ตอน28.1 (ยาวเว่อ

)
http://www.youtube.com/v/3asJg7mRYHgPokpong part.
แกร็ก!!
บานประตูถูกผลักเข้ามา ก่อนที่เจ้าของใบหน้าซีดเผือดจะย่างเท้าเข้ามา
“เรามีเรื่องต้องคุยกัน”ผมทบทวนเรื่องนี้มาทั้งวัน...ผมไม่อยากทำแบบนี้ ไม่อยากให้เป็นแบบนี้
“ใครมาฟ้องอะไรเฮียอีกอ่ะ”ไอ้บลูวางกระเป๋าของมันไว้บนโต๊ะ ก่อนจะสาวเท้าไปที่ตู้เย็น...ฟ้อง? เรื่องอะไรวะ
“แล้วไปก่อเรื่องอะไรไว้”แค่อยากรู้วีรกรรมวันนี้ของมัน แต่เสียงคงห้วนไปหน่อย มันเลยหันมาค้อนใส่ก่อนจะหยิบน้ำออกมาจากตู้เย็น
“ก็ตามที่เฮียรู้มานั่นแหละ”ถ้ากูรู้กูคงไม่มาถามมึงหรอก
“อย่ากวนตีน”ผมพยายามข่มอารมณ์ “แล้วมาคุยเรื่องของเรา”
“ไม่คุย ไม่พร้อม”บางทีมันก็ลีลาจนน่าถีบ
แต่ในความน่าถีบของมันก็มีความน่ารักแฝงอยู่ เพื่อนผมบอกว่าที่ผมคบกับมันไม่ใช่เพราะผมชอบมันหรอก ผมแค่อยากลองของแปลก แต่ผมรู้ดีว่ามันไม่ใช่แบบนั้น มันน่ารักในแบบที่เป็นมัน มันไม่ใช่ของแปลก และผมก็ไม่ได้ชอบมัน...แต่ผมรักมัน...รักจริงๆ
บางทีผมก็ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองนักหรอก ตั้งแต่เล็กจนโตผมไม่ค่อยยินดียินร้ายกับอะไร อาจเป็นเพราะผมเป็นแบบนี้ด้วยมั้งจึงทำให้ไม่ว่าใครต่อใครที่ผ่านเข้ามาต่างต้องเสียน้ำตาแล้วก็ทิ้งผมไป แต่ผมก็ไม่ได้สนใจนักหรอก อาจดูเหมือนผมเห็นแก่ตัว ซึ่งผมก็ยอมรับ ชีวิตผมเกิดครั้งเดียวตายครั้งเดียว เรื่องชาติหน้าชาติไหนผมไม่เชื่อเพราะผมไม่เคยเห็น ผมเห็นแค่ชาตินี้...ที่มีแค่ผมกับมัน
แต่ความรักมันก็ทำให้ผมทรมาน จนบางทีผมก็แอบคิดว่าเป็นผลกรรมจากการที่ผมทำร้ายจิตใจคนที่รักผมมามากมาย แต่ถึงจะเจ็บสักเท่าไหร่ จะทรมานปานตายซะขนาดไหน ผมก็จะทน จะทนเพื่อมัน เพื่อรักษามันไว้ รักษารอยยิ้ม เสียงหัวเราะ...พอแล้วสายตาผิดหวัง พอแล้วกับน้ำตา
ได้แต่ภาวนาให้ต่อแต่นี้ใจมันอย่าลืมผม...อย่าลืมเฮียของมัน
“ขอกอดได้ไหม”ผมเอ่ยปากถาม ไอ้บลูก็ทำหน้ามึนๆแต่ก็เดินมาทำหน้าทำตาโง่เป็นเชิงให้ผมกอด “ขอจูบด้วยได้หรือเปล่า”ผมกระซิบถามที่ข้างใบหูขาว
“ห๊า!!”ผมแอบลอบยิ้มขำเมื่อเห็นท่าทีตกใจของคนในอ้อมแขน “อ่ะ อื๊ออ”มันครางประท้วง แต่สักพักแขนเรียวขาก็ยกขึ้นโอบรอบคอผมไว้
ครั้งแรกที่ได้เห็นมัน ทุกอย่างยังคงชัดเจนอยู่ในความทรงจำ ร้อยยิ้ม สีหน้า ท่าทาง เสียงหัวเราะ ทุกอย่างผมยังจำได้ดีราวกับมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
ไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะรักใครได้มากเท่านี้ แต่อาจเพราะเป็นมันก็ได้มั้งผมถึงรัก มันทำให้ผมยิ้มกับความน่ารักของมัน ทำให้ผมดีใจเวลาที่อยู่กับมัน ทำให้ผมเขินเวลามันยิ้มให้ ทำให้ผมหัวเราะกับพฤติกรรมประหลาดๆที่ไม่มีใครเขาทำกัน บางทีก็ทำให้ผมอายเวลามันทำตัวบ้าๆ แต่เหนือสิ่งอื่นใด มันให้ผมเรียนรู้ถึงคำว่ารัก...และ
...การร้องไห้....
จูบรสเค็มประแหล่มๆของน้ำตาทำให้ไอ้บลูนั้นได้สติ แขนเรียวที่กอดคอผมไว้คลายออก ก่อนจะดันตัวผมและถอนริมฝีปากออก แล้วละล่ำละลักถามผมอย่างเป็นห่วง
“เฮียเป็นไร ร้องไห้ทำไม”นิ้วเรียวเอื้อมปาดน้ำตาให้ผม “ขี้แยแล้วไม่หล่อนะเฮีย ฮึบไว้ฮึบ”ฮึบเหี้ยอะไร...อยากบอกมันแบบนั้น แต่ปากมันกลับไม่ขยับ
“...กัน..............นะ”เสียงแผ่วเบาพูดออกมาอย่างลำบาก
“อะไรนะ”ไอ้บลูถามด้วยสีหน้างงๆ
“เลิกกัน...เถอะ”แม้ไม่ได้ดังแต่ผมรู้ว่ามันได้ยิน
ใบหน้าเนียนหม่นลงเล็กน้อย ผมรู้มันเสียใจ รู้ว่ามันเจ็บ แต่ผมเองก็เจ็บไม่ต่างจากมัน เสียใจไม่ต่างจากมัน ถึงสิ่งที่ผมทำลงไปอาจทำให้ผมดูเลว ดูโหดร้ายในสายตามัน แต่ผมอยากให้มันรู้ไว้...ทุกอย่างทีผมทำไป เพื่อมันคนเดียว
“งั้นบลูขออะไรอย่างดิ”ริมฝีปากอิ่มเหยียดยิ้มแสยะแต่ขอบตากลับแดงก่ำ
“อะไร...”
พลั่ก!!!!
หมัดหลุนๆซัดเข้าที่เบ้าตา...ผมเองก็เพิ่งรู้ว่าหมัดมันหนักเอาการ
ไม่รู้โดนมัดต่อยไปกี่หมัดเตะไปกี่ทีแทงเข่าไปกี่ครั้ง รู้แค่ว่าร่างกายผมมันทรุดลงไปกับพื้น นัยน์ตาไร้แววใดๆทอดมองมายังผม ก่อนที่เจ้าของเรือนร่างโปร่งจะสาวเท้าออกไปจากห้อง
ถึงอาจจะฟังดูเห็นแก่ตัว... แต่อย่าเพิ่งเลิกรักพี่เลยนะคนดี
-------------
Chananon part.
ไม่รู้ว่าน้ำตาที่ไหลลงมานี้มันมาจากจุดไหน จุดที่เจ็บมือ หรือจุดที่เจ็บใจ
แปะ แปะ แปะ
เม็ดฝนตกกระทบเข้าเหง้าหน้า
เอาเลยไอ้สัตว์เอาให้ครบ อกหัก ตากฝน เหลืออะไรอีกล่ะ อ่อใช่แดกเหล้า แต่เสียใจด้วยนะ กูรีบ เลยไม่ได้เอาโทรศัพท์กับกระเป๋าตังค์ลงมา ดังนั้น...นั่งตากฝนประชดรักต่อไป
ฝนนี่แม่งก็เหมือนรู้งานเนอะ ตั้งนานล่ะไม่ตก พอกูอกหักเท่านั้นล่ะ...ตกเลย
ผมไม่รู้ผมนั่งตากฝนอยู่ตรงม้านั่งนี่นานเท่าไหร่ แต่คิดว่าคงนานเอาเรื่องแหละ เพราะตอนนี้ผมหนาวเหลือเกิน...แต่ทำไมฝนไม่ตกใส่กูแล้ววะ หรือว่าผมหยุดแล้ว
ผมเพิ่งสายตามองไปที่พื้น ฝนก็ยังตกอยู่นี่ แต่ทำไมฝนถึงไม่ตกใส่ผมวะ ผมรีบหันไปมองด้านหลัง ก็เห็นผู้ชายที่สูงกว่าไอ้เฟาสักคืบนึงกำลังยืนกางร่มให้ผม ผมคุ้นๆหน้ามันนะ...เหมือนเพื่อนในคลาส
“กล้องอยู่ตรงไหนวะ”เสียงใสกังวานราวนกไนติงเกล(กูมโน)เอ่ยถามขึ้นพร้อมใบหน้ากวนส้นตีน
“...”
“นึกว่าถ่ายเอ็มวี”
“...”
“อย่าบอกว่าจำกูไม่ได้”เออสิวะ ถ้าจำได้กูก็เสวนากับมึงไปล่ะ “กูชื่อเจมส์ แต่ไม่ใช่เจมส์จินะ ถึงหน้ากูจะคล้ายก็เหอะ ฮ่าๆๆๆ”เล่นเองฮาเอง
“....”
“อย่าเอาความเงียบเข้ากดดันกูสิวะ มีไรให้กูช่วยเปล่า”มันถามหน้าเปื้อนยิ้ม “ไม่ต้องเกรงใจ เราอยู่เจอร์เดียวกัน”งั้นกูไม่เกรงใจล่ะนะ
“ขอร่มมึงได้ไหม”ร้องเป็นทำนองอยู่ต่อเลยได้ไหม...กูหนาว
“นั่นก็มากไป...มึงอยู่หอไหน เดี๋ยวกูเดินไปส่ง”มันถาม
“หอxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx”ผมบอก
“กูอยู่xxxxx”มันบอกผมก็พยักหน้ารับ...จากจุดนี้ หอมันถึงก่อน
“งั้นเดี๋ยวกูส่งมึงที่หอ แล้วกูขอยืมร่มนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้กูเอาไปคืน”มันพยักหน้า
ตลอดทางผมกับไอ้เจมส์(ที่มโนว่ามันหน้าคล้ายเจมส์จิ)ไม่มีบทสนทนาใดๆ ผมเดินเงียบๆ มันก็เดินเงียบๆ จนเมื่อมาถึงหอมัน ไอ้เจมส์ก็โบกมือ และบอกให้ผมกลับดีๆ
แต่ผมยังไม่พร้อมกลับไปว่ะ...ไม่อยากกลับไปอยู่คนเดียว
“เฮ้ย! ไอ้เจมส์”ผมเรียกชื่อมันครั้งแรก
“หืม”มันเลิกคิ้ว
“มึงบอกไม่ต้องเกรงใจใช่ไหม”ไอ้เจมส์มองผมด้วยสายตาหวาดระแวงเล็กๆ “คืนนี้กูขออยู่ด้วยดิ”ไอ้เจมส์มีสีหน้าครุ่นคิด “นะ กูไม่นอนดิ้นหรอก แค่คืนเดียวเอง”
ไอ้เจมส์ยืนคิดอยู่นาน ก่อนจะถอนหายใจออกมา
“เออๆ”
“ใจมึง”ผมตบบ่ามันสองสามทีก่อนจะเดินนำเข้าไปในลิฟต์ “ชั้นไหนวะ อย่าชักช้ากูหนาว”ไอ้เจมส์มองผมงงๆก่อนจะกดที่เลข6 “มองกูทำไม...มึงบอกเองนะว่าอย่าเกรงใจ นี่กูทำเพื่อมึงนะเว่ย”บอกพร้อมฉีกยิ้มให้มัน
“ไอ้สัด”ด่ากูแต่เสือกยิ้ม
ห้องไอ้เจมส์ใหญ่พอๆกับห้องผมครับ แสงไฟสีอ่อนสว่างไปทั่วห้องเมื่อไอ้เพื่อนร่วมคลาสมันกดเปิดสวิสต์ มันไล่ผมไปอาบน้ำ ก่อนที่มันจะแยกตัวไปตรงตู้เสื้อผ้า แล้วหยิบผ้าเช็ดตัวกับเสื้อยืดกางเกงขาสั้นออกมา...ดูแล้วท่าจะไม่ใช่ของมัน
ไอ้เจมส์มันก็ตัวเล็กๆแบบไอ้เฟาแหละครับแต่สูงกว่าหน่อย ก็เทียบกับผมก็สูงเลยไหล่ผมมานิดนึงอ่ะ (เห็นกูเป็นแบบนี้แต่กูก็สูงนะโว้ยยย) หน้าขาวๆปากแดงๆตาโตๆ แบบนี้ท่าจะไม่น่ารอดเงื้อมือมาร...ชุดนี้ของผัวมันชัวร์
“มึงมีเมทปะวะ”ลอบถามแบบถนอมน้ำใจ
“ไม่ถามกูปีหน้าเลยล่ะ”
“แหม กูกลัวมึงอยู่ไม่ถึงปีหน้า ตกลงมีไหม”
“มี”มันตอบ...บ๊ะ กูว่าแล้วไง “ไอ้โก้อ่ะ แต่มันไม่ค่อยอยู่หรอกมันอยู่ห้องเมียมันนู้น”
“ไอ้โก้ที่เป็นเดือนปะวะ”ผมถามด้วยสีหน้าครุ่นคิด
“เออ... แล้วมึงจะยืนให้ห้องกูเปียกไปอีกนานเท่าไหร่”มันพูดพร้อมกับปรายตามองที่พท้นห้องที่มีน้ำเจิ้งนอง
ผมรีบเข้าไปในห้องน้ำทันที อาบน้ำสระผมอย่างไวผมก็รีบแต่งตัวออกมา ส่วนเสื้อชุดนักศึกษา ผมกับไอ้เจมส์ก็เอาลงไปส่งซักรีดข้างล่างหอ พร้อมกับซื้อแปรงสีฟันที่เซเว่นมาด้วย
ผมเข้านอนตั้งแต่สามทุ่ม ส่วนไอ้เจมส์มันยังคงเล่นไลน์หัวเราะคิกคักๆอยู่ ผมข่มตานอนด้วยความล้า เปลือกตาที่ผ่านการร้องไห้มาพอสมควรระบมไปหมด ผมอยากฝันว่าผมกับเฮียยังรักกันอยู่ แต่ถ้าผมฝันแบบนั้น ทุกครั้งที่ผมตื่น ผมคงทรมานน่าดู ดังนั้นผมไม่อยากฝัน และ...ไม่อยากตื่น
ถึงไม่อยากฝันแต่ก็ฝืนไม่ได้ ในฝันไม่ใช่ภาพวันที่เรารักกันแบบที่ผมไม่อยากเห็น มันเลวร้ายกว่านั้น มันตรอกย้ำกว่านั้น เฮียกับคนใหม่ ยิ้ม หัวเราะ มีความสุข...สายตาที่สมเพสนั้นมองมาที่ผม
ไม่นะ ไม่เอา อย่ามองแบบนั้น อย่า...ไม่เอา
“ม่ายยยยย!!”ผมกรีดร้องสะดุ้งตื่นขึ้นมา
“เฮ้ย มึงเป็นอะไร”เพื่อนร่วมเจอร์ที่นอนเล่นไลน์อยู่อีกเตียงถามผมด้วยสีหน้าเป็นห่วง
“ฮึกๆๆ”กลั้นน้ำตาไม่อยู่แล้วจริงๆ...ไม่อยากอ่อนแอ ไม่อยากร้องไห้ แต่มันฝืนไม่ไหวแล้วนะเว่ย
ถึงกูเกรียนแต่กูก็มีหัวใจนะ กูเจ็บเป็นกูร้องไห้เป็น...และก็รักเป็น
“มึงร้องออกมาให้พอ”มันบอกแล้วก็ยื่นกล่องทิชชูให้ผม
ไอ้เจมส์นั่งปลอบผมอยู่ร่วมครึ่งชั่วโมงผมก็หยุดร้องได้สักที ผมอยากระบายว่ะ ผมอึดอัด
“มึงมีเบอร์ไอ้เฟาไหม”มันพยักหน้า “กูขอยืนโทรศัพท์หน่อยดิ”
ไอ้เจมส์ยื่นไอโฟนที่หน้าจอกำลังโทรออกหาไอ้เฟามาให้ผม ผมแนบหูรอสักพักไอ้เฟาก็รับด้วยเสียงงัวเงีย ผมบอกมันว่าแค่เลิกกันแล้ว ไอ้เฟาก็ถึงกับตื่น โวยวายยกใหญ่ งอแงเร้าๆจะมาหาผมให้ได้ แต่ไอ้เอมก็ห้ามไว้ก่อนจะแย่งโทรศัพท์ไปคุยเอง
/”ดราม่าเลยสิไอ้เชี่ย”/นี่หรือคือคำปลอบโยนของมึง /”ไหวไหม ...ให้กูไปรับไหม”/ยังไงของมึง...ทีเมื่อกี้ห้ามไอ้เฟาไม่ให้มาหากู /”ไอ้เฟามันแฮงค์”/แหม ดั่งกับมีญาณทิพย์
“ไม่ต้องอ่ะ...มันดึกแล้ว เจอกันพรุ่งนี้ที่ห้องเรียนเลย”ผมบอก
/”มึงอ่ะชอบหนีปัญหา มีเรื่องเหี้ยอะไรก็ชอบเก็บไว้คนเดียว ถึงบอกก็บอกไม่หมด...ถ้ามีเพื่อนแล้วปรึกษาหรือช่วยเหี้ยอะไรมึงไม่ได้ทีหลังก็อย่ามี”/
“กูเกรงใจพวกมึง เกรงใจจริงๆ ไม่ได้เสแสร้งเลย”แบบมันเป็นปัญหาของผม ทำไมผมต้องแบกไปโยนให้คนอื่นต้องมาเหนื่อยไปด้วยวะ
/”มึงไม่ได้เกรงใจหรอก มึงหนีปัญหา มึงแค่ไม่อยากพูดไม่อยากฟังไม่อยากนึกถึงอะไรที่ทำให้มึงเจ็บ...”/จะว่าไปก็จริงของมันผมไม่อยากพูดถึงไอ้เฮียเลยไม่อยากนึกถึงมัน...ผมเจ็บจริงๆ /”บางทีมึงก็ต้องเผชิญกับความเจ็บปวดบ้าง เจ็บหนักๆแปปเดียวเดี๋ยวก็หาย แต่ถ้ามึงยังนี้ไม่ยอมรับความจริงแบบนี้ มึงจะต้องเจ็บไปอีกนาน”/
“อือ...”
/”กูไม่รู้หรอกนะมึงกับพี่เขาเลิกกันเพราะอะไร ใครผิดใครถูกอะไรกูไม่สนใจหรอก...แต่กูเป็นเพื่อนมึง...กูเกิดมาเพื่ออยู่ข้างมึง”/ผมน้ำตาไหลเลยครับ /”แล้วทำไมมึงเอาเบอร์ไอ้เจมส์โทรมา”/
“กูนั่งตากฝนอยู่ แล้วเจอมันก็เลยเดินกลับมากับมัน แต่ไม่อยากกลับไปอยู่คนเดียว เลยขอมานอนห้องมัน”
/”ทำไมมึงเป็นคนแบบนี้วะ!!...ดีนะมึงเจอไอ้เจมส์...แล้วอยู่คนเดียวไม่ได้ทำไมไม่โทรหากู”/ไอ้เอมโวยวาย
“กูขอโทษ...กูไม่ทันคิด”
/”เอาเถอะ ครั้งนี้ก็ให้อภัย...แต่ถ้าคราวหน้ามีปัญหาอะไรแล้วไม่บอกกูอีก กูจะถีบให้หน้าหงายเลยไอ้สัด”/
“กูเศร้าอยู่นะไอ้เชี่ย”
/”ไปนอนไปบลูรดา เดี๋ยวคุณแม่จะร้องเพลงกล่อม”/
“ไม่เอา หนูกลัวฝันร้าย”ผมกลั้วหัวเราะ “ไปร้องกล่อมเมียมึงนู้น”
/“เมียกูไม่ชอบฟังเสียงเพลง...มันชอบฟังเสียงคราง โอ้วซี๊ดดด ตับๆๆ... โอ๊ย!! ตบกูไมเนี่ย”/แล้วก็มีเสียงกุกกักมาตามสาย /”เฮ้ยแค่นี้ก่อน มันอาละวาด ฝันดี เด้าๆ”/
ตื๊ดๆๆๆๆ
ผมนั่งหัวเราะ ก่อนจะส่งโทรศัพท์คืนไอ้เจมส์
“แต๊งหลาย”
“บลู...”ผมหันตามเสียงเรียก
“ว่าไง”
“มึงกับเฟานี่เป็นไรกันวะ”ยากเลยคำถามนี้ เป็นผู้ชายนี่ก็ใช่ เป็นเพื่อนนี่ก็ใช่ เป็นบ้านี่ก็ใช่อีก
“ก็เป็นเพื่อนกัน...ทำไมวะ”ไอ้เจมส์ถอนหายใจ
“เปล่า”มันตอบยิ้มๆ
“แหนะๆๆๆ มึงชอบไอ้เฟาหรอวะ...แต่กูเสียใจด้วยนะเว่ยมันมีคนจองแล้ว”ผมตบบ่ามันสองสามที
“กูไม่ได้ชอบเฟา”ผมพยักหน้าอย่างไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ “แต่กูชอบมึง...”อ่อ มึงชอบกูนี่เอง
“ห๊า”
“ไอ้เชี่ยนี่ไม่เห็นต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นเลย...”
“อ่อ กูฟังอะไรผิดนิดหน่อยวะ เมื่อกี้มึงว่าไงนะ”
“กูชอบมึง...กูจีบมึงได้ปะ”
...บรรลัยแล้วไหมล่ะกู...
-------------------------
รู้สึกใจหายจุงเบย มันจะจบแล้วอ่า(หลอก

)
รักทุกคนนะคะ คอมเม้นรวบยอดตอบครึ่งหลังเลยเนอะ
ไอ้ที่บอกจะมาต่อก่อนเที่ยง ให้คิดซะว่าฝันไปนะคะ

เพราะอิเขียดมันตื่น11.51 ถ้ามันพิมพ์ทันตอนเที่ยงก็ไม่ใช่คนละคะ=[]= เอาเป็นว่าเลื่อนไปอัพก่อนเที่ยงคืนแทน 555

เลิฟๆๆ
ขอไปนอนก่อน ฝันดีคร่า

ช่วยดันกันด้วยน๊า
