2. พี่เสือ น้องกระต่ายกับโรงเรียนประถมและเมียพี่เสือ
หลังจากนั้นมา พี่เสือกับน้องกระต่ายก็เข้ากับโรงเรียนอนุบาลได้ดีขึ้น พี่เสือกลายเป็นหัวโจกเด็กๆ ภาพที่คุณแม่ชินตาตอนไปรับคือ พี่เสือวิ่งนำเด็กอนุบาล มีน้องกระต่ายหัวเราะเอิ๊กอ๊ากขี่หลังพี่เสืออยู่
ส่วนน้องกระต่ายยิ่งโตยิ่งสวย จนคุณพ่อคุณแม่ชักหนักใจ
วันที่สิบสี่กุมพาพันธ์ โรงเรียนอนุบาลจัดกิจกรรมวาดรูป พับกระดาษเป็นรูปหัวใจ เพื่อมอบให้คุณพ่อคุณแม่
แต่เด็กๆ ที่ชอบเลียนแบบผู้ใหญ่แอบพับอีกอันหนึ่งเอาไว้ให้คนที่ชอบ
น้องกระต่ายได้หัวใจกระดาษสีแดงแปร๊ดมากที่สุดในชั้น ส่วนพี่เสือก็ได้จากสาวน้อยชั้นอนุบาลมาหลายชิ้น
พี่เสือชะโงกดูหัวใจกระดาษบนตักน้องกระต่ายแล้วเกิดอาการโมโหขึ้นมา คุณแม่และคุณครูเข้าใจว่าพี่เสืออิจฉาที่น้องได้มากกว่าเลยหัวเราะขำ แต่ถ้าทุกคนรู้ความจริงขึ้นมา คงไม่มีใครกล้าหัวเราะแน่
วันนั้นพี่เสือเลยอาละวาด เทกระดาษสีแดงของน้องน้อยลงถังขยะหมด ทำเอาหนุ่มๆ ที่ให้ร้องไห้จ้า โดยที่น้องกระต่ายได้แต่มองตาปริบๆ
พี่เสือรีบหอมแก้มเอาใจน้อง แล้วกำชับ
"ต่ายมีฉีแดงของพี่เท่านั้นนะ!"
น้องกระต่ายยิ้มแก้มปริ รับเอากระดาษยับยู่ยี่สีแดงที่ดูยังไงก็ไม่คล้ายหัวใจมา แล้วเขย่งตัวหอมแก้มพี่ชายคืน
"หนูยักพี่เฉือที่ฉุดเลย"
พี่เสือหน้าแดงไปถึงหู อายม้วนต้วน ฟัดแก้มขาวๆ ของน้องแก้เขินแทน
วันนั้นคุณครูเล่าให้คุณแม่ฟังว่า พี่เสืออารมณ์ดีทั้งวัน
ว่ากันว่าเด็กเหมือนผ้าขาว มักจะซึมซับ เลียนแบบเอาพฤติกรรมของผู้ใหญ่มา ปีถัดมาพี่เสือก็โมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงอีกแล้ว
วันวาเลนไทน์ของโรงเรียนอนุบาล เพิ่มชั้นทำขนมง่ายๆ เข้ามาด้วย พี่เสือคงจะแค่เทขนมที่บรรดาหนุ่มน้อยมอบให้น้องกระต่ายทิ้ง แต่นี่น้องภู คู่อริเก่าที่เคยล้อเลียนน้องกระต่ายถึงขั้นกล้าหอมแก้มน้องน้อย พี่เสือเลยฟาดหมับเข้าให้ น้องภูร้องไห้จ้า แต่ทั้งๆ ที่น้ำมูกน้ำตาไหลย้อยเขรอะใบหน้าก็ยังไม่วายจีบน้องกระต่าย
"พี่ภูยักน้องต่ายนะ"
เช่นเคย พี่เสือเลยฟาดเข้าอีกที น้องกระต่ายได้แต่มองตาปริบๆ
พอขึ้นชั้นประถม พี่เสือก็จูงน้องไปโรงเรียนเองได้แล้ว โดยมีคุณแม่แอบตามไปเงียบๆ
แต่แล้วตำนานหัวโจกหวงน้องของพี่เสือมีอันต้องสะเทือน เมื่อพี่เสือเจอกับพี่จัมโบ้
พี่จัมโบ้เป็นลูกชายเจ้าของค่ายเทควันโด ผู้บริจาครายใหญ่ของโรงเรียน เจ้าตัวอ้วนตุ๊ต๊ะ แถมยังมีนิสัยชอบรังแกคนอื่น พี่จัมโบ้มักจะอวดวิชาเทควันโดผิดๆ ถูกๆ ของตัวเองให้เด็กคนอื่นดูเสมอ
พี่จัมโบ้เลยมีลูกน้องเยอะแยะ
พี่เสือไม่ค่อยสนใจพี่จัมโบ้ พี่เสือสนใจแค่น้องกระต่ายกินข้าวหมดไหม น้องกระต่ายทำการบ้านหรือยัง น้องกระต่ายโดนใครรังแกหรือเปล่า
พี่จัมโบ้เลยหันมารังแกน้องกระต่ายแทน
ซึ่งก็ได้ผล
พี่จัมโบ้แค่ใช้ให้ลูกไล่มาล้อเลียนน้องกระต่ายว่าเป็นตุ๊ด ติดพี่ แล้วก็พยายามดึงกางเกงน้อง ซึ่งตัวเองคิดว่าเป็นการแกล้งที่สร้างสรรค์ที่สุดแล้ว
พี่เสือฉุนขาด ง้างหมัดชกพี่จัมโบ้ แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะพี่จัมโบ้มีไขมันรอบตัวเหมือนห่วงยางป้องกันอยู่
พี่เสือเลยขยับให้น้องที่ร้องไห้จ้าไปอยู่ด้านหลัง ตัวเองบังน้องเสียมิด พี่จัมโบ้เห็นแล้วยิ่งอยากแกล้งเลยชกกลับ
พี่เสือที่ไม่มีใครกล้าชกมานานได้แต่ตกใจ รับเอาหมัดหนักๆ เข้าเต็มหน้า แล้วพี่เสือก็โมโหจริงๆ แล้ว พี่เสือคว้าเอาไม้กวาดของภารโรงแล้วฟาดสุดแรงเกิดเข้าให้ พี่จัมโบ้ร้องเสียงหลง
แล้วเด็กทั้งสองคนก็ตะลุมบอนกัน
น้องกระต่ายที่เห็นพี่ชายโดนพี่จัมโบ้อัดร้องไห้หนักกว่าเดิม รีบวิ่งไปฟ้องคุณครู
วันนั้นจบลงด้วยพี่จัมโบ้กับพี่เสือโดนคุณครูตี น้องกระต่ายร้องไห้กระซิกๆ ไม่หยุด พอกลับถึงบ้าน คุณพ่อก็ดุพี่เสือซ้ำ แถมยังจะตีอีก น้องกระต่ายรีบเอาตัวเข้าบัง
คุณฉัตรชัยตะลึง
ไม่คิดว่าลูกชายคนเล็กที่นุ่มนิ่ม ให้พี่ชายปกป้องมาตลอดจะปราดเข้ามาปกป้อง ใจนึงอยากยกยิ้ม แต่ก็ต้องพยายามปั้นหน้าขรึม
"ต่าย หลีก!"
