เสียงเพลงในร้านกินดื่มที่เดิมอึกทึก ผมกลายเป็นขาประจำถัดจากพี่แจ๊คโดยไม่รู้ตัว ไม่ได้รอไอ้อั้มแล้ว ว่างก็มา เสี้ยนก็มา ยังไงก็มีพรรคพวกรออยู่ อย่างวันนี้ก็ด้วย แต่ก็ไม่ทันไอ้พีทที่แสลนมาก่อนหน้าผมทุกที
“อาทิตย์นี้มาทุกวันเลยว่ะพี่ยู” น้องรักทักพลางยกแก้วเหล้าขึ้นไหว้ด้วย
“มึงก็เปรี้ยวใช่เล่น มาคนเดียวบ่อยเหมือนกันนี่”
“พวกพี่แจ๊คก็อยู่ คนเดียวอะไรพี่ เดี๋ยวพวกไอ้โจ้ก็มา” พีทพูดถึงเพื่อนปีเดียวกับมัน ไม่แน่ใจว่ากลุ่มเดียวกันหรือเปล่าเพราะไอ้พีทมันชอบอยู่คนเดียวมากกว่าไปกับพวกนั้นแต่มั่นใจว่าสนิทกันระดับหนึ่งแหละ มาไม่พร้อมกันแต่ขากลับเสือกกลับพร้อมกันทุกคืน
“พี่อั้มไม่มาเหรอพี่”
“ไม่รู้ว่ะ ไม่ได้ถาม เหม็นขี้หน้ามัน” แกล้งพูดไปงั้นครับ วันนี้วันเกิดแม่ไอ้อั้มเลยต้องรีบกลับบ้าน บ้านมันก็อยู่ละแวกหอผมแหละ ลึกเข้าไปในซอย ผมไม่เคยเข้าไปหรอกเวลามีอะไรจะเรียกมันมาหาที่หอมากกว่า พีทไม่ทันได้ถามต่อพี่ตุ้ยกับพี่แจ็คก็ยกถังน้ำแข็งมาพอดี ถึงเป็นร้านพี่ที่สนิทกันแต่ไม่ได้แดกฟรีนะครับ หารหมด รับส่วนลดมากกว่าที่อื่นเฉยๆ
“วันนี้มีโต๊ะจองด้วยเหรอพี่”
หันไปเห็นป้าย reserve บนโต๊ะยาวหน้าเวทีพอดี ปกติไม่ค่อยมีหรอกครับเลยอดถามไม่ได้ พี่ตุ้ยพยักหน้าเลื่อนแก้วตัวเองมาให้ผมตักน้ำแข็งให้
“ไอ้ปอ เพื่อนอินมันอกหัก อยากเมา แต่ปกติเที่ยวแต่ผับไฮโซไม่รู้จะไปเละเทะที่ไหนเลยตั้งใจมาแดกที่นี่”
ผมชะงักมือที่กำลังใส่น้ำแข็ง ไอ้อินมาด้วยหรือเปล่าวะ สองสามวันนี้ผมยังเจอมันนะครับ ช่วงเย็นๆมันมารับไปกินข้าวบ่อยๆ แต่ไม่ค่อยได้คุยกัน นึกออกไหมครับ คืออยู่ในอารมณ์ตึงๆ พอมันกลับไปผมถึงได้มากินเหล้าแบบไม่ง้อใครอย่างทุกวันนี้นี่แหละ อินมันคงรู้เช้าๆเลยไม่มาวอแวด้วย กว่าผมจะฟื้นก็โน่น เกือบเที่ยง ยกเว้นวันที่มีเรียนจะตื่นเร็วหน่อย
“มึงติดต่อไอ้เฟยได้ยัง”
“ได้แล้วพี่ ก่อนออกมาเพิ่งได้รับเมลไฟล์งานที่พี่แกทำไว้มาให้ดู ส่งพวกตัวอย่างงานในต่างประเทศมาด้วย ผมแทบไม่ต้องค้นเพิ่มเลย”
พี่ตุ้ยกับพี่แจ็กพยักเพยิดให้กัน “กับน้องเทคมันยังไม่ใจดีขนาดนี้เลยนะยู”
“พี่อย่ามาอำ น้องเทคพี่เฟยซิ่วเหอะ ไอ้พุฒ เพื่อนโรงเรียนผม จำได้”
พวกรุ่นพี่นี่ก็แปลกครับ ชอบยัดเยียดผมให้พี่เฟย จริงๆผีเห็นผี ผมมองออกตั้งแต่แรกแล้วว่าพี่เฟยเป็น ตอนแรกก็คิดจะจีบอยู่หรอก เป็นผู้ชายหน้าสวยแบบสวยมาก สวยอันตราย หน้าเรียว ตาตี่แบบลูกคนจีนแต่จิกๆหน่อย ประเด็นคือยังไม่ทันได้ลงมือแฟนพี่เฟยก็มาอาละวาดผมแล้ว ที่ไม่ไฝว้ท์ไม่ใช่เพราะกลัวแฟนมันนะ แต่ไม่ไฝว้ท์เพราะผมรู้นาทีนั้นว่าพี่เฟยแม่งเป็นรุกหน้าหวานแบบที่โหดเชี่ยๆต่างหาก ถอยสเปคกลับมาเป็นเกย์สาวๆแทบไม่ทันเลยครับ
