
กลับมาถึงบ้านได้คนนั้นก็กอดคนนี้ก็กอดให้สมกับความคิดถึง...ดูเหมือนว่าทุกคนในบ้านจะลุ้นว่าเมื่อไหร่เจ้านายน้อยจะกลับมาซักที เพราะรอบ ๆ ตัวมันดูเหงาไปกันหมด....เป็นหน้าที่มะปรางอีกที่เอาเสื้อผ้าไปให้แล้วก็ต้องไปเอาเสื้อผ้าน้องบีกลับ...แต่ดูเหมือนว่าตอนกลับจะเต็มใจมากกว่าตอนไป
“ยายสร้อยจ๋า น้องบีคิดถึงยายสร้อยกว่าใคร”
“ยายสร้อยก็คิดถึงน้องบีลูก...ไปอยู่บ้านนั้นได้กินขนมหรือของชอบรึเปล่าทูนหัวของป้า..” ปันณธรกับปัฐพีถึงกับมองหน้ากันแล้วอดที่จะยิ้มไม่ได้...ตกลงแล้วคนตัวเล็กนี่คิดถึงใครมากที่สุดกันแน่...เพราะใครเข้ามากอดก็คิดถึงคนนั้นกว่าใครทุกคนเลย....
บรืนนน!!
“รถพี่ภู...” ป้าสร้อยเดินเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมน้ำออกมาต้อนรับ หลังจากที่ดูเหมือนว่าจะมีแขกมา...เจ้าของบ้านคงจะมาดูเด็กหนีออกจากบ้านว่ากลับบ้านปลอดภัยแล้ว...
“สวัสดีครับคุณพ่อ”
“สวัสดี ๆ มาดูเด็กซนใช่ไหม” ปัฐพีถามเจ้าของบ้านที่อุตส่าห์ดูแลเด็กขี้งอนให้...ก่อนจะพยักหัวรับไหว้อีกคนที่เดินมาพร้อมกับ หน้าไม่คุ้นแต่ก็คงเป็นเพื่อนภูนรินทร์ล่ะมั้ง
“สวัสดีครับพี่ภู..สวัสดีครับพี่โอ”
“................” ทั้งคู่รับไหว้เพื่อนรุ่นน้อง...ก่อนจะส่งยิ้มให้เด็กหนุ่มที่ยกมือไหว้เหมือนกันแต่ไม่พูดอะไร ตากลมจ้องคนแปลกหน้าที่มากับพี่ภู....ก่อนจะหลบตาเดินไปนั่งกับคุณป๊าเมื่อคนแปลกหน้ามองกลับแล้วยิ้มให้...
“น่ารักจัง...ไม่น่าให้กลับเลย..”
“ใช่ไหมล่ะ แต่รู้สึกว่าพี่เขาจะหวงมาก เลยไม่กล้าเก็บไว้ให้โอดูก่อน” ดูเหมือนว่าจะตกเป็นเป้าสายตา...แต่เมื่อคนที่มาพร้อมกับพี่ภูยิ้มให้บ่อย ๆ ....ก็อุตส่าห์ยิ้มตอบให้อย่างน่ารัก...
“น้องบี นี่พี่โอเพื่อน พี่ภูไง...”
“พี่สาวสวยจัง”
“หือ..ฮ่าๆๆๆ..” ผู้ใหญ่ที่ยืนอยู่หันหน้ามองกันแล้วหัวเราะออกมา มีเพียงพี่สาวคนสวยที่หัวเราะไม่ออก ก่อนจะมองค้อนให้เพื่อนทั้งสองคน ....ปัฐพียกมือขึ้นขยี้กลุ่มผมนุ่มเบา ๆ ไม่ประสาจริง ๆ ก่อนจะลุกขึ้นออกไปด้านนอกเมื่อโทรศัพท์มือถือดัง...ช่วงนี้ต้องคุยงานบ่อยเพราะไม่ได้อยู่ดูแลเอง แต่พรุ่งนี้ก็ต้องกลับแล้ว....และก็หวังว่าลูกชายจะทำตามที่รับปากไว้ เขาจะได้ตายตาหลับซักที....
“น้องบีว่าใครเป็นพี่สาวครับ”
“พี่สาวพูดครับได้ยังไง...พี่นิชาของน้องบียังไม่พูดครับเลย..” อรเวศมองหน้าเด็กหนุ่มที่ไม่ตอบคำถาม ซ้ำยังตำหนิเขาอีก...ตากลมโตจ้องหน้าเขา ยังไม่รู้สินะว่าตัวเองน่ะเข้าใจผิด...
“พี่เป็นผู้ชายครับ...ไม่ใช่พี่สาว”
“...................” อ้าปากหวอเลย....ยังมีการหันไปขอความแน่ใจจากพี่อีกสองคนที่นั่งโซฟาฝั่งตรงข้าม....ปันณธรกับภูนรินทร์เลยต้องพยักหน้าคอนเฟริมให้เด็กเข้าใจผิด....
“ไม่แปลกหรอกน้องบี พี่ภูยังเคยเข้าใจผิดเลย..”
“ได้ทีเอาเชียว!” ภูนรินท์หันไปว่าเพื่อนรุ่นน้อง...เคยแล้วไง...แต่ถึงจะเข้าใจถูก...ความรู้สึกเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจากตอนที่เข้าใจผิดเลยนี่นา...
“พี่จ๋า...อย่าว่าน้องบี..เดี๋ยวน้องบีพาไปจับผีเสื้อแล้วก็เก็บดอกไม้..”
“จริงเหรอ...ไม่ว่าแล้ว...”
“..............” หาเพื่อนเล่นใหม่จนได้....น้องบีจะพาไปจับผีเสื้อ..เก็บดอกไม้ ทำสิ่งที่ตัวเองชอบทั้งนั้น...
“...แต่ไม่จับผีเสื้อดีกว่า...มันเจ็บ..บินไม่ได้...เก็บแค่ดอกไม้ก็พอ...”
“ไปเก็บที่สวนพี่ภูดีไหม”
“ถามเจ้าปันมันก่อนเถอะโอ มันพึ่งไปง้อกลับมาได้วันนี้เอง”
“พี่โอจ๋า...เก็บที่นี่น้า...น้องบีคิดถึงดอกไม้ที่นี่...ที่สวนพี่ภูไม่มีดอกไม้” นั่นน่ะสิ ที่สวนนั่นไม่มีดอกไม้เยอะแยะเหมือนที่นี่ แสดงว่าอยู่ที่นั่นก็อยากจะเก็บดอกไม้ใจจะขาด แล้วหาดอกไม้ไม่เจอแน่ ๆ
“ตกลงจะกลับสวนไหมเนี่ย”
“ภูกลับไปก่อนสิ โอขอเล่นกับน้องบีก่อน”
“รู้งี้ไม่พาแวะหรอก”
“บ่นอะไร”
“เปล่า ไม่มีอะไร อยู่ที่นี่ก่อนก็ได้ เจ้าของไร่คงไม่ว่ามั้ง” ปัฐพีรีบปฏิเสธ เพื่อน...คนสนิท...ก่อนจะออกความคิดเห็นว่าอยู่นี่คงไม่รบกวนมากไป...อุตส่าห์ไปรับกลับมาจากบ้านเพื่อนเพราะเขาก็ตกอยู่ในสถานะเดียวกับปันณธร ง้อตั้งนานกว่าจะกลับมาด้วยกัน เรื่องอะไรจะทิ้งไว้นี่ล่ะ
“ทานข้าวกันซักมื้อก็ได้พี่ แล้วค่อยกลับ จะดีใจมากว่าต่อข้าวเย็นด้วย...”
“เอาเที่ยงก็พอมั้ง”
“อยากเย็นกันสองคนว่างั้น”
“เห้ย! อย่ามารู้ดี....ของมันแน่อยู่แล้ว..” ไม่มีความลับระหว่างเจ้าของสวนผลไม้ และเจ้าของไร่ดอกไม้...รู้ใจกันแทบจะทุกเรื่อง....แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า....คนน่ารักกับคนสวยจะเข้ากันได้ดี...จนจะลืมพวกเขาไปแล้ว...
...ส่วนเอ็มม่าลงทุนโทรฟ้องพ่อตัวเอง กลับกลายเป็นว่าถูกตำหนิเพราะการที่เธอมาที่นี่ทางฝ่ายคุณภัทรไม่รู้ว่าลูกสาวจะมานอนอ้างค้างแรมที่บ้านฝ่ายชาย..ไม่สงวนท่าที และโทรมาขอโทษขอโพยฝ่ายนี้...ปัฐพีเลยพูดคุยให้เรียบร้อยจะได้ไม่ผิดใจกันเองระหว่างผู้ใหญ่....เอ็มม่าเลยต้องกลับภายในวันนั้น ไม่อย่างนั้นคุณภัทรคงต้องส่งคนมารับเอง....ทำให้เธออยากจะร้องไห้ เพราะแม้กระทั่งตอนจะกลับ ยังไม่มีใครสนใจเธอเลยซักคน
*******************************************
เสียงวิ่งลงบันไดของใครบางคนของเช้านี้ ทำให้ป้าสร้อยต้องชะเง้อคอออกจากครัว....เมื่อเห็นต้นตอก็ได้แต่ยิ้ม...เด็กอะไรความจำดีจริงๆ เวลานี้เจ้าของไร่ยังไม่ตื่นด้วยซ้ำไป...และเวลานัดก็ 9 โมงเช้านี่น่า...
“น้องบี กินนมก่อนค่ะ...คุณพี่ทั้งสองคนยังมาไม่ถึงเลย...ทำไมรีบตื่นนักล่ะคะ”
“น้องบีมารอพี่เอกับพี่นิชา เวลามาถึงน้องบีจะได้เห็นคนแรกไง”
“ค่ะ ตามใจ...ซักพักคุณปันคงจะลงมาแล้ว...”
“..................” ส่งยิ้มน่ารักให้ยายสร้อย ก็วันนี้เป็นวันที่น้องบีรอมาตั้งนานแล้ว....น้องบีคิดถึงพี่เอกับพี่นิชาจะแย่อยู่แล้ว....เมื่อคืนน้องบีตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ...อยากให้เช้าเร็วๆ
“เมื่อวานคุณป๊าโทรหาหาน่ะค่ะ แต่น้องบีไม่อยู่”
“น้องบีก็คิดถึงคุณป๊า...แต่คุณป๊างานยุ่ง” น้องบีได้คุยแล้ว...พี่ปันปันโทรหาคุณป๊าก่อนนอนให้น้องบีคุยด้วย...คุณป๊ากลับไปตั้งนาน...แล้วก็งานยุ่ง เลยมาหาน้องบีไม่ได้....
“งั้นยายสร้อยไปทำกับข้าวไว้รอคุณพี่นะคะ น้องบีอยู่คนเดียวนะ...เอ้า นั่นไงคุณปันมาพอดี...”
“พี่ปันปันจ๋า น้องบีอยู่นี่”
“รู้แล้ว ตื่นแต่เช้าเชียว...ผมขอกาแฟเย็นนะครับป้าสร้อย”
“ได้ค่ะ” ป้าสร้อยเดินเข้าไปในครัว ปล่อยให้สองพี่น้องนั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน...อากาศเช้าๆ สดชื่นทำให้คนตื่นเช้าอารมณ์ดีไปด้วย....วันนี้คงจะเป็นอีกวันของคนตัวเล็กที่เป็นที่รักของใครๆ มีความสุขที่สุดอีกวัน...
หัวใจของคนรอพองโต และเต้นแรงไปหมด....เมื่อเวลาของการรอคอยสิ้นสุดลง...รถคันคุ้นตาของที่ไร่ ที่ปันณธรส่งให้ไปรับคนสองคนกำลังเลี้ยวเข้ามา....คนที่นั่งอยู่ลุกขึ้นยืนพร้อมกับวิ่งเข้าไปที่รถทันทีที่รถจอด...
“น้องบี!!”
“พี่เอจ๋า! พี่เอจ๋า น้องบีคิดถึงที่สุด!!” โผกอดพี่ชายทันทีที่อีกคนเปิดประตูรถแล้วก้าวลงมา....ดูเหมือนว่ากลิ่นไอของความคิดถึงอบอวลไปทั่วบริเวณ....พี่ชายโอบกอดคนที่วิ่งไปรับแน่น จมูกโด่งกดลงที่กลุ่มผม และแก้มนุ่มไปมาอยู่อย่างนั้นให้สมกับที่รักและคิดถึงอย่างที่สุด...
“คิดถึงพี่ไหมคนดี”
“ฮึก น้องบี คิด ฮึก ถึง!” คนดีใจน้ำตารื้นขึ้นมา...ก่อนจะเบะปากเหมือนจะร้องไห้...ทำให้คนมองเห็นอดที่จะตื้นตันไปด้วยไม่ได้...
“น้องบีจ๋า”
“พี่นิชาจ๋า!!” ออกจากอ้อมกอดของพี่ชายก่อนจะโผกอดพี่สาวที่น้องบีก็รักไม่แพ้พี่เอเลย...คิดถึงอ้อมกอดนุ่ม ๆ อุ่น ๆ ของพี่นิชาที่สุด
“ เป็น เด็ก ดีไหมคะ คนดี”
“ น้อง บีเป็นเด็ก ดี” ความดีใจและสุขล้นของคนที่ห่างกันทำให้พี่สาวคนสวยพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ...คิดถึงมากเหลือเกิน...ห่วงสารพัดว่าเป็นยังไงบ้าง อยู่ได้ กินได้รึเปล่า ถึงแม้หมอเอจะบอกเธอว่าไม่ต้องห่วง แต่ก็ยังอดกังวลไม่ได้...
“ดีแล้ว พี่นิชามีของมาฝากน้องบีเยอะเลย..”
“ว่าไงเพื่อนรัก”
“ขอบใจมาก..ขอบใจที่สุด” เพื่อนรักสองคนโอบกอดทักทายกัน แล้วหันมองสองคนที่ยังกอดกันอยู่ไม่ห่าง....
“สบายดีนะ...”
“สบายดี ไม่มีอะไรต้องห่วงหรอก...จะไม่สบายก็ตรงคิดถึงเจ้าตัวเล็กนี่แหละ”
“เข้าบ้านเถอะ ฉันให้ป้าสร้อยเตรียมกับข้าวไว้รอเยอะแยะเลย...”
เพื่อนรัก พี่น้อง ความสุขเกิดขึ้นภายในบ้านหลังใหญ่...ความคิดถึงและความรักที่มีให้กันมันอบอวลอยู่ไม่รู้หาย....คนขี้อ้อนก็มีคนให้อ้อนเพิ่มขึ้นตั้งสองคน...ออดอ้อนไม่ห่างจากคนที่ตัวเองรักและคิดถึง...ที่สำคัญ...
/ อย่าลืมพาน้องบีไปเที่ยวด้วยน้า /
เมื่อไม่เป็นการเสียเวลาเพราะหมอเอลาได้แค่ 5 วัน เลยจัดทริปไปเที่ยวภูเขา ต่อด้วยทะเล...พอได้กำหนดการคนขี้เห่อ ก็โทรหาพี่โอคนสวยที่พักนี้เข้าออกบ้านหลังนี้เป็นว่าเล่น เพราะทนคิดถึงคนขี้อ้อนไม่ไหว....ทำเอาภูนรินทร์เริ่มจะอยากย้ายสวนไปให้ไกลจากไร่เพื่อนรุ่นน้อง เพราะ...คนรัก....ไม่มีเวลาให้เขา....ถึงจะคิดอย่างนี้แต่มาด้วยทีไรก็อดเอ็นดูเด็กหนีออกจากบ้านคนนั้นด้วยทุกที...
http://music.becteroradio.com/song/1317/translate (คนแต่งชอบเป็นการส่วนตัว)
“From the moment I met you I just knew you'd be mine
You touched my hand And I knew that this was gonna be our time
I don't ever wanna lose this feeling I don't wanna spend a moment apart
'Cos you bring out the best in me, like no-one else can do
That's why I'm by your side, and that's why I love you
Every day that I'm here with you I know that it feels right
And I've just got to be near you every day and every night
And you know that we belong together It just had to be you and me
'Cos you bring out the best in me, like no-one else can do
That's why I'm by your side, and that's why I love you
And you know that we belong together, It just had to be you and me
'Cos you bring out the best in me, like no-one else can do
That's why I'm by your side
'Cos you bring out the best in me, like no-one else can do
That's why I'm by your side, and that's why I love you
'Cos you bring out the best in me, like no-one else can do
That's why I'm by your side, and that's why I love you ”
(Best In Me – Blue)
เสียงใส ๆ ที่เปล่งเสียงเพราะ ๆ ออกมาทำเอาภูนรินทร์และอรเวศอึ้งไป ขนลุก จนต้องหันหน้ามองกัน แต่มันก็คงไม่แปลกสำหรับหมอเอและนิชา ...รวมทั้งคนขับรถ x-9 ที่ตอนนี้วิ่งฉิวมุ่งหน้าไปเมืองมะขามหวาน...ปันณธรนั่งอมยิ้มไปกับเพลงเพราะ ๆ ความหมายซึ้ง ๆ ถ้าจะโมเมว่าน้องบีร้องให้ตัวเองคงไม่ผิดสินะ เพราะแค่คิดก็สุขใจไม่น้อย...ขับรถไปฟังเสียงหวานๆ ไป คุยกันไปตลอดทาง ระยะทางที่ว่าไกลมันก็คงไม่ไกลเท่าไหร่....ถ้าเหนื่อยก็มีทั้งหมอเอและภูนรินทร์ที่จะคอยแท็กมืออยู่....
“ง่วงรึเปล่าน้องบี”
“ไม่ง่วง น้องบีไม่ง่วง”
“เด็กเลี้ยงแกะ” พี่ชายค่อนแคะเบาๆ ไม่ง่วงตลอดเวลาที่ถาม ทั้งที่ตาปรือใกล้หลับแล้ว ก็เล่นคุยตลอดทางจนข้ามได้สองจังหวัดแล้ว...คงจะหมดแรงข้าวเมื่อเช้าแล้วล่ะ....แต่ทุกครั้งที่ถามก็ตอบอย่างนี้ทุกที....
“ทำไมพี่ง่วงจังน้า..”
“ พี่เอจ๋า ..ขี้เซา...นอนซี่...น้องบีจะลูบหลัง...ฮ้าว!”
“ฮ่าๆๆ ใครจะลูบหลังใครละเนี่ย” คนทั้งรถพากันหัวเราะ เมื่อคนที่อาสาจะลูบหลังให้พี่ชายตัวเอง อ้าปากหาวซะกว้างเลย....
“ คนลูบหลังให้พี่เอจะนอนกับพี่เอไหมน้า...พี่นิชาจะได้ลูบให้..” คนที่ก่อนหน้านี้นั่งหน้าคู่คนขับก่อนจะข้ามมาก่อกวนด้านหลังเมื่อปันณธรขับออกจากบ้านได้ไม่นาน ด้านหลังหมอเอและนิชาเป็นภูนรินทร์และอรเวศที่นั่งอมยิ้มกับความน่ารักของเจ้าตัวเล็กนั่น...
“อยากมีลูกป่ะ”
“มีกะผีน่ะสิ”
“มีกับภูดิ จะไปมีกับผีทำไม โอ๊ย” กระซิบคุยกันสองคน ก่อนจะจบด้วยแรงบิดที่เอว...ข้อหาพูดอะไรที่มันเป็นไปไม่ได้...แถมด้วยค้อนให้อีกวงใหญ่...ก่อนจะหันไปยิ้มกับคนที่เริ่มเลื้อยลงเพราะพี่สาวอาสาจะลูบหลังให้...
“ไม่หลับเหรอคนดี..ฟอด!..”
“ลูบหลัง”
“นี่ไงพี่ลูบอยู่” นิชาถามและหอมแก้มคนที่นอนซบหน้าลงบนหมอนที่วางไว้ที่หน้าขาเธอ หลังจากที่ยอมรับซักทีว่าตัวเองง่วงนอน....แต่ลูบอยู่ซักพักก็ยังเห็นตากลมนั่นลืมอยู่...
“...พี่..ปันปันจ๋า... ลูบหลัง...น้องบี”
“หือ?” หมอเอกับนิชามองหน้ากัน หลังจากที่จับใจความเสียงงึมงำของน้องชายได้...ท่าทางจะติดเพื่อนเขาเอามาก ๆ ซะแล้ว...เพราะที่ผ่านมาเวลาต้องการให้คนลูบหลังให้ จะต้องแค่เขากับนิชาเท่านั้น.....
“พี่ปันขับรถอยู่คนดี ให้พี่นิชาลูบให้นะ”
“ ฮึก พี่ปันปัน ลูบ”
“ อย่าร้องสิ...อ๊ะ ๆ พี่ปันปันก็พี่ปันปัน....” คนที่ขับรถอยู่ได้ยินตั้งแต่คนตัวเล็กนั่นเรียกชื่อตัวเองแล้ว เลยชะลอจอดรถข้างทาง ก่อนจะเปลี่ยนหมอเอให้มาขับ นิชาเลยไปนั่งข้างคนขับให้ปันณธรกับคนขี้อ้อนมานั่งแถวกลาง...ง่วงแล้วงอแงทุกทีถ้าไม่ได้ดั่งใจ....
“พี่ปันปันจ๋า...ฮึก..”
“ครับพี่อยู่นี่ นอนซะ...พี่ลูบหลังให้นะคนดี..” หน้าหล่อก้มลงกระซิบข้างหูของคนที่นอนหัวหนุนตักเขาอยู่...ขาเล็กยกขึ้นวางบนเบาะได้ นิชาเลยยื่นผ้าห่มผืนเล็กมาให้ปันณธรเพราะแอร์ในรถค่อนข้างเย็น....
“..................” มือหนาลูบแผ่นหลังบางไปมา ซักพักคนที่งอแงก็นิ่งไป....ตากลมปิดสนิท ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ...
“น้องใครกันแน่วะเนี่ย”
“นั่นสิพี่ภู” หมอเอพูดขำ ๆ ตอบเพื่อนรุ่นที่ถามออกมา....ทำเอาปันณธรยิ้มแก้มปริ...ดีใจที่น้องบีเรียกหา...มันทำให้รู้ว่าตอนนี้น้องบีต้องการเขาอยู่....
“มีน้องอย่างนี้รักตายเลย”
“รักก็รักล่ะพี่โอ แต่เวลาซน หรือเอาแต่ใจนะ อยากจะตีซะให้เข็ด”
“แล้วกล้าตีไหมล่ะ”
“ลองตีสิ คนจ้องจะเขมือบหัวผมมีเป็นแสน” คำบอกเล่าของหมอเอ กลายเป็นเรื่องน่ารัก ๆ ที่เล่าสู่กันฟัง...ทุกคนรู้จักกันอยู่แล้วพอสมควรทำให้พูดคุยกันได้แบบไม่ต้องพิธีรีตองอะไรมาก...รวมถึงความสัมพันธ์ของสองรุ่นพี่ที่ดูเหมือนว่าจะมีเพียงภูนรินทร์ที่กล้าแสดงออก แต่อรเวศก็ยังขัดเขินทุกครั้งที่ถูกแซวหรือต้องทำอะไรหวาน ๆ ต่อหน้าคนอื่น....
ต่อด้านล่างค่ะ