หลบรักII - 02(Ik x Kao)
สองสัปดาห์ที่ผ่านมาเวลาเดินไวมาก ผมไม่ได้ทำอะไรเลย กลับบ้านต่างจังหวัดหนึ่งอาทิตย์แล้วก็มากินเหล้า เล่นบาส ช่วยค่ายน้อง ๆ ที่มหาวิทยาลัย ช่วงนี้ไม่เจอไอ้ไอซ์เพราะเรียนจบแล้วกอรปกับปิดเทอมมันบอกอยู่บ้านอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบเข้าป.โท ผมกับไอซ์สนิทกันแบบเพื่อนผู้ชาย ไม่ได้ติดต่อกันตลอดเวลา เจอกันในเฟสบ้างแต่ไม่ค่อยทัก พี่ชายไอ้ไอซ์ต่างหากที่คอยวนเวียนอยู่รอบเป็นเงาตามตัวไม่ห่าง
ผมไม่ได้แปลกใจหรอก ชินแล้ว ปกติเฮียก็เป็นแบบนี้ โดยเฉพาะช่วงปิดเทอมที่ผมไม่ได้กลับบ้านจะมาอยู่เป็นเพื่อนทุกปี ส่วนเรื่องงานที่บริษัท ผมเล่าให้เฮียฟังว่า HR โทรหาเมื่อไม่กี่วันก่อนและให้เริ่มงานต้นเดือน เฮียก็ไม่ประหลาดใจสักนิดที่ผมบอกว่าได้งาน แต่กลับแปลกใจนิดหน่อยที่ผมถามหามิลค์ ผู้หญิงที่ยังไม่ทันแลกเบอร์โทรกันตอนนั้น
“มัณฑนาเหรอ เห็นว่าทางคุณรจนาฝ่ายเซลรับไว้นะ รู้จักกันเหรอ?”
“ก็คุยกันวันนั้นแหละ น่ารักดี ผมชอบ”
“จะจีบสาวเหรอ นึกยังไงขึ้นมา อยู่เป็นโสดมาตั้งนานแท้ ๆ ”
เฮียอิ๊กถามผมแต่ไม่มองหน้า ตอนนี้เรานั่งอยู่ในร้านข้าวใกล้ ๆ ม. ที่ผู้คนโหลงเหลงเพราะยังเป็นช่วงปิดเทอมอยู่
“โสดตลอดอะไรวะ เห็นอย่างนี้ผมก็เคยมีแฟนนะเว้ย”
“จริงเหรอ ไม่เห็นรู้”
“ผมไม่ใช่คนอวดแฟนว่ะ ฮ่า ๆ เด็กแถวบ้านน่ะ คบมาตั้งแต่ ม.ต้น เพิ่งเลิกกันปีที่แล้วเอง”
“ไม่เห็นกิ๊บเคยพูดถึง”
เฮียรวบช้อนวางคู่กับส้อม ยกน้ำขึ้นจิบทำหน้าบึ้งตึงเหมือนโกรธที่ผมไม่ยอมเล่าให้ฟัง ผมเลยต้องหัวเราะแห้งแก้เก้อ ไม่ได้ตั้งใจจะปิดนะเว้ย แค่ไม่รู้จะพูดทำไมเท่านั้นเอง
“เพื่อนไอ้กิ๊บนั่นแหละ แต่มันไม่ชอบ คอยยุให้เลิกกับผมอยู่เรื่อย บอกว่าพอห่างกันแฟนผมก็มีคนอื่น แต่ตอนนั้นไม่เชื่อหรอก จนกลับไปเจอกับตาเข้าให้”
พอได้ยินเฮียอิ๊กก็ยิ้มหยันที่มุมปาก หมุนปลายนิ้วลงบนขอบแก้วไปเรื่อย ๆ
“แล้วไม่เข็ดเหรอ? เพิ่งเลิกกันไม่นานเองนี่ อยู่คนเดียวไปก่อนดิ”
