ฟิน!!!!ด้วยภาพ


ลูกดิ่ง : อยากกินเหรอครับ? [ถามเพราะเห็นพี่แลบลิ้นไปมา นึกว่าอยากกินหมูเสียบ]
โยโย่ : ใครอยาก..มีน้ำแล้ว [พูดพร้อมกับโชว์น้ำในมือที่ถืออยู่]
ลูกดิ่ง : อ้าว! เห็นพี่เลียริมฝีปาก นึกว่าอยากกินของผม..
โยโย่ : [โยโย่ชะงักค้าง..อึ้งไปหลายวิ] ไอ้หนูนี่พูดอะไรคิดหรือเปล่าวะนั่น บ้าชะมัด! พูดมาได้อยากกินของผม
เดี๋ยวพ่อจับกินเสียดีไหม..หืมมมมม!!

ลูกดิ่ง : เงียบไมพี่ เขินดิ..ถ้างั้นเรามาแลบลิ้นแข่งกันไหม ใครลิ้นยาวกว่า เอาม๊าาาา!! [ว่าแล้วแลบลิ้นแผล่บๆ]
โยโย่ : [อึ้งตาค้างเป็นรอบที่ล้าน ก่อนจะทำหน้าดุใส่] บ้าหรือเปล่า..อย่าไปชวนใครทำแบบนี้เข้าล่ะ [เผลอสั่งเสียงเครียด]

ลูกดิ่ง : ฮะฮ่าๆๆ..ทำไมครับพี่ เขินสิท่า..ไม่กล้าก็บอก กลัวแพ้ผมงั้นสิ ฮะฮ่าๆๆ [ยังคงขำเป็นที่สนุกสนาน]

โยโย่ : อย่างฉันไม่แพ้เด็กหรอก ว่าแต่ถ้าหากลิ้นฉันพันลิ้นนายได้ นายจะยอมแพ้ไหม?
ลูกดิ่ง : [มองตาปริบๆ ด้วยความงง? ก่อนจะหน้าแดงในความหมายของคำพูดพี่ แอบกร่นอยู่ในใจ] บ้าชิบ! นี่มันท้าจูบชัดๆ
โยโย่ : [เห็นน้องที่หัวเราะอยู่ดีดี ใบ้แดกก็ให้นึกสะใจ] หึ! นึกว่าจะแน่ ที่แท้เก่งแต่ปาก [ปิดท้ายท้าทายต่างหาก]
ลูกดิ่ง : ผมยังปากไม่เก่ง รอผมไปฝึกมาก่อนพี่ แล้วผมจะรับคำท้า
โยโย่ : เฮ้ย! ห้ามไปฝึกเด็ดขาด จะฝึกมาฝึกกับฉันนี้.... [เสียงห้วนดุอย่างเครียด น้องวิ่งก้นขวิดหนีพี่เข้าห้อง หลังทิ้งระเบิดไว้
แกล้งพี่หัวเสียเล่น โยโย่หารู้ไม่ว่ารุ่นน้อง ไปนอนชักดิ้นชักงอหัวเราะบนเตียงไปแล้วเรียบร้อย]
สนามรัก..นักบอล
Part 10 “ไงเรา..ดูสดชื่นขึ้นนี่” เกรียงทักลูกดิ่ง หลังไม่เห็นร่องรอยอ่อนล้าหลงเหลือให้กังวล ยุทธย่นหัวคิ้วเข้มพิจารณาใบหน้ารุ่นน้องบ้าง
“ดิ่ง..มึงไปโด๊บอะไรมา” รุ่นพี่ซี้ปึ๊กถาม รุ่นน้องได้แต่ยิ้มละไม กำลังจะอ้าปากตอบ
“หิวแล้ว..รีบเถอะ” เสียงทุ้มเข้มขัดขึ้นเสียก่อน สามหนุ่มมองหน้ากันงงๆ แอบแปลกใจเล็กน้อย
หนุ่มหล่อตัวโตเกิดหิวถึงขั้นออกปากเร่งพวกเขาเชียวหรือ แต่ไม่มีใครคิดจะพูดอะไร ได้แต่หุบปากตามหลังคนเก๊กเข้ม
ที่เดินลิ่วไปโน้นแล้ว ลำบากเกรียงต้องเร่งฝีเท้าให้ทันเพื่อน
“รีบไปตามควายหรือมึง” เพื่อนซี้ตามมาตีคู่ อดเหน็บไม่ได้ เป็นบ้าอะไรเดินไม่รอใคร
คนฟังไม่ได้หันมายังคงหน้านิ่ง กระทั่งมาถึงหน้าลิฟท์ รุ่นน้องสองหนุ่มวัยขบเผาะก็ตามทัน
“โห!..เดินเร็วไปไหนครับพี่” ยุทธโอดครวญ หลังตามมาหยุดหน้าลิฟท์พร้อมลูกดิ่ง รุ่นพี่สุดหล่อแค่ปรายตามองแวบ
ไม่คิดต่อปากตามเคย จังหวะลิฟท์มาพอดี สี่หนุ่มรีบก้าวเข้าไป กดลงไปยังแคนทีนเพื่อทานมื้อเที่ยงตามที่ตั้งใจไว้
“ดิ่ง..มึงยังไม่ได้บอก ได้ยาดีอะไรกระปรี้กระเปร่าทันตา กูคิดว่ามึงจะหมดแรงเดินขาลากเสียอีก
เลิกซ้อมทำตัวอย่างกับซอมบี้ ตอนนี้คึกเฉย” ยุทธได้โอกาสหลังอยู่ในลิฟท์ ไม่ทิ้งประเด็นที่ถามค้างไว้
เซ้าซี้รุ่นน้องให้บอกออกมา
“ความจริงไม่ใช่ยาดีหรอกครับพี่ยุทธ คือผมได้...? ” ยังไม่ทันพูดจบ บังเอิญสบตาคนตัวโตเสียก่อน
สายตาคมหรี่ส่งสัญญาณห้ามไม่ให้พูด ปากบางสีสดกำลังเตรียมเฉลยถึงกับค้างเติ่ง
ตาเรียวกลอกไปมานึกหาทางเอาตัวรอดอย่างไม่ทันตั้งตัว
“อะไร..มึงทำไม” คนรอฟังเร่งยิกๆ
“เออ..คือผม..” รุ่นน้องหน้าใสติดอ่างกะทันหัน โกหกไม่เก่งเป็นทุน
ครั้นจะหาคำพูดแก้ต่างดันจวนตัว สภาพเลยเป็นอย่างที่เห็น
“สนใจขนาดนั้น” โยโย่จำต้องแทรกขัดขึ้นมา
“สนสิพี่..เผื่อจะได้หามาโด๊บบ้าง ยังไม่รู้วันต่อไปซ้อมหนักกว่าเดิมหรือเปล่า ขืนซ้อมแบบนี้ทุกวัน
ผมมีสิทธิ์หมดแรงเหมือนกันนะครับ..พี่โย่” ยุทธหันไปตอบโยโย่ทันควัน ทำไมเขาจะไม่สน
ในเมื่อไอ้ดิ่งดูสดชื่นอย่างเห็นได้ชัด ไม่ต้องกังวลช่วงเย็นมันจะลงสนามไม่ไหวเสียด้วยซ้ำ
“แช่น้ำอุ่นห้านาที กำลังก็คืนมาเหมือนเดิม” น้ำเสียงเรียบนิ่งบอกด้วยสีหน้าเฉยชา
แต่ลูกดิ่งกลับมองพี่เลี้ยงตาโต บ่งบอกชัดโยโย่ไม่ต้องการให้ใครรู้..เป็นคนลงมือนวดให้เขา
‘สงสัยคงกลัวถูกขอร้องให้นวดเสียละมั้ง’ ความคิดของเขาผุดขึ้นมาใช้เป็นเหตุผล
“โถ! สูตรลับแค่นี้ทำมุบมิบไอ้ลูกข่าง ที่แท้ได้คำแนะนำจากพี่โย่สิท่า มิน่าดูสดชื่นทันตาเห็น
พี่เกรียงรู้เหมือนกันใช่เปล่า แล้วทำไมไม่บอกผมอ่ะ ไม่งั้นก่อนอาบน้ำผมแช่น้ำอุ่นด้วยก็ดีหรอก”
ยุทธรวบรัดดื้อๆ ก่อนหันไปโวยเกรียงซะงั้น
“อ้าว!..” ฝ่ายถูกโวยได้แต่ส่ายหัว หันไปสบตาโยโย่อย่างรู้ทัน ต้องมีอะไรมากกว่านั้น
โยโย่ใช่จะชอบแทรกการสนทนาอย่างที่ทำ ถ้าไม่มีอะไรคิดปิดบังล่ะก็ สำคัญท่าทางตะกุกตะกักของลูกดิ่ง
ไม่ได้เนียนเลยสักนิด พิรุธแค่นี้ไม่พ้นสายตาเขาหรอก..
พวกเขามาถึงแคนทีน นักเตะจับกลุ่มทานกันเป็นส่วนใหญ่ เสียงพูดคุยดูออกรส
ความสัมพันธ์คืบหน้ามาก..ระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องที่เริ่มสนิทสนมคุ้นเคยกันดี ทำให้บรรยากาศครึกครื้นพอสมควรทีเดียว
สี่หนุ่มเดินเข้าไปได้รับรอยยิ้มทักทายส่งให้ สามหนุ่มยิ้มตอบยกเว้นคนตัวโตยกยิ้มมุมปากตามนิสัย
ซึ่งพวกเขาต่างรู้กันอยู่ เพื่อนร่วมทีมถึงไม่เก็บเอามาเป็นประเด็น
ความจริงโยโย่ไม่ใช่ไร้มนุษยสัมพันธ์ แค่มีโลกส่วนตัวสูงไปหน่อย ไม่ชอบวุ่นวายสุงสิง
สำคัญคือปากหนักเลยดูเงียบ ใครไม่สนิทด้วยมักคิดว่าหยิ่ง ที่จริงตรงข้ามสิ้นเชิง เขาแค่ไม่ชอบพูดเลือกเป็นผู้ฟังเสียมากกว่า
น้อยคนที่จะร่วมคลุกคลีตีโปงด้วย แต่กลับจริงจังตอนลงเตะบอลในสนาม ทีมเวิร์คของพวกเขาไม่เคยเกิดปัญหา
กลับเล่นเข้าขากันได้ดีเสียอีก
นักกีฬาส่วนใหญ่ หลังรู้จักตัวตนโยโย่ พานนึกชื่นชมด้วยซ้ำ คนไม่พูดมักไม่สร้างปัญหา
บางคนพูดมากพานทำให้รำคาญไปเลยก็มี
“ไงหล่อเล็ก..สบายตัวแล้วสิ ดูสดใสดีนี่เรา” พงษ์นักเตะรุ่นพี่ที่อายุอาวุโสพอสมควรถามลูกดิ่ง
“ดีขึ้นแล้วครับ ท่าทางผมแย่ขนาดนั้นเลยเหรอครับ” ฝ่ายถูกถามอดสงสัยไม่ได้
ทำไมมีแต่คนถามประโยคคล้ายกัน หรือว่าเขาดูแย่จริงๆ
“ก็ไม่หรอก เห็นนอนแผ่หมดแรง ก่อนหน้าแทบจะลากขาป้องกันประตูแล้วมั้ง
พี่ก็คิดว่าเราจะไม่ไหวเสียอีก ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว เย็นจะได้ลงสนามต่อ” นักเตะหลายคนต่างสนใจการสนทนาของทั้งคู่
บ่งบอกว่าลูกดิ่งกลายเป็นที่รู้จักและคุ้นเคย ของรุ่นพี่และเพื่อนนักเตะเป็นอย่างดี
เขาเสียอีกไม่คุ้นเคยใครเท่าไหร่ ยังไม่มีจังหวะทำความรู้จักทุกคนดี ช่วงซ้อมต่างตั้งใจฝึกกันเต็มที่
เป้าหมายแต่ละคนล้วนต่างมีความหวัง ไม่มีใครติดเล่น..เลยไม่ได้พูดคุยนอกรอบกันเลย
“ถึงกับตั้งฉายาเชียวเหรอพี่พงษ์” เกรียงแซว หลังได้ยินรุ่นพี่เรียกฉายาของลูกดิ่งแทนชื่อ
“เหมาะไหมเกรียง..หล่อเล็ก” พี่พงษ์ยิ้ม พี่ดลกับพี่นักเตะสองสามคนต่างพยักหน้าหัวเราะตามไปด้วย
“ครบเลยสโมสร หล่อเล็กหล่อใหญ่ ขวัญใจสาวๆ” เกรียงผสมโรง ปล่อยคนตัวโตที่ไม่ต้องเดาว่า
ฉายาหล่อใหญ่เป็นของใคร ยืนไม่พูดไม่จา ตามเคย ส่วนยุทธเผลอหัวเราะกับฉายาของลูกดิ่งที่เพิ่งได้มาสดๆ ร้อนๆ
ขณะที่รุ่นน้องหน้าใสหันไปยิ้มระบายให้คนที่ได้ฉายาหล่อใหญ่อย่างไม่ได้คิดอะไร แค่ดีใจที่ฉายาของตนมีส่วนสัมพันธ์กับพี่เลี้ยง
แม้ในใจจะถ่อมตัวไปแล้ว ‘ผมหรือจะกล้าหล่อเทียบขั้นพี่โย่’
“ไปหาอะไรกินเถอะ พวกพี่อิ่มแล้วกะงีบเอาแรงกันสักตื่น ไว้ลุยกับโยโย่เย็นนี้
ขอกำราบหน่อย..ตกลงไหมน้องรัก” พี่พงษ์พูดติดตลก หันไปยักคิ้วท้าทายโยโย่ปิดท้าย
“หึหึ! เต็มที่ครับพี่” โยโย่ตอบกลั้วหัวเราะ ก่อนพวกเขาจะแยกเดินไปที่โต๊ะบุฟเฟ่ต์ เพื่อตักข้าวทานตามสะดวก
ทุกการกระทำตั้งแต่ลูกดิ่งเดินเข้ามาในแคนทีน ตลอดจนได้รับการทักทายพูดคุยจากรุ่นพี่
แม้กระทั่งฉายาที่นักเตะรุ่นพี่ล้วนเห็นว่าเหมาะกับรุ่นน้องหน้าใส ล้วนตกเป็นเป้าสายตาของปุ้มตั้งแต่ต้น
เขาเนียนทานอาหารอย่างไม่ให้มีพิรุธ แต่แอบส่งแววตามาดร้ายคอยมองตามลูกดิ่งเป็นระยะ
เต็มไปด้วยความชิงชัง ‘จะยอมให้ไอ้ดิ่งแย่งพื้นที่ไม่ได้ ดูมันกลายเป็นจุดสนใจไปแล้ว’ ในหัวคอยบอกตัวเองไปด้วย...
“พี่โย่อยากทานอะไรครับ เดี๋ยวผมตักใส่ถ้วยแบ่งไปให้ที่โต๊ะ” ที่ถามไม่ได้ต้องการเอาใจเหมือนเจตนาเลียแข้งเลียขา
แค่อยากตอบแทนพี่แทค ที่นวดให้เขา จนรู้สึกสบายตัวมีแต่คนทักก็เท่านั้น คนตัวโตหน้านิ่งจ้องรุ่นน้องชั่วครู่
ก่อนปากที่เต็มไปด้วยเคราดกดำจะเอ่ยออกมา
“ถ้าตักใส่ถ้วย เราก็กินด้วยกัน” ลูกดิ่งเผยยิ้มกว้างอย่างห้ามไม่อยู่
ถือเป็นการชวนแถมอนุญาตให้ทานร่วมได้ ทำไมเขาจะไม่ดีใจ
มื้อเช้าเหนือความคาดหมายแล้วนะ มื้อเที่ยงความสัมพันธ์คืบหน้ากว่าที่คิดเสียอีก
อย่างน้อยโลกของพี่โย่เขาก็มีร่วมกับรุ่นพี่มากขึ้น แม้จะดูไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แค่ไม่ปิดกั้นก็พอแล้ว
“ยิ้มใหญ่เชียวมึง” ยุทธแซวรุ่นน้อง หลังโยโย่ถือแค่น้ำสองแก้วกลับไม่นั่งรอที่โต๊ะ
ยกหน้าที่เลือกอาหารตามแต่รุ่นน้องจะตัดสินใจ โดยไม่ได้เจาะจงว่าตัวเองอยากทานอะไร
“อย่างน้อยผมก็ไม่ต้องเกร็ง แค่พี่เขาไม่ทำตัวห่างเหินโคตรดีใจแล้ว รู้ไหมผมหลังเกร็งทุกครั้งที่ต้องคอยเดาใจพี่โย่
ไม่เหมือนพี่เกรียงนี่ครับ พี่แทคของพี่ยุทธกับของผมต่างกันสุดขั้ว” ลูกดิ่งชี้แจงให้ยุทธฟัง โดยไม่ได้สังเกตว่าเกรียง
ที่ยืนก้มหน้าตักอาหารหัวโต๊ะ กระดิกหูฟังการสนทนาอย่างจดจ่อ ปล่อยรุ่นน้องคุยกันตามสบาย
“เออบางครั้งกูแอบเสียวแวบ ตอนพี่แกมองด้วยสายตาคมปลาบล่ะ รู้นะว่าพี่เขาเป็นแบบนี้ แต่มันอดระทึกไม่ได้
คนอะไร..หล่อปานเทพดันมีรังสีบางอย่างพานให้เกร็งเอาง่ายๆ นึกหน้าตอนพี่แกโมโหไม่ออก
จะขนพองสยองเกล้าขนาดไหน บุคลิกแบบนี้ดันดึงดูดสาวเข้าหาบ้าคลั่ง
กูแอบเข้าไปดูแฟนเพจพี่เขาตอนรอพี่เกรียงอาบน้ำ มีคนไปตั้งเป็นสโตรกเกอร์
แม่งเอร้ย!!!..ยอดกดไลค์ยอดวิวเป็นล้าน แถมสาวๆ ค่อนประเทศทุกเพศทุกวัย ระริกระรี้กระดี๊กระด๊า
ไถ่ถามซะหวานจ๋อย โพสรูปพี่เขาเต็มเลยเว้ย จับทุกช็อตในสนามนอกสนาม เห็นแล้วอิจฉาวะ
เมื่อไหร่กูจะไต่ขึ้นเป็นดาวบ้างก็ไม่รู้ คงพยายามกันให้เต็มที่ว่าไหม..ลูกข่าง”
สรุปปิดท้ายด้วยการรำพัน แล้วหันมาขอแนวร่วมกับรุ่นน้องที่ยืนฟังไปด้วยเลือกอาหารไปด้วย
สีหน้าระบายยิ้มอย่างมีความสุข
“ก็ต้องเต็มที่แหละพี่ กว่าพี่โย่จะมาถึงวันนี้ คงไม่ใช่เส้นของพ่อเขาแน่นอน พี่ก็เห็นทักษะการเล่นบอล
ผมไม่นึกว่าจะเทพปานนั้น คนเราบางครั้งมองจากภายนอกเพียงอย่างเดียวไม่ได้จริงๆ ถ้าพี่กับผมอยากไปยืนในจุดภาคภูมิใจ
ก็คงต้องพยายามกันสุดกำลัง ดีกว่าไม่ทำอะไรแล้วมาเสียใจภายหลัง” การสนทนาของสองหนุ่มวัยมัธยม
พาให้เกรียงอมยิ้มตามไปด้วย ก่อนจะเลี่ยงถือจานข้าวกับผลไม้กลับมาที่โต๊ะ ไม่วายออกคำสั่งกับรุ่นน้องในความดูแลไปด้วย
“ยุทธพี่ไปก่อนนะ อย่าช้านักเรา ฝากถือน้ำเปล่าให้แก้ว”
ยุทธหันไปพยักหน้ารับคำ แล้วสองหนุ่มก็เลือกอาหารกันต่อ
“อิจฉาคุณชายวะ มีน้องบริการให้ถึงปาก” เกรียงวางจานข้าวราดกับผลไม้เรียบร้อย
หย่อนตูดนั่งติดเพื่อนรัก เริ่มพูดหยอกทันที
“หึ..ถึงปากห่าไร” โยโย่ปรายตามองหน้าเพื่อนซี้ปึ๊ก ปฏิเสธหน้านิ่ง
“แล้วปากมึงกับปากน้องไปโดนอะไรมา อย่านึกว่ากูไม่สังเกตนะโย่ ของลูกดิ่งชัดเจน ต่อให้มึงมีเคราบัง
แค่เผลอเอาลิ้นดุนพุงแก้ม กูก็เห็นแล้วว่ามุมปากมึงช้ำ” โยโย่เงียบ ไม่เถียงหรือคิดปฏิเสธ
ลองเกรียงพูดแบบนี้ ไม่มีประโยชน์ที่จะแก้ตัว
“อุบัติเหตุ ไม่ใช่อย่างที่มึงคิด”
“คงไม่ต้องเดา ปากมึงโดนกันมาแล้ว เพียงแต่โดนรุนแรงไปหน่อยถึงช้ำทั้งคู่ น้องมึงโคตรฉลาด
เลือกแต่อาหารรสจืดไม่เตะเผ็ดแม้แต่น้อย หาไม่ง่ายเว้ย!” โยโย่เหลือบตาคมมองหน้าเกรียงนิ่ง แต่ใจแอบยิ้มไปแล้ว
“อย่ามาเก๊กเข้มใส่กู..โย่! มึงทำอะไรอย่าลืมที่กูเตือน น้องมันใสมากไม่เหมือนใครบางคน
อย่าเอาสองคนไปเปรียบกันเด็ดขาด คิดอะไรให้นึกผลได้เสียตามมาด้วย สุดท้ายกูเคารพการตัดสินใจของมึง
มึงโตจนหมาเลียตูดไม่ถึงแล้ว ประสบการณ์คงทำให้มึงไม่วู่วามเหมือนคราวนั้นแน่”
คำเตือนของเพื่อนทำให้โยโย่อดยื่นมือจับไหล่กว้าง แล้วบีบเบาๆ แทนการขอบคุณ
“กินไป..พูดจนกระเพาะประท้วงแล้ว” เขาทิ้งท้ายตัดจบเอาดื้อๆ ปล่อยเกรียงจ้องหน้าหล่อของเพื่อน
ก่อนส่ายหัวให้ค่อยหันไปจัดการอาหารในจานตรงหน้า จังหวะสองหนุ่มรุ่นน้องถือถาดอาหารเข้ามาพอดี
“ผมว่ามื้อหน้า พี่เกรียงทานด้วยกันไหม ไม่ต้องราดใส่จานจะได้กินหลายอย่างไปด้วย”
ลูกดิ่งแนะ การตักแยกใส่ถ้วยแบ่งเล็กดูเป็นสัดส่วนให้ลิ้มรสชาติอาหารดีกว่าหลายอย่างโป๊ะบนจานเดียว
อย่างน้อยพวกพี่ซ้อมกันมาหนัก ช่วงกินควรจะมีความสุข..เขาคิดแค่นี้
“พี่ไม่ใช่คนเรื่องมากยุ่งยากอะไร แต่ถ้าดิ่งจะกรุณา มื้อหน้าพี่ฝากท้องด้วยนะครับ”
เกรียงเล่นลูกอ้อนทำตาปริบๆ ให้ดูน่าสงสาร จนโดนเตะขาใต้โต๊ะจากคนตัวโตหน้านิ่งไปที
“โอ้ย!” เผลอหลุดร้องไม่ทันระวัง เล่นเตะขากันแบบนี้..เจ็บนะโว้ย!
“พี่เกรียงเป็นอะไร” ยุทธถามพี่เลี้ยงด้วยความเป็นห่วง
“เผลอเอาขาเตะโต๊ะไปที..อารมณ์หวงข้าววะยุทธ” เกรียงตอบแกมประชดคนลงมือลงเท้ากับเขา
โดยอีกฝ่ายยังหน้านิ่ง สองหนุ่มรุ่นน้องมองกันไปมาอย่างไม่เข้าใจความหมาย อารมณ์หวงข้าวอะไรของพี่เขาวะ
“งง?..พี่หวงข้าวทำไม” ยุทธอดไม่ได้โพล่งถามให้คลายสงสัย
“หวงสิ..เสียดายตักใส่จานมาก่อน เลยจำใจต้องกินให้หมด ไม่งั้นได้กินกับลูกดิ่งแล้วเชียว” เกรียงไหลหน้าตาย
แต่โยโย่เม้มปากอย่างหมั่นไส้ นี่มันจะชักใบให้เรือเสียจริงๆ เขาอุตส่าห์ไม่คิดดันแหย่แบบนี้ หมายความว่าไงวะ?
จะยุหรือห้าม..ห่าเกรียง!
“ไม่เป็นไรครับพี่ ตักทานได้เลย ของหมดผมไปตักอีกก็ได้ พี่โย่ทานเลยครับ ผมไม่ได้ตักรสจัดมา”
น้องทิ้งท้าย ก่อนหันไปชวนรุ่นพี่หน้าหล่อ ด้วยใบหน้ายิ้มใสซื่อ โยโย่แสบตากับรอยยิ้มไร้การเสแสร้ง
เฉหยิบช้อนลงมือตักอาหารเข้าปากไม่เอ่ยสักคำ จนเพื่อนข้างๆ เห็นแล้วหมั่นไส้เทพบุตร เบ้ปากให้ไปทีอย่างเหลืออด
“ไม่คิดขอบคุณน้องมันสักคำ” เกรียงท้วงอย่างต้องการแกล้งเพื่อน
“ขอบใจ” คำขอบใจสั้นๆ ก็เอ่ยตามมา ก่อนเจ้าของคำพูดจะจ้วงข้าวเข้าปากไม่มองหน้าใคร
อาการแบบนี้เล่นเอายุทธถึงกับกลั้นขำ เขาแอบเห็นหูขาวๆ ของรุ่นพี่ขึ้นสีสุกปลั่ง ส่วนลูกดิ่งยิ้มแก้มแตกไปแล้วเรียบร้อย
เกรียงถึงกับยกน้ำขึ้นจิบไล่อาการเกือบสำลักน้ำลาย นานครั้งจะเห็นโยโย่เขินไปไม่เป็นอย่างที่เจ้าตัวกำลังออกอาการ
‘มุมนี้มึงก็มีด้วย...ไอ้โย่’
ระหว่างทาน..การผูกขาดสนทนาคงเป็นยุทธที่คอยซักถามเกรียงอย่างสนใจใคร่รู้ไปเสียทุกเรื่อง
เกรียงก็ไม่เบื่อกับการตอบคำถามรุ่นน้อง เพราะยุทธล้วนถามเกี่ยวกับทักษะเทคนิคการเล่นฟุตบอล
พลอยให้ลูกดิ่งได้ความรู้ไปด้วย จู่ๆ คนตัวโตที่เอาแต่ทานจวนจะอิ่ม ก็ล้วงมือถือขึ้นมากดอ่านข้อความ
แล้วหน้าหล่อก็คิ้วขมวดเป็นปม
“มีอะไร” เกรียงถามหลังเห็นพิรุธ
“พี่ผาไม่สบาย เย็นนี้มาสแตนบายข้างสนามไม่ได้..เดี๋ยวกูคงต้องแวะเข้าไปดูหน่อย” โยโย่ตอบ
“หมอผาป่วยซะงั้น แล้วเย็นนี้ใครมาแทน” เกรียงถาม
“ผสุ..พี่ผาไลน์บอก แต่ไม่เป็นอะไรมาก ไข้หวัดนิดหน่อย”
ทุกการสนทนาล้วนเป็นที่สนใจของรุ่นน้องทั้งสองคน..พลอยหูผึ่งฟังไปด้วย
“มึงไปเลยเหรอ..กลับกี่โมง” เกรียงถาม
“ก็ว่าจะไปเลย คงกลับราวบ่ายสอง” พูดกับเกรียง แต่สายตาส่งให้รุ่นน้องส่วนตัว
ตาเรียวใสจ้องตอบอย่างพาซื่อ หารู้ไม่รุ่นพี่เจตนาบอกให้เขารู้ต่างหาก
แทนการบอกกล่าวว่าจะไม่อยู่ แล้วจะกลับมาตอนไหน
“เออ..ฝากเยี่ยมหมอผาด้วยวะ” เกรียงฝากเยี่ยมคุณหมอคนสวย
“อืม..” อีกฝ่ายรับคำในคอ ก่อนพากันลุกกลับขึ้นห้อง คนตัวโตต้องมาเปลี่ยนชุดออกข้างนอก
ที่ใส่ลงมาทานมื้อเที่ยงคือกางเกงวอร์มกับเสื้อแขนกุด ไม่เหมาะจะไปเยี่ยมคนป่วย
“ฝากด้วย” ก่อนแยกเข้าห้อง ไม่วายหันมากำชับเพื่อนซี้ เกรียงพยักหน้าให้อย่างเข้าใจ
“มึงให้น้องไปอยู่กับพวกกูที่ห้องสิ” เกรียงพูดเบาๆ ให้ได้ยินสองคน
รุ่นน้องติดคุยอะไรกันไม่รู้ จึงไม่ได้สนใจพวกเขา
“อืม” โยโย่รับปาก ค่อยพากันแยกย้ายเข้าห้องพัก เข้ามาในห้อง ลูกดิ่งตรงไปยังห้องน้ำ
ตั้งใจเอาตระกร้าผ้าที่ใส่แล้ว ทั้งถุงเท้าและชุดซ้อมที่ชุ่มเหงื่อออกมาซัก
“พี่โย่ครับ..ผ้าในตระกร้าหาย” น้องผลุนผลันโผล่ออกมาในจังหวะที่พี่กำลังถอดเสื้อ
โชว์แผงอกล่ำเต็มไปด้วยมัดกล้ามสวยงาม หน้าท้องเป็นลอนลูกระนาด ขนดกดำไล่ลามกันเป็นแพร
ดูเข้มมาดแมนแอนด์แฮนซั่มเหนือคำบรรยาย ลูกดิ่งเผลอจ้องตาปริบๆ ไม่ได้เห็นพี่เปลือยมาก่อน อะไรจะหุ่นเป๊ะเว่อร์
“แม่บ้านเก็บไปซัก ถามทำไม” เสียงของพี่ทำให้รุ่นน้องหันมาสนใจเรื่องที่ถามค้างไว้
“ผมกะจะเอามาซัก” น้องตอบตามจริง
“ที่นี่มีแม่บ้านซักให้นักกีฬา ไม่ต้องลำบากเราหรอก ช่วงที่ลงไปทานมื้อเที่ยง
คือเวลาแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดห้อง เก็บผ้าไปซักรีด นำมาส่งให้เที่ยงของอีกวัน เป็นแบบนี้ทุกวัน” พี่อธิบายให้น้องเข้าใจ
“โห! ดีอย่างนี้เชียว สบายไปเลยสิพี่” ลูกดิ่งเดินกลับออกมานั่งเก้าอี้หน้าคอมฯ
หันมาคุยกับพี่ที่สวมเสื้อยืดคอปกแขนสั้นเรียบร้อยแล้ว
“เป็นเรื่องปกติ สโมสรใหญ่เขามีสวัสดิการให้ทุกที่ สวัสดิการเหล่านี้นักแตะล้วนได้สิทธิ
ไม่งั้นเขาจะอยากมาเล่นให้เหรอ” พี่ชี้แจง พร้อมกับถือกางเกงยีนส์เดินหายเข้าห้องน้ำ ไม่ยอมเปลี่ยนต่อหน้าน้อง
แค่สายตาจ้องแป๋วมองตอนพี่เปลือยอก ก็เล่นเอาคนโดนจ้องร้อนวูบวาบแล้ว
ขืนยังจ้องเขาแบบนั้นอีก เดี๋ยวคงไม่ต้องไปกันพอดี..
“เราจะไปอยู่ห้องพี่เกรียงก่อนก็ได้นะ” โยโย่บอกน้อง ไม่อยากให้ลูกดิ่งหง่าวอยู่ลำพังคนเดียวในห้อง
“ไม่ดีกว่าครับ พี่เกรียง พี่ยุทธน่าจะอยากหลับพักผ่อน ผมอยู่ห้องดีกว่า ถ้าพี่อนุญาตให้ผมใช้คอมฯ ก็คงดี
ได้หรือเปล่าครับ” น้องถามพร้อมกับลุ้นรอคำตอบไปด้วย พี่หยุดคิดชั่วครู่ ก่อนเอ่ยอนุญาต
“อืม..” หยิบกระเป๋าตังค์ โทรศัพท์ กุญแจรถเสร็จเดินออกประตูห้อง มีน้องตามหลังต้อยๆ
กระทั่งพี่สวมรองเท้าเสร็จ น้องยังยืนมองที่เดิมไม่เลิก พี่อดไม่ได้สบตาตรงๆ
“มีอะไรหรือเปล่า” ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ทนเห็นท่าทางเหมือนเด็กถูกทิ้งของน้องแล้วใจโหวงแปลกๆ
นี่เขาปล่อยให้พื้นที่ส่วนตัวโดนรุกล้ำมากไปไหม
“เปล่าครับ..ขับรถระวังด้วยนะครับ” น้องเตือนด้วยรอยยิ้ม รุ่นพี่ตัวโตถึงกับชะงัก ลูกดิ่งไม่คิดว่าจะเป็นไปได้
รอยยิ้มที่จัดว่าหล่อในสามโลกก็เผยจากคนหน้าเข้มที่มักหน้านิ่ง ฟันขาวเรียงตัวสวยเล่นเอาลูกดิ่งตาค้าง ก่อนพี่จะขานรับในคอ
“อืม..ขอบใจ” คำขอบคุณครั้งที่สองในรอบวัน ลูกดิ่งหัวใจพองโต ยิ้มให้พี่ซะแก้มตุ่ย
พี่รีบหันหลังเปิดประตูก้าวออกไปให้ไว ขืนทนอยู่ดูหน้ากันนาน พานไม่อยากไปดื้อๆ
‘บ้าชะมัด..ห้ามไปยิ้มให้ใครพร่ำเพรื่อนะเรา’ ที่บ่นไปด้วยนั้น คือการออกคำสั่งโดยที่คนรับคำสั่งไม่ได้รู้เรื่องด้วยเลย
แค่เขานึกหวงรอยยิ้มใสซื่อ ดวงตาเหมือนเด็กของรุ่นน้องก็เท่านั้นเอง...
มาลงแล้วนะคะ เจออีกทีวันอังคารค่ะ
ดีใจสุดๆ ที่ทุกคนอ้าแขนรับ กอดพี่โย่กับน้องดิ่งไว้เต็มรัก
รับปากจะไม่ทิ้งช่วงนานค่ะ จะมาอัพให้สม่ำเสมอ
สุดท้ายไปดูรูป ตัวล่ำๆ อย่างหล่อ ขนเยอะของพี่โย่กันดีกว่า
แทนการขอบคุณเป็นของแถม
Thanks.
