Chapter 20…………………….. “ลงโทษ”
เสียงสั่นเตือนดังขึ้นเป็นครั้งที่ห้าภายในกระเป๋าเป้ใบเก่าที่ร่างบางวางไว้บนตัก โทรศัพท์ตกรุ่นยุคดึกดำบรรพ์ดังขึ้นจากสายเรียกเข้า ร่างบางสะดุ้งสุดตัวเพราะกลัวคนข้างๆที่ทำหน้าที่ขับรถอยู่ตอนนี้จะเริ่มออกอาการไม่พอใจ สายตาเย็นชาตวัดมองมาที่เขา เหงื่อผุดออกจากรูขมขนบนใบหน้าเหมือนโดนสายตาพิฆาตฟาดฟันด้วยจิตสังหารอันแรงกล้า แม้ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาจากปากของอีกฝ่าย หากแต่เขาก็รับรู้ได้ว่าถ้ารับสายในครั้งนี้ ชะตาชีวิตจะเป็นเช่นไร ความบรรลัยคงได้มาเยือนถึงตัว จึงเหลือบตามองคนข้างตัวไม่กล้าหันไปเผชิญหน้าตรงๆ ตอนนี้ใบหน้าหล่อใช้สายตามองตรงไปที่ทางข้างหน้า ทำเหมือนว่าไม่สนใจ แต่กลับปล่อยรังสีฆ่าฟันออกมาขั้นรุนแรง
“ปอนด์” เฮือก!!!!! สะดุ้งเหมือนโดนไฟฟ้าช็อต กูว่ากูเอื้อมมือล้วงเข้าไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าให้ดูแนบเนียนที่สุดแล้วนะทำไมมึงยังมองเห็นอีกวะ?!
“ผะ...ผมแค่จะดูว่าใครโทรมา” จริงๆก็รู้แหละครับว่าใครโทรมา ทำเอาเหงื่อแตกเต็มหน้า ติดอ่างขึ้นมากะทันหัน ทั้งที่แอร์ในรถก็เย็นจัดแต่ทำไมผมถึงได้ร้อนรนปนเสียวสันหลังอยู่ตลอดเวลาก็ไม่รู้
“ถ้ามึงรับสายอีกครั้ง กูจะโยนโทรศัพท์มึงออกนอกรถ” งานเข้ากูแล้ว รุ่นนี้ไม่ใช่จะหาซื้อกันได้ง่ายๆด้วยสิ ได้ข่าวเขาเลิกผลิตไปสามชาติกว่าแล้ว ฉะนั้นมึงจะมาทำร้ายพี่ดึกดำบรรพ์พันธุ์ไดโนเสาร์ของกูไม่ได้โดยเด็ดขาด! เพราะกูจะไม่มีปัญญาไปหาเครื่องใหม่มาใช้มึงเข้าใจไหม?!
“ไม่รับครับ” เอามือออกจากกระเป๋าพร้อมรูดซิบปิดเสร็จสรรพ ก็หันกลับมานั่งสงบเสงี่ยมเจียมตัวในทันที สี่สายแรกที่ผมรับสายไปคือน้องต้นส้มโทรมาครับ ผมบอกน้องไปแล้วว่ากำลังอยู่บนรถกับพี่เหนืออาจจะไม่สะดวกคุยเท่าไหร่ แต่น้องก็ยังโทรมาตลอดมีคำถามมาถามผมตั้งแต่เรื่องเรียน เรื่องงานที่อาจารย์สั่ง ไปจนถึงขั้นตัดขนหมาต้องตัดจากหัวลงไปหางก่อนหรือตัดจากหางขึ้นมาหัว ซึ่งตอนนั้นผมที่เริ่มจะสับสนกับหางๆหัวๆ เลยเผลอแนะนำให้น้องตัดทั้งหัวทั้งหางหมาทิ้งไปเลย กว่าจะรู้ตัวว่าพูดผิดก็อึ้งกันไปหลายวินาที จากนั้นจึงพากันระเบิดเสียงหัวเราะออกมา จนคนข้างตัวผมทำสีหน้าไม่พอใจ ผมจึงต้องรีบกดตัดสายน้องไปในทันที
“มึงคุยกับใคร?!” แค่สามคำแต่ทำเอาผมรู้สึกกลัวขึ้นจับมาใจ น้ำเสียงเย็นชาสุดๆ
“น้องส้มเพื่อนสนิทน้องกล้วยที่เป็นน้องรหัสผมครับ น้องโทรมาปรึกษาเรื่องเรียน” เผลอหันไปสบตามันเข้าอย่างจัง นี่กูกำลังนั่งอยู่กับหล่อโหดโคตรซาตานอยู่หรืออย่างไร ทำไมมึงถึงได้น่ากลัวมากมายขนาดนี้!
“แน่ใจว่าแค่น้อง!” มันขึ้นเสียงตวาดใส่ผมดังลั่นรถจนผมสะดุ้ง เอาแล้วๆๆ งานเข้ากูแล้ว คงโดนโกรธเข้าแล้วจริงๆ
“แค่น้องจริงๆครับ” ทำหน้าหงอย จ๋อยสุดๆเลยผม
“ทำไมต้องหัวเราะ...ทำไมต้องทำเหมือนมีความสุข...มึงก็รู้ว่ากูไม่ชอบ!” เอี๊ยดดดดดดด! มันเบรกรถกะทันหัน หน้าผมคะมำไปกระแทกคอนโซลรถ ดั้งบี้ โหนกแบน ปากจู๋ ขี้หูขี้ตาเล็ดกันเลยทีเดียว นึกอยากจะหยุดก็หยุด อยากจะจอดตรงไหนก็จอด บอกกันก่อนซักนิดก็ดีนะมึง
“จะเบรกก็บอกกันก่อนดิพี่ โอ๊ย! หัวโนแล้วเนี่ย” อูยยยยยเจ็บเหมือนกันนะแม่ง! ถ้าเถิกกูโนเท่าลูกมะกรูดขึ้นมามึงจะรับผิดชอบความหล่อบนหนังหน้ากูไหม?!
“ทำไมมึงถึงชอบทำให้กูโมโห!” สบนัยน์ตาแข็งกร้าวแสนเย็นชา...ดูดุดันน่ากลัว...กำลังถูกโกรธ...ถูกโมโหใส่อีกแล้ว...สงสัยว่าทำผิดอะไร...ใบหน้าที่เคยยิ้มให้กันถึงบึ้งตึง...ไม่อยากให้เป็นแบบนี้...อยากให้มี “รอยยิ้ม” ให้กันเหมือนทุกที...ถ้าจะต้องเป็นฝ่ายเอ่ยคำว่า “ขอโทษ” ออกมา...ถึงแม้ไม่รู้เหตุผลว่าเพราะอะไร...ยอมทำให้ได้...ถ้าจะทำให้คนตรงหน้า...ไม่ใช้สายตาเย็นชาแบบนี้จ้องมองกัน
“ผมขอโทษ...แต่พี่เหนือช่วยบอกผมหน่อยได้ไหมว่าพี่เหนือโกรธผมเรื่องอะไร?” เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีใคร...ไม่เคยคบใครถึงขั้นเรียกว่า “แฟน”...ไม่เคยถูกหวงแหน...ไม่เคยถูก “รัก” มากมายขนาดนี้...จึงไม่เข้าใจว่าการกระทำแบบไหนถึงทำให้อีกฝ่ายโกรธ...ความเคยชินกับการทำตัวเป็นปกติ...ถ้าอีกฝ่ายเห็นว่าเป็นเรื่องที่ผิด...ก็พร้อมจะเก็บมาคิดเพื่อแก้ไขปรับปรุง...เพราะถ้าไม่เห็นว่า “สำคัญ”...เพราะถ้าไม่ใช่ “คนพิเศษ”...คงไม่ยอมทำถึงขนาดนี้
“กูหวง...อย่ายิ้มแบบนั้นให้ใครที่ไม่ใช่กู...อย่ามีความสุขกับคนอื่นทั้งที่มึงมีกูอยู่ข้างๆ...เพราะสำหรับกูทุกลมหายใจกูมีแต่มึง” เหมือน “หัวใจ” ทำงานหนักขึ้นมาแบบฉับพลัน...เต้นรัวเร็วจนหวั่นว่ามันจะหลุดออกมานอกอก...กัดปากล่างกลั้นยิ้มไว้เต็มที่...เป็นแผลก็ยอม...หายใจไม่คล่อง...ลมหายใจติดขัด...รู้สึกอึดอัด...เพราะหัวใจ “พองโต” จนคับอกไปหมด
“พี่เหนือ...” โน้มหน้าเข้ามาหา...รับรู้ว่ากำลังจะถูกจูบ...หลับตารออีกฝ่าย...ใจเต้นลุ้นระทึก...ทั้งที่ไม่ใช่จูบแรก...แต่กลับรู้สึกมากกว่าทุกที...อยาก “จูบ” มากกว่าทุกครั้ง...ทั้งที่เพิ่งจะโดน “ล้างปาก” ก่อนมา...แต่ทำไมถึงยังต้องการสัมผัสอุ่นนุ่มที่ริมฝีปากของคนตรงหน้านักก็ไม่เข้าใจ
“.......................” ลมหายใจเฉียดรดแผ่วเบาข้างแก้ม...รับรู้ถึงความอุ่น...กลิ่นหอมจากกายของอีกฝ่าย...ทำให้รู้สึกดี...หลับตานิ่งรอเวลารับสัมผัส...รับรู้แรงสั่นสะเทือนที่หน้าตัก...หูสะท้อนได้ยินเสียงรูดซิบเปิดกระเป๋า...ก่อนที่จะ...
“กูจะยึดมือถือมึง!” เชี่ย! จบประโยคตาผมก็เหลือกโพล่งขึ้นทันที ที่แท้มึงแค่จะเข้ามาล้วงโทรศัพท์กูออกจากกระเป๋าไปเก็บไว้ กูก็โมเมเข้าข้างตัวเองว่ามึงจะเข้ามาจูบ บึ้มมมมม!!!!! เสียงหน้ากูระเบิดกลางทุ่งข้าวสาลีกลายเป็นโกโก้ครั้น แผลแหลกละเอียดเป็นเศษซากขนาดนี้ คงยากที่จะมีหมอที่ไหนรับเย็บหนังหน้ากู!
“พี่เหนือมึงแกล้งกู!” ยิ่งเห็นรอยยิ้มมัน...เห็นมันยิ้มเจ้าเล่ห์...รู้สึกไม่พอใจรอยยิ้มแบบนี้เท่าไหร่...แต่ก็ดีใจที่ใบหน้าเย็นชาที่ทำให้รู้สึกปวดใจนั้นหายไปแล้ว
“หึหึ คิดว่ากูจะจูบหรอ?” อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก! ไม่น่าลืมตัวเลยกู จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนวะไอ้ปอนด์ แก้ตัวก็ไม่ได้ จะแถก็ไม่ทัน ถ้าอย่างนั้นก็เอาความหน้าด้านเข้าสู้ก็แล้วกันวะ!
“ใครคิดว่าจูบ ผมเปล๊า!!!!!” ฉิบหาย! กูก็ลืมปรับโทนเสียงให้เป็นปกติ สูงปรี๊ดทีเดียวเชียว
“กูจะไม่จูบมึง ถือเป็นบท “ลงโทษ” ที่มึงมันดื้อ” พูดจบมันก็ยื่นมือมาบีบจมูกผมเบาๆ อื้อ! ดั้งกูยุบขึ้นมาได้หมดหล่อกันพอดี
“ฮึ่ย! ผมก็ไม่อยากได้จูบจากพี่หรอก!” คนอะไรหลงตัวเอง ปากนุ่มแล้วไง ตัวหอมแล้วไง ใครจะอยากให้จูบ ไม่มี๊!!!!!
“กูจะคอยดู”
“ผมจะไม่มีวันให้พี่จูบเลยคอยดูก็แล้วกัน!”
“ หึ..........แล้วมึงจะเป็นฝ่ายอ้อนวอนขอจากกู”
“..............................” เฮือก!!!!! สะดุ้งเหมือนถูกไฟฟ้าช็อตอีกแล้ว สายตาเจ้าเล่ห์...รอยยิ้มเหมือนตอนนั้นไม่มีผิด...น้ำเสียงเย็นที่กระซิบข้างหู...ทำให้ใบหน้าร้อนขึ้นมาจนแทบระเบิด...กลับไปสนใจทำหน้าที่ขับรถต่อ...ทิ้งให้ผมต้องนั่งกลัวตัวสั่นไปกับรอยยิ้มของมัน...รอยยิ้มเหมือนวัน...ที่ผมถูก “ล่อลวง”
.........................
......................
..................
.............
.........
.....
..
.
“ย๊ากกกกกกกกกกก! ตุ๊บ!” ทันทีที่เข้ามาในห้อง ผมก็กระโดดพุ่งหลาวลงกระแทกกับโซฟานุ่มหน้าทีวีทันที วันนี้เหนื่อยชะมัด ทั้งวันเจอแต่เรื่องให้ผมปวดหัว ตั้งแต่เรื่องโรมิโอใจโฉด จนมาถึงเรื่องโทรศัพท์มือถือทำเอาพลังงานผมแทบไม่มีเหลือ การต่อสู้กับไอ้พี่เหนือมันช่างเหนื่อยจริงๆ
“......................” มันเดินหายเข้าไปในห้องนอนพร้อมกระเป๋าใส่เสื้อผ้าของผม คงจะเอาไปเก็บให้ มันก็เป็นคนดีใช้ได้เลยนะครับ ขอชมหน่อยก็แล้วกัน ทำตัวน่ารักแบบนี้ก็เป็นนี่หว่า แล้วทำไมถึงชอบทำตัวร้ายๆใส่กูจัง!
“ปอนด์ กูเอากางเกงในมึงทิ้งแล้วนะ เอาตัวใหม่ที่กูซื้อให้ไปใช้ก็แล้วกัน” เสียงมันตะโกนออกมาจากห้องนอน คงกำลังรื้อของผมเก็บเข้าตู้ กูชมไปได้ไม่ทันขาดคำ มึงก็ทำเอาน้ำตากูแทบไหล กูบอกแล้วตัวนั้นกูรักมาก กูผ่านศึกกับมันมาเยอะ เจ็บกับมึงมาก็เยอะ ทำไมมึงถึงไม่เข้าใจ มึงทิ้งน้องเน่ากูไปได้ยังไง กูขาดน้องเน่าไม่ได้ จะหาได้จากที่ไหนอีกกางเกงในใส่แล้วสบายไข่แบบนี้?!
“ไม่ทิ้งไม่ได้หรอพี่?” มันเดินออกมาพอดี ยกขาผมที่นอนแผ่บนโซฟาขึ้นก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงแล้วเอาขาผมพาดที่ตักมันแทน
“สภาพแบบนั้นกูไม่เอาไปเผาไฟก็ดีเท่าไหร่แล้ว” นี่มึงรังเกียจน้องเน่ากูขนาดนั้นเลยหรอ?! เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษกางเกงในกูอะไรขนาดนั้น มันไปทำอะไรให้มึง ตอนมึงปล้ำกู มันก็ให้มึงถอดออกได้อย่างง่ายดาย แถมมึงยังโยนมันทิ้งแบบไม่ใยดีอีกด้วย ปล่อยให้มันได้อาบแสงแดดอ่อนๆยามเช้าเหมือนเดิมไม่ได้หรืออย่างไร ความผูกพันไม่ใช่เรื่องที่ใครจะตัดขาดกันได้ง่ายๆ นั่นเป็นถึงกางเกงในตัวโปรดกูเลยนะมึง!
“เออ ทิ้งก็ทิ้ง!” แต่ขัดใจพี่ท่านไป มีแต่ผมเท่านั้นที่จะเจ็บตัว สุดท้ายคนแพ้ก็ต้องเป็นผมอยู่ดี
“ไปอาบน้ำ”
“ขอนอนก่อนนะ วันนี้ผมโคตรเหนื่อยเลย” ทำหน้าอ้อนมันสุดฤทธิ์ มันตีที่ขาผมเบาๆ
“ปอนด์ ไปอาบน้ำ”
“อื้อ...ไว้ก่อน ผมง่วง” ตาจะปิดอยู่รำไร อยากนอนใจจะขาด ปกติกลับหอกับไอ้ธามน้ำไม่เคยจะอาบกันซักครั้ง รวบยอดไปตอนเช้าเลยทีเดียว ประหยัดน้ำไม่สิ้นเปลืองเงิน เปลืองทรัพยากร และลดโลกร้อนไปในตัว คุ้มค่าเห็นๆ เขาเรียกว่ายิงปืนนัดเดียว นกตายสามตัว แบบนี้ใครจะอยากอาบกัน
“อาบน้ำก่อนแล้วค่อยนอน” มันจับข้อมือผมทั้งสองข้าง...ดึงฉุดร่างผมที่อ่อนปวกเปียกเพราะความเพลียขึ้น...กลายเป็นตอนนี้ถูกรวบตัวเข้าไปกอด...หน้าซบที่อกแกร่ง...ง่วงนอนจนไม่สนใจอะไรทั้งนั้น...รับรู้ถึงแรงกอดรัด...กลิ่นหอมอ่อนๆจากกาย...รู้เพียงแค่ไม่อยากถอนใบหน้าออกมาจากอกของอีกฝ่ายเลย
“อื้อ...ผมง่วงนะพี่เหนือ ขอนอนนะ”
“นอนแบบนี้เดี๋ยวไม่สบายตัว” ถูกลูบหัวเบาๆ...มือที่โอบกอดไว้...ตบที่หลัง...เหมือนอยากให้รีบทำตาม...ไม่เคยทำตัวเป็นเด็กๆ...แต่วันนี้...กลับรู้สึกอยากถูก “เอาใจใส่” อยาก “อ้อน” อีกฝ่ายมากกว่าทุกวัน
“ผมง่วง ขอนอนนะ” ส่ายหัวไปมาตรงหน้าอกมัน...กดหน้าลง...สองแขนกอดตอบอีกฝ่ายไว้...ถ้าจะหลับ...ก็ขอหลับมันทั้งอย่างนี้
“เลือกเอาว่าจะไปอาบเอง หรือ จะให้กูอาบให้” ทันทีที่อีกฝ่ายยื่นคำขาด ความง่วงก็หายไปทันที คงไม่ใช่แค่อาบให้อย่างเดียวแน่...คงมีบางอย่างแอบแฝงมากกว่านั้น
“งั่มมมมม! อาบเอง!”
“ โอ๊ย! มึง...” งับเข้าที่หน้าอกมันไปหนึ่งทีแรงๆ ก่อนจะรีบลุกขึ้นเอาตัวออกจากอ้อมกอดมันทันที เห็นมันใช้มือลูบๆตรงที่ผมงับไปเต็มแรงเมื่อครู่ สะใจพิลึก มันคงจะเจ็บน่าดู
“..............................” แลบลิ้น...ยักคิ้ว...กระดิกตีน...ทำหน้ากวนบาทา...ก่อนจะหันหลังส่ายตูดไปมาส่งให้มันอย่างผู้ชนะ...จากนั้นก็รีบใส่เกียร์หมาวิ่งถลาเข้าห้องน้ำไปทันที
“ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้ดื้อ!” ได้ยินเสียงมันตะโกนตามหลังมาแต่ก็ไม่ทันแล้ว เพราะผมเข้ามาในห้องน้ำได้เป็นที่เรียบร้อย ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
“..............................” สุขอุรา ชื่นใจ ส่องกระจกก็เจอแต่หน้าคนหล่อ หยิบแปรงสีฟันที่ไอ้พี่เหนือมันซื้อมาไว้ให้ขึ้นมา บีบยาสีฟันลงบนแปรงเป็นที่เรียบร้อย จากนั้นอมน้ำไว้ในปากเล็กน้อย ก่อนจะยัดแปรงเข้าปากไป แต่ยังไม่ทันได้ถูอะไร รู้ตัวอีกทียาสีฟันก็หล่นแหมะลงก้นอ่างล้างหน้าไปซะก่อน ฉิบหาย! เป็นแบบนี้ทุกที พอกูจะแปรงจริงๆแม่งยาทีฟันหายหมด ไม่หล่นลงพื้นวันไหนกูน้ำตาแทบไหลเลยจริงๆ สรุปก็เลยต้องบีบเอาใหม่ทุกที
“แฮ่! คนอะไรหล่อชะมัด” ยิงฝันขาวสะอาดใส่กระจก ปากหอมสดชื่นด้วยกลิ่นมิ้นท์ เสร็จจากนั้นก็ล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าของไอ้พี่เหนือมัน เนียนนุ่ม ชุ่มชื่น ถูหน้าไปก็ฮัมเพลงไป อะไรจะสุขใจขนาดนี้!!!!!
“.............................” เสร็จสรรพจากกิจกรรมหน้ากระจก ก็ยกถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกทันที แล้วเดินปรี่ไปยืนใต้ฝักบัว เปิดน้ำใส่หัวได้ไม่ทันไร หูก็ได้ยินเสียงบางอย่าง...ดังมาจากด้านหลัง
“คลิ๊ก!” เสียงกดล็อคประตู จำได้ว่าล็อคไปแล้วตอนเข้ามา แล้วเสียงนี้ดังขึ้นอีกรอบได้อย่างไร...ถ้าไม่มีใครเปิด...เข้ามา...อย่าบอกนะว่า!!!!!
มีต่อนะจ๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
