WinNing --> Win’s Talk
ผมชื่อวิน ผมย้ายมาเรียนที่มอนี้เมื่อปีที่แล้ว ผมเป็นคนลำปางตั้งแต่กำเนิด และเพิ่งได้มาเยี่ยมเยียนจังหวัดนี้ก็คราวนี้ล่ะครับ ตอนผมย้ายมาใหม่ๆก็ไม่รู้จักใครเป็นพิเศษสักคนเพราะเพื่อนผมก็มีบ้างที่เข้าเรียนในมอนี้ แต่โดยมากก็อยู่กันคนละคณะกับผม ผมรู้จักน้ำนิ่งเป็นคนแรกเพราะผมสะดุดตากับมันตั้งแต่กางเกงสีน้ำเงินแล้วครับ น้ำนิ่งเป็นเด็กเชียงใหม่ตั้งแต่กำเนิดเช่นกัน น้ำนิ่งเป็นผู้ชายผิวขาวรูปร่างสมส่วน สูงพอๆกับผม ใส่แว่นตาท่าทางทรงภูมิดูน่าเชื่อถือ แต่ผมไม่ชอบมันอย่างเดียวก็คือมันไม่ค่อยพูดน่ะครับ หลายๆคนอาจจะงงว่าทำไมไม่ชอบ ไม่พูดมากก็ดีแล้วไง แต่ผมไม่ชอบเพราะเวลามันมีเรื่องอะไรมันก็ไม่เคยพูดให้ผมฟังนี่ล่ะครับ ผมเลยเคืองๆมันอยู่เป็นประจำ มันไม่เคยอธิบายเหตุผลในเรื่องบางเรื่องที่มันทำ แต่ที่ผมสนิทกับมันได้ถึงทุกวันนี้ก็เพราะสายตาของมันครับ สายตาของน้ำนิ่งจะนิ่งสมชื่อ แต่เวลาที่ผมไม่สบายใจ หรือมีเรื่องทุกข์ใจ น้ำนิ่งจะมองผมแบบคนที่เข้าใจผมทุกเรื่อง เหมือนแค่เห็นสายตาผมเขาก็เข้าใจทุกอย่าง ผมเลยชอบที่จะสนิทกับคนแบบนี้ และชอบที่จะอยู่ใกล้ชิดกับคนแบบนี้...
.
.
.
.
"เฮ้ย นิ่ง อธิบายเรื่องนี้ทีดิ กูไม่เข้าใจว่ะ"ผมโยนชีทวิชากายวิภาคศาสตร์ไปตรงหน้ามัน น้ำนิ่งเงยหน้ามองผมแบบสายตาเอือมๆนิดๆ แล้วมันก็หันกลับไปอ่านการ์ตูนของมันตามเดิม
"นิ่ง กูจริงจังนะเนี่ย"มันก็ยังไม่สนใจผม
"นิ่ง กูมีชาเขียวนมสดมานะเว่ย"ผมเอาเครื่องดื่มของโปรดของมันมาล่อ และนั่นก็พอจะเรียกความสนใจของคนตรงหน้าผมได้หน่อยนึง หน่อยเดียวจริงๆ เพราะมันแค่ชายตาแลแก้วน้ำที่ผมถือเท่านั้น
"นิ่งโว้ย"ผมหมดความอดทนจนต้องเรียกมันเสียงดัง ไอ้การ์ตูนบ้านี่มันน่าสนใจกว่ากูตรงไหนวะ
"มีอะไร"มันวางการ์ตูนไว้ข้างๆตัวมันก่อนจะมองหน้าผมแบบหาเรื่อง
"ติววิชานี้ให้กูหน่อย"ผมดันชีทกองเมื่อกี้ไปไว้ตรงหน้ามัน
"ไม่ต้องเอาเรื่องเรียนมาอ้างเลย"เบื่อจริงๆพวกรู้ทัน อย่างที่บอกว่าแค่มันเห็นสายตาผม มันก็รู้แล้วว่าผมต้องการอะไร
"ก็ได้ นิ่ง... กูมีปัญหากับพิ้งค์ว่ะ"ผมเริ่มเปิดประเด็นพร้อมกับผลักชีทกองนั้นออกไปด้านข้างh
"ก่อนที่วินจะเล่า ช่วยส่งแก้วน้ำมาให้เราก่อน"มันว่าพลางกระดิกนิ้ว ผมล่ะเซ็งจริงๆ จะคุยเรื่องอะไรกับมันนี่ได้เสียตังค์ตลอด ผมส่งแก้วชาเขียวให้มันแต่โดยดี มันพยักหน้าเป็นสัญญาณให้ผมเล่าเรื่องต่อ
"กูจับได้ว่าพิ้งค์คุยกับคนอื่น นิ่ง... กูทำไงดีวะ"เรื่องนี้ทำผมเครียดจริงๆ ผมคบกับแฟนคนนี้มาจะเกือบปีแล้วครับ พิ้งค์เป็นดาวคณะสถาปัตย์ เป็นผู้หญิงที่ตรงสเป็คผมทุกอย่าง และผมก็เป็นคนเดินหน้าตามตื๊อเขาตั้งแต่ปีที่แล้ว
"แล้ววินอยากให้เรื่องนี้เป็นยังไงล่ะ"
"หมายความว่ายังไงอ่ะ ก็กูอยากให้พิ้งค์เลิกคุยกับไอ้นั่นอ่ะ"ผมไม่เข้าใจคำถามมันเท่าไหร่นัก และตอนนี้ผมเริ่มอารมณ์เสียแล้ว เพราะเหมือนนิ่งมันไม่ใส่ใจผมเท่าไหร่
"วินมีคำตอบของวินแล้วไง จะให้เราช่วยอะไรอีกล่ะ"
"คำตอบ... คำตอบอะไร ไม่เข้าใจ"ผมเริ่มงงกับมันแล้วครับ นี่ผมมาปรึกษามันนะ ไม่ได้มาเล่มเกมตอบปัญหาเชาว์
"ก็วินไม่ต้องทำอะไรเลย แค่ไปทำให้พิ้งค์เลิกคุยกับคนนั้นพอ"มันตอบกวนตีนผมไหมล่ะ
"อันนั้นกูก็รู้ว่ะนิ่ง ที่กูถามก็คือกูควรจะคบกับพิ้งค์ต่อไหมวะ"ผมถามมันด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ดูเหมือนน้ำนิ่งจะชะงักไปนิดนึงเมื่อได้ยินคำถามผม
"ทำไมถามอย่างนั้นล่ะ"ในที่สุดมันก็หันมาสนใจผมแบบจริงจังสักที
"ก็ไม่รู้ดิ"ผมตอบตรงๆว่าผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมถึงต้องถามคำถามนี้ ทั้งๆที่ผมก็แค่อยากให้พิ้งค์เลิกคุยกับคนนั้น แต่ลึกๆในใจผมกลับอยากหยุดความสัมพันธ์นี้ไว้เท่านี้พอ
"ไปคิดให้ดีๆก่อนจะพูดออกมานะวิน ถ้าเขามาได้ยินเขาอาจจะเสียใจนะ"
"รู้แล้วน่า แล้วใครจะมาได้ยิน กูก็พูดแค่กับนิ่งทำไมนิ่งจะไปบอกใครรึไง"
"เราไม่ได้บอกใครหรือจะบอกใครหรอกวิน แต่หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง เกิดใครรู้จักกับพิ้งค์แล้วเอาไปบอกเขา เราจะทำไง"
"อาจจะดีก็ได้"ผมตอบนิ่งไป จากใจจริงเลยว่าผมไม่ได้กวนตีน
"ไม่ดีหรอกเชื่อเถอะ"ผมไม่รู้ว่านิ่งคิดยังไงกับเรื่องผมถึงพูดอย่างนี้ แต่ผมแอบขัดเคืองใจเล็กน้อยที่นิ่งไม่เห็นด้วยกับผม อาจเป็นเพราะทุกทีนิ่งจะเห็นด้วยกับผม ถ้าจะแย้งก็มีเหตุผลมากพอที่จะมาหักล้างกับผมได้
"วิน เราไม่ได้จะขัดใจวินนะ แต่วินก็คบกับพิ้งค์มาระยะนึงแล้ว วินจะเลิกกับเขาง่ายๆหรอ เรื่องความรักมันต้องใช้เวลานะ มันไม่ใช้เอะอะไม่พอใจก็เลิกอย่างเดียว มันมีหลายวิธีที่จะประคองชีวิตคู่กันไป วินต้องหัดใจเย็นกับเรื่องนี้อีกหน่อย"นิ่งเทศนาผมยาวเหยียด ผมก็ตั้งใจฟังบ้าง ไม่ตั้งใจฟังบ้าง แต่ก็เห็นด้วยกับที่นิ่งพูด บางทีผมอาจจะต้องใจเย็นมากกว่านี้
"เออ จะกลับไปคิดดู"ผมพูดแค่นั้น แต่ก็เรียกรอยยิ้มจากน้ำนิ่งได้ ดูท่ามันจะปลื้มใจไม่ใช่น้อยเวลาผมยอมฟังมัน แค่มันคงจะไม่รู้
ว่าผมฟังเสมอ ถ้ามันเป็นคนพูด
.
.
.
ผมมีนัดกับพิ้งค์คืนนี้ คิดว่าจะชวนพิ้งค์ไปเดินเล่นในเมืองด้วยไอ้แดง มอเตอร์ไซค์ลูกรักของผม ระหว่างรอพิ้งค์ที่หน้าหอก็นั่งเล่นเกมส์ในไอโฟนไปเรื่อยเปื่อย อีกสิบนาทีกว่าจะถึงเวลานัด ผมแค่ไม่อยากให้ผู้หญิงรอนาน ผมจอดรถเยื้องไปทางหัวมุมถนนเพื่อให้เกะกะ ส่วนตัวเองก็นั่งรออยู่ตรงม้าหินหน้าหอ รถยนต์สีแดงสะดุดตาคันนึงแล่นเทียบมาจอดหน้าหอ สีของรถชวนให้ผมอยากรู้ว่าคนขับหน้าตาเป็นยังไง แต่ไม่สะดุดใจเท่ากับที่ว่า... ผมเห็นใครลงจากรถคันนั้น
"พิ้งค์!!"ผมไม่รู้ว่าเสียงตัวเองดังแค่ไหน แต่นั่นก็พอที่จะทำให้เจ้าของชื่อสะดุ้งสุดตัวหันมามองผมด้วยแววตาตกใจ
"วิน..."ผมก้าวเท้าเพื่อไปดูหน้าคนขับรถให้เต็มตา
"พิ้งค์ นี่มันคืออะไร ไหนพิ้งค์ว่าพิ้งค์ไม่ได้คิดอะไรกับมันไง แล้วที่พิ้งค์นั่งรถมากับมันสองคนล่ะ"ผมหันไปถามพิ้งค์ รู้สึกเกลียดขี้หน้าผู้ชายคนนี้ขึ้นมาทันที หน้าพิ้งค์เริ่มแดงเพราะความโกรธหรืออายผมไม่แน่ใจ แต่ผมไม่อาย ผมจะประจานให้คนเขารู้เลยว่ามันแย่งแฟนผม
"พิ้งค์บอกว่าพิ้งค์ไม่ได้คิดอะไร แต่ตอนนี้พิ้งค์เริ่มคิดแล้วล่ะ เพราะวินเป็นแบบนี้ไง เอะอะอะไรก็โวยวายไว้ก่อน พิ้งค์ไม่ชอบ!! แล้ววินก็ไม่เคยมีเวลาให้พิ้งค์เลย วินอยู่กับเพื่อนวินตลอด จนพิ้งค์ไม่แน่ใจว่าพิ้งค์เป็นอะไรกับวินกันแน่!!!"พิ้งค์จึ้นเสียงใส่ผมหน้าตาแดงก่ำด้วยความโกรธ
"นิ่งเกี่ยวอะไรด้วย นิ่งเป็นเพื่อนวิน วินก็ต้องสนิทกับมันเป็นธรรมดาสิ พิ้งค์อย่าเอาเรื่องนี้มาอ้างเลยดีกว่า"ผมไม่ชอบเลยถ้าใครมาว่านิ่ง เพราะมันก็ไม่ได้เข้ามาสอดมือกับเรื่องนี้ ผมไม่ชอบให้พิ้งค์ดึงนิ่งมาเกี่ยว
"พิ้งค์ไม่ได้อ้าง วินไปคิดเอาเองละกันเรื่องวินกับเพื่อนวินน่ะ ห้องวิน พิ้งค์ไม่เคยได้เข้า แต่เพื่อนวินเข้าออกได้ตลอด ของๆวิน วินไม่เคยให้พิ้งค์มาแตะ แต่วินไม่เคยว่าเพื่อนวินสักคำที่มายุ่ง มันหมายความว่ายังไงหรอวิน หรือเรื่องนี้พิ้งค์เป็นคนผิด"ผมคิดตามที่พิ้งค์พูด แม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นความจริงก็เถอะ แต่ผมก็ไม่อยากจะยอมแพ้แบบนี้
"ไม่เห็นเกี่ยวเลยพิ้งค์ นิ่งมันเข้าห้องวินได้เพราะมันเป็นหอชาย แล้วพิ้งค์จะเข้าไปทำไม แล้วที่วินไม่หวงของ เพราะนิ่งรู้ดีว่านิ่งไม่ควรแตะอะไร"ผมพยายามพูดให้ใจเย็นมากขึ้น แต่เหมือนอีกฝ่ายจะไม่เย็นกับผมอีกต่อไป
"พอเหอะวิน พิ้งค์ว่ายังไงก็แล้วแต่เพื่อนวินคนนี้ก็ไม่เคยผิดเลย พิ้งค์ว่าเราเลิกกันเถอะ วินจะได้อยู่กับเพื่อนวินอย่างสบายใจขึ้น"พิ้งค์พูดตัดบทแล้วเดินสวนผมเข้าหอไป
"อะไรกันพิ้งค์"ผมคว้าข้อมือพิ้งค์ไว้
"พิ้งค์อย่าเอาเรื่องนี้มาอ้างในการเลิกเลย พิ้งค์จะเอาคนใหม่ก็บอกมาเหอะ!"ผมตะคอกประโยคสุดท้ายใส่หน้าอีกฝ่ายอย่าง
อารมณ์ขึ้น
"ใช่ พิ้งค์จะมีคนใหม่ เพราะคนเก่าอย่างวินมันเฮงซวยน่ะสิ!"พิ้งค์สะบัดข้อมือให้หลุดจากอุ้งมือผม ก่อนจะเดินก้าวเร็วๆเข้าไปในหอ ผมไม่ได้ก้าวตามเข้าไปเพราะผมก็ไม่อยากยื้อพิ้งค์ไว้หรอก มันอาจจะเหมือนอย่างที่ผมเคยบอกนิ่งไว้ก็ได้ว่า ผมไม่รู้ว่าควรจะคบกับพิ้งค์ต่อไหม ตอนนี้พิ้งค์เป็นคนตัดสินใจให้ผมแล้ว แม้ผมอาจจะไม่ได้รักอีกฝ่ายมากมายอะไร แต่กับระยะเวลาที่คบกันตลอดมาก็สร้างความผูกพันทางใจไว้ไม่ใช้น้อย มันเจ็บหน่วงๆขึ้นมาในอก มันไม่มีคำพูดอะไรที่อยากจะระบายออกมาให้ใครฟัง ผมขับรถมอเตอร์ไซค์กลับหอตัวเองก่อนจะตรงดิ่งไปเคาะห้องน้ำนิ่ง
“เข้ามาเลย”เสียงอีกฝ่ายตะโกนมาจากห้อง ผมเปิดประตูเข้าไปทันทีที่ได้รับอนุญาต เห็นนิ่งกำลังอ่านชีทเรียนอยู่บนเตียงตัวเอง
“อ้าว มีอะไรวิน ไหนว่าจะไปกับพิ้งค์ไง”นิ่งวางชีทในมือลง ผมไม่ตอบอะไรแต่ทิ้งตัวลงนอนข้างๆอีกฝ่าย
“วิน เป็นอะไรรึเปล่า”นิ่งถามเมื่อเห็นผมเงียบไป ผมก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
“นิ่ง กู... เลิกกับพิ้งค์แล้วว่ะ”ผมตอบอีกฝ่ายแค่นั้น แต่ผมว่าแค่คำพูดนี้คำพูดเดียวก็พอจะทำให้นิ่งเข้าใจอะไรหลายๆเรื่องได้ในเวลาเดียวกัน
“อืม อยากจะทำอะไรมั้ย”นิ่งถามคำถามได้ตรงใจผมมากที่สุด ตอนนี้ผมอยากจะลืม
“ไปร้าน... เป็นเพื่อนกูหน่อย”ผมพูดถึงร้านเหล้าที่อยู่ไม่ไกลจากหอผมมากนัก นิ่งไม่พูดตกลงหรือปฏิเสธอะไร แต่กลับทำเพียงลุกขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว
“วิน เราแต่งตัวเสร็จแล้ว ไปกัน”ผมลุกขึ้นตามคำชวนทันที น้อยครั้งที่นิ่งจะยอมทำตามใจผมแบบนี้
.
.
.
ผมมาถึงร้านไม่พูดพร่ำทำเพลง สั่งเครื่องดื่มมึนเมามานั่งดื่มอย่างรวดเร็ว ผมชวนนิ่งดื่ม แต่ผมก็รู้อยู่แล้วว่านิ่งเป็นคนไม่ชอบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ผมมันก็เลวคะยั้นคะยอให้อีกฝ่ายดื่มจนได้ แต่ผมก็ไม่ทำให้นิ่งลำบากใจไปมากกว่านี้จึงให้ดื่มแค่แก้วเดียว เหลือผมก็ซัดเกือบหมด
“กูไม่เข้าใจว่ะนิ่ง ทำไมพิ้งค์ต้องคอบเปรียบเทียบตัวเองกับนิ่งด้วย นิ่งไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย”พอแอลกอฮอล์เข้าปากผมก็เริ่มพูดมากอย่างหยุดไม่อยู่ ผมเริ่มพูดเรื่องที่ขับข้องใจให้อีกฝ่ายฟัง ผมไม่เข้าใจจริงๆนั่นแหละว่าทำไมพิ้งค์ต้องมาเปรียบเทียบตัวเองกับนิ่งด้วย นิ่งก็อยู่ส่วนนิ่ง เป็นเพื่อนที่ผมรักที่สุด ส่วนพิ้งค์ก็เป็นแฟนผมไง แค่สถานะนี้ก็ชัดเจนแล้วไง
“พิ้งค์เปรียบเทียบยังไง”นิ่งหันมาถามผม แก้วเครื่องดื่มตรงหน้าอีกฝ่ายละลายจนจืดจางแล้ว แต่นิ่งก็ไม่มีทีท่าว่าจะยกขึ้นดื่มอีก
“ก็บอกว่ากูชอบมาขลุกอยู่กับนิ่ง เห็นนิ่งสำคัญกว่า กูเป็นแบบนั้นหรอวะนิ่ง”ผมหน้านิ่ง แต่ดูเหมือนทำไมนิ่งถึงมีสองคนนะ ผมสะบัดหัวเพื่อเรียกสติตัวเองกลับมา
“เมาแล้วนะวิน กลับห้องกันเถอะ”นิ่งไม่ตอบคำถามผม ผมมองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่สบอารมณ์ แม้จะอารมณ์เสียเรื่องนี้ แต่ผมก็ไม่อิดออดยอมกลับหอตอบที่นิ่งบอก ผมควักกระเป๋าตังค์จ่ายค่าเครื่องดื่ม ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกทางหน้าร้าน
“เชี่ย!”ผมร้องออกมาเมื่อเดินสะดุดเก้าอี้หน้าร้าน ทำให้ความสามรถในการมทรงตัวของผมตอนนี้อยู่ในขั้นต่ำ จนนิ่งต้องมาประคองผมให้เดินตรงๆ ผมมายืนรับอากาศเย็นหน้าร้านให้สร่างความเมาเล็กน้อย ส่วนนิ่งก็ไปเอาเจ้าแดงขี่มารับผม ผมซ้อนท้ายนิ่งกลับหอ ระหว่างทางขึ้นหอก็ให้อีกฝ่ายช่วยประคองขึ้นบันไดไป
“ครั้งหน้าไม่เอาแล้วนะวิน เมาทีไรลำบากเราเรื่อยเลย”นิ่งบ่นออกมาระหว่างประคองผมขึ้นบันได แต่ไม่รู้ทำไม พอผมได้ยินประโยคนี้มันฉุกกึกขึ้นมาทันที
“ปล่อย!!!”ผมไม่เคยตวาดเสียงใส่นิ่ง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกจริงๆ
“วิน!”นิ่งดุผม แต่ผมไม่สนใจ ผมสะบัดตัวออกจากอีกฝ่าย ก่อนจะพาร่างกายของตัวเองเดินขึ้นบันไดไปอย่างยากลำบาก
“มานี่”นิ่งพยายามจะมาช่วยผมประคอง แต่คราวนี้ผมไม่ยอม
“ไม่ต้องมายุ่ง! ถ้าลำบากมึงนักก็ขึ้นห้องไปเลย”ผมไม่เคยเรียกนิ่งว่ามึงสักครั้ง นี่ก็เป็นครั้งแรกเหมือนกัน แต่คราวนี้ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ และรู้ว่านิ่งไม่ชอบด้วย แอลกอฮอล์นี่คือน้ำเปลี่ยนนิสัยจริงๆ
“วิน!!!”คราวนี้อีกฝ่ายดุผมเสียงดังกว่าเดิม ผมหยุดอยู่ตรงขั้นบันได ไม่หันหลังกลับไปตอบ ในใจนึกน้อยใจเต็มไปหมด ทั้งๆที่ผมก็รักอีกฝ่ายมาก ไม่เคยจะพูดจาไม่ดีใส่ แต่แค่เวลานี้ผมอยากให้อยู่ข้างๆผม นิ่งกลับบอกว่าผมทำให้ตัวเองลำบาก ก่อนหน้านี้มีไหมสักครั้ง ที่ผมจะบ่นอีกฝ่าย ไม่ว่านิ่งจะให้ผมทำอะไร ผมก็ทำให้หมด แต่ครั้งนี้ที่ผมขอ นิ่งกลับทำให้ไม่ได้
“ขอโทษ ที่ทำให้นิ่งลำบาก ขึ้นห้องไปเถอะ เดี๋ยวเราเดินขึ้นไปเอง”ผมพูดให้เสียงเบาลง พยายามไม่ให้อารมณ์มาเกี่ยวข้อง แต่น้ำตาเจ้ากรรมกลับคลอหน่วยตรงขอบตาเรียบร้อยแล้ว
“วิน หยุดเอาแต่ใจตัวเองได้ไหม หยุดใช้แต่อารมณ์ เราคง... อุ๊บ อื้อ”ผมไม่รอให้นิ่งพูดจบ กลับกระชากตัวอีกฝ่ายเข้ามาปิดปากด้วยปากของผมเอง ให้ใครเป็นหมื่นเป็นร้อย ดูถูกผม ด่าทอว่าตีผมก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่นิ่ง ผมไม่อยากได้ยินคำพูดเหล่านั้นออกจากปากนิ่งเลยแม้แต่น้อย นิ่งขัดขืนผมสุดแรง แต่แน่นอนวานิ่งคงสู้แรงผมไม่ได้ ผมจับต้นแขนอีกฝ่ายอย่างแรงราวกับจะล็อคไว้ไม่ให้หลุด บดเบียดริมฝีปากอีกฝ่ายอย่างที่ไม่อยากให้ใครมาทำ ผมค่อยสอดลิ้นเข้าไปรับความหวานจากปากอีกฝ่าย ชักชวนให้อีกฝ่ายคล้อยตาม มือผมค่อยๆเลื่อนไปโอบอีกฝ่ายไว้เมื่อเห็นว่านิ่งไม่ได้ขัดขืนอะไร ผมปล่อยให้ตัวเองละเมียดชิมลิ้มรสอีกฝ่ายจนพอใจ ก่อนจะค่อยถอนจูบออกมา
“นิ่ง...”ความรู้สึกผิด เสียใจทั้งหลายแหล่ประเดประดังเข้ามาทันทีที่ผมเห็นน้ำตานิ่งที่คลออยู่รอบตา
“มึงทำอย่างนี้ได้ไงวะ กูเพื่อนมึงนะเว่ย”กำปั้นของนิ่งกระทบกับแก้มผมเต็มแรง นิ่งไม่เคยพูดจาไปเพราะกลับผม แต่ครั้งนี้ ผมคงเลวจริงๆจนอีกฝ่ายไม่อยากจะพูดจาดีด้วย
“กู... กู... กูไม่รู้ว่ะ”ผมไม่รู้จะพูดอะไรที่ดีกว่านี้แล้ว แต่ผมไม่อยากพูดคำว่าขอโทษ มันดูเหมือนแก้ตัว นิ่งมาหน้าผมอย่างที่คนที่โกรธเกลียดกันมองหน้ากัน มองแบบไม่อยากจะเห็นอีกฝ่ายอยู่ในสายตา
“มึงพูดได้แค่เนี้ย”ผมไม่ตอบคำถามอะไรอีก ความรู้สึกอะไรมากมายมันอยู่ข้างใน แต่มันบรรยายออกมาไม่ได้ มันไม่รู้ว่าไอ้ที่รู้สึกอยู่ข้างในนั้นมันคืออะไร มันบอกไม่ถูกว่าความรู้สึกที่มีมันดีหรือร้ายอย่างไร นิ่งรอฟังผมอธิบายจนหมดความอดทนแล้วเตรียมจะเดินจากไป
“เดี๋ยว!”ผมรีบคว้าข้อมืออีกฝ่ายเอาไว้ ไม่อยากให้เขาเดินจากไปไหนตอนที่เรารู้สึกไม่มั่นคงในความรู้สึกตัวเอง
“มึงปล่อยกูเถอะ ถ้ามึงไม่คิดจะพูดอะไร”นิ่งพูดโดยไม่สบตามอง สายตาของนิ่งหยุดอยู่ตรงมือผมที่จับข้อมือของนิ่งไว้
“กูยังไม่รู้ว่าจะพูดอะไร แต่นิ่ง... อยู่กับกูก่อนนะ อย่าเพิ่งเดินหนีกูไปไหน”ผมพูดไปน้ำตาก็ไหลเป็นทาง มันไม่ชอบเลยเวลาที่เห็นคนๆนี้หันหลังให้ มันไม่ชอบเลยกับการที่ต้องถูกทิ้งไว้คนเดียว
“พอเหอะ เราจะเข้าห้องแล้ว”นิ่งสูดลมหายใจเข้าลึกๆอย่างคนที่พยายามจะใจเย็น แต่ผมก็ยังไม่ยอมปล่อยข้อมืออีกฝ่าย น้ำตายิ่งไหลเป็นสาย ในหัวมีเพียงแค่คำว่าที่อยากจะพูดกับอีกฝ่ายคือคำว่าอย่าไป
“อยู่กับกูก่อน ขอร้อง...”ผมแทบจะคุกเข่าอ้อนวอน แต่นิ่งกลับทำหน้าตาเฉยชาใส่ผม แล้วก็บิดข้อมือออกจากมือผมอย่างแรงจนผมรู้สึกเจ็บ
“นิ่ง...”ผมมองเห็นข้อมือของนิ่งที่แดงเถือกเป็นรอยนิ้วมือผม มือที่กำลังจะคว้าอีกฝ่ายไว้เหมือนเดิมกลับชะงักอยู่กับที่ ผมยอมปล่อยให้อีกฝ่ายเดินจากไปแต่โดยดี เพียงเพราะผมไม่อยากเห็นคนที่ผมรักต้องมาเจ็บเพราะผมอีก
ผมได้แต่มองตามแผ่นหลังหลังนิ่ง ความรู้สึกที่เมื่อตอนโดนพิ้งค์บอกเลิก ยังไม่เจ็บเท่ากับการเห็นนิ่งเดินจากไป มันยิ่งกว่าเจ็บหน่วงที่ใจ มันแปล๊บขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ น้ำตาที่ไม่ได้ไหลเมื่อตอนพิ้งค์เดินหันหลังไปแต่กลับไหลแทบเป็นสายเลือดเมื่อนิ่งไม่แม้แต่จะยอมอยู่เคียงข้างผม ขาทั้งสองข้างที่ปกติรับน้ำหนักของตัวเองได้กลับอ่อนแรงอย่างน่าประหลาดใจ ยิ่งเห็นน้ำตาของนิ่งที่คลอหน่วยรอบดวงตาแล้ว ลมหายใจกลับสะดุดราวกับคนไม่เคยหายใจ ความรู้สึกที่มันเหมือนจะคิดออก กลับเลือนหายราวกับนึกไม่ออกว่ามันเคยเกิดขึ้น นี่ผมกำลังเป็นอะไรกันแน่ ผมไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ผมทำกับนิ่งมันเลวมากขนาดไหน ทั้งๆที่อีกฝ่ายคอยช่วยเหลือผมตลอด แต่ผมก็ตอบแทนความช่วยเหลือนั้นด้วยอะไรกัน ความไว้ใจที่เขามีให้ ผมก็กระทำการเหยียบย่ำน้ำใจเขา หรือผมจะสูญเสียสิ่งสำคัญที่สุดของผมไป...
++++
ตอนนี้ อาจจะยาวไปนิด คงจะแต่งสลับกันกับคู่เอก
แต่คาดว่าอีกไม่นานคูเอกก็คงจะจบแล้วล่ะนะ
แล้วเราค่อยมาลุ้นกับคู่นี้ต่ออีกทีนะจ๊ะ
อยากได้คอมเม้นท์จัง จะมีใครเมตตาเราไหมน้าา