“ไม่ได้หรอก เดี๋ยวไอ้ไอซ์ชิงมีแฟนก่อนผมก็ถูกทับถมตาย น้องเฮียก็ใช่เล่น เห็นเงียบ ๆ อย่างนั้นชอบกัดจิกผมด้วยสายตา ยังกับตุ๊ด”
“ไม่ใช่ตุ๊ด ไอซ์มันเป็นเกย์”
แค่กกก!! สำลักครับ นาทีนี้ น้ำเย็น ๆ ที่ดูดขึ้นหลอดเมื่อครู่พ่นออกมาทางจมูก หน้าตาเฮียไม่ได้ล้อเล่นเลยสักนิด แม้แต่รอยยิ้มนั่นก็ยังแลดูสบาย ๆ เมื่อพูดถึงด้วยซ้ำ ร้านข้างถนนแบบนี้ไม่มีทิชชู่ พอจะเอาแขนเสื้อเช็ดวันนี้เสือกใส่เสื้อบาสตัวหลวมโคร่งลงมาจากหอเสียอีก
“สกปรก เอานี่ไป”
ได้ผ้าเช็ดหน้ามาผมก็เช็ดหมดเลยครับ น้ำตา น้ำลาย ทิ้งท้ายด้วยการสั่งน้ำมูกแรง ๆ ให้เม็ดข้าวที่หลุดเข้าไปในหลอดลมไหลพรืดออกมาด้วย
“หน้าแดงไปหมดแล้ว กินน้ำตามไป ช้า ๆ ไม่ต้องรีบ ไอ้เก้า ไม่ต้องเอาผ้ามาคืน กลับไปซักมาก่อน ไอ้ซกมกเอ๊ย”
ถึงทั้งประโยคของเฮียจะดุตั้งแต่เริ่มยันจบมันก็ยังหัวเราะ เฮียอิ๊กเป็นคนอารมณ์ดีหนึ่งในหลาย ๆ คนที่เคยเจอเลยทีเดียว หน้าตามันยิ้มแย้มตลอด ไม่บ่อยที่จะเห็นเฮียเหนื่อย หรือหงุดหงิด คนอารมณ์ดีนี่ดีอย่างครับ อยู่กับใครคนข้าง ๆ มักจะมีความสุขไปด้วย ผมเลยได้ผลพลอยได้จากเฮียชดเชยอารมณ์บูดบึ้งของไอ้ไอซ์ที่กระหน่ำซัดมาตลอดเวลา
ไอ้ไอซ์ไม่เคยมีแฟน มันเป็นคนหยิ่ง พูดน้อย และถือตัวในระดับหนึ่ง คนชอบมันเยอะมาก ทั้งผู้หญิงผู้ชาย แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เห็นมีใครเข้าหา อย่างไอ้เกรียนแซน รายนั้นก็ชอบแซะถามผมเรื่องไอซ์อยู่เรื่อย ดูก็รู้ว่ามันชอบ แต่ไม่รู้ทำไมถึงไม่ยอมทำอะไรเป็นปี
“เฮียรู้ได้ไงวะว่าไอซ์มันเป็นเกย์”
“แฟนมันเป็นผู้ชาย”
โชคดีที่ครั้งนี้ผมไม่ได้ดื่มหรือกินอะไรเข้าไปเลยไม่เกิดโศกนาฏกรรมอีกครั้ง แต่ไอ้ไอซ์มีแฟน ไอ้เหี้ยไอซ์เนี่ยนะ มีแล้วไม่เล่าให้กูฟัง ไอ้สัด เห็นป๋าดีกว่าเพื่อนรักอย่างกู มันน่าน้อยใจนัก
“ใครวะแฟนมัน แล้วเฮียรู้ได้ไง โม้ป่าว”
“ไอ้เด็กห้อง 1206 ไง คบกันมาสักพักแล้ว ก่อนหน้านี้ไอซ์มันไม่ค่อยกลับบ้านเตี่ยเลยเค้น สืบไปสืบมาก็นั่นแหละ รุ่นน้องที่ภาค”
“เชี่ยแซนร้ายมาก กูรึก็เห็นติ๋ม ๆ เจียมเนื้อเจียมตัว ล่อเพื่อนกูซะงั้น ว่าแต่เตี่ยไม่ว่าเหรอเฮีย”
เฮียอิ๊กท้าวคางกับโต๊ะสังกะสี สั่งทับทิมกรอบมากินเพิ่มแถมยังเผื่อผมอีกถ้วย “รู้ใช่ไหมแม่ฉันเป็นมะเร็งตาย”
ผมพยักหน้า เพิ่งเสียไปเมื่อ 4 ปีก่อน ผมเองก็เกณฑ์เพื่อน ๆ ไปช่วยที่งานบ้านเฮียอยู่หลายวัน
“เตี่ยไม่บอกแม่ เพราะกลัวทรุดเร็ว แต่เวลามันก็ยื้อไม่ได้ว่ะ ตอนที่ใกล้ตาย แม่พูดว่า ถ้ารู้ว่าตัวเองมีเวลาเท่าไหร่ จะใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้มีความสุขที่สุด จะไม่มาเสียเวลาน้อยอกน้อยใจชีวิตที่ต้องตกมาเป็นเมียน้อยพ่อเลย ชีวิตคนมันสั้น ใช้เวลาสั้น ๆ กับสิ่งที่ทำแล้วคิดว่าดี มีความสุขดีกว่า ไอซ์เป็นเกย์ไม่เป็นไร พี่ไม่มีเมียไม่เป็นไร เขาแค่อยากให้พี่กับไอซ์แฮปปี้กับชีวิต”
ผมพยักหน้า เห็นด้วยกับความคิดของเฮียแล้วตักทับทิมกรอบเข้าปาก “นั่นดิ จะตายวันตายพรุ่งไม่รู้ ผมรีบจีบมิลค์ดีกว่าว่ะ”
เฮียอิ๊กไม่ว่าอะไร ท้าวคางกับโต๊ะสังกะสีมองผมด้วยสายตาแปลก ๆ พอกินเสร็จก็เรียกเก็บเงินแล้วเดินกลับเข้ามาส่งในซอยหอเพราะจอดรถไว้ใต้อาคาร ปิดเทอมระหว่างช่วงถนนจากร้านไปหอพักเงียบสนิท มีเพียงไฟโคมเปิดเป็นระยะห่าง ๆ กันเท่านั้น
“ชอบคนแบบไหนวะเก้า?”
จู่ ๆ เฮียก็ถามขึ้น ผมเลิกคิ้วขึ้นนิดหน่อยเพราะไม่คิดว่าเฮียจะสนใจแต่ก็ตอบตามความจริง
“ผมชอบผู้หญิงสวยดิ ผมยาว นมโต ใคร ๆ ก็ชอบ” เว้นจังหวะนิดนึงเมื่อนึกถึงคนที่เลิกกันไป “แต่ผมคงอยากอยู่กับคนที่รักผมจริง ๆ ไว้ใจได้ พูดจารู้เรื่อง ไม่งี่เง่าว่ะ โตแล้ว ไม่อยากคบใครเล่น ๆ ”
“ผู้หญิงไม่งี่เง่ามีด้วยเหรอวะ”
“เออว่ะ ฮ่า ๆๆๆ นั่นแหละ งั้นงี่เง่าก็ได้ แต่อยากให้เข้าใจผม มาเรียนกรุงเทพมันไกลบ้าน กลับบ้านบ่อย ๆ ไม่ได้ก็อยากให้รอ ไม่ใช่แอบไปมีผัวน้อยระหว่างที่ผัวหลวงไม่อยู่”
“อย่ามาดราม่า”
เฮียพูดพลางวางมือลงบนหัวผมแล้วจับโยก ก่อนเลื่อนมาโอบบ่าผมกระชับเข้าใกล้ “เฮียมาจี้ใจดำผมไมล่ะวะ”
“กินเบียร์ไหม”
“เลี้ยงปะ?”
“ได้อยู่แล้ว”
ผมหันไปยิ้มให้เฮียจนปวดแก้ม สิ่งที่ได้รับกลับมาคือเสียงหัวเราะอย่างไว้ท่าตามสไตล์ มีร้านมินิมาร์ทใกล้ที่พัก พอเจ้ามือตกลงปลงใจให้โดนปล้นเลยเลี้ยวเข้าไปขนเบียร์ใส่ตะกร้าเต็มสตรีม แล้วทายสิครับผมเจอใคร ไอ้เชี่ยแซนกำลังเลือกถุงยางที่เคาท์เตอร์อยู่เลย
“ไงมึง”
ผมเดินไปตบหัวมัน ไอ้แซนหันกลับมาไหว้จนกล่องถุงยางร่วงระนาว “พี่เก้า ผมตกใจหมด”
“ซื้อเหี้ยอะไรเยอะแยะ ติดสัตว์เหรอมึง”
“ช่วงนี้แฟนไม่อยู่ต้องแอบซื้อตุนเอาไว้ ขืนพามาซื้อด้วยกันเดี๋ยวผมตาย”
“แฟนเต็มปากเต็มคำเลยนะมึง ไปจีบกันตอนไหนเนี่ย”
มันหัวเราะแต่ไม่ตอบ เหลือบตามองคนข้างหลังผมแล้วยกมือไหว้อีกครั้ง “พี่ชายพี่ไอซ์ใช่ไหมครับ?”
เฮียพยักหน้า ไอ้แซนเลยขมวดคิ้วมองผมงง ๆ “ไหงมาด้วยกันได้”
“เออน่า เสี้ยนเบียร์ว่ะ ไปแดกด้วยกันดิ แล้วไอ้ไอซ์ไปไหนวะ”
“กลับบ้านบ้างสิพี่ เออ ๆ ดีเหมือนกัน พี่ไอซ์ไม่อยู่ผมโคตรเหงาเลย ขี้เกียจออกไปร้านเกมด้วย ปิดเทอมมีแต่เด็กหัวเกรียนมาเล่น”
ไอ้แซนเดินไปหยิบขนมเพื่อเป็นกับแกล้มเพิ่มนิดหน่อยแล้วให้เฮียอิ๊กจ่ายเงิน เฮียมันใจดีครับ ไม่บ่นไม่ว่าอะไร จ่ายเงินค่าถุงยางอนามัยให้ไอ้แซนด้วยซ้ำ ไอ้เชี่ยแซนก็หน้าด้าน ไหว้ขอบคุณพี่เมียซื่อ ๆ ผมโบกหัวมันไปหลายรอบแต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะสลด หลังจากนั้นพากันกลับมากินเบียร์ที่ห้อง
หอพักนี้ผมอยู่คนเดียวตั้งแต่ปีหนึ่งยันปีสี่ คิดว่าตอนทำงานก็คงยังอยู่ที่เดิม ขี้เกียจย้าย มหาวิทยาลัยผมมีรถไฟฟ้าผ่าน เพราะฉะนั้นจะเดินทางไปมาก็สะดวกอยู่แล้ว คนที่มานอนที่ห้องบ่อย ๆ ก่อนหน้านี้ก็มีแต่ไอ้ไอซ์ พักหลัง ๆ เอะอะไปนอนห้องไอ้แซนตลอด ไอ้เราก็นึกว่าไม่มีอะไร ที่แท้แอบไปกินกันไม่บอกกู นึกแล้วยังน้อยใจไม่หาย
“มึงจีบไอ้ไอซ์ยังไงวะ”
ผมถามแซนขณะที่เฮียลุกไปสูบบุหรี่ริมระเบียง แบกกีต้าร์โปร่งราคาไม่กี่พันของผมไปด้วย ไอ้แซนยกเบียร์ขึ้นกรึบ ๆ ก่อนหันมาตอบ
“ได้กันก่อนค่อยจีบ”
“โคตรเชี่ย” ผมหัวเราะ “แล้วยังไง ไปได้กันได้ยังไง”
“วันบายเนียร์แหละพี่ ที่เมาแล้วขนกันมานอนที่ห้องพี่อะ พี่ไอซ์ก็เมา ผมเลยพาไปใช้ห้องน้ำที่ห้อง เฮ้ย อย่ามองแบบนั้นดิ ไม่ได้ตั้งใจจะมอมเหล้าพี่ไอซ์แล้วหลอกฟันนะเว้ย ผมชอบพี่ไอซ์มานาน พี่ก็รู้”
“แต่มึงไม่เห็นมีทีท่าว่าจะจีบมัน เป็นปีเลยนะ”
“ผมคิดว่านั่นน่ะเสี่ยที่เลี้ยงพี่ไอซ์นี่หว่า”
แซนพยักเพยิดไปยังคนที่อยู่ริมระเบียง “จริง ๆ ก็แอบขอเบอร์แลกไลน์ตั้งแต่ในงานแล้ว เผื่อวันนึงพี่ไอซ์เลิกกับป๋าผมจะจีบต่อ ไม่อยากยุ่งกับคนมีเจ้าของว่ะ แต่ก็นะ... พอได้อยู่กับคนที่ชอบตามลำพัง ก็สันดานผู้ชายอะพี่ อยากกอด อยากหอม พอฟัดได้สักพักก็คุมอารมณ์ไม่อยู่ เมาด้วย พี่ไอซ์ก็ไม่ได้ห้าม รู้ตัวอีกทีก็ตอนเสร็จนั่นแหละ”
“มึงก็นะ ดีที่ไม่โดนยิงหัวเข้าให้ ไอ้ไอซ์ดุจะตายห่า”
“พี่ไอซ์น่ารัก”
ผมลูบแขน ขนลุกครับ ไอ้เชี่ยแซนพูดถึงเมียมันตาหวานเยิ้ม ยิ้มทีเหมือนดูดเอาความสุขคนอื่นไปหมด สารเลว เห็นคนรักกันแล้วมันคันตีนชะมัด
“ว่าแต่พี่กับเฮียพี่ไอซ์น่ะ แปลกว่ะ”
“แปลกอะไร?”
“กิ๊กกันเหรอ?”
ผมแทบพ่นเบียร์ออกมาทางจมูก แต่ก็กล้ำกลืนฝืนทนจนเครื่องดื่มไหลลงคอจนหมดแล้วด่าไอ้คนถาม “กิ๊กเหี้ยอะไร เฮียจีบน้องสาวกูเลยสนิทกัน”
“เขาบอกเหรอ?”
“เปล่า กูจับได้ว่าแม่งชอบโทรไปหาไอ้กิ๊บเลยรู้ ปากหนักจะตาย ถามเท่าไร ๆ ก็เอาแต่ยิ้ม”
ไอ้แซนขมวดคิ้วทำท่าคิด ก่อนขยับตัวมานั่งข้างผม “ผมว่าเขาไม่ได้จีบน้องพี่หรอกว่ะ” มันกระซิบแล้วเอี้ยวตัวหันไปมองด้านหลังที่เป็นระเบียง “พี่เก้า ขอจูบหน่อยดิ”
“ครวยครับ จูบตีนกูก่อนไหม?”
“แค่ปากชนกันเอง ผมอยากรู้”
“มึงจะมาพิสูจน์ชาติพันธุ์เกย์อะไรกับกูวะไอ้เชี่ย เมาแล้วเหรอมึง”
ผมปรายตามองมันแล้วยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่ม ไอ้แซนเลยขยับมาโอบบ่าผมไว้แทน ที่จริงผมไม่ใช่ผู้ชายตัวเล็กครับ เทียบกับแซนแล้วผอมกว่านิดหน่อย เรื่องส่วนสูงอยู่ระดับมาตรฐานชายไทย เท่า ๆ กันกับเฮียอิ๊กและไอ้แซน แต่สูงกว่าไอซ์ประมาณห้าเซนติเมตร
“อะไรอีกเนี่ย ร้อนจะตายห่า กระแซะทำซากอะไร แม่ไม่รักเหรอมึง”
ไอ้ห่าแซนหัวเราะ แล้วยื่นหน้ามาใกล้เหมือนสนุกที่ได้แกล้ง ยังไม่ทันจะได้ด่าซ้ำ เสียงปิดบานเลื่อนประตูกระจกริมระเบียงก็ดังขึ้นรุนแรงจนไอ้แซนฝ่ายถอยไปเองด้วยความตกใจ
“เติมเบียร์ให้หน่อย”
ผมยื่นมือไปรับแก้วจากเฮียแล้วส่งต่อให้ไอ้แซนเป็นคนเท เฮียวางกีต้าร์ไว้บนเตียงแล้วลงมานั่งขัดสมาธิที่พื้นข้าง ๆ ผม แต่ตาจ้องไปที่ไอ้แซนไม่กระพริบ
“อะไรวะเฮีย ดูทำหน้าเข้า ปวดขี้เหรอ”
เฮียอิ๊กไม่ตอบ รับแก้วมาจากไอ้แซนแล้วใช้แขนซ้ายท้าวเยื้องไปด้านหลังซึ่งตรงกับหลังผมพอดี เอนตัวนิดเดียวแผ่นหลังของผมก็ชนกับแขนแกร่งราวกับถูกโอบไว้แล้ว ไอ้แซนเลิกคิ้วขึ้นนิด ๆ พลางอมยิ้ม “พี่ไอซ์บอกว่าพี่เก้าซื่อบื้อ เมื่อก่อนผมไม่เชื่อนะ แต่ตอนนี้ผมว่าใช่แล้วว่ะ”
“อะไรของมึง อย่าไปฟังไอ้ไอซ์มันมาก อ้อ.. โทษ ๆ กูลืมไปว่ะมึงมันกลัวเมีย ขนาดซื้อถุงยางยังต้องซื้อหลบ ๆ ซ่อน ๆ เลย ฮ่า ๆๆ”
“กลัวไรพี่ เขาเรียกเกรงใจ” ไอ้แซนรีบบอกปัด แล้วหันมาชวนเฮียคุย “พี่อิ๊กชอบคนแบบไหนเหรอครับ?”
เฮียอิ๊กยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่มแต่ไม่ตอบ เห็นแก้วผมเหลือแต่น้ำแข็งก็ส่งให้ไอ้แซนเติมแล้วยัดใส่มือผม “เก้า...”
“เอออ รู้แล้วน่า” ผมยกแก้วเครื่องดื่มกระดกลงคอพรวด ๆ เชี่ยนี่แม่งทำมาเร่งให้กูดื่ม ไม่ยอมตอบคำถามน้องมัน ไอ้แซนพอเห็นผมยกมิดซอยก็หัวเราะหน้าดำหน้าแดง แล้วยื้อแก้วเปล่าไปเติมเบียร์ให้ผมใหม่
เฮียอิ๊กกับแซนมองหน้ากันเหมือนกำลังพยายามสื่อสารอะไรที่ผมตีความไม่ออก สุดท้ายเลยปีนไปหยิบกีต้าร์มาเล่นแก้เซ็ง ดื่มกันไปได้ค่อนคืนเบียร์ก็หมด ไอ้แซนเมาพับตามประสาคนคออ่อนเฮียเลยอาสาแบกมันไปส่งห้อง แล้วกำฃับให้ผมอาบน้ำสระผมให้เรียบร้อย
ผมน่ะตึง ๆ ยังไม่ถึงกับเมา อาบน้ำสระผมตามคำสั่งเสร็จก็สวมกางเกงบาสใส่นอนโดยไม่มีชั้นใน กลับออกมาข้างนอกเห็นเฮียนั่งเกากีต้าร์อยู่ก็ไปนั่งข้าง ๆ มัน
“นอนนี่ก็ได้นะเฮีย ดึกแล้ว ดื่มด้วยเดี๋ยวเจอด่าน”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวกลับแท็กซี่ ฝากรถไว้ก่อนพรุ่งนี้ค่อยมาเอา”
“ทำไมเฮียไม่ชอบนอนห้องผมวะ? ชวนอยู่ทีไรก็จะกลับให้ได้”
“ไม่ชินมั้ง” เฮียยกกีต้าร์วางบนตักผมแล้วดึงผ้าเช็ดตัวที่พาดบ่าไว้ออก “ลงไปนั่งที่พื้นไป เล่นให้ฟังหน่อยเดี๋ยวเช็ดหัวให้”
ผมพยักหน้าแล้วเลื้อยลงไปนั่งที่พื้นโดยมีเฮียนั่งอยู่บนเตียง มันเช็ดผมให้พลางกดนวดขมับไปด้วย พอผมแห้ง ปลายนิ้วอุ่นก็กดลงมาที่คอ นวดบ่าให้ ผมนั่งเกากีต้าร์อยู่พักใหญ่ พอนึกถึงเพลงที่ชอบขึ้นมาได้ก็เล่นพลางฮัมไปเบา ๆ ไม่รู้ตัวว่าเฮียเลื้อยมานั่งที่พื้นด้วยกันซ้อนทับด้านหลังผมตั้งแต่เมื่อไหร่ มือที่กดนวดอยู่บริเวณหัวไหล่ทำเอาผมสบายจนต้องครางออกมาเบาๆ
“....อาาห์”
“เก้า... อยู่แบบนี้ดีไหม?”
“หืม? อะไร ที่นวดน่ะเหรอ?”
“เปล่า หมายถึงระหว่างเรา”
“อะไรวะ?”
ผมหันไปมองคนพูดไม่เข้าใจ ทว่ากลับไม่มีคำพูดอะไรหลุดออกมาระหว่างผมกับมันเมื่อบังเอิญประสานสายตากัน ภาพที่สะท้อนอยู่ในดวงตาคู่นั้นพยายามสื่อความหมายบางอย่าง ผมเริ่มทำอะไรไม่ถูกเพราะถ้าไม่คิดเข้าข้างตัวเองจนเกินไป ผมว่าผมอ่านสิ่งที่ซ่อนอยู่ในแววตาคู่คมออก
“—เฮีย”
“ฉันก็เคยชอบผู้หญิง แต่ตอนนี้...”
“ยะ...อย่าพูดนะเว่ย!!”
ผมผลักมันออกแล้วลุกขึ้นยืน เฮียอิ๊กนั่งอยู่ท่าเดิมสักพักก็ลุกขึ้นเหมือนกัน ผมหันไปหยิบซากเสื้อที่ถอดโยนไว้ก่อนอาบน้ำมาสวม มองมันด้วยความหวาดระแวง “ฉันไม่ได้จะ...”
“อย่าเข้ามานะเว่ย!”
“เก้า ใจเย็น ๆ ฟังก่อน”
ไม่ฟังเหี้ยอะไรแล้วแม่ง สี่ปีที่รู้จักกันมาคือหวังฟันตูดกูมาตลอดเลยใช่ไหม เฮียอิ๊กขยับขานิดเดียวผมก็โผเข้าต่อยมันสุดกำลัง ได้ยินเสียงกระดูกเคลื่อนดังกร๊อบแต่ตอนนั้นกลัวมันลุกมาปล้ำมากกว่าเลยกระโดดถอยหนี แต่เฮียอิ๊กกลับยังยืนนิ่งไม่มีปฏิกิริยาใดหลังจากโดนหมัดลุ่น ๆ ของผมอยู่พักใหญ่
“มึงกลับไปเลย!”
เฮียอิ๊กใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มข้างที่โดนสอยไปก่อนพยักหน้าลง เดินไปหยิบกระเป๋าตังค์กับมือถือที่วางไว้บนโต๊ะเครื่องแป้งแล้วเดินออกไปจากห้องแต่โดยดีและไม่พูดอะไรอีก กระทั่งเสียงประตูห้องปิดลง ผมก็บีบมือตัวเองแน่นอยู่อย่างนั้น
ไอ้เฮียอิ๊ก ไอ้เชี่ย!
ทำแบบนี้ทำไมวะ ทำเพื่ออะไร ทำลายความเคารพ ความไว้ใจ หักหลังกันด้วยความรู้สึกบ้า ๆ แบบนี้ไปทำไม
ทำไมต้องมองกูด้วยสายตาแบบนั้น..
ทำไมต้องคิดกับกูแบบนั้น…
“โว้ย!!!!!”
ทำไม.....TBC
สวัสดีต้นเดือนพฤศจิกายนคร้าบบบ
แอบมาลงต่อแล้ว ได้กลิ่นมาม่าใส่ไอติมวานิลลาตุ ๆ อะแฮ่ม วันนี้ขอนำเสนอมุมคนรั่ว ๆ ก็เครียดเป็นนะครับ
แอบมีแซนโผล่มานิดหน่อยพอเป็นสีสัน
ตอนหน้าพาร์ทนี้จบแล้วครับ ขอบคุณทุกคอมเมนต์นะฮะ เราจะตั้งใจเขียนนิยายต่อไป
รักคนอ่านมาก 