
มาสั้นๆนะครับผม
ได้เวลาจะไปเดินสายรดน้ำดำหัวญาติผู้ใหญ่แล้วครับผม

***********************************************************
เฮียมี่มีกิ๊ก...3
เอาล่ะสิทีนี้ผมเริ่มเกิดความเครียดเล็กๆขึ้นมาแล้ว
ถึงแม้มือถือผมจะซ่อมกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิมแล้วก็ตาม
แต่สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมคือ “ความหวาดระแวง” ที่เกิดขึ้น
ตั้งแต่ผมใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันกับเฮียมา...16-17ปี
เราสองคนก็เคยหึงหวงกันบ้าง เข้าใจผิดกันบ้าง
หากแต่ทุกครั้ง
ต่างก็รู้สาเหตุด้วยกันทั้งคู่ว่าเกิดจากอะไร
งอนง้อกัน ปรับความเข้าใจกัน แล้วก็จบ ไม่เยิ่นเย้อ
แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้ง
ทุกครั้งผมแค่โกรธ โมโห งอน ไม่พอใจ
แต่ความรู้สึกครั้งนี้
เหมือนโดนหักหลัง สวมเขา โกหก หลอกลวง
ผมรู้สึกไม่มั่นคงในสถานะของตัวเองขึ้นมาเป็นครั้งแรก
ถึงจะอยู่ด้วยกัน
แต่ผมไม่มีหลักประกันใดๆให้กับตัวเองเลยสักนิด
ไม่มีทะเบียนสมรส ไม่มีตำแหน่งภรรยาในวงสังคม
ผมกลัว...ผมไม่มีทางจากเฮียไปแล้วเริ่มต้นใหม่กับใคร
จะครองตัวเป็นโสด ผมก็ทำไม่ได้ ผมว้าเหว่ ผมอ่อนแอ
ผมต้องการคู่ชีวิตที่จะจับกุมมือกันเดิน
ไปจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต
ผมยังไม่พูดเรื่องที่สงสัย ผมได้แต่คิดวกไปวนมา
ถ้าเรื่องมันไม่ใช่อย่างที่ผมระแวงก็ดีไป
แต่ถ้าเป็นเรื่องจริง
เฮียมีคนอื่นจริงๆ ผมจะทำอย่างไรดี
ผมพยายามทำตัวให้เหมือนเดิมทุกอย่าง
ทั้งๆที่ตอนนี้ในใจผมมันกระวนกระวาย ร้อนรนไปหมด
เฮียยังไม่รู้อะไรเลย นอกจาก...
เห็นผมเงียบๆหงอยๆ
แกก็ชวนคุยมากขึ้น ชวนไปโน่นนี่ เอาใจมากขึ้น
นั่นยิ่งทำให้ผมระแวงหนักเข้าไปอีก
ทำผิดแล้วมากลบเกลื่อนเอาใจรึป่าวนะ
จะถามใคร จะปรึกษาใครดีล่ะครับ
ผมยังไม่รู้ว่าคนนั้นเป็นใคร มีตัวตนรึเปล่า
คนๆนั้น.....
อาจจะเป็นคนในที่ทำงาน(โรงพยาบาล)
อาจจะเป็นคนไข้ หรือญาติ
อาจเป็นเพื่อน
อาจเป็นคนรู้จัก
ผมมืดมนไปหมด
น้ำหนักลดลงไปเกือบสองโล
จากตัวเล็กอยู่แล้ว ก็ยิ่งดูซูบ ซีดเซียวและโทรม

ผ่านไปหลายวัน เกือบหนึ่งอาทิตย์
ไม่มีอะไรคืบหน้า
เฮียมี่ก็ยังเหมือนเดิม
หวงมือถือ
นอกนั้นทุกอย่างเหมือนปกติ
ไม่ได้การล่ะ
ผมต้องลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับความจริง
ดีกว่ามารู้เอาเมื่อเรื่องมันไปไกลกว่านี้
ถึงตอนนี้อาจจะสายไปแล้วก็เถอะ
ผมเริ่มกลับมาพูดคุยเหมือนเดิม แม้จะฝืดฝืนอยู่บ้าง
แล้วเริ่มเดินหน้าค้นหาความจริง
เวลาออกไปข้างนอก
ผมจะแกล้งลืมพกมือถือบ้าง
ผมจะปล่อยให้แบตหมดบ้าง
ไม่พกพาพาวเวอร์แบงค์บ้าง
แล้วก็ขอยืมมือถือเฮียมี่
เหมือนเดิมเลยครับ
อิดออด โลว์แบต ตลอดๆ
คนเราลองได้ระแวงกันแล้วนะครับ
ความเชื่อใจกันมันก็เริ่มจางหาย
ผมเริ่มสังเกตพฤติกรรมของเฮีย

เวลานั่งรถ
แต่ก่อน
เฮียขับรถจะเอามือถือทั้งสองเครื่อง
วางตรงกลางระหว่างเบาะทั้งสอง
มันจะมีที่วางของพวกรีโมทบ้าง แก้วน้ำ ขนมบ้าง
ปัจจุบัน
เฮียจะเอา iPhone วางตรงกลางระหว่างเบาะทั้งสอง
แต่...เอา Sumsung วางตรงหว่างขา ขณะขับรถ
คุณว่าแปลกมั๊ยล่ะ เป็นใครๆก็คงระแวงเหมือนผม
เวลาเติมน้ำมันรถ
แต่ก่อน
เฮียจะลงไปตัวเปล่า มือถือทิ้งไว้ในรถ
ปัจจุบัน
เฮียจะลงไปพร้อม Sumsung
ระหว่างรอเด็กเติมน้ำมัน
จากเดินวนรอบรถ ดูยางมั่ง
ดูความเรียบร้อยของตัวรถบ้าง
เฮียกลับเล่นมือถือ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
เหมือนตอนที่ผมกลับจากเสม็ด
แล้วผมนั่งมองเฮียคุยมือถืออยู่นอกรถ
เท้าเขี่ยเล่นที่พื้นไปมา
หน้ายิ้มกริ่มเวลาคุยกับคนปลายสาย
เส้นเลือดตรงขมับของผมทั้งสองข้างเต้นตุบๆ
หัวใจผมเต้นแรงเร็ว หูอื้อไปหมด
แต่พอเฮียกลับเข้ามาในรถ
ผมก็ต้องฝืนยิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เวลาเข้าห้องน้ำ
ไม่ว่าที่ปั๊มหรือร้านอาหาร
แต่ก่อน
เฮียจะไปเข้าห้องน้ำตัวเปล่า
ปัจจุบัน
เฮียจะไปเข้าห้องน้ำพร้อม Sumsung
ที่บ้าน
ปัจจุบัน
เวลาทำธุระในห้องน้ำ
ไม่ว่าอาบน้ำ ปลดทุกข์
เฮียก็จะเข้าไปพร้อม Sumsung
มีบางครั้งนั่งดูทีวีกันอยู่
เฮียเดินออกไปหยิบอะไรสักอย่าง
ผมแกล้งหยิบมือถือ Sumsungของเฮียขึ้นมาเล่น
พอเฮียเดินกลับมา
สายตาเฮียจะชำเลืองมองมาทางผมตลอด ไม่เป็นอันดูทีวี
พอผมวางมือถือลง
แกก็หยิบเอาไปวางให้พ้นมือผม
แล้วเวลาผมทำโน่นนี่ไม่ได้สนใจแก
แกก็นั่งเล่นมือถือ
ส่วนใหญ่จะเล่นไลน์ครับ
ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อีกแล้วอ่ะ

หลังๆเฮียมี่คุยโทรศัพท์บ่อยขึ้น
ผมรู้สึกว่าตัวเองคงจะทนไม่ไหวเข้าสักวัน
เส้นประสาทมันขึงตึงอยู่ตลอดเวลา
ตอนก่อนนอน
แต่ก่อน
เฮียจะรีบทำธุระในห้องน้ำ แปรงฟันเสร็จ
ก็ออกไปนอนรอผมบนเตียง
ผมเป็นคนอ้อยอิ่งสักหน่อยครับ
ก่อนนอนผมจะขัดฟัน แปรงฟันสองรอบ แปรงลิ้น
อมน้ำยาบ้วนปากให้ได้อย่างน้อยครึ่งถึงหนึ่งนาที
หวีผม ทาแป้ง ทาลิปมัน
ทาโลชั่น สำรวจหนังหน้า
ทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 15 นาที
คือเราจะเข้าห้องน้ำพร้อมกัน
แล้วเฮียจะออกไปก่อน
แต่ก่อนออกไปแล้วเฮียก็นอนเล่น
อ่านหนังสือรอบ้าง
บางทีก็เผลอหลับไปก่อน ที่ผมจะกลับออกมาจากห้องน้ำ
ตอนนี้
นอนเล่นมือถือครับ
จนผมเดินมาที่เตียง
ก็ยังเล่นอยู่
ผมนั่งลง นอนลงข้างๆ
ก็ยังเล่นมือถือไม่เลิก
ถ้าผมชะโงกมอง แกจะรีบเลิก
ถ้าผมนอนหันหลังให้
แกจะยังเล่นต่ออีกสักแป๊บ แล้วเลิก
พอเลิกก็เข้ามาหอม มากก มากอด
แต่อ้อมกอดของเฮีย...มันทำผมอึดอัด
จมูกปากของเฮีย...มันทำผมรำคาญ
เสียงพูดของเฮีย...มันระคายหู

“เป็นอะไร หงุดหงิดอะไรครับ”
เฮียมี่ถาม เมื่อผมดันตัวแกออกไป
ทำไมไม่ถาม ทำไมไม่คุย เหรอครับ
ถ้ายังจับไม่ได้ แล้วคุย
เฮียแกก็ไหวทันสิครับ
คราวนี้ผมก็จะจับพิรุธแกยากเข้าไปอีก
“วัยทองมั๊ง ร้อน รำคาญ หงุดหงิด”
นอนหันหลังให้กันมาหลายคืน
เฮียแกก็ไม่ง้อครับ
ทำไม่รู้ไม่ชี้
ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ ทุกวันนี้
ผมอยากอยู่แต่ที่ร้านกาแฟ
ไม่ต้องเจอหน้าแก
ไม่อยากเห็นแกเล่นมือถือ
ไม่อยากคิดถึงเรื่องที่แกหวงมือถือ

วันที่ผมปรอทแตก...
ปกติหลับแล้ว
ผมหลับรวดเดียวถึงเช้าครับ
น้อยครั้งที่จะตื่นกลางดึก
คืนเกิดเหตุ
ผมดันกินแตงโมก่อนนอนไปหลายชิ้น
อากาศมันร้อนอ่ะครับ
แตงโมฉ่ำๆ หวานๆ แช่เย็น อร่อย ชื่นจายยยย
ผมตื่นขึ้นมาท่ามกลางความมืด
ด้วยปวดฉอ อี ฉี่
ผมค่อยๆลุกขึ้นนั่ง
พยายามไม่ให้ที่นอนบนเตียงขยับมาก
กลัวเฮียตื่น เดี๋ยวนอนไม่เต็มอิ่ม
ประสิทธิภาพในการทำงานจะลดลง
แล้วผมก็แทบจะร้องกรี๊ดออกมา
(ถ้าไม่กลัวปัสสาวะเล็ด)
กับภาพที่เห็นเต็มสองตา

ครับ...เฮียนอนหันหลังให้ผมเล่นมือถืออยู่
“เฮียทำไรเนี่ย”
ผมพูดแล้วก็ไม่รอฟังคำตอบหรอกครับ
ปัสสาวะไป มือไม้สั่น
ประคองลูกชายแทบไม่ไหว
เอ...หรือหน่อยน้อยจะเติบใหญ่ภายในชั่วข้ามคืน
ผม...
มองดูนาฬิกาในห้องน้ำ
ตีสาม
คุยไลน์กับใครตอนตีสาม
ผมนั่งลงไปบนโถส้วม
ทั้งๆที่ไม่ได้ปวดหนัก
แต่ขาผมไม่มีแรง
น้ำตาผมมันไม่ยอมไหลออกมา
มันกลับไหลย้อนเข้าไปในอก
เจ็บ
เจ็บมาก
เจ็บจริงๆ
ไม่รักกันแล้ว
บอกผมมาตรงๆดีกว่า
ผมพร้อมจะออกไปจากขีวิตเฮียเสมอ
แม้ว่าออกไปแล้ว
ผมไม่รู้ว่า
ผมจะอยู่ได้อย่างไร

***************************************************
อย่าเพิ่งนอยด์นะครับ
จบ...สวยงามครับผม
