Chapter 18…………………….. "คนป่วย"
มือเรียวเอื้อมปัดผมที่ปรกหน้าร่างบางที่นอนหลับอยู่บนเตียงออกแผ่วเบา ก่อนจะก้มหน้าลงให้หน้าผากของตนแนบชิดกับหน้าผากของอีกฝ่ายเพื่อวัดอุณหภูมิ นิ่งค้างไว้ซักพักเมื่อรับรู้ถึงความร้อนจากพิษไข้ของอีกคนจึงถอนใบหน้าออกมา เขาก้มลงจรดริมฝีปากกับแก้มคนป่วยเบาๆ สีหน้าแสดงออกถึงความกังวล แต่ไม่รู้จะทำยังไงในเมื่ออีกฝ่ายดื้อไม่ยอมไปหาหมอ ต้องพามาที่คอนโดเพราะอยู่ใกล้กว่า คำพูดที่บอกแค่นอนพักตื่นมาก็หาย...แต่กลับทำสีหน้าทรมานแบบนั้น ให้ทนนั่งดูอยู่เฉยๆใครจะไปทำได้ แต่เพราะในชีวิตไม่เคยต้องมาดูแลใคร ทุกทีเวลาป่วยพ่อบ้านก็จะโทรตามหมอ ไม่เคยรู้ว่าเวลาป่วยต้องทำยังไง การดูแลคนป่วยต้องทำแบบไหน จึงทำได้แค่นั่งนิ่งคอยอยู่ข้างๆ ห่มผ้าให้ยามเมื่ออีกคนเพ้อออกมาว่าหนาว แตะหน้าผากเช็คอุณหภูมิแทบทุกนาทีเพราะกลัวไข้จะขึ้นสูง จับมือไว้ไม่ยอมปล่อยห่วงว่าถ้าคนป่วยตื่นขึ้นมาจะไม่เจอใคร...ทำได้เท่านี้...อยากทำให้มากกว่านี้...ดูแล...เอาใจใส่มากกว่านี้...คงต้องหาตัวช่วย...ตัวช่วยที่จะบอกวิธีดูแลคนป่วยอย่างถูกต้องแก่เขาได้“ไอ้แทน...” หยิบไอโฟนขึ้นมาไล่รายชื่อ ทำสีหน้าคิดหนัก ก่อนจะตัดชื่อนี้ทิ้งไปในความคิด
“ไอ้มิน...” อีกชื่อที่ทำให้ต้องคิดหนักมากกว่าเดิม ตัดชื่อนี้ทิ้งตามชื่อแรกไปติดๆ
“อาหมอ” จู่ๆเหมือนมีแสงแห่งความหวัง เมื่อเห็นชื่อหมอประจำตระกูล จึงตัดสินใจกดโทรออกในทันที
“อาหมอ ดูแลคนป่วยต้องทำยังไง?” “.............................” อื้อ...ปวดเมื่อยไปหมดทั้งหน้าทั้งตัวเลยครับตอนนี้ ผมไม่น่าไปให้เขากระทืบเลย ได้ยินเสียงดังแว่วๆจากคนข้างตัว มือมันที่ผมเคยคิดว่าอุ่นตอนนี้กลับเย็นมาก จับแก้มผมทีสะดุ้งเลย
“ถ้าไม่มีแผ่นเจลลดไข้ต้องทำยังไง?”
“.............................” หือ? ไอ้พี่เหนือกำลังทำอะไรซักอย่าง
“ผ้าชุบน้ำ แปะหน้าผาก” เปิดเปลือกตาขึ้นลำบากมาก ปวดแผลที่หน้าสุดๆ แต่ต่อมเสือกผมยังทำงานได้ดี เห็นมันกำลังคุยโทรศัพท์มือก็จดอะไรใส่สมุด ดูรีบร้อนสุดๆ หน้ามันดูเป็นกังวล ผมบอกแล้วว่าแค่นอนพักก็หาย กินยาไปแล้วด้วย มันก็ยังจะลากผมไปหาหมอให้ได้
“อือ...อือ...ก็มีแผลที่แก้ม...ปากแตก...แล้วที่ก้น...” ปกติคงร้องโวยวายไปแล้ว แต่ตอนนี้สังขารผมไม่เอื้ออำนวยจริงๆครับ บทสนทนาของมันคงไม่พ้นเรื่องผมแน่ๆ แต่แผลที่ก้นมึงเอาไปคุยด้วยทำไม ความห่วงใยของมึงลึกซึ้งเกินไปแล้ว กูขอแค่ผิวเผินก็พอ ลึกมาก กูก็อายมากมึงเข้าใจไหม?!
“อือ...” จบอือมันก็วางสายไป มึงคุยกับหมอหรือเพื่อนเล่นข้างบ้านวะถ้าจะไม่สุภาพขนาดนั้น มันก้มลงมาหอมแก้มผมอีกฟอด ผมก็แกล้งหลับต่อสิครับ อยากจะรู้เหมือนกันว่าคุณชายเหนือเขาจะดูแลคนป่วยยังไง แค่คิดก็สนุกแล้ว ครั้งนี้มึงโดนกูเอาคืนบ้างแน่ไอ้พี่เหนือ!
“......................” หรี่ตาดูเห็นมันลุกออกจากห้องนอนไปโดยไม่ลืมถือสมุดที่จดบางอย่างไว้ติดมือไปด้วย ก้มหน้าอ่านไปตลอดทาง ตั้งใจมากเหมือนอ่านหนังสือเตรียมสอบ
“เพล้ง!!!!! ตึง!!!!! โคร้ม!!!!!” เสียงดังสนั่นหวั่นไหว คาดว่าจุดเกิดเหตุคงมาจากห้องครัว มันเดินออกไปทำอะไรผมไม่รู้ รู้แต่งานนี้มีเละ อยากเปลี่ยนชุดเครื่องครัวใหม่ก็ไม่บอก
“.......................” กลับเข้ามาพร้อมกะละมังซักผ้าใบใหญ่สีแดง ใหญ่จนบังตัวมันมิด เดินก้าวฉับๆไปในห้องน้ำทันที เปิดน้ำเสียงดังซู่! เดินถือกะละมังออกมาในสภาพเกร็งกล้ามเนื้อแขน เล่นใส่น้ำจนเต็มขนาดนั้น เป็นกูคงมีล้มกะละมังคว่ำกระจาย ถือมาวางแหมะลงบนพื้นข้างเตียงได้อย่างปลอดภัย ถึงกับปาดเหงื่อกันเลยทีเดียว ก่อนจะเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าค้นหาอะไรบางอย่าง เดินกลับมาที่เตียงอีกทีพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็กสีขาวลายหมีพูร์แอ๊บแบ้วถือไหน้ำผึ้งในมือ หลับตาเกือบไม่ทันตอนมันมองมา รู้สึกถึงน้ำหนักยวบลงข้างตัว ก่อนจะ...
“แปะป้าบ!!!!!” โชกทั่วหน้า เปียกซกทุกอณูรู้ขุมขน น้ำไหลลงเบ้าตา เข้ารูจมูก ซึมลงปาก ก่อนจะโปะหน้าผากให้กูเรียบร้อย รบกวนมึงช่วยบิดผ้าให้กูก่อนซักนิด เล่นจุ่มแล้วยกมาเลยกูก็เปียกสิไอ้พี่เหนือ! มึงอยากให้กูป่วยหนักกว่าเดิมใช่ไหม?!
“ดูไม่เห็นเหมือนจะทำให้ไข้ลด?” ได้ยินมันบ่นกับตัวเองเบาๆ เกาหัวอย่างมึนงง แล้วอาหมอมึงก็ไม่บรรยายให้ละเอียดนะว่าเขาต้องบิดผ้าให้หมาดก่อน แบบนี้อาหมอควรแนะนำให้มันลงไปซื้อแผ่นเจลลดไข้ง่ายกว่านะครับผมว่า ทำอย่างนี้คนป่วยจะตายเอาได้ จริงๆกูน่าจะคิดได้ตั้งแต่เห็นกะละมังซักผ้ามึงแล้วนะ ไม่ควรคาดหวังกับมันไว้สูงเกินไป
“อืม...ต่อไปก็ อาหารสำหรับคนป่วย” เชี่ย! มึงข้ามขั้นตอนไปไวมาก บิดผ้าก่อน ช่วยบิดผ้าให้กูก่อน กูขอร้อง หัวกูเปียกไปหมดแล้วเนี่ย! เอาแชมพูลงกูสระผมได้เลยนะมึง
“หรือต้องเช็ดตัวด้วย?” โถ๊ววววววววววว! กูว่าคงไม่ต่างจากให้กูอาบน้ำ เผลอๆมึงได้เทน้ำในกะละมังราดตัวกูไอ้พี่เหนือ พอเถอะ จากไข้ธรรมดากูจะตายเพราะปอดบวมก่อน
“ถ้าตัวไม่ร้อนมากไม่ต้องเช็ดตัว แค่เอาผ้าชุบน้ำแปะไว้ที่หน้าผากให้ไข้ลด” มันอ่านทวนในสมุดที่จดไว้ จะโทษมันก็ไม่ได้เพราะอาหมอบอกมันมาแค่นี้จริงๆ คนปกติทั่วไปเขาคงคิดได้แหละครับ แต่ไม่ใช่กับคุณชายเหนือฟ้าอย่างมัน
“...........................” ปลื้มน้ำตาเล็ด มันเอาผ้าบนหัวผมออกให้แล้วครับ มึงก็เรียนรู้เร็วนี่หว่า!
“แปะป้าบ!!!!!” ผืนเดิม ที่เดิม แต่เปียกมากกว่าเดิม!!!!! กูคงคาดหวังในตัวมึงมากเกินไป มันไม่ได้เอาไปบิดให้ผมครับ มันไปจุ่มน้ำมาเพิ่มต่างหาก เปียกทั่วหน้าขนาดนี้ก็คว่ำกะละมังใส่หัวกูเลยดีกว่า
“............................” ลืมตาว่าจะด่าออกไปก็ต้องชะงัก...สีหน้าดูจริงจัง...ตั้งใจ...แสดงออกถึงความห่วงใยอย่างสุดซึ้ง...ไม่เคยเห็นสีหน้าแบบนี้...สมุดที่จดข้อมูล...ตั้งใจอ่านทุกบรรทัด...อ่านทุกตัวอักษร...ค้นหาข้อมูลเพิ่ม...หาข้อมูลเพิ่มในเว็บไซต์...เพิ่งรู้ว่าตัวเองกำลังถูกเอาใจใส่...ถึงวิธีการจะทำให้หนักใจอยู่มาก...แต่บางครั้ง...ลองถูก “รัก” แนวใหม่ก็ตื่นเต้นดีเหมือนกัน
“ข้าวต้มกุ้ง” พูดงึมงำกับตัวเองก่อนจะเดินจ้องมือถือออกจากห้องนอนไป ขอเดาว่าต้องเป็นอาหารสูตรตามเว็บไซต์แน่ๆ ว่าแล้วผมก็รีบลุกพรวดเอาผ้าบนหัวบิดน้ำออกทันที เปียกซกเหมือนเพิ่งอาบน้ำมาใหม่ๆ สงสัยมันคิดว่าผ้าเปียกจะยิ่งทำให้ไข้ลดเร็วขึ้น?!
“เฮ้อออออ! ทำอะไรของพี่วะ” บ่นเบาๆพร้อมบิดผ้าไล่น้ำออก ก่อนผมจะทิ้งตัวลงนอนแล้วเอาผ้าหมาดๆแปะหน้าผากไว้ตามเดิม ยิ่งรู้จักไอ้พี่เหนือก็ยิ่งได้เห็นมันในมุมอื่นเพิ่มขึ้น...ทำสีหน้าห่วงใยคนอื่นก็เป็นด้วย
“ข้าวต้มกุ้ง...กูจะแดกได้ไหมวะเนี่ย?!”
“เพล้ง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” เสียงดังมาจากด้านนอก
“กูว่างานนี้มีเละ...ไม่ข้าวต้มกุ้งก็เป็นกูนี่แหละที่เละ” ผมกลับหอไปอยู่กับไอ้ธามทันไหมครับ รายนั้นแค่ซักกางเกงในไม่สะอาด แต่รายนี้ผมว่าทำอะไรไม่เป็นซักอย่างเลยมากกว่า!!!!!
3 ชั่วโมงผ่านไป...
“ปอนด์”
“......................”
“ปอนด์ครับ”
“......................”
“ไอ้ปอนด์”
“อื้อ...” เผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ฝืนลืมตาขึ้นมองคนที่นั่งอยู่ข้างเตียง มันใช้มือประคองตัวผมให้ลุกนั่งพิงหัวเตียง งัวเงียไม่หาย จำได้ว่านอนรอข้าวต้มกุ้งอยู่ดีๆ รอจนหลับแล้วหลับอีกข้าวต้มก็ยังไม่มาซักที มึงไปลากอวนหากุ้งที่อันดามันเองเลยรึไงไอ้พี่เหนือถึงได้นานขนาดนี้ หรือไปปลูกข้าวทำนาเองรอเก็บเกี่ยว?!
“ข้าวต้ม...กูทำมาให้” มันเกาหัวเก้อๆ...กลั้นยิ้มวางฟอร์มแก้เขินอีกตามเคย...เริ่มเดาทางถูก...เวลามันเขิน...คงมีแค่ผมคนเดียวที่ได้เห็น...ผมควรตีเนียนทำเป็นไม่รับรู้ความหวังดีของมันด้วยไหม?! แต่โทษทีนะพี่...บังเอิญว่าถ้าผมดีใจ...ผมไม่เคยกลั้นยิ้มออกไปได้ซักที
“ผมจะกินได้ไหมเนี่ย?” พูดไปทั้งที่ปากยังยิ้มอยู่...คิดภาพไม่ออกว่าห้องครัวจะเละขนาดไหน...แต่ดูจากสภาพข้าวต้มตรงหน้าแล้ว เปลี่ยนครัวใหม่เห็นจะดีที่สุด
“กูชิมแล้วก็......................พอกินได้” หยิบช้อนตักคนๆดู เจอกุ้งตัวโตมากๆแหวกว่ายอยู่ในชามข้าวต้มทั้งเปลือกหัวก็ไม่เอาออก ข้าวก็เละจนแยกไม่ออกว่าตกลงเป็นโจ๊กหรือข้าวต้มกันแน่ ผักชีที่เขาให้แค่โรยหน้าพี่แกก็ใส่มันทั้งต้น กระเทียมก็ไม่มีทุบใส่มาทั้งหัว ข้าวต้มสูตรไอ้พี่เหนือน่ากลัวสุดๆไปเลยครับ
“พี่เหนือ ทำไมไม่แกะเปลือกกุ้งออกก่อนพี่?”
“กู................” ถามแค่นี้ก็ก้มหน้าหงอยๆ...ให้ตายสิ...ผมจะทำยังไงดี...ใจอยากจะแกล้งติโน่นตินี่เอาคืนซักหน่อย...เจอแบบนี้ผมก็ไปไม่เป็นเลยสิ
“แล้วมือพี่ไปโดนอะไรมา?!” คว้ามือมันขึ้นมาดูทันที
“มีดบาด” เห็นพลาสเตอร์ลายหมีพูร์แปะอยู่ที่นิ้วชี้ แผลมีดบาดคงไม่น่าเป็นห่วง ห่วงก็แต่แผลที่อื่นนี่สิ
“ผมหมายถึงแผลที่มือขวา” รอยแดงที่เห็นมันแผลจากน้ำร้อนลวกชัดๆ ไม่หนักอะไรมากแต่ก็คงเจ็บน่าดู แถมยังไม่หาผ้า หายามาทาอีก เอาแต่ห่วงคนอื่นจนตัวเองเจ็บตัวชอบว่าผมแบบนี้แต่พี่ก็เป็นเหมือนกันไม่ใช่หรือไง
“แค่น้ำร้อนลวก”
“เฮ้อ...พี่เหนือไปเอากล่องยามานะ เดี๋ยวผมทำแผลให้” เดินหายออกจากห้องไป กลับมาพร้อมกล่องปฐมพยาบาลขนาดใหญ่ บ้านนี้เขาชอบอะไรใหญ่ๆหรืออย่างไร อลังกาลตั้งแต่กะละมังยันกล่องยา ใช้ให้มันเอาชามข้าวต้มไปวางไว้บนโต๊ะ เสร็จสรรพก็ให้มันกลับมานั่ง จับมือมันมาใส่ยา แล้วเอาผ้าก็อตพันไว้กันแผลติดเชื้อ เห็นว่าเรียบร้อยแล้วก็เป่ามือมันเบาๆ
“เพี้ยง! หายไวๆนะครับพี่เหนือ...ของผม”
“...........................” หน้าเริ่มแดง...หูก็แดง...แกล้งมันให้อายได้...ไม่ยอมมองหน้ากันอีกแล้ว...กุ้งมีอะไรดีกว่าหน้าผมนักหรือไง...ผมชักจะเริ่มเกลียดกุ้งขึ้นมาจริงๆซะแล้วสิ...หึงกุ้งผมผิดไหม?!!!!!
“พี่ปวดแผลไหม? เดี๋ยวต้องกินยาด้วยนะ”
“อือ”
“พี่กินอะไรรึยัง?”
“ยัง” ตกลงใครเป็นคนป่วยกันแน่วะเนี่ย! หน้าที่คนดูแลทำไมมันสลับกันแบบนี้วะ กูต้องเป็นฝ่ายถูกดูแลไม่ใช่หรือไง ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ไปได้
“ออกไปกัน ผมไม่ค่อยปวดแผลแล้ว เดี๋ยวทำกับข้าวให้กิน”
“แล้วข้าวต้มกูละ” เออวะ เอาไงดีวะ ไม่กินคนทำก็จะเสียความรู้สึกอีก
“เดี๋ยวผมกินเอง” ได้ยินแค่นั้นเด็กน้อยก็หายคอตก ยกชามข้าวต้มเดินนำหน้าผมเข้าครัวไปในทันที
“........................” ตกตะลึงทันทีที่เดินออกมาเห็นสภาพห้องครัวเต็มตา จานชามวางระเกะระกะ มีหล่นแตกกระจายอยู่ที่พื้นอีกเป็นโหล เลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปหมด มึงทำข้าวต้มหรือก่อสงครามกลางเมืองวะ เหมือนครัวเพิ่งโดนระเบิดลง
“ฝีมือพี่!?”
“............................” พยักหน้าเบาๆ
“ทำไม่เป็นทำไมพี่ไม่ปลุกผม โทรสั่งก็ได้ อาหารสำเร็จรูปก็มี เวฟเอาก็ได้นี่พี่เหนือ”
“กู.....................................อยากทำให้มึง” เจอคำพูดนี้ไปทำเอาเหตุผลที่อยากยกขึ้นมาหายไปในทันที ผมจะทำยังไงกับคนๆนี้ดี นับวันก็ยิ่งร้าย...ร้ายแบบไหนไม่รู้...รู้แค่น่ารักฉิบหายเลย!!!!!
มีต่ออีกนะจ้าาาาาาาาาาาาา