“นั่นไง พูดถึงก็มากันเลย”
พี่ตุ้ยพยักเพยิดไปยังกลุ่มนักศึกษาที่มาใหม่ ออร่าจับมาก เห็นแล้วสะดุดตาทันที เปล่าครับ ไม่ใช่ไอ้อิน แต่คนที่เดินตามมันมาในร้านต่างหาก หล่อแบบอินทรีเฉาไปเลยงานนี้
“พี่ตุ้ยหวัดดีครับ”
“ไงมึง ได้ข่าวว่าโดนทิ้ง สาวที่ไหนวะเขี่ยหมอปอลง”
“โห มาถึงก็ซ้ำแผลเลยนะครับ จี๊ดมาก” ไอ้หล่อยิ้มขื่น คุยกับพี่ตุ้ยอย่างสนิทสนม ส่วนผมก็มองเพลินครับ เตี้ยไปหน่อยแต่หล่อให้อภัย มันยกมือไหว้พี่แจ็ค ไอ้พีท กราดมาถึงผม เออ จริงอย่างไอ้พี่ตุ้ยว่า สาวไหนทิ้งมันลง โคตรโง่เลย
“ไอ้ปอ ไปที่โต๊ะเหอะ”
อินทรีไม่ทักใครทั้งนั้น เดินมากระชากคอเสื้อเพื่อนตัวเล็กจนหงายหลังแล้วจ้องผมเขม็ง หมอปอไม่รู้เรื่องอะไรด้วยหันไปมองเพื่อนมันงงๆ “อะไรครับเชี่ยอิน คุยกับพี่เขาก่อนก็ได้”
“เออ มึงจะรีบไปไหน โต๊ะกูก็จองให้แล้ว แล้วนั่นปากไปโดนอะไรมา” พี่ตุ้ยสำทับในทีแรกก่อนถามถึงร่องรอยสีเข้มบนมุมปาก จางลงไปกว่าวันแรกเยอะ แต่ยังดูรู้อยู่ว่าช้ำ อินทรีเอานิ้วโป้งแตะมุมปากตัวเองแต่ไม่ตอบ ไม่ตอบก็เรื่องของมึง กูก็ทำไม่รู้ไม่เห็นต่อไปนี่แหละ
“ไม่บอกอีก เออๆ จะไปไหนก็ไปเลย คุยกับไอ้ยูต่อก็ได้วะ แล้วยังไง เรื่องไอ้เฟยน่ะ มันให้เบอร์มาป่าว?”
พี่ตุ้ยเปลี่ยนประเด็นจนผมเกือบตามไม่ทัน ไอ้อินลากคอเพื่อนมันไปที่โต๊ะกับพวกที่เหลือแต่ยังหันมามองผมเป็นระยะเหมือนมีเรื่องอยากจะพูดแต่ก็ไม่พูด ไม่ต้องพูดหรอกกูไม่ได้อยากฟังเสียงมึง ใบ้แดกไปเลยไอ้สัด
“เปล่าครับ แต่ผมส่งเบอร์ตัวเองไปให้ตอนตอบเมลนั่นแหละ ถ้าโทรมาจะบอกแล้วกันว่าพี่ตุ้ยคิดถึง อยากแดกถั่วดำมาก”
พี่ตุ้ยหัวเราะร่าแต่ชูนิ้วกลางให้ผมเต็มๆ แซวกันแบบนี้ไม่โกรธครับ สนิทกันแล้ว ลองเป็นคนนอกพูดดิพี่ตุ้ยเชือดคอจับยัดโถส้วมแน่นอน ผมกินเบียร์ไปฟังดนตรีไป มาร้านแบบนี้บ่อยๆก็ไม่มีเรื่องให้คุยกันนักหรอก ทักกันช่วงหัวค่ำจบก็แยกกันเหล่เด็ก แต่ก็แค่เหล่นะ ไม่ได้เจอคนถูกใจให้หิ้วกลับบ่อยๆเหมือนคิวรอบนั้น
“ไอ้อินมันแปลกๆป่าววะ มองมาทางนี้หลายทีแล้ว” พี่แจ็คพูดจบผมก็หันหน้าไปมองกลุ่มมัน เริ่มเมากันแล้วโดยเฉพาะไอ้เตี้ย ชื่ออะไรวะ ปอมหรือปอ อะไรนี่แหละ
“ผมเห็นพี่เรียกเพื่อนมันว่าหมอ?”
“เออ สัตวแพทย์น่ะ เป็นเพื่อนกับไอ้อินมาตั้งแต่มัธยม”
“ดูสุภาพกว่าน้องพี่เยอะเลยว่ะ พูดเสียงนิ่มๆ เนิบๆ ไม่กระโชกโฮกฮาก”
พี่ตุ้ยหัวเราะลงคอแสดงว่าเห็นด้วยกับผม “มันเป็นผู้ชายเรียบร้อย แต่ชอบผู้หญิงนะโว้ย มึงสนอะดิ มองตาไม่กะพริบ”
“เฮ้ย บ้าดิ ไม่เปคว่ะ เห็นว่าหล่อเลยมอง ผิดเหรอ” เกย์มองผู้ชายไม่ได้ตั้งใจจะจับกินอย่างเดียวนะครับ ทำความเข้าใจใหม่ เหมือนพี่ตุ้ยนั่นแหละชอบมองผู้หญิงสวย สเปคหรือเปล่านั่นอีกเรื่อง
“เฮ้ยๆ ผมว่าเมาหนักแล้วว่ะ พี่ไปไล่กลับบ้านเหอะ”
กลุ่มที่มาด้วยกันมีผู้หญิงด้วยครับ ตอนแรกก็นั่งห่างกันอยู่เผลออีกทีก็แทบโดนสิงแล้ว พี่ตุ้ยเองก็เห็นท่าจะไม่ดีเลยลุกไปสะกิดอินทรี คุยอะไรกันไม่รู้ก่อนเจ้าของร้านจะเดินกลับมาที่โต๊ะอีกครั้ง
“ไอ้อินให้มึงไปช่วยแบกหน่อย”
“ทำไมต้องผมวะ”
“มันบอกจะไปส่งมึงด้วย ลุกเร็ว เดี๋ยวแม่งอ้วกกลางร้านกู”
ผมทำหน้าเหมือนไม่อยากวางแก้วแต่ก็ยอมวางในที่สุด รุ่นพี่สั่งนี่หว่า ไม่ได้เต็มใจแต่ต้องเดินไปหามันที่โต๊ะ พอจะช่วยฉุดแขนปอขึ้นมาไอ้อินอันปัดมือผมออกไม่ให้โดนตัวเพื่อนมัน อะไรของมึงอีกเนี่ย ไหนว่าจะให้กูช่วยไง
“เดี๋ยวพยุงเอง ไปขับรถ”
ผมรับกุญแจรถมันมาเซ็งๆ พาเดินออกไปนอกร้านแล้วเปิดประตูให้ ไอ้อินโยนเพื่อนไว้ที่เบาะหลังแต่ยังไม่ยอมขึ้น จุดบุหรี่ข้างรถ
“มึงเลิกสูบได้ปะวะ” เห็นแล้วหงุดหงิดลูกตา แสบจมูกด้วย อินทรีชะงักมือที่กำลังต่อไฟแล้วเก็บไฟแช็กลงกระเป๋า ส่วนบุหรี่ก็ปาทิ้งแถวนั้น ถังขยะก็มีไม่ทิ้งให้ลง สันดาน
“ไปไหน”
“คอนโด”
“มึงไม่มาขับเองล่ะ” อินไม่ตอบสวมตัวเข้าที่นั่งข้างคนขับ ผมชอบนะครับขับรถแรงๆสวยๆน่ะ แต่ไม่ชอบเพราะเป็นรถมันนี่แหละ แกล้งเสยต้นมะขามสักทีดีไหม จะได้เข็ดตลอดชีวิตไปเลย ใช้กูดีนัก
“ชอบมันเหรอ” เสียงมันนิ่งมาก แสดงว่าไม่พอใจมาก ผมเหลือบตาขึ้นมองกระจกหลังแต่สบตากับเจ้าของรถที่มองอยู่แล้วพอดี ใครชอบใคร ผมชอบไอ้ปอเนี่ยนะ
“เห็นมองตาไม่กะพริบ”
“ห้ามมองก็เขียนป้ายห้อยคอเพื่อนมึงไว้สิว่าจ้องมากแล้วจะสึกหรอ”
“เถียงทำไมวะ แค่ตอบว่าไม่ได้ชอบก็จบแล้ว” ก็รู้นี่หว่า ทำท่าอย่างกับหึง นี่กูชักจะงงแล้วว่า มึงหึงกูหรือหึงเพื่อนกันแน่
ผมไม่เถียงมันต่อ ปล่อยให้เสียงกรนของคนที่เมาพับด้านหลังดังสนั่นระหว่างผมกับอิน กระทั่งขับมาถึงคอนโดมันก็เตรียมกลับ แต่อินบอกให้ช่วยไปเปิดประตูห้องให้ก่อนเลยต้องเดินตามไปด้วยแบบเซ็ง ๆ ทำไมไม่ให้เพื่อนคนอื่นมาส่งวะ จะลากผมมารับผิดชอบด้วยไมเนี่ย ไอ้คนเมาก็เหลือเกิน ไม่รู้เรื่องอะไรเลยว่ากำลังทำความเดือดร้อนให้คนที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกอย่างผม
เปิดประตูห้องพักได้ก็ต้องตามเข้าไปส่งถึงห้องนอน อินทรีเหวี่ยงเพื่อนมันลงเตียงแบบไร้ซึ่งความทะนุถนอมแล้วหันมาจ้องตากับผม ท่าทางเหนื่อยอยู่แต่ดูโมโหมากกว่า
“กูกลับละ”
“เดี๋ยวไปส่ง”
“ดูเพื่อนมึงเถอะ จะวนรถไปมาทำไม”
อินทำท่าจะตามไปส่งให้ได้ผมเลยต้องขึงตามองมันดุ คนตัวใหญ่ถึงกับนิ่งเงียบเป็นรอตไวเลอร์ถูกสั่งงดอาหารทันที ดูไปดูมามันก็ตลกดี ผีเข้าผีออก นึกจะดีก็ดีเหี้ยๆ นึกจะเหี้ยเลยเหี้ยยิ่งกว่าเดิม ไม่อยากจะหยาบเลย แต่ผมไม่รู้จะใช้คำอะไรมาเปรียบเปรยแล้วจริงๆ
“ถ้างั้นถึงแล้วโทรมาด้วยแล้วกัน”
“ปัญญาอ่อน”
“ผมยอมลงให้แล้ว ไม่ไปส่งแล้ว ยูก็ยอมผมบ้างไม่ได้หรือไง แค่โทรมาบอกมันจะอะไรนักหนา!”
มันหงุดหงิดแต่ผมอารมณ์ดีครับ ไม่ตอบแต่หันหลังให้ กะเดินออกมาให้มันหัวเสียแบบนั้นต่อแต่ประเมินอีกฝ่ายที่ทำเหมือนถอยให้สุดทางแล้วต่ำเกินไป อินทรีจับบ่าของผมไว้ ออกแรงดึงนิดหน่อยให้พอจะเอี้ยวกลับแต่ไม่ได้หมุนทั้งตัวแล้วโน้มหน้าลงมาจูบที่แก้มก่อนรวบกอดผมแน่น เสียงทุ้มกระซิบแค่เบา ๆ แต่ผมกลับได้ยินชัดเจน
“เข้าใจไหมว่าให้โทรมา”
“...เพราะผมจะรอ”
TBC
ก่อนอื่นต้องกราบขอบพระคุณ j123 กับ iforgive ฮะที่ช่วยแนะนำเรื่องนี้ในนิยายน่าอ่านให้เป็นที่รู้จักกัน /พับเพียบพนมมือกราบแนบตัก/ ขอบคุณมากฮะ
ปกติไม่ค่อยได้เขียนพระเอกแนวนี้ตอนแรกกังวลอยู่ว่าจะเวิร์คมั้ย พระเอกเยอะสิ่งจ๊ะทิงจามาก ทั้งมึน ทั้งเด็ก ทั้งขี้อิจฉา เอาแต่ใจ (หรือควรพลิกบทให้นางมาเป็นเคะ ให้ยูเล่นบทพิศาลกับอินสักทีจะได้หายเกรียน) 55555+
ส่วนเรื่องน้องคิวเนี่ย ซวยลูก บอกคำเดียว คือไม่ได้ตั้งใจจะชี้ว่านางไม่ดีอะไรนะ แต่จะให้อีอินมั่นหน้าหน่อยว่าข้าเจ๋งนะ ใครๆก็ชอบ เพิ่มทั้งความอยากเอาชนะและความอิจฉาในการกระทำเดียว เชิญด่ามันได้ตามสบาย 
พุธหน้าเจอกันฮะ
อ้อ มีเรื่องขอโทษนิดหน่อย คือครั้งที่แล้วเสร่อแด่วมาก อัพนิยายลืมเปลี่ยนชื่อตอน ขอบคุณฮะที่ท้วงกันมา เขินเลย กร๊ากกก
ปล. เมื่อเพื่อนสงสัย ว่าพี่ชาย... ปิดโอนเงินวันนี้แล้วเน่อ ก่อนวันศุกร์(17) จะแจ้งยอดทางโรงพิมพ์กับสั่งซื้อของมาเตรียมห่อแล้ว ใครสนใจอย่าลืมนะจ๊ะ
ขอบคุณที่กดเข้ามาอ่านกันคร้าบบ รักนะจุ๊บ ๆ 