ตอนที่7
วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วที่พวกเราจะอยู่เที่ยวจันกัน จะว่าเร็วก็เร็วจะว่าช้าก็ช้า มันบอกไม่ถูก จริงๆมันจะสนุกกว่านี้ถ้าไม่ใช่เพราะตลอดทริปเที่ยว ชีวิตผมคอยมีโรคจิตคนหนึ่งตามลวนลามไม่ห่าง
หลังจากวันนั้นที่พวกเรานั่งเล่นเกมส์หมุนขวดติ๊วๆกันที่ชายหาด ผมรู้สึกว่าหลายๆคนมีท่าทีเปลี่ยนไป จะว่าดีก็ดีจะว่าแย่ก็แย่ แม้กระทั่งตัวผมยังเปลี่ยนไปด้วย
เริ่มจากคนใกล้ตัวที่สุด วิสกี้ เพื่อนรักญาติเลิฟของผม หลังจากคืนนั้นมันดูซึมๆ ปกติก็พูดไม่เยอะอยู่แล้ว แต่นี่มันไม่พูดกับใครเลย ถามคำตอบคำ แถมยังเหม่อบ่อยๆ ตอนที่ตื่นมาตอนเช้าก็เห็นมันละเมอร้องไห้ พอผมเข้าไปถามมันก็สะบัดหน้าหนีงอนผมซะงั้น นี่ผมก็ง้อมันจนมันยอมพูดกับผมแล้วนะ
ส่วนพี่ริวคนนี้ยิ่งแปลกใหญ่ พี่มันยังเฮฮาเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่ที่เปลี่ยนคือพี่มันมักจะคอยตามวิสกี้อยู่ห่างๆ วิสกี้ไปทางไหนพี่มันมักจะเนียนๆเดินตาม ผมไม่ได้คิดไปเองนะ ไอ้แพะไอ้ดินยังคิดเหมือนผม แต่พวกผมแค่ไม่พูด ไม่รู้ว่าสองคนนั้นเขาไปทำไรกันมา ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย
ว่าสองคนนั้นมีซัมติงอะไรกัน!
คนต่อมาคือพี่เพทาย ตอนมาวันแรกๆหน้าพี่มันนี่งอจนเหมือนส้นตีนเลยนะ ผมไม่ได้เว่อร์ แต่พอมาสองวันหลังนี่หน้านี่แจ่มใสอย่างกับดอกทานตะวัน เหอะ! ลั้นลาจนกูหมั่นไส้
พี่เวอร์มุธพี่ชายที่น่ารักของผมยังเหมือนเดิม เดินหล่อตามชายหาดเพื่อให้สาวๆน้ำลายไหลเล่น เก็บภาพบ้างเพราะพี่แกชอบถ่ายรูป แต่ก็เห็นชอบแวบไปนั่นนี่บ่อยๆ บอกว่ามีงานๆ ถ้ามันจะยุ่งขนาดนั้นแล้วมันจะตามพวกผมมาเที่ยวทำไม
พี่เชพี่ปานพี่ซันยังดูปกติพอๆกับไอ้แพะละไอ้ดิน ห้าคนนี้ก็ยังตลกแดกเหมือนเดิมคือว่างแล้วแดกแต่เหล้า ไอ้ห่าแพะนี่หน้าสงสารสุด คือตัวเองกินเหล้าบ่อยมากนะแต่คออ่อนฉิบหายแล้วยังเสือกไปท้าพวกพี่ๆเขาดวลเหล้าอีก โดนพวกพี่ๆมันไล่ตบมาหลายครั้งละ ไอ้ห่าไม่ดูสภาพตัวเอง
คนสุดท้ายคือปรสิตที่กวนใจผมมากที่สุด
พี่เขียน!
มันยังทำตัวเป็นปกติเหมือนเดิมเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น มันทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ลับหลังคนอื่นเมื่อไหร่ มันพร้อมที่จะพุ่งตัวเข้ามาลวนลามผมทันที ยิ่งนับวันมันยิ่งจาบจ้วงผมลึกขึ้น จนผมระทวยไปหลายรอบ ผมเกลียด ผมโมโห แต่ผมไม่เคยห้ามมันได้สักครั้ง
มันรู้จุดว่าจะทำยังไงถึงทำให้ผมหมดแรงได้ ผมคิดว่าผมเจนจัดมาพอสมควร แต่พอมาเจอมันผมดูเหมือนคนที่ไม่เคยผ่านอะไรๆมาเลย ผมดูอ่อน ผมดูเหมือนเด็กอนุบาล
แต่ที่ผมไม่เข้าใจคือทำไมพี่มันต้องทำแบบนี้ด้วย ทำไมต้องเป็นผม ทุกครั้งที่พี่มันลากผมไปทำมิดีมิร้าย ผมมักจะถามพี่มันเสมอว่าทำไม ทำไมต้องเป็นผม แต่คำตอบที่ได้รับมีแต่จูบ จูบ จูบ!! จูบจนกูปากแตกก็ไม่เคยได้รับคำตอบอะไรเลย
ผมอยากจะบอกทุกคน อยากเล่า อยากระบาย แต่ผมไม่กล้า ผมยอมรับเลยว่าผมอาย แล้วผมก็กลัว กลัวว่าถ้าผมบอกทุกคนไปจะไปเข้าทางไอ้พี่เขียน มันจะได้มาลวนลามผมทั้งต่อหน้าและลับหลังผมน่ะสิ
“วันนี้วันสุดท้ายละ ทำไรกันดีวะ”ไอ้ดินมันถาม ตอนนี้พวกผมสี่คนนั่งกันอยู่ที่ต้นไม้ใหญ่ที่ยื่นลงไปในน้ำทะเล นั่งกันชิวๆแค่สี่คน ส่วนคนอื่นๆไม่รู้ว่าไปไหน สงสัยยังไม่ตื่น
“กูอยากนอน”ไอ้กี้ตอบ พวกผมสามคนหันขวับไปมอง โหยยมานอนไกลไปนะ
“ไมวะ เดี๋ยวกูยังไม่ได้พาไปถ่ายรูปที่จุดชมวิวเลย”ไอ้ดินมันโอดครวญ
พวกผมสามคนมองหน้ากัน ไอ้กี้มันแปลกจริงๆด้วย ปกติมันไม่เป็นสภาพแบบนี้นะ แต่พวกผมไม่รู้สาเหตุ คงมีแค่มันเท่านั้นที่รู้ แต่มันไม่ยอมบอก แม้กระทั่งผมมันยังไม่พูดอะไรเลย
“ถ้าพวกมึงอยากไปก็ไปเถอะ กูนอนอยู่นี่แหละ”มันตอบ แล้วก็ลุกเดินหนีไปเลย พวกผมนี่งงตาแตก ผมทนไม่ไหววิ่งตามมันมา เยอะไปแล้วนะ พวกผมไปทำอะไรให้ทำไมมันต้องมาทำท่าทีแบบนี้ใส่ผมด้วย
“เดี๋ยวไอ้เหี้ยกี้ มึงเป็นอะไร”ผมพยายามระงับความโมโห ไม่ได้โกรธที่มันทำตัวงอแงใส่ แต่โกรธที่มันมีอะไรแล้วมันไม่บอกผม ผมเป็ยเพื่อน เป็นญาติ เป็นพี่น้อง แล้วทำไมมันทำเหมือนผมไม่ใช่คนสำคัญที่จะเล่าอะไรให้ฟังทุกเรื่องเหมือนแต่ก่อน
“เปล่า”มันตอบหน้านิ่งเหมือนเดิม
ผมฟึดฟัดๆ เริ่มควบคุมตัวเองไม่อยู่ละ ทำไมวะ มาเที่ยวครั้งนี้มันอึดอัดมากเลยรึไง ไอ้ห่ากี้ก็ทำหน้านิ่งกวนส้นตีน จนผมอยากจะร้องไห้ แม่ง! ผมไม่ชอบถูกเมินนะ
“มึงเป็นเหี้ยอะไรมึงบอกกูมาเดี๋ยวนี้นะวิสกี้ ถ้ามึงเห็นกูเป็นญาติมึง”ผมพูดเสียงนิ่ง ระงับอารมณ์ตัวเองแล้วก็กระตุ้นสติมัน ผมไม่รู้ว่ามันเจออะไรมาร้ายแรงถึงขนาดทำให้มันเป็นถึงขนาดนี้ได้ แต่ผมไม่มีวันทิ้งมันไว้คนเดียวแน่ๆ
มันมองหน้าผมนิดหน่อยก่อนจะเสมองด้านข้างแล้วถอนหายใจ มันส่ายหัวแล้วก็ตอบกลับมาแบบว่า ผมอยากจะเข้าไปต่อยหน้ามันซักที
“กูไม่ได้เป็นอะไร”
ผลัว!
แค่นั้นแหละ มันพูดได้เท่านั้นผมก็ซัดหมัดใส่หน้ามันไปเปรี๊ยงใหญ่ ขอบตาผมร้อนผ่าวเหมือนอยากจะร้องไห้ ทำไมวะไอ้เหี้ย ทำไมต้องปิดบังกู!
“สัส ไอ้นิสัยเสีย มึงไม่เคยเห็นพวกกูเป็นเพื่อนเลยสินะ มีอะไรทำไมไม่พูด มึงอยากเก็บไว้คนเดียวจนจุกตายรึไง”ผมตวาดลั่น ไม่กลัวว่าใครจะผ่านมายินหรือเปล่า
ไม่สน เวลานี้ผมไม่แคร์อะไร ผมยืนจ้องมันที่ยกมือขึ้นเช็ดเลือดมุมปากด้วยความโมโห แต่ที่ทำเอาอารมณ์ผมมอดดับลงเห็นทีจะเป็นหยดน้ำตาของมันที่ไหลรินลงมา
ไอ้ห่ากี้ร้องไห้
“พอใจมึงยัง มึงอยากฟังใช่ไหม ได้ ที่กูเป็นแบบนี้ก็เพราะพวกมึงไง มึงที่ไม่ดูแลกู พวกมึงที่ปล่อยให้กูโดนผู้ชายเอามา มึงได้ยินแล้วใช่ไหม กูถูกผู้ชายด้วยกันเอาเป็นเมีย ฮึก ไอ้เหี้ย”
ตึง!
ผมยืนนิ่งเหมือนโดนสต๊าฟ อะ ไอ่เหี้ย วิสกี้โดนแทง!
โครม!
ผมหันไปมองตามเสียงก็เจอพวกชอบเสือกล้มกองกันเป็นทิวแถว ผมกับวิสกี้ตกใจเล็กน้อยที่เห็นคนอื่นได้ยินบทสนทนาเมื่อครู่นี้ด้วย
“เอ่อ กูแค่บังเอิญผ่านมา”ไอ้แพะพูดหน้าซีด มันจับมือไอ้ดินแล้ววิ่งหายไป ไอ้ห่าไวเหมือนลิง
พอนึกขึ้นได้ผมหันกลับมามองหน้าวิสกี้เห็นมันเช็ดน้ำตาและถอนหายใจเฮือกใหญ่ ใหญ่จริงๆ
“ช่างเหอะ พวกมึงรู้ก็ดีกูจะได้ไม่ต้องทำตัวเป็นนางเอกเจ้าน้ำตาแบบนี้ด้วย”มันพูด
ผมเดินเข้าไปหามันช้าๆและก็ดึงตัวมันมากอดไว้ ผมจะไม่ถามว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร ถ้ามันอยากบอกเดี๋ยวมันก็บอกเอง
“ช่างเหอะ”ผมพูดได้แค่นั้น
“มึงไม่อยากรู้หรือไงว่าใครที่แทงกู”อื้มหืม ตรงฉิบหายเอาผมหน้าแดงขึ้นมาตงิดๆ ยิ่งฟังมันพูดยิ่งนึกถึงสิ่งที่ตัวเองกำลังเจอ
โอกาสที่กูจะโดนกระทำแบบวิสกี้นี่มีสูงมากเลยนะ ถ้าไอ้พี่เขียนยังคงลวนลามกูอย่างต่อเนื่องแบบนี้ ไอ้ห่า ไอ้เลว
“ใคร”ถึงใจจะบอกว่าไม่ถาม รอให้มันบอกเองก็เถอะ คึ
“พี่ริว”
O.O!!!
-..-
เหยดดดดด เอาผมไปไม่เป็นเลย นี่พวกผมสองคนมีเจ้ากรรมนายเวรเป็นเพื่อนกันหรือนี่
“พี่ริวเป็นผัวมึงหรอ โอ๊ย!”ผมถามเสียงดังอย่างลืมตัว มันตีปากผมเจ็บมากจนผมร้อง กูลืมตัวนี่หว่า
“ไอ้เหี้ย เสียงดังไปกูต่อยปากแตก”มันด่าผม แต่ก็ไม่ได้ปฎิเสธข้อกล่าวหาแสดงว่าจริง เหยดดด
ผมรู้สึกผิดขึ้นมาทันทีที่มาหาว่ามันมีอะไรไม่ยอมบอก ผมเข้าใจมันละล่ะว่าทำไม ขนาดผมที่เจอพี่เขียนลวนลามผมยังไม่กล้าบอกมันเลย แล้วมันล่ะเจอเรื่องใหญ่กว่าเยอะเป็นธรรมดาที่จะไม่กล้าเล่า
“ตอนแรกกูก็นึกว่ามึงเป็นผัวเขาซะอีก ที่แท้ก็เป็นเมีย”ผมหยอกมัน
มันก็ยิ้มๆนะแถมยังด่าผมกลับซะลุดใหญ่ที่แซวมันแรงเกินไป แต่ที่ดูจากท่าทีมันดูมันก็ไม่ได้โกรธพี่ริวนะ เห็นบอกว่าเมากันทั้งคู่ แล้วต้นเหตุจริงๆก็เกิดจากไอ้เหี้ยดินที่เอาไอ้กี้ไปส่งผิดห้อง จนทำให้ญาติกูมีครอบครัวซะได้
“จะจัดการไอ้ดินมะ กูหมั่นไส้”ผมถามมัน มันก็ส่ายหน้า
“จะโทษไอ้ดินก็ไม่ได้กูแดกเยอะไม่ระวังตัวเองเอง”มันพูด ดีหน่อยที่มันไม่ได้โกรธ
มันบอกว่าช่วงสองวันที่ผ่านมาที่ดูเหม่อๆเพราะมันยังทำตัวไม่ถูกเท่านั้นเอง เอ้อข้อนี้กูเข้าใจ จากผัวเขามาเป็นเมียเขาเป็นกูกูก็คงทำตัวไม่ถูกวะ กร๊ากกกก
“แล้วพี่ริวอ่ะ ไม่โกรธจริงอ่ะ เป็นกูนะกูไม่ยอมหรอก”ผมถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง ไม่ได้อะไรนะเกลียดเพื่อนพี่ริวจนกูหมั่นไส้พี่ริวตาม นี่กูไม่ได้พาลนะ
“อืม”มันตอบสั้นๆ
“แล้วพี่มุธรู้เรื่องป่ะ?”นี่แหละใจความหลักเลย ถ้าคนนี้รู้มีหวังให้เลือกสองอย่างคือตายกับตายอย่างเขียด
“กูไม่ได้บอกมัน แต่ดูเหมือนมันจะรู้นะ มึงก็รู้ว่ากูปิดอะไรมันกับวอดก้าไม่เคยได้”มันพูดปลงๆ แต่จริงอย่างมันว่า พี่ชายมันสองคนนี่หูตาไวเป็นสับปะรด
“แล้วมึงจะเอาไงต่อ”ผมถาม
“ไม่รู้ คงปล่อยไปแบบนี้แหละ กูเป็นผู้ชายอะไรเสียหายรึก็ไม่มี”มันตอบหน้าตาย แต่ผมรู้ว่าลึกๆในใจมันไม่ได้เข้มแข็งอย่างที่แสดงออกมาหรอก
“แล้วถ้าพี่มันเรียกร้องมึงล่ะ แบบว่าเกิดติดใจไรงี้”ผมถามอ้อมแอ้ม แอบเอาเรื่องของตัวเองมายกตัวอย่างนะ เพราะไอ้เหี้ยพี่เขียนแม่งชอบละเมอบ่อยๆว่าติดใจผม ผมเลยคิดว่าพี่ริวแม่งจะสันดารเดียวกันหรือเปล่า
“หึ ไอ้เหี้ยไม่น่าถาม กูคงจะไปอ้าขาให้มันเสียบกูอีกรอบหรอกมั้ง”ตรงมาก ไอ้ห่านี่มึงน่าจะไปเกิดเป็นน้องไอ้พี่เขียนนะ T.T
“มายืนทำไรกันตรงนี้”บทสนทนาของพวกผมชะงักลงเมื่อคนที่ยังไม่อยากให้มาดันเดินเข้ามาซะก่อน
“เปล่าหรอก”ไอ้กี้มันตอบ ผมก็ได้แต่ยืนพยักหน้ารับเป็นลูกคู่ให้ แฮ่ๆ
“หึ”พี่มุธส่งเสียง หึ! ก่อนจะเดินผ่านพวกผมไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
พวกผมมองหน้าอย่างรู้กัน ว่าเนี่ยแหละสายตาของพี่มุธเมื่อกี้แม่งเหมือนรู้ทุกเรื่อง คนหรือ1113 ถามไรรู้หมด ห่าจะเก่งเกินไปละ
“กูเกลียดพี่มึง”ผมบอกไอ้กี้
“กูก็เหมือนมึง”มันตอบ
หึ สมน้ำหน้าไอ้พี่บ้า! พวกกูไม่รักมึงแล้ว เป็นไง เสียใจล่ะเซ่! คึคึ