▓▒░ อุบัติรักเร็วเกินเหตุ ░▒▓By TRomance ตอนพิเศษสั้นๆวาเลนไทน์ P.78 [15.02.58]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ▓▒░ อุบัติรักเร็วเกินเหตุ ░▒▓By TRomance ตอนพิเศษสั้นๆวาเลนไทน์ P.78 [15.02.58]  (อ่าน 726124 ครั้ง)

ออฟไลน์ naja-kitase

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-0
อ่าา ขอโทษที่มาตามอ่านตอนที่โพสจบแล้ว
เพราะห่างหายจากการอ่านนิยายไปสักพัก
แล้วก็ว่างพอที่่จะตามอ่านนิยายได้ TRomance นี่ยังคงสนุกไม่เปลี่ยนเลย
ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เมตตาน่ารักสุดๆ
หรรษาก็แมนได้ใจมากกกกกกกกกกกก
พล๊อตเรื่องแปลก แต่สนุก แถมได้แง่คิดอีกตั้งหลายอย่าง
ในเรื่องนี้คนที่นับถือสุดคือ คุณนายกาญจนา สุดยอดคุณแม่จริงๆ
ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆให้เราได้อ่านกันนะคะ
ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ kamikame

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
จบแว้วอ่าาา ฟินมาก
เมตแกแมนอะ น่าร๊ากกกกก
หรรษาสุขุมแท้เหลา
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวสนุก ๆ นะฮ๊าฟฟฟ

Yokwalkalone~

  • บุคคลทั่วไป
จบแล้ว...ไม่อยากให้จบเลยค่ะ :m15:
เรื่องนี้สนุกมากๆรู้สึกประทับใจมากค่ะ
ให้ข้อคิดดีๆหลายอย่างซึ่งทำให้ทัศนคติของเราเปลี่ยนไปเลย
...รักเมตรักหรรษา รักตัวละครทุกตัวนะคะ....
ขอบคุณทั้งคุณนักเขียนและคนโพสที่ทำให้เราได้มีโอกาสอ่านนิยายดีอย่างนี้นะคะ
 :L2:

ออฟไลน์ mint_852

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 734
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
ชอบเมตตามากอ่ะ :-[
น่ารัหแบบใสๆ ซื่อๆ
บางทีก็ไม่ได้หัวถั่วเลย
ชอบตอนที่เมตกับหรรษาอยู่ด้วยกันมาก
คู่นี้น่ารักสุดๆ :ling1:
ขอบคุณที่แต่งมาให้อ่านนะคะ
อยากอ่านตอนพิเศษด้วยอ่ะ
แต่ไม่รู้จะมีรึป่าว :mew2:

ออฟไลน์ NewYearzz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2544
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +346/-2
คือแบบไม่ได้มาอ่านตอนจบสักที ทั้งที่ตามเรื่องนี้มาตลอด  :m23:

อ่านตอนจบแล้วฟิน สุดท้ายแล้วแม้มันจะเกิดเร็วแต่เค้าก็ขาดกันไม่ได้ซะแล้ว :กอด1:

ขอบคุณนะครับที่เขียนเรื่องดีๆออกมาให้ได้อ่านเสมอๆ :pig4:

เรื่องงาน สู้ๆนะครับ ผมขอเป็นกำลังใจให้  :L2:

ออฟไลน์ akeins

  • ชีวิตเรา Undo ไม่ได้
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
อ่าว! จบแล้วแห๊ะ (รายละเอียดการรวมเล่มหน้า 73)

.
.

อยากบอกว่าชอบเรื่องนี้มากเลยค่ะ เรียกได้ว่าได้เห็นอีกแง่มุมของสถาบันช่างฯเลย ^^

 :pig4:

ออฟไลน์ [€]ŝĊörŦ

  • ความพยามครั้งที่100 ดีกว่าคิดท้อถอยก่อนที่จะทำ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2077
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-0
ชอบครับ เรื่องสนุกมากมาย ขอบคุณมากครับ

ออฟไลน์ CorNnE PRiNCeS

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4

จบไปแล้ว
แต่คาใจ นิสนึง อ่ะ  :katai1:

1. บ้านใหญ่จะเป็นไงมั่งหนอ ไม่ได้โผล่สีกตอนเลย น่าสงสาร โดนพาดพิงอย่างเดียว  :katai3:

2. สรุป พ่อมึง กะ แม่กู ได้กัน ซะงั้น  :mew1:

3. แอน ท้องกะใคร ในเมื่อ เพทาย เป็นหมัน  :katai1:

4. อยากให้ หรรษา เมตตา โตกว่านี้ ค่อยจบ แบบว่า อยากติดตาม อ่ะนะ  :hao6:

5. เมตตา มึนจนตอนสุดท้าย ช่วงสุดท้าย  :hao3:

“อ๊ะ เดี๋ยวก่อนหรรษา”  :hao4:
“หืม เป็นไรไปเหรอ กลัวหรือว่าไม่พร้อม”  :serius2:
“ไม่ใช่ทั้งสองนั่นแหละ กูแค่จะถามว่ามึงมีถุงยางแล้วเหรอ”  :-[
“อยู่ดีๆทำไมถามหาถุงยาง หรือว่ามึงอยากได้รสชาติใหม่ๆนอกเหนือจากรสธรรมชาติของกูใช่มั้ย”  o22
“เปล่า แต่แม่บอกว่าเวลามีอะไรกับใครต้องใส่ถุงยางนะมึง”  :z1:
“แล้วถ้ามีอะไรกับผัวตัวเองล่ะ”  :angry2:
“สะ สดก็ได้มั้ง”  :oo1:

แต่ก้อนะ มีผัวมั่ว หัด ใช้มั่งก้อดี นะลูก  :hao6:

แต่ก้อขอบคุณมากมายคับ

ที่เหลือ ไป จิ้น ต่อกันเองคับ  :haun4:

 :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ Seiki

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 838
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2726/-64
▓▒░ อุบัติรักเร็วเกินเหตุ ░▒▓


ตอนพิเศษ 1 ความเปลี่ยนแปลงของถั่วงอกบนทิชชู่ชื้นๆ


เมื่อผมก้าวเข้ามาเป็นเด็กช่างเต็มตัว!!
สิ่งแวดล้อมเปลี่ยน ทำให้ผมเองเปลี่ยนไปแบบไม่รู้ตัว
ไม่รู้ตัวเลยจริงๆ


“เมตมั่นใจนะว่านั่นแค่แกเจาะช้อนกันจานเฉยๆอะ”
ผมมองจานข้าวตัวเองสลับกับหน้าแม่งงๆ คือผมแค่กินข้าว แล้วกับข้าวมันอร่อย แล้วความอร่อยมันก็วาบเข้าท้องไปอย่างกับธรณีสูบ ผมเลยอยากกวาดเก็บทุกความอร่อยไว้ให้ได้มากที่สุดด้วยการกวาดข้าวในจานไม่ให้เหลือสักเม็ด แต่แม่ก็ดุ เพราะอะไรก็ไม่รู้
“ยังจะมองหน้าหาเรื่องอีก”
ผมผวา แม่เริ่มเสียงดัง
“เมตยังไม่ได้พูดอะไรสักคำเลยนะแม่”
“ก็นั่นแหละ แม่อ่านสายตาแกได้ เบ่งแกออกมาทำไมจะไม่รู้วะ”
“แล้วตกลงเมตทำอะไรผิดอะ ไม่รู้จริงๆนะเนี่ย”
“แกเคาะจานเสียงดัง”
แค่นี้อะนะ ไม่เห็นรู้สึกว่ามันแปลกไปเลย บางทีแม่อาจจะหงุดหงิดเพราะวันนั้นของเดือน หรือไม่ก็งอนพ่อหรรษาอยู่ตามประสาของคุณนายกาญจนาที่มีแฟนตามใจก็เป็นได้
“ไอ้เมต วิ่งลงบันไดเบาๆแบบชาวบ้านเค้าบ้างจะได้มั้ยวะ ไอ้ลูกคนนี้ มีผัวกับเขาได้ยังไงวะ ยังกะม้าดีดกะโหลก”
แต่พอแม่บ่นหลายๆครั้งเข้า ผมก็เริ่มจะสงสัยตัวเองเหมือนกันนะ
ในวันที่ผมกับหรรษาแวะกินก๋วยเตี๋ยวข้างทางเพราะรถติดจนท้องไม่ไหวจะทน คนใกล้ตัวผมนอกจากแม่แล้วคงจะมีมันนี่แหละที่เห็นทุกความเปลี่ยนแปลงในตัวผม
“หรรษา”
ผมเรียกมันเสียงแผ่วอย่างคนที่ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง
หรรษาเพียงแค่เงยหน้าขึ้นมามองพร้อมกับตะเกียบคีบลูกชิ้นที่กำลังจะจ่อเข้าปากแล้วพยักเพยิดให้ผมพูดต่อเท่านั้น
“มึงว่ากูเป็นไงมั่งวะ”
มันปล่อยลูกชิ้นในมือลงชามก๋วยเตี๋ยวอีกครั้ง หลังจากนั้นมันก็มองหน้าผมจนเหมือนจะทะลุเข้าไปข้างใน
“มึงป่วย”
“ป่วยบ้านมึงดิ คนป่วยที่ไหนจะออกมาเดินตะลอนๆกับผัวได้ขนาดนี้วะ เนี่ย แล้วร้อนขนาดเนี๊ยมึงยังชวนกูแดกก๋วยเตี๋ยวริมทางอีกนะหรรษา”
“เมื่อก่อนจะร้อนจะฝนจะทนลำบากแค่ไหนไม่เห็นมึงจะบ่น ทำไมวันนี้บ่นล่ะ”
หรรษาถามเสียงเรียบ ดูมันอารมณ์ดีเป็นปกติ แต่ผมสิ ทำไมผมหงุดหงิดจัง
“ก็แม่ขยันบ่นอะดิ แต่กูก็ไม่รู้ว่าอะไรที่เปลี่ยน”
“ก็ถูกแล้วนี่หว่า ถ้ามึงรู้ตัวเองตลอดเวลามึงก็จะไม่เปลี่ยน แต่การที่คนเราเปลี่ยนไป ส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้ตัวกันหรอก”
นั่นสินะ...หรรษาพูดถูก
ถ้าผมรู้ตัวเองตลอดเวลา ผมคงไม่เปลี่ยนไป และถ้าผมรู้ว่าผมเปลี่ยนไปยังไงก็คงไม่มานั่งหงุดหงิดอยู่อย่างนี้
ผมเลิกตอแยหรรษาแล้วสนใจสาวเส้นก๋วยเตี๋ยวตรงหน้าต่อ ตั้งแต่ผมย้ายมาเรียนที่เดียวกับมันผมชินแล้วกับการนั่งรถส่วนตัวสบายๆ หรือโหนรถเมลล์มาเรียนก็ทำบ่อยๆ ยิ่งมีการประท้วงทางการเมืองปิดถนนหนทางแล้ว นั่งรถเมลล์ร้อนๆยังสบายกว่ากันเยอะเลย ไม่ต้องหงุดหงิดกับการอยู่กับที่เพราะผมเกลียดสิ่งนี้มากที่สุด
ผม...ไม่คิดจะยิดติดกับอะไรอยู่แล้ว บาดแผลที่มาจากครอบครัวทำให้ผมรู้ว่าอะไรๆก็เกิดขึ้นได้ ผมจะไม่ประมาทกับชีวิตและจะไม่ยิดติดกับปัจจัยภายนอกอีก
เพียงแค่ผมวางช้อนและตะเกียบสัมผัสกับชามก๋วยเตี๋ยวที่ขอดแม้แต่น้ำจนว่างเปล่าแล้วหันไปมองหาพนักงานจะสั่งชามที่สอง ผมก็ต้องพบกับสายตาที่มองผมราวกับว่าผมมาจากดาวอีกดวงที่ไม่ใช่โลกมนุษย์ นี่ผมเปลี่ยนไปในทิศทางไหนกันแน่วะ เริ่มหงุดหงิดอีกละ
“เมต เป็นไรวะ ทำไมมึงดูอารมณ์ไม่ดี”
“คนพวกนี้ไม่รู้มองอะไรกูนักหนาอะดิวะ”
หรรษาอมยิ้ม
“คงตะลึงในความหล่อของมึงแล้วก็อึ้งที่ควงคนหน้าตาดีมากอย่างกูมามั้ง
“เหรอ งั้นคนหน้าตาดีสั่งก๋วยเตี๋ยวให้กูอีกชามได้ปะ”
“นี่ยังไม่อิ่มเหรอวะ บอกก่อนนะเว้ย อ้วนไม่รักนะ”
คราวนี้ผมอึ้ง ไม่รู้แม่งขู่จริงขู่เล่น หน้าแม่งนิ่งและขรึมจนหวั่นใจ
“ไม่กินแล้วก็ได้”
ผมทำเสียงอ่อย ไม่ใช่ว่าไม่อิ่มหรอก แต่ก็วยเตี๋ยวร้านนี้อร่อยมาก ขนาดว่าอยู่ไกลจากวิทยาลัยผมยังดั้นด้นขอให้หรรษาพามากิน
“กูล้อเล่น อย่างมึงกว่าจะเรียกว่าอ้วนต้องแดรกภูเขาเข้าไปทั้งลูกอะเมต กูไม่ได้รักมึงที่หุ่นซะหน่อย”
“แล้วรักกูที่อะไรล่ะ”
อย่าลืมนะ สำหรับหรรษาแล้ว ผมเป็นได้แค่ไอ้หัวถั่ว
“ลีลามึงดี กูชอบ”
ผมตาโต อย่างน้อยความสามารถผมก็มีพอที่จะมัดใจหรรษาได้ละนะ
“ลีลาไหนล่ะที่มึงว่าดี”
ผมลุ้น
“นอนแข็งทื่อดี ให้ทำอะไรก็ทำ ให้ร้องก็ร้องซะเสียงดังเลยไง”
“ไอ้เชี่ยหรรษา จำไว้เลยนะมึง ล้อกู”
“กูล้อเล่น เห็นมึงดูกังวลๆมาตั้งแต่เช้าละ จะเอาอะไรล่ะ เดี๋ยวกูสั่งให้”
“เอาหมี่หมูตับหมก”
ผมบอกเสียงงอนๆ แต่หรรษากลับหัวเราะร่วน ตะโกนสั่งพนักงานให้สองชามเลย คราวนี้ผมต้องมองหน้ามันแทน ใครจะกินหมดวะ แค่อยากเฉยๆ ไม่ได้กระเพาะมหาสมุทรอย่างนั้นซะหน่อย
“กูกินไม่หมดหรอกนะสองชามอะ”
“ใครบอกว่าจะให้มึงกินทั้งสองชามล่ะ”
“แล้ว....”
“อีกชามกูกินเองเว้ย อย่างน้อยก็ไม่ได้ปล่อยให้มึงอ้วนคนเดียวไง”
เสร็จสิ้นจากการเดทแบบสวีตสุดติ่ง(?)ของคู่รักเด็กช่างอย่างผมกับหรรษาแล้วเราก็ดินฝ่าแดดไปเรื่อยๆจนถึงคอมมูนิตี้มอลล์แห่งหนึ่งย่านเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา หรรษามันจะมาซื้อของให้ลูกสาวของมันเพราะค่ำๆเราจะแวะเยี่ยมอังซังกันก่อนจะกลับบ้าน
ในขณะที่หรรษาเลือกหาของฝากลูกสาวเป็นกระเป๋าสวยหวานและหมวกใบเก๋ที่คนขายมองตาค้างอย่างไม่เชื่อสายตาว่าคนอย่างหรรษาจะเลือกของอย่างนี้ได้ ก็หน้าตาของมันน่าจะมาถามหาปืนลูกซองหรือไม่ก็ระเบิดเด็กเล่นมากกว่าจะเป็นของสวยๆงามๆได้
“หนึ่งพันสองร้อยแปดสิบค่ะ พี่คิดแค่พันเดียวก็พอ ซื้อไปฝากแฟนเหรอคะ เข้าใจเลือกนะคะเนี่ย ตอนนี้เค้ากำลังนิยมกันเลยล่ะค่ะ”
ผมทำหน้าแหย ไม่กล้าออกตัวให้แม่ค้าต้องเงิบว่าแฟนของหรรษายืนอยู่ข้างๆมันเนี่ยแหละและเป็นคนควักเงินออกมาจ่ายค่าของให้มันด้วย
หรรษาให้ผมคอยดูแลค่าใช้จ่ายของเราสองคนครับ!!
“ซื้อไปฝากลูกสาวครับพี่ แฟนผมมันไม่ชอบของพวกนี้หรอกครับ มันเล่นปืนผาหน้าไม้หรือต่อยมวยไปเลยครับ”
โห!! เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าผมแมนขนาดนี้ แต่ก็ยิ้มกริ่ม ส่วนแม้ค้าน่ะเหรอ เหวอไปเลยครับ ไม่แน่เขาอาจจะคิดได้แล้วว่าแฟนของหรรษาก็คือคนที่มาด้วยกันกับมันเนี่ยแหละ
“มึงพูดแบบนั้นพี่เค้าจะคิดยังไงวะ แม่ง มึงนี่มันไม่แยกแยะจริงๆเลย”
ผมเดินไปตบบ่าหรรษาที่ยังคงเดินดูของต่ออย่างไม่สะทกสะท้าน
“กูพูดความจริง ทำไมต้องแยกแยะ ก็มึงไม่ได้ชอบกระเป๋าผู้หญิงจ๋าหรือว่าหมวกผู้หญิงแบบนี้นี่หว่า”
“ก็ถูกเว้ย แต่มึงไม่เห็นต้องบอกเค้าเลย แค่ยิ้มๆนี่มันยากเหรอวะ ไม่ต้องโต้ตอบกับเขาก็ได้”
“เดี๋ยวเค้าไม่รู้ว่าแฟนกูแมนแค่ไหนไง”
ผมขี้เกียจจะเถียงกับมันต่อ ได้แต่ระอาใจ มันจะแปลกน้อยกว่านี้หรือเปล่าวะถ้าผมตุ้งติ้งไปซะ แล้วให้หรรษามันแมนคนเดียว เพราะเมื่อแมนชนแมนแล้วมันดูแปลกๆ ดูน่าระทึก ดูเป็นตัวประหลาดในสายตาคนพบเห็นไงไม่รู้
เราเดินดูของกันแบบไม่รีบเร่ง มีของขายเยอะแยะแต่ร้อยละแปดสิบเป็นของผู้หญิง ผมเลยไม่ตื่นตาตื่นใจสักเท่าไหร่ แต่ดูหรรษาสนุกกับการชอปปิ้งมาก ผู้ชายตัวใหญ่ๆ ที่พร้อมจะมีเรื่องกับใครได้ตลอดเวลาอย่าหรรษากำลังก้มลงเลือกตัวร้อยสายชาร์ตแบตสีหวาน
มันพึมพำของมันคนเดียวว่าโทนสีไหนซื้อให้ใครอย่างมีความสุข
อันที่จริงถ้าว่ากันเรื่องความเหมาะสมแล้ว ผมน่าจะเป็นฝ่ายนั่งลงเลือกของน่ารักๆมากกว่ามันนะ แต่ผมกลับไม่ชอบเลย แต่ก็รอได้ไม่เบื่อ
“เมต ไม่ซื้ออะไรไปฝากอังซังเลยเหรอ”
“ก็มึงเหมาซะหมดตลาดแล้วอะ กูจะซื้ออะไรได้อีก”
แม้ปากผมจะพูดกับหรรษาแต่ว่าสายตาผมก็สอดส่องของที่สนใจไปทั่วตลาดเหมือนกัน ตลาดแห่งนี้เป็นตลาดที่วางของขายกับพื้น มันเลยโล่งมองเห็นกันหมดแทบจะทุกร้าน ผมสะดุดตากับร้านที่ขายของเล่นสำหรับเด็กผู้ชายที่วางขายคู่กับอุปกรณ์แต่งรถจักรยาน
“หรรษา ไปร้านนั้นกัน”
ผมเดินนำมันมายังร้านที่มีแต่เด็กวัยรุ่นชายยืนล้อมกันอยู่เต็มร้าน ส่วนใหญ่กำลังเลือกซื้ออุปกรณ์แต่งรถจักรยานกันแต่ผมกลับสนใจไฟฉายอันเล็กๆสีเงินวับทรงกระบอกอันจิ๋วที่มีไฟหลากสี ดูมันเป็นอุปกรณ์พกพาธรรมดาๆแต่คนขายกลับโฆษณาว่ามันเป็นทั้งอุปกรณ์ให้แสงสว่างและอุปกรณ์ป้องกันตัวได้ มันมีตัวช็อตไฟฟ้าอยู่ข้างในและเป็นมีดปลายแหลมพกพา
“กูเจอของฝากอังซังแล้วล่ะหรรษา”
ผมยิ้มทั้งใบหน้า
“ตุ๊กตาแฮนดิคราฟร้านโน้นใช่มั้ย กูก็มองอยู่ สวยดี ไปดิ ไปดูกัน”
“เปล่า กูหมายถึงไอ้นี่ต่างหาก”
ผมชี้ให้หรรษาดูของที่คนขายกำลังโฆษณาอยู่อย่างเมามัน ผมชอบพ่อค้าคนนี้มาก เขาสามารถสร้างมูลค่าจากของธรรมดาๆให้เป็นของดีครอบจักรวาลได้จนต้องควักเงินซื้อมาเลย
หรรษามองถุงในมือตัวเองสลับกับของที่ผมเลือกหาให้อังซังหน้าปุเลี่ยนๆ
“ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปจริงๆด้วยนะ”
ตอนแรกผมไม่เข้าใจสิ่งที่หรรษาพูดมาหรอกแต่พอมาคิดดูดีๆแล้วก็พอจะเดาได้ว่ามันหมายถึงอะไร
“มึงไม่ได้เปลี่ยนไปหรอกหรรษา กูว่ากูก็คงไม่ได้เปลี่ยนอะไรไปเหมือนกัน”
หรรษาอ่อนโยนแบบนี้มาตั้งนานแล้วผมจำได้ ผมยังจำผู้ชายตัวโตที่นั่งหลังขดหลังแข็งเย็บกระเป๋าผ้าให้อังซังในวันที่เราทะเลาะจนถึงกับเลิกกันในวันนั้นได้ มันยังคงเป็นผู้ชายที่แข็งนอกอ่อนในเหมือนเดิม
ส่วนผม ผมคิดว่าผมไม่ได้เปลี่ยนไปเพราะที่ผ่านมานั้นผมไม่ได้แสดงออกในสิ่งที่ผมเป็นออกมาให้ใครได้เห็น คนถ้ำอย่างผมยังคงกลัวที่จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาเท่านั้นเอง แต่พอวันนี้ผมมีความกล้ามากขึ้นแล้ว มันก็เลยดูเหมือนผมเปลี่ยนไป
การเดินทางไปทาอังซังหรรษามันเลือกที่จะนั่งแท็กซี่ไป ไม่ใช่มันอยากให้ผมสบายอะไรหรอก ผมเองก็ไม่ได้ต้องการอะไรอย่างนั้นด้วย ผมอยากง่ายๆลุยๆอยู่แล้ว ยิ่งไม่อยากให้ใครมาดูถูเพราะรูปลักษณ์ภายนอกผมไม่เอื้ออยู่ หรรษาเองก็ใช่ว่าจะเป็นแฟนที่อะไรๆก็นึกถึงเมียก่อนไปซะทุกเรื่องหรอก อย่างที่รู้ๆกันดีว่าเราสองคนเป็นผู้ชาย มันเลือกที่จะไปแท็กซี่ตอนที่อากาศกำลังดีและร้อนน้อยกว่าตอนที่มันลากผมขึ้นรถเมล์ซะอีกเพราะมันกลัวว่าจะไปหาลูกมันดึกเกินไป เกรงใจพ่อแม่จริงๆของอังซัง เพราะบ้านของลูกสาวมันนั้นไม่ได้มีพื้นที่ส่วนตัว มันเป็นเพียงกระต๊อบหลังเล็กๆที่รวมทุกฟังก์ชั่นในพื้นที่เดียวกันยกเว้นแค่ห้องน้ำเท่านั้นเอง
เดี๋ยวนี้หรรษาชวนผมมาหาอังซังบ่อยขึ้น เพราะอังซังเริ่มโตเป็นสาวแล้ว แม้ว่าอังซังจะเป็นสาวห้าวที่เล่นสเก็ตช์บอร์ดผาดโผนไม่แพ้ผู้ชาย แต่อังซังก็เริ่มมีเค้าความสวยตามประสาสาวแรกรุ่นแล้ว หรรษามันห่วงลูกมันไม่ต่างจากพ่อกับแม่จริงๆซะด้วยซ้ำ มันค่อนข้างจะภูมิใจที่ปั้นเด็กคนหนึ่งให้แข็งแกร่งตามความตั้งใจของมันได้
“มึงไม่คิดว่าพ่อกับแม่อังซังเค้าจะคิดว่ามึงเลี้ยงต้อยลูกสาวเค้าเหรอวะหรรษา พออังซังโตเป็นสาวที่เราเทียวไปเทียวมาบ่อยจังเลยนะเว้ย”
ผมออกความเห็นขณะที่เราลงจากแท็กซี่และแวะซื้อไอติมแท่งข้างทางเดินกินกันมาขณะที่ลัดเลาะเข้าถนนเส้นบ้านอังซัง
“ทั้งๆที่เอามึงมาด้วยทุกครั้งเนี่ยนะ” มันถามกลับ
“แต่บางทีพ่อแม่อังซังอาจจะไม่รู้ว่ามันมีเรื่องแบบนี้ในสังคมนะเว้ย”
“ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นเหมือนมึงนะเว้ยหัวถั่ว แค่กูแตะเนื้อต้องตัวมึง จับแขน ลูบหัว แค่นี้คงไม่ต้องล้มตัวลงไปนอนทับกันก็คงเข้าใจมั้ง”
ผมอมลมไว้เต็มแก้ม ครุ่นคิดจะเถียงหรรษายังไงให้ชนะดี ผมแค่ออกความคิดเห็น แต่มันก็จริงอย่างที่หรรษาว่าแหละ แม้พ่อแม่อังซังจะมีโอกาสทางสังคมน้อยกว่าผมแต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะรู้อะไรๆน้อยกว่าตามไปด้วย เราเริ่มเดินกันเงียบๆเมื่อมันมาถึงเขตที่บ้านคนปลูกเรียงติดกันเป็นแถวยาว
“มึงเข้าไปอยู่เป็นเพื่อนอังก่อนนะ เดี๋ยวกูจะแวะซื้ออะไรเข้าไปกินเล่นหน่อย”
“อือ ได้”
ผมรับของมาถือไว้เอง แยกกับหรรษาตรงหน้าร้านขายของชำที่เรียกได้ว่าใหญ่ที่สุดในย่านนี้แล้ว ผมเดินตามทางแคบๆเข้าไปยังบ้านของอังซังด้วยความเคยชิน ผมมาที่นี่หลายครั้งแล้ว เรียกว่าทุกครั้งที่หรรษามาเลยดีกว่า เรามาที่นี่กันบ่อยมากขึ้นหลังจากที่เกิดเรื่องวุ่นวายของพวกเรากับแอนในครั้งนั้นแล้วความสำคัญของอังซังดูเหมือนจะถูกลดลงจนทำร้ายจิตใจเด็กผู้หญิงที่รอคอยการมาเยี่ยมของหรรษาจนกลายเป็นหยาดน้ำตาที่พร่างพรูออกมาในวันที่เรามาหาเธอหลังจากเรื่องร้ายๆได้สิ้นสุดลงแล้ว ผมเองก็ต้องอึ้งไปเหมือนกันเมื่อเห็นภาพนั้นของอังซัง เด็กผู้หญิงที่เด็ดเดี่ยวเข้มแข็งอย่างเด็กผู้ชายจะทิ้งตัวลงร้องไห้ตัวโยนเมื่อเห็นการกลับมาอีกครั้งของหรรษา
เราสองคนถึงสำนึกได้ว่า ในโลกใบเล็กๆของคนๆหนึ่งที่มีใครอีกคนคอยหยิบยื่นความรักและความปรารถนาดีมาให้ เมื่อวันหนึ่งสิ่งเหล่านั้นหายไป มันไม่ต่างอะไรกันบ่อน้ำที่เหือดหายไปเมื่อเจอทะเลทราย มันหดหู่ เหี่ยวแห้งและคงจะไร้ชีวิตชาวาและอาจจะหมดหวังไปในที่สุด หลังจากวันนั้นผมกับหรรษามักแวะเวียนมาหาอังซังบ่อยๆเท่าที่จะบ่อยได้
ในขณะที่ผมเข้าไปจนใกล้ถึงที่หมาย ผมได้ยินเสียงผู้หญิงกำลังคำรามคล้ายพลังเฮือกสุดท้ายที่กำลังดิ้นรนกำลังจะหมดลงแล้ว
สัญชาตญาณสั่งให้ผมทิ้งทุกอย่างในมือแล้ววิ่งตามหาเสียงนั้น
ผมไม่เคยจินตนาการหรอกว่าคนที่กำลังแย่อยู่คนนั้นเป็นใคร รู้แค่ว่าเขาคงอยู่ในสภาวะที่ต้องการความช่วยเหลือ และผม...นิ่งนอนใจไม่ได้
เมื่อผมมาถึงจุดเกิดเหตุแล้ว สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าทำให้ผมรีบถลาเข้าไปโดยไม่สนใจเลยว่าอีกฝ่ายจะมีอาวุธหรือมีกันมากว่าสองคนสักแค่ไหน ในเมื่อในวงล้อมของไอ้พวกนั้นคือคนที่ผมกับหรรษาตั้งใจมาหา
ในช่วงชุลมุนอังซังพยายามเอาตัวรอดจากการจับกุมเอาไว้ สองขาเตะสะเปะสะปะ ไหล่บอบบางนั่นถูกมือหยาบของพวกมันล็อคไว้ซะแน่น
“หยุดนะไอ้พวกเหี้ย”
ผมตะโกนออกไปสุดเสียง เพราะมันเร็วกว่าขาผมที่กำลังซอยสุดแรงไม่สนใจว่ามันอาจจะขัดกันจนผมล้มก่อนถึงตัวอังซังก็เป็นได้
พวกมันหยุดทำร้ายอังซังตามคาด แล้วหันมามองที่ผมเป็นตาเดียวกัน
ผมใกล้จะคว้าตัวหนึ่งในนั้นมาได้แล้ว
“พ่อเมต อย่าเข้ามาค่ะ มันมีมีด”
เสียงแหบแห้งและเบาหวิวนั้นเตือนช้าไปเสียแล้ว ผมกระชากเสื้อคนที่หันหลังให้และต่อยมันไปเต็มแรง มือผมเจ็บแต่ดูเหมือนไอ้เหี้ยนั่นจะไม่สะท้านอะไรเลย มันมองมาที่ผมด้วยความโกรธปนรำคาญ มันสวนหมัดออกมาแต่ผมตาไวหลบทันและเตะสวนมันไปอย่างคนที่ใช้สัญชาตญาณนำทางล้วนๆ ผมไม่มีทักษะการต่อสู้ในสถานการณ์จริงขนาดนี้เลย มวยที่เคยลงเรียนเอาไว้ก็อยู่ในสถานการณ์สมมุติที่เรามีสติทั้งนั้น ผมทั้งเตะทั้งต่อย มือที่พอจะละออกมาจากป้องกันตัวเองได้ก็พยายามจะดึงตัวอังซังออกมาให้ได้มาที่สุด
“ไอ้เชี่ยนี่มาจากไหนวะ เกะกะจริงๆ”
คนที่ล็อกแขนของอังซังสบถขึ้นมา
“ผัวอีนี่มั้ง”
ผมกันฟันกรอดกับความคิดของมัน ยิ่งมันทำให้ผมหัวเสียมากเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งใส่พวกมันไปไม่ยั้ง ความชุลมุนเพิ่มมากขึ้นจนพวกมันเองคงเห็นท่าไม่ดีแต่ก็ไม่วี่แววจะปล่อยอังซังเช่นกัน ในขณะที่ผมเห็นจังหวะที่จะเตะขาพับของคนที่แลกหมัดกับผมอยู่ให้ล้มลงไปแล้วขาผมก็ไวอย่างที่ใจคิด ผมเหวี่ยงขาออกไปแต่มันไม่โดนขาพับของฝ่ายตรงข้ามอย่างที่หวัง ขาผมปะทะกับของมีคมเข้าอย่างจัง มันเจ็บแปลบจนผมรู้สึกได้ แต่ผมจะหยุดหรือถอยตอนนี้ไม่ได้
“อัง อดทนหน่อยนะ อีกนิดเดียว”
ผมให้กำลังใจลูกสาวหรรษา ในขณะที่ตัวเองเลือดไหลระขาจนน่ากลัว แต่ผมไม่กลัว ความเจ็บทำให้เรี่ยวแรงผมหายไปเยอะเลย ผมยกขาข้างที่โดนมีดไม่ได้ ต้องใช้อีกข้างที่ยกไม่ถนัดเอาซะเลย ทุกอย่างยากลำบาก อังซังพยายามพูดอะไรกับผม แต่เสียงแหบแห้งนั่นทำให้ผมฟังไม่รู้เรื่อง
“พ่อเมตเจ็บ พอเถอะ อังไหวๆ อันตรายมากนะ พ่อหรรษาละคะ”
ผมได้ยินเสียงอังแล้ว ขณะที่ผมกระชับวงให้แคบลงเพื่อที่จะเข้าถึงตัวอังให้มากขึ้น อีกฝ่ายเริ่มล็อกตัวอังแน่นขึ้นอีก
ยังไม่ทันที่ผมจะตอบอะไร มีดเงาวับที่เปื้อนเลือดแดงฉานของผมไปแล้วสวนกลับมาอีกครั้ง คราวนี้เป้าหมายของมันอยู่ที่หน้าท้องหรือไม่ก็ราวนมของผม
“แส่จริงๆเลยนะมึงเนี่ย ตายซะดีมั้ย”
มันขู่รอดไรฟัน ผมหลับตารับกับมัจจุราชเล่มนั้นเพราะมันจวนตัวจนผมไม่มีทางจะหนีแล้ว เสียงฝีเท้าคนตามเข้ามาอีกหนึ่งแต่ผมไม่รู้ว่าเป็นฝ่ายไหนที่เพิ่มเข้ามา ในใจผมอุ่นวาบขึ้นเมื่อมโนไปว่าน่าจะเป็นหรรษาที่วิ่งตามมา แต่อีกใจก็กลัวว่าเราสามคนจะตกอยู่ในอันตรายกันหมด แล้วมันก็ตลกร้ายเมื่อสิ่งที่ผมคาดเอาไว้เป็นเรื่องจริง หรรษาตามมาจริงๆ และมันก็คลุกวงในตามคาด



V
V
มีต่อค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Seiki

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 838
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2726/-64
เสียงคำรามของหรรษาผมมั่นใจเลยว่ามันไม่ยอมแน่ ต่อให้พวกมันมีอาวุธ แต่สำหรับคนที่ผ่านการทะเลาะวิวาทมาโชกโชนอย่างหรรษา มันรู้ทางหนีทีไล่และรู้จังหวะที่จะชนกับไอ้พวกเหี้ยนี่มากกว่าผม ประกอบกับไอ้พวกนี้คงอ่อนแรงลงเพราะฤทธิ์ผมกับอังซังแล้ว หรรษาเลยสู้กับพวกมันสองตัวได้สบาย แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังได้แผลฟกช้ำมาบ้าง แต่หรรษาไม่โดนคมมีดเลย
หรรษาฉวยโอกาสที่ตัวเองจังหวะดีกว่าและมีความโกรธแค้นอยู่เต็มเปี่ยม มันกระทืบซะสองคนนั้นสลบเหมือดก่อนจะลากผมกับอังซังออกมาคนละมือ
ทิ้งให้สองคนนั่นนอนจมกองเลือดตัวเองอยู่อย่างนั้นแบบไม่หันกลับไปมองอีกเลย
หรรษาลากผมกับอังซังไปจนถึงบ้าน เคาะประตูเล่าเรื่องราวกับพ่อแม่ของอังซังคร่าวๆ แบบคร่าวมากก่อนจะลากผมกับอังซังออกมาที่ริมถนนเลียบทางด่วนแล้วเรียกแท็กซี่ไปโรงพยาบาล หรรษากับใบหน้านิ่งๆทำให้แท็กซี่ไม่กล้าชวนคุยอะไร เรามาถึงโรงพยาบาลเอกชนที่ใกล้ที่สุดในเวลาไม่นาน เลือดผมยังไหลออกจากแผลตลอดเวลา แต่ผมก็เจ็บจนกลายเป็นความชาก่อนที่จะปวดแผลเพราะมันเริ่มอักเสบแล้ว ผมกัดฟันข่มความเจ็บเอาไว้ ไม่อยากให้ตัวเองอยู่ในสภาพที่ต้องเป็นภาระของมัน
ผมกับอังซังถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินเพราะเกินเวลาปกติที่โรงพยาบาลให้บริการแล้ว โชคดีของผมคือแผลมันแค่ถากๆ แต่ถึงแค่ถากแต่มันก็ลึกพอที่จะห้ามเลือดยาก ส่วนอังซังมีเพียงรอยฟกช้ำตามเนื้อตัวแต่หรรษาก็สั่งให้ตรวจให้แน่ใจว่าไม่เป็นอะไร ผมจับมือลูกสาวของหรรษาเอาไว้ อังซังหันมามองผมน้ำตาคลอเบ้า อังซังห้าวเกินกว่าที่ผมจะเห็นน้ำตา แสดงว่าเรื่องนี้คงทำให้สาวแกร่งขวัญเสียอยู่เหมือนกัน
“ไม่เป็นอะไรแล้วนะอังซัง พระเอกมาช่วยเราทัน”
ผมกะพูดติดตลกนะ แต่อังซังน้ำตาไหลพรากเลย
“อ้าว ร้องไห้ซะงั้น”
สาวห้าวรีบปาดน้ำตาก่อนจะหัวเราะและปฏิเสธออกมาว่าเปล่าร้อง
“ถูกพวกนั้นต่อยโดนต่อมน้ำตาเหรอ ฮึ หรือว่าไง”
ผมแกล้งแหย่ให้อังซังสบายใจขึ้น
“หนูดีใจหรอก ดีใจที่ตอนนั้นเห็นทั้งพ่อเมตแล้วก็พ่อหรรษา หนูคิดว่าหนูจะเสร็จพวกมันซะแล้ว”
“ไม่มีทางหรอก ถึงพ่อไม่มา อังก็เอาตัวรอดได้ พ่อรู้”
“แต่หนูสู้มันไม่ไหวนะ ดิ้นจนหมดแรง แล้วหนูก็กลัว”
หมดสิ้นประโยคนี้อังซังก็ร้องโฮออกมา
“โตเป็นสาวแล้วนะเรา เริ่มอันตรายแล้วรู้มั้ย พ่อคิดว่าอังคงต้องเปลี่ยนแปลงชีวิตครั้งใหม่แล้วล่ะ อังว่าไง”
อังซังทำหน้าครุ่นคิด
“เปลี่ยนอะไรคะ”
“คงต้องปรึกษาหรรษาก่อนว่าจะเอาไง สองคนนั้นตายรึเปล่าก็ไม่รู้”
ไม่ว่าจะตอนไหนผมก็ยังกลัวหรรษาติดคุกอยู่ดี เป็นเรื่องที่ฝังใจเลยเรื่องนี้
“ไม่หรอกค่ะ คงแค่หมดสติ พวกมันคงเหนื่อยด้วยแหละ”
“คงงั้น แล้วตกลงมีเรื่องอะไรกัน”
“ไอ้พีท คนที่มันจะปล้ำหนูอะ คนที่จะแทงพ่อเมตอะแหละ มันเป็นเพื่อนของไอ้กัสเพื่อนแถวบ้าน ส่วนคนที่ล็อคตัวหนูเอาไว้นี่ไม่รู้จัก คงเป็นพวกไอ้พีทแหละ ไอ้กัสมันชวนไอ้พีทมาเล่นสเก็ตช์แล้วเล่นอีท่าไหนไม่รู้ มันชอบเดินตามหนู ตื้อหนู ไอ้กัสบอกว่ามันชอบหนู แต่หนูไม่ชอบอะ รำคาญ มันเซ้าซี้อะ หนูเลยเดินหนีมันจะกลับบ้าน หนีไปหนีมาไปที่ลับตาคมปุ๊บมันล็อคตัวหนูเลยแล้วก็เป็นอย่างที่เห็น”
อังซังเล่าเสียงอ่อย
“นี่ถ้าหรรษารู้ละเอียดแบบนี้นะ ไอ้ห่านั่นตายแน่ๆ”
“นี่ก็อาจจะตายได้นะพ่อเมต”
“นั่นดิ กลัวอยู่เหมือนกัน”
“แล้วพ่อเมตเป็นไงบ้างคะ”
พออังซังถามแบบนั้นผมก็หันมามองแผลตัวเอง คุณพระคุณเจ้า เห็นเนื้อขาวๆของตัวเองแล้วจะเป็นลม มันตึงจนแบะออกมาเห็นชั้นหนาของผิวหนังชัดเจน ตอนเลือดกลบแผลยังไม่น่ากลัวเท่านี้เลย จะเป็นลม
“ไม่เป็นไรหรอก ไกลหัวใจ”
ตอนที่พูดออกไปนี่เสียงสั่นใจหวิวเลยนะ แถมมือยังคว้าแอมโมเนียที่พยาบาลยื่นให้มาจ่อจมูกทันทีอีก
“ตอนที่พ่อเมตวิ่งเข้ามาช่วยหนูอะ พ่อเมตแมนมากเลย จนหนูเกือบไม่เชื่อว่าคนที่วิ่งมาเป็นพ่อเมตอะ”
เชื่อปะ!! ปกติผมเป็นพวกมึน หน้าด้าน ไม่เขินไม่อาย แต่พอใครชมเท่านั้นแหละ เหมือนตัวจะเบาๆ ล่องลอย ใจพองโตคับอก เลือดสูบแรงจนเจ็บ
 “ว่าไปนั่น แล้วปกติไม่แมนเหรอ”
อังซังเงียบไป นานจนผมอดลุ้นในคำตอบไม่ได้
“ปกติพ่อเมตก็ปกตินะ ถ้า”
“หืม ทำไมมีถ้าอะ”
“ก็ถ้าพ่อเมตไม่เป็นแฟนพ่อหรรษาอะ”
“อ๋อ เรื่องนี้เองเหรอ แหม บางทีหรรษาก็เป็นเมียนะ ฮ่าๆ”
“เหรอ ตอนไหนอะ”
เสียงดุดังมาแต่ไกล แหม!! ทำบาปไม่ขึ้นจริงๆ
หรรษาเดินเข้ามาลูบหัวอังซังเบาๆแล้วปรายตามองขาผมที่พยาบาลกำลังราดยาอย่างเมามันด้วยท่าทางนิ่งๆเอามือกอดอกตามสไตล์ ไม่รู้มันเห็นแผลผมแล้วมันคิดอะไรอยู่ มันถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ไม่รู้ว่ากูควรจะรู้สึกยังไงกับเหตุการณ์นี้ดีเลยนะ”
มันโพล่งขึ้นมาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสับสน ผมได้แต่มองตากับอังซังปริบๆ
“แล้วไอ้สองคนนั้นจะตายรึเปล่าอะหรรษา”
ผมถามมันเสียงแผ่ว
“ช่างแม่ง ตายไปก็ดี”
อ้าว...ซะงั้น มึงฆ่าคนตายเลยนะเว้ยไอ้นี่ ผมคิดตำหนิมันในใจ
“อัง ไปพักอยู่กับพ่อมั้ย ที่นี่เริ่มไม่เหมาะแล้วล่ะ”
“ไปได้ไงคะ พ่อแม่หนูละคะ จะเอาตัวรอดคนเดียวหนูทำไม่ได้หรอก หนูจะระวังตัวแล้วกันค่ะพ่อ”
“เรื่องวกนี้นะอัง ต่อให้ระวังแค่ไหนมันก็พยายามจนได้แหละ ไม่วันไหนก็วันไหนเราก็ต้องพลาดเข้าสักวัน ไม่มีใครก่งไปตลอดหรอก”
“หนูรู้ค่ะ แต่หนูก็ห่วงพ่อกับแม่ เดี๋ยวนี้เค้าทำงานทั้งกลางวันแล้วก็กลางคืน พอหนูเรียนสูงขึ้นแล้วค่าใช้จ่ายเยอะขึ้นอะค่ะ ถ้าหนูไม่อยู่ใครจะดูแลบ้าน หาข้าวให้พ่อกับแม่กินละคะ”
“งั้นก็ไปอยู่ด้วยกันให้หมดนั่นแหละ ไปทำงานที่ววิทยาลัยพ่อก็ได้ ไปเป็นนักการภารโรง ขับรถ ทำสวนก็ว่าไป แต่อย่าอยู่ที่นั่นเลย พออังโตเป็นสาวแล้ว ภัยมันก็รอบด้านมากขึ้นนะ”
“แล้วไม่รบกวนพ่อมากเกินไปเหรอคะ ที่ผ่านมาก็รบกวนมาตลอดเลยอะ หนูเกรงใจ”
“ถ้ารบกวนจะมานั่งเป็นห่วงหาทางออกอยู่แบบนี้มั้ยล่ะ ถึงอังไม่ได้เป็นลูกจริงๆ แล้วอายุเราก้ไม่ได้ห่างขนาดเป็นพ่อลูกกันได้ แต่ก็เห็นมาตั้งแต่ตัวกะเปี๊ยก มันก็อดรักอดเป็นห่วงไม่ได้นะ”
“หนูจะลองคุยกับพ่อแม่ดูนะคะ”
“อืม เดี๋ยวจะไปคุยให้อีกแรงนะอัง ดูแลตัวเองด้วยล่ะ ตอนนี้พวกมันคงเข็ดไปสักพักล่ะ”
“จริงเหรอวะหรรษา แต่แถวบ้านอังอะต่างคนต่างอยู่กันจริงๆเลยนะ ดูดิ๊ มีคนทะเลาะกันขนาดนี้ไม่มีใครออกมาห้ามเลย”
ผมอดแปลกใจไม่ได้ที่ผู้คนละแวกนั้นทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ทุกคนต้องปากกัดตีนถีบในเรื่องของตัวเองน่ะค่ะ แล้วพวกเขาก็ไม่อยากยุ่งเรื่องของคนอื่นให้เป็นปัญหาหรอก เรื่องนี้อังเข้าใจ ชินแล้วค่ะ”
“นี่แหละที่พ่อคิดว่าอังไม่ควรอยู่ที่นี่แล้ว”
หรรษาสำทับอีกครั้ง
“เรียบร้อยแล้วค่ะ ทั้งคุณเมตตาแล้วก็คุณอัญชัญ เชิญรอรับยาได้เลยนะคะ”
“ขอบคุณมากครับ”
พยาบาลไล่พวกเราสามคนให้มารอรับยาด้านนอกแล้ว หลังจากนั้นผมกับหรรษาก้ไปส่งอังซังที่บ้านอีกครั้ง
“ดูแลตัวเองดีๆนะอัง แล้วพ่อจะรีบจัดการเรื่องที่อยู่ใหม่ให้”
หรรษาลูบหัวลูกสาวมันอย่างเอ็นดู พ่อกับแม่ของอังซังรีบลุกขึ้นมาหาเมื่อรู้ว่าอังกลับมาบ้านแล้ว สองคนนั้นไหว้ขอบคุณหรรษาปะหลกๆยิ่งแม่ของอังเธอทั้งไหว้และร้องไห้ไปพร้อมๆกัน
“ขอบคุรมากนะครับคุณหรรษา ผมเห็นมาสักพักแล้วว่าพวกนั้นคงชอบไอ้อัญอยู่ แต่ไม่คิดว่ามันจะกลัดมันถึงขนาดลากไปปล้ำ”
“แล้วพวกนั้นหายไปไหนแล้วครับ”
“พอรู้เรื่องกันพวกเพื่อนบ้านก็ช่วยๆกันลากไอ้สองคนนั่นไปทิ้งไปตรงพงหญ้านั่นแหละ มันยังไม่ตายหรอก ฝากบอกพรรคพวกของมันแล้วว่าให้มาเอากลับไปด้วยแล้วอย่าให้เห็นแถวนี้อีก”
“ครับ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังไม่ปลอดภัยนะครับ จะเป็นไรมั้ยครับถ้าผมอยากให้น้าทั้งสองคนไปช่วยงานที่วิทยาลัยผม ที่นั่นมีบ้านพักนักการภารโรงนะครับ มันปลอดภัยกว่าที่นี่แแน่ๆ ผมอยากให้อังอยู่ที่สภาพแวดล้อมที่ดีกว่านี้ครับ”
พ่อของอังซังยกมือขึ้นไหว้หรรษาท่วมหัว หรรษาทรุดตัวลงแล้วบอกให้ทั้งสองคนนั้นเลิกไหว้
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเองก็เกเรมาก่อน เห็นอังมาตั้งแต่เด็กๆ เอ็นดูแกเหมือนน้องสาวแล้วอังก็หน่วยก้านดีนะครับ อนาคตเค้าไปได้ไกลแน่ๆ ผมอยากสนับสนุนให้ถึงที่สุดน่ะครับ ตอนนี้ผมโตพอที่จะทำอย่างนั้นได้แล้ว”
“ไอ้อัญมันชอบเล่นไอ้ที่พวกคุณเล่นกันมาก แต่ผมก็ไม่มีปัญญาซื้อหาให้ลูกเล่น ได้พวกคุณนี่แหละครับที่ทำให้มันมีของดีๆเล่กับเขาได้ แต่ผมก้กลัวว่ามันจะได้ใจจนวันหนึ่งไม่มีพวกคุณๆแล้วผมจะหาของเล่นแบบนี้ให้ลูกไม่ได้น่ะครับ”
“จริงๆมันป็นกีฬานะครับ ทั่วโลกเขาก็มีแข่งขันประเภทนี้กัน อังเค้าเรียนรู้เร็วผมว่าไปได้ไกลแน่ๆ เขากล้าด้วยครับ ผาดโผนนี่ไม่กลัวเลย ไม่ต้องห่วงครับ ผมปั้นเค้ามาผมก็ต้องพาเข้าไปถึงฝั่งให้ได้ ถ้านาตกลงที่ผมเสนอไปก็เตรียมตัวได้เลยนะครับ ผมจะไปเคลียร์ทางโน้นไว้ให้ พร้อมแล้วไปเริ่มงานได้เลยครับ อังเขาจะได้เรียนจริงๆจังๆสักที”
“ขอบคุณครับ”
คราวนี้ร้องไห้กันทั้งพ่อทั้งแม่เลย แต่มันก็เป็นน้ำตาที่เปื้อนไปด้วยยิ้มดีใจนะ อังซังเองก็ดูเหมือนจะดีใจมากเหมือนกัน หันมายิ้มกับผมและหรรษาทั้งน้ำตา
“วันนี้ดึกมากจนได้ พ่อกับพ่อเมตกลับก่อนนะ พรุ่งนี้ต้องไปวิทยาลัยแต่เช้า สวัสดีนะครับน้า”
ผมไหว้ลาตามหรรษาแล้วก็คิดขึ้นได้ว่าเรามีของฝากมาให้อังซังด้วยนี่นา
“เดี๋ยวนะ รอแป๊บ”
ผมหันหลังจะวิ่งไปหาของฝากที่เราอุตส่าห์ไปเดินเลือกซื้อให้อังซัง แม้ไม่รู้ว่าป่านนี้มันอาจจะไม่เหลือแม้แต่ซากแล้วก็ได้
แต่หรรษามันก็คว้าผมเอาไว้แล้วมองมาที่แผลตรงขาผม
“ก็ดีขึ้นแล้ว ปวดนิดเดียวเองนะ ไหวๆ”
“กุไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น”
“แล้วมึงรั้งกูไว้ทำไม”
มันชี้ให้ผมดูที่มือของพ่ออังซังที่มีสารพัดถุงพลาสติก ผมจำได้ว่ามันคือข้าวของที่ผมกับหรรษาซื้อมา
“ชาวบ้านเขาเก็บไว้ให้”
“ในนั้นเป็นของขวัญที่ผมกับหรรษาซื้อให้อังซังครับ”
ผมรับพรีเซ้น
หรรษารั้งให้ผมนั่งที่ชานบ้านอีกครั้ง เราสามคนรื้อดูของฝากกันสนุกสนานอีกครั้ง ดูหรรษามันจะเขินที่ลูกมันแซวว่าพ่อหรรษาซื้อของได้ผู้หญิงมากเลย มันได้แต่นั่งมองผมกับอังซังชื่นชมของกันอย่างเมามัน
“ของชิ้นนี้พ่อตั้งใจซื้อให้อัง”
ผมหยิบไฟฉายอันนั้นขึ้นมา ดีดสปริงโชว์ไฮไลท์ที่เป็นมีดพกพาข้างในแล้วก็เปิดสวิซต์ให้ดูระดับความแรงของเครื่องช็อตอย่างภาคภูมิ มันดูดีมีประโยชน์กว่าตุ๊กตาที่หรรษายืนเลือกอยู่นานสองนานก็แล้วกันน่า ถ้าเทียบกับกระเป๋าและหมวกที่มันมีประโยชน์อยู่บ้าง ผมเลือกของมาได้แค่ชิ้นแล้วแต่ก็สารพัดประโยชน์นะเว้ย
“แถ่แด๊!! ตื่นเต้นใช่ปะ เอาไว้ป้องกันตัวนะ”
อังซังไหว้ก่อนจะรับของเอาไว้ด้วยแววตายินดี
“แล้วถามจริงเหอะ พอถึงเวลามึงได้เอาออกมาใช้มั้ยไอ้หัวถั่ว พอเกิดเรื่องเข้าจริงๆ มึงเสือกทิ้งอาวุธในมือแล้วจู่โจมมือเปล่าเนี่ยนะ”
“เออว่ะ กูลืมไปเลยอะว่ากูมีไอ้นี่ ใครจะไปคิดทันวะตอนนั้นตกใจแล้วก็เป็นห่วงอังซังนี่หว่า”
“ก็เลยทิ้งอาวุธซะ”
“เออ ก็บอกแล้วไงว่าลืมไปแล้วว่ามี ก็ตั้งใจซื้อให้อังซังนี่หว่าไม่ได้ตั้งใจซื้อใช้เองซะหน่อย”
ผมแก้ตัวเสียงอ่อย
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ครั้งหน้าอังใช้มั้นแน่”
อังซังหมายมั่นปั้นมือ
“ไม่มีครั้งหน้าจะดีกว่านะ แต่ละคนดูไม่จืด ดูสิ ถ้าไม่ทันการณ์แล้วอะไรมันจะเกิดขึ้นก็ไม่รู้”
“หนูจะจำไว้เป็นบทเรียนค่ะ”
“มึงก็ไหว้หนวดสิวะหรรษา ไว้เคราะด้วย โฉดดีจะตายไปมึง”
“เพื่ออะไรวะ”
“เพื่อประกาศศักดาว่ามึงหวงลูกสาวไง”
“เพ้อไปไกลแล้ว อังพักผ่อนเถอะ พ่อกลับละ ไปเหอะเมต ดึกแล้ว มึงเองก็ต้องพักแล้วเหมือนกัน คืนนี้ปวดแผลทั้งคืนแน่ๆ”
มันขู่ไปพลางดันหลังผมให้ออกเดิน
ในรถแท็กซี่ ผมนั่งซบไหล่ของหรรษาไปตลอดทาง
“มึงรู้มั้ยเมต ว่ามึงเปลี่ยนไปยังไง”
“ไม่รู้ดิ”
“มึงโผงผางมากขึ้น กล้ามากขึ้น แล้วที่สำคัญนะ มึงแมนขึ้นมาก พูดง่ายๆ มึงกลายเป็นเด็กช่างเต็มตัวแล้วรู้มั้ย”
“จริงอะ งั้นกูก็คงเถื่อนขึ้นด้วยสินะ ถึงว่าแม่บ่นว่ากูเริ่มถ่อย”
“กูควรจะดีใจหรือเสียใจดีวะที่มึงเปลี่ยนไปแบบนี้”
“อ้าว ทำไมล่ะ แต่ก็ก็ยังให้ความสุขมึงได้เหมือนเดิมนี่”
ผมยังคงทำหน้าที่บนเตียงได้ดีเกินคาดนะครับ ลีลาบนเตียงผมนี่เด็ดขาดอย่าบอกใครเลยเถอะ
“เรื่องนั้นมันก็จริง แต่เมต มึงเปลี่ยนไปแบบนี้มันก็ดีนะ มึงกล้าทำอะไรมากขึ้น มั่นใจในตัวเองมากขึ้นมันก็ดี แต่สิ่งที่แลกมาล่ะ”
มันมองแผลที่ขาผมแล้วถอนหายใจ
“มึเจ็บตัวเนี่ยเห็นมั้ย สิ่งที่ต้องแลกมาคือความเจ็บปวดของมึง”
“เอาน่าหรรษา ลูกผู้ชายมีเรื่องกันได้แผลกลับมาบ้างมันก็ธรรมดาไม่ใช่เหรอวะ”
“ก็ใช่ แต่เคยมีสักครั้งมั้ยที่กูจะรุนแรงกับมึงจนตูดขาด ไม่มีสักครั้ง กูถนอมมึงแทบตาย แล้วไอ้ห่าที่ไหนก้ไม่รู้มาทำให้มึงมีแผลได้ ทำให้มึงเจ็บ กูน่าจะกระทืบแม่งซะให้ตาย”
มันกัดฟันกรอด กำหมัดแน่น
“คือไงอะหรรษา คือมันก็ดีอะนะในเรื่องความรักความห่วงใยที่มึงมีแต่กู แต่ไม่ต้องเอาไปเปรียนเทียบกับตูดฉีกไม่ฉีกก้ได้ไม่ใช่เหรอวะ”
“ทำไมอะ”
“พี่แท็กซี่เค้าตกใจน่ะ”
“อุ๊บ!! กูลืมตัวไปโทษทีว่ะเมต กูนึกว่าโลกนี้มีแค่เราสองคน”
“งั้นคิดว่าผมไม่มีตัวตนก็ได้ครับ”
#พี่แท็กซี่เกล่า


the end.......

สวัสดีค่ะ เอามาให้อ่านเผื่อมีคนคิดถึงหัวถั่วนะคะ
เรื่องนี้เหมือนมีประเด็นให้แต่งตอนพิเศษเยอะ แต่นึกไม่ออกว่าทิ้งปมอะไรไว้บ้าง ตามที่ไล่อ่านคอมเม้นท์ ก้พอจะเห็นแนวทางแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ
สำหรับในเล่มหนังสือ ก็อย่างที่บอกว่าต้องมีตอนพิเศษที่ไม่ลงเวปแน่นอน เผลอๆถ้าขุดตอนพิเศษมาลงเล้าเยอะไป ก้จะแถมเรื่องใหม่สั้นๆไปให้ในเล่มนะคะ
รายละเอียดคลิกแบนเนอร์โฆษณาเล้าไปดูได้เลยค่ะ เปิดรีปริ๊นท์ให้ได้เสียเงินกันทุกเรื่องเลยนะคะ หรือไม่ก็เปิดไปที่หน้า  73 ของเรื่องนี้ได้เช่นเดียวกันค่ะ
คิดถึงหรรษาเมตตาบ่อยๆด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
ยิ้มหวานแบบ MUT 2014//TRomance

ออฟไลน์ Angel_K

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +352/-0
ช่วงสิบบรรทัดสุดท้ายนี่มันช่าง...  :hao6:

ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนะคะ

ออฟไลน์ gumrai3

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-4
ฮ่า ถั่วโตเป็นสาว เอ๋ย เป็นหนุ่มเเล้ว กล้ามากกว่าเดิม  :mc4:

+1 ค่าาาาา

ออฟไลน์ Cockroach

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ฮาาาา สงสารพี่แท็กซี่มาก กร๊ากๆๆ โธ่ๆทำใจเถอะนะโยม :hao7:

ออฟไลน์ Bear Company

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0

ออฟไลน์ MK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
สรุปเมตมีดีแค่ลีลาใช่ไหม?  :hao7:  ช็อคแทนพี่แท็กซี่ 

คือแอบหวานตอนท้ายอ่ะ หวานสไตล์เมตหรรษาล่ะนะ   :katai4:

ออฟไลน์ Raccoooon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-2
แงงงง หรรษานี่เหมาะกับเป็นพ่อของลูกมาง่าาา
(หนูแค่คิดค่ะ พ่อเมตอย่าตีหนู)
สุดท้ายขำคนขับแท็กซี่มากค่ะ 55555

ออฟไลน์ Shadownights

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
จะสงสารหรืออิจฉาพี่แท็กซี่ดีล่ะ แบบนี้เราฟินตายเลยยยย  :hao6: :hao7:

ออฟไลน์ jbook

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
=///= เมตตาแมนมากจ้า
แต่ก็ยังซึนๆเหมือนเดิม อิอิ

ออฟไลน์ cross

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
55555555555555
หัวถั่วน่ารักไปละ หรรษา ดูรอบข้างนิสสนึง
คนอื่นเค้าจิตกใจ กร๊ากกกกกกกกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
เมต หนูแมนไปหรือเปล่าคะลูก 55555
กลายเป็นเด็กช่างเต็มตวไปแลวเหรอเนี่ยยย

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
น้องเมตเปลี่ยนไปแล้วววว
จะเป็นถั่วที่มีพัฒนาการจริงๆ

ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
พัฒนาไปไกลโขเลยนะเมต ชักอยากเห็นชีวิตในวิทยาลัยของเมตซะแล้วสิ

ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
ไอ้หัวถั่วมันน่ารักขึ้นมากๆๆๆๆ 5555555

แต่แอบฮาพี่แท๊ก คงเลี่ยนความหวานของสองคนนี้  :laugh:

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
น้องเมตแมนมากมาก o13 o13 o13

ออฟไลน์ up2goo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
มีสไตล์ความหวานที่เป็นเอกลักษณ์กันดีจริงๆ 555
 :katai2-1:

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
เมตมันแมนขึ้นจริงๆว่ะ

ออฟไลน์ Chichi Yuki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1584
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-3
เป็นการดีที่หนูเมตตาของเราแมนขึ้น เถื่อนขึ้น ถ่อยขึ้น แต่ก็ต้องรู้จักระวังตัวนะ
ยังไงๆ ก็ต้องมีหรรษาไว้คอยอยู่ดูแลข้างๆ นั่นแหละดีแล้ว

ปล.คุณหญิงแม่ท้องหรือเปล่าทำไมอารมณ์ฉุนเฉียวจังอ่ะ

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
น้องเมต ห้าวเป้งเลย แมนดี ชอบๆ

ถึงจะแมนแต่การบ้านก็ไม่พร่องนะ ฝ่ายโดนเสียบใช่ว่าต้องแบ๊วเสมอไป :laugh:

หรรษาได้คนช่วยคุมพวกเด็กช่างเต็มตัวแล้ว

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
เมตแมนขึ้นมากจริงๆ

 :katai2-1:

บวกเป็ด

 :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด