บทที่ 17 “นอนไหม?”
เสียงทุ้มดังขึ้นภายในเครื่องบินส่วนตัว ขนาด 18 ที่นั่ง หลังจากเหลือบเห็นรุ่นน้องตัวเองอ้าปากหาวหวอดได้สองสามที ท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่หันมอง ศิลป์กำลังเอื้อมมือไปกดหัวของนิวลงซบกับไหล่กว้างของตัวเองอย่างไม่สนใจใคร ทั้งที่คนตัวเล็กข้างๆแทบจะส่งเสียงร้องตกใจออกมา
“ผมไม่เป็นไรครับ เมื่อคืนนอนดึกนิดหน่อยเอง” นิวในชุดไปรเวทโทนน้ำเงินรีบขยับตัวออกห่าง บนที่นั่งแบบโซฟายาว พลางยกมือขึ้นโบกไปมาพัลวัน สายตากลมโตกลอกทางซ้ายทีขวาทีอย่างลนลาน
“ตื่นเต้นหรอวะนิว” เสียงกวนตีนจากเบาะตรงข้ามดังขึ้น สายตาล้อเลียนถูกส่งมาให้จากผู้ชายหัวชี้ฟูในเสื้อเชิ้ตสีกรมท่า
“ผมอยู่เล่นเกมต่างหากพี่ผา!”
“อะไร? นี่มึงเล่นกูอ่อ?” ทันทีที่นิวให้คำตอบรุ่นพี่ตรงหน้า เพื่อนข้างๆก็ชิงพูดแทรกขึ้นมาด้วยท่าทางกวนประสาทไม่แพ้กัน เด็กม.4ห้องใกล้เคียงพยายามเล่นมุกกับชื่อตัวเอง พลางตรงเข้ายีผมย้อมสีของนิวอย่างนึกสนุก
“ไอ้เชี่ยเกม!” คนโดนแกล้งโวยวาย ก่อนจะปัดแขนบนหัวออกอย่างหงุดหงิด ความง่วงเมื่อครู่พลันหายไปซะเฉยๆ
“เฮ้ย ไอ้เกม..มึงหุบปากดิ๊ กูรำคาญ” ศิลป์เอื้อมมือผ่านคนตรงกลางไปผลักหัวของเกมออกห่าง น้ำเสียงที่เปล่งออกมาฟังดูน่ากลัวชอบกล ทำเอาเด็กขี้เล่นไม่กล้าแม้แต่จะขยับปาก ก่อนจะควักมือถือในกระเป๋ากางเกงขึ้นมากดเล่นแทนอย่างเซ็งๆ
ส่วนผาเอง เมื่อเห็นท่าทีไม่สบอารมณ์ของศิลป์ ก็กลับมานั่งสงบปากสงบคำเหมือนเดิม แต่ยังไม่วายหันไปส่งยิ้มหวานให้คนตัวบางบนเบาะเดียวกัน ถือเป็นการท้าทายอำนาจหัวหน้ากลุ่มที่นั่งส่งสายตามาดร้ายอยู่ระหว่างกลางเป็นอันมาก
“มึงยิ้มอะไร?” ติกระชากเสียง พร้อมกดตัวพะภูลงจนตัวแทบจะกลืนเข้าไปในเบาะ พยายามใช้ร่างกายสูงใหญ่ของเขาเป็นฉากกำบัง ไม่ให้สายตาน่าเกลียดของรุ่นน้องม.5คนนี้ผ่านไปถึงคนรักของตนได้
“พี่ติ ขี้หวงว่ะ”
“ไอ้นี่ วอนตีนและ”
ติว่าพลางชูกำปั้นขึ้นกลางอากาศ จนคนตัวเล็กข้างๆต้องรีบรั้งเอาไว้ สายตาดุๆถูกส่งไปให้ ติเลยต้องยอมปล่อยผาไปโดยไม่ได้สั่งสอนอะไร ขณะที่คนรอดตัวยังคงนั่งกลั้นหัวเราะกับท่าทีหมดสภาพของหัวหน้ากลุ่มตัวเอง
