•.*...♥ รักเรา(ไม่)เท่ากัน ♥...*.• ตอนพิเศษ [ 6-9-58 / P.64 ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: •.*...♥ รักเรา(ไม่)เท่ากัน ♥...*.• ตอนพิเศษ [ 6-9-58 / P.64 ]  (อ่าน 837232 ครั้ง)

ออฟไลน์ L@DYMELLOW

  • กำลังงงๆ เพราะหาทางลงจาก “คาน” ไม่เจอ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +826/-4
    • facebook
CHAPTER 33 ...รัก...



“ถ้าเพื่อนคุณมาป่วนอย่างนี้บ่อยๆ ผมว่าผมคงประสาทกินแน่ๆ”

คำบ่นกระปอดกระแปดทำเอาคนที่กำลังล้างจานต้องอมยิ้ม ทิวาหันไปมองต้นตอของเสียงที่เดินใกล้เข้ามาเพื่อวางผ้าสำหรับเช็ดโต๊ะไว้ในอ่างล้างและปักหลักอยู่ที่เดิมคล้ายยังมีเรื่องต้องการบ่นต่อ ทิวาออกจะเข้าใจรัตติกาลได้ไม่ยาก เพราะบางครั้งบางคราวตัวเขาเองยังรู้สึกปวดหัวเอามากๆ ที่ต้องคอยอยู่ตรงกลางระหว่างเพื่อนสติไม่ค่อยเต็มทั้งสอง อย่างคราวนี้ก็เหมือนกัน หอบหิ้วกันมาวุ่นวายไม่ต่างจากพายุลูกย่อม แต่เมื่อทานอาหารเรียบร้อยก็ยกขบวนกันกลับทันทีโดยไม่เหลือบแลจานชามที่ยังกองอยู่บนโต๊ะแม้แต่น้อย รัตติกาลคงจะไม่ชอบใจนัก แต่เขาที่เป็นเพื่อนกันมาค่อนชีวิตนั้นชาชินเสียแล้ว

“ขอโทษด้วยนะ เพื่อนผมก็เป็นแบบนี้แหละ แล้วผมจะบอกพวกนั้นเอง”  ทิวาหันไปยิ้มอย่างขออภัยโดยมีสายตาของเจ้าของห้องมองสบตอบนิ่งๆ “จะไม่ให้มาที่นี่อีกแล้ว อย่าไปโกรธพวกนั้นเลยนะ”

“ผมพูดอย่างนั้นรึไง” เสียงทุ่มต่ำดังชิดติดใบหูพร้อมๆ กับที่เอวถูกมือสองข้างลูบโอบหลวมๆ ริมฝีปากนุ่มจ่อแนบซีกแก้มเนียนให้จั๊กจี๋จนต้องย่นคอหนี “ที่นี่ก็เป็นห้องคุณเหมือนกัน ทำไมเพื่อนคุณจะมาไม่ได้”

“อย่าบอกนะว่าคุณไม่รำคาญ?”

“แล้วคุณปวดประสาทกับไอ้กิตไหมล่ะ?” ทิวาหลุดขำกับคำย้อนของคนข้างตัว นั่นสินะ สามคนนั้นเป็นตัวปั่นประสาทชั้นดีขนาดที่ว่าคงไม่มียาตัวไหนรักษาได้นอกจากไล่ไปให้พ้นๆ “อันที่จริงไม่ต้องมีใครมาที่นี่เลยก็ดีนะ เราจะได้อยู่กันเงียบๆแค่สองคน”

และถ้าหากรัตติกาลอยากจะหอมแก้มเขาอีกสักครั้งจะทำอย่างไรได้

ทิวาได้แค่ยืนตัวเกร็งราวกับกลัวนักหนายามที่ลมหายใจอุ่นๆรินรดใกล้เข้ามา เขาน่ะชินกับริมฝีปากที่ชอบแตะนั่นประทับนี่เสียแล้ว แต่ไอ้ที่ไม่ค่อยจะชินน่ะคือความเขินอายของตัวเองต่างหาก เพราะทุกครั้งที่ได้ฟังคำพูดหวานๆ หรือถูกปฏิบัติราวกับตัวเองนั้นมีค่าเสียมากมาย หัวใจของทิวาก็เหมือนกับถูกเกาด้วยกงเล็บเล็กๆของลูกแมว เขาไม่ต่างจากหนุ่มน้อยที่เพิ่งค้นพบว่าความรักนั้นทำให้หัวใจพองฟูได้ขนาดไหน

จนถึงตอนนี้เขายังคิดถึงสิ่งที่กานดาเคยบอกได้ ‘ความรักกับคนที่ใช่ ถ้าเราหยุดค้นหาเมื่อไหร่มันจะเดินเข้ามา...’ มันเป็นคำบอกที่เขาเคยไม่เชื่อ เพราะแม้ว่าเขาจะหยุดดังที่ว่าแต่ความรักก็ไม่เคยเข้ามาให้ได้พบสักครั้ง ทั้งเหนื่อย ทั้งท้อ เนิ่นนานกับการหมดหวัง และไม่ว่ามันจะร้ายหรือดี หรือจะทำให้ต้องเสียน้ำตาไปมากแค่ไหน สุดท้าย...เขาก็ได้รัก...

“ผมช่วยนะ” ทิวายิ้มให้กับคำขอด้วยน้ำเสียงทุ่มน่าฟัง รัตติกาลคลายอ้อมกอดแล้วก้าวมายืนข้างๆ เพื่อช่วยหยิบจานล้างน้ำสะอาดแล้วคว่ำลงบนชั้นเสียเป็นระเบียบ “งานที่ทำอยู่ตอนนี้โอเคไหม?”

“ถ้าไม่นับที่ว่าอยากจะต่อยหน้าเจ้านายอยู่ทุกวันล่ะก็นะ ก็ดีครับ ผมไม่เคยเป็นเลขาให้ใครมาก่อนก็เลยต้องเรียนรู้งานเยอะ” ทิวาส่งจานใบสุดท้ายให้คนข้างๆ แล้วหันมาทำความสะอาดซิงค์ “เหมือนจะปวดหัวมากกว่างานเดิมเสียอีก”

“หึหึ ฝึกให้คล่องไว้นะ พอได้ดิบได้ดีก็ถีบหัวส่งไปเลยเจ้านายพันธุ์นั้นน่ะ”

“เห็นผมเป็นคนยังไงกัน แต่ถ้ามีใครมาเสนอโอกาสงามๆให้ก็ไม่แน่หรอกนะ หึ” ทิวาเห็นขำไปด้วย เพราะรู้แน่ว่าสุดท้ายปลายทางการสนทนาจะไปจบลงที่ประเด็นใด ทิวาสะบัดมือไล่น้ำเบาๆ เมื่อเสร็จงาน กะว่าจะใช้ปลายเสื้อเป็นที่ซับน้ำให้แห้งอย่างที่ทำประจำ แต่กลับมีผ้าสะอาดมารอคว้ามือเขาไปทั้งซับทั้งถูจนแห้ง

“อยากเสนอให้จะตายอยู่แล้ว”

“ไม่เอาหรอก เห็นกันอยู่ทุกวัน เบื่อหน้าแย่”
   
“ใจร้ายว่ะ” คนตัวโตทำหน้ามุ่ยใส่ไม่พอยังเอาผ้าเช็ดมือมาโปะใส่หน้าเขาเพื่อระบายอารมณ์เสียอีก
 
ทิวารีบดึงผ้าชื้นน้ำให้พ้นสายตาก่อนจะเดินตามร่างสูงไปด้วยรอยยิ้ม รัตติกาลเดินไปทิ้งตัวนั่งเต็มแรงกับโซฟาตัวยาวพร้อมกับเหลือบแลมองมายังเขาที่เดินมาลงนั่งข้างๆ สายตาคมเข้มมีแววน้อยใจเคลือบแฝงให้คนมองต้องรู้สึกผิดปนความหมั่นไส้ มีใครเคยบอกรัตติกาลบ้างหรือเปล่า ว่าผู้ชายอายุสามสิบไม่เหมาะกับการแง่งอนแบบนี้

“ยิ้มทำไม”   เสียงห้วนสั้นคล้ายจะหาเรื่องยิ่งเพิ่มความหมั่นไส้ให้คนฟังเป็นเท่าตัว แต่ทั้งหมดทั้งมวลเขากลับมองว่ามันน่ารักเกินกว่าจะเห็นเป็นเรื่องน่าโกรธขึ้ง

“พี่เดียวขี้งอนบ่อยจังนะเดี๋ยวนี้”   ทิวาจับปลายคางเหลี่ยมส่ายไปมาเบาๆด้วยรอยยิ้ม เขารู้สึกขบขันทุกครั้งยามที่เอ่ยสรรพนามนี้เพราะรัตติกาลจะนิ่งค้างไม่ต่างจากคนโดนหมัด และใบหน้าก็จะเริ่มส่อแววขัดเขินอย่างที่ไม่ได้เห็นบ่อยๆ   “โกรธน้องได้ลงคอเลยเหรอ”


ถึงจะรู้สึกว่ามีใครมาจั๊กจี๋หัวใจก็เถอะ แต่นานๆ พูดทีก็พอทนล่ะนะ


“ด...เดี๋ยวน้องจะโดนไม่ใช่น้อย”
   
“แล้วพี่เดียวจะทำอะไรล่ะครับ?”

ทิวาขบขันกับคำถามของตัวเองที่ไม่ต่างจากการยื่นดาบให้รัตติกาลชักออกจากฝัก แล้วหนทางแห่งการฟาดฟันจะเป็นใครได้ล่ะ...นอกจากเขาคนนี้ ดูจากสีหน้าที่ปรับเปลี่ยนเป็นกรุ้มกริ่มได้เพียงเสี้ยววินาทีอย่างกับเปลี่ยนหน้ากระดาษก็รู้เลยว่าตอนนี้ในหัวคงลืมเรื่องน้อยอกน้อยใจไปแล้วเป็นแน่


บางทีเขาก็แอบคิดว่าเลี้ยงรัตติกาลก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด


แค่สนทนากันสักนิด ออดอ้อนสักหน่อย และที่สำคัญต้องยอม ‘ให้อาหาร’ บ่อยๆ เท่านั้นเอง


“บางทีพี่อาจจะไปช่วยทิวอาบน้ำ แล้วระหว่างแช่น้ำ...พี่อาจจะช่วยนวดตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อย”   สายตาที่บ่งบอกความต้องการของรัตติกาลเผยออกมาอย่างไม่คิดปิดบัง แถมยังนำเสนอบริเวณที่จะช่วยผ่อนคลายด้วยฝ่ามือใหญ่ ไม่ว่าจะหน้าอก หรือกระทั่งซอกขา มันยิ่งทำให้ทิวารู้แน่ชัดว่าตอนนี้ไม่มีเรื่องอื่นใดในสมองของนักธุรกิจใหญ่คนนี้อีกแล้ว

“เริ่มจากการถอดเสื้อผ้าเลยเป็นไง”

ทิวาหลุดขำอย่างกลั้นไม่อยู่เมื่อเอ่ยคำเชิญชวนสุดท้ายออกไป ถ้าให้หมอจัญอธิบายคงเรียกสิ่งที่เขากระทำว่าการ ‘อ่อย’ สินะ แล้วคนที่พร้อมกระโจนเข้าใส่ด้วยดวงตาระยิบระยับตรงหน้าเขานี่เล่าจะเรียกว่าอะไร 
 
แต่จะยังไงก็ช่างเถอะ คิก คิก...ตอนนี้ถึงเวลาให้อาหารแล้วสินะ



เสื้อผ้าทุกชิ้นบนร่างกายถูกถอดออกจนหมดสิ้น เหลือเพียงกายเนื้อเปล่าเปลือยสองร่างที่โผเข้าหากันเพื่อแลกเปลี่ยนความวาบหวามจากรสจูบ มือสองคู่ต่างลูบไล้เนื้อตัวให้กันอย่างไม่รู้จักพอท่ามกลางสายน้ำจากฝักบัวที่ตกลงมาแตกกระสานซ่านเซ็นไปทั่ว ตู้อาบน้ำที่เคยคิดว่าพื้นที่เหลือเฟือสำหรับคนเดียว แต่จากหลายครั้งที่ผ่านมามันทำให้รู้ว่ามันคับแคบไปเมื่อเข้ามาพร้อมกัน

 
บางทีหลังจากนี้เขาอาจจะบอกให้รัตติกาลเปลี่ยนมัน...


หลังจากถอนริมฝีปากออกจากกันแต่ความวูบไหวก็ยังคงอยู่ รัตติกาลดึงรั้งเอวของเขาไว้แน่นจนร่างกายเสียดสีกัน พลางพรมจูบไปทั่วลำคอและลาดไหล่ ย้ำหนักแน่นเพื่อทิ้งร่องรอยความเป็นเจ้าของเอาไว้ทุกที่ที่ริมฝีปากลากผ่าน แม้กระทั่งเนินอกแบนราบยังถูกคลึงเคล้นราวกับมันหยุ่นนุ่มเสียเต็มประดา บีบบี้ดูดดึงจนยอดอกสีอ่อนแข็งสู้ปลายลิ้นที่ตวัดเลียอย่างหิวกระหาย

เสียงสายน้ำตกกระทบพื้นยังไม่อาจดังกลบเสียร้องครางด้วยความเสียวซ่านของทิวาได้ ดวงตาเหยี่ยวทรงเสน่ห์หลับพริ้ม ริมฝีปากเผยออ้าส่งเสียงกระเส่าอย่างห้ามไม่อยู่ มือหนึ่งจับยึดชั้นวางเล็กๆ ติดผนังไว้เพื่อยึดเหนี่ยวตัวเอง ส่งอีกมือขยุ้มกลุ่มผมอีกคนไว้ด้วยแรงอารมณ์ที่คุโชนขึ้นเรื่อยๆ ตามริมฝีปากช่ำชองที่จูบไซ้ต่ำลง...ต่ำลง

ทิวากัดริมฝีปากจนเจ็บยามที่ส่วนอ่อนไหวถูกครอบครองด้วยความร้อนชื้นจากช่องปากที่คุ้นเคย ทิวาก้มมองภาพตรงหน้าด้วยความต้องการอยู่ถึงขีดสุด ยามที่ส่วนแข็งขืนถูกดูดรั้งกลืนกินโดยริมฝีปากของคนรัก แต่เหมือนว่าเพียงเท่านี้ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ในส่วนลึกล้ำยังคงเรียกร้องในสิ่งที่ถูกฝึกฝนจนคุ้นชิน

เรียวขาขาวถูกยกพาดไว้บนไหล่หนาหนึ่งข้างในขณะที่ริมฝีปากของรัตติกาลยังคงทำงานไม่หยุด และเมื่อปลายนิ้วแกร่งไต่แตะไปยังเบื้องหลัง ทิวาก็แทบจะแอ่นตัวให้ด้วยความยินดีเพื่อเปิดทางให้เรียวนิ้วยาวแทรกผ่านเข้าไป เขาแทบจะรับรู้ได้ทุกข้อต่อที่คืบคลานเข้ามาในร่างจนสุดปลายนิ้วแล้วชักออกมา ส่งกลับเข้าไปอีกครั้งเพื่อหมุนคว้านไปรอบผนังนุ่ม จากเชื่องช้าเนิบนาบเปลี่ยนเป็นส่งแรงกระทั้นกระทุ้งจนร่างทั้งร่างโอนไหว


ป...ปล่...อย...”   


เสียงร้องบอกไม่เป็นผล เมื่อรัตติกาลยิ่งเร่งดูดรั้งส่วนอ่อนไหวไม่หยุดหย่อนพร้อมกับส่งนิ้วทั้งสามจ้องแทงอย่างไม่รู้เมื่อย และไม่นานเกินจะทนอีกต่อไป น้ำแห่งความปรารถนาจึงได้พุ่งออกรินรดในช่องปากรุ่มร้อน นิ้วแสนขยันรัวถี่หนักย้ำชัดยังจุดกระตุ้นส่งให้ทิวาหวีดร้องอย่างไม่อาย และเมื่อหมดสิ้นทุกหยาดหยดร่างกายก็พลันจะสูญเรี่ยวแรง

รัตติกาลปล่อยเขาให้เป็นอิสระยามที่ทรุดตัวลงนั่งไร้สิ้นแรง มองคนรักที่มีสีหน้าระเรื่อแดงที่กำลังแลบเลียริมฝีปากที่ช่วยสนองตัณหาให้อย่างถึงใจ ทิวาคล้ายคนไร้การควบคุม เขาคว้าคอคนตรงหน้าเพื่อมอบจูบที่ลึกล้ำให้พลางดันร่างตัวเองขึ้นเพื่อคร่อมอีกฝ่ายไว้ เขาได้ยินเสียรัตติกาลหอบแรงยามที่เขาจับต้องส่วนแข็งขืนไว้ เขากอบกุมความใหญ่โตที่ตั้งตระหง่าน รูดรั้งเขย่าแรงจนเจ้าของต้องผละริมฝีปากออกเพื่อส่งเสียงครางต่ำๆ ใบหน้าหล่อเหลาบิดเบี้ยวด้วยความต้องการ ตรึงสายตาคนจับจ้องด้วยความรัญจวน


ทิวาเองก็สุดจะทานทนแล้วเช่นกัน


ร่างโปร่งยกตัวขึ้นโถมกายแนบชิดกับร่างหนา แนบริมฝีปากลงกับขมับที่ปนเปด้วยหยาดน้ำและหยดเหงื่อ ในขณะที่ฝ่ามือนุ่มๆ เร่งชักของร้อนรุ่มปานหินเป็นครั้งสุดท้าย และเมื่อพร้อมพรักด้วยความต้องการ สะโพกแน่นหนั่นจึงกดลงไปบนความแข็งขืนนั้น เสียงครางดังระงมไปทั่วจนยากจะแยกว่าเป็นเสียงของใคร ความร้อนระอุค่อยๆ ลึกล้ำดำดิ่ง ราวกับถูกดูดกลืนด้วยความโหยหา ทิวาฝังใบหน้าลงกับซอกคอหนากระเส่าครางเสียงโรยแรง

