มาต่อแล้วครับผม
ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ
คนมีอีกเป็นล้านคน (ตอนต่อ)
ณ.วงไฮโล
คนยังมุงกันเยอะ ขยายวงกว้างขึ้นกว่าเดิม
ดูๆแล้ว จำนวนคนหนาแน่นขึ้นมาก
ทุกคนไม่มีใครคุยกัน มีแต่เสียงเสียงแว๊ดๆ คล้ายคนที่บ้าน
“แกนะแก..ใครสั่งใครสอนให้เล่นการพนัน
มันไม่ทำให้แกรวยขึ้นมาหรอก มีแต่จะล่มจมลงไป”
คนรอบข้างสะดุ้ง แล้วเงียบกริบ
คนที่หน้าบางก็เสไปมองดินฟ้าอากาศ
“โอ๊ย...อูย..อูย ไม่ได้เล่น บอกว่าหนูไม่ได้เล่นไงแม่ เชื่อหนูเหอะ”
ภาพที่เห็นตอนนี้
แม่ยืนท้าวเอวข้างเดียว มืออีกข้าง..ข้างถนัด
จับหูเจ๊นิดอยู่ แล้วบิดๆจนใบหูแกแดง
เจ๊นิดที่ตัวสูงกว่าแม่เป็นคืบ ต้องค้อมตัวลงอย่างอ่อนน้อมเข้าหาแม่
โดยมีใบหูของแกนำหน้าไปก่อน หน้าตาเหยเก
ไอ้นิวยืนกระวนกระวาย ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
“แม่ๆ พอก่อนแม่ เฮียหน่อยมาแล้ว”
ไอ้นิวรีบแกะมือแม่ออกจากหูของเจ๊
แล้วชี้มาที่ผม
เหมือนสปอร์ตไลท์ส่องมา
ทุกคนหันมามองผมเป็นตาเดียว (แต่ทุกคนมีกันคนละ2ตา..5555)
“นั่นไงแม่ หนูบอกแล้ว”
เจ้กุมหูเอาไว้
“แก..ไอ้หน่อย ขี้แตกรึไงห๊ะ ดูสิ แกทำชั้นโดนแม่บิดหูเลย”
“...” ผม
“จริงรึปล่าวหน่อย แกอย่าโกหกแม่ แล้วนิด..แกนะแก พูดไม่เพราะ ไว้คิดบัญชีทีหลัง”
ในประโยคเดียวกัน ของผมครึ่งแรก ของเจ๊ครึ่งหลัง
“จ..จ...จริงครับ ผมท้องไม่ค่อยดี”
จำต้องโกหกแม่เป็นครั้งแรกในชีวิต ต่อหน้าวงไฮโล
“แล้วนิด..ทำไมแกมาอยู่ในวงไฮโล”
“หนูรอมันจนเบื่อ ก็ดูๆประดับความรู้นอกห้องเรียนอะแม่”
ผมว่าเจ๊แกนี่ไหลตามน้ำจนจะลงทะเลเลย
ไอ้นิวทำหน้าโล่งอก แต่มันดันเอามืออุดจมูก
“ล้างมือล้างก้นป่าวเฮีย เหม็นป่าวเนี่ย อย่ามาใกล้นิวนะเอ้อ”
ไอ้น้องเวร กูอายยยยยย กูไม่ได้ขี้นอกสถานที่
“เดี๋ยวนิด เอาเงินในมือแกคืนเขาไป”
ก็เจ๊แกสิครับ หลักฐานคามือเห็นๆ (ผมว่าแม่รู้นะว่าแกเล่น)
จำต้องวางเศษเหรียญที่กำไว้ ลงไปในกอง
ไม่มีใครกล้าโต้แย้ง
ลับหลังแม่
“ซวยเลย เอากำไรชั้นคืนไปไม่ว่า เอาทุนชั้นไปด้วย เสียด๊ายยยยย”
แม่ลงโทษเรา2คนด้วยการต้องไปศาลเจ้าทุกคืน
เพื่อเป็นการขอโทษเจ้าภาพ
และให้เกิดจิตสำนึก
“แล้วแก2คน อย่าเหลวไหล อย่าให้แม่รู้ว่าไปยุ่งเกี่ยวกับการพนันอีก”
“แค่ดูได้มั๊ยอะ”
“เดี๋ยวเหอะ แกยังไม่เข็ดเหรอนิด”
“อ๊ะ อ๊ะ หนูล้อเล่นตะหาก เผื่อแม่จะขำ”
“นิวไม่ต้องไป นิวไม่เกี่ยว นิวเด็กดี”
ไอ้อ้วนนิวไม่รู้จักกาลเทศะ
“ครับ..นิวเป็นเด็กดี พวกแกดูน้องเป็นตัวอย่างซะ”
แล้วคุณนายก็สะบัดหน้า ไปทำงานบ้านต่อ
“เด็กดีใช่ไหม เด็กดีใช่ไหม”
“ย้ากกกกกกกกกก....”
ผมกับเจ้จับตัวไอ้นิวไว้
แล้วจั๊กกะจี๋มัน
เสียงหัวเราะของผมในวันนั้นเป็นการหัวเราะครั้งสุดท้าย
ก่อนที่เสียงสะอื้นเข้ามาแทนที่อีกนาน
เรา2คนไปงานทุกคืน
คืนแรก..วีรกรรม ณ.วงไฮโล....เฮียกับผม...ยังได้แอบจุ๊บๆกัน
คืนที่2 เฮียอยู่ท่ามกลางญาติพี่น้อง มองมาเป็นระยะ อมยิ้มบางๆที่มุมปาก
แถม บางครั้งยังเอานิ้วมือไล้ริมฝีปากตัวเอง ให้ผมได้อาย
คืนที่3 เฮียอยู่ท่ามกลางญาติพี่น้อง ลอบมองมาแทบจะนับครั้งได้
สายตาที่มองมามีแต่ร่องรอยของความเศร้า เฮียคงยังทำใจกับการสูญเสียเตี่ยไม่ได้
แต่สายตาคู่ที่มองผมมาบ่อยๆ กลับเป็นเจ๊วา
ตอนเข้ามาเคารพศพ ผมยกมือไหว้แก แกแค่พยักหน้านิดๆ
มองผมแบบสำรวจทั้งตัว จนผมไม่แน่ใจว่าผมแต่งตัวไม่เรียบร้อยรึป่าววะ
คืนที่4 เฮียอยู่ท่ามกลางญาติพี่น้อง ผมคอยมองเฮียแทบไม่ละสายตา
เฮียแกไม่รู้เหรอว่าผมมางานนะ เจ๊วายังรู้เลย แกมองผมตลอด มองจ้องจนผมต้องหลบสายตา
คืนสุดท้าย เฮียอยู่ท่ามกลางญาติพี่น้อง เราเหมือนคนไม่รู้จักกัน
เจ๊วามองผมนานๆครั้ง แต่ละครั้งทำเอาผมกลัว
แกเกลียดผมรึไง
ผมเห็นเจ๊วาเอามือตบหลังเฮียเบาๆ อยู่หลายครั้ง
ไหล่เฮียดูสั่นๆ เหมือนกลั้นสะอื้น
เฮียเอาแต่ก้มหน้ามองพื้น
ทำไมเฮียไม่เข้มแข็งเอาซะเลย แม่แก เจ๊แก ยังพูดคุยรับแขก ถึงจะมีการเช็ดน้ำตากันบ้าง
แต่ไม่มีใครนั่งเฉย ไม่มองใครเหมือนเฮีย
วันฝังศพเตี่ย
ผมกับเจ๊ไปที่ศาลเจ้ากันแต่เช้ามืด วันนี้จะมีการทำกงเต๊ก
ไอ้นิวตามมาดูด้วย
คนที่มามีแต่ญาติสนิท กะเด็กๆทั่วไปที่มารอดูอย่างใจจดจ่อ
มันไม่ได้มีกันบ่อยๆ
เท่าที่จำได้นะครับ อาจจะผิดเพี้ยนไปบ้าง
กงเต๊กสำหรับคนรวยจะมีของที่ต้องเผาเยอะมาก
ที่จำได้ จะเป็นกระดาษทำจำลองเป็นข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ
มีบ้าน รถยนต์ ตุ๊กตากระดาษคนรับใช้ก็มี มีเงินด้วย แต่ไม่ใช่เงินจริงๆนะครับ
ไอ้นิวบ่นเสียดาย
กงเต็กทั้งหมดเอาออกไปเผาที่ลาน
มันว่าดีนะที่ไม่เผาพวกของเล่น
อ้อ..มีพระมาสวดด้วยครับ
เฮียไม่มองใครเลย
ใครสั่งให้ทำก็ทำ ก้มหน้าก้มตามองที่พื้น
ตอนบ่ายแห่ศพไปที่ฮวงซุ้ย
มีมโหรีมาบรรเลงเพลงด้วย
คนมาร่วมขบวนกันยาวเหยียด
เฮียเป็นคนถือกระถางธูปเทียน
เดินนำให้คนข้างหลังตามมา
ถัดมาก็จะเป็นรูปภาพของเตี่ย
เจ๊ๆเดินต่อมา คอยโปรยกระดาษเงินกระดาษทอง และเงินเหรียญ
ตามท้ายด้วยรถขนโลงศพ
จากนั้นก็จะตามด้วยขบวนของญาติ ชาวบ้านที่มาร่วม และขบวนของนักดนตรี
ที่จะเล่นดนตรีไปตอนเคลื่อนขบวนศพ
มีการเวียนรอบสุสาน 3 รอบ
ถึงตอนนี้ผมไม่ไหวแล้วครับ
ขามันล้าๆหนักๆ ระยะทางไปฮวงซุ้ยก็ไม่ไกลเท่าไหร่นะ
คนเฒ่าคนแก่เขายังเดินกันไหว
หัวผมหนักอึ้ง
ปากคอแห้ง ใจมันเหมือนมีหินหนักๆมาถ่วงมาทับ
ถ้าเป็นเพลงก็ต้องเป็น....
“มันแน่นอก (Yeh!)”
“ก็ยกออก (Yeh!)”
“ให้แบกเอาไว้ นานไป เดี๋ยวใจถลอก”
แฮะๆคลายเครียด มาถึงตอนนี้แล้วอดน้ำตาซึมไม่ได้
เจ๊นิดเห็นอาการผม
แกคงเริ่มสงสัยตั้งแต่งานคืนท้ายๆแล้วละว่า..
เกิดอะไรขึ้นกับความสัมพันธ์ของเรา
แก ไม่พูดไม่จา พาผมกลับบ้านทันที
อ้อ..แวะบอกแม่กะไอ้นิวก่อนนะครับ
หลายอาทิตย์ต่อมา
ตอนนี้.....เฮียคงกลับกทม.ไปแล้ว
เอาหัวใจของผมไปด้วย
ผมเหมือนคนที่มีตัวแต่ไม่มีใจ
ไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไร
“หน่อย..แม่ชักสงสัยแล้วนะแก”
วันนั้นเราอยู่กัน2คน นั่งเล่นอยู่ที่หน้าร้าน
แม่กับลูกรักไปร้านตัดผม
ไอ้นิวมันชอบเข้าร้านผู้หญิงกับแม่
ชอบให้เขาสระผมให้
“สงสัยอะไรอะ”
ตายังมองเหม่อออกไปทางปั๊ม
“เฮ้อ...ชั้นละกลุ้มใจ เซ็งจิต”
ผมหันกลับมามอง คิดว่าเจ้แกมีปัญหาส่วนตัว
“มีอะไรที่ผมจะช่วยเจ๊ได้อะ”
ผมตั้งใจจะช่วยแกเหมือนที่แกคอยช่วยผมมาตลอด
มีคนบอกว่าแม่คนที่2คือครู
แต่สำหรับผมครูมาที่3ครับ
เจ๊ตะหากเป็นแม่คนที่2ของผม
“แกว่ารร.เรา เด็กมัธยมมันมีกี่คน”
เจ๊แกเป็นคนที่บิ๊วอารมณ์คนเก่ง แกจะสื่ออะไร
“อืม เป็นพันแหละ ถามมัยอะ”
“ชั้นถาม..แกตอบ”
เจ๊จิ้มหน้าผากผมเบาๆ
“ชั้นละ5ห้อง..6ชั้น..ก็30ห้อง...ห้องละ45คน คิดก่อนนะ
วู๊...ทำไมต้องให้คิดด้วย คนเขายิ่งโง่เลขอยู่”
เจ๊มองผมยิ้มๆอย่างรอคอย
“1350 คนอะ”
“เก่ง”
ตบนิ้วให้ผม
แกเอานิ้วชี้กับนิ้วกลางของมือทั้ง2ข้างมาตบกัน
“เจ้นิดกวนว่ะ”
“เดี๋ยวโบก...ต่อๆ จังหวัดเรามีรร.มัธยมกี่โรง”
เจ๊แกจะถามไปทำม๊ายยยยยยยยย
“ทุกอำเภอ อำเภอละ1 ในเมืองอีก3โรง ก็11-12โรงแหละ”
“เก่ง...มีกี่ห้อง รร.ในเมืองชั้นละ10ห้องนะแก”
“ถามผมขนาดนี้...เจ๊เอาเครื่องคิดเลขไปเลยมั๊ย”
“ทึ่ม..ชั้นคิดเองก็ได้..แกฟัง”
ผมพยักหน้าอย่างเชื่องๆ ก็ดีกว่าต้องคิดเลขให้แกหล่ะ
“รร.อำเภอ 9 โรง มีนร.มัธยม 3.. 9..27 ก็ 270ห้อง”
ผมนิ่งฟัง
“รร.จังหวัด 3 โรง ชั้นละ10ห้อง 6ชั้น โรงนึงก็ปาเข้าไป 60ห้อง 3โรงมี180ห้อง รวมแล้วทั้งจังหวัดมี 450 ห้อง
“อืม..เลขสวย(ด้วยมือเรา)”
“ 450 ห้องคูณ 45 ก็ 2หมื่นกว่าคน หลักหมื่นนะแก ไหนจะพวกเทคนิค เทคโน อาชีวะ วิทยาลัยครู”
“พวกนร.นายสิบกะนายร้อยด้วยเจ๊”
เริ่มมีอารมณ์ร่วมชักสนุกครับ
“สรุป จังหวัดเรามีคนวัยเรียนวัยรุ่นหลักหมื่น”
“หลายหมื่นด้วย อาจถึงแสนเลยมั๊ง”
“ประเทศไทยมีกี่จังหวัด”
อร๊ายปัญหาเชาวน์ ความรู้รอบต้ว
“70 กว่าจังหวัด อะ”
ตอบเซฟๆครับ กว่าเท่าไหร่ไม่แน่ใจ
“อืม ก็ หลายแสนคนเลยนะ”
อ้าวกลับมาคำนวณอีกแล้ว
“แล้วกทม.ล่ะ อีกกี่แสนคน”
ผมชะงักคิดถึงคนที่อยู่กทม.
เจ๊จับไหล่ผมทั้ง2ข้าง
“คนบนโลกนี้มีเป็นแสนเป็นล้านคน”
ผมรู้ละ เจ๊จะบอกอะไรผม
“แต่...แต่เฮียมีคนเดียว”
ผมกระพริบตาถี่ๆ น้ำตาพาลจะไหลออกมา
เจ๊ส่ายหน้าช้าๆ
“ไม่ใช่มีเพียงคนเดียว แต่..”
“แต่เป็นแค่คน..คนเพียงคนเดียวในจำนวนแสนล้านคน”

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ช่วงเวลานะครับ..คร่าวๆ
ตอนเจ๊เป็นแฟนเฮีย
ผม ป.5 เจ๊ม.1 เฮีย ม.3
ตอนเฮียไปนอก
ผมป.6 เจ๊ม.2 เฮียม.4
ช่วงนี้ไอ้พี่ป๋องกะไอ้โด่งร่วมแสดงด้วย
ตอนเฮียกลับมา
ผมม.1 เจ๊ ม.3 เฮียเรียนซ้ำ ม.4
ตอนเตี่ยตาย
ผมใกล้ๆจะจบม.1 จะขึ้นม.2
ง่ายๆคือ..เลิกติดต่อกับเฮียตอนม.2
จึงเรียนมาเพื่อทราบ...555555
