ตอนที่ 21 รู้สึกมือผมมีเหงื่อมากมายแม้จะนั่งในโรงหนังที่เย็นสุดๆ ก็วันนี้ละครับ หนังยิงกันกูไม่รู้เรื่องเป็นครั้งแรก เพราะมัวเขินมือที่คอยกุมกันตลอด ทั้งๆที่เคยทำกันมาแล้ว อาจเพราะมันจูบผมมั้ง.. ตอนนี้หน้าก็เลยแดงเหมือนสาวแรกรุ่นเพิ่งมีความรักทั้งๆที่มันก็ไม่ใช่ เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้นตลอดเวลา ไอ้ฮิมมันคงรู้ครับ แค่ไม่พูดเพราะนั่งข้างกัน มือถือสั่นขนาดนั้นมันจะไม่รู้ได้ไง
“ สั่นอยู่ได้ ทำไมมึงไม่ปิดสั่นว่ะ "
“ เหมือนที่มึงเคยแอบตั้งให้กูใช่มั๊ย "
“ ใช่ " ไอ้หน้าด้านนี่ก็ตอบกูหน้าตายเฉยเลยเว้ย ก็ไม่ใช่พี่เทมนี่หว่า แต่ทำไมผมต้องรู้สึกว่าให้มันเป็นพี่เทมซะยังจะดีกว่าว่ะ ผมมองมัน แต่มันกลับหันไปทางอื่น ภาพของผู้หญิงผมยาวที่กำลังยิ้มสู้กล้องเป็นภาพโทรเข้าที่ผมตั้งไว้เองครับ ' เบลล์ '
“ ว่าไงมึง "
“ กูโทรไปเป็นร้อยสายทำไมมึงไม่รับ ขี้อยู่เหรอ "
“ พ่อมึงสิ กูดูหนัง "
“ นอกใจกูเหรอ หยุ่น อยากตายเหรอ " มันพ่นสันดานของมันออกมาครับ ทำไมพอเป็นแบบนี้ทีไร ผมต้องยิ้มทุกทีด้วยก็ไม่รู้
“ หึหึ มึงนี่นะ "
“ กูให้อิสระเข้าหน่อยชัก ได้ใจนะ ไปดูหนังกับใคร "
“ กูมาดูหนังกับเพื่อน "
“ พรุ่งนี้นะ "
“ เออ กูไม่ลืมหรอกน่า เดี๋ยวกูไปรับเลยก็ได้ " ผมบอกปลายสาย ปกติวันเสาร์ เบลล์จะมานอนกับผมครับ ตามประสาแฟนกันพอวันอาทิย์ก็กลับไปรังสิต เบลล์เรียนม.รัฐชื่อดังแถวๆนู้นครับ ศิลปกรรมพัตราภรณ์
จริงๆจะว่าไปเราก็เป็นแฟนที่คบกันได้มายาวนานที่สุดเลยก็ว่าได้ ก่อนหน้านี้ผมมีแฟนรักเลิกๆ แต่กับเบลล์ กลับนานที่สุด อาจเพราะเบลล์รู้ใจผมมากกว่าใคร แบบชนิดที่มองตายังรู้เลยครับ เราสนิทกันมากเพราะบ้านอยู่ติดกัน ผมรู้ว่ามันเป็นคนแบบไหนดีกว่าใคร เราไม่เคยทะเลาะกันแม้ผมจะไม่โทรไปหามันเลยเป็นเดือนๆ เป็นแฟนที่ควบฐานะเพื่อนสนิทที่สุดเลยก็ว่าได้
“ หือออ ไม่ต้องอะ ลำบากกูต้องมาบอกทางมึงอีก ว่าต้องรอที่ไหน มึงนอนตีพุงอยู่บ้านเถอะ เดี๋ยวกูไปหาเอง แค่ลงมารับกูให้มันเร็วๆ หน่อยก็พอ แค่นี้นะ "
“ เออ เจอกัน "
“ สวัสดีค่ะ " มันจะวางสายด้วยคำแบบนี้ทุกครั้ง ผมหันมองไอ้ฮิมที่ยกยิ้มมองผม มันเองก็คงรู้ ไอ้เชี้ยปอเชี้ยเชน ก็คงจะเล่ามันแล้ว
“ พรุ่งนี้มึงก็ไม่เหงาแล้วสิ ไม่เหมือนกู " คิดเข้าข้างตัวเองได้มั๊ยครับ ว่ามันงอน
“ อะไรของมึง กูอยากไปไอสตูดิโอว่ะ " คุณได้สิทธินั้นเดี๋ยวนี้ครับ จริงๆผมมีของที่จะซื้อแล้วละ ขอเงินแม่มาพร้อมแต่ติดที่ยังไม่ซื้อ วันนี้มาแล้วก็จัดมันสักหน่อย ได้เม้าส์ปากกาอันใหม่มาครับ อันเก่าผมทำน้ำหกไป สามสิบรอบเยินเหมือนโดนหมาฟัด วาดรูปทีนี่ติดๆขัดๆ ลายเส้นไม่ค่อยสวย
“ เป็นไรว่ะ เงียบๆ " ผมถามมันระหว่างเรารอจ่ายเงิน คนเยอะแต่ไอ้นี่ ยิ่งหงุดหงิดกว่า มันเหมือนคนที่คิดอะไรบางอย่างอยู่ตลอดเวลา ถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนตอนนี้เดินออกมาจากร้านมันก็ยัง หงุดหงิดไม่หาย
“ พรุ่งนี้มานอนคอนโดกูได้ป่ะ "
“ ไม่ได้ " ตอบออกทันที ผมรู้ว่ามันหมายถึงอะไร แล้วทำไมมันถึงเป็นแบบนี้
“ กูบอกมึงนานแล้วนี่หว่า ว่ากูมีแฟนแล้ว " เห็นมันพยักหน้าแต่ก็หันไปทางอื่นอยู่ดี เหมือนเด็กผู้หญิงขี้งอนเลยครับ มองแล้วก็ดูน่ารักดีหรอก ถ้าไม่ติดว่าตัวมันใหญ่ๆนะ หรือมันตุ๊ดแตกว่ะ
“ คบกันนานแล้วเหรอว่ะ "
“ ก็สัก กี่ปีว่ะ " ผมทำท่าคิดนานจนมันผลักหัวเบาๆ " ทำไมว่ะ "
“ นี่ถ้าแฟนมึงมาได้ยิน คงตบหน้ามึงแล้วละ สัด แค่นี้ก็ไม่จำ "
“ ไม่มีทางไอ้เบลล์ไม่ใช่คนแบบนั้น " ผมมั่นใจเลยครับ บางทีเเม่งเองก็คงลืมไปแล้วด้วยซ้ำ วันเดียวที่เเม่งจำได้คือ วันเกิดผมนี่ละครับ เดทแรก หรือคบกันวันแรกนี่ ไม่มีหรอกครับ ไม่เคยจำ
“ เหอะ "
“ สัก ห้าปีมั้ง ประมาณนั้นอะมึง ปีนี้ก็เข้าปีที่หก "
“ นานแล้ว "
“ ก็ตั้งแต่ม.สอง "
“ ไอ้เชนเล่ากูว่า มึงกับแฟนมึงเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆ "
“ อ่าใช่ " ผมตอบก่อนจะหันไปดูร้านกาแฟนางเงือกสีเขียวที่ไอ้ฮิมชอบกิน หันมองหน้ามัน " มึง "
“ จะกิน " พยักหน้าเป็นคำตอบ " แปปนึง มึงแดกวิปปิ้งป่ะว่ะ "
“ แดกดิ " ของโปรดกูเลยละครับ
พนักสุภาพตั้งแต่เคยไปยืนต่อคิวซื้อกาแฟมาเลยครับ เห็นมันกินมอคค่าปั่นครับ ส่วนผมก็เป็นชาเขียวมันสั่งให้ แอบมีความสุขลึกๆจนต้องยิ้มออกมา มันมองมาก็คงรู้เห็นส่ายหน้าไปมา น้ำมาเสริ์ฟเรียบร้อย ไอ้ฮิมเป็นลูกค้าที่ซื้อบ่อยครับเพราะใต้คอนโดมันก็มี มีบัตรเติมเงินเอาไว้แดกโดยเฉพาะเลยด้วย
“ มึงชอบมั๊ย "
“ อร่อยยยย " ผมบอกมันที่ก้มหน้าดูดของตัวเอง แอบจิ๊กมากินคำนึง แต่ผมไม่ชอบกินอะไรขมๆครับ คืนเเม่งทันที นั่งกินกันไปสักพัก ผมก็เหลือบไปเห็นบลูเบอรรี่ชีสเค้กครับ ตาวาวขึ้นมาทันที หยิบกระเป๋าเงินยื่นตังค์ให้มันสองร้อยครับ
“ อะไร "
“ ซื้อเค้กให้กูหน่อย "
“ ไปเองดิ "
“ เชี้ย มึงเลวว่ะ " มันส่ายหน้าแบะปาก ผมหันไปมองหน้าเค้าเตอร์ที่คนอย่างเยอะครับ แบบทุกคนเหมือนจะรู้แล้วว่าต้องกินอะไร สั่งแบบไหน พนักงานก็ลั้นล๊าเกิ๊นน ถามมาทีกูไปไม่เป็นไรเลย แล้วถ้ากูตอบไม่ได้ละ ..
“ หัดดิว่ะ คนเราก็ต้องมีครั้งแรก "
“ กูไม่กินก็ได้ว่ะ " นั่นละครับ นิสัยผมกูยอมไม่กินดีกว่า ถ้าจะให้กูทำอะไรถ้ากูขายหน้า คนอย่างผมก็ยอมอดตายครับ เหอะๆ
“ จริงๆเลยมึง " ไม่เกินสามวิที่ผมถอดใจไม่กิน มันก็เป็นคนยอมเดินออกไปซื้อมาให้ผมครับ บลูเบอร์รี่ชีสเค้กของผม แถมมาด้วยสตอเบอร์รี่ชีสเค้ก น่าอร่อยที่สุดครับ กูปลื้มมมม
“ ขอบใจ " ยิ้มกว้างๆให้มันเลยครับ ได้ยินแต่เสียงถอนหายใจของมัน
“ กูอยากรู้ว่าแฟนมึงทนมึงได้ไงว่ะ ตั้งหลายปี ทำเชี้ยอะไรไม่ได้เลย "
“ กูทำได้อย่างนึงนะ " ผมยักคิ้วบอกมัน เลยโดนตบหัวไปแรงๆเลยครับ
“ กูก็ทำได้ ทำให้มึงยังได้เลย ได้หลายท่าด้วยนะ "
“ โอ๊ยเชี่ยยย เค้กอร่อยว่ะ " เปลี่ยนเรื่องๆ เชี้ยอะไรของมึง ขนลุก หน้าตามึงนี่ก็เจ้าเล่ห์ได้อีก จะสูบกูเข้าไปรึไงว่ะ สัด
“ หึหึ กูก็นึกว่าแน่ "
“ พ่อมึงสิ "
“ เล่ากูมา "
“ เล่าเชี้ยไร "
“ เรื่องมึงกับเบลล์ "
“ มึงเป็นอะไรกับกูทำไมกูต้องเล่า " ผมชักสีหน้าหาเรื่อง แต่ไอ้ห่านี่ก็ยังยกยิ้มได้อีก สัด อยากต่อยเม่ง
“ ว่าที่ผัวมึงในอนาคต " มันก้มลงมาบอกผมชิดริมหู ปลายลิ้นเลียเบาๆที่ขอบหูจนผมต้องสะดุ้งออกห่าง
“ ไอ้สัดฮิม! ”
“ ทีนี้ มึงเล่ากูได้ยัง "
“ เชี้ยยย " แต่กูก็เล่า " เบลล์เป็นเพื่อนกูมาตั้งแต่กูเด็กๆแล้ว บ้านเราอยู่ใกล้กัน เรียนโรงเรียนเดียวกันมาตลอด แต่กูจำไม่ได้แล้วว่ากูขอคบมันยังไง กูว่านะ กูคบกับมันได้นานๆก็เพราะว่า มันเป็นเพื่อนกูด้วยละ รู้ใจกูทุกอย่าง มองตากันยังเข้าใจอะ "
“ ทำไมไอ้ปอบอกกูว่า เบลล์เหมือนแม่มึงว่ะ "
“ เออก็ยุ่งกูทุกเรื่องอะ ยิ่งกว่าแม่กูอีก แล้วมึงจะถามทำไมว่ะ ถ้าถามจากไอ้เหี้ยสองตัวมาแล้ว บ้าเปล่าว่ะ "
“ กูอยากฟังจากปากมึง "
“ แล้วเป็นไง ต่างกันมั๊ยละสัด "
“ ต่าง เพราะเวลากูฟัง จากปากมึง กูจะรู้ว่ามึงคิดยังไงกับเบลล์ "
“ กูรักเบลล์ " เหมือนเสี้ยวนึงที่หน้ามันจะวูบลง
“ ตอแหล "
“ เรื่องมึง จะคิดเหี้ยอะไรก็เรื่องของมึง " ผมว่าก่อนจะหันไปอีกทาง ข้างๆร้านกาแฟที่เรานั่งเป็นร้านอาหารครับ " หิวว่ะ "
“ มึงหยุดแดกบ้างได้เปล่าว่ะ ตัวมึงแค่นี้เอาไปไหนหมด "
“ อยากกินส้มตำว่ะ " เห็นมันลุกผมก็ตกใจครับ เอากระเป๋ากับโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงเรียบร้อย " มึงจะไปไหนว่ะ "
“ แดกส้มตำ "
“ ก็มึงตามใจกูตลอดเถอะกูเลยเสียคน " เห็นมั๊ยครับ ผมไม่ผิดสักหน่อย แล้วมาว่ากูแดกเยอะ มึงก็หิวเถอะ ทำเก็ก
ร้านที่เรานั่งกินเป็นร้านหน้าเซ็นทรัลเวิลล์ครับ คนเยอะต่อคิวกันแทบไม่มีโต๊ะว่าง ไทยจีนแขกฝรั่ง แม้มันจะไม่โอเคเรื่องความสะอาดแต่ อาหารแบบนี้ต้องกินถิ่นที่แบบนี้เหละครับ มันถึงจะอร่อย ได้โต๊ะในสุดก็เริ่มสั่งเลยครับ ห้าหกอย่างแบบไม่มีกั๊ก อยากเลี้ยงมันครับให้มันสั่งของมันตามสบาย
“ ว่าไง " มันยกสายโทรศัพท์ของมันขึ้นมาพูดครับ ท่าทางที่เหลือบมองผมทำเอาอยากเสือกขึ้นมาตงิดๆ " อยู่เซ็นเวิลล์ มากับเพื่อน กินส้มตำอยู่ เออ แล้วแต่เถอะ ดูแลตัวเองละกัน ครับ รักเหมือนกัน อื้อ "
“ ใครโทรมาว่ะ " ไม่รู้อะไรสั่งให้ผมถามออกไปครับ รีบยกมือขึ้นตะครุบปากตัวเองก่อนที่มันจะยกยิ้ม " เเม่ง ช้าว่ะ "
“ ปากแข็ง "
“ อะไรของมึง " มันแบะปากใส่ผมครับ เลยโดนผมเควี้ยงน้ำแข็งใส่หน้า แต่มันก็ยังหัวเราะไม่หยุดปาก
“ น้องกูโทรมา "
“ ก็เรื่องของมึงดิว่ะ บอกกูทำไม "
“ ก็เผื่อมึงอยากรู้ แต่ถ้าไม่อยากรู้ก็ลืมๆไปเถอะ ไอ้เฮอร์แค่โทรมาบอกกูว่าจะไม่กลับบ้าน "
“ น้องมึงนี่ใจแตกเปล่าว่ะ ฮ่าๆ โอ๊ยเชี่ยย " เท่านั้นละครับ แทบจะมาทั้งถังน้ำแข็ง หน้าตามันหงุดงหิดตลอดเวลาพูดถึงน้องสาวสาวมันครับ
ผมถามพี่เต๋อ แกบอกว่าไอ้ฮิมมันดูแลน้องเฮอร์มาตั้งแต่มันอยู่แค่ม.สามครับตอนนั้นน้องเฮอร์ก็ยังเด็กเพิ่งขึ้นป.5 พ่อแม่มันต้องไปทำงานต่างประเทศมันเลย เลี้ยงน้องคนเดียวมาตลอด มันทำได้ทุกอย่างครับ แบบที่คนเป็นแม่เค้าทำได้ เย็บผ้า ซักผ้า ถักเปีย ทำกับข้าว ผมว่าเพราะมันดูแลน้องมันมาตลอด พอมาเจอผมคนที่ทำอะไรไม่เป็นมันก็เลยดูแลให้ มันก็คงชินๆของมัน
“ พรุ่งนี้มึงนัดเบลล์กี่โมง "
“ ไม่รู้ว่ะ มันมามันก็โทรมาเองอะ "
“ มึงสนใจแฟนมึงดีว่ะ " มันหัวเราะ ท่าทางตลอดเวลาที่มันถามเรื่องเบลล์ ท่าทางมันเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตลอด บางทีก็ดีบางทีก็แย่ แต่ที่แน่ๆ ผมว่ามันคงไม่คิดหรอกครับ ว่าผมจะจริงจังกับเบลล์
“ กูรักมากเหอะ สวยด้วย มึงอย่าแย่งเมียกูแล้วกัน "
“ กูไม่แย่งหรอกเมียมึงอะ แต่แย่งมึงอะ ไม่แน่ "
“ สัด " สถบพอประมาณเพราะอาหารเริ่มเต็มโต๊ะ อร่อยจนไม่มีใครพูดกับใครครับ กินกันอย่างเดียวก้มหน้าก้มตาเหมือนใครจะแย่ง มันชวนผมพูดเป็นระยะ แต่ผมไม่ค่อยสนหรอกครับ อาหารอร่อยขนาดนี้กูแดกดีกว่าฟังมึงพูด
“ อร่อยว่ะ " เคี้ยวหมากฝรั่งที่มันเอามาให้แล้วยิ่งสบายใจเดินออกจากร้านไปในทางแคบๆ ผมรู้สึกยิ่งกว่าดีครับ ช่วงเวลาแบบนี้ ชอบที่สุดก็มีคนตามใจ ไปไหนไปด้วยกันตลอด
“ อะไรบ้างว่ะ ที่มึงแดกแล้วไม่อร่อย " มันผลักหัวผมจนเซอะครับ
“ ไม่มีว่ะ ดีว่ะที่กูได้อยู่กับมึง "
“ เหรอ " มันหันมาจ้องหน้าผมที่เพิ่งรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป มือมันเอื้อมมากอดคอแล้วล๊อคเอาไว้แน่น กูละเกลียดรอยยิ้มของมึงจริงๆเลย มึงจะสุขมากไปแล้วนะสัด
“ คืนนี้นอนเป็นเพื่อนหน่อยดิว่ะ "
“ กูนัดเบลล์ไว้ " จริงๆคือขี้เกียจอาบน้ำแต่งตัวจากคอนโดมันกลับหอเช้าๆครับ กับเบลล์ผมไม่ซีเรียสไม่อาบน้ำมาสามวันก็ยังโอเคอะ
“ ก็แล้วแต่มึง "
รถไฟฟ้าวันนี้คนเยอะมากจากสถานีสยามครับ พอมาถึงชิดลมก็ดันไม่มีใครลงอีก ผมเลยต้องเบียดคนเข้าไปในตัวรถ เม่งยัดกันเหมือนจะผัวเมีย ไอ้ผมที่เตี้ยอยู่แล้วนี่แทบไม่ต้องพูดถึงครับ ที่เกาะก็ไม่มี สัดเอ้ย ไอ้ฮิมดันตัวเข้ามาอยู่กลางโบกี้เลยครับ ผมอยู่ใต้แขนมันที่ยาวพอไปจับเสาตรงกลางได้
“ กางขาออกกว้างๆ " มันกระซิบบอกผมจากด้านหลังครับ เจตนาของมันคือถ้ายืนแบบกางขาเราจะยืนได้ถนัดกว่าขาเราชิดกันครับ แต่ขอโทษเถอะ คำพูดมึงเม่งส่อได้อีกครับไอ้เชี้ย
รถบีทีเอสมันวิ่งเป็นเส้นตรงของมันก็จริงครับ แต่มันก็ส่ายไปมา ผมหันหลังให้ไอ้ฮิมที่ยืนอยู่ด้านหลังผม ไม่รู้คิดไปเองหรือว่ามันไม่ตั้งใจ ผมว่า น้องชายของมันเสียดสีตูดผมอยู่นะ แต่จะให้ผมพูดอะไรครับ รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องน้องของผมมันก็เริ่มออกฤทธิ์ เล่นมาถูกกูแบบไม่ตั้งใจก็ยิ่งรู้สึกได้อารมณ์ เก็บกั้นความรู้สึกของตัวเองเอาไว้.. ท่อง สองสามคำ ผู้ชายครับ ผู้ชาย ผู้ชาย
กลืนน้ำลายคงคอเสียงดังไม่ต่างอะไรจากคนด้านหลังของผม เราคงรู้สึกไม่ต่างกัน คนเยอะขนาดนี้ กว่าจะผ่านสถานีหลักๆได้กูแทบตาย
“ ตกลงมึงไม่ไปเหรอ " เสียงมันอ่อยผมได้อีกครับ ผมออกห้างจากตัวมันมานานแล้วครับ ไอ้เชี้ยฮิมหน้าตากรุ่มกริ่มได้อีก หื่นสัด
“ ไม่ว่ะ พรุ่งนี้เบลล์มาหากู " ย้ำมันครับ ผมจงใจทำให้มันรู้เองละ ว่าผมมีแฟนแล้ว รวมทั้งตัวผมด้วยที่ต้องเตือนสติตัวเอง
“ อื้ออ " มันพยักหน้าเข้าใจ เสียงคนสวยของบีทีเอสประกาศว่าสถานีหน้าเป็นเอกมัยครับ เห็นมันหันหน้าไปรอที่ประตูแบบเซงๆ อดขำไม่ได้เลยครับ ท่าทางมันเหมือนเด็กตัวเล็กๆที่อยากจะกินไอติมแต่ไม่อยากกวนใจให้แม่ซื้อให้ หน้างออยู่คนเดียว
“ เจอกัน " ยกมือลากันมันก็เดินออกจากสถานี ผุดยิ้มออกมาทุกอย่างสั่งให้หยุดแค่นั้นรู้สึกถึงสัมผัสเมื่อกี้ที่ช่วงก้น แต่ขาเร็วกว่าเพราะตอนนี้ขาผมมันก้าวออกจากโบกี้บีทีเอสไปแล้วครับ
.............................................................
“ เชี้ยฮิม! ” ผมหันไปมองต้นเสียงที่เรียกผมทันทีเลยครับ เหมือนว่าผมเองก็กำลังรอมันอยู่เหมือนกัน สายตาไอ้หยุ่นเป็นอะไรที่ดูง่ายมันคิดอะไรสายตาของมันบอกหมดทุกอย่าง ภาพที่ผมเห็นเป็นอะไรที่ทำให้ผมใจเต้นแรง มันกำลังยิ้ม ยิ้มหวานๆให้ผม แล้ววิ่งตรงมา หยุดอยู่ตรงหน้าแล้วหายใจแรงๆ เพราะมันขาวมากปลายจมูกมันเลยแดง ยิ่งดูก็ยิ่งน่ารัก
ไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลยว่า จะกลายเป็นคนที่ยิ้มเก่งขนาดนี้ เป็นแบบนี้ตั้งแต่ทุกเวลาที่อยู่กับมัน ทำให้อยากจะยิ้มออกมากว้างๆจริงๆ น่าแปลกตรงที่ว่า อยากจะจูบปากสวยๆของมันทั้งๆที่นั่นก็คือผู้ชาย ไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใคร แต่แปลกที่รู้สึกกับมัน
เมื่อกี้บนรถไฟฟ้ามันคงไม่ตั้งใจ แต่บางทีก็อยากจะให้มัน ช่วยรับผิดชอบ
“ อะไร "
“ ง่วงว่ะ " ทำหน้าตาง่วงๆเหมือนกูจะเชื่อ แล้วก็เดินมายืนข้างผม ยิ้มกว้างออกมาทันทีอย่างห้ามไม่อยู่ อยากจะคว้ามันเข้ามาจูบแต่คนที่นี่เยอะเกินไป คว้ามือมันไว้แน่นแล้วเดินเร็วออกจากสถานีเข้าคอนโด ลิฟท์ที่ไม่มีคน เลยทำให้ผมกับมันต่างก็ไม่มีใครยอมกัน
ผมพุ่งเข้าจูบกอดมันแน่น แต่มันเองก็คงรู้สึกแบบเดียวกับผมไม่ต่างกัน บนรถไฟฟ้ามันมากเกินกว่าที่เราจะไม่ยอมรับในสิ่งที่เราต้องการ เสียงดังจ๊วบจ๊าบก้องห้องสี่เหลี่ยมไปหมด ดึงตัวมันเข้ามาใกล้กอดแน่นกันอยู่แบบนั้น ลมหายใจเราละออกแล้วก็เริ่มกันใหม่ วนเวียนอยู่ในรสจูบเดิมๆจนถึงชั้นที่ต้องลง
รีบหากุญแจห้องแต่ยิ่งรีบก็เหมือนยิ่งรน ผมปล่อยมือมันที่เราเดินจูงกันมาเมื่อกี้ลงแล้วตั้งใจหา เห็นมันมายืนพิงข้างกำแพงแล้วหัวเราะผมอยู่หน่อยๆ
“ มึงไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ กูไม่หายไปไหนหรอกเชี้ย "
“ เสือก " ตอบมันแบบนั้นแต่ก็ยังลอยหน้าลายตาใส่ผมได้อีก
ประตูเปิดออกมือผมก็รีบดึงมันเข้าห้อง เห็นมันก้มหน้าแล้วรู้สึกขำ เมื่อกี้ยังปากดีปากเก่งอยู่เลย มือของผมประคองหน้ามันขึ้นมาจูบลงปากของมันเบาๆนวดแล้วค่อยแทรกลิ้นเข้าไป ทิ้งกระเป๋าทิ้งทุกอย่างลงตรงนั้น ดูดดื่มแค่สิ่งนี้ที่ต้องการเท่านั้น การตอบรับของมันเหมือนเด็กเล็ก ค่อยๆเป็นค่อยๆไปในแบบน่ารัก เงอะๆงะๆ ไม่เคยเจอ
สอดมือเข้าไปในเสื้อของมัน วันนี้มันใส่เสื้อยืดคอกว้างสีขาวกับกางเกงเดฟสีดำไม่ค่อยชอบเพราะคนจะมองมันเยอะ ก็ใส่แล้วดูน่ารัก แต่มันก็ชอบใส่เหลือเกิน ผิวของมันนิ่มอาจไม่เท่าผู้หญิงที่ดูแลตัวเองมากแบบที่ผมเจอแต่มันก็ดีเกินกว่า ถ้าเทียบกับผิวผู้ชายอย่างผมที่มีแต่รอยนู้นรอยนี่เต็มไปหมด ผิวไม่ได้เรียบอะไร
“ มึงจะทำอะไรว่ะ " มันถามตอนที่ผมกำลังจะถอดเสื้อมัน ก็บอกแล้วไงครับว่ามันเอ๋อจริงๆ นี่ถ้าเป็นคนทั่วไปเค้าคงไม่ต้องถามแล้วละ คล้อยตามกูขนาดนี้แล้ว ผมเคาะหน้าผากมันสองสามทีแล้วจูบเบาๆที่ขมับ ยิ้มแต่ไม่ตอบ
“ อะไรของมึง เชี้ยฮิม " มันจับเข็มขัดที่เอวตัวเองไว้แน่น ผมกลืนน้ำลายอีกครั้งพอเห็นรูปร่างจริงๆของมันตั้งแต่ครั้งแรกที่มันเมา ไอ้หยุ่นเป็นคนผอมครับ ผอมแบบผู้ชายที่ไม่มีเหี้ยอะไรเลย แต่ความขาวนี่สิ ไอ้เฮอร์ก็ไอ้เฮอร์เถอะครับ ผมว่าไอ้หยุ่นนี่ขาวกว่าอีก
“ ไม่เคยกับเบลล์เหรอว่ะ "
“ เหี้ยสิ อื้อออ " มันตบหัวผมที่กำลังจูบมันที่คอ หยุ่นมันหอมแบบเด็กๆ เพราะมันใช้ทุกอย่างในชีวิตเป็นของเด็กหมด แป้งแคร์ เจลอาบน้ำเด็ก ยาสระผมอะไรของมัน ผมโดนเควี้ยง สบู่เหลวแคร์ใส่หัวก็ตอนล้อมัน ไอ้เชนบอกว่ามันขี้แพ้ครับเกี่ยวกับตัวมันใช้เหี้ยอะไรเกี่ยวกับผู้ชาย มันแพ้ราบ ใช่ เดี๋ยวมึงก็ต้องแพ้กูด้วย
ถอดเสื้อมันออก ตามด้วยเข็มขัด กางเกงมันถอดโคตรยาก ไม่อยากเร่งกลัวมันได้สติแล้วดิ้นหนีผม ใช้ปากจูบดูดมันไปเรื่อยๆซอกคอ หัวนมของมัน ผลักให้มันล้มลงโซฟา จัดการกระชากกางเกงออกจากตัวมัน ออกมาทีเดียวกางเกงในก็ด้วย ส่วนตัวผมที่ยังอยู่ครบ
“ เชี้ยฮิม มึง เอาจริงๆเหรอว่ะ กูผู้ชายนะ " ทำไมรู้สึกเหมือนมันกำลังกลัว ผมละใบหน้าออกจากหัวนมของมัน จ้องมันอยู่แบบนั้น ไม่อยากจะบอกเลยว่าตอนนี้ น้องชายผมมันสุดจะทนอยู่แล้วทั้งๆที่ผมทำเพียงแค่จูบมันอยู่ก็เท่านั้น เราไม่ได้สัมผัสอะไรมากมาย แต่แค่กำลังจูบ แต่น้องกูนี่สิไม่เคยทรยศความต้องการของกูเลย เด้งได้เด้งดีตลอด
“ แล้วไง " ดึงมือมันไปจับตรงกลางของตัวผม ความต้องการที่ต้องระบายผมว่ามันรู้ดี เห็นมันนิ่งผมก็เริ่มถอดเสื้อและกางเกง รวดเร็วจนไม่อยากให้มันตั้งสติได้ จูบมันเบาๆตรงกลางอก ไล้ขึ้นด้านบนช้าๆ จูบมันไปเรื่อยๆ จนส่วนกลางของมันเริ่มแน่นและทนไม่ไหว มือมันคว้าคอผมเอาไว้ ในตอนที่ผมกัดเบาๆลงบนไหล่ กัดปากแน่น เหมือน อยาก แต่ก็ไม่อยากเพราะความกลัว
“ เชี้ยฮิม "
“ อะไรอีกว่ะ " ผมถามมันทั้งๆที่ตอนนี้จมูกผมก็เริ่มขบเม้มมันเบาๆ กลิ่บบางอย่างที่ผมไม่พึ่งจะอยากได้กลิ่น ทำเอาผมหัวเสียแต่ก็ไม่หยุดอยู่ตรงนั้น จนกว่าจะได้ยินเสียงนี้
“ คือ กูเจ็บขี้ว่ะ "
" มึงนี่มัน.... “ แล้วเมื่อกี้ก็กลิ่นตดมึงใช่มั๊ยครับ แสดดดดดด..................................................................
กลัวโดนตบ

ถอยทัพหนี ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
สะใจยังไงบอกไม่ถูก

เจอกันตอนหน้า ปั่นรัว

ใครเล่นทวิต แท็กให้ซะดีๆ รู้สึกยังไงกันหนออ
แท็ก #BTS #สถานีรัก
ให้ด้วยนะฮ้าาาาา