เมื่อผิวเนื้อแนบสนิทโดยการเชื่อมต่อของร่างเนื้อ ริมฝีปากก็เริ่มโหยหากันอีกครั้ง ทิวายากจะบรรยายถึงความอึดอัดในตัวให้ใครอีกคนได้รู้ แต่ถึงรู้ รัตติกาลก็คงไม่ใส่ใจในเมื่อเขากำลังตอดรัดราวกับหิวกระหายแบบนี้ ทิวาเอาแต่ซบใบหน้าลงกับลาดไหล่ ปล่อยให้สองมือหนากดสะโพกเขาให้บดเบียดแนบชิดยิ่งกว่าเก่า ขยับขับเคลื่อนเพื่อเต้นเร่าในกายเขา รัตติกาลคล้ายจะคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้อีกต่อไปเหมือนทุกครั้งที่ได้แนบชิดกัน

ทิวาอมยิ้มกับริมฝีปากของอีกฝ่ายที่เริ่มซุกซนไปทั่ว ก่อนจะยินยอมไปกับเสียงสั่งการที่แสนจะเซ็กซี่ และเมื่อเขาชันขาขึ้นมาเพื่อเตรียมเดินเครื่อง รัตติกาลก็กลายเป็นลูกไก่ตัวโตๆ ที่ยอมให้เขาข่มเหงได้ตามใจ 



ทิวาตะแคงตัวเพื่อมองสบกับใบหน้าคมเข้ม ส่งปลายนิ้วเกลี่ยเส้นผมชื้นเหงื่อให้พ้นเปลือกตา มีไม่กี่ครั้งหรอกที่รัตติกาลจะหลับใหลไปในทันทีที่เสร็จกิจ ส่วนมากจะเป็นเขาเองเสียมากกว่าที่ถูกสูบเรี่ยวแรงไปจนหมดสิ้น ถูกตักตวงจนต้องพร่ำบอกให้พอ คนทำไม่ได้รู้หรอกว่ามันทรมานเท่าใดยามถูกจ้วงแทงลึกล้ำในช่องทางที่ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อรองรับ คนทำไม่รู้หรอกว่ามันน่าอายแค่ไหนกับการขยับส่ายร้องขอที่ราวกับว่าตัวเองไม่ใช่ชายฉกรรจ์  และไม่เข้าใจหรอกว่าความรุนแรงระหว่างที่ทำจะส่งผลให้ปวดสะโพกแค่ไหนในวันรุ่งขึ้น


รัตติกาลไม่รู้หรอก...ในเมื่อเขาออกจะยินยอมพร้อมใจให้เป็น


ทิวาอมยิ้มกับตัวเองยามนึกถึงลีลาน่าอับอายที่เพิงผ่านพ้นไป ใครจะไปคิดว่าลงท้ายเขาจะถูกผู้ชายด้วยกันเรียกว่า ‘เมีย’ หลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นโดยไม่ได้คิดถึงมันมาก่อน และหลายสิ่งหลายอย่างเขาก็ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้

เขาที่ตั้งมั่นกับตัวเองตั้งแต่เด็กว่าจะซ่อนอยู่ในกรอบที่ตัวเองขีดไว้ จะไม่ก้าวก่ายใคร จะไม่ยื่นเท้าเข้าไปในพื้นที่ของใครให้ตัวเองต้องบาดเจ็บ มันคือการปกป้องตัวเองในแบบที่เขาคิดได้ และมันก็ค่อนข้างได้ผลมาตลอดแม้กระทั่งกับคำพูดเสียดสีต่างๆ นาๆ ที่น้องสาวสรรหามาว่ากล่าว เขาปัดมันทิ้งไปด้วยด้วยหัวใจที่ชาชิน


แต่เมื่อมาเจอกับรัตติกาล...ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป


ผู้ชายคนนั้นล้อมลบกรอบที่เขาตีไว้ด้วยกรอบที่ใหญ่และทานทนกว่า และทำการลบรอยเส้นที่เขาตีไว้อย่างยากลำบากออกทีละน้อยจนไม่เหลือเหรอ มันก็คล้ายจะเป็นสิ่งเดิมๆ หากมันมีใครอีกคนมาร่วมอยู่ด้วย มากินข้าวพร้อมกัน มานั่งพักผ่อนใกล้ๆ กัน มาเห็นใบหน้ายามหลับและยามตื่น


ไม่เคยมีสักครั้งในชีวิตที่คนอย่างเขาจะเป็นที่ต้องการขนาดนี้


ไม่เคยมีใครสักคนที่จะร้องไห้เพื่อเขา อ้อนวอนให้เขาอยู่เคียงข้าง


ความโกรธ ความเกลียด มันจางหายไปไม่ต่างจากควันที่ถูกลมพัด สายลมที่อบอุ่นอ่อนไหว และทำให้ในกายเขาเริงร่าอย่างที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน ในเมื่อเขาปรารถนาที่จะเป็นคนสำคัญของใครสักคนมาตลอด และในเมื่อเขาได้มาแล้ว ทำไมเขาต้องไปปิดกั้นสายลมนั้นไว้อีก

เขาโดดเดี่ยวมานานนักหนา แม้จะหัวเราะแต่หัวใจก็ไม่ได้อิ่มเอมเต็มที่ กินข้าวคนเดียว  นอนลำพัง ตื่นขึ้นมาเพื่อพบกับความเหงา ชีวิตที่วนไปแบบนี้ไม่ต่างจากเดินอยู่บนลูกกลมๆ รัตติกาลทำให้เขาเริ่มเกลียดสิ่งเหล่านั้น เกลียดความรู้สึกที่ว่าโลกทั้งใบมีตัวเองลำพัง แค่คิดมันก็ทำให้เขากลัวว่าตัวเองจะกลับไปอยู่ในจุดนั้นอีก

ทิวาเบียดตัวเข้าชิดกับร่างหนาวาดแขนกอดก่ายไม่ต่างจากเด็กน้อยที่กลัวฝันร้าย ถ้ารัตติกาลจะอยู่คู่กับทิวาไปตลอด...ชีวิตของเขาคงเรียกว่า ‘มีความสุข’ ได้อย่างเต็มปากเต็มคำสักที




ไม่กี่วันต่อมาก็ถึงวันทำบุญบ้านของรัตติกาล มันไม่ใหญ่โตอลังการเหมือนที่เขาคิดไว้ในหัวตามที่เคยเห็นผู้ดีมีฐานะเขาจัดกัน ไม่ได้มีแขกเหรื่อในวงสังคมใดเลยนอกจากคนที่อาศัยอยู่ในบ้านเท่านั้น จะมีผิดหูผิดตาไปบ้างก็คือตัวทิวาเองกับเอกสิทธิ์ที่ไม่ได้ร่วมอาศัยอยู่ที่บ้านนี้ แต่จะถือว่าเขาไม่ได้เกี่ยวข้องเลยก็ไม่ถูก แต่เอกสิทธิ์เนี่ยสิ?

“พี่มาเพราะเป็นญาติของทิวไงล่ะ”

คำตอบหลังจากคำถามว่า ‘ทำไม’ นั้นก็ยังทำเอาคนถามสับสนเหมือนเดิม แต่ถ้าดูจากรอยยิ้มที่แทบจะฉีกกว้างจนถึงใบหูของคนรัก กับความเจ้ากี้เจ้าการของคุณราตรีที่ให้เขาขึ้นไปเคียงคู่รัตติกาลจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยกล่าวอาราธนาพร้อมรับศีลกับพระสงฆ์แล้วนั้นมันก็ให้ดูแปลกประหลาดชอบกล ไหนจะให้ร่วมถวายสังฆทานแล้วต่อด้วยถวายภัตตาหารอีก นี่มันใช่ทำบุญบ้านของครอบครัวเกียรตินาคินทร์จริงหรือ?  แต่นั่นคือคำถามในใจก่อนที่จะได้รับพรจากพระสงฆ์ที่เจ้าบ้านนับถือเป็นอย่างมาก

“อาตมาขอให้โยมทั้งสองถือเอาฆราวาสธรรม ๔ ประการเป็นที่ตั้งสำหรับการครองเรือน ๑. คือ สัจจะ คือความจริงใจ ซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญที่สุดและเป็นรากฐานที่มั่นคงของความสัมพันธ์ที่ดีงาม จริงใจทั้งกาย วาจา และใจ
๒. คือ ทมะ หมายถึงการฝึกฝนปรับปรุง สำคัญในการจะทำให้เกิดความเจริญก้าวหน้า โยมทั้งสองต่างบ้านต่างเรือน ต่างการเลี้ยงดูต่างนิสัย สิ่งสำคัญนั่นคือการปรับตัวเข้าหากัน รู้จักข่มใจ รู้จักสังเกต ใช้สติในการพิจารณาปัญหา ในเรื่องการงานก็เช่นกัน ทมะคือคิดพิเคราะห์ เพื่อให้รู้ให้เข้าใจจึงจะสามารถปรับตัวและฝึกฝนปรับปรุงได้
๓. ขันติ หมายถึงความอดทน คนเมื่ออยู่ร่วมกัน ท่านว่าเหมือนลิ้นกับฟัน ย่อมมีโอกาสกระทบกระทั่งกัน จึงต้องมีความหนักแน่น ความเข้มแข็งในใจที่จะอดทนต่อสิ่งที่กระทบใจและกาย และความอดทนยังจะนำไปสู่เจริญก้าวหน้า ความมั่นคงที่พรั่งพร้อมไปด้วยความสำเร็จ
ประการสุดท้ายคือ จาคะ แปลว่าความเสียสละ ผู้ที่อยู่ร่วมกันต้องมีความเสียสละต่อกัน ในยามเจ็บไข้ได้ป่วย ในยามตกทุกได้ยาก จาคะเป็นเหมือนเครื่องยึดเหนี่ยวน้ำใจของกันและกัน  คำนึงถึงความสุขของกันและกัน เอื้ออาทรต่อความทุกข์ของกันและกัน
อาตมาเห็นว่าไม่มีพรใดที่จะสำฤทธิ์ผลได้หากไม่เกิดการกระทำ ดังนั้นหากโยมทั้งสองถือเอาธรรม 4 ข้อนี้เป็นที่ตั้ง ชีวิตคู่ก็จะประเสริฐยิ่งกว่าการประสารทพรใด”


ทิวาจรดมือลงกราบแนบอาสน์ด้วยดวงตาร้อนผ่าวคล้ายกับพร้อมจะผลิตน้ำร้อนๆได้ทุกเมื่อ เขาไม่กล้าหันหน้าไปสบสายตากับบุรุษที่นั่งข้างเคียงแม้จะพอจับเค้าถึงสายตาที่มองมาอยู่ก็ตาม เขาไม่คิดว่ามันจะเลยเถิดมาถึงขั้นนี้ ที่จริงด้วยความเป็นผู้ชายทั้งคู่ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำพิธีอะไรให้ยุ่งยาก แค่ผู้ใหญ่รับรู้...แค่ครอบครัวของรัตติกาลรับเขาได้ก็เพียงพอแล้วแท้ๆ

หลังจากนิมนต์พระสงฆ์ทุกรูปกลับ ก็ถึงเวลาเรียกเลือดให้ขึ้นมากองรวมกันบนใบหน้าของทิวา เมื่อผู้สูงวัยผลัดกันให้พรและผูกข้อไม้ข้อมือรับขวัญด้วยสายสิญจน์สีขาวสะอาดไม่ต่างจากงานแต่งงานแบบเรียบง่าย ในระหว่างที่เขาเอาแต่ขัดเขิน รัตติกาลเสียอีกที่ดูจะยิ้มมากกว่าทุกวัน และสุดท้ายแล้วเขาก็ได้รู้ว่าเอกสิทธิ์มาในงานนี้ทำไม


“นับจากนี้ ผมจะขอดูแลทิวเองนะครับ”


คำขอของคนรักที่มีต่อพี่ชายคนเดียวแทบจะทำให้เขื่อนน้ำตาทลาย ทิวาจำต้องเม้มปากสะกดความรู้สึกเต็มตื้นให้ไหลท่วมแค่ในอกเท่านั้น เพราะเขาคงอายจนมองหน้าใครต่อใครไม่ได้หากทำน้ำตาซึมออกมาในยามนี้

เหมือนตัวเองคือผู้ชนะ...


เหมือนว่าตัวเองได้โลกทั้งใบมาครอบครอง


เหมือนพบว่าความฝันทุกอย่างอยู่ในกำมือ


ความรู้สึกมันท่วมท้นจนบรรยายออกมาได้ไม่หมด รู้แค่ว่า... ‘ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว



...


...


...


...


“ที่รัก...ตื่นเถอะครับ”

...


...


ทิวาถูกปลุกด้วยคำพูดหวานๆ แบบนั้น แม้จะเปิดเปลือตามองท้องฟ้าแล้วยังเห็นแต่ความมืด หากเมื่อสบสีหน้าระรื่นของคนปลุกก็ทำเอาหงุดหงิดไม่ออก ลงท้ายแล้วเขาก็ต้องยอมตามใจ ลงไปเดินเล่นเรียบหาดทรายนิ่มนวลเพื่อรอดูอาทิตย์ขึ้น มันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว ในครั้งนั้นเราแค่เดินเคียงกันไปเงียบๆ หากวันนี้เราจับมือกันและกันไว้  หันมายิ้มให้กันบ่อยเสียจนคำพูดใดๆ ก็ไม่จำเป็น
วันนั้นมีความสุข แต่วันนี้มีความสุขยิ่งกว่า

เหตุการณ์เดิม กับคนเดิมๆ แต่ที่รู้สึกเปลี่ยนไปเพราะหัวใจที่มีรักแล้วอย่างนั้นหรือ มันราวกับในตอนนี้ สิ่งที่เคยคิดว่าสวยงามนั้นก็ดูราวกับจะสวยงามขึ้นเป็นเท่าทวี

แสงสีส้มฉาดฉายขึ้นพร้อมกับดวงอาทิตย์ทาบทับปนเปไปกับแสงสลัวในยามค่ำคืน เป็นเวลาที่ทิวากับรัตติกาลบรรจบกันได้อย่างสวยงามจนไม่อาจละสายตา ในคราวนี้ไม่ใช่เสื้อเชิ้ตที่เขาได้นั่ง หากเป็นตักกว้างๆ ของอดีตเจ้าของเสื้อที่ลงไปนั่งขัดสมาธิรอกับผืนทรายอย่างไม่กลัวเปื้อน อบอุ่น ปลอดภัย และทำให้หัวใจมีชีวิตชีวา เขาเอนซบใบหน้าลงกับซอกคอที่กรุ่นกลิ่นเดียวกัน ปล่อยใจไปกับภาพธรรมชาติเบื้องหน้าจนเกือบจะเคลิ้มหลับไปอีกรอบ ถ้าไม่ติดเสียงกระแอมไอขัดไว้เสียก่อน

“ทำไม”   ทิวาถามขึ้นเบาๆ จากการขยับตัวยุกยิกคล้ายจะพยายามหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง รัตติกาลยังคงมีรอยยิ้มติดริมฝีปากยามชูกล่องหลายเหลี่ยมสีดำให้เห็น แขนแกร่งสองข้างโอบล้อมร่างเขาไว้เพื่อเปิดมันออกให้เห็นต่อหน้า แหวนสองวงเรียบๆ ปักนิ่งอยู่บนเนื้อผ้ากำมะหยี่ นิ้วยาวหยิบวงที่ดูจะเล็กกว่าออกมาแล้ววางกล่องลงกับตักของเขา

รัตติกาลจับมือเขาไว้เพื่อบรรจงสวมแหวนวงนั้นเข้ากับนิ้วนางข้างซ้าย อันเป็นสัญลักษณ์ของการแต่งงาน ไม่มีคำพูดหวานหูใดออกมาจากปากดังเช่นทุกครั้ง นอกจากรอยจูบเบาๆ ที่ข้างแก้ม แต่เพียงเท่านั้นก็ตราตรึงเกินพอแล้วที่จะเก็บอยู่ในความทรงจำไปตลอด เขาหยิบกล่องใบเดิมขึ้นมาเพื่อหยิบแหวนวงสุดท้ายออกมา และสวมมันลงกับนิ้วนางข้างซ้ายของอีกฝ่ายที่ยื่นรอท่าไว้อยู่แล้ว เขาจุมพิตลงกับซอกคอหอมแทนคำรักและคำขอบคุณ

เรานั่งกันอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งแสงของวันใหม่ปกคลุมไปทั่วทุกพื้นที่  เราจูบกันอีกครั้งที่ริมฝีปาก แนบแน่น และเนิ่นนาน ก่อนจะลุกขึ้นเพื่อเดินต่อไป


เขายังจำได้...


ในวันที่รัตติกาลขอความรักจากเขา ขอไมให้เขาทอดทิ้งไป รัตติกาลบอกไว้ว่า ‘รักของเราไม่เท่ากัน’

เขาไม่รู้ว่าต้องใช้หน่วยวัดใดพิสูจน์สิ่งๆ นั้น เพราะแม้แต่ตราช่างในหัวใจของคนเรา ก็ยังโอนเอนไร้ความยุติธรรม เขาไม่โทษหรือโกรธเคืองที่รัตติกาลจะคิดอย่างนั้น และเขาก็จะไม่แปลกใจเลยหากวันข้างหน้าตัวเองจะคิดแบบเดียวกัน เพราะยามที่มีรัก ตัวเราดูจะเล็กเสียเหลือเกินถ้าเทียบกับขนาดของหัวใจ

รัตติกาลคว้ามือเขาไปกุมอีกครั้งพร้อมกับมอบรอยยิ้มอบอุ่นให้  มันทำให้เขาคิดว่าจะอย่างไรก็ช่างเถิด ต่อให้จะดูตัวเล็กไปกว่านี้จนกลิ้งไปมาบนฝ่ามือได้ แต่ที่ที่มีผู้ชายคนนี้อยู่เคียงข้างคือสถานที่ที่เขามีความสุขมากที่สุด

 
ต่อให้คิดว่า ‘รักเราไม่เท่ากัน’ แต่ถ้ามันจะ ‘รักไม่น้อยลง’ เท่านั้นเขาก็พอใจแล้ว




THE END


ไม่รู้ว่ามันจะจบสวยหรือเพียงพอกับสิ่งที่นักอ่านหวังหรือเปล่า
แต่ในความคิดของคนแต่ง มันคือการปิดฉากที่พอดีแล้ว คนทั้งคู่ฝ่าฟันมาหนักเกินกว่าจะโยนตัวร้ายใส่เข้าไปให้ต้องเจ็บอีก
นิยายเรื่องนี้ตั้งแต่แรกมันก็ดูโอเวอร์อยู่แล้ว(รึเปล่า?) แทนที่จะโยนมือที่สาม สี่ ห้า ลงไป
เปลี่ยนเป็นโยนเด็กเล็กๆ น่าตาจิ้มลิ้มเข้าไปในเรื่องดีกว่า ทิวาจะได้มีครอบครัวครบสมบูรณ์สมใจ

.....

ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ติดตามกันมาอย่างยาวนาน และแม้หลายท่านจะถอดใจรอไปแล้วก็ต้องขอบคุณตามหลังมา ณ. ที่นี้ค่ะ

....

ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ที่เป็นเหมือนน้ำมันให้รถเก่าๆ คันนี้ขับเคลื่อนไปได้ค่ะ

....

ขอบคุณทุกข้อความที่ส่งมาให้กำลังใจและถามไถ่กัน

----

ขอบคุณจากใจเลยค่ะ

----
L@DY MELLOW
[เหมียว]

ออฟไลน์ myapril

  • Tomorrow
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-3
+1+เป็ดให้ก่อนค่ะ
ประทับใจค่ะ แบบจบได้ดีมาก ลงตัวมาก
ส่วนมาก การขอแต่งงานหรือสวมแหวนที่ริมทะเลบวกกับ
บรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้นแบบนี้ จะมีคำพูดหวานๆของพระ_นาย
ทั้งหวาน เขิน น้ำตาซึม ฟินกันไป แต่คู่นี้ใช้สายตา ใช้ใจ
ความรู้สึก รัก อีกฝ่าย คุยกัน อยุ่ด้วยกันท่ามกลางความเงียบ โอ้ยยย ฟินค่ะ
ตอนที่ว่าทำบุญบ้าน แต่เป็นงานแต่งของ เดียวกับทิวา
ซีนนั้นดีใจกับทิวามากกก  ปลื้มปลิ่ม
ทั้งสองฉากนี้ เราว่าทำให้เรื่องนี้ จบได้สมบูรณ์แบบค่ะ ^^

ขอบคุณค่ะ คุณเหมียว ติดตามผลงานเรื่องอื่นอยุ่ตลอดจ้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-07-2015 13:53:30 โดย myapril »

ออฟไลน์ Altasia

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
โอ้! กว่าจะมา

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
รวมเล่มนะคะ pleaseeeeeeeee

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
ทิวเดียวจบไปอีกเรื่องแล้ว เล่นเอาน้ำตาซึมเลย T T
(แค่ตัวป่วน 3 คนนั่นทำให้ชีวิตคู่รักนี่ปวดหัวไม่แพ้ตัวร้ายในเรื่องเลยนะ หึหึ)

คุณเหมียว ขอบคุณมากๆนะคะ



เอิ่ม........... ถ้าได้ตอนพิเศษจะดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ

ออฟไลน์ Dezzerr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
มีความสุขสักทีนะพี่ทิววววของน้อง
จบได้ชุ่มชื่นหัวใจมากค่ะ อิจฉาตาร้อนมาก อยากได้แบบนี้บ้าง
ชอบตอนทิวเรียกพี่เดียว แล้วแทนตัวเองว่าน้อง
โอ๊ย มันจั๊กจี้หัวใจ  :hao5:

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
โอ้ยยย มาต่อจบเเล้ว
ขอบคุณที่เเต่งมาให้อ่านเจ้าคะ
บวกเป็ดเรียบร้อย

ตอนพิเศษๆๆๆ

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
ซาบซึ้งมาก#รอรวมเล่มค่ะ

ออฟไลน์ hembetaro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1

แอร๊ยยยยยย น้องทิวของป้าาาาา  ครองรักยืนนานนะจ๊ะ   :impress2: //รดน้ำเจ้าบ่าวทั้งสองคน ปาดน้ำตาแพร่พ

รวมเล่ม รวมเล่ม รวมเล่ม รวมเล่ม 

ปล. รอน้องต่าย ด้วยนะ อุอิๆ  :hao6:

ออฟไลน์ kungka

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มันจั๊กจี้หัวใจเหมือนมีกรงเล็บแมวมาข่วนที่หัวใจเหมือนทิวบอกเลยค่ะ ขอบคุณคุณเหมียวมานะค่ะที่มาแต่งเรื่องราวดีๆให้อ่าน
สุดท้ายขอตอนพิเศษได้มั้ยอ่า~~

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
โยนเด็กเล็กๆ น่าตาจิ้มลิ้มเข้าไปในเรื่องดีกว่า  o13

รอเลยค่ะ ช่วงนี้ยิ่งชอบดู แทฮัน มินกุกกี้ มันเซ เด็กๆน่ารัก

ทิวากับรัตติกาลจะได้สดใส มีความสุข

ออฟไลน์ EverGreen™

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-1
จบแล้วววว
สมบูรณ์แบบ  :กอด1:

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
น้ำตาคลอเลยค่ะตอนสวมแหวน  รักเรื่องนี้  รอเป็นรูปเล่มนะคะ

ออฟไลน์ Minnie~Moo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 372
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-1
หวานจนมดตอนจอแล้ว  :m1: :m1: :m1:

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ดีใจไปกับน้องทิว ได้ออกเรือนแล้วนะ
นิยายเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่เรากลับมาอ่านหลายรอบมาก อ่านถึงตอนที่เดียวนอนหลับไปพร้อมกับการดูวีดีโอของทิว เราก็จะมีน้ำตาทุกครั้ง มันรู้สึกถึงความเหงาเศร้าที่เราสัมผัสได้จริงๆ
ตอนเริ่มต้นของเรื่องเราก็มองว่ามันไม่มีความสมเหตุสมผลสักเท่าไหร่ที่ใครสักคนอยากจะได้ใครก็ต้องได้ แต่สุดท้ายแล้ว เดียวก็ได้รับบทเรียนอันสาสมของการทำร้ายร่างกาย นั้นคือการถูกทอดทิ้ง
ส่วนทิวเอง เพราะไม่เคยได้รับความรักจากครอบครัว ก็ไม่อยากให้ครอบครัวของคนรักต้องรู้สึกเป็นทุกข์ จึงยอมที่จะเจ็บเอง โดยการเดินออกมา
รอรวมเล่มนะคะ

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
ดีใจกับทิวา & รัตติกาล ด้วยจ้ะ หวังว่าจะมีเจ้าตัวน้อยเร็วๆนี้  :กอด1:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
โอ้ แม่!!!! ขอซาบซึ้งกับความสุขของทั้งคู่ก่อน

ออฟไลน์ โซดาหวาน

  • ชอบเกาหลี , คลั่ง วาย ~ , ♥ รักประเทศไทย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +102/-1
ชอบอ่ะ จบได้ดี ซาบซึ้งมว๊ากกกกกกนี่พูดเลอออ  :ling1:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ทิวาีความสุขจริงๆซีักที ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะคะ

ปล.รอรวมเล่มนะคะ T v T

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
ปลื้มปริ่มมากเหมือนไปงานแต่งน้องที่สนิทมากๆๆๆ  :mew1:

ขอบคุณ คุณเหมียว กับเรื่องราวดีๆๆๆ :กอด1: :L2: :pig4:

ออฟไลน์ veeveevivien

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
+++++บวกให้ 1 ล้านเป็ดค่ะ

สวยงามมากค่ะ จบแบบนี้ดีแล้ว อย่าทำร้ายจิตใจทิวา ด้วยการโยนมือที่ 2  3 มาเลยค่ะ

มันต้องมีบ้างแหละ ความรักเดียวใจเดียวอ่ะ

ฟินนนนน  :pig4: :L1: :กอด1:

ออฟไลน์ MUSIX

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ในที่สุดก็ Happy Ending
แอบตามอ่านเงียบๆเพิ่งจะมาเม้นท์เอาตอนสุดท้าย แหะๆ  :mew4:
ยังไงก็ขอบคุณสำหรับนิยายน่ารักๆนะคะ

 :katai2-1: :mew1: :L1:

ออฟไลน์ TOY_SKY

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
จบได้ซึ้งมากเลยย    :m15: :monkeysad: :sad11: :monkeysad:

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ตอนเห็นว่าตอนจบมานี่กรี๊ดเลย รอมานานนนน ตอนแรกที่เข้ามาอ่านเรื่องนี้คือกะเอาดราม่าล้วนๆเลยนะ แต่พออ่านๆไปแล้วมันไม่ดราม่าตามที่หวังแต่ก็เลิกอ่านไม่ลงเหมือนกัน พี่เดียวน่าร้ากกกกกเป็นคนที่ยึดมั่นในความรักและความคิดตัวเองมากอะเพื่อทิวแล้วต่อให้ตัดขาดจากครอบครัวก็ยอม แต่ก็นะถ้าพี่เดียวทำแบบนั้นทิวก็ไม่ยอมนั่นแหละ ขอบคุณคนแต่งนะคะที่มาต่อให้จนจบ อยากอ่านเรื่องของคู่ป่วนที่เป็นเพื่อนทิวาอะคิดว่าน่าจะฮากันใช้ได้

ออฟไลน์ ขนมโก๋

  • เป็ดหัวเน่า
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-0

ออฟไลน์ Aimiya

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
งดงามมมมมมมมมมม เป็นตอนจบที่งดงามมาก ดีใจกับทิวาและรัตติกาลจริงๆ^^

ออฟไลน์ b2friend

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
จบได้หวานซะ... :mew1:..
แบบว่าอยากได้ตอนพิเศษค่ะ :mew6:

ออฟไลน์ ๐๐ตะวัน๐๐

  • ๐๐๐ลูกตาล๐๐๐
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
จบแล้ว ขอบคุณมากค่าสำหรับนิยายสนุกๆ

เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้เราร้องไห้เยอะมาก

เขียนดีมากค่ะเล่นเอาเราอินสุดๆไปเลย  :pig4:

ออฟไลน์ retrot

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เป็นคนหนึ่งนะคะ ที่อ่านกระต่ายหมายจันทร์แล้วชอบมาก ไม่ได้ดูว่าใครแต่ง แล้วบังเอิญได้มาอ่านเรื่องนี้ ก็ชอบค่ะ แล้วมาเปิดดูว่าใครแต่ง อ่าว เป็นคนเดียวกันหรอ ไม่บ่อยนะคะที่เรื่องที่เราชอบมากๆ จะเป็นของคนแต่งคนเดียวกันโดยบังเอิญ 55555 ตอนที่อ่าน น้ำตานี้ไหลเป็นสายน้ำเลยค่ะ อินมาก ส่วนตัวชอบมากเดียวมากนะคะ แต่ก็คิดว่าทิวยังรักเดียวน้อยไปจริงๆ แต่ถ้าเขาคิดว่ามันดี เราก็ เอาเถอะ ดีก็ได้ อยากให้ครอบครัวของทิวเจออะไรหนักๆมากกว่านี้ แต่ก็อย่ามีให้เรื่องมันยุ่งวุ่นวายไปกว่านี้เลย เราลองคิดนะคะ ว่าครอบครัวนั้นจะเป็นยังไงต่อ อารมณ์ก็อาจจะเหมือนเหมือนสุขทั้งๆ ที่ก็ทุกข์ คือพ่อทิวก็จะรู้สึกผิดตลอดเวลา ทั้งกับทิวและครอบครัว แม่เลี้ยงก็คงรักพ่อทิวอยู่ แต่ก็ไม่สามารถไม่คิดอะไรแล้วแบบจริงๆ เวลาผ่านไป ก็คงยากที่จะไม่คิดอะไรเลย ความรุ้สึกเหมือนจะน้อยลงแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มี ซึ่งเราก็ สมน้ำหน้า สะใจค่ะ 555555 ก็เราเข้าข้างทิวเน้าะ
อยากให้มีตอนพิเศษจังค่ะ อยากเห็นโมเมนต์ที่แบบทิวเป็นคนไล่ตามเดียวบ้าง แต่ยังไงเราจะติดตามนะคะ สู้ๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด