回 " จ้ า ว ธ า ร า " 回 » » » » » » » » [ Sample ! ตอนพิเศษ! P.101 ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 回 " จ้ า ว ธ า ร า " 回 » » » » » » » » [ Sample ! ตอนพิเศษ! P.101 ]  (อ่าน 906488 ครั้ง)

ออฟไลน์ four4

  • รักนี้ชั่วนิรันด์
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
อ่านแล้วรักอ้ายแสนตา ขึ้นมาอีก 10 เท่า  :mew1:

ออฟไลน์ PAiPEiPEi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-3
จ้าวแสนตา โคตรแมน เท่ส์มากค่าาาาา    พี่วันก็คิดถึง >w<


ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
อะไรๆกำลังจะดีขึ้น ดันเกิดเรื่องเข้ามาอีกสงสารจ้าวแสนตา ดีเกินไปแล้ว แม้ว่าจะโกธรฝั่งนู้น แต่ก้ยังรักลูกน้องของตน กลัวตอนจบภาคนี้จังแม้ว่าจะทำใจไว้แล้วก้เถอะ   พี่วัน เบนคิดถึงง

ออฟไลน์ yumijung

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 :hao5:อ่านปฐมบทแล้วทำให้โกรธพันวังไม่ลง
บีบคั้นอารมณ์มากๆอ่ะ ...แต่ไม่อยากให้แค้นฝังหุ่นยันรุ่นลูกเลยค่ะ

ออฟไลน์ AeRoMoZa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
หน่วงหนักเลยทีนี้ เฮ้อ สงสัยอ้ายพี่แสนตาจะไม่รอดก็คราวนี้
สงสารทั้งอ้ายพี่แสนตา และอ้ายน้องพันวังอ่า งื้อ

รออ่านต่อค่า

ออฟไลน์ brow

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
พี่โอขาาาา อยากแจ้งนิดนุง
ปฐมบทที่4อ่ะค่ะคือพี่โอได้บอกว่าจรเข้เล้นเพื่อนบลาๆๆๆ
แต่จริงๆแล้วภาษาโบราณเป็นอย่างนี้ค่ะ

ออฟไลน์ brow

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ข้างบนมะขึ้น  เอาใหม่ๆ
ช-ช=สวาท
ญ-ญ=เล่นเะื่อน
ช-ญ=เป็นชิ้นกัน
เพิ่มเติมปฐมบทที่๕
สมัยก่อน คำว่า หื่น แปลว่าหน้าตาสดใสเจ้าค่าาา
##ไม่ได้มีเจตนาลบหลู่พี่โอแต่อย่างใดนะคร้าาาา

ออฟไลน์ ozaka

  • ตัว "โอ" เป็นอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1818/-38
    • ozaka's blog








ป ฐ ม บ ท ¬• จ้ า ว ธ า ร า

-๑๐-










   ขบวนลำเรือเตรียมอพยพถูกจัดเตรียมขึ้นอย่างเร่งด่วนอีกครั้งหนึ่งตอนเช้ามืด  เหล่าจระเข้แทบทุกตัวเก็บข้าวของด้วยใบหน้าเศร้าหมองและอิดโรยนัก  มีเพียงกลุ่มหนึ่งที่อาสาจะอยู่ยั้งเฝ้าเรือนนี้  หากโชคดีสถานการณ์สงบลงจึงจะตามเผ่าพันธุ์กลับมาดังเดิม

   …และพันวังเองก็เป็นหนึ่งในนั้น
   แม้ว่าจะมีปากเสียงกับจ้าวแสนตาไม่น้อยเลยก็ตาม

   “เจ้าไปเสีย!”
   “ข้าไม่ไป!”
   “เด็กดื้อ!”สุรเสียงแหบทุ้มร้องลั่น  ตรงไปเก็บข้าวของอีกคนยัดใส่ถุงย่ามแบบรวกๆ “รีบไปเสีย  ก่อนจะไม่มีโอกาส”
   “ข้าไม่ไปไหนทั้งนั้น”
   “พันวัง”
   “ข้าจะอยู่ที่นี่  หากต้องตาย…จักตายกับอ้ายพี่”
   ชายหนุ่มยกมือลูบหน้า “ข้าสั่งให้เจ้าไปเสีย”
   “ข้าไม่ไป!”
   “เจ้ามิเชื่อฟังข้ารึ!?”

   “หากข้ามิเชื่อฟังแล้วท่านจะทำเช่นไรรึ?  จะเฆี่ยมตีหรือประหารข้าเล่า?” ดวงหน้าน่ารักเชิดขึ้นอย่างรู้หน้าที่  ก่อนจะเอ่ยคำต่อ “ถ้าเช่นนั้นก็มาเลย…ข้ามิกลัวดอก”


   คำท้าทายเช่นนั้นหากไม่ได้เอ่ยออกมาจากคนตัวเล็กก็ไม่รู้เลยว่าจะเป็นเช่นไร  หากเป็นบ่าวคงอื่นคงไม่ยากที่จะจับเฆี่ยนตีดั่งคำนั้นว่า  อีกฝ่ายยกมือลูบหน้าอีกครั้งด้วยปลงในสถานการณ์  เขาลุกขึ้นปล่อยให้ถุงย่ามสีเข้มตกลงกองที่พื้น  แล้วเดินกลับเข้ามาหาเจ้าตัวดีที่ถอยหลังกรูด  ตรงไปกอดเสาเตียงไม่ยอมปล่อย



   “ท่าน…ต่อให้ท่านใช้กำลังข้าก็ไม่ไปไหน”
   มือเล็กกอดเสาเตียงแน่น  ใช้ดวงตากลมโตจ้องมองตรงมา

   “เอาดาบเอาหอกมาแทงข้าเสีย  แล้วลากศพข้าขึ้นเรือก็แล้วกัน”


   คนฟังยกมือก่ายหน้าผาก “เจ้าไปเอาคำเปรียบเปรยเช่นนั้นมาจากไหนกันน่ะ…”
   “ข้าแค่จะบอกว่าข้าไม่ไป”
   “เจ้าก็เห็น…อยู่ที่นี่อันตรายนัก” ร่างสูงใหญ่เอ่ยเสียงเบา  ทิ้งตัวนั่งลงที่ข้างตัวก่อนเอื้อมมือไปรั้งเอวบางมานั่งที่ตัก “หากวันนั้นเจ้าดื้อกว่านี้  รั้นจะอยู่ข้างกายข้ายามรบมิยอมไปหลบซ่อนตัว  ข้าก็มิรู้จะปกป้องเจ้าได้รึไม่”

   มือกร้านเกลี่ยแตะที่ข้างแก้มแผ่วเบาคล้ายกำลังสัมผัสประติมากรรมแก้วละเอียด  เด็กหนุ่มเอียงหน้ารับเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสนั้น…ก่อนริมฝีปากหยักจะกดทบแนบลงมา  แล้วเกลี่ยรสจูบหอมหวานจนร่างกายร้อนผ่าวอีกครา

   “…ข้าจะอยู่กับอ้ายพี่” เสียงหวานกล่าวออดอ้อน “ได้โปรด  ข้าจะไม่ไปไหนทั้งนั้น”
   “เจ้านี่ช่างดื้อนัก”
   “ข้าสิดื้อได้มากกว่านี้อีก”
   “ให้ตายสิ…”

   “ได้โปรด…อย่าไล่ให้ข้าไปไหน”
   ร่างโปร่งกระซิบบอกแผ่วเบา  กอดเกี่ยวอีกคนไว้แน่น
   “หากท่านปล่อยข้าไป  จะกี่ร้อยกี่พันหนข้าก็จะกลับมา”

   น้ำคำนั้นหวานนัก  จนอีกฝ่ายอดจะปรือตามองยอดรักของตนมิได้  ความดื้อรั้นของคนตรงหน้าก็เขาเองเนี่ยแหละที่รู้ดียิ่งกว่าใคร 



   “ดวงใจข้า…”
   ชายหนุ่มกระซิบเสียงพร่า  บดจุมพิตลงที่ริมฝีปากนุ่มอีกครั้ง

   “…หากเจ้าเป็นอะไรไป…ข้าคงมิต่างจากตายทั้งเป็น…”



   “อ้ายพี่แสนตา…”
   ครึ่งหนึ่งของทั้งหมดคืออาการใจอ่อนยวบ  อีกครึ่งหนึ่งคือความปรารถนาจากส่วนลึกของจิตใจ

   ด้วยไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ตาม  ร้ายดีเพียงไรก็ตาม  หากเพียงอีกคนยืนอยู่เคียงข้างจวบจนลมหายใจสุดท้ายเท่านั้นก็เกินพอ  แต่กว่าครึ่งนั้นก็เจ็บปวดนักยามนึกถึงภาพคนรักถูกสังหารด้วยน้ำมือมนุษย์ใจหยาบช้าพวกนั้น
   …ดวงใจจึงจะแหลกลงเสียให้ได้…

   “ตอนนี้เจ้าจักอยู่ที่นี่ก็ตามแต่ใจเจ้า  หากถึงยามนั้น…โปรดฟังข้า  ไม่ว่าข้าจะสั่งอะไรก็ตาม”
   “เพียงไม่ไล่ข้าไปให้พ้นตา  ข้าจักทำตามที่อ้ายพี่ปรารถนาทุกประการ”
   “ที่นี่ต่างหากบ้านเดิมเจ้านัก” ดวงหน้าคมคายละออกไป  ประคองสะโพกมนให้นั่งหนัดบนตักแต่ดี “เต็มไปด้วยสงครามสู้รบฆ่าฟัน  ข้ามิอาจนึกภาพยามเจ้าเผชิญหน้ากับศัตรูได้เลย”
   “อ้ายพี่สิดูถูกข้านัก  อยู่บ้านโน้นวิชาดาบข้าก็เรียนรู้มาบ้าง”
   คนฟังยกยิ้มนิดๆ “จริงรึ?”
   “จริงสิ  ถึงจะไม่เชี่ยวชาญนักก็คงพอเอาตัวรอดได้บ้าง”
   “งั้นข้าขอชมสักตั้ง”
   “ไม่ได้ดอก” คนตัวเล็กส่ายหน้าหวือ “ข้าสิเก็บไม้ตายไว้ใช้ตอนสุดท้ายน่ะขอรับ”
   “เจ้านี่….ช่างน่าตีนัก”
   เด็กหนุ่มหัวเราะคิกคัก “คิดตีข้าเท่าไหร่ก็ตามแต่ประสงค์จ้าว  กายข้าเป็นของท่าน  ดวงใจข้าเป็นของท่าน  จะต้มยำทำแกงเช่นไรขอเพียงได้อยู่ข้างกายท่านเท่านั้น  ด้วยน้ำมือของท่าน…ข้ามิปรารถนาสิ่งใดอีก”

   ในอกจ้าวแสนตาสั่นไหวนัก  ราวน้ำหนึ่งหยดที่ตกกระทบผิวใจ  เร่งให้ข้างในชุ่มฉ่ำหอมหวาน  พันวังช่างเหมือนปาฏิหาริย์นักที่ทำให้เขารู้สึกอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปเช่นนี้

   เขาหยิกจมูกอีกฝ่ายอย่างหมั่นเขี้ยว
   คนถูกกระทำแสร้งทำเป็นร้องโอดโอย  ก่อนจะเปลี่ยนมาถาม


   “แล้วใยอ้ายพี่ถึงไม่อพยพไปด้วยเล่า…ยังโกรธเคืองจ้าวพี่โคจรอยู่กระนั้นรึ?”



