหน้าผากพร้อมกับกลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคยไม่ได้ทำให้ผมเปิดเปลือกตาขึ้นมาดูเพราะรู้อยู่แล้วว่าเป็นใคร อาการปวดหัวยังคงประดังทับซ้อนจนไม่อยากจะขยับตัว
            หวังว่ามันคงเห็นโพสอิทที่แปะอยู่ข้างเตียง
            “มึงรู้มั้ย…เวลามึงทำแบบนี้ มันทำให้กูรู้สึกเหมือนกับว่ากูกำลังทรยศมึงอยู่…” เหมือนไอ้นาทีจะไม่รู้ว่าผมตื่นอยู่ มันพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมต้องกลั้นความสงสัยเอาไว้ในใจ
            ทรยศ? อะไร…
            “เพราะมันคล้ายกันเหลือเกิน…” ก่อนสัมผัสอุ่นๆจากริมฝีปากสีซีดจะแตะลงที่หน้าผากของผม ผมไม่รอให้นาทีได้เดินไปไหนเลยคว้าแขนมันเอาไว้ ร่างของเจ้าของห้องหันกลับมาพลางเบิกตากว้างอย่างตกใจ เสียงของผมที่จะเปล่งออกไปกลายเป็นว่าถูกก้อนอะไรบางอย่างขวางไว้
            “แค่กๆ”
            ผมไอออกมาอย่างแรงจนไอ้นาทีต้องรีบรุดนั่งลงมาเพื่อประคองให้ผมกินน้ำ เมื่อกินน้ำแล้วก็ทำให้ก้อนนั่นมันไหลลงคอไปจนกลับมาพูดได้ปกติ ยกเว้นเสียงที่เหมือนกับก็อซซิล่าที่กำลังจะพ่นไฟก็แค่นั้นแหละ
            “เล่ามาให้หมด อะไรที่คล้ายกัน”
            นาทีมองหน้าผมนิ่งๆ ร่างตรงหน้าผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ราวกับว่าสิ่งที่จะเล่ามันหนักหนาสาหัส
            ผมกระชากคอเสื้อคนตรงหน้าอย่างแรงพลางใช้สายตาคาดคั้นก่อนจะประเคนหมัดลงไปบนอกแกร่งนั่นหลายๆทีเพื่อบ่งบอกว่าผมต้องการจะรู้เดี๋ยวนี้!!!
            “โอเคๆ พอแล้ว เล่าแล้ว” ไอ้นาทีว่าพลางจับข้อมือผมไว้ ผมพยักหน้าแล้วเร่งคนตรงหน้าโดยการใช้เท้ากระทืบเตียงเบาๆ
            “มึงทำให้กูนึกถึงจี้…ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน”
            ผมชะงักไป แต่ก็ไม่ได้มีทีท่าจะโต้แย้งอะไร เมื่อไอ้นาทีเห็นแบบนั้นจึงเล่าต่อ
            “จี้เองไม่ชอบโดนจูบ เธอเป็นผู้หญิงคนแรกเหมือนกันที่เวลาโดนจูบแล้วอ้วกเหมือนมึง”
            ก็สมควรล่ะ มันขยะแขยงนี่หว่า…
            “จี้ไม่ชอบให้กูไปชกต่อย เธอด่ากูประจำว่าโง่หรือไงที่จะเอาตัวเองไปตาย เหมือนที่มึงว่ากู” ผมเริ่มจะนิ่งไป เมื่อมันเริ่มจะคล้ายขึ้นเรื่อยๆ แต่นั่นก็เป็นนิสัยปกติของผมอยู่แล้ว ชีวิตมีอยู่ก็ดีแล้ว เอาไปทิ้งทำไม?
            “จี้ชอบตีกูบ่อยๆ แล้วก็ชอบใช้ความรุนแรงกับกูตลอด ชอบลุกขึ้นมาเก็บข้าวของทำความสะอาดแม้ว่าตัวเองจะลุกจากเตียงแทบไม่ไหว ชอบเก็บอะไรไว้ในใจคนเดียวเพราะกลัวว่ากูจะเครียดตามไปด้วย ชอบสั่งให้กูกินข้าวไปก่อนไม่ต้องปลุกเวลาเธอไม่สบาย…แล้วก็ชอบแกล้งหลับเพื่อที่จะฟังความในใจจากปากกู เหมือนที่มึงทำทุกอย่าง”
            “มึงเลยเห็นกูเป็นตัวแทนของจี้?”
            ไอ้นาทีนิ่งไปเมื่อผมพูดแบบนั้น ใบหน้าของมันสำนึกผิดสุดๆ
            กูว่าละ … มึงไม่ได้ชอบกูที่เป็นกูสินะ
            หึ ไอ้ห่านี่ บอกตรงๆกูก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่มารู้ทีหลังแล้วมันหงิดแปลกๆ
            “แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่จี้กับมึงไม่เหมือนกัน…” นาทีมันยื่นมือมาตรงหน้าแล้วจับปลายคางของผมไว้ ผมสะบัดออก แกล้งน้อยใจตอแหลไปงั้นแหละ แต่จริงๆผมก็เข้าใจ ถ้าเป็นผม ถ้าคนที่ผมรักจากโลกใบนี้ไป การที่มีใครคนใหม่เข้ามาแล้วคนๆนั้นมีนิสัยเหมือนคนที่เคยรักแทบจะทุกอย่าง
            เป็นผม ผมก็เลือกที่จะรั้งเขาไว้แม้จะรู้ว่าเป็นการทำร้ายเขาโดยการให้เขาเป็นตัวแทนคนเก่าก็ตาม
            ผมไม่ได้โกรธเลย
            ออกจะดีใจด้วยซ้ำที่ทำให้นาทีมันไม่รู้สึกว่าขาดอะไรไป
            ผมจ้องตาคนตรงหน้ากลับ ก่อนที่นาทีจะพูดสิ่งหนึ่งออกมาที่ทำให้ผมแทบช็อค
            “มึงไม่ได้จะจากกูไป”
            นาทีมีสีหน้าสลดทันทีเมื่อพูดประโยคนั้นออกมา ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากก่อนจะเอื้อมมือไปแตะใบหน้าของมันแล้วผลักมันออกไปไกลๆ
            “กูไม่ตายง่ายๆหรอก วันนี้นอนโซฟาไปนะ เดี๋ยวติดหวัดกู”
            ไอ้นาทียิ้มแล้วยอมเดินไปนั่งที่โซฟา ถึงจะยังไม่มืดแต่ผมก็พูดเผื่อไว้ก่อน เผื่อว่าผมอาจจะตื่นขึ้นมาตอนเย็นอีกทีแล้วก็อยากให้แน่ใจว่าจะไม่มีคนโง่บางคนมานอนกอดอยู่ข้างๆไม่ก็จูบเพื่อรับหวัดต่อทอด
            “มึงเหมือนแองจี้จริงๆ”
            “ย้ำมากๆเดี๋ยวกูก็น้อยใจเข้าให้เลยนี่” ผมขู่ไอ้นาทีก่อนจะคลุมโปงแล้วนอนหลับไปอีกครั้ง
            คงไม่แย่มากหรอกมั้ง
            แค่เป็นตัวแทนของผู้หญิงคนหนึ่งเอง     

            *

            เช้าวันใหม่ที่สดใสหลังจากหายไข้ อะไรก็ไม่มีความสุขกว่าการที่ได้กินไมโลร้อนๆกับรับแสงแดดอ่อนๆ โชคดีที่วันนี้เป็นวันเสาร์ ผมเลยได้ฤกษ์หยุดเรียนยาวมาราธอน ผมนอนกลิ้งอยู่บนโซฟาสีขาวด้านนอกห้องนอนพลางกดรีโมทดูโทรทัศน์ไปเรื่อยเปื่อย สองสามวันมานี่สมองของผมแทบจะไม่ได้คิดถึงเรื่องน้องหญิงเลยด้วยซ้ำ
            แปลกนะ ที่ผมไม่รู้สึกผิดหรือแย่อะไรที่ไม่ได้คุยกับเธอ
            หรืออาจจะเป็นเพราะว่าผมมีเรื่องอื่นให้คิดล่ะมั้ง
            “ป่าน!?”
            ‘ตึง!’
            เสียงร้องดังขึ้นจากในห้องนอนพร้อมกับเสียงดังตึงของอะไรบางอย่าง ผมวิ่งเข้าไปในห้องก่อนจะมองร่างของนาทีที่นอนกองอยู่ที่พื้น ริมฝีปากสีซีดเม้มเข้าหากันบวกกับมือที่จับบั้นท้ายของตัวเองเอาไว้ ไม่ต้องเดาผมก็รู้ว่าคนตรงหน้าต้องหล่นตุ๊บลงมาจากโซฟาแน่ๆ
            “โง่อีกแล้ว” ผมว่าคนตรงหน้าก่อนจะหัวเราะเบาๆ
            นาทีบ่นพึมพำแล้วละสายตาจากพื้นพรมขึ้นมามองผม ดวงตาตี่ๆเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับนิ้วเรียวที่ชี้มาที่ตัวผมราวกับว่าผมเป็นตัวประหลาดที่หลุดออกมาจากหนังสือการ์ตูน
            “อะไร?” ผมเลิกคิ้วแล้วถามออกไป ไอ้นาทีกุมขมับ
            “ใส่แบบนี้จนชินเลยเหรอ?”
            ห่ะ
            ว่าแล้วก็ก้มลงมองสภาพตัวเอง ผมสวมเพียงแค่เสื้อเชิ้ตตัวบางที่จำได้ว่าจับฉลากได้ตอนงานปีใหม่ปีที่แล้ว ตอนแรกก็กะจะเอาไปทำเป็นผ้าขี้ริ้วเพราะมันดูเหี่ยวๆ แต่คิดอีกทีก็นึกเสียดายเลยเอามาใส่นอนประจำกับกางเกงในตัวเดียว
            แล้วไง?
            “ก็ใส่ประจำ”
            นาทีชะงักไปพลางมองหน้าผมอีกรอบแล้วยิ้มมุมปาก
            “แล้วนี่อยู่ในห้องใคร?”
            “ก็ห้องมึง” เอ๊ะไอ้นี่ มึงต้องการอะไรจากกูเนี่ย
            “แล้วกูเป็นใคร?”
            “คน ถามโง่ๆอีกแล้ว”
            ไอ้นาทีเบ้ปากกลับมาก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วค่อยๆเดินเข้ามาประชิดตัวผม ผมถอยหลังไปติดกำแพงพลางกอดอกมองคนตรงหน้าที่สวมชุดนอนแขนยาวขายาวเหมือนเด็กอนุบาลหมีน้อย
            “กูชอบผู้ชายนะป่าน…”
            “แล้วไง?”
            “คิดว่าใส่ยั่วแบบนี้แล้วกูจะไม่คิดอะไรเลยหรือไง หา”
            ผมตบกะโหลกคนตรงหน้าเมื่อรู้ว่ามันคงคิดอะไรอกุศล ไอ้นาทีไม่รอเสียเปรียบ มันหยิกเอวผมกลับจนตัวผมงอเป็นกุ้ง! เจ๊บบบ เจ็บๆๆๆ เลยเปิดช่องโหว่ให้ผมได้พลิกตัวกลับมากระแทกร่างของนาทีลงที่กำแพง ผมชี้นิ้วใส่หน้ามัน
            “จะคิดอะไรก็คิดไป แต่อย่าทำอย่างที่คิดแล้วกัน”
            “ห้ามได้หรือไง” ไอ้นาทีว่าก่อนจะจับเอวผมไว้แล้ววิ่งดันผมไปร่วงลงที่เตียงแล้วปล่อยตัวทับตามลงมาอย่างแรง คางผมกระแทกกับหัวทุยๆของมันจนระบม ผมตบหัวไอ้นาทีอีกรอบ
            “กูเจ็บ!!!”
            “อย่ามาตุ๊ด”
            “มึงสิตุ๊ด!!!”
            “โอ้ยย!!!” ผมร้องจ้าออกมาเมื่อฟันขาวๆขบลงที่ต้นคออย่างแรง ผมระดมทึ้งหัวไอ้นาทีไม่หยุด ขาก็โดนมือของมันจับเอาไว้เลยใช้ถีบคนด้านบนออกไปไม่ได้
            “นาที! มันจั๊กจี้ ไอ้…”
            ‘ก๊อกๆ’
            เสียงเคาะประตูขัดจังหวะที่มือของไอ้นาทีจะชอนไชเข้ามาในเสื้อของผม ผมถีบร่างตรงหน้าออกไปอย่างแรงจนไอ้นาทีกระเด้งไปนอนที่พื้น มันร้องโอดโอยซักพักพอๆกับผมที่นั่งโกยอากาศเข้าปอด
            ฟัดกับกระทิง เหนื่อยชิบ
            ‘ก๊อกๆ’
            เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง ไอ้นาทีพุ่งเข้ามาใช้ลิ้นเลียริมฝีปากผมอยากถือวิสาสะ มันหัวเราะร่าก่อนจะเดินออกไปที่ประตูร้อนให้ผมนั่งทึ้งหัวตัวเองอยู่คนเดียว เสียงที่เงียบไปด้านนอกช่วงระยะหนึ่งทำให้ผมก้าวเท้ายาวๆออกมาจากห้องนอน เผยให้เห็นแผ่นหลังของไอ้นาที มือของนาทีจับประตูมองไปนอกห้อง
            “ใครมาวะ?”
            ผมถาม ก่อนที่ร่างของไอ้นาทีจะโดนผลักไปติดกำแพงพร้อมกับร่างเล็กของใครซักคนที่วิ่งเข้ามา ดวงตากลมเบิกกว้าง พอๆกับผมที่รู้สึกเหมือนเข่ามันอ่อนไปซะดื้อๆ
            “หญิง…”
            น้องหญิงใช้สายตามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วหันไปมองไอ้นาทีอย่างผิดหวัง ไม่ให้คิดไม่ได้หรอก ผมอยู่ในสภาพเสื้อเชิ้ตตัวเดียวที่กระดุมหลุดลงมาเกือบครึ่งตัว ช่วงล่างก็ไม่ได้สวมอะไรเลยนอกจากกางเกงในตัวเดียว แถมเมื่อกี้ ไอ้นาทียังฝังเขี้ยวลงที่คอของผมซึ่งไม่ต้องให้เดาว่ามันจะต้องแดงจนเห็นชัดมากแน่ๆ
            ‘เพี๊ยะ’
            ‘หมับ’
            ร่างเล็กเดินเข้ามาประชิดตัวผมอย่างรวดเร็ว ฝ่ามือของหญิงฟาดลงมาบนใบหน้าของผมอย่างแรงจนชาไปครึ่งแถบ ไอ้นาทีปราดเข้ามากระชากแขนเล็กนั่นไว้แล้วบีบลงไปจนร่างเล็กเบ้หน้า
            “อย่ามาห้ามหญิงนะนาที ป่านไม่มีสิทธิ์ทำตัวแบบนี้!!!!” ร่างเล็กว่าแล้วพยายามสะบัดออกจากการเกาะกุมของไอ้นาที ผมกุมใบหน้าของตัวเองเอาไว้
            “แบบไหน” เสียงเย็นๆของไอ้นาทีทำให้ผมรู้สึกขนลุกซู่ เหมือนกับวันนั้นเลย วันที่ผมไปที่โรงเรียนของไอ้นาทีแล้วเจอผู้หญิงชื่อมิลที่เกือบโดนไอ้นาทีกระทืบตาย…
            “ร่านไง!!!”
            ‘เพี๊ยะ’
            ไวกว่าความคิด ฝ่ามือหนาของนาทีฟาดลงที่ใบหน้าของน้องหญิงจนร่างเล็กร่วงไปกองที่พื้น ผมเบิกตากว้างอย่างตกใจก่อนจะเข้าไปพยุงน้องหญิงแต่กลับโดนฝ่ามือเรียวเล็กของเธอจิกผมจนต้องแหงนหน้า ดวงตากลมที่ผมเคยคิดว่าน่ารักกลับแปรเปลี่ยนไป
            "อย่าทำตัวเป็นคนดีหน่อยเลยป่าน หญิงไม่เชื่ออีกแล้ว!!!”
            “ปล่อยป่าน” ไอ้นาทีพูดเสียงเรียบ ร่างของมันตรงเข้ามาหาผมกับหญิง
            “นาทีรักมันใช่มั้ย!!!? มีอะไรกับมันมากี่ครั้งแล้วล่ะ!!! ทีกับเรา ทำไม ทำไมถึงโยนเราไปให้พระกาฬแบบนั้น!!!!” ร่างเล็กกร่นด่าไอ้นาทีอย่างขาดสติ มือเรียวไม่ยอมปล่อยผมของผม มิหนำซ้ำเธอกลับจิกลงมาแรงกว่าเดิมจนทำให้ผมเชิดหน้า
            “ฉันไม่ได้โยนเธอให้พระกาฬ แต่เธอ … ต้องการเองไม่ใช่หรือไง” ดวงตาสีเทาฉายแววโมโหอยู่ด้านใน ไหนจะทั้งน้ำเสียง ทั้งท่าทาง ผมมองจ้องดวงตาของนาทีอย่างร้องขอ
            อย่าทำอะไรหญิงเลย เธอก็แค่เด็กเอาแต่ใจ
            “ปล่อยป่านเดี๋ยวนี้ อย่าให้ฉันต้องฆ่าเธอทิ้งแล้วโยนศพเธอออกไปจากห้อง” นาทีพูดเสียงเครียด ผมเบิกตากว้างกับคำพูดนั้นก่อนจะพยายามดึงตัวเองออกจากร่างเล็ก
            “หญิง พอเถอะ…”
            “พออะไร?!!! ป่านทรยศหญิง ป่านโกหก ไหนป่านบอกว่าไม่ได้รักนาทีไง!!! หญิงบอกป่านแล้วใช่มั้ยว่าหญิงชอบนาที หญิงรักนาที ทำไมป่านไม่ฟัง ป่านหลบหน้าหญิง ย้ายมานอนกับนาทีแล้วนี่ยังเสนอตัวให้นาทีด้วยใช่มั้ย!!!! โอ้ยยย”
ไอ้นาทีเหมือนจะทนไม่ไหวกับน้องหญิง มือของมันกระชากร่างของหญิงออกจากตัวผมจนผมเป็นอิสระ ฝ่าเท้าของไอ้ทีกำลังจะย่ำลงบนตัวน้องหญิง ผมรีบปราดเข้าไปดึงมันออกมาอย่างแรง
            “ที … อย่า กูขอร้อง” เพราะผมรู้ว่าผลที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร ผมจึงต้องห้ามไอ้นาทีเอาไว้ ดูเหมือนมันจะไม่ฟังเพราะนาทีขืนตัวเองเต็มที่เพื่อที่จะเดินเข้าไปกระทืบร่างเล็ก
            “นาที!!!!”
            “ป่านเป็นของฉัน เธอไม่มีสิทธิ์ยุ่งกับเขาอีกนับตั้งแต่วินาทีนี้” เสียงทุ้มโหดพูดบอกคนตรงหน้า นาทีกระชับเอวผมเอาไว้ทั้งๆที่ผมพยายามขืนตัว ผมเบิกตากว้างมองน้องหญิงที่ดูจะตกใจไม่น้อย
            ร่างเล็กลุกขึ้นมายืนก่อนจะผลักไอ้นาทีอย่างแรง
            ดวงตาเรียวเล็กคลอไปด้วยหยาดน้ำตา ก่อนริมฝีปากสีสวยนั่นจะคลี่ยิ้มแสยะอย่างน่ากลัว
            “หญิง” ผมเอื้อมมือไปหวังจะช่วยเช็ดน้ำตานั่น แต่กลับถูกไอ้นาทีคว้าเอาไว้ซะก่อน
            “ได้…” น้องหญิงพึมพำในลำคอ ขาเล็กๆนั่นเดินถอยหลังไปที่ประตู
            “ในเมื่อนาทีเลือกแบบนี้ หญิงก็คงห้ามไม่ได้ …” มือเรียวเล็กจับลงที่บานประตู ผมอยากจะขอโทษเธอ อยากจะขอโทษจากหัวใจว่าผมไม่ได้ตั้งใจ แต่คงจะสายไปซะแล้ว
            ดวงตากลมโตละสายตาจากนาที ราวกับว่าไม่มีผู้ชายคนนั้นยืนอยู่ตรงนี้ น้องหญิงมองผมอย่างคาดโทษ ทั้งเสียใจ ผิดหวัง โมโหปะปนกันไปไม่เหลือเค้าโครงของผู้หญิงน่ารักคนเดิม
            “แต่จำไว้นะ ป่าน…ในเมื่อหญิงไม่ได้นาที ป่านก็จะไม่ได้อะไรเหมือนกัน!!!!”
            “!!!!”
            “ป่านเป็นของหญิงคนเดียว!!!! เป็นของหญิงคนเดียวเท่านั้น!!!”
            ‘ปัง!!!!’
            ประตูถูกกระแทกปิดลงพร้อมกับความเงียบที่ปกคลุมไปทั้งห้อง มือที่ประครองร่างผมไว้ปล่อยออกไปพร้อมกับขาที่ไร้เรี่ยวแรง ผมทรุดตัวนั่งลงที่พื้นพลางมองฝ่ามืออันสั่นเทาของตัวเอง
            คำพูดเหล่านั้นของน้องหญิง ย้ำซ้ำๆในหัวของผมจนแทบจะกลายเป็นประโยคที่ท่องจำได้ เธอเกลียดผมแล้วและก็คงไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิม
            “ทำไม…ทำไมต้องห้ามอีกแล้ว” ไอ้นาทีพูดขึ้นพร้อมกับฝ่าเท้าของมันที่เตะลงที่โต๊ะน้ำชาจนโต๊ะหงายพร้อมกับข้าวของที่กระจัดกระจายไปทั่วห้อง ผมก้มหน้ามองพื้น
            คงจะผิดหวังในตัวกูมากสินะ ที่เป็นแค่คนโง่ที่ยอมทำแต่เรื่องโง่ๆ
            “เธอทำถึงขนาดนี้ ทำไมต้องปกป้องด้วย!!!!!”
            “รักกันมากใช่มั้ย!!!! รักมากก็ไปอยู่ด้วยกันเลย อยากไปก็ไป รักมากนักก็ตายตามกันไปเลย!!!!!” เสียงทุ้มตะคอกดังลั่นห้อง คำพูดที่กรีดลึกไปถึงขั้วหัวใจทำให้ผมเริ่มเจ็บ ผมกลั้นสะอื้นไว้ในลำคอพยายามกลั้นน้ำตาให้ไหลกลับเข้าไปในส่วนลึกของดวงตา ส่วนที่เก็บความอ่อนแอเอาไว้
            ผมไม่ค่อยร้องไห้ แม้จะเจ็บเจียนตายก็ไม่ร้องไห้ ผมจะร้องไห้เฉพาะเวลาที่ผมเจ็บจากผู้หญิงที่ผมรัก
            “มึงไม่ได้ยินเหรอป่าน!!!!! รักมากก็ตายตามกันไปเลยสิวะ!!!!!” มือหนากระชากคอเสื้อผมจนตัวลอย ใบหน้าโมโหของไอ้นาทีทำให้ผมไม่ทนอีกต่อไป
            ครั้งนี้ ผมไม่ได้ร้องไห้เพราะหญิง แต่ผมร้องไห้ … เพราะคนตรงหน้าต่างหาก
            หยดน้ำตาหนึ่งหยดร่วงออกมาจากดวงตาของผม ก่อนจะกลายเป็นสอง สาม สี่ และนับไม่ถ้วน ร่างของผมถูกปล่อยร่วงลงที่พื้นพร้อมกับการร้องไห้แบบไร้เสียงสะอื้น ผมกอดตัวเองเอาไว้ ทรมาน เจ็บรวดร้าวไปหมดทั้งร่างกาย
            เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ของอีกคนที่อยู่ภายในห้องดังขึ้น ผมเห็นลางๆผ่านม่านน้ำตาว่านาทีนั่งลงตรงหน้าผม
            “มานี่มา” ก่อนมือของมันจะกระชากร่างของผมเข้าไปไว้ในอ้อมกอด แค่สัมผัสอบอุ่นนั่นแตะลงบนตัว กำแพงที่เคยสร้างมาทั้งหมดก็พังทลายลงมาทนแทบจะเรียกได้ว่ากลายเป็นผุยผง
            แม้จะยังไม่ได้สูญเสียเหมือนกับเจ้าของอ้อมกอดที่สูญเสียคนรักไปแบบไม่มีวันหวนคืน แต่ความรู้สึกที่ถูกตัดขาดจนสะบั้นก็ทำให้ผมพอจะรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นไม่มีเยื่อใยกับผมอีกต่อไปแล้ว แล้วมันจะไปสำคัญอะไรกับเยื่อใยที่ผมเคยมีให้กับเธอ นับประสาอะไรที่ผมจะเอาคำว่ารักไปฝากไว้กับคนที่ไม่เคยเหลียวแลมันเลยซักนิด
            ได้เวลา ตัดใจแล้วรับอะไรใหม่ๆซักทีป่าน
            หยุดโง่ซักที
            หยุดโง่ได้แล้ว…







TBC
หยุดโง่ได้แล้วนะป่าน เรารักนายนะ ฮรือ... :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep.17] 15/2/57
« ตอบ #69 เมื่อ: 15-02-2014 22:00:36 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep17 P.3] 15/2/57
«ตอบ #70 เมื่อ15-02-2014 22:33:59 »

นาทีอาจจะไม่คู่ควรกับป่านเท่าไหร่
แต่ป่านก็ช่วยกัดพันเป็นแฟนกับมันไปเหอะ
เพราะคนอ่านจะได้สมน้ำหน้าหญิง 555

ออฟไลน์ ๐๐ตะวัน๐๐

  • ๐๐๐ลูกตาล๐๐๐
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep17 P.3] 15/2/57
«ตอบ #71 เมื่อ16-02-2014 09:26:25 »

สับสนจริงๆกับสองคนนี้
 
หญิงก็ยังโรคจิตได้อีก

ออฟไลน์ Mancha KHIRI

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep17 P.3] 15/2/57
«ตอบ #72 เมื่อ16-02-2014 11:08:04 »

ฉลาดขึ้นซักทีนะป่าน ลุ้นจนไม่เป็นอันทำอะหยังแล้วนะจ๊ะ เมื่อไหร่เธอจะหายโง่  :hao5:

แต่หลังจากนี้ความโรคจิตของหญิง ต้องพุ่งทะลุเพดาน เกินระดับแอดวานซ์ไปแน่ๆ อันตรายๆๆๆๆ

ออฟไลน์ eye-lifestyle

  • พรุ่งนี้ไม่เคยมีจริง
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep17 P.3] 15/2/57
«ตอบ #73 เมื่อ16-02-2014 12:12:55 »

 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ minibusez

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep17 P.3] 15/2/57
«ตอบ #74 เมื่อ16-02-2014 17:42:05 »

หญิงมันร้ายยย  :z6: *ส่งลูกถีบนายนาทีไป*

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep17 P.3] 15/2/57
«ตอบ #75 เมื่อ16-02-2014 18:12:20 »

ไหงหญิงร้ายขนาดนี้ป่านเป็นเพื่อนนะรุนแรงจัง

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep17 P.3] 15/2/57
«ตอบ #76 เมื่อ16-02-2014 20:24:00 »

อ้าว สรุปป่านร้องไห้เพราะอะไรหน่ะ ????

หญิงนี่ น่าจะมีอาการทางจิตแห้ะ แล้ว ต่อไปจะเป็นไงเนี่ย

ต่อๆๆๆๆ

ออฟไลน์ candynosugar+

  • กลัวแล้ว
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-2
    • CDNSG+
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep18] 16/2/57
«ตอบ #77 เมื่อ16-02-2014 22:50:14 »

18

            “เป็นไรวะซึมๆ?” ไอ้ฟ้าถามขึ้นก่อนจะโบกมือไปมาตรงหน้าผม ผมมองชามก๋วยเตี๋ยว ยกตะเกียบเขี่ยลูกชิ้นปลาเด้งดึ๋งแล้วถอนหายใจมาสิบกว่ารอบได้แล้ว
            ตอนนี้ผมนั่งอยู่ในโรงอาหาร ตั้งใจว่าวันนี้ต้องกินข้าวเที่ยงให้ได้เพราะถ้าไม่กินโรคกระเพาะอาจจะถามหา แต่พอมีของกินมาตั้งตรงหน้าจริงๆกลับรู้สึกว่ากระเดือกไม่ค่อยจะลง
            ทำไมถึงได้มีลางสังหรณ์ว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นอยู่ตลอดเวลาวะเนี่ย?
            “เฮ้อ!”
            “เว้ยไอ้เชี๊ยะ!” ไอ้กี้แทบจะประเคนฝ่าเท้าใส่ผมเมื่อลูกชิ้นกระเด้งออกจากจานผมไปโดนมัน ผมหันไปขอโทษขอโพยมันก่อนจะหันมาเขี่ยลูกชิ้นในจานต่อ
            ‘ผลั่วะ’
            “เป็นไรของมึงเนี่ย!” ฝ่ามือเล็กๆตบลงบนศีรษะผมพร้อมกับเจ้าของฝ่ามือที่ยื่นหน้าเข้ามา ไอ้กี้เคี้ยวหมูปิ้งตุ้ยๆอยู่ในปากแล้วเลิกคิ้วสงสัย ผมถอนหายใจใส่หน้ามันไป ถ้าไม่ติดที่ว่าผมหลงใบหน้าน่ารักๆของมันล่ะก็นะ ผมคว่ำชามใส่หน้าแม่งแล้ว
            “สงสัยติดเชื้อหมาบ้า” ไอ้ฟ้าว่าแล้วกระดกน้ำแดงเข้าปาก ผมขยี้หัวอย่างเซ็งๆ
            เป็นห่วงไอ้นาทีจังว่ะ แม่ง
            “เฮ้ยๆ ได้ยินข่าวหรือยังวะ” เสียงโหวกเหวกโวยวายพร้อมกับนักเรียนจำนวนหนึ่งที่ทยอยออกจากโรงอาหารไปที่ประตูโรงเรียน บางส่วนก็วิ่งมากระจายข่าวสาร ผมเห็นไอ้ก้องห้องข้างๆวิ่งเข้าไปที่โต๊ะกลุ่มมันก่อนจะซุบซิบอะไรบางอย่างแล้วเพื่อนๆกลุ่มมันก็ค่อยๆทยอยออกไปทั้งๆที่ยังกินข้าวกันไม่เสร็จ
            “มีอะไรกันวะ?” ไอ้ฟ้าหันมาถามผม ผมส่ายหน้า ก็นั่งอยู่ด้วยกันกูจะไปตรัสรู้มั้ยวะเนี่ย แต่พอผมจะหันไปหาไอ้กี้ เจ้าตัวกับพาขาเล็กๆของตัวเองวิ่งโร่ไปหน้าประตูโรงเรียนแล้ว เรื่องนี้ล่ะไวเชียวนะ จะไม่ให้ไวได้ไง ก็ไอ้กี้เป็นประธานสภา เรื่องอะไรเกิดขึ้นมันก็สมควรจะรู้ก่อนคนแรก
            “เฮ้ยก้องๆ!! ไอ้ก้อง!” ฟ้ามันกวักมือเรียกไอ้ก้องที่กำลังจะวิ่งตามเพื่อนมันออกไป ไอ้ก้องวิ่งเข้ามาหาพวกผม
            “มีอะไรวะ ใครตาย?” ปากหมาๆแบบนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมไอ้ฟ้าถึงไม่มีเพื่อนคบ
            มีแค่ผมกับไอ้กี้ที่ทนคบมันได้
            “ไม่มีใครตายเว้ย แต่ประธานสภาฝั่งนู้นโดนตำรวจมาลากตัวว่ะ!”
            ว่าไงนะ…
            ผมไม่รอให้ไอ้ก้องได้พูดอะไรต่อ ขาสองข้างก็วิ่งก้าวออกจากโรงอาหารไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับเสียงของไอ้ฟ้าที่แว่วมาเบาๆ
            “เฮ้ยไอ้ป่าน!!!”
            ผมวิ่งไปที่หน้าประตูโรงเรียนที่เต็มไปด้วยผู้คนก่อนจะค่อยๆแทรกตัวออกไป พอหลุดจากฝูงชนของนักเรียนโรงเรียนตัวเองแล้วผมก็เห็นไอ้กี้ยืนนิ่งอยู่ด้านหน้า มันทำท่าเหมือนอยากจะข้ามไปฝั่งนู้น แต่เนื่องจากรถตำรวจจอดขวางไว้ที่หน้าประตูโรงเรียนของอีกฝั่ง
            มือของผมแตะลงเบาๆลงบนไหล่ของคนด้านข้าง ไอ้กี้หันมามองผมนิ่งๆ ผมหันกลับไปมองที่ประตูโรงเรียนของอีกฝั่ง ก่อนจะชะงักไปเมื่อร่างของคนที่คุ้นหน้าโดนคล้องกุญแจมือแล้วเดินตรงมาที่รถ
            “เกิดอะไรขึ้น ทำไมพระกาฬถึงถูกจับล่ะ?” เสียงซุบซิบนินทาดังไม่ขาดสาย ผมมองร่างของพระกาฬที่เดินเกือบจะถึงรถก่อนจะจับมือไอ้กี้เอาไว้แน่น ไอ้กี้บีบมือผมตอบกลับมา ดวงตากลมของมันนิ่งเรียบสนิทไม่แสดงความตื่นตระหนกใดๆ เหมาะสมกับที่เป็นไอ้กี้ใจแข็งจริงๆ
            พระกาฬเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผม ดวงตาเรียวนิ่งไป ผมจ้องดวงตาคู่นั้นนิ่งๆก่อนที่ร่างของมันจะถูกยัดเข้าไปในรถตำรวจ ผมพยายามสอดสายตาหาคนอื่นๆ ไอ้พีทกับไอ้ริคยืนอยู่ด้านหลังนั่น แล้วนาทีล่ะ?
            ผมไม่มีสิทธิ์ที่จะออกไปขัดตำรวจ เลยได้แต่ยืนนิ่งแล้วรอไปประกันตัวไอ้พระกาฬเท่านั้น ผมยังไม่แน่ใจว่าใครกันที่แจ้งตำรวจมาลากคอไอ้กาฬ แต่เท่าที่รู้ผมว่าไม่ใช่เพราะไอ้กาฬไปก่อเรื่องอะไรไว้แน่ๆ
            “ไปก่อเรื่องอะไรไว้อีกล่ะสิ หึ สมน้ำหน้า” ไอ้กี้บ่นเมื่อรถตำรวจค่อยๆเคลื่อนออกไป พลันสายตาของผมก็ไปสะดุดกับร่างของผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากพวกไอ้พีท
            น้องหญิง…
            “ออกไปไกลๆ!!!” จู่ๆเสียงตะคอกลั่นก็ดังขึ้น เด็กโรงเรียนผมที่กำลังจะทยอยกลับเข้าไปเรียนต่างก็ชะงักกึกแล้วหันกลับไปมองต่างโรงเรียนอีกครั้ง ภาพที่เห็นตรงหน้าเล่นเอาผมแทบช็อค!!!
            นั่นมัน … ไอริส
            ถึงแม้ว่าเจ้าของร่างสูงจะสวมแว่นตาดำและหมวกแก๊ปพรางใบหน้าเอาไว้ผมก็ยังจำได้แม่น คนอื่นอาจจะจำไม่ได้แต่ทั้งเสียงและท่าทางที่เคยพบเจอมาก่อนมันคุ้นซะจนทำให้ผมมั่นใจ มือหนาของไอริสกระชากแขนไอ้นาทีเอาไว้ ผมมองร่างของนาทีที่โดนลากไปเหมือนกับเด็กเล็กๆ ซึ่งนาทีก้มหน้าก้มตาเดินอย่างเดียวเลย
            ด้านหลังมีร่างของชายวัยกลางคนที่ผมจำได้ว่าเป็นผู้ช่วยของคุณพ่อของน้องหญิงที่เป็นอธิการบดีของโรงเรียนนั้นยืนก้มหัวขอโทษขอโพยไอริส ก่อนที่ร่างอีกร่างหนึ่งของผู้ชายร่างบางตัวสูงจะเดินตามออกมา แขนของเขาถูกดึงเอาไว้ด้วยผู้ช่วยผู้อำนวยการอีกคน
            “ปล่อย!!! ฉันจะถอนงบออกจากโรงเรียนนี้ให้หมด แล้วถ้าน้องชายฉันไม่ได้ผิดจริงๆล่ะก็ เตรียมปิดโรงเรียนได้เลย!!!” ร่างเพรียวนั่นตะโกนลั่นก่อนจะสะบัดแขนอย่างแรงแล้วเดินเข้าไปหาไอริส
            รถตู้สีดำคันเดิมจอดลง บังเหตุการณ์ทั้งหมดตรงหน้า ผมมองไม่เห็นอะไรนับจากนั้นนอกจากกระจกที่ดำมืด เสียงปิดประตูรถเสียงดังสนั่นแล้วก็รถตู้ที่ค่อยๆขับออกไป
            ราวกับว่าลางสังหรณ์ผมถูกต้องอย่างไงอย่างงั้น
            น้องหญิงแสยะยิ้มอย่างน่ากลัวแล้วเดินหายเข้าไปในกลุ่มคน ผมรีบวิ่งข้ามโรงเรียนไปหาไอ้พีทกับไอ้ริคทันที
            “เกิดอะไรขึ้น?!”
            ไอ้พีทมีสีหน้าแย่อย่างเห็นได้ชัด มันส่ายหน้านิดๆก่อนจะกระชับกระเป๋านักเรียนที่ถืออยู่ ยามเดินเข้ามาจับตัวเพื่อนของผมสองคนเอาไว้ ก่อนจะดันทั้งสองคนนั่นออกมาพร้อมกับผมแล้วประตูโรงเรียนก็ถูกปิดลง
            “เฮ้อ ว่าแล้วว่าต้องมีวันนี้” ไอ้ริคถอนหายใจเมื่ออยู่หน้าประตูโรงเรียน มันกอดคอไอ้พีทเพื่อนรักของมันแล้วยิ้มแหยงๆ
            ผมหันกลับไปหากี้ก่อนจะส่ายหน้าเป็นเชิงว่าผมไม่เข้าไปเรียนต่อแล้วนะวันนี้ ไอ้กี้พยักหน้ารับแล้วสั่งให้ยามฝั่งโรงเรียนผมปิดประตูโรงเรียนลงเหมือนกัน ผมมองสองคนตรงหน้านิ่งๆ
            “เกิดอะไรขึ้น?”
            “โดนไล่ออกซะแล้วว่ะ” ไอ้พีทว่าพลางยิ้มร่า แต่เป็นรอยยิ้มที่โกหกได้แย่ที่สุดในโลกเลย
            “แล้วไอ้นาทีล่ะ?”
            “ออกหมดเลย ทั้งกู ริค นาที แล้วก็ไอ้กาฬ” ไอ้ริคพูดเสริม ผมชะงักกับสิ่งที่ได้ยิน
            “ได้ไง?”
            “ไม่รู้เหมือนกัน แต่ตำรวจบอกว่าพวกเรามีส่วนร่วมในการซื้อและค้าประเวณี”
            “ว่าไงนะ?!” ผมหันไปเบิกตากว้างกับสิ่งที่ไอ้พีทพูด ไม่ต้องได้ยินคำอธิบายอะไรมากมายผมก็พอจะรู้ได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะใคร ใครล่ะ ที่มีพ่อที่มีอำนาจสามารถไล่เด็กนักเรียนที่ไม่มีความผิดโดยการโบ้ยความผิดให้ออกจากโรงเรียนได้ง่ายๆ มีอยู่คนเดียวเท่านั้นแหละ
            แต่ผมไม่เข้าใจเลย ทำไม…ทำไมหญิงต้องทำขนาดนี้ด้วย แรงไปหรือเปล่า?
ไม่นานนักรถบีเอ็มสีดำสนิทก็จอดลงด้านข้างผมและไอ้พีทกับไอ้ริค มือของไอ้ริคแตะไหล่ผม
            “เข้าไปคุยกันในรถเหอะ กูจะไปประกันตัวไอ้กาฬ”
            “อือ”
            ผมว่าก่อนจะยัดตัวเองขึ้นรถเพื่อที่จะตรงไปที่โรงพัก ก็อย่างที่ว่า โรงเรียนอีกฝั่งเป็นถึงโรงเรียนพวกลูกคนรวยที่ทำตัวจิ๊กโก๋แล้วก็โดนจับมายัดเอาไว้ ตรงข้ามกับโรงเรียนผมที่ต้องใช้สมองและฝีมือในการสอบเข้า พอเกิดเรื่อง พวกโรงเรียนฝั่งนู้นก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก ราวกับว่ามันเป็นเรื่องที่เกิดประจำ
            แต่ผมไม่เข้าใจเลย
            ทำไมไอริสต้องโมโหขนาดนั้น แล้วผู้ชายอีกคนที่มากับไอริสเป็นใคร?
            “ลุงทิศ ฝากบอกป๊าด้วยนะครับว่าพีทโดนไล่ออกจากโรงเรียนเส็งเคร็งนั่น บอกป๊าว่าเดี๋ยวพีทโทรกลับไป” ไอ้พีทว่าพลางลงจากรถเมื่อรถมาจอดนิ่งอยู่ที่หน้าโรงพัก ผมเดินตามลงมาก่อนจะตามด้วยไอ้ริคแล้วเราทั้งสามคนก็เข้าไปหยุดอยู่ด้านในโรงพักก่อนจะยื่นเรื่องขอประกันตัวพระกาฬ
            ด้วยเงินจำนวนไม่น้อย ก็สามารถประกันตัวได้เพราะพระกาฬยังถือว่าเป็นเยาวชน ไอ้กาฬเดินออกมาจากห้องขังก่อนจะกอดกับไอ้พีทและไอ้ริค บ่งบอกว่าพวกมันรักกันมากขนาดไหน
            พระกาฬมองหน้าผมนิ่งๆก่อนจะปราดเข้ามากระชากผมออกจากโรงพักอย่างแรง มือของมันบีบข้อมือผมจนเจ็บไปหมด ผมหันไปมองหน้าไอ้พีทกับไอ้ริคที่วิ่งตามมา มันสองคนเองก็เหมือนจะตกใจกับท่าทางของพระกาฬ พระกาฬเหวี่ยงผมเข้าไปในรถบีเอ็มของบ้านไอ้พีทก่อนจะบีบคอผมจนร่างผมกระแทกกับกระจกรถ
            “เฮ้ยไอ้กาฬ!!!”
            ไอ้ริคกระชากแขนไอ้กาฬเอาไว้พร้อมกับปิดประตูรถลง ไอ้พีทนั่งลงที่นั่งข้างคนขับก่อนรถจะค่อยๆเคลื่อนออกไป พวกมันคงกลัวว่าถ้าเกิดมีเรื่องตรงนี้ ดีไม่ดีคุณตำรวจอาจจะลากไอ้กาฬเข้าคุกไปอีกรอบ
            ผมชักเริ่มจะหายใจไม่ออก
            “ไอ้กาฬ!!! ปล่อยป่าน!!!! เว้ย!!!” ไอ้ริคแทบจะทึ้งหัวเพื่อนมันจนพระกาฬมันปล่อยมือจากลำคอของผม ผมโกยอากาศเข้าปอดแทบไม่ทัน
            “แฮ่กๆ”
            “มึงสมควรตาย!!! เพราะมึงทำให้เรื่องมันวุ่นวายไปกันหมด!!!!”
            “มึงไปโทษไอ้ป่านมันก็ไม่ถูก เพราะไอ้พีทนั่นแหละ!” กลายเป็นว่าไอ้ริคกลับไปโบ้ยเพื่อนมันเอง ไอ้พีทแทบจะปีนเบาะข้ามมาต่อยไอ้ริคถ้าไม่ติดที่ว่ามันคาดซีทเบลท์อยู่
            “อ้าว โยนขี้เลยไอ้ห่า! เพราะเฮียไอริสเหอะ ดันติดธุระไปญี่ปุ่นตอนที่ไอ้ป่านมันนัดบอดนี่หว่า!!!” ไอ้พีทเริ่มโบ้ยให้ไอริส ผมเลิกคิ้วสูงอย่างไม่เข้าใจ
            “งั้นแสดงว่าที่ไอริสไม่ได้เจอกูก่อนที่กูจะเจอนาทีก็เพราะไปญี่ปุ่นน่ะสิ?” ผมถามขึ้น ทั้งไอ้พีท ไอ้ริคแล้วก็ไอ้กาฬมองหน้ากันงงๆเหมือนกับไม่เข้าใจว่าผมรู้เรื่องได้ยังไง
            “มึงรู้ได้ไง?” นั่นไง ผมน่าจะเดาหวยถูกบ้างนะ
ที่พี่ชายของนาทีบอกว่าปกติแล้วคนที่จะผ่านเข้าไปนัดบอดกับนาทีได้จะต้องผ่านไอริส ไอริสเป็นคนดูเรื่องต่างๆเพื่อให้น้องชายปลอดภัย แต่ผมเป็นรายเดียวที่เขาพลาดไปเลยมาตามเก็บเอาทีหลังตอนที่ผมมีความสัมพันธ์บางอย่างกับนาทีไปแล้ว
            “ไอริสมาหากู แล้วก็คุยเรื่องนาทีเรียบร้อยแล้วด้วย” ทั้งรถเงียบไป ไอ้พีทมองหน้าผมอึ้งๆ
            “จริงดิ? แล้วมึงไม่ได้โดนขู่ใช่ป่ะ?” ผมส่ายหน้าตอบคำถามนั่น
            “เปล่า ไอริสแค่จะเขียนเช็คให้กูแต่กูไม่เอา กูเลยบอกว่าให้ไปคุยกับไอ้นาทีเลย แล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีอะไร แค่ไอริสสั่งให้นาทีมีกูเป็นคนสุดท้าย”
            “ว่าไงนะ!?”
            ไอ้พีทตบหน้าผากดังแปะ ส่วนไอ้ริคก็ช็อคค้างไปแล้ว พระกาฬมองหน้าผมอย่างตกใจ
            “มึง ไอริสพูดอย่างนั้นจริงๆเหรอ?” ไอ้กาฬถามขึ้น ผมพยักหน้า
            “อืม”
            “เหอะ กูบอกแล้วว่าป่านแม่งไม่ธรรมดา” ไอ้พีทว่าพลางยกยิ้ม
            “ว่าก็ว่าเหอะ สงสารไอ้ทีว่ะแม่ง เจอเข้าไปสองคน ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตล่ะวะ” ไอ้ริคเสริมอีกที ผมหันขวับไปมองหน้ามันผ่านร่างของไอ้พระกาฬไป
            “ทำไมวะ?”
            “อยากรู้ก็ไปดูเอาเอง คอนโดมันน่ะ ป่านนี้พี่น้องคงทะเลาะกันห้องแตก”
 
            *
 
            ผมมาหยุดยืนอยู่ที่คอนโดของนาที ไอ้พีท ไอ้ริคแล้วก็พระกาฬต้องกลับไปหาทางบ้านแล้วก็ทำเรื่องขอโทษขอโพยและอธิบายเรื่องโดนไล่ออก คงไม่มีใครอยากให้ลูกออกจากโรงเรียน พอๆกับพี่ชายของนาทีที่ป่านนี้ไม่รู้จะฆ่าน้องชายตายคาห้องไปหรือยัง
            ขาสองข้างพาผมมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องของนาที เสียงตะคอก ตะโกนโวยวายดังภายในห้องทำให้รู้ได้เลยว่า ‘ทะเลาะ’ กันหนักมากแน่ๆ แต่อย่างน้อยถ้ามีเรื่องอะไรที่ผมช่วยไอ้นาทีได้ผมก็อยากช่วยเพราะผมเป็นคนลากน้องหญิงเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้
            ผมไม่ควรจะเพิกเฉย
            ‘ก๊อกๆ’
            มือของผมเคาะลงที่ประตูห้อง พยายามทำใจไม่ให้กลัวสิ่งที่จะต้องพบเจอ ก่อนที่ประตูจะถูกเปิดออกโดยร่างบางคนหนึ่ง ใบหน้าเรียวสวยที่มีเค้าโครงของใครซักคนทำให้ผมชะงักไป
            “มาหาใคร?” น้ำเสียงเรียบออกจะติดห้วนๆถามขึ้น ใบหน้าเรียวบูดบึ้ง ผมมองผ่านเข้าไปในห้องก่อนจะสบตาเข้ากับนาทีที่ยืนอยู่ริมกำแพง นาทีวิ่งมาหาผมแต่ยังอยู่หลังผู้ชายร่างบางตรงหน้า คนที่เดินตามไอริสขึ้นรถเมื่อตอนที่อยู่หน้าโรงเรียน
            “ป่าน…” นาทีเรียกผม น้ำเสียงออกจะดีใจนิดๆที่เห็นผมยืนอยู่ตรงนี้ ผมยิ้มบางๆให้มัน เจ้าของร่างบางที่ยืนอยู่ตรงหน้ามองหน้าผมกับไอ้นาทีสลับกันเล็กน้อยก่อนจะตะคอกออกมา
            “ถ้าไม่มีธุระก็กลับไปซะ!!!!”
            “เดี๋ยวก่อน!!!” ผมดันประตูที่กำลังจะปิดลงเอาไว้ พยายามขย้อนคำพูดออกมาเพื่อไม่ให้คนตรงหน้าปิดประตูกระแทกหน้าอีกรอบ
            “ผมเป็นเพื่อนนาที…” แต่ก็พูดได้แค่นี้จริงๆ
            ร่างบางตรงหน้าชะงักไป นาทีมองผมนิ่งๆก่อนจะส่ายหน้า
            “ไม่ใช่…มันเป็นแฟนผม”
            “อะไรกันนักหนาวะ?!!!!” ไอริสตะคอกลั่นออกมาจากห้องพร้อมเดินตามมาสมทบ เมื่อร่างสูงนั่นเห็นผมก็ตกใจ ไอริสดึงแขนร่างบางที่จับประตูเอาไว้ให้เดินเข้าไปในห้องก่อนจะหันมาเรียกผม
            “เข้ามา”
            “ครับ”
            ผมเดินตามนาทีเข้ามาในห้องที่คาดหวังผิดไปหน่อย ครอบครัวนี้ดูมีสติกว่าที่ผมคิดเพราะข้าวของในห้องยังวางเรียบอยู่ที่เดิม พวกเขาไม่โยนข้าวของใส่กันเหมือนลูกบ้านอื่นๆเวลาทะเลาะกัน
            “มึง…โอเคมั้ย” ผมถามไอ้นาทีพลางจับมือมันไว้ ร่างโปร่งส่ายหน้าก่อนจะนั่งลงที่โซฟาแล้วดึงผมให้นั่งลงไปด้วย ตรงกันข้ามมีไอริสกับผู้ชายหน้าหวานนั่งอยู่
            “หมอนี่เป็นแฟนแกเหรอหมา?” ร่างบางถามขึ้น นาทีหันมามองหน้าผมผมรู้ทันทีว่ามันต้องการให้ตอบว่าอะไร ผมพยักหน้าเล็กน้อย
            “ครับ”
            ร่างบางตรงหน้ามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะเบะปากอย่างไร้มารยาท
            “จืดชืดชะมัด”
            “นารา อย่าเสียมารยาท” ไอริสดุคนข้างๆเล่นเอาร่างบางหน้าเบ้ด้วยความไม่พอใจ
            นารางั้นเหรอ ผมจำได้ว่าเคยได้ยินชื่อนี้ที่ไหน
            “นี่นารา พี่ชายคนรอง” นาทีว่า ผมสะอึกแล้วรีบยกมือไหว้คนตรงหน้าแทบไม่ทัน
            ก็ว่าอยู่ว่าทำไมหน้าตาคล้ายกัน … พี่ชายนี่เอง
            “ฉันไม่อยากเป็นพี่ชายหมาโง่ๆแบบแก” พี่นาราว่าพลางกอดอกแล้วไขว่ห้าง ร่างบางขมวดคิ้ววุ่น ท่าทางเกรี้ยวกราดเริ่มปรากฏมากขึ้นเรื่อยๆ นาทีบีบมือผมแต่สายตาเมินออกไปนอกระเบียง
            “มีอะไรหรือเปล่าป่าน?” ไอริสเลือกที่จะถามผม ผมส่ายหน้าเบาๆ
            “ผมแค่อยากมาดูว่านาทียังโอเค…” ผมว่าก่อนจะมองหน้าคนข้างๆ นาทีหันมาสบตากับผมแล้วนิ่งไป ส่งผลให้นาราตวาดแว้ดขึ้นมา
            “ใครจะโอเค?!! โดนไล่ออกมาจะให้ทำหน้าระรื่นหรือไง! ถ้าพระกาฬมันไม่รับผิดแทน มันก็คงติดคุกหัวโต ลงข่าวหน้าหนึ่ง ไอริสก็คงกลายเป็นมือกลองขาลงดิ่งลงเหว!!! ฉันคงต้องอับอายขายหน้าจนไม่กล้าโผล่ไปที่มหาวิทยาลัย”
            “นารา!!!” ไอริสตะคอกร่างบางกลับ พี่นารานิ่งไปแล้วมีท่าทีฮึดฮัด เหมือนพี่ชายคนรองคนนี้จะกลัวพี่ใหญ่ของบ้านนะ ผมก็รู้สึกกลัวเหมือนกันเวลาที่ไอริสตะคอกน่ะ ดูมีพลังเกินไป
            “รู้เรื่องแล้วก็ดี จะได้ไม่ต้องเล่าให้เสียเวลา ฉันกับนารามีนัดไปกินข้าวกับพวกพี่ๆที่ค่ายเพลง จะได้ฝากนายอบรมมันด้วย” ร่างสูงยืนขึ้นพร้อมกับกระชากแขนของน้องชายตัวเองขึ้น พี่นาราลุกขึ้นยืนแล้วสะบัดมือก่อนจะเดินเข้ามาหาผม
            ริมฝีปากสีสวยคลี่ยิ้มก่อนจะก้มตัวลงมากระซิบข้างหูผม
            “จะเป็นแฟนนาทีน่ะ ต้องร้อนแรงกว่านี้ รู้มั้ย?”
            ผมนิ่งไป ก่อนจะยิ้มมุมปากแล้วกระซิบตอบกลับ
            “เหมือนพี่น่ะเหรอครับ?” พี่นาราชะงักไป ก่อนจะใช้ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนจ้องมองผม ร่างบางยิ้มบางๆ มือเรียวแตะลงบนใบหน้าผมแผ่วเบาแล้วเดินตามไอริสที่กำลังจะเดินออกจากห้องไป
            “ฝากนาทีด้วยนะป่าน ฉันอนุญาตให้นายสั่งสอนมันได้ ไอ้น้องชายไม่รักดี!”
            ไอริสว่าก่อนจะปิดประตูไปทันที ยังไม่ทันไรมือของนาทีก็สวมกอดผมเอาไว้จากด้านหลัง ผมจับมือนั่นก่อนจะบิดจนร่างโปร่งร้องจ้าออกมา มือของนาทีตีเบาะโซฟาอย่างแรงเพื่อบ่งบอกว่าเจ็บจริงๆ แต่ใครใช้ให้ลามปามก่อนล่ะ
            “ไม่ได้ยินหรือไง พี่ชายมึงบอกให้กูสั่งสอนมึงได้”
            “โอ้ย เจ็บๆ” ผมปล่อยมือของนาทีออกก่อนจะหันกลับมานั่งขัดสมาธิแล้วมองใบหน้าคม
            “ตอกย้ำกันอยู่ได้” นาทีเบ้ปากแล้วอุ้มเจ้าหมาสีน้ำตาลที่ผมเก็บมาขึ้นมากอดเอาไว้
            “หญิงใช่มั้ย ใช่หญิงหรือเปล่าที่เป็นคนปล่อยเรื่องค้าประเวณีบ้าบออะไรนั่น” ผมถามขึ้น พยายามเค้นโดยการจ้องดวงตาสีเทาตรงหน้าที่นิ่งไป
            “ไม่อยากพูดถึง” นาทีว่าพลางดึงผมเข้าไปกอด ผมพยายามดิ้นออกจากอ้อมกอดแต่ไอ้นาทีมันกอดผมแน่นจนแทบจะรวมร่าง เดี๋ยวนี้อะไรๆก็กอด ไม่รู้ว่าคนตรงหน้าขาดความอบอุ่นอะไรมากมายขนาดนั้น
            “อย่าไปยุ่งกับผู้หญิงคนนั้นอีกนะ มึงเป็นแฟนกูแล้ว”
            หา…
            แล้วนี่ผมไปตกลงเป็นแฟนมัน ตอนไหนวะ!!?







TBC
จากนี้ไปจะพยายามเอามาลงให้ทุกวันแล้วนะคะ ถ้าวันไหนลืมมาลงล่ะก็ เชิญทวงได้ตามสบายเบย T_T\

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep18] 16/2/57
«ตอบ #78 เมื่อ16-02-2014 23:07:32 »

เรื่องใหญ่เลย


หญิงแรงจริงๆ

ออฟไลน์ minibusez

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep18] 16/2/57
«ตอบ #79 เมื่อ17-02-2014 00:26:29 »

นาทีขาดความอบอุ่นหราาา  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep18] 16/2/57
« ตอบ #79 เมื่อ: 17-02-2014 00:26:29 »





ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep18] 16/2/57
«ตอบ #80 เมื่อ17-02-2014 15:03:02 »

หมั่นไส้ชะนี -*-

ออฟไลน์ eye-lifestyle

  • พรุ่งนี้ไม่เคยมีจริง
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep18] 16/2/57
«ตอบ #81 เมื่อ17-02-2014 23:41:37 »

 :hao6: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ candynosugar+

  • กลัวแล้ว
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-2
    • CDNSG+
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep19] 16/2/57
«ตอบ #82 เมื่อ18-02-2014 18:48:54 »

19



 “ครับป๊า … ครับ สวัสดีครับ”
ร่างของนาทีเดินกลับเข้ามาในห้องอีกครั้งหลังจากคุยโทรศัพท์กับคุณพ่อเสร็จ ผมมองตามเจ้าของห้องที่ขมวดคิ้วจนเป็นโบว์แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไปเพราะกลัวจะโดนหาว่าไปยุ่งเรื่องของครอบครัว นาทีเดินมานั่งข้างๆผม
            “ป๊าบอกว่าจะเอาเรื่องกับทางโรงเรียนให้ถึงที่สุด”
            “!?”
            “ห้ามค้าน ค้านไปก็เปล่าประโยชน์” นาทีขัดผมไว้ก่อนที่ผมจะพูดออกไป ผมรูดซิบปากเก็บเงียบเหมือนเดิม ถึงน้องหญิงจะผิดจริงๆก็เถอะที่เป็นคนเอาเรื่องมั่วซั่วไปบอกพ่อเธอ แต่คุณพ่อของหญิงก็มีบุญคุณกับผมมาก
            คุณพ่อคงเสียใจถ้าโรงเรียนโดนปิด
            “แล้วนั่นจะไปไหน?” ผมถามเจ้าของห้องที่เดินไปหยิบเสื้อยีนส์สีซีดมาคลุมตัวเอาไว้ ขายาวๆกำลังจะก้าวออกเดินจากห้อง นาทีหันมาทำหน้าบึ้งใส่ผมแล้วเดินกลับเข้ามาลากผมให้ลุกขึ้นยืน
            “ไปหาป๊า”
            “กูต้องไปด้วยเหรอ?”
            “เออ”
 
            สนามประลองความเร็ว XFAC
            ผมมองป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ที่ติดอยู่ที่ข้างทางนอกตัวเมืองก่อนจะหันไปมองหน้าคนขับที่เหยียบคันเร่งรถจนขึ้นเลขร้อยสี่สิบ ผมกับนาทีออกจากคอนโดมาตั้งแต่ตอนหกโมงเย็น ตอนนี้ก็ฟ้ามืดแล้วแต่ก็ยังไม่ถึงที่หมาย ทั้งๆที่ผมถามไอ้นาทีว่าเรากำลังจะไปไหน มันกลับไม่ตอบ สายตาจดจ้องไปที่ถนนอย่างเดียว
            “นาที … ถ้ามึงไม่บอกว่ากำลังจะไปไหนกูจะกระโดดออกไปจากรถจริงๆนะ” ผมหันไปขู่คนด้านข้าง นาทียิ้มมุมปากเหมือนกับว่าออกก็ออกไม่ได้เพราะมันล็อคประตูเอาไว้ ล็อคประตูก็ล็อคไปสิ ผมออกทางหน้าต่างได้ก็แล้วกัน
            นาทีนิ่งไปอีกครั้ง ไม่ตอบอะไรซักคำเหมือนเดิมตั้งแต่ขึ้นรถ ผมกดกระจกลงอย่างรวดเร็วแล้วทำท่าจะยื่นตัวออกไปนอกรถที่วิ่งด้วยความเร็วสูง มือของมันก็กระชากร่างผมกลับมาก่อนจะกดล็อคกระจก
            “บ้า” คนข้างๆกร่นด่าผมก่อนรถจะค่อยๆชะลอลง ผมหันไปมองด้านหน้า ป้ายมหึมาที่เห็นอยู่ไกลๆเมื่อกี้ ตอนนี้ได้มาอยู่ต่อหน้าผมแล้ว ผมมองป้ายสนามประลองความเร็วที่มีชื่อว่า XFAC ก่อนที่รถของนาทีจะผ่านรั้วเก่าๆที่ไร้การซ่อมแซมเข้าไป
            สนามประลองความเร็วที่เห็นกันตามโทรทัศน์หรือการแข่งขันรถความเร็วสูงปรากฏอยู่ตรงหน้า มันอยู่ด้านล่างเนินเขาลงไป มีแสงไฟส่องสว่างและมีผู้คนกำลังฝึกซ้อมการแข่งรถอยู่ตรงนั้น รถของนาทีไม่ได้จอดลงที่หน้าสนาม แต่กลับทะลุผ่านทุ่งหญ้าไปด้านหลัง
            ไม่นานนักก็เผยให้เห็นอีกสนามหนึ่งที่มีเพียงแค่ไฟสีส้มๆจากสปอร์ตไลท์ส่องทาง เต้นท์สีขาวและตู้คอนเทนเนอร์ถูกนำมาจัดเรียงกันอย่างเป็นระเบียบราวกับว่าเป็นสนามแข่งอีกแห่ง ผู้คนมากมายยืนอยู่รอบๆและเดินผ่านกันไปมาราวกับเป็นสถานที่จัดปาร์ตี้ขนาดใหญ่
            “สนามวิบาก” ไอ้นาทีว่า ก่อนจะขับรถไปจอดที่ลานจอดรถที่มีแต่ดินแดงๆเต็มไปหมด น่าแปลก ที่รถด้านในบริเวณนี้เยอะมากกว่ารถที่จอดดูการซ้อมที่สนามจริงด้านนอกเสียอีก
            “ไปรอตรงนู้นนะ เดี๋ยวคุยกับป๊าเสร็จแล้วจะไปหา” นิ้วเรียวของนาทีชี้ไปที่อัฒจรรย์โล่งๆสีดำที่ตั้งอยู่ข้างสนาม มีเพียงไม่กี่คนที่นั่งจองพื้นที่บนนั้นเพราะส่วนมากจะลงมาเชียร์กันติดขอบสนามมากกว่า
            “อืม”
            ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะแยกกับนาที ร่างโปร่งตรงไปที่เต้นท์สีขาวซึ่งถ้าให้ผมเดาพ่อของนาทีคงอยู่ด้านในนั้น ผมถอนหายใจก่อนจะลากสังขารของตัวเองไปนั่งบนชั้นที่สองถัดจากด้านบนสุด
            พอขึ้นมายืนอยู่ด้านบนนี่แล้ว รู้เลยว่าสนามนี่มัน … อันตรายเป็นบ้า
            รอบบริเวณเป็นดินสีแดงหมด ซึ่งดินประเภทนี้จะส่งผลให้รถลื่นมากกว่าปกติ ไม่มีหินขรุขระหรือก้อนหินใหญ่ๆขวางทาง พื้นเรียบราวกับโดนเกลี่ยมาแล้วหลายรอบพอที่จะใช้รถราคาหลักล้านแข่งได้อย่างสบายยกเว้นก็แต่ยากที่จะทำความสะอาด เนินหลายขนาดถูกขยายให้กว้างเพื่อลดการกระแทกของรถราคาแพงพวกนั้น
            และที่น่ากลัวที่สุด … ทางที่หลุดพ้นจากสปอร์ตไลท์ไปนั่น มันมืดซะจนมองไม่เห็นทางเลย ราวกับว่าผู้แข่งต้องจำลายสนามเอาเองอย่างไงอย่างงั้น
             ถ้าแหกโค้งไปนี่ ไม่ต้องนับศพกันเลยล่ะมั้ง
            ผมนั่งลงนิ่งๆพลางมองไปทั่วสนามแข่งที่คล้ายกับจะเป็นสนามเถื่อน มันไกลจากถนนใหญ่มากโขเลยทำให้มองไม่เห็นอะไรถ้าอยู่บนถนนใหญ่ สนามนี่สามารถหลบพวกตำรวจได้ง่ายๆ หรือไม่ก็ … พวกเดียวกัน จ่ายเงินยัดไปมากหน่อยก็พอให้สนามนี้อยู่รอด
            “มาใหม่เหรอ?” ผู้ชายร่างสูงท่าทางเหมือนพวกฮิปปี้เดินมานั่งลงด้านหน้าผมถัดจากผมลงไปขั้นหนึ่ง ผมมองเขานิ่งๆ เขาไม่แม้แต่จะหันมามองหน้าผมด้วยซ้ำ แขนยาวๆนั่นพาดไว้ที่อัฒจรรย์ขั้นบนก่อนสายตาจะสอดส่องไปที่สนาม
            “เปล่า มาส่งเพื่อน” ผมว่า เขาพยักหน้ารับเล็กน้อย
            “แล้วเพื่อนล่ะ?”
            “อยู่ในเต้นท์”
            “อ่อ” คนตรงหน้าร้องอ๋อออกมาก่อนจะเปลี่ยนไปเป็นโฟกัสที่เต้นท์สีขาวแทน
            “พวกคนรวย” เขาว่าก่อนจะยันตัวเองลุกขึ้นยืนแล้วหันมาหาผม
            “นั่งอยู่บนนี้มันน่าเบื่อ ท่าทางเพื่อนนายจะคุยอีกนาน ไม่ลงไปหาอะไรทำเล่นพลางๆก่อนล่ะ?” ผมมองร่างหนาตรงหน้าด้วยสีหน้านิ่งเรียบพลางมองเลยไปที่เต้นท์สีขาว จะว่าไปไอ้นาทีมันก็ต้องคุยเรื่องสำคัญกับพ่อ คงไม่คุยกันคำสองคำแล้วเข้าใจหรอกมั้ง น่าจะใช้เวลาพอสมควร
            ก็ไม่เห็นจะน่าเบื่อตรงไหนถ้าได้ลงไปหาอะไรทำด้านล่างนั่น
            “นำไปเลย”
            ผมว่า คนตรงหน้ายิ้มออกมาก่อนจะหยิบแว่นตากันแดดสีดำขึ้นมาสวม หลายคนอาจจะหาว่าเขาบ้าเพราะนี่มันเวลากลางคืน แต่สำหรับผม อยากทำอะไรก็ทำเถอะ ชีวิตคนเราไม่ได้ยาวยืดเป็นพันปีหรอกนะ
            “ฉันชื่อ แวนดิล นายล่ะ” เมื่อลงมาจากอัฒจรรย์ เจ้าของร่างสูงก็ถามขึ้น ที่ผมเรียกเขาว่าร่างสูงก็คงจะเป็นเพราะความสูงที่เกินจริงของเขาล่ะมั้ง อย่างกับพวกนักบาส NBA อย่างไงอย่างงั้น
            “ป่าน”
            “ยินดีที่ได้รู้จัก” มือหนายื่นมาตรงหน้าผม ผมจับตอบแล้วเช็คแฮนด์ตามมารยาทก่อนจะเดินตามร่างตรงหน้าไป
            “ให้นำทัวร์มั้ย?” แวนดิลถามขึ้น ผมมองเขานิ่งๆ
            “อย่าทำให้มันน่าเบื่อก็แล้วกัน”
            ร่างตรงหน้ายิ้มออกมานิดๆ
            “ครับคุณหนู”
            คุณหนูพ่อง ผมก็สามัญชนคนธรรมดาเนี่ยแหละ ไอ้คุณหนูอยู่ในเต้นท์นู่น ไม่รู้ป่านนี้โดนพ่อตบคอหลุดจากบ่าไปแล้วหรือยัง
            ผมเดินตามแวนดิลมาเรื่อยๆจนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่จุดที่มีคนชุมมากที่สุด เสียงเพลงดังกระหึ่มไม่ต้องบอกว่าตรงนี้คือบริเวณไหน แค่เห็นสาวนุ่งน้อยห่มน้อยที่เต้นอยู่บนหลังคารถพร้อมกับเสื้อผ้าเปียกๆที่แนบไปกับบิกินี่สีสดนั่นก็พอรู้แล้วว่าทำไมคนถึงเยอะ
            โคโยตี้
            ไม่สิ ดูไฮโซเกินไป
            “วู้ววว!” เครื่องฉีดฟองทำหน้าที่ของมันได้ดี ผมที่อยู่ห่างจากบริเวณนั้นนิดหน่อยเผลอกระถดถอยหลังเพราะไม่อยากจะเปียก เพิ่งจะหายไข้มาหมาดๆ คงไม่ดีที่จะไปทำตัวให้ตายเร็วอีก
            “อ้าว ไม่เข้ามาเหรอ” แวนดิลกวักมือเรียกผมให้เข้าไปในกลุ่มคนที่ตอนนี้เปียกชุ่มด้วยฟองสบู่ ผมส่ายหน้า
            “เชิญคุณเถอะ”
            “มาเหอะน่า สนุกกัน” ก่อนที่เขาจะมาลากผมเข้าไปในฝูงชนโดยไม่ถามความสมัครใจของผมแม้แต่นิด เสียงเพลงดังๆพร้อมกับคนรอบข้างที่เต้นกัน แวนดิลทำหน้าที่ชักชวนให้ผมเต้น มือหนาเกาะเกี่ยวร่างกายผมอย่างไร้มารยาท ถ้าไม่ติดที่ว่าคนเบียดกันจนเป็นปลากระป๋อง ผมจะต่อยให้แม่งหน้าหัน
            “อย่าทำหน้าบูดสิคุณหนู สนุกให้เต็มที่ ของแบบนี้หาไม่ได้บ่อยๆนะ” ร่างสูงว่า เสื้อของเขาเปียกแฉะไปทั้งตัวแต่ตัวผมยังไม่แฉะขนาดเขา ผมที่ลู่ลงมาบนใบหน้านั่นเผยให้เห็นโครงหน้าที่เรียกได้ว่า
            ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
            ถือว่าเป็นผู้ชายที่หล่อชิบหาไม่เจอคนหนึ่งเหมือนกัน
            “ผมไม่ได้ชื่อคุณหนู ไม่ต้องเรียกอะไรขนาดนั้น” ผมว่าก่อนจะกระเถิบตัวหลีกกลุ่มวัยรุ่นที่เบียดกันเข้ามา ตอนนี้ผมกับแวนดิลแทบจะไหลไปอยู่ใกล้ๆกับสาวๆไฮโซเปียกน้ำพวกนั้นแล้ว
            “โอเคๆ งั้นป่านครับ เต้นหน่อยสิ คนอื่นมองกันหมดแล้วนะ” คนตรงหน้าว่า ผมหันไปมองรอบๆกาย
            ก็เหมือนพวกฝูงชนเวลาที่ทำอะไรแล้วใครคนหนึ่งไม่ทำมันก็จะเป็นจุดสนใจ
            เพลงแม่งก็ร็อคเกิน เสียงจะดังไปไหนวะ
            “หืม ว่าไงครับป่าน?” ร่างสูงถาม แวนดิลกระเถิบตัวมาชิดผม ผมผลักเขาออกเล็กน้อย
            “เต้นก็เต้น”
            ผมเริ่มโยกหัวและตัวไปตามจังหวะ ปกติก็ไม่ใช่คนเต้นเป็นอะไรขนาดนั้น แต่พอเห็นคนอื่นเต้นชีวิตแม่งก็เริ่มจะรู้สึกร็อคแปลกๆ แวนดิลก็ทำหน้าที่ชักจูงได้ดีเหลือ มันสอนผมเต้น จากน่าเบื่อ กลายเป็นสนุกขึ้นมาเมื่อหลายๆคนเริ่มโห่ร้องและเปิดฟลอร์เล็กๆ เสียงหัวเราะและเสียงกรี๊ดสนุกสนาน
            ผมลืมทุกอย่างไปหมด เพราะไม่ค่อยได้สนุกเต็มที่แบบนี้เลยซักครั้ง
            “ยกมือขึ้นแบบนี้ แล้วก็เอวน่ะ แข็งเป็นท่อนไม้เลย!” แวนดิลยกมือของผมให้ชูขึ้น ผมบอกแล้วไงว่าไอ้เวรนี่กลายเป็นครูสอนเต้นผมเฉยเลย ไอ้ผมก็บ้าจี้เชื่อ เต้นตามมันทุกสเต็ป
            “เอวน่ะเอว” มือหนาแตะลงบนเอวของผม ผมยกมือจะต่อยคนตรงหน้าแต่เขาคว้าหมัดผมไว้ได้ ใครใช้ให้มายุ่มย่ามกับร่างกายกูหา!
            “ไม่ต้องยุ่งน่า!”
            “กลัวหรือไงครับ?” คนตรงหน้าโพล่งขึ้น ผมแทบจะถ่มน้ำลายใส่
            “ใครบอกกลัว?”
            “งั้นก็บิดเอวหน่อย เต้นแบบนั้นเอวเคล็ดพอดี” แวนดิลว่า ผมเลิกใส่ใจเขาแล้วสนใจแต่เสียงเพลง เบียร์หลายกระป๋องถูกส่งต่อๆกันมาเรื่อยๆ หลายๆคนได้รับมันแล้วเปิดกระป๋องกระดกอย่างสะใจ
            รวมถึงผมคนหนึ่ง
            สนุกเป็นบ้า!
            “เต้นด้วยกันนะ” ร่างสูงตรงหน้าเดินเข้ามาก่อนจะใช้มือจับไหล่ของผมเอาไว้ ผมไม่รู้เรื่องว่ามือใครเป็นมือใครเพราะคนมันเยอะจนเบียดกันไปหมด
            “ให้ตายเหอะ ขาวเป็นบ้า” จนกระทั่งได้ยินเสียงซุบซิบของคนบางกลุ่มที่ดังขึ้น ก่อนจะพบว่าตัวเองออกมายืนตรงกลางฟลอร์แล้ว กลุ่มวัยรุ่นเปิดทางเป็นวงกลม สาวๆไฮโซพวกนั้นยังคงเต้นอยู่บนหลังคารถ น้ำจากสายยางถูกฉีดจนเปียกชุ่มไปทั้งตัว
            มีเพียงผมกับแวนดิลที่ยืนอยู่ตรงกลาง
            ให้ตายเหอะ! ผมออกมายืนตรงนี้ได้ไง!?
            ผมตั้งท่าจะเดินกลับเข้าไปในฝูงชนพร้อมกับกระป๋องเบียร์ที่ยังคาอยู่ที่มือ แต่ไม่ทันไรร่างทั้งร่างก็ถูกกระชากกลับไป ผมถูกโยนลงที่ฝากระโปรงรถสปอร์ตสีดำที่มีผู้หญิงเต้นอยู่บนหลังคารถ ก่อนร่างของแวนดิลจะตามเข้ามาทาบทับไว้อย่างรวดเร็ว!
            “เฮ้ย!!”
            “วิ้วววว!” เสียงผิวปากพร้อมกับเสียงโห่ร้องดังไปทั่วบริเวณ ผมใช้มือดันอกแกร่งของแวนดิลที่ผมกำลังจะใช้สรรพนามขึ้นว่า ‘ไอ้’ ให้กับคนแปลกหน้าคนนี้ แต่มือทั้งสองข้างกลับถูกรวบขึ้นไปเหนือหัวด้วยมือหนาเพียงข้างเดียวของคนตรงหน้า
            “มึงทำอะไรวะ!?”
            “โชว์ไง คนชอบโชว์รู้มั้ย!?”
            “ไอ้…!” ริมฝีปากที่น่ารังเกียจถูกกดลงบนริมฝีปากผมพร้อมกับลิ้นร้อนๆที่กวาดเข้ามาในโพรงปาก ผมเบิกตากว้างอย่างตกใจแล้วพยายามรวบรวมแรงทั้งหมดผลักไอ้เวรนี่ออกไป คนรอบๆโห่ร้องกันอย่างสนุกโดยที่ไม่สนใจเลยว่าผมกำลังถูกลวนลาม ก็เพราะว่าเพลงมันดังจนเกินไปทำให้ไม่ได้ยินเสียงขัดขืนของผมยังไงล่ะ!
ไม่ทันไรผมก็ผลักมันออกได้ มือยกฟาดไปเพื่อชกใบหน้าของไอ้สารเลวตรงหน้าแต่มันกลับคว้าเอาไว้แล้วพลิกตัวผมให้หันหลังให้มันก่อนจะผลักผมกระแทกลงไปที่ฝากระโปรงรถอีกครั้งอย่างแรง! ใบหน้าผมแทบจะฟาดกับเหล็กราคาแพงนั่น โชคดีที่ผมหันข้างทันไม่งั้นจมูกยุบไปแล้ว!
            “ไอ้เวร ปล่อยกูนะ!”
            “ไม่เห็นหรือไงป่าน ว่าคนชอบน่ะ” ร่างหนาตามเข้ามาทาบทับเอาไว้ สัมผัสที่ขนลุกประดังขึ้นมา ริมฝีปากและลิ้นร้อนลากลงที่ลำคอของผม ผมกัดริมฝีปากและพยายามดิ้นแต่มือหนาก็จับมือผมทาบลงไปที่ฝากระโปรงรถนั่น
            “ปล่อย! ปล่อยสิวะ!”
            “อย่าร้องสิคุณหนู” เสียงทุ้มกระซิบข้างหูผม ผมกำหมัดแน่น
            “บอกให้ปล่อย!”
            “ไอ้แวนดิล!”
เสียงทุ้มของใครซักคนดังขึ้นพร้อมกับร่างของไอ้แวนดิลที่ลอยออกไป ผมยันตัวเองขึ้นมายืนแล้วนั่งพิงฝากระโปรงรถมองเจ้าของร่างโปร่งภายใต้เสื้อยืดสีเทากับกางเกงยีนส์ที่เข้ามาใหม่ ด้านหลังนั่นคุ้นราวกับว่าเคยเห็นที่ไหนมา ผมหอบหายใจโกยเอาอากาศเข้าปอดก่อนจะชะงักไปเมื่อสบสายตากับใครอีกคนที่ยืนอยู่ด้านข้าง เสียงเพลงเงียบลงไปพร้อมกับสายยางฉีดน้ำที่ถูกปิดลง คนค่อยๆทยอยออกไปเมื่อเห็นว่ากำลังเกิดเรื่องขึ้น
            ดวงตาสีเทาที่ผมหลงใหลมองผมด้วยความผิดหวังปนเจ็บปวด นาทีเม้มริมฝีปากแน่นราวกับโมโหในสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนมันจะเดินหันหลังตรงไปที่สนามแข่งรถโดยไม่หันกลับมามองผมอีกเลย…
            ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะ … ผมกำลังจะโดนไอ้หมอนั่นข่มขืนด้วยซ้ำ… แล้วทำไม…
            “มึงทำอะไรลงไปรู้ตัวบ้างมั้ย!” เสียงทุ้มที่คุ้นเคยดังขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะของไอ้แวนดิลก่อนร่างสูงๆของมันจะร่วงไปกองที่พื้น เจ้าของหมัดที่ส่งร่างของแวนดิลลงไปจูบพื้นดินหันมามองหน้าผม ผมชะงักไปพร้อมกับขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ
            “พระกาฬ”
            พระกาฬเดินปราดเข้ามาหาผมก่อนจะบีบไหล่ผมแน่น
            “รู้ตัวมั้ยว่าตัวน่าสมเพชขนาดไหน! สภาพอย่างกับไปล่อใครมา!”
            ผมเบิกตากว้าง ไม่นึกเลยว่าคนตรงหน้าจะดูถูกคนได้เก่งขนาดนี้
            “ทำไมมึงพูดแบบนี้วะ! กูยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ! ทำไมมึงถึงดูถูกกูแบบนี้ หน้าตากูเหมือนคนที่ยอมแบให้ใครง่ายๆหรือไง!” ผมตะคอกร่างตรงหน้ากลับ พระกาฬชะงักไป ผมดิ้นสุดแรงให้หลุดจากมือที่จับไหล่ผมเอาไว้แต่พระกาฬก็ยังจับมันไว้แน่น ผมเลิกดิ้นแล้วมองหน้ามัน จ้องเข้าไปในดวงตาสีดำสนิทนั่น
            “กูไม่ได้ล่อใคร มันจะข่มขืนกู ทีนี้ปล่อยกูได้หรือยัง” ผมมองร่างตรงหน้าด้วยสายตาที่ไร้แววตาเป็นมิตรอีกต่อไป   
            พระกาฬมีสีหน้าสำนึกผิดลงอย่างเห็นได้ชัด ผมกัดริมฝีปากตัวเองจนรู้สึกได้ถึงกลิ่นคาวเลือด มือหนาค่อยๆคลายออกจากร่างผมนิดๆ ผมสะบัดตัวออกแล้วเดินไปด้านหน้า ก่อนเสียงล้อที่เสียดสีไปกับถนนจะดังขึ้นจนเรียกความสนใจจากผู้คนไปจนหมด ผมมองไปที่ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างสนาม เขาสวมชุดสีดำที่เขียนไว้ว่า
            ‘STAFF’
            เขาร้องตะโกนออกมาเสียงดัง แต่สิ่งที่ผมจับใจความได้มีเพียงประโยคเดียวเท่านั้น
            “คุณนาทีขับรถออกไปครับ ยางล้อยังหมุนไม่แน่นเลยครับ!”
            นาที...!
            ผมมองอะไรไม่เห็นนอกจากกลุ่มคนที่พยายามจะเบียดกันไปกรูที่ริมสนาม ผมวิ่งฝ่าฝูงคนไปที่อัฒจรรย์ก่อนจะปีนขึ้นไปยังชั้นบนสุด รถเคลื่อนออกไปจากบริเวณที่ไฟสปอร์ตไลท์ส่องแล้วส่งผลให้เห็นเพียงแค่ไฟหน้ารถที่เปิดอยู่กับทางด้านหน้าที่ไฟส่องไป รถที่นาทีขับไปพุ่งตรงไปด้านหน้าด้วยความเร็ว
            ใจผมแทบจะหลุดออกมาจากอกเมื่อรถของนาทีเริ่มจะส่าย เสียงร้องดังระงมไปทั่วสนามพร้อมกับร่างของชายวัยกลางคนที่วิ่งผลุนผลันออกมาจากเต้นท์สีขาว เดาจากการที่เขาให้คนขับรถตามนาทีไปแล้ว เขาคนนั้นคงเป็นพ่อของนาที พลันคำพูดของสต๊าฟคนนั้นก็แทรกขึ้นมาในโสตประสาท
            ยางล้อยังหมุนไม่แน่นเลยครับ
            นาที … ขอร้องล่ะ
            ขอร้อง
            อย่าเป็นอะไรนะ
            ‘เอี๊ยดดด!!!’
            รถของนาทีเบรกอย่างแรงจนไฟลุกที่ล้อด้านหลัง ผมเบิกตากว้างแล้วมองภาพนั้นไม่กระพริบตา ใจเต้นรัวราวกับว่าจะหลุดออกมาจากอก ความรู้สึกอีกอย่างก็เหมือนกับเข็มนับล้านแทงลงมาที่ร่างกาย เสียงดังระงมเกิดขึ้นเพราะตัวเหล็กรถไถลไปกับพื้น เดาไม่ออกเลยว่าคนข้างในจะเป็นอย่างไร ผมกำมือสองข้างเข้าหากันแน่น
            ขอร้องล่ะ อย่าเป็นอะไรนะ
            อย่านะ
            กู ...
            กู ...

            "กูรักมึงนะ ... ที"
            ‘เอี๊ยดด!!’ เสียงรถเบรกดังลั่นขึ้นอีกครั้งพร้อมกับรถที่หยุดลงกับที่ ผมหลับตาเมื่อภาพตรงหน้ามันน่ากลัวเกินจะทน แต่เมื่อเสียงเงียบลง ราวกับว่าใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผมเบิกตากว้างแล้วรีบวิ่งลงจากอัฒจรรย์ตามรถคันอื่นๆที่วิ่งตามไปก่อนหน้า
            “ป่าน!”
            พระกาฬพยายามจะจับตัวผมเอาไว้แต่ผมหลบทัน ผมวิ่ง วิ่ง แล้วก็วิ่งตรงไปที่รถของนาที น้ำตาพลันจะไหลออกมาให้ได้แต่ผมต้องเข้มแข็ง แม้รองเท้าจะหนักเพราะน้ำแต่ผมก็ต้องวิ่ง
            แต่โชคไม่เข้าข้างเลย
            ผมสะดุดล้มกับขาของตัวเองก่อนร่างจะกระแทกกับพื้นดินสีแดงนั่น เนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปหมด ผมพยุงตัวเองขึ้นมาก่อนจะวิ่งอีกครั้ง วิ่งไปตามที่หัวใจผมสั่ง วิ่งไปทั้งๆที่ร่างกายอ่อนล้าจะแย่
            อีกไม่ไกลแล้ว ไฟรถส่องอยู่ตรงหน้านั่น
            ผมวิ่งจนกระทั่งเห็นร่างของนาทีที่เปิดประตูรถคันที่ไฟลุกล้อหลังนั่นลงมา เลือดที่บริเวณหัวไหล่บ่งบอกว่ามันบาดเจ็บ พวกสต๊าฟใช้ที่ดับเพลิงฉีดดับไฟจนควันฟุ้งไปหมด ร่างของนาทีคุกเข่าลงที่พื้นตรงกลางที่มีไฟหน้ารถสามคันส่องอยู่ สต๊าฟจะเข้าไปปฐมพยาบาลมันแต่ผมที่วิ่งจนขาแทบจะหักกลับตะโกนขึ้น
            “นาที!”
            “ป่าน…”
            ใบหน้านิ่งเฉยนั่นเงยขึ้นมามองผมก่อนจะเบิกตากว้างอย่างตกใจ เสียงเรียกชื่อผมเปล่งออกมาเบาๆจากริมฝีปากสีซีดนั่น ทุกชีวิตที่กำลังวุ่นวายอยู่ชะงักไป ผมวิ่งผ่านรถสามคันเข้าไปก่อนจะพุ่งตรงเข้าสู่ร่างของนาที
            ‘ผลั่วะ!!!!’
            ผมชกหน้าไอ้นาทีอย่างแรงจนเดือดร้อนให้พวกสต๊าฟต้องมาดึงตัวผมออกแต่นาทีตะโกนห้ามเอาไว้ไม่ให้เข้ามายุ่ง ผมตะโกนด่าคนตรงหน้าด้วยความใจหายพลางวิ่งไปผลักร่างของมันให้นอนลงที่พื้นแล้วประเคนหมัดชกลงไปที่ใบหน้านั่นอีกครั้งและอีกครั้ง นาทีนิ่งเงียบไม่พูดอะไรปล่อยให้ผมชกอยู่แบบนั้น น้ำตาผมไหลออกมาจนหยุดไม่อยู่ ดีใจ ตกใจ ใจหายและโล่งใจปะปนกันไป
            “ไอ้บ้า ไอ้บ้า! ไอ้เวรเอ้ย!” ผมตีไอ้นาทีแรงจนมันร้องออกมาก่อนจะกดจูบลงบนริมฝีปากสีซีดนั่น นาทีเบิกตากว้างอย่างไม่เข้าใจ มือของมันจับเอวของผมเอาไว้ก่อนมืออีกข้างจะกดท้ายทอยของผมแล้วจูบตอบกลับมา ผมถอนริมฝีปากออกอย่างเชื่องช้า ก่อนจะปล่อยให้หยดน้ำตาหยดลงบนใบหน้าของนาทีที่นอนอยู่ใต้ร่างของผม
            “อย่าทำแบบนี้อีกนะ อย่าทำแบบนี้อีก!”
            ผมกลัวเหลือเกิน กลัวที่จะเสียคนตรงหน้านี้ไป
            “อย่าทำแบบนี้อีกนะ กูขอร้อง”
            "กูเป็นห่วงรู้มั้ยไอ้บ้าเอ้ย!"







TBC

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep19] 18/2/57
«ตอบ #83 เมื่อ18-02-2014 19:02:22 »

สนามนี่เถื่อนจริงๆ
นาทีก็นะ พาป่านมาปล่อยไว้ไง

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep19] 18/2/57
«ตอบ #84 เมื่อ18-02-2014 20:31:29 »

รักกันฮาร์ดคอร์มาก

ออฟไลน์ ๐๐ตะวัน๐๐

  • ๐๐๐ลูกตาล๐๐๐
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep19] 18/2/57
«ตอบ #85 เมื่อ19-02-2014 09:08:37 »

ดุเดือดกันจริงๆ คู่นี้

รักกันจริงๆแล้วใช่ไหมเนี่ย

ออฟไลน์ candynosugar+

  • กลัวแล้ว
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-2
    • CDNSG+
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep20] 19/2/57
«ตอบ #86 เมื่อ19-02-2014 16:27:35 »

20
           


            ผมกับนาทีเข้ามานั่งอยู่ในเต้นท์สีขาวหลังจากที่ถูกนำตัวขึ้นรถกลับมา นาทีถอดเสื้อของมันแล้วคลุมร่างกายที่เปียกแฉะของผมเอาไว้ ผมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้นาทีฟังในรถว่าผมไม่ได้ตั้งใจจะทำเรื่องแบบนั้นกับผู้ชายที่ชื่อแวนดิล ไอ้เวรนั่นพยายามจะลวนลามผม นาทีเลยมีท่าทีอ่อนลง
พยาบาลชายกำลังทำแผลที่ไหล่ของนาทีอยู่ ภายในเต้นท์เงียบกริบแม้จะมีผู้คนอยู่เกือบสิบคน เกินกว่าครึ่งของคนด้านในนั้นเป็นชายชุดดำที่เรียกว่า บอดี้การ์ด
            ด้านหน้าของผมคือชายวัยกลางคนที่สวมชุดสูทสีเทา ดูท่าทางภูมิฐาน หน้าตาของนาทีเรียกได้เลยว่าถอดแบบออกมาจากคุณพ่อชัดๆ แม้จะอายุมากแล้ว แต่สง่าราศีไม่ได้ลดลงไปเลย
            “ขอเหตุผลดีๆซักข้อที่ทำให้แกโง่ถึงขนาดเอาตัวเองไปตาย” คุณพ่อของนาทีเกริ่นขึ้นมาเสียงเรียบ ขนแขนผมลุกซู่ไปหมด ให้ความรู้เหมือนกับว่ามีไอริสสามคนในคนๆเดียว
            น่าเกรงขามชะมัด!
            นาทีเงียบไป ไม่ตอบคำถามของคุณพ่อ คุณพ่อจึงเปลี่ยนเป้าหมายมาหาผมแทน
            “แล้วเราล่ะ เป็นเพื่อนเจ้าทีเหรอ?”
            “ไม่ใช่ นี่แฟนผม” เป็นไอ้นาทีที่พูดขัดขึ้นมาก่อน คุณพ่อขมวดคิ้วและมีท่าทีตกใจแต่ก็ไม่ได้โวยวายอะไร ดวงตาสีเทาอ่อนที่เหมือนกับลูกชายปราดมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่สงสัยเลยว่าพี่นาราได้มาจากใคร
            “รักหรือว่าควงเล่น” คุณพ่อถามขึ้น ผมสะอึกไป
            ตรงเป็นบ้าเลยผู้ชายคนนี้
            นาทีหันมามองหน้าผม ก่อนจะหันไปตอบคำถามคุณพ่อของมันอย่างมั่นใจ
            “รัก”
            คุณพ่อนิ่งไปแล้วกวักมือเรียกบอดี้การ์ดคนหนึ่งเข้าไปหา เขากระซิบอะไรบางอย่างที่ทำให้ท่าทางของนาทีเปลี่ยนไป จากที่ผมกับมันนั่งห่างกันในระยะหนึ่ง นาทีกระเถิบตัวเข้ามาชิดผมแล้วโอบเอวผมเอาไว้อย่างหวงแหน
            บอดี้การ์ดชุดดำเดินออกไปนอกเต้นท์ เสียงหัวใจผมเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้นกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อใครบางคนถูกพาตัวเข้ามาในเต้นท์ คนที่ผมไม่อยากจะเจอหน้า
            นาทีมองร่างของเพื่อนมันนิ่งๆ พระกาฬเดินเข้าไปหาคุณพ่อก่อนที่คุณพ่อจะซุบซิบอะไรบางอย่าง
            ผมชักมีลางสังหรณ์ทะแม่งๆ แต่ยังไม่ทันไรลางสังหรณ์นั่นก็กลายเป็นความจริง พระกาฬเดินเข้ามาใกล้ผมก่อนจะกระชากร่างผมออกจากนาทีแล้วกอดผมไว้จากด้านหลัง แรงมหาศาลนั่นทำให้ผมดิ้นไม่หลุด เสียงโวยวายจากนาทีดังขึ้นแต่พ่อของนาทีก็ประกาศกร้าวเสียงดัง จนลูกชายของเขาต้องนั่งลงกับที่
            “ถ้าไม่อยากให้แฟนแกเจ็บตัว บอกมาทั้งหมดว่าที่เกิดขึ้นนี่มันเรื่องอะไร!?”
            นาทีขมวดคิ้ว ริมฝีปากเม้มเข้าหากัน ดวงตาสีเทาหันมามองผมนิ่งๆ ท่าทีลุกลนนั่นทำให้พ่อของนาทีเริ่มสังเกตความผิดปกติของลูกชาย
            “เป็นอะไรของแกอีก?”
            “โว้ย! ไอ้กาฬปล่อยป่านเดี๋ยวนี้เลย!” ไอ้นาทีลุกพรวดขึ้นมาก่อนจะตรงเข้ามาหาผมและพระกาฬ บอดี้การ์ดปราดเข้ามารั้งร่างไอ้นาทีเอาไว้ไม่ให้เข้ามาหาผม ร่างโปร่งนั่นพยายามผลักคนรอบกายออกไปเพื่อที่จะมาเอาตัวผมกลับไป
            “กูขอโทษ ไอ้ที…” พระกาฬว่า ผมไม่รู้ว่าตอนนี้มันทำหน้ายังไงแต่ก็พอจะรู้ได้จากคำพูดของพ่อของนาทีนั่นแหละ
            “แกเงียบแล้วนั่งลงนิ่งๆซะ! ฉันเป็นคนบอกให้กาฬจับแฟนแกเอาไว้เอง!”
            “แทนที่พ่อจะเลิกสั่งผมแล้วหันไปสั่งบอดี้การ์ดของพ่อให้เลิกจ้องแฟนผมด้วยสายตาลวนลามแบบนั้นซักที ผมไม่ชอบ!” นาทีตะคอกลั่น คุณพ่อชะงักไปเล็กน้อย พอๆกับบอดี้การ์ดที่สะดุ้งกันระนาว คุณพ่อของนาทีหันไปทำสายตาโหดๆใส่เหล่าบอดี้การ์ด ก่อนจะไล่พวกเขาออกไป
            หลงเหลือแต่พวกผมสามคนและผู้ใหญ่ผู้น่าเกรงขามหนึ่งคน
            “ทีนี้จะนั่งลงแล้วเล่าให้ฟังได้หรือยัง?” คุณพ่อพยายามใช้น้ำเสียงนิ่งๆเข้าข่มไฟที่กำลังประทุของลูกชาย ผมพยักหน้าบอกให้นาทีมันนั่งลง
            “ผมโดนไล่ออกเพราะถูกใส่ร้าย ไม่ได้ค้าประเวณี ผมแค่นัดบอดเพื่อหาคนที่ถูกใจ แล้วอาเฮียก็เป็นคนช่วยหาให้ ถ้าเขาอยากนอนกับผมผมก็แค่สนอง แค่นั้นแหละ” นาทีว่า แต่คุณพ่อยังคงไม่ละสายตาไปไหน
            “แค่นั้น…?”
            “ใช่ แค่นั้น ปล่อยแฟนผมได้ยัง?” นาทีพูดจาห้วนๆใส่พ่อ ผมได้ยินแล้วยังรู้สึกแปลกๆ
            “แกเลิกทำเหมือนฉันเป็นพี่ชายของแกซักทีไอ้ที ฉันเป็นพ่อแกนะ!”
            “ก็ผมเล่าแล้ว ปล่อยแฟนผมซักที!”
            “แล้วผู้หญิงที่ชื่อหญิงมาเกี่ยวข้องอะไรกับแก!?” เสียงตะคอกลั่นของคุณพ่อทำให้ภายในเต้นท์เงียบสนิท นาทีเบิกตากว้างพลางหันมามองหน้าผมที่ช็อคไปพอๆกัน
            คุณพ่อ … รู้ได้ยังไง
            “พ่อไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน”
            คุณพ่อของนาทีถอนหายใจพลางหันหน้ามามองผม เลยไปด้านหลังที่มีร่างของอีกคนล็อคแขนของผมเอาไว้ แค่นั้นผมก็รู้ได้ทันทีว่าใครกันที่ปากสว่าง
            “ไอ้กาฬ…” นาทีกัดฟันกรอดแล้วมองเพื่อนของมัน ไอ้กาฬบอกงั้นเหรอ ... ไอ้เวรเอ้ย
            “พ่อบังคับให้พระกาฬมันพูดเอง แกอย่าไปโทษอะไรเพื่อน บอกพ่อมาว่าผู้หญิงคนนั้นเกี่ยวข้องอะไรกับเรา พ่อของเธอถึงได้จ้องเล่นงานแกกับเพื่อนขนาดนี้”
            ดูเหมือนคุณพ่อจะรู้เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นจริงๆ ผมกัดริมฝีปากจนเจ็บแสบไปหมดพยายามวอนขอคนตรงหน้าผ่านทางสายตาว่าให้โกหกเรื่องน้องหญิงไป แต่เหมือนจะไม่พ้นสายตาของคุณพ่อไปได้
            “กาฬ …” คุณพ่อเรียกคนด้านหลังของผม ก่อนจะหันไปมองหน้านาทีที่มีท่าทีร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด
            “ครับพ่อ”
            “ถ้าฉันจะขอให้แกจูบแฟนไอ้ทีต่อหน้ามันจะได้ไหม?”
            ว่าไงนะ!
            “พ่อ!” นาทีท้วงทันทีที่คุณพ่อพูดออกมาแบบนั้น ผมชะงักไปแต่ก็พูดอะไรไม่ได้
            คุณพ่อของนาทีดูเป็นคนที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อง้างปากของลูกชายตัวเอง
            และผมก็เป็นแค่คนนอก ไม่แปลกเลยที่เขาจะใช้ผมเป็นเหยื่อล่อ
            “ถ้าแกไม่ยอมบอก ฉันจะให้เพื่อนแกเล่นหนังสดกับแฟนแกตรงนี้ จะได้รู้ซึ้งไง” คุณพ่อว่าเสียงเรียบ ผมช็อคค้างไปแล้ว ทำไมคุณพ่อถึง … โหดร้ายแบบนี้วะ!
            “พ่อทำแบบนี้ไม่ได้นะ!” นาทีแหกปากลั่นพยายามจะเข้ามาหาผม คุณพ่อพูดขัดไว้ก่อน
            “ถ้าแกขยับตัว ฉันไม่รับประกันนะว่าแฟนแกจะปลอดภัยหรือเปล่า จัดการเดี๋ยวนี้พระกาฬ” คุณพ่อสั่งขึ้น พระกาฬพลิกร่างผมกลับไปหาก่อนดวงตาสีดำสนิทนั่นจะจ้องมองใบหน้าผม ผมรู้ว่าพระกาฬยอมทำตามคำสั่งของคุณพ่อของนาทีแน่ๆเพราะดูแล้วคุณพ่อของนาทีน่าจะช่วยเหลือมันเอาไว้มากโขเลยขัดคำสั่งไม่ได้ ผมพยายามผลักร่างของมันออกแต่เพราะมือหนาที่แบบแน่นจนแทบจะฝังไปกับร่างทำให้ต้องสะบัดหลีกหนีเพียงอย่างเดียว
            “ไอ้กาฬ! อย่ายุ่งกับป่าน!”
            “บอกความจริงไปสิวะไอ้ที!” เป็นพระกาฬที่ตะโกนออกมาดังลั่นจนนาทีนิ่งเงียบไป ผมหันไปสบตากับนาทีเป็นรอบที่เท่าไรแล้วไม่รู้ ผมยอมโดนจูบดีกว่าทำให้พ่อของหญิงเดือดร้อนเพราะรู้ว่าพ่อของนาทีจะต้องไม่ยอมแค่ปิดโรงเรียนแน่ๆ เพราะข่าวฉาวนี่อาจจะทำให้เสื่อมเสียวงศ์ตระกูลของเขา
            อย่าบอกนะที กูยอมโดนจูบ
            ผมส่งสายตาขอร้องให้นาที มันมองตาผมกลับก่อนจะเบือนหนี
            “กูขอโทษนะป่าน”
            ริมฝีปากของพระกาฬทาบทับลงมาบนริมฝีปากของผมอย่างจาบจ้วง ผมพยายามผลักร่างของพระกาฬออกแต่ไม่เป็นผลได้แต่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดนั่น ริมฝีปากของพระกาฬบดเบียดจูบร้อนแรงให้กับผมจนตัวแทบจะอ่อนยวบ แต่ก็ต้องพยายามดิ้นให้หลุด สมองพยายามคิดหาทางหนีในขณะที่มือก็ยังทุบตีแผงอกของพระกาฬอย่างแรง ผมยอมสารภาพว่าหมดภูมิต้านทานกับเพศเดียวกันไปตั้งแต่ตอนที่ยอมรับว่าผมชอบผู้ชายจริงๆ
            และก็ไม่ใช่ว่าผมจะมีอารมณ์เฉพาะตอนที่จูบกับนาทีเพียงคนเดียว ผมเป็นมนุษย์นะ
            “พอได้แล้ว” เสียงนิ่งๆของนาทีดังขึ้นก่อนร่างของพระกาฬจะถูกกระชากออกจากผม ผมหอบหายใจถี่พลางโกยอากาศลูกใหญ่เข้าปอด นาทีดึงร่างของผมเข้าไปกอดเอาไว้ก่อนจะใช้นิ้วของมันเช็ดริมฝีปากอันบวมเจ่อของผม
            “ผู้หญิงคนนั้นเป็นเพื่อนกับป่าน เธอต้องการจะแก้แค้นที่ผมไม่ยอมรับรักเธอ เธอโกรธที่ผมคบกับป่านก็เลยไปบอกพ่อเธอว่าผมกับเพื่อนค้าประเวณีแล้วก็ไล่ออกจากโรงเรียน”
            ผมชะงักไปกับสิ่งที่นาทีพูดออกมาก่อนจะจิกไหล่ของนาทีเอาไว้
            พูดไปแล้ว
            “ดี … งั้นพรุ่งนี้รอฟังข่าวโรงเรียนยุบและข้อหาแจ้งความเท็จสำหรับครอบครัวของไอ้อธิการบดีไร้สมองนั่นเลย!”
            “!!!”
            “อย่านะครับ!” ผมตะโกนแทรกขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินประโยคนั้น นาทีหันขวับมามองผมพอๆกับคุณพ่อที่นิ่งเงียบไปแล้วจ้องผมเขม็ง
            ผมค่อยๆคุกเข่าลงท่ามกลางความตกใจของทั้งสามชีวิตก่อนจะเงยหน้ามองคุณพ่ออย่างร้องขอ
            “พ่อของหญิงก็เหมือนกับพ่อของผม พ่อเขารักโรงเรียนนั้นมาก คุณพ่อเขาไม่รู้เรื่องด้วยก็แค่ทำตามสิ่งที่ลูกสาวเขาบอก ดังนั้นอย่ายุบโรงเรียนเลยนะครับผมขอร้อง” มือสองข้างยกขึ้นมาไหว้จนแทบจะเรียกได้ว่ากราบเท้าคนตรงหน้า
            เสียงที่เงียบไปทำให้ผมต้องเงยหน้าจากพื้นขึ้นมามองใบหน้าของคุณพ่ออีกครั้ง ใบหน้าที่มีท่าทีสงสัย แต่ไม่นานก็แปรเปลี่ยนเป็นริมฝีปากที่บึ้งลงเหมือนเสี้ยวพระจันทร์
            “แกจะบอกว่าให้พ่อเอาผิดกับเด็กผู้หญิงคนเดียวว่างั้น?” คุณพ่อถามขึ้น ผมอ้าปากค้างพะงาบๆ
            “เปล่านะครับ ผมไม่ดะ…”
            “แกเห็นพ่อเป็นคนยังไง พ่อไม่ใช่คนที่จะทำร้ายผู้หญิงตัวเล็กๆหรอกนะ ที่เราต้องทำคือสั่งสอนคนเป็นพ่อเป็นแม่ให้ดูแลลูกตัวเองซะบ้าง ไม่ใช่เที่ยวมาใส่ร้ายป้ายสีลูกคนอื่นแบบนี้!” ประโยคแรกๆเสียงก็เบาอยู่หรอก แต่ประโยคหลังๆบ่งบอกได้เลยว่าพ่อของนาทีโมโหขนาดไหนที่ลูกชายโดนใส่ความ
            ผมเงียบไปเพราะไม่มีอะไรจะเถียง คุณพ่อพูดถูกหมดทุกอย่าง เพราะพ่อน้องหญิงเอาใจน้องหญิงมากเกินไป น้องหญิงอยากได้อะไรก็ให้หมด เธอถึงได้ทำตัวแบบนี้
            “แกบอกว่าพ่อของผู้หญิงคนนั้นเหมือนพ่อแกใช่มั้ย? แล้วพ่อแกไปไหนซะล่ะ” ผมชะงักไปเมื่อเจอคำถามที่ไม่สามารถจะหาคำตอบได้ พลางหันไปมองหน้านาที
            ผมไม่เคยบอกเรื่องครอบครัวผมกับใคร มีเพียงครอบครัวของน้องหญิงเท่านั้นที่รู้และดูแลผมมาจนถึงทุกวันนี้ นับตั้งแต่จำความได้ สิ่งที่ยังหลงเหลืออยู่ในความทรงจำ
            มีเพียงบ้านหลังใหญ่หลังเดียวที่ถูกทิ้งเอาไว้พร้อมกับ … ตัวผมเอง
            “เสียมารยาทว่ะป๊า” นาทีบ่นพ่อตัวเองแล้วพยุงผมให้ลุกขึ้นยืน ผมไม่ได้ตอบอะไรออกไป
            “เอ้า อะไรวะแกนี่ ฉันจะไปรู้หรือไงเล่า?”
            “เงียบไปเลยตาลุง”
            “ไม่หรอก ไม่เป็นไร” ผมว่าแล้วยิ้มแหยๆ “ผมไม่มีหรอก พ่อแท้ๆน่ะ” ก่อนจะหัวเราะให้กับตัวเอง อาจจะโดนตอกหน้ากลับมาว่า แล้วผมเกิดมาจากไหน
            ผมก็อยากรู้คำตอบนั้นเหมือนกัน
            ทุกชีวิตในเต้นท์เงียบไปอีกครั้ง นาทีบีบไหล่ผมเหมือนจะปลอบแต่คุณพ่อก็พูดแทรกขึ้นมา
            “แล้วพวกค่ากินค่าอยู่แกเอามาจากไหนล่ะ? ไอ้อธิการบดีโรงเรียนพ่อของผู้หญิงคนนั้นน่ะเหรอ” ผมพยักหน้าตอบคำถามของคุณพ่อหงึกๆ
            “แต่มันทำกับแฟนแกขนาดนี้ แกไม่แค้นใจบ้างเลยหรือไง”
            คำถามนี้โคตรลองใจผมเลย ผมหันไปมองหน้านาทีที่เหมือนจะอึ้งไปกับคำถามของคุณพ่อก่อนจะต่อยไหล่คนข้างๆเบาๆเมื่อมันยักคิ้วหลิ่วตาใส่ ตอนแรกก็อยากจะบอกอยู่หรอกว่าโมโหเหมือนกัน แต่เห็นแบบนี้แล้ว…
            “โดนซะบ้างก็ดี”
            “ฮ่าๆๆ” คุณพ่อหัวเราะลั่นแล้วยกนิ้วโป้งให้ผม ก่อนจะเดินเข้ามาตบไหล่ผมเบาๆอย่างเป็นกันเอง “ไอ้เจ้านี่มันตอบได้โดนใจจริงๆ!”
            ผมหัวเราะแหะๆกลับไปให้คุณพ่อ เมื่อคุณพ่อเห็นแบบนั้นเลยหุบยิ้ม
            “มันก็ดีที่เด็กมันรู้จักกตัญญูรู้คุณ เอาเป็นว่าแค่เปลี่ยนอธิการบดีโรงเรียนโอเคไหม?” คุณพ่อถามขึ้น ผมรีบพยักหน้าตอบด้วยความรวดเร็วเพราะพ่อของน้องหญิงมีงานอื่นมากมายที่รอให้เขาไปทำ เขาแทบจะไม่ต้องเข้าไปดูโรงเรียนเลยด้วยซ้ำ แค่โรงเรียนไม่โดนปิดแค่นั้นก็พอแล้ว
            “ครับ!” ผมยิ้มแป้นดีใจกับผลตอบแทนที่เกินคาด ก่อนจะโดนนาทีลากไปกอดเอาไว้
            “งี้ก็หมดธุระแล้วนะ ผมจะได้กลับคอนโดไปลงโทษแฟนซักที ข้อหาไปเต้นยั่วจนจะโดนไอ้คนเถื่อนมันจะจับปล้ำอยู่เมื่อกี้” ไอ้นาทีว่าพลางกอดเอวผมจากด้านหลังแล้วเอาคางท้าวไว้ที่ไหล่ของผม เสียงนิ่งๆของมันแต่กลับทำให้ผมแทบจะหันหลังไปต่อยมันถ้าไม่ติดที่ว่าคุณพ่อของมันยืนยิ้มอยู่ด้านหน้า
            “เอ้อ เห็นแกมีเป็นตัวเป็นตนก็ค่อยโล่งใจหน่อย ใช่มั้ยพระกาฬ?” คุณพ่อหันไปถามคนที่หลุดออกจากวงสนทนาไปนานโข เสียงทุ้มๆตอบกลับมาเบาๆ
            “ครับ”
            “เออ ดีๆ แล้วนี่มีเรื่องขึ้นมาแบบนี้ทางฝ่ายพ่อทางนู้นเขารู้หรือเปล่าว่าเราเป็นแฟนศัตรูของลูกเขาน่ะ” คุณพ่อถามขึ้นมาอีกครั้ง ผมนิ่งไป
            “น่าจะรู้แล้วล่ะ” ก่อนจะเป็นไอ้นาทีที่ตอบแทน
            “ถ้ารู้แล้ว ฝ่ายนั้นคงไม่ส่งเงินมาให้แล้วล่ะ…” ไอ้นาทีว่าต่อ ผมก้มหน้ามองเท้า
จริงสินะ จะว่าไปช่วงหลังๆก็ไม่ได้คุยกับคุณพ่อของน้องหญิงเลย เงินในบัญชีก็ไม่มีโอนเข้ามาเลยด้วย แล้วอย่างนี้จะไปเอาที่ไหนมาจ่ายค่ากินค่าเทอมค่ายาล่ะวะเนี่ย… 
            “เมื่อกี้แกว่าไงนะไอ้เจ้าลูกชาย เจ้านี่เป็นเมียแกใช่มั้ย?”
            ผมแทบสำลักน้ำลายเมื่อเจอคำสรรพนามว่าเมียเข้าไปก่อนจะส่ายหัวส่ายมือโบกมือว่าไม่ใช่!
            เฮ้ เรียกแบบนี้ผมเสียศักดิ์ศรีนะเว้ยยย!
            “แค่แฟนครับพ่อ แค่แฟน” ผมปฏิเสธแทบจะทันที ไอ้นาทียิ้มกรุ้มกริ่มเมื่อผมร้อนรนกับคำเรียกนั่น มันหันไปยักคิ้วหลิ่วตาให้คุณพ่อ
            “เหมือนกันนั่นแหละ!” พ่อสรุปเอาเองซะงั้น…
            อยากจะเถียงจริงๆว่ามันไม่เหมือนเลยโว้ยยย!
            คุณพ่อก็เหลือเกิ๊น ตอนแรกก็เห็นว่าน่าเกรงขามอยู่หรอก ไปๆมาๆชักจะเหมือนตาแก่ขี้เล่นเข้าไปทุกทีแล้ว ไม่สงสัยเลยว่าลูกชายได้มาจากใคร ไอ้อารมณ์ที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ทุกวินาทีเนี่ย!
            คุณพ่อมองหน้าผมอีกครั้งก่อนจะตบไหล่ผมเบาๆ ริมฝีปากที่ยกยิ้มนั่นทำให้รู้สึกขนลุกแปลกๆ
            “มันไม่ส่งเงินให้แกก็ไม่ต้องไปแคร์ เป็นสะใภ้บ้าน ธาราทรัพย์ ไม่มีอดตายหรอกเว้ย!”
 
            *
           
            เป็นสะใภ้บ้านธาราทรัพย์ไม่มีอดตายหรอกเว้ย…
            ไม่อดตาย
            ธาราทรัพย์
            สะใภ้…
            ก็ ‘แย่’ แล้ว
            “กูไม่ยอมเป็นสะใภ้บ้านไหนหรอกนะไอ้เวร” กรรมจริงๆ เวรกรรม ทำไมคุณพ่อถึงได้พูดออกมาหน้าตาเฉยแบบนี้นะ ผมบ่นอุบอิบพลางปลดกระดุมเสื้อแล้วเหวี่ยงมันลงตะกร้าหลังจากเข้ามาในคอนโดได้ไม่นาน ก่อนจะสะดุ้งไปเมื่อมือหนาๆของนาทีสวมกอดที่เอวของผมเอาไว้จากด้านหลัง
            ผมมองผ่านกระจกที่ติดอยู่ที่ผนัง ริมฝีปากของนาทีกำลังคลี่ยิ้ม ดวงตาทั้งสองข้างปิดสนิทลง
            “ไม่ใช่เวลามายิ้ม ไอ้ลูกหมา” มือของผมฟาดลงบนหัวของคนด้านหลัง ไอ้นาทีแก้แค้นโดยการกัดไหล่ของผมคืน ผมถีบมันออกแล้วปราดเข้าไปจะชกแต่มือของมันก็คว้าหมัดของผมเอาไว้ได้
            ใบหน้าของนาทีเคลื่อนเข้ามาใกล้เรื่อยๆจนจมูกแตะจมูกผม ผมกระถดถอยหลังก่อนจะเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองกำลังจนมุม หลังของผมสัมผัสลงบนผ้าม่านสีดำที่ติดกับกระจก
            “นาที…” เมื่อผมเห็นนาทีมันเงียบไปผมเลยเรียกชื่อคนตรงหน้าเบาๆ
            “เรียกกูว่าทีก็พอ”
            บรรยากาศที่เงียบไปทำให้ผมพูดอะไรไม่ถูก บวกกับความอ่อนล้าของร่างกายหลังจากซัดเบียร์ไปสองกระป๋องและชุ่มน้ำจนแทบจะแห้ง มือของนาทีเกลี่ยปอยผมของผมขึ้นไปทัดหู ริมฝีปากสีซีดคลี่ยิ้มกว้างอีกครั้ง
            “มึงน่ารักมากรู้มั้ย ตอนที่วิ่งมาหากู ถ้าเข้ามากอดกูจะดีใจมากกว่า แต่นี่เล่นเข้ามาชกกูซะเต็มรัก” ผมชะงักไป ก่อนจะเบี่ยงหน้าหลบจมูกโด่งๆที่พยายามจะคลอเคลีย
            ถ้าให้พูดจริงๆตอนนั้น ผมรู้สึกเหมือนกับว่าจะเสียไอ้นาทีไปจริงๆ
            ใครจะบ้าไปมีอารมณ์กอดวะ ตอนนั้นผมอยากจะกระทืบมันให้ตายซะด้วย ผมโมโหมาก โมโหที่แม่งชอบทำอะไรไม่คิด โมโหที่ชีวิตมีชีวิตเดียวแต่ทำอย่างกับมีเก้าชีวิต ทำอย่างกับว่าตัวเองเป็นแมวดำที่ตายไม่เป็น แมวน่ะ มันไม่ใช่ตายไม่ได้หรอกนะ มันแค่หลบหลีกเก่ง เขาถึงได้เรียกว่าเก้าชีวิต
            “มึงโง่มากที่จะเอาตัวเองไปตาย”
            “แล้วรู้หรือเปล่าว่าทำไมกูถึงทำแบบนั้น…” ผมสะอึกไปก่อนจะจ้องดวงตาของคนตรงหน้า
            “มึงไม่เข้าใจหรอก ความรู้สึกของตอนที่เห็นคนที่มึงรักกำลังคลอเคลียกับผู้ชายคนอื่น”
            เหมือนโดนตบหน้า ผมนิ่งชาไปทั้งร่างกาย ใบหน้าที่ร้อนผะผ่าวทำให้บรรยายอาการของตัวเองไม่ได้ แต่รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองโดนดูดเข้าไปในหลุมดำ ไม่ใช่เพราะนึกภาพตอนที่ตัวเองกำลังโดนข่มขืน แต่กลับเป็นตอนที่ได้ยินว่า…
            “คนที่รัก…?”
            “เออดิ ไม่รักจะหึงหรือไงวะ!? ชอบถามอะไรโง่ๆ!” ไอ้นาทีตะคอกเสียงดังลั่นจนผมสะดุ้ง ผมมองมันด้วยสายตาอาฆาตก่อนจะผลักมันออกแล้วถีบท้องคนตรงหน้าจนร่างของมันลงไปนอนกลิ้งที่พื้น ผมตามเข้าไปคร่อมร่างของไอ้นาทีเอาไว้แล้วเม้มริมฝีปากแน่น
            “มึงอย่ามาพูดพล่อยๆนะไอ้เวร!”
            “ไอ้ป่าน ตกลงมึงเป็นเมียหรือเป็นผัวกูเนี่ย ซ้อมได้ซ้อมดี!” นาทีร้องลั่นแล้วตบหัวผม
            “กูไม่ยอมเป็นเมียใครหรอกเว้ย! แล้วใครใช้ให้มึงเล่นหัวกูหา!“
            “กูเนี่ยแหละ!”
            ‘เพี๊ยะ’
            “ไอ้ป่าน!”
            ‘เพี๊ยะ!’ ผมตบหน้าคนตรงหน้าด้วยหน้ามือ ตามด้วยหลังมืออีกรอบ
            “มึงโกหกแน่ๆ มึงไม่ได้รักกูหรอก”
            ผมจะลุกออกจากร่างของนาทีแต่ถูกมือของมันดึงเอาไว้ให้นั่งลงที่เดิม
            “ทำไมคิดงั้น?”
            “มึงก็พูดคำว่ารักกับทุกคนที่มึงนอนด้วยนี่…”
            นาทียิ้มกริ่ม
            “หึงหรือไง”
            ‘ผั่วะ!’
            ผมฟาดมือแรงๆลงไปบนหัวมันอีกครั้ง ไอ้นาทีทำหน้าเบ้
            “อย่าให้กูชกมึงกลับนะ”
            “ปากมึงนี่ท่าจะรูรั่วเยอะนะ”
            “สนใจมาปิดให้มั้ยล่ะ” คนตรงหน้าว่าแล้วกระชากคอผม บดเบียดริมฝีปากอย่างแรงจนแทบจะขาดอากาศหายใจ ก่อนจะปลดปล่อยมันเป็นอิสระเมื่อผมประท้วงเพราะหายใจไม่ทันโดยการทุบที่อก
            “กูจะช้ำในตายแล้ว”
            “อย่ามาพูดคำว่ารักพล่อยๆกับกู” ผมพูดเสียงเครียด ไม่มีท่าทีเล่นอีกต่อไป
            นาทีนิ่งเงียบไปแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่
            “กูไม่เคยพาใครไปเจอพ่อ” ผมชะงักไปกับคำพูดของคนตรงหน้า ก่อนจะค่อยๆลุกออกจากร่างของนาทีแล้วมองหน้ามันนิ่งๆ ไม่รู้ทำไมใจมันถึงได้เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ
            “คนที่เจอพ่อกู นั่นหมายความว่ากูยอมรับคนๆนั้น”
            “แองจี้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้เจอพ่อ และมึง ก็เป็นคนที่สอง ตอนก่อนออกจากห้องที่กูไม่ได้เรียกมึงเพราะว่ากูกำลังตัดสินใจว่านี่คือสิ่งที่ใช่หรือเปล่า แต่หลังจากที่เห็นสภาพ…” มือของนาทีแตะลงบนแก้มของผมแล้วลูบเบาๆ คราบดินสีแดงที่เปรอะเปื้อนไปทั่วตัวผมยังคงสภาพอยู่แบบนั้น
            “หลังจากที่เห็นสภาพสะบักสะบอมของไอ้ลูกหมาที่วิ่งร้องไห้เข้ามาเพราะว่ากลัวกูจะตายคาสนามแข่งรถ ใบหน้าที่เป็น
กังวลจนไม่ห่วงว่าตัวเองมีแผลไปทั่วตัว … กูถึงรู้ว่ากูตัดสินใจไม่ผิดจริงๆ”
            “…”
            “กูรักมึงป่าน แต่กูไม่สัญญาว่าจะรักมึงได้ตลอด … มึงก็รู้ว่าชีวิตคนเรามันไม่แน่นอน”
            “…”
            “แต่กูสัญญาว่ากูจะรักมึงให้นานที่สุด นี่คือสัญญาของลูกผู้ชายอย่างกู








TBC
 :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Mancha KHIRI

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep20] 19/2/57
«ตอบ #87 เมื่อ19-02-2014 16:43:35 »

สัญญาลูกปู้จายนี่มันซึ้งดีจีๆ :mew6:


ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep20] 19/2/57
«ตอบ #88 เมื่อ19-02-2014 17:19:29 »

 :o8: :o8: :o8:

ออฟไลน์ mapreaw

  • เคยคิดว่า "รักแท้มีอยู่จริง"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 615
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep20] 19/2/57
«ตอบ #89 เมื่อ19-02-2014 20:56:40 »

 :-[ :-[ :-[

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด