“อ้าว...วุฒินิค่ะ ปล่อยฉันสิ...วุฒิค่ะบอกคนของคุณสิคะว่าอย่ามาขวางมิว”เสียงหญิงสาวอุทานออกมา
เป็นชื่อไอ้หมอนข้าง เมื่อเงยหน้าจากปาสต้าก็เจอเข้ากับสาวสวยเปรี้ยวแต่งตัวจนรู้สึกว่าทุกวันนี้คงร้อนมากสำหรับเธอ
จึงทำให้เสื้อผ้าของเธอดูจะน้อยชิ้นและสั้นซะเหลือเกินถูกต้นยืนขวางทาง และดูเธอจะไม่ค่อยพอใจที่ถูกกีดกัน
ออกจากไอ้หมอนข้าง
“ขอโทษนะครับห้ามรบกวนนายผม”ต้นขอโทษแต่ก็คงยังยืนยันไม่ให้เธอเข้ามา
“บอกให้หลีกไปไง อุ้ยคุณนพก็อยู่ด้วย ยัยลูกปลาบ่นหาคุณนพตั้งนานแล้วนะค่ะทำไมถึงว่าไม่ไปหา
ลูกปลาเธอบ้าง”จากที่ฟังมาทั้งไอ้หมอนข้างและพี่นพคงจะพัวพันกับแก๊งค์สาวคนนี้เป็นแน่
“ต้นปล่อยเธอมาเถอะ”พี่นพไม่รู้ว่าต้องการอะไรจึงบอกให้ต้นปล่อยสาวเปรี้ยวที่ชื่อมิวเข้ามายังโต๊ะอาหาร
“แต่ว่า...นาย...”ต้นยังคงลังเล
“ไม่เป็นไรชั้นรับผิดชอบเอง อยากเห็นอะไรสนุกๆนินา”ประโยคแรกบอกต้นเพื่อให้สบายใจว่าตนจะรับผิดชอบ
แต่ประโยคหลังนะพูดพอให้ภายในโต๊ะได้ยินเท่านั้น
ต้นเมื่อเห็นว่าเจ้านายตัวเองไม่ได้ห้ามอะไรจึงยอมให้เธอเข้ามา เมื่อไม่ถูกขัดขวางเธอก็เดินมาด้วย
ท่าทางยั่วยวนส่ายเอวไขว่ขาเข้ามายังด้านที่มีผมนั่งติดผนัง ตรงกลางเป็นน้ำฟ้า และริมอีกด้านที่ติดกับ
ทางเดินเป็นไอ้หมอนข้างเอง
“สวัสดีค่ะวุฒิ สวัสดีค่ะคุณนพสบายดีนะค่ะ”เธอทักทายสองหนุ่มหล่อแต่กลับมองไม่เห็นผมและลูกสาว
“ครับ”พี่นพตอบกลับด้วยเสียงและหน้าตาที่แสดงให้เห็นว่าความสนุกมาอยู่ตรงหน้าแล้ว
แต่ไอ้หมอนข้างมันหันมามองผมพร้อมกับตอบกลับสาวเจ้าไปด้วยเสียงห้วนสั้น
“ขอมิวนั่งด้วยคนได้ไหมค่ะ”เธอมองข้ามน้ำเสียและสีหน้าของไอ้หมอนข้างแถมยังมีการขอนั่งด้วย
เมื่อเห็นว่าไอ้หมอนข้างยังคงไม่สนใจที่จะขยับให้นั่งเธอจึงมองมายังผมและน้ำฟ้าด้วยใบหน้าที่แสดงออก
ด้วยความสงสัย
“อุ้ยใครค่ะวุฒิ แล้วลูกใครค่ะเนี่ยน่ารักจังเลย”เธอทำเป็นตกใจถามถึงผมและลูกแต่ก็ไม่มีใครที่จะพูดอะไรออกมา
ผมก็เพียงแต่ยิ้มส่งกลับไปให้เท่านั้น
“สวัสดีค่ะคุณป้า...”น้องน้ำฟ้าเงยหน้าขึ้นมาเท่าความเคารพผู้ใหญ่ตรงหน้า แล้วดูสรรพนาม
ที่น้ำฟ้าเรียกเธอคงจะถูกใจเป็นแน่
“อุ้ยหนูค่ะ เรียกแค่พี่ก็พอ”เธอรีบแก้ตัว
“ค่ะพี่ก็พี่”น้ำฟ้ารับคำพร้อมรอยยิ้มก่อนที่จะสนใจอาหารตรงหน้ามากกว่า
“ขอโทษนะค่ะคุณ มิวขอรบกวนให้ช่วยย้ายที่ให้หน่อยได้ไหม มิวอยากนั่งกับวุฒินะค่ะแบบว่า
คนสนิทกันมาก”เธอมองหน้าผมแล้วพูดถึงแฝงถึงความสัมพันธ์ระหว่างไอ้หมอนข้างกับตัวเธอเอง
“ครับ...”ผมรับคำเธอด้วยความรู้สึกที่ไม่พอใจไหนมึงบอกว่ารักว่าชอบแล้วทำไมมันถึงไม่แสดงออกมาว่าผมนะ
สำคัญกับมันจริง ๆ รึว่าผมหวังจากมันมากไป
“ขอโทษนะค่ะคุณป้า...เอ้ย...พี่สาวนุ่งสั้นๆ น้องน้ำฟ้าไม่ไปนั่งที่อื่นและไม่ยอมให้พ่อบอลไปด้วย
พ่อบอลจะต้องนั่งตรงนี้กับน้องน้ำฟ้าแล้วก็ป๊าวุฒิค่ะ”ลูกสาวผมเริ่มแล้วครับ นิสัยแม่ๆสามแสบติดตัวลูกผมมาจริง ๆ ด้วย
“ตายแล้วเป็นเด็กเป็นเล็กไม่รู้เรื่องก็ไม่ต้องพูดก็ได้นะค่ะ”เธอตกใจกับคำพูดของน้ำฟ้าที่เป็นเด็กเล็ก
อายุเพียงสามขวบเท่านั้น
“คุณนั้นแหละที่ต้องไม่ต้องพูดมิว”ไอ้หมอนข้างดูจะไม่ชอบใจคำพูดและการแสดงออกของสาวเปรี้ยว
จนต้องบอกให้เธอหยุดด้วยเสียงห้วน
“วุฒิอ่ะ”เธอดูจะไม่พอใจเมื่อไอ้หมอนข้างไม่ได้สนใจและความสำคัญกับเธอเลย
“น้องมิวมานั่งกับผมก็ได้”พี่นพที่ดูจะมีความสุขที่สุดในโต๊ะเรียกหญิงสาวให้นั่งด้วย
“ขอบคุณค่ะคุณนพ น่าน้อยใจจังเลย คนของเราเค้าทำไม่สนใจ ไม่รู้ว่าไม่พอใจอะไรเรา”
เธอขอบคุณพี่นพ ก่อนจะทำท่าน้อยอกน้อยใจไอ้หมอนข้างและตัดพ้อมันออกมา
“ไม่เป็นไรครับ ผมสนุกดีเอ่ยผมนิสัยดีครับ นิสัยดีกว่าไอ้วุฒิเยอะ”
“ไม่หรอกค่ะ วุฒินะใจดีให้ลูกน้องเอาต่างหูเพชรให้มิวด้วย สวยมาเลยนะค่ะ”เธอรีบแก้ตัว
และยังมีการบอกถึงของแทนใจที่ผมรู้สึกว่าชักจะไม่อยากนั่งตรงนี้แล้ว จากอาหารที่อร่อยก็กลายเป็นขมแทน
“พี่นพครับเดี๋ยวบอลกับน้องน้ำฟ้าจะไปดูเสื้อผ้าให้น้องน้ำฟ้าซักหน่อยนะครับ ขอทางผมด้วยครับคุณวุฒิ”
ผมเอ่ยปากบอกลาพี่นพก่อนจะอุ้มน้ำฟ้าและบอกให้ไอ้หมอนข้างโดยที่เน้นคำว่าคุณวุฒิออกไป ตอนนี้
ผมรู้สึกไม่อยากมองหน้าหลบเพื่อให้ผมเดินออกได้ อยากออกไปจากตรงนี้ คุณเคยรู้สึกไหมว่าเมื่อเวลาเรา
เริ่มรู้สึกดีๆกับใครคนหนึ่ง แต่แล้วเหตุการณ์ก็ทำให้รู้สึกว่ามันไม่ใช่อย่างที่เราคิดที่เราเข้าใจ จากที่เรารู้สึก
ว่าเราสำคัญแต่ที่แสดงออกมาตอนนี้มันไม่ใช่เลย แล้วจะอยู่ตรงนั้นทำไม ออกมาดีกว่า อยู่ตรงที่สมควร
จะอยู่มากกว่าที่จะต้องทนฝืนต่อ
“บอลครับนั่งลงไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น”มันพูดโดยที่จ้องหน้าผม แต่ผมยังคงไม่นั่งเพื่อเป็นการบอกว่า
คำสั่งของมันไม่มีผลกับผม เพราะผมไม่ฟังมันทั้งสิ้น
“วุฒิก็ ให้เค้าไปสิค่ะอย่าไปห้ามเลย มิวจะได้ไปนั่งกับวุฒิไงค่ะ ไม่คิดถึงมิวบ้างเหรอ”ผมเริ่มรู้สึก
ที่จะทนฟังไม่ได้อีกต่อไป
“รบกวนหลบหน่อยครับคุณวุฒิ”ผมยังคงยืนยันคำเดิม น้ำฟ้าเริ่มมองผมกับไอ้หมอนข้างไปมา
“ไม่ และนั่งลงได้แล้ว ส่วนคุณนะมิว ผมว่าคุณต่างหากที่ต้องไป ที่ผมให้ลูกน้องเอาต่างหูเพชรไปให้
ลูกน้องผมไม่ได้อธิบายเหรอว่าผมให้เพราะอะไร ผมรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก เพราะตอนนี้คุณทำให้คนรักของผมโกรธผม”
มันลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับผมพร้อมทั้งดันให้ผมนั่งลง ก่อนจะหันไปพูดกับหญิงสาวที่มันไม่ได้สนใจ
“วุฒิคุณมีคนรักได้ยังไง แล้วเธออยู่ไหน มิวไม่เชื่อหรอกค่ะ”เธอมองผมสับไปมาระหว่างผมกับไอ้หมอนข้าง
ผมว่าเธอรู้ความหมายของคำพูดของไอ้หมอนข้างมันนะ
“ก็คนนี้ไงครับ บอลเป็นคนรักของผมและน้องน้ำฟ้าเป็นลูกผมและบอล”ไอ้หมอนข้างมันเอ่ยออกไป
ด้วยเสียงอันทรงพลังและหนักแน่นรวดเร็ว เกินความสามารถที่ผมจะทัดทานได้ทัน
“ไม่จริงอ่ะ”มิวเธอถึงกับเพ้อออกมา
“จริงค่ะ น้องน้ำฟ้าไม่เรียกว่าพี่แล้ว ป้าไปเถอะค่ะจะให้พ่อบอลกับป๊าวุฒิทะเลาะกันทำไม
เดี๋ยวน้องน้ำฟ้าจะโทรตามแม่ๆมาจัดการเลยนิ”น้ำฟ้าเริ่มวาดลวดลายแล้วครับ
“แต่...”เธอพยายามที่จะส่งเสียง
“ไม่ต้องคิดมากครับ ผมเป็นพยานได้ว่าบอลนะเค้าเป็นคนรักของไอ้วุฒิมัน”พี่นพปิดท้ายความหวังของเธอ
ด้วยการเป็นพยานยืนยันในความสัมพันธ์ของผมกับมัน ผมเลือกที่จะปิดปากด้วยรู้ว่าไอ้หมอนข้างมันเริ่มอารมณ์ไม่ดี
พี่นพยื่นมือรับน้ำฟ้าไปจากผมเมื่อเห็นว่ามิวพยายามที่จะเข้าใกล้ผมให้ได้ หากแต่ติดที่ไอ้หมอนข้าง
มันยืนขวางผมไว้ ทศและต้นพยายามจะจับตัวหญิงสาวแต่ก็ติดตรงที่เธอเป็นผู้หญิงจึงไม่กล้าทำอะไร
ที่รุนแรงเกินไป
“ผมเตือนคุณนะมิวว่าเรื่องของเราไม่เคยเกิดขึ้นและถ้าคุณยังไม่เลิกวุ้นวายผมและบอล
คุณคงจะต้องเตรียมใจรับผมที่จะตามมา”ไอ้หมอนข้างมันเตือนรึว่ามันขู่กันแน่นะ
มิวเดินออกไปจากร้านอาหารด้วยด้วยความโมโหและอับอาย ภายในร้านจึงกลับเข้าสู่ความสงบอีกครั้ง
แต่ตอนนี้อารมณ์ผมมันขุ่นมัวเกินจะยิ้มแย้มทักทายเหมือนนางสาวไทยได้รับตำแหน่ง ไอ้หมอนข้าง
พยายามจะเรียกร้องความสนใจของผม ทั้งตักโน้นนี่นั้นลงไปในจาน แต่ผมก็หาสนใจไม่ ไม่กินไม่มอง
ไม่พูด ชิชิ...
“บอลครับพี่กับมิวจบกันมานานแล้วนะ แล้วจริงๆก็เป็นแค่คู่นอนเท่านั้น บอลอย่าโกรธพี่นะครับ”
ไอ้หมอนข้างมันแก้ตัวแถมยังออดอ้อนผม
“..............”ผมยังคงสงบนิ่งไว้ เดี๋ยวมันจะได้ใจไปมากกว่านี้
“บอลครับพี่ไม่นอกใจบอลหรอก พี่แค่อยากจะรู้ว่าบอลจะห่วงพี่บ้างไหมเท่านั้น”ผมถึงกับต้องก้มหน้า
หลบใบหน้าของมันที่ไม่รู้ว่าจะก้มมาแนบทำไมขนาดนี้
“....................”ผมก็ยังคงเงียบเหมือนเดิม แต่หัวใจผมรู้สึกว่ามันจะดังขึ้นเต้นแรงขึ้น เมื่อมันเลื่อนมือ
มาจับมือผมที่อยู่ใต้โต๊ะเอาไว้
“แล้วพี่ก็รู้ว่าบอลนะหึงพี่ด้วย หึหึ...”
“บ้า...ใครหึงพี่กัน ชิ”ผมถึงกับต้องแก้ตัวเมื่อมันบอกว่าผมหึงมัน ผมไม่ได้หึงนะแค่ไม่พอใจเฉย ๆ
“คือ ช่วยรู้สึกตัวหน่อยนะทั้งสองคนว่าที่นี้มีบุคคลอื่นหายใจร่วมด้วย จีบกันไม่ได้เกรงใจเลย”
เสียงพี่นพที่ดังออกมาเรียกสติของผมได้เป็นอย่างดี
“มึงนะเงียบไปเลย สนุกละสิ”ไอ้หมอนข้างถามกลับไป
“แน่นอน พ่อศาสตราเทพแพ้ให้กับพ่อพิมพ์เรือพ่วงอย่างหมดรูป หึหึ..”พี่นพทำหน้าตาสะใจมากมาย
เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น เราก็เริ่มอาหารหวานด้วยน้องน้ำฟ้าทวงไอศกรีมแสนอร่อยจากลุงนพ
เราทานกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงถึงเวลาเดินทางกลับบ้านกัน ต้นรายงานว่าทีมตกแต่งห้องน้ำฟ้าได้ดำเนินเสร็จสิ้นแล้ว
ลุงหลานต่างรำลากัน ก่อนจะสัญญาว่าหลานจะมาหาลุงอีก และลุงสัญญาว่าจะเลี้ยงข้าวและขนมหลานอีก
ต่างคนต่างยิ้มมีความสุข
การเดินทางกลับก็ยังคงมีเสียงเพลงจากแดนปลาดิบ มีแดนเซอร์น่ารักคอยเต้นไปมาเรียกรอยยิ้ม
และเสียงหัวเราะได้ไม่ขาด เมื่อขึ้นมาถึงห้องทุกคนก็ตรงกันไปยังห้องที่มีป้ายติดว่า ‘น้องน้ำฟ้า’ เปิดเข้าไป
ผมถึงกับตะลึงในความสวยและน่ารัก ห้องที่ถูกทาด้วยสีชมพูอ่อนไม่ฉูดฉาดจนเกินไป ตรงกลางเป็นเตียงขนาดห้าฟุตสี่เสา
มีม่านสี่ชมพูอ่อนข้างบนติดระบายสีชมพูเข้ม มีเครื่องใช้อำนวยความสะดวกครบครัน และทุกอย่างก็ถูก
จัดวางอย่างลงตัว และดูไม่รก มีตุ๊กตาที่เยอะมาก น้องน้ำฟ้าบอกว่าลุงนพซื้อให้ ตู้เสื้อผ้าที่ถูกจัดไว้
ด้านข้างผนังห้อง น้องน้ำฟ้าดูจะชอบห้องของเธอมาก วิ่งให้วุ่นวาย ก่อนที่จะมาหยุดอยู่ตรงหน้าไอ้หมอนข้าง
“ขอบคุณค่ะป๊าวุฒิ น้องน้ำฟ้าชอบมากๆเลยค่ะ”น้ำฟ้ายกมือไหว้และย่อตัวลงไปอย่างสวยงาม
“พ่อบอลค่ะน้องน้ำฟ้าอยากนอนบนเตียงใหม่จังเลยค่ะ
“เดี๋ยวค่อยนอนลูก ไปอาบน้ำแล้วกินข้าวเย็นก่อนนะค่ะถึงค่อยมานอน”ผมก้มลงเพื่ออุ้มน้ำฟ้า
แล้วจึงบอกให้น้ำฟ้าทำธุระส่วนตัวก่อน
“ค่ะพ่อบอล ป๊าวุฒิค่ะน้องน้ำฟ้าหิวข้าวจังเลยค่ะ”น้ำฟ้าเรียบบอกไอ้หมอนข้าง
“ค่ะ แล้วอยากกินอะไรดีค่ะ”มันพูดกับน้ำฟ้าที่ยังคงโดนอุ้มโดยผมเอง
“น้ำฟ้าอยากกินปลานึ่ง ผัดเปรี้ยวหวาน แกงจืดคุณปลาหมึกยัดไส้ค่ะป๊าวุฒิ”น้ำฟ้ารีบบอกเมนูอาหาร
ที่อยากกินกับไอ้หมอนข้าง
“แล้วบอลละครับ อยากได้อะไรเพิ่มไหม”มันเงยหน้าเพื่อถามผม
“ไม่เอาครับ ถ้าพี่อยากได้อะไรเพิ่มก็สั่งมาเถอะ”ผมบอกออกไป
“ครับ น้องน้ำฟ้าค่ะอาบน้ำให้สะอาดหอมฟุ้งก่อนนะค่ะ เดี๋ยวป๊าให้อาต้นจัดให้นะครับ”
ผมพาน้ำฟ้าอาบน้ำภายในห้องนอนของน้ำฟ้าเอง ห้องน้ำของน้ำฟ้ามีโทนสีชมพูขาว ของใช้ครบครัน
มีอ่างอาบน้ำหรับคนเดียว ฝักบัว แยกโซนกับชักโครก และอ่างล้างหน้า น้ำฟ้าเล่นน้ำในอ่างอาบน้ำอย่างสนุกสนาน
กว่าจะยอมขึ้นมาฟอกสบู่ก็ใช้เวลาถึงสิบห้านาที ออกมาจากห้องน้ำก็ใช้ผ้าขนหนูห่อตัวออกมาจากห้องน้ำ
เข้าห้องนอน เปิดตู้เสื้อผ้าหลังใหญ่ที่ยังคงคอนเซ็ปสีชมพู เมื่อเปิดตู้ก็พบว่านอกจากเสื้อผ้าของน้ำฟ้าก็ยังคง
มีชุดเด็กผู้หญิงอีกมากจนแน่นตู้เสื้อผ้า ไม่ต้องคิดมากก็คงจะเป็นไอ้หมอนข้างที่จัดการอีกตามเคย
น้ำฟ้าเลือกชุดนอนที่เป็นกระโปรงสีฟ้าเนื้อผ้านิ่มออกมาเพื่อใส่ พอผมถามว่าทำไมไม่ใส่ชุดนอนสีชมพูละลูก
น้องน้ำฟ้าก็ตอบกลับมาว่า ‘ไม่เอาค่ะพ่อบอล ถ้าน้ำฟ้าใส่สีชมพูน้ำฟ้าก็ไม่เด่นสิค่ะ อิอิ’ดูความคิดของลูกสาวผมซะก่อนเถอะ
เมื่อจัดการน้ำฟ้าเสร็จแล้วผมก็เดินกลับห้องนอนของไอ้หมอนข้างซึ่งตอนนี้เป็นห้องนอนของผมไปแล้วเช่นกัน
ผมอาบน้ำออกมาก็ถูกหอมแก้มละถูกกอด ไม่ต้องคิดหาตัวการเพราะว่ามีอยู่คนเดียวที่กล้าทำอย่างนี้
“ฟอด....หอมจังแก้มเมียพี่”ยังจะมีมาพูด พูดให้มันได้อะไรขึ้นมา
“แก้มแดงแล้ว น่ารักจัง”
“ไปอาบน้ำได้แล้วเหม็น เดี๋ยวบอลจะไปดูน้ำฟ้าสักหน่อย”ผมรีบไล่มันอาบน้ำเมื่อเห็นว่ามันยังอยู่ในชุดเดิม
และอ้างน้ำฟ้าอีกทาง
“แต่พี่อยากให้บอลไปถูหลังให้พี่นินา รึจะไปทำกิจกรรมหัตถ์สะท้านปฐพีดี”
“ไม่เอาถูหลังไม่เป็น เป็นแต่ถลกหนังคน แล้วไอ้กิจกรรมบ้านั้นนะไม่เอา”ผมพูดด้วยเสียงดังออกไป
และก้มหน้าไม่กล้ามอง เมื่อคิดถึงกิจกรรมภายในห้องน้ำครั้งที่แล้ว
“หึหึ ก็จริงนะไอ้เรื่องถลกหนังนะ ครั้งที่แล้วบอลเล่นซะหลังพี่เลือดออกซิปๆเลย”มันพูดด้วยเสียงหื่น ๆ
“ปล่อยได้แล้ว แล้วรีบไปอาบน้ำจะได้ทานข้าวเย็นกัน บอลจะได้พาน้ำฟ้าเข้านอน งานยังไม่ได้ทำเลยนะ
พรุ่งนี้ต้องทำงานอีก”ผมรีบบอกเหตุผลให้มันปล่อยผม
“ก็ได้ครับ ฟอด...ฟอด...”มันตอบตกลง แต่ก่อนที่จะหอมแก้มผมทั้งซ้ายและขวา เมื่อมันปล่อยผม
ก็รีบออกจากห้องไปหาน้ำฟ้า
มันใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงไอ้หมอนข้างก็ออกมาด้วยเสื้อยืดมียี่ห้อพร้อมด้วยกางเกงขาสั้น
เราเริ่มลงมือทานมื้อค่ำตามเมนูของน้ำฟ้า เราทานไปคุยกันไป จัดการผลไม้เสร็จก็ไปนั่งพักท้องกัน
ที่ห้องนั่งเล่นดูข่าวความเป็นไปต่าง เมื่อถึงข่าวพระราชสำนักน้ำฟ้าก็หมดสภาพเนื่องจากวันนี้ไม่ได้นอนกลางวัน
และยังเดินเที่ยวทั้งวัน จึงทำให้หลับคาตักผม เลยอุ้มน้ำฟ้าเข้าห้องวางบนเตียงหลังใหญ่ ห่มผ้านวมจนถึง
หน้าอกปรับเครื่องปรับอากาศให้พอเหมาะ เดินมาลูบหัวลูบหน้า หวังว่าผมจะดูแลเลี้ยงดูให้น้ำฟ้าเติบโตเป็นคนดี
อยู่รอดปลอดภัยในสังคมนี้ได้
“พ่อรักลูกนะน้องน้ำฟ้า ฝันดีนะค่ะนางฟ้าของพ่อ จุ๊บ...”ผมบอกรัก และจูบหน้าผากของนางฟ้าของผม
ผมเดินเข้าห้องทำงานแทนห้องนอน ผมยังต้องทำงานเขียนแผนการสอนสำหรับสอนให้เรียบร้อยเสียก่อน
ผมเดินเข้าภายในห้องทำงานก็พบว่าไอ้หมอนข้างนั่งทำงานอยู่ก่อนผมแล้ว ผมจึงนั่งประจำที่ของตัวเอง
และเริ่มลงมือทำงานของตัวเองให้เสร็จสิ้น เมื่อเงยหน้ามองก็เห็นว่าไอ้หมอนข้างกำลังมองผมอยู่ก่อนแล้วด้วยรอยยิ้ม
“มองอะไรครับพี่วุฒิ”ผมถามออกไป
“มองว่าเมื่อไหร่บอลจะทำงานเสร็จ”มันตอบกลับ
“เสร็จแล้วครับพี่วุฒิ บอลต้องขอบคุณพี่มากๆสำหรับทุกสิ่งที่พี่ทำโดยเฉพาะน้ำฟ้าที่พี่ให้ความเอ็นดู”
ผมบอก ก่อนจะเดินไปหามันและขอบคุณมันสำหรับวันนี้
“ฟอด น้ำฟ้าคือลูกของบอล พี่รักบอลพี่ก็รักน้ำฟ้า และอีกอย่างต่อให้ใครมาเจอน้ำฟ้าก็ตกหลุมรัก
และเอ็นดูน้ำฟ้าไม่ได้หรอกครับ”มันหอมแก้มก่อนจะพูดออกมา
“ขอบคุณครับ จุ๊บ”ผมขอบคุณพร้อมกับตัดสินใจทำสิ่งหนึ่งออกไป นั้นคือการจุ๊บปากไอ้หมอนข้างหนึ่งทีเร็วๆ
“บอลพี่รักบอลนะครับ พี่จะไม่ปล่อยกับลูกไปไหนแน่ๆ”มันกอดผมบอกด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่นไม่เปลี่ยนแปลง
มันเริ่มลงปากมาแนบกับผม ซึ่งผมไม่ปฏิเสธที่จะรับสัมผัสวาบหวามที่มันมอบให้ ปลายลิ้นนุ่มลื่น
เกาะเกี่ยวปลายลิ้นผมให้ตามการชักนำของมัน
“ฮา...ฮา..”มันปล่อยริมฝีปากเพื่อให้ผมได้สูดหายใจเข้า แต่ปากของมันยังคงไม่หยุดการทำงาน
มันยังคงวนเวียนตามใบหน้า ซอกคอ ขบกัด
“พี่วุฒิอย่าทำรอยนะ”ผมถึงกับต้องออกปากห้าม
“ครับ จุ๊บ...”มันรับปากแต่ก็ยังคงปฏิบัติการ มือไม้ก็ป่ายปัดไปตามร่างกายของผม ฟอนเฟ้นยอดอกของผม
เพียงไม่นานเสื้อผ้าของผมก็หายไปจากร่างกาย ส่วนของมันยังคงมีครบชุด มันวกริมฝีปากกลับมาหายอดอกของผม
ก่อนจะอ้ารับยอดอกเข้าไปทั้งหมด ทั้งขบกัด ดูดดุน อีกข้างก็ใช้มือบีบเค้นสับกันไปมา
“ไม่ไหวแล้วพี่วุฒิ”ผมถึงกับต้องร้องบอกไอ้หมอนข้าง
“ครับ จุ๊บ หอมจริงๆบอลครับพี่รักบอลนะ”มันตอบรับคำขอ
มันกวาดงานบนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ของมันลงด้านล่างและดันผมลงนอนแทน มันตามลงมาทาบทับ
แนบชิดจนอะไรต่ออะไรที่แสดงถึงอารมณ์สัมผัสกันแต่มีกางเกงของมันคั้นไว้ มันรีบปลดเครื่องห่อหุ้มตัวมันออกจนหมด
เราต่างใช้ร่างกายสัมผัสกันเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ โดยใช้แท่งร้อนเสียดสีกันไปมา ไอ้หมอนข้างเอื้อมมือ
มายังจุดอ่อนไหวหน้าหลังผมจนผมสะดุ้ง
“พี่วุฒิบอลยังไม่พร้อม อย่านะครับ”ผมบอกและอ้อนวอน
“ก็ได้ครับ”มันรับปาก ผมรู้ว่ามันอดทนเพื่อผม เพราะผู้ชายที่ถูกปลูกปั่นอารมณ์จะห้ามตัวเองนั้นลำบาก
แต่ไอ้หมอนข้างมันรับปากผม ผมรู้ว่ามันทรมานขนาดไหน
เราต่างเสียดสีร่างกายจนร้อนแทบจะไหม้ทั้งสองฝ่าย ถึงแม้ขนาดอาวุธที่ผมมีนั้นจะมีขนาดสู้ของมัน
ไม่ได้แต่ผมก็ไม่ยอมแพ้ จนในที่สุดเราต่างก็ถึงยังจุดหมายด้วยกันทั้งคู่
“อ่ะ พี่วุฒิ ไม่ ไม่ ไม่ไหวแล้ว อืมมมมมมมมมมม”ผมถึงกับตะโกนร้องบอกมันก่อนจะโดนมัน
ปิดกั้นเสียงด้วยริมฝีปากของมัน
“บอล ซี๊ดดดด บอล พี่รักบอล อืม”มันเรียกชื่อผมพร้อมบอกรักก่อนจะก้มลงมาจูบปาก
ผมถึงกับหมดแรง ไอ้หมอนข้างอุ้มผมออกมจากห้องนอนโดยไม่มีเสื้อผ้าติดกายเลยแม้แต่ชิ้นเดียว
“พี่วุฒิไม่เอานะ”ผมถึงกับร้องห้ามมันถึงแม้เสียงจะแหบพร่าก็ตาม
“ไม่ต้องห่วงนะครับบอล ไม่มีใครอยู่แล้ว ทั้งทศและต้น”มันบอกผมให้สบายใจ ผมจึงยอม
ให้มันอุ้มผมออกไปจากห้องทำงานไปยังห้องนอน มันพาผมเข้าไปอาบน้ำชำระล้างร่างกายจากคราบต่างๆ
และเหงื่อจากกิจกรรมนั้น แล้วมันก็เกิดกิจกรรมในห้องน้ำอีกจนได้ด้วยเหตุผลที่ว่า ‘ก็บอลน่ารักน่ากิน’
ออกมาจากห้องน้ำได้ ไอ้หมอนข้างก็จับผมทาแป้งแต่งตัวให้ก่อนจะกอดผมนอน ด้วยวันนี้ผมเหนื่อยมากเหลือเกิน
ทั้งห้องน้ำฟ้า งานตัวเอง และกิจกรรมก่อนนอนจนทำให้ร่างกายเข้าสู่กระบวนการพักผ่อน แต่ก่อนที่สติ
จะหลุดลอยไปผมก็ได้ยินเสียงไอ้หมอนข้าง
“ฝันดีนะครับครูบอลของพี่วุฒิ ฟอด.....”
สวัสดีค่ะทุกคน

คิดถึงกันบ้างไหมเอ๋ย อยากบอกว่าตุ๊กตาคิดถึงทุกคนมากๆ หวังว่าจะไม่หนีหายไปไหนกันค่ะ
สำหรับตอนนี้ยาวสะใจไหมค่ะ อิอิ

ตอนนี้ต้องการกำลังใจอย่างแรง และขอบคุณสำหรับคำอวยพรและความเป็นห่วงเรื่องของคุณตา

ยอมรับเลยค่ะว่าเหนื่อยมาก จากแต่ก่อนที่ท่านพอจะเดินได้บ้าง แต่พอหลังออกจากโรงพยาบาลแล้วท่านก็เดินไม่ได้
และรูปร่างของท่านเป็นคนโครงใหญ่โบราณเลยลำบากเข้าไปอีก

แต่ตุ๊กตาขอสัญญาว่าจะไม่ทิ้งเรื่องนี้เด็ดขาดเลยค่ะ จะมาทุกอาทิตย์
ขอบคุณทุกบวกที่ให้มาค่ะ

ทุกคนเลย
พบกันอีกทีวันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคมนะค่ะ