   คนฟังชะงักเพียงชั่วครู่หนึ่ง  ก่อนโคลงศีรษะช้าๆ

   มิใช่ความโกรธเกลียดแค้นเคือง..
   …เพียงมิรู้จะทำสีหน้าเช่นไรยามที่เห็นเขาสองคนอยู่ด้วยกันเพียงเท่านั้น
   หากเวลาคือยาที่รักษาได้ทุกบาดแผล  แสดงว่าเขาคงยังใช้ยาไม่เพียงพอ  ทั้งที่หมดใจคือให้อภัยแล้วสิ้น  หนำซ้ำยังได้สิ่งที่มีค่ายิ่งกว่ามาครอบครอง  ไร้เรื่องบาดหมางใดให้รู้สึกคลางแคลงใจ
   กระนั้นอีกฝ่ายเล่าจะเป็นเช่นไร..?

   หลังจากแย่งภรรยาของเพื่อนไป…จะสะดวกใจมากพออย่างนั้นหรือ?



   “ทั้งข้าทั้งเจ้านั้น…คงไม่สะดวกที่จะพบหน้ากันในยามนี้เท่าไหร่” เขาตอบ “ฤๅเจ้าจะเปลี่ยนใจลงเรือเดินทางตามไปก็ย่อมได้  ข้ามิเหนี่ยวรั้งเจ้าไว้ดอก”
   “เหตุใดจึงพูดเช่นนั้นเล่า  ข้าสิบอกกี่ร้อยกี่พันหนแล้วว่าข้าจักอยู่กับท่าน”
   “…ยอดรัก  ข้าแค่เป็นห่วงเจ้าเพียงเท่านั้น”
   “ข้าก็เป็นห่วงท่านมิแพ้กันดอก  ทำมาพูดดีไป”

   ดวงใจเจ้ากรรมเต้นโครมครามกระหน่ำยามที่ดวงเนตรทั้งสองเบือนมาสบกัน  มือเล็กแตะลงบนแขนแกร่งที่กรำบาดแผลใหญ่อย่างแผ่วเบา  เลื่อนปลายนิ้วขึ้นมาถึงไหล่กว้าง  ก่อนจะสอดมือทั้งสองคล้องลำคออีกคนไว้
   คนตัวเล็กแหงนหน้าประทับริมฝีปากลงบนคางสาก  คลอเคลียอยู่ที่กรามแข็งอยู่นานจนคนถูกกระทำครางฮืมในลำคอ

   “อ้ายพี่แสนตา…”
   เสียงหวานเอื้อนเอ่ยออกไป  สั่นระริกคล้ายเก้อเขินนัก
   “ข้ามีเรื่อง…ที่ต้องบอกท่าน…”
   ชายหนุ่มหลุบตามองพวงแก้มใสที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ  ก่อนจูบลงที่ข้างแก้มอย่างเผลอไผล
   “อ้ายพี่…”
   “มีอะไรรึ  ข้าสิฟังอยู่”
   พันวังปรือนัยน์ตาลง  สัมผัสได้ถึงหัวใจที่เต้นดังจนคล้ายกับว่าจะหลุดออกจากอกข้างซ้ายของตัวเอง


   …เพียงคำรัก…
   …เพียงคำรักเท่านั้น…




   “อ้ายพี่แสนตา….จริงๆแล้วข้าน่ะ…..”






   ก๊อกๆๆ




   เสียงเคาะประตูที่ดังขัดขึ้นเสียก่อนทำให้ดวงใจเจ้ากรรมแทบจะทะลักออกมาทางปาก  เด็กหนุ่มก้มหน้าฉับเคลื่อนตัวลงจากตักของอีกฝ่าย  ส่วนแสนตาน่ะหรือถึงกับตบเข่าฉาดใหญ่  แล้วลุกขึ้นไปเปิดประตู
   “มีอะไรรึ?”
   บ่าวคนสนิทกระพริบตาปริบๆมองด้วยสายตามากคำถาม  ประการแรกคือเหตุใดนายเหนือหัวของตนจึงได้ทำท่าทางหงุดหงิดนัก  แต่ก็ต้องโคลงศีรษะ
   “ข้าแค่จะมาเรียนว่า  พอคุยไปคุยมาแล้วจระเข้ทุกตัวไม่ยอมอพยพน่ะขอรับ”
   “อะไรนะ!?”
   “เอ่อ…คงจะเป็นความผิดข้าเองกระมังขอรับ  ที่เผลอหลุดปากบอกไปว่าท่านจ้าวจะไม่ไปกับพวกเขาด้วย” ทองดีกระอักกระอ่วน  แต่ก็พูดออกมาจนได้ “ข้าก็มิรู้จะพูดเช่นไร  เพราะตัวข้าเองก็มิได้อยากจะจากเรือนจากบ้าน  จากนายเหนือหัวของข้าไปด้วย”
   “อ้ายทองดี….!”
   “เฆี่ยนเลยขอรับ  ถ้าหากจะทำให้ข้าอยู่รับใช้ได้ก็เฆี่ยนมาเลยขอรับ!”
   “บ๊ะ!!  ไอ้พวกนี้  จะตนใดๆก็บอกให้ข้าเฆี่ยนทั้งนั้น  ฤๅจะบอกว่าข้าเป็นคนใจร้ายกระนั้นรึ!?”
   “มิได้ขอรับ  ข้าเพียงแค่อยากจะตายที่นี่  มิต้องการเดินทางไปตายที่ใด”
   “อ้ายทองดี!”

   พันวังกระพริบตาปริบๆ  ขยับตัวลุกขึ้นจากเตียงเดินตรงมาที่ประตูบ้าง
   อ้ายพี่แสนตาของตนมีท่าทางกระวนกระวายนัก  เขาทอดมองออกไปเห็นตะวันใกล้จะขึ้นอยู่ลิบตา  ชะรอยจะออกเรือไม่ทันกาล  จึงเคาะมือกับขอบประตูเพื่อตริตรองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี่อีกสักครั้งหนึ่ง

   ก่อนร่างสูงจะสาวเท้าเดินออกจากเรือนอีกครั้งหนึ่งเพื่อเผชิญหน้ากับบรรดาบ่าวไพร่ของตนที่นั่งคุกเข่าดั่งปูพรมอยู่ที่พื้นด้านล่าง  เมื่อหยุดยืนที่หัวกระไดจึงก้มสบตากับทุกผู้ที่ยกสิบนิ้วประนมแนบอก  สบดวงตาสีอำพันสว่างแน่วแน่ไม่บิดเผือนทุกคู่ที่ต้องมองตรงมา
   มันเป็นบรรยากาศที่ไม่มีใครพูดอะไร
   …ไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคำ

   ด้วยสายตานั้น…เปี่ยมมากกว่าแค่คำว่า ‘ภักดี’










= = = = = = = = = =










   พันวังไม่เคยออกรบมาก่อน

   มิใช่เพียงแค่นั้น...แม้แต่คำว่า ‘สงคราม’ เขายังไม่เข้าใจเลยด้วยซ้ำไป




   เด็กหนุ่มเดินวนไปมาที่ใต้ถุนบ้าน  ท่ามกลางจระเข้กลุ่มหนึ่งที่นั่งทำข้าวต้มมัดยามยากอยู่  เขาพยายามเร่วิ่งถามเสียตั้งแต่หัววันว่าตนสามารถช่วยสิ่งใดได้บ้าง  คำตอบคือไม่เลย  เพราะเขาเองก็ไม่เคยเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน  จึงไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นจากสิ่งใดดี
   เช้าวันนั้นสถานการณ์ปกติดีทุกอย่าง  แต่อ้ายทองดีบอกว่ายามพายุจะมีผิวน้ำจะสงบฉันใดก็ฉันนั้น  จระเข้บางตัวหลุบนอนพักผ่อนตามเปลญวณ  มิมีใครกล้าแตกฝูงไปทำนา  นอกจากพวกอ้ายพี่แสนตาที่ล่องเรือไปสำรวจค่ายต้นน้ำเสียแต่หัววัน



   แม่น้ำที่เมื่อย่ำรุ่งเพิ่งถูกย้อมด้วยสีแดงละลายจางหายไป  คงเหลือไว้เพียงกลิ่นคาวที่ยังแตะอยู่ปลายจมูกที่ขยี้เช่นไรก็ไม่หาย


   เขารู้ดีว่าหนึ่งในที่มาของกลิ่นน้ำคือจระเข้ฝั่งเราเอง  และอดไม่ได้ที่จะนึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นนี้  สิ่งเหล่านั้นตอกย้ำลงไปกับคำถามที่ว่าเหตุใดมนุษย์ถึงโหดร้ายนัก  เมื่อพวกเราเพียงแค่ปรารถนาจะมีชีวิตอยู่เพียงเท่านั้น




   พันวังเดินออกมายังจุดที่เคยเป็นศาลาริมน้ำ  บัดนี้ถูกเพลิงเผาไหม้เหลือเพียงตอตะโกสีดำสนิท  เขาเฝ้าชะโงกหน้าอยู่ตรงท่าเรือกว่าครึ่งวันก็ยังไม่เห็นวี่แววกองเรือสำรวจ  ทั้งร้อนกายร้อนใจ  หากทำได้ก็คงมุดดำกายลงใต้น้ำและแหวกว่ายไปหา

   “เดี๋ยวก็มา” อ้ายทองดีย้ำรอบที่สามล้านเห็นจะได้ “เจ้าจักกังวลไปใย”
   “แต่ข้ากังวลนัก  ครั้งล่าสุดที่ข้าเห็นอ้ายพี่สหัสออกไป  ข้าก็มิได้เห็นเขากลับมา”
   “นั่นคือจ้าวแสนตา  มิใช่อ้ายสหัสเสียหน่อย”
   “ข้าเป็นห่วง…”
   “จ้าวแสนตาแข็งแกร่งนัก  บาดแผลเมื่อวานเพียงเพราะปกป้องชาวเราด้วยกันเอง  ซ้ำอาการชอกช้ำในอกยังมิหายดี…แต่มิระคายผิวอันใดให้เจ้าต้องวิตก”
   “แต่…”
   “ท่านจ้าวต้องกลับมาหาเจ้าแน่” ชายวัยกลางกล่าวด้วยรอยยิ้มใคร่รู้นัก “นั่นเป็นสิ่งที่ท่านปรารถนามากกว่าสิ่งใดทั้งหมด”
   “อ…อ้ายพี่ทองดีพูดอะไรเล่า”
   “เจ้าสิทำมาเขิน  ข้าอยู่มานานมีรึจะไม่รู้”
   “อ้ายพี่ทองดี!”
   “วางใจเถิด  ข้ามิบอกผู้ใดหรอก” คู่สนทนาพยักหน้าอย่างมุ่งมั่น “เพราะเขารู้กันทั้งเรือนแล้ว”
   “อ้ายพี่ทองดี!”
   “กิริยาเช่นนั้นเก็บไปทำกับท่านจ้าวเถิด  ฮ่าๆๆ”

   ..ปล่อยระเบิดแล้วก็เดินจากไป..
   เด็กหนุ่มยังคงยืนฮึดฮัดอยู่ที่ท่าน้ำ  เขาหมุนซ้ายทีขวาทีมองไปรอบๆ  จึงได้ทิ้งตัวนั่งขัดสมาธิลงเช่นนั้น  สองมือเท้าคางจ้องมองออกไปที่สุดคุ้งน้ำ  เฝ้าหวังว่ามิช้านานคงได้เห็นเงาอ้ายพี่ของตนเอง




   ..แต่จวบจนเย็นย่ำก็มิได้กลับมา..




   ค่ำคืนนั้นช่างร้อนระอุนัก  อาจเพราะแสงไฟจากคบเพลิงสว่างจ้ากว่ายามปกติ  จระเข้ทุกตัวมานั่งรวมกันที่ใต้ถุนเรือน  สีหน้าของทุกคนเปี่ยมไปด้วยหลากหลายความรู้สึก  อาจจะเป็นความตื่นกลัว  กระวนกระวาย  หรืออาจจะมากกว่านั้น

   การรอคอยสิ่งที่รู้ว่ามันจะเกิด  แต่ไม่รู้ว่าจะเกิดเมื่อไหร่…คือภาวะกดดันที่ทำให้พันวังนั่งไม่ติด  เขากระสับกระส่ายคอยลุกขึ้นจ้องมองไปยังท่าน้ำตลอดเวลา  แล้วนั่งลงใหม่
   “เดี๋ยวก็มา” อ้ายท้องดีย้ำรอบที่แปดล้าน “เจ้าจักกังวัลไปใย”
   “ฤๅท่านไม่กังวลรึ?  อ้ายพี่แสนตาสีออกเดินทางไปตั้งแต่เช้ามืด  จนตะวันตกดินก็แล้ว  พระจันทร์ขึ้นก็แล้ว  ใยจึงไม่เห็นแม้แต่เงาเล่า”
   “เจ้าเห็นว่าพายเรือไปกลับจากค่ายต้นน้ำมันไวเช่นนั้นเลยรึ”
   “ข-ข้าจะไปรู้รึไร  ก็เห็นอ้ายพี่ไม่กลับมา….”
   “ข้าก็รู้ว่าเข้าเป็นห่วงนัก  พวกเราก็เป็นห่วงมิได้ต่างกันดอก”
   “ข้ารู้…แต่…”
   “เจ้าสิเรื่องมากนัก  บอกว่าไม่เป็นไรก็ไม่เป็นไรสิ”
   ชายวัยกลางโคลงศีรษะ  ขยี้เรือนผมอีกคนอย่างเอ็นดู…ก่อนจะหันไปมองที่ลำน้ำนั่น  ไม่นานเสียงไม้พายกระทบผิวน้ำจ๋อมก็ดังขึ้นเรียกให้ทุกผู้ลุกขึ้นชะโงกดู

   “นั่นประไร…พูดยังมิทันขาดคำ  ขบวนเรือจ้าวแสนตาก็มาพอ…..”

   ยังมิทำจะสิ้นคำประโยคบอกกล่าว  ร่างโปร่งก็ผลุนลุกพรวดกระโจนไปพรวดเดียวถึงท่าน้ำ  เล่นเอาคนที่นั่งเครียดๆกันอยู่จนถึงเมื่อครู่หลุดหัวเราะออกมาเสียงดัง
   “อ้าวเฮ้ย  เจ้ามิเห็นต้องรีบร้อนขนาดนั้นเลยนี่เว้ย”
   “พุ่งไปรอรับเจ้าของก่อนใครเช่นนี้  เรียกว่าอะไรนะ?”
   “สุนัข”
   “ใช่! สุนัข!”
   “สัตว์เลี้ยงของมนุษย์”

   คนถูกค่อนแคะหันมาแยกเขี้ยว “ข-ข้าสิเพียงเป็นห่วงเท่านั้น  ใยต้องเปรียบเปรยให้น่าขันด้วยเล่า”

   ถึงกระนั้นเด็กหนุ่มก็ยังคงยืนระริกระรี้อยู่ที่ท่าน้ำ  ดวงตากลมโตสอดมองออกไปด้านนอก  จับจ้องลำเรือที่แล่นแหวกเลียบน้ำมาอย่างเงียบกริบนั่น
   บางทีอาจจะเพราะมันไกลจนสุดสายตา  ทำให้เขาต้องเพ่งมองซ้ำแล้วซ้ำเล่า  ในความมืดนั้นไม่เห็นสิ่งใดนอกจากเงาร่างของขบวนเรือที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ  กับเสียงของผืนน้ำที่ถูกแหวกออกและไม้พายโบกสะบัด
   “อ้ายพี่…” พันวังเลิกคิ้ว  ตัดสินใจโบกมือเรียกออกไป “อ้ายพี่แสนตา”

   มีบางอย่างขยับไหว  ใครสักคนคงเห็นที่เขาโบกมือเรียกแล้ว




   ..แต่ไม่มีใครตอบกลับมา




   คนตัวเล็กชะงัก  ลดแขนที่โบกอยู่จนถึงเมื่อครู่ลงมาช้าๆ..

   “เฮ้  ข้าว่า…มันแปลกๆอยู่นะ”
   “นั่นสิ”
   “เฮ้!  ท่านจ้าวขอรับ!” ใครสักคนตะโกนขึ้นบ้าง  แล้วโบกไม้โบกมือ
   ..เงียบ..
   “เหตุใดจึงไม่จุดตะเกียงเล่า?”
   “แล้วเหตุใด…ถึงไม่ตอบอะไรกลับมาเลยเล่า..?”


   ช่วงจังหวะนั้นที่ความมึนตึงเข้าครอบงำทุกคน  พันวังถัดขาถอยหลังจากพื้นไม้บริเวณท่าน้ำมายืนบนผืนดินอีกครั้งอย่างเชื่องช้า  เขารู้สึกไม่ชอบมาพากล…ซึ่งที่จริงมันก็ประหลาดมาเสียตั้งแต่แรกแล้ว

   “นั่นไม่ใช่…อ้ายพี่แสนตา…”


   อ้ายทองดีได้สติโดยพลัน  รีบหันมาตะโกนลั่น
   “ลางไม่ดีแล้ว!  ไปพวกเจ้า!!  หลบไปจากตรงนี้!!!  ไปหยิบอาวุธมาให้…….”







   ฟ้าววววววว




   ฉึก!!







   แท่งโลหะบางอย่างวิ่งผ่านอากาศเสียงหวิวจนเด็กหนุ่มเผลอหดตัวด้วยอัตโนมัติ  ศรดอกหนึ่งปักลงที่กลางแผ่นหลังคนตรงหน้าอย่างรวดเร็วจนไม่ทันได้ตั้งตัว
   ชายวัยกลางเบิกตาโพลงมองหน้าเขา  มันเป็นเวลาเพียงเสี้ยววินาทีที่เหมือนกับยาวนานเหลือเกินกว่าที่ร่างสูงกว่านั้นจะค่อยๆทรุดลงไป

   “ศรอาคม!!!”
   ใครอีกคนหนึ่งร้องต่อ
   “หาที่กำบัง!!!”

   จราจลเกิดขึ้นทันทีหลังการหลั่งเลือดครั้งแรกเกิดขึ้น  ชายกลุ่มหนึ่งไม่ลังเลที่จะกระโจนลงน้ำแหวกว่ายกลายร่างเป็นกุมภาทั้งฝูงตรงไปยังขบวนเรือ  เงาร่างของคนที่อยู่ไกลๆนั้นพากันขยับไหวด้วยกันทั้งหมด  ต่างคว้าหยิบทั้งหอกทั้งดาบออกมาเตรียมพร้อมเผชิญหน้า

   เสียงม่านน้ำแตกกระเซ็นยามชนสองฝ่ายตรงเข้าโรมรัน  เหล่าจระเข้ร่วมใจจมเรือลำแรกที่ลอยเข้ามาได้ก่อน  เสียงกรีดร้องโหยหวนของมนุษย์ดังขึ้น  ทันทีที่เสียงหอกคมแหวกอากาศดังอีกครั้ง…จึงเป็นเสียงของจระเข้
   ฝูงชนที่มุงรอรับท่านจ้าวของตนอยู่จนถึงเมื่อครู่แตกหือกันไปเตรียมการ  บ้างวิ่งไปเก็บข้าวของใต้ถุนเรือน  บ้างตรงไปหยิบคว้าดาบคว้าธนูมาเล็งเป้า


   ทว่าเด็กหนุ่มยังตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่หาย  เขายังคงยืนอยู่ที่นั้น  พร้อมประคองรับร่างแรกที่โดนการโจมตีแล้วทรุดไปด้วยกัน
   “อ้ายพี่ทองดี!!  อ้ายพี่ทองดี!!!”
   เขาพร่ำเรียกด้วยอารามตกใจ  ยามโอบแผ่นหลังกว้าง…ของเหลวเหนียวหนืดจึงติดมือกลับมาให้สะท้าน  สัมผัสของโลหิตช่างน่าขยะแขยงนัก  แต่ความตกใจทำให้ลืมเลือนเรื่องนั้นไปเสียสิ้น
   “อ้ายพี่ทองดี!!”
   “…อ่อกก” เจ้าของนามสำลักออกมาเป็นเลือด  สีคล้ำเข้มฉาบตั้งแต่ริมฝีปากลงมาถึงลำคอ “…รีบ…ไปซ่อน….”
   “อ้ายพี่….”
   “ไปซ่อนเสีย…ไป!!”





   ฟิ้ววววว....!!!





   อีกครั้งหนึ่งที่เสียงลูกธนูแหวกอากาศดังกระหึ่ม  และครานี้ไม่ได้มาเพียงดอกเดียว  เมื่อพันวังเงยหน้าขึ้นเห็นแห่ฝนลูกศรจึงหลับตาแน่น





   ฉึก!! ฉึก!! ฉึก!!




   ปลายศรฝังลงบนผิวเนื้อ  เสียงกรีดร้องอย่างปวดร้าวดังระงมจนใบไม้ไหว

   ทว่าเด็กหนุ่มกลับยังปลอดภัยไร้ริ้วรอย
   ทองดีขยับตัวเฮือกสุดท้ายขึ้นแทนตัวเองดั่งเกราะกำบังใหญ่  ก่อนจะทรุดกายแน่นิ่งไปในอ้อมกอด
   “อ้ายพี่…อ้ายพี่ทองดี..!!”

   แม้พยายามจะเรียกขานชื่อมากมายเท่าไหร่  แต่คนถูกเรียกก็ไม่แม้แต่จะขยับขึ้นมาใหม่  เด็กหนุ่มรู้สึกลำคอแห้งผาก  ราวหยดน้ำทุกหยดของร่างไปกองอยู่ที่ดวงตา  แล้วหลั่งไหลออกมาเป็นความเสียใจ



   ใครบางคนฉุดเขาให้ลุกขึ้นจากตรงนั้นทั้งแรงสะอื้น  เด็กหนุ่มร้องไห้จนตาพร่าเลือน  เขารู้ดีว่าที่ตนทำอยู่ช่างไร้ประโยชน์นัก..แถมยังเป็นภาระให้กับคนทั้งบ้าน

   ..โหดร้ายนัก..โหดร้ายนัก..

   ..ใยมนุษย์จึงต้องโหดร้ายได้ขนาดนั้น..




   ตูมม!!



   เสียงดินปืนระเบิดดังกึกก้องไปทั่วทั้งคุ้งน้ำ  พันวังพยายามเบือนดวงหน้ากลับไปมองจนเห็นเศษร่างของเผ่าพันธุ์เดียวกันกระเด็นมาตกอยู่ที่ปลายเท้า  เขากรีดร้องลั่น  แต่ก็โดนฉุดรั้งให้หลบไปอยู่เสียใต้ถุนบ้าน

   “พันวัง  เจ้าสิไปเสีย”
   ใครคนนั้นเขย่าแขนเขาเรียกสติ
   “ลงน้ำแล้วว่ายกลับพิจิตรไปเสีย!  ถ้าเพียงเจ้าคนเดียวย่อมทำได้แน่!”



   คนถูกสั่งยังคงหอบหายใจ  เขายกมือปาดน้ำตา
   “ข้าไปไหนมิได้….ข้าจักอยู่กับอ้ายพี่แสนตา…”

   “เจ้าดื้อ!”
   “ข้าไม่ไปไหนทั้งนั้น”
   “ข้าบอกแล้วมิใช่รึ…ยามนี้ให้ฟังคำข้า”
   จ้าวแสนตาร้องลั่น  ตอนนั้นเองที่เด็กหนุ่มถึงได้รู้ว่าในโพรงปากนั้นกลบไปด้วยเลือด  ซ้ำยังด้วยบาดแผลทางร่างกายและร่องรอยของแผลเก่าที่เปิดออก
   “ทำไมถึงได้ดื้อขนาดนี้  ต้องให้ข้าบอกเจ้ากี่ร้อยกี่พันหนกันว่าข้าน่ะ…..”





   “ข้ารักท่าน!  จ้าวแสนตา!”





   เด็กหนุ่มโพล่งลั่น  จ้องหน้าอีกคนแน่วแน่


   “ข้าไม่มีวันไปไหน...โดยไม่มีท่าน”






   สิ่งที่วิ่งเข้ามาคั่นกลางระหว่างระหว่างเขาสองคนคือเสียงกรีดร้องและการสู้กัน  เพียงสิ่งเหล่านั้นกลับอยู่ไกลออกไปในยามนี้
   “…หากทำได้…ข้าเพียงปรารถนาจะรั้งกายเจ้ามากอด  จูบปลอบให้หายหวาดกลัวหรือร้องไห้..” ชายหนุ่มกระซิบเสียงเบา…ปรือดวงตามองอย่างห่วงหา “สวรรค์ช่างใจร้ายนัก  ให้เราเกิดมาเพื่อเรียนรู้บางสิ่งบางอย่าง…ในวันสุดท้าย…”
   “อ้ายพี่แสนตา…”





   มือหยาบเกลี่ยลงมาที่ข้างแก้มใส  ประคองให้ดวงหน้านั้นเงยขึ้นมาสบตา…พันวังจึงเพิ่งสังเกตเห็นในความมืด  ว่าดวงตาข้างหนึ่งของอ้ายพี่แสนตาที่ตนรักนั้นมีรอยคมมีดบาด…จนมิอาจลืมขึ้นได้อีก

   ทั้งเสื้อผ้าอาภรณ์ต่างเปียกชุ่มจนกลายเป็นสีเลือด  เช่นเดียวกับแขนข้างขวา..ที่แม้แต่จะขยับยกยังทำไม่ได้เสียด้วยซ้ำ




   …สงคราม…
   …ก่อให้เกิดการเข่นฆ่ามากมายโดยไม่จำเป็น…







   “น้องพันวัง…ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้  โปรดจำไว้เพียงว่า…”

   คำนั้นทำให้เด็กหนุ่มสะอึกสะอื้นออกมาอีกครั้งหนึ่ง  ทั้งที่ดวงตายังจับจ้องเพียงคนตรงหน้าไม่ได้เบือนหลบไปไหน






   “...‘ดวงใจข้า’…จะไม่หวนคืนสู่ห้วงธารา…”






   ..เพียงเจ้า..เท่านั้น..








TBC




=======================





อาาาาา ตอนหน้าจบปฐมบทแล้วววว
ไอ้พี่วันจะมาแล้วววว
หลายคนคงเดาเรื่องกันออกแล้วนะคะ แต่ก็ยังมีหลายเรื่องที่เก็บไว้เป็นปริศนาตอนจบด้วย 5555555555
//โครงการฝึกเยาวชนให้เป็นนักสืบรุ่นจิ๋ว


ขอบคุณน้อง brow สำหรับคำแนะนำภาษาโบราณจ้ะ :D ไว้เดี๋ยวพี่แก้นะคะ




ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์ค่ะ

ozakaoxygenz*




 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:


ออฟไลน์ Linea-Lucifer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
จ้าวแสนตากับพันวังงงงงงงงงงงงง T[]T

ออฟไลน์ Money11

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
เศร้าอะไรอย่างนี้ เศร้าอีกกก ซึ้งอีกกก
 :hao5:
โกรธพันวังไม่ลง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
เศร้าเกิน  :sad4:

ออฟไลน์ bluecoco

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
อึก  :m15:

เกลียดสงคราม
เกลียด
เกลียดมนุษย์ มนุษย์คือสัตว์ที่ใจร้ายที่สุด เข้าใจท่านอาพันวังแล้ว
ร้องไห้เลย... สงสารแสนตา



แต่ก็ไม่ควรตัดสินสิ่งที่เขาเป็นสิ
จระเข้ยังมีทั้งดีและเลว คนก็เช่นกัน มีเลวก็มีดี เหมารวมมันไม่ดีนะท่านอา
ฮือออออ แต่ตอนนี้เกลียดคนทุกคนที่ทำร้ายแสนตาที่แสนดีของพันวัง





ออฟไลน์ caramely

  • พลัง(จิ้น)ของสาววายยากแท้หยั่งถึง
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
จ้าวพี่    :sad4: :sad4: :o12:  สงสารทั้งคู่  เกิดมาแค่เพียงได้รักกัน(ในวันสุดท้าย)
จระเข้ก็มีหัวใจ  คนอ่านก็มีหัวใจ  จ้าวพี่โอช่างทำร้ายจิตใจข้ายิ่งนัก  :hao5: :hao5: 

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
จ้าวแสนตา T_T อยากจะกรีดร้องงง  :ling3:

ออฟไลน์ LiqueuR

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ไม่น้าาา

เศร้าอ่าาา :o12:

ออฟไลน์ aorpp

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +250/-3
ถึงจะพอเดาได้ว่าเจ้าแสนตาจะเป็นยังไง
แต่พอได้อ่านจริงๆแล้ว ก็ยังคงน้ำตาพราก
สงสารเจ้าแสนตากับน้องพันวัง กระซิกๆๆๆ
มิน่าน้องพันวังถึงอาฆาตแค้น
 :hao5: ฮือๆๆๆๆ เศร้าโคตรๆๆๆๆ

ออฟไลน์ O0PiCo0O

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :m15: เศร้าใจ

carenaka

  • บุคคลทั่วไป
สะเทือนใจ

ออฟไลน์ ชมพูพาล

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
โอยยย โอยยยย
ปวดหัวใจจจ ฮือออ จ้าวเเสนตาาาา
สงสารพันวังมากเลยค่ะ กลับมาปจบ.นี่คงลืมหมดแล้ว คุณอาพันวังทำอะไรไปให้อภัยหมด QAQ!

ออฟไลน์ IIIA

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
พอเข้าใจว่าทำไมพันวังถึงแค้นพี่วัน แต่เรื่องวันเศร้าาาาาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Monkey D lufy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +245/-4
ไม่นะ!!!!!!!!!!! เรื่องทุกอย่างกำลังจะดีขึ้นทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ


ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ชั่งปวดร้าวยิ่งนักTT

ออฟไลน์ MIkz_hotaru

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-4
ทั้งๆที่รู้ ทั้งๆที่เตรียมใจมาก่อน
แต่สุดท้ายก็เสียน้ำตา
 :mew6:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เศร้า ขอร้องไห้แป๊บ
มนุษย์น่ากลัวที่สุดแล้วในบรรดาสัตว์โลก

ออฟไลน์ monaligo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 427
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
เจ็บปวดดดดดเด :hao5:

ออฟไลน์ geeboys

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
เล่นเอาน้ำตาตกเลยตอนนี้ สะเทือนใจมาก สงสารจ้าวแสนตา กับพันวังอ่ะ  :hao5:

แอบคิดนิดๆตอนประโยคท้ายว่าพี่วันคือจ้าวแสนตามาเกิดใหม่รึเปล่าน้อ?

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
น้ำตาจิไหล ความรักที่งดงามท่ามกลางสงคราม ตอนจบคงไม่พ้นต้องเสียน้ำตา แต่เราก็ได้รู้ว่าท่านอาพันวังต้องเจอกับเรื่องอะไรมาบ้าง :o12:

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
แค่นี้ก็สมควรแค้นแล้วล่ะ

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
กรี๊ด~ ไยต้องมีสงคราม ไยต้องพลัดกัน ต้องทำเช่นไร เพื่อดวงใจนี้จักคงอยู่ นิจนิรันทร์

ออฟไลน์ ploysure

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ก่อนจบยังน้ำตาพรากขนาดนี้

ไม่อยากนึกถึงตอนจ้าวแสนตา..  :hao5:

สงสารพันวัง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด