ต่อครึ่งหลังงง
“ก็จริงนะ”ผมพูดออกไปโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความหมายของประโยคนั้นคืออะไร ผมมองหน้าพี่เขียนด้วยสีหน้าที่บ่งบอกไม่ถูก พี่มันมองผมอยู่เหมือนกันก่อนจะถอนหายใจ
“คิดมากทำไม ของอย่างอื่นกูกินได้ตั้งเยอะแยะ”พี่มันพูด ผมหลุบตาลงต่ำไม่ชอบเลยการพ่ายแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มแข่งเนี่ย
“ทานปลาทอดไหมคะเดี๋ยวพิมแกะให้”ผมเงยหน้ามอง ไม่ได้ประชดนะครับผมว่าเขาทั้งสองคนเข้ากันมากจริงๆ ยิ่งผมเห็นผมก็ยิ่งรู้สึกว่าผมกับพี่เขียนไม่มีอะไรที่ไปกันได้สักอย่าง แถมความรู้สึกก็ยังคลุมเครือไม่ชัดเจน
“................”พี่มันเงียบ ผมหันหน้าออกทะเลอีกครั้ง ไม่รู้จะเอาสายตาไปพักไว้ไหนก็เอาไว้ที่ท้องทะเลแสนสวยก็แล้วกัน
“เอากุ้งอีกหรือเปล่าคะ เดี๋ยวพิมแกะให้”เธอคนนี้ก็ช่างบริการแฟนคนอื่นเขาดีเหลือเกิน
พี่เขียนมันไม่พูดอะไรเลยครับ แต่มันจ้องหน้าผมอย่างเดียวผมรับรู้ได้ดีว่าพี่มันก็คงไม่สบายใจที่เห็นผมคิดมาก แต่ยังไงดีล่ะคือผมก็อยากให้พี่มันพูดเถียงอะไรแทนผมสักนิดอ่ะ แต่ก็นะพี่มันไม่ทำหรอกครับ สุภาพบุรุษเหลือเกินนิ
RRRrrrrrr
เสียงโทรศัพท์ดังขัดจังหวะการทานข้าวของพวกเราครับ เป็นของพี่เขียนนี่เองที่มีคนโทรเข้ามาผมอยากรู้อ่ะแต่ไม่มีอารมณ์ถาม
“ใครอ่ะคะ”มีคนถามให้ผมแล้วครับ แต่เอ่อ เกินหน้าเกินตาคำๆนี้ใช้กับพิมเขาได้เปล่าครับ
“พิมถามพี่เหรอ?”พี่เขียนมันจ้องหน้าผู้หญิงคนนั้นนิ่ง คำถามของพี่มันผมว่ามันเป็นคำถามแนวตำหนินะครับ เพราะมันก็ทำให้พิมหน้าหงอยลงไปได้
“ปะ เปล่าค่ะ”
นี่ไม่ได้จะเยาะเย้ยนะ แต่ก็ไม่รู้สินะ อะฮึอะฮึ
“เหนือเดี๋ยวกูมา แปป”พี่มันหันมาบอกกับผมก่อนจะยื่นโทรศัพท์มาตรงหน้าคงอยากให้ผมเห็นล่ะมั้งว่าใครที่เป็นคนโทรเข้า
ริว
“อ่อ รีบรับเหอะเผื่อมีธุระอะไร”ผมไล่มันไป ยิ้มได้ละครับอย่างน้อยความสำคัญทั้งหมดก็ยังตกเป็นของผมอยู่ดี
นี่ไม่ได้จะยกย่องตนเองนะ
“เดี๋ยวมา .. เออมีไร...”พี่เขียนไปทางชายหาดครับ บางทีเขาก็อาจจะมีธุระส่วนตัวคุยกันก็ได้ ผมมองไปที่พี่มันดูท่าทางเครียดๆแฮะ ไม่แน่สงสัยอาจจะเป็นเรื่องเรียนก็ได้
“พี่เขียนเป็นคนดีนะคะ เหนือว่าไหม”
คำถามของคนนั่งตรงข้ามทำให้ผมหยุดความคิดทุกสิ่งอย่าง ผมมองหน้าพิมอย่างไม่ค่อยจะเข้าใจความนัยที่แฝงมาด้วยสักเท่าไหร่นัก คนดีเหรอถ้าถามผมผมว่ามันเลวมากๆต่างหาก
“ก็ อืม”
“แม้กระทั่งตอนนี้พี่เขียนก็ยังดีกับพิมเหมือนเดิม เหมือนตอนที่เรายังรักกัน”
จึก
ผมนั่งนิ่ง เธอเล่าไปด้วยรอยยิ้มธรรมดาแต่ผมรู้หรอกว่ามันแฝงยาพิษไว้ด้วย อาหารตรงหน้าดูจะเย็นชืดไปซะสนิทใจเมื่อเจอความแสบของผู้หญิงคนนี้
ผมทราบดีว่าเธอคงอยากพูดเพื่อให้ผมอ่อนแอ คิดมาก สุดท้ายก็คงทะเลาะกับพี่เขียนด้วยเรื่องงี่เง่าไร้สาระ ถ้าทุกอย่างที่ผมกล่าวมาเกิดขึ้น ก็คงจะสมใจคุณเขาล่ะครับ
“เหรอครับ พี่มันก็เป็นแบบนี้แต่ไหนแต่ไร แต่พี่มันจำเรื่องอดีตไม่ค่อยได้หรอกครับ พี่มันจำได้แค่ปัจจุบันและอนาคตเท่านั้นเอง”
ผมเห็นเลยครับว่าพิมแสดงสีหน้าไม่พอใจ ผมว่าคนที่ทำดีหน้านึง ทำไม่ดีหน้านึงเป็นคนคบไม่ค่อยได้นะครับ แล้วคนๆนั้นก็นั่งอยู่ตรงหน้าผมนี่แล้ว
“แต่อดีตที่หน้าจำก็ยังมีเยอะแยะนะคะเหนือว่าไหม บางทีปัจจุบันก็ไม่ได้สำคัญสักเท่าไหร่หรอก”
ผมสะอึกรอบสอง ผมวางช้อนวางหัวกุ้งสุดโปรดเอาไว้ในจานอย่างเรียบร้อย ผมเงยหน้ามองพิมก็เห็นว่าเธอก็กำลังมองมาที่ผมเหมือนกัน
“พิมต้องการอะไรครับ”ผมถามตรงๆ ผมคิดว่าผมรู้ว่าเธอต้องการอะไรแต่บางทีก็อยากฟังจากปากเจ้าตัวตรงๆมากกว่า
“เหนือพูดอะไรอ่ะคะ พิมไม่เข้าใจ”คำพูดดูไร้เดียงสา แต่หน้าตาดูมารยามากๆอ่ะครับ
ถ้าเป็นสมัยก่อนผมจะมองว่าผู้หญิงแบบนี้คือคนเซ็กซี่ มีจริตที่ทำให้ผู้ชายหลงใหล ผมชอบผู้หญิงแรงๆหรือไม่ก็เรียบร้อยไปเลย แต่พอมาตอนนี้ผมกลับรับไม่ได้ที่เห็นผู้หญิงคนหนึ่งทำทุกอย่างเพื่ออยากได้ของที่เคยเป็นของตัวเองกลับไป
ทำทุกอย่างแม้กระทั่งพูดจากระทบผมบุคคลที่เป็นแฟนใหม่
“เรื่องพี่เขียนไงผมว่าพิมพูดมาตรงๆก็ดีนะ”
เธอยกน้ำขึ้นดื่มเหมือนว่าตัวเองเป็นเป้ยปานวาด เมย์ พิชนาฎ อะไรเทือกๆนั้น ก่อนที่ประโยคต่อมาจะทำให้ผมช็อค
“พิมอยากได้พี่เขียนคืน พิมขอได้ไหมล่ะ”เธอจ้องหน้าผม
ผมว่าบางทีนิสัยแบบนี้อาจจะเป็นตัวตนที่แท้จริงตั้งแต่ต้นของเธอก็ได้นะครับ
“พี่เขียนไม่ใช่สิ่งของ”ผมขึ้นเสียงนิดหน่อยรู้สึกไม่พอใจที่เธอมองพี่มันเหมือนสิ่งอะไรสักอย่างที่ไม่อยากได้ก็ทิ้งไป อยากใช้ใหม่ก็กลับมา
“พิมก็ไม่ได้มองพี่เขียนเป็นสิ่งของ เพียงแต่พิมไม่เห็นว่าเหนือจะเหมาะกับพี่เขียนตรงไหน ผู้ชายกับผู้ชายยังไงก็ไปกันไม่รอด”
เธอก็อารมณ์ขึ้นไม่แพ้กัน สรุปแล้วผู้หญิงคนนี้เขารักพี่เขียนจริงๆหรือเปล่า หรือเธอแค่รู้สึกดายเฉยๆกันแน่
“เหมาะหรือไม่เหมาะ พวกเรารู้ตัวดีไม่จำเป็นต้องให้ใครมาบอกให้ฟังครับ”ผมพยายามใจเย็น ไม่อยากคุยด้วยอารมณ์ที่พุ่งสูงเดี๋ยวมันจะทำให้อะไรๆมันแย่ลงกว่าเดิม
ผมหันมองตรงชายหาดก็ไม่เห็นพี่เขียนยืนอยู่ตรงนั้นแล้ว ผมมองหาก็ไม่เจอไม่รู้ว่าไปคุยที่อื่นหรือว่าไปไหน
“เกย์ น่าเกลียดจริงๆไม่รู้ว่าพี่เขียนไปรักไปชอบนายได้ยังไง ทุเรศ”เธอพูดเหมือนโมโหมากที่พวกผมเป็นเกย์?
หน้าตาพิมตอนนี้ดูไม่ได้เลยครับมันบูดเบี้ยวจนความสวยหายไปเกือบครึ่ง ทำไมเธอต้องดูเหมือนเจ็บใจขนาดนั้นด้วย การที่พวกผมเป็นเกย์แล้วมันทำให้รถติด คนตายเพิ่มมากขึ้นหรือไง
“เป็นเกย์แล้วมันผิดตรงไหน”
“ตรงที่เกย์มันทุเรศไง!”
“เธอก็กำลังว่าพี่เขียนนะ ไหนบอกว่ารักเขาไง”ผมแอบตำหนิเบาๆ แล้วก็ไม่พอใจที่มาด่าว่าทุเรศด้วย อยากจะย้อนเหลือเกินว่าเธอน่ะดีนักแหละ
แต่มันก็คงจะแรงไป ผมเป็นผู้ชายนี่ครับ T^T
“หึ รักเหรอเปล่าหรอกฉันแค่อยากได้เขากลับมาดูแลฉันอีกครั้ง ฉันคิดว่าฉันเหมาะสมกับเขามากกว่านาย”นิสัยเปลี่ยนคำพูดคำจาก็เปลี่ยน มาฉันๆนายๆแล้วรู้สึกว่าตัวเองเหมือนต่ำกว่ายังไงก็ไม่ทราบ ผมไม่ชอบการพูดจาแบบไม่ให้เกียรติคนอื่นครับยิ่งกับคนไม่สนิทผมยิ่งมองติดลบ
“อีกอย่าง ฉันคิดว่ากิจกรรมบนเตียงฉันคงดีกว่าข้างหลังแบบนายแน่ๆ”
ผมเผลอกำช้อนแน่นตอนไหนก็ไม่รู้ครับ ผมโมโหมากที่พี่เขียนเคยรักเคยชอบผู้หญิงนิสัยแบบนี้ ผู้หญิงที่มองแต่ตัวเองโดยมองข้ามสิ่งดีๆของคนอื่น
กิจกรรมบนเตียงเหรอ?
ถึงแม้พี่เขียนจะหื่น ลามก แต่ไม่ควรคิดว่าพี่มันจะมองเรื่องรักเป็นเพียงเรื่องเซ็กส์สิครับ ผมว่าถ้าคนเราคิดได้แต่แบบนี้ ชีวิตนี้คงหาใครที่รักเราจริงๆไม่เจอหรอก
“เธอดูถูกความรักของคนอื่นมากเกินไปแล้วนะ”
“แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ นายมาแย่งพี่เขียนไป นายทำให้เขารังเกียจฉัน ฮือๆ นายไม่เข้าใจหรอกว่าฉันทรมานขนาดไหน ที่ฉันต้องกลายเป็นแบบนี้ ฉันผิดหรือไงที่ฉันอยากได้ของๆฉันคืน ฮืออ”
ผมตกใจสิครับ จู่ๆเธอก็ร้องไห้ออกมาน้ำหูน้ำตาไหลแบบไม่บันยะบันยังเลย ผมนิ่งค้างรู้สึกทำตัวไม่ถูกก็เลยได้แต่เงียบปล่อยให้เธอได้ระบาย
“ถ้าไม่มีนาย เขาต้องกลับมาหาฉันแน่ๆ เขาไม่รังเกียจอยู่แล้วที่ฉันเป็นแบบนี้ แต่เพราะนาย นายคนเดียวที่ทำให้เขาปฏิเสธ ฮือ”
ผมพอเข้าใจประโยคนั้นแล้วล่ะครับ เขาคงจะบอกว่าเป็นเพราะผมที่มาคบกับพี่เขียนเลยทำให้พี่มันไม่ยอมกลับไปคบกับตัวเองเหมือนเมื่อสี่ปีก่อนที่ถึงแม้ว่าพี่เขียนจะรู้ว่าพิมไปนอนกับเพื่อนตัวเองแต่ก็ยังรับได้และพร้อมจะกลับไปคบด้วย
แต่นี่มันสี่ปีแล้ว
ทำไมพิมเขาถึงยังคิดว่าพี่เขียนจะยังให้โอกาสตัวเองกลับมาอีกครั้งล่ะ เขาไม่คิดบ้างหรอว่าที่พี่มันไม่รอไม่ใช่เพราะรังเกียจหรือมีคนใหม่ แต่เป็นเพราะพี่มันอาจจะเจอรักที่แท้จริงแล้วก็ได้
นี่ไม่ได้พูดยกยอตัวเองนะ จริงๆ
“เธอเข้าใจผิดแล้ว...”
“ไม่ผิด ถ้าไม่มีนายเขาต้องกลับมาหาฉัน”
เธอมองจิกผมทั้งน้ำตา ทั้งสงสารก็สงสารทั้งโกรธก็โกรธบอกไม่ถูกเลยครับ
“ถ้าไม่มีนาย....”
“ถึงไม่มีมัน พี่ก็กลับไปรักพิมไม่ได้อยู่ดี”
ผมและพิมหันไปมองเจ้าของเสียง ผมน่ะแค่ตกใจที่จู่ๆพี่มันก็เดินโผล่เข้ามา แต่เหมือนว่าพิมจะช็อกไปแล้ว
“พะ พี่เขียน”เธอเรียกเสียงแผ่ว ผมจ้องพี่เขียนไม่วางตามันดูไม่ได้โมโหแต่ก็ดูว่าจะไม่ได้พอใจหรือว่ามันได้ยินที่พวกผมคุยกัน
“ถึงพี่จะไม่ได้เป็นเกย์พี่ก็กลับไปคบกับพิมไม่ได้”ชัดเจนมันได้ยิน
“ทำไมล่ะ พิมไม่ดีตรงไหนไหนพี่บอกจะรักพิมคนเดียว ฮืออ หรือว่าพี่รังเกียจที่พิมมันเป็นผู้หญิงสกปรก ฮึกๆ ถ้าอย่างนั้นเหนือก็สกปรกไม่ต่างกับพิมหรอก เกย์ ไอ้ทุเรศ!”
ปัง!
ผมสะดุ้งเมื่อพี่เขียนมันตบโต๊ะเสียงดัง อย่าว่าแต่ผมกับพิมเลยขนาดโต๊ะรอบๆยังหันมามองเป็นตาเดียว
“พี่ไม่เคยรังเกียจถ้าพิมจำได้ แต่พิมเป็นคนทิ้งโอกาสนั้นไปเอง ตอนนี้พี่คิดว่าพี่เจอคนที่พี่รักที่สุดแล้ว”
“ฮือออ พี่เขียน ฮือออ”เธอทรุดลงกับพื้นร้องไห้คร่ำครวญ ผมสงสารมากๆอ่ะครับ
“เรียกร้องไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะพี่...รักมัน”
ตอนนี้ผมไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น ใจผมเต้นแรงโคตรๆ รักงั้นเหรอ บ้าว่ะทำไมชอบทำให้ผมใจเต้นวะ
ผมเดินมาด้วยแรงดึงและลากของคนตัวโตกว่า มันจับมือผมเดินออกมาจากร้านอาหารลิ่วๆกลับไปยังบ้านพักจนผมต้องเบรคมันไว้ก่อน รีบอะไรนักหนา รีบจนลืมนึกถึงไว้เลยนะเนี่ยว่าปล่อยใครไว้ที่ร้านอาหารทะเล
“จะรีบไปไหน”ผมถาม แต่มันก็ไม่ยอมหยุดตามแรงดึงของผม ผมสู้แรงมันไม่ได้นี่ครับ
“กลับ”มันพูดเสียงเข้ม เป็นอะไรหรือว่าไม่พอใจเรื่องผมกับพิมเหรอ
“ทำไมอ่ะไหนว่ากลับพรุ่งนี้”มันปล่อยแขนผมแล้วเดินขึ้นไปหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าที่วางไว้ตรงเก้าอี้หน้าบ้านเรียบร้อยแล้ว ผมงงที่เมื่อกี้มันหายไปแสดงว่ากลับมาเก็บของงั้นสิ
“บอกเหตุผลไม่งั้นกูไม่กลับเด็ดขาด”
“รีบก่อนเร็วๆเข้าแล้วเดี๋ยวบอก”มันรีบร้อนจนผมสงสัย จะอะไรกันนักหนาหรือว่าพี่ริวเขาโทรมาบอกอะไร
“หรือมีใครเป็นอะไรถึงต้องรีบกลับเหรอ”อาจเป็นไปได้ ถ้าเป็นเหตุผลนี้มันก็บอกมาตรงๆก็ได้นี่
“จิ”มันจิ๊ปากรำคาญ
“มึงอ่ะ”งอนอ่ะแม่ง
RRRrrrr
เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น พร้อมๆกับพี่เขียนขึ้นนั่งประจำที่คนขับ ช่วยไม่ได้กลัวโดนทิ้งอ่ะเลยจำเป็นต้องเดินตามไป ก็ดีเหมือนกันอยู่ต่อก็ใช่ว่าจะสนุก
“ว่าไงวิสกี้”ญาติสุดที่รักเองครับ แต่เป็นไรวะทั้งผัวทั้งเมียโทรมาทำไมกัน
“มึงรีบกลับมาให้เร็วเลย!!”ผมยกโทรศัพท์ออกห่าง แกปากทำไม
“จะตะโกนทำไม บอกมาดิทำไมต้องรีบกลับเนี่ยพี่เขียนก็เร่งกูจัง”ผมบ่นยาวๆ ปากคุยมือเปิดประตู ขาก้าวขึ้นรถ แต่มือยังไม่ทันได้กระชากปิดเลยก็มีคนมาดันไว้ก่อน
“เหนือ เหนือ ไอ้เหนือออออ!!”เสียงวิสกี้ตะโกนลั่นแต่ผมไม่ได้ยินแล้วครับ
“พะ...พี่…”
“ถามพี่ก็ได้ เดี๋ยวพี่เล่าให้ฟัง”คนๆนี้ทำให้ผมขนตั้งชัน
“พะ...พี่วอดก้า”
TBC__________________________
นักเขียนขอเม้าาา
จะพยายามรีบๆปั่นไวๆ