“หิวเปล่า?” ติพยายามเลิกสนใจไอ้เด็กเวรด้านซ้าย ก่อนจะหันไปตั้งคำถามกับพะภูแทน คนตัวเล็กส่ายหน้าสองสามที พลางเอนศีรษะลงไปกับไหล่กว้าง คนโตกว่ามองการกระทำของเด็กข้างๆยิ้มๆ มือขวาเอื้อมออกไปกดหัวพะภูให้โน้มเข้ามา
สายตาทุกคู่บนเครื่องค่อยๆลอบมองคู่รักสดใหม่ด้วยความรู้สึกหลากหลาย จะว่าต้องขอบคุณพะภูก็อาจจะใช่ เพราะเขาทำให้ติอ่อนโยนขึ้นได้มากขนาดนี้ ทั้งที่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหน หรือใครทำได้มาก่อน ราวกับเป็นชิ้นส่วนสำคัญซึ่งถูกนำพามาพบกันเพื่อการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ติที่เคยร้ายกาจ เด็ดขาด และผยอง วันนี้กลายเป็นผู้ชายที่ยิ้มออกมาได้ไม่อายใคร และกลายเป็นฝ่ายที่ยอม
ถึงจะดูแปลกไปจนน่าตกใจ แต่นี่แหละ คือตัวตนแท้จริงของติที่พวกเขาทุกคนต่างศรัทธาและหลงใหล ถึงได้ติดตามคนคนนี้มาโดยตลอด กาลเวลา อำนาจ ชื่อเสียง ทุกอย่างต่างหลอมให้กีรติต้องกลายมาเป็นคุณชายอันธพาลจอมโหดในสายตาของคนอื่น
ได้แต่รอคอยใครสักคน ที่จะเดินเข้ามากะเทาะเปลือกนอกพวกนั้นให้หายไป... และพะภู ก็คือคนคนนั้น
“กัส อีกนานไหม?” เกต์ถามรุ่นน้องม.5ที่กำลังก้มหน้าอ่านวรรณคดีอังกฤษเล่มหนาอย่างใช้สมาธิ คนชื่อกัสลดหนังสือในมือลง ก่อนจะยกนาฬิกาขึ้นมอง
“น่าจะไม่เกิน 20 นาทีครับ”
“รอลงน้ำไม่ไหวแล้วว”
“พี่เกต์ชอบเล่นน้ำหรอครับ?” นิวถาม เมื่อเห็นท่าทางเร่าร้อนของรุ่นพี่ที่ดูใจดีที่สุด แววตาเปล่งประกายถูกส่งกลับมา พร้อมน้ำเสียงมีความสุข
“ฉันชอบทะเล! แต่ไอ้เวรสองตัวนี้เสือกไม่ชอบ เราเลยไม่เคยได้มาเลยจนคราวนี้เนี่ยแหละ” เกต์ทำปากยื่นไม่พอใจไปทางเพื่อนสนิททั้งสองคนที่เอาแต่นิ่งเฉย ติก้มมองเด็กข้างๆเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ปลุกเขาเข้า ก่อนจะหันไปต่อบทสนทนากับเกต์
“ที่ได้มา ก็เพราะพะภูอยากมาหรอก”
“เออ กูรู้! แต่ใครวะเป็นคนทำให้มึงรู้ใจตัวเอง จนได้รักกับพะภู มึงต้องตอบแทนกูบ้างนะเว้ย”
เกต์พูดเป็นเชิงแซว พยายามกลั้นยิ้มเอาไว้ที่สุด กีรติเอ๊ย ไม่ได้รู้อะไรเลย ที่ได้มาเที่ยวทะเลครั้งนี้ก็เพราะเขาเตี๊ยมกับสุดที่รักของตัวเองไว้แล้วต่างหากเล่า!...ไม่คิดมาก่อนว่า พอติยอมรับว่ารักแล้วจะกลายเป็นทาสขนาดนี้ ชักสงสัยแล้วสิ ว่าฝ่ายไหนกันแน่ที่เป็นลูกหมาน่ะ
“ถึงโรงแรมแล้วมึงก็โดดลงน้ำไปเลยดิ”
“กูทำแน่ แต่พวกมึงต้องไปกับกูด้วยนะ กูจะได้เห็นหุ่นพะภูกับนิวด้วยอะ”
เกต์พูดจาติดตลก หวังจะแหย่เล่นเพื่อสร้างบรรยากาศครื้นเครง เพราะพะภูกับนิวเป็นสองคนในนี้ที่เขาไม่เคยเห็นตอนถอดเสื้อเลยก็เท่านั้น แต่ดูเหมือนคำพูดที่หลุดออกมา จะไปกระตุกต่อมอารมณ์ของคนแถวนี้เข้าให้
“กูขอให้คลื่นซัดมึงออกไป ไม่ต้องกลับมาอีกตลอดชีวิต” ติว่าท่าทางเรียบเฉย แต่กลับส่งสายตามาดร้ายออกไปอย่างโจ่งแจ้ง ตามมาด้วยเสียงคำรามจากในลำคอของศิลป์ ซึ่งดังขึ้นเป็นการสนับสนุน
“ไอ้เกต์ ไปตายไป” เจ้าของผมชี้สั้นสีดำสนิทออกปากเสียงโหด ก่อนจะวาดมือไปโอบรอบตัวนิวไว้เหมือนต้องการปกป้อง ไม่ทันที่ใครจะได้สงสัย คนตัวเล็กก็รีบดันแขนแกร่งออกห่างจากตัวซะก่อน
ไม่นานนัก เครื่องบินภายใต้ชื่อ อัครโภคิน ก็แล่นลงจอดเทียบพื้น ผู้โดยสารทั้งแปดคนพากันย้ายไปขึ้นเรือเร็วที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้ อีกไม่กี่นาทีก็มาถึงสรวงสวรรค์ที่เรียกกันว่า เกาะกูด
โรงแรมกว้างขวาง ติดอันดับท็อปของเกาะ การันตีความหรูหราระดับห้าดาว ตั้งตระหง่านอยู่ต่อหน้า ดูเหมือนพะภูจะเป็นคนเดียวที่มีอาการเหงื่อตกด้วยว่าแพ้ความโอ่อ่าของสถานที่นี้ คนตัวเล็กพยายามหุบปากที่อ้าค้าง ก่อนจะหันไปดึงชายเสื้อของติให้เข้ามาใกล้
“พะ พี่ติ...โรงแรมหรูจังครับ แพงแย่เลย”
“ไม่นะ ฉันได้ส่วนลดด้วย” คนตัวสูงฉีกยิ้ม มือข้างหนึ่งตรงเข้าลูบหัวเด็กข้างๆอย่างเอ็นดู
“แล้วเหลือคืนละเท่าไรครับ?”
“อืม...เฮ้ยกัส มึงจองได้เท่าไรนะ?” ติทำท่าครุ่นคิด สักพักจึงหันไปถามรุ่นน้องซึ่งยังหลบหน้าอยู่หลังหนังสือเล่มเดิม กัสชูนิ้วโป้งขึ้นกลางอากาศแทนคำตอบ ทำเอาพะภูถึงกับตาโต
“6 พัน!? นี่ลดแล้..”
“6 หมื่นต่างหาก”
เกมที่ยืนฟังทุกอย่างอยู่พูดขึ้น จนคนได้ยินถึงกับลมจับ พะภูยืนนิ่งไม่ไหวติง ราวกับเพิ่งถูกกระชากวิญญาณออกไปจากร่างก็ไม่ปาน จำนวนตัวเลขบอกราคาห้องพักต่อคืนมันมากเกินกว่าที่คนระดับเขาจะรับไหว ไม่อยากคิดว่าเหล่าคุณชายทั้งหมดตรงหน้า จะควักเอาเงินหลักนั้นออกมาพลาญเล่นง่ายๆแบบนี้
“เอาน่า นานๆที” เกมเดินเข้ามาผลักให้พะภูเดินต่อ มีติคอยส่งยิ้มหายากมาให้เป็นการปลอบประโลมไม่ให้สติแตกไปซะก่อน สังคมคนรวยนี่มันน่ากลัวจริงๆ ให้ตายเถอะ!
“เตียงเดี่ยว 4 หลัง หลังละ 2 คน” กุญแจสี่ดอกถูกแผ่ออกในมือของกัส หลังจากที่เราเข้ามาถึงส่วนของล็อบบี้
“อ้าวเฮ้ย เตียงเดี่ยวเนี่ยนะ มึงเห็นพวกกูเป็นคู่แต่งงานรึไงวะ?” ร่างสูงในเสื้อสีกรมท่ารีบโวยขึ้นมาก่อนเพื่อน แต่คำตอบที่ได้รับ กลับทำเอาเขาไปต่อไม่เป็น สาบานเลยว่าครั้งหน้าจะไม่ให้ไอ้หนอนหนังสือนี่เป็นคนจองที่พักอีกแล้ว
“ก็โรงแรมนี้ดังในหมู่คู่รักหนิ”
สิ้นเสียงของกัส ทุกคนต่างก็หันมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมา จนติต้องเป็นฝ่ายตัดสินใจเป็นคนแรก พลางดึงกุญแจดอกหนึ่งมาไว้กับตัว
“กูจะนอนกับพะภู”
“พี่ติ จะทำอะไรพะภูปะเนี่ย?” เกมโพล่งออกมาอย่างจงใจแหย่เล่น ทำให้บรรยากาศอึดอัดเมื่อครู่ค่อยๆคลายลงได้บ้าง
“แล้วมึงจะทำไม?”
ติเอื้อมมือไปผลักหัวคนพูดแรงๆ ท่ามกลางเสียงหัวเราะจากผู้ชายที่เหลือ ยกเว้นแค่บุคคลผู้ถูกพูดถึง ซึ่งบัดนี้ได้กลายเป็นหินไปแล้ว ใบหน้าสองข้างร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างคุมไม่ได้ บทสนทนาเมื่อครู่ฟังดูกำกวมมากไปจนชักใจไม่ดี เขาต้องนอนร่วมเตียงกับผู้ชายชื่อกีรติจริงๆเหรอเนี่ย!?
“กัสกับเกมคงนอนด้วยกันสินะ” เกต์ส่งเสียงขึ้นมา สายตาคำถามพยักเพยิดไปทางพี่น้องคู่ที่ว่า ทั้งสองคนหันมองหน้ากันแวบหนึ่งเหมือนเบื่อขี้หน้าเต็มที
“ก็คงต้องเป็นงั้นอะ” เกมว่าท่าทางหน่ายใจ ก่อนจะดึงกุญแจอีกดอกมาเก็บใส่กระเป๋ากางเกง อีกสี่คนที่เหลือเริ่มทำตัวไม่ถูก จนเกต์ต้องเป็นฝ่ายออกปากสรุปให้เอง
“งั้นมึงก็นอนกับกู แล้วให้ผานอนกับนิว โอเคปะ?”
“ไม่!/ไม่ครับ!”
ผากับเกต์ที่กำลังยื่นมือออกไปหยิบกุญแจ ชะงักทันทีที่ได้ยินเสียงคัดค้านจากอีกสองคน สายตาทุกคู่จับจ้องไปยังศิลป์กับนิวด้วยท่าทางสงสัย ก่อนที่ผู้ชายร่างกำยำต้องเป็นฝ่ายออกตัวเสียงแข็ง
“ไปไหนๆ กูก็ต้องนอนกับมึง เบื่อจะตายชัก” สิ้นเสียงศิลป์ เกต์ก็ตั้งท่าจะเถียงกลับ แต่ไม่ทันได้โวยอะไร นิวก็พูดแทรกขึ้นมาซะก่อน
“ผมก็ไม่อยากนอนกับพี่ผาเหมือนกัน”
“อ้าววว”
“เอาเป็นว่ากูกับนิวนอนด้วยกัน”
ศิลป์ดึงกุญแจหนึ่งดอกออกมาจากมือกัส และดันไหล่นิวให้เดินตามพนักงานคนหนึ่งออกไปแบบไม่รีรอ ท่ามกลางความงุนงงของสมาชิกที่เหลือ กัสก็จัดการยัดกุญแจดอกสุดท้ายเข้าไปในมือผา ก่อนจะพยักหน้าให้เกมออกเดิน มีติกับพะภูก้าวขาขนาบข้างไปด้วย โดยทิ้งให้เกต์กับผาได้แต่กอดคอวิ่งตามไปเป็นคู่สุดท้าย ตลอดทางเดินก็เอาแต่ฮัมเพลงเบาๆกันอยู่สองคน
“แต่คนถูกทิ้งก็เป็นอย่างเนี้ยะ จะมีทางไหนให้ฉันหลีกหนี ให้ดีไปกว่า จมอยู่กับน้ำตา~~”
เดินต่อได้แค่พักเดียว ก็มาถึงหน้าบ้านพักหลังใหญ่ แบบโอเชี่ยนวิว ดูไฮโซสมราคาอันแพงหูฉี่ แต่ละคู่แยกย้ายกันไปตามหมายเลขบนกุญแจ มีคนยกสัมภาระทั้งหมดมาวางเตรียมไว้ให้ก่อนแล้ว
ติยื่นกุญแจให้พนักงานในชุดผ้าไหมรับไปเปิดประตูห้อง ข้าวของถูกนำไปเรียงบนชั้นไม้สำหรับวางกระเป๋าโดยเฉพาะ ก่อนจะหันกลับมารับทิปหนักๆตามวิสัย ถึงแม้ว่าคนตัวเล็กจะอึ้งในความหรูหราของที่พักจนแทบเป็นลม แต่ก็อดตื่นเต้นและตื่นตาไปกับทิวทัศน์ระดับพรีเมี่ยม บวกกับความสะดวกสบายอันดับหนึ่งไม่ได้ พะภูรีบตรงดิ่งเข้าไปสำรวจภายในบ้านพักกว้างขวาง หยุดสายตาอยู่กับประตูกระจกซึ่งฉายให้เห็นวิวทะเลสวยงาม เกินกว่าที่เคยจินตนาการถึง ขณะที่กำลังจมลงไปในห้วงความรู้สึกอิ่มเอม เสียงล็อคประตูหลักที่ด้านหน้าก็ดังขึ้นเรียกสติเอาไว้
กริ๊ก
เกือบลืมไปแล้ว ว่าตอนนี้มีเพียงแค่เขากับติสองคนเท่านั้น...
--------------------------------------
ฮือออ มาอัพช้ามาก ขอโทษทีน้า
ช่วงนี้จะสอบแล้ว งานรุมเร้ามาก
ดองด้วยประเด็น 555 ตอนนี้เคลียร์หัวหมุนเลยจ้า
เดี๋ยวจะสอบ 2 อาทิตย์ (ที่จะถึงนี้แล้ว)
ไม่แน่ใจว่าจะมาต่อได้อีกทีเมื่อไร
แต่จะพยายามมมม หาเวลามาแต่งต่อให้ได้ TT
ถ้ายังไงฝากนักอ่านทุกคนติดตามไปเรื่อยๆด้วยน้า
อย่าทิ้งเราไป~ 555
สุดท้ายก็ต้องขอบคุณทุกๆคอมเม้นที่เป็นกำลังใจอย่างดีเช่นเคยค่า