"ไม่เอา!" ใบหน้าหวานเหมือนคุณแม่ยู่ยี่ พร้อมจะปล่อยโฮทุกเมื่อ แต่เจ้าตัวก็ยืดอกเล็กๆ ขึ้น สูดน้ำมูกเสียงดัง "พี่เฉือเจ็บ คุงพ่ออย่าตีนะ"
พี่เสือรีบดุนน้องน้อยไปด้านหลัง ลูบหัวปลอบใจน้องแล้วยื่นมือมารอรับโทษ พร้อมหลับตาปี๋
"โฮฮ ไม่อาวว พี่เฉือเจ็บบบ อย่าตีนะ ตีต่าย ตีต่าย" น้องน้อยปัดมือคุณพ่อพัลวัน เล่นเอาคุณพ่อชักมึน
"ต่าย! ถ้าไม่หลีก พ่อจะตีต่ายด้วยนะ" คุณพ่อยื่นคำขาด แต่น้องเล็กก็ไม่หลีก คุณพ่อเลยจำใจตีทั้งพี่ทั้งน้องเพื่อรักษาการปกครองในบ้าน
คุณพ่อตีพี่เสือ พี่เสือเจ็บจนน้ำตาเล็ด น้องกระต่ายก็ร้องไห้ด้วย แต่พอคุณพ่อตีน้องกระต่าย พี่เสือกลับร้องไห้โฮ
"คุณพ่อใจร้าย ตีต่ายไม ต่ายเจ็บนะ ตีเสือจิ ตีเสือ" พี่เสือไม่รอให้คุณพ่อว่าอะไร เจ้าตัวแสบอุ้มน้องวิ่งตื๋อเข้าห้อง ล็อกประตูหนาแน่น ไม่ยอมกระทั่งให้คุณแม่มาทำแผล
วันถัดมา พี่เสือก็ไม่ยอมคุยกับคุณพ่อ จำฝังใจว่าคุณพ่อรังแกน้อง เป็นน้องกระต่ายเสียอีกที่เข้าไปคลอเคลียคุณพ่อ ปีนตักบ้าง หอมแก้มบ้าง คอยออเซาะไป เป่าหูคุณพ่อไป
"พี่เฉือไม่ผิดน้า อย่าตีพี่เฉืออีกน้า"
ไม่รู้เพราะคุณพ่อแพ้ลูกอ้อนของลูกชายคนเล็กหรืออย่างไร แต่เย็นวันนั้นคุณพ่อก็ยอมง้อลูกชายคนโต โดยการซื้อไดโนเสาร์ที่เจ้าตัวอยากได้ให้ ตบท้ายด้วยไอศกรีมยี่ห้อดังอีกถ้วยโต
สัปดาห์ถัดๆ มา คุณพ่อคุณแม่มักจะพบว่า ลูกชายคนโตมีรอยเขียวช้ำตลอด ส่วนลูกชายคนเล็กแม้จะไม่เป็นอะไรแม้แต่ปลายก้อย แต่ก็ตาแดงๆ ทุกวัน คุณแม่ชักเอะใจ แต่คุณพ่อกลับนิ่งเฉยเป็นทองไม่รู้ร้อน
"เด็กผู้ชายมีต่อยตีเป็นเรื่องธรรมดา" คุณพ่อพูดเรียบๆ
จนกระทั่งวันหนึ่ง
หลังกลับจากโรงเรียน พี่เสือหงุดหงิดที่สุด รอยแผลทั้งถลอก ทั้งช้ำเต็มตัว คุณแม่อยากร้องไห้ แต่ก็ได้แต่เงียบ ไม่ถามอะไร ขณะทำแผลให้ลูก
น้องกระต่ายนั่งข้างๆ พี่เสือ คอยเป่าแผลไปด้วย ปลอบพี่เสือที่หน้านิ่งเฉยไปด้วยว่า
"ฟู่ พี่เฉือไม่เจ็บน้า"
พอคุณพ่อกลับมา พี่เสือรีบปราดเข้าไปหา
คุณฉัตรชัยชะงัก เพราะตอนนี้ร่างเล็กๆ ของลูกชายคนโตยืนจังก้า ดวงตาคู่ดุทอประกายมุ่งมั่น
"มีอะไรจะบอกพ่อรึเปล่าเสือ ?"
"เสือจาขอคุณพ่อ"
"ขออะไรครับ ?"
"เสืออยากเรียนมวยไทย"
สุดสัปดาห์นั้น คุณพ่อเลยอุ้มพี่เสือไปค่ายมวยที่รู้จักกัน ครูฝึกเห็นท่าทาง หน่วยก้านแข็งแรง กับดวงตาทอประกายกร้าวของลูกศิษย์ตัวน้อยแล้วถูกใจยิ่งนัก
หลังจากนั้นมา พี่เสือก็ซ้อมมวยทุกวัน และมีแผลตามตัวน้อยลงเรื่อยๆ น้องกระต่ายก็ตาไม่แดงกลับบ้านแล้ว
พอเห็นว่าได้ผล คุณพ่อก็รีบอุ้มน้องกระต่ายไปให้ฝึกมวยบ้าง
ครูเบิ้ม ครูฝึกได้แต่มองคุณพ่องงๆ "ไอ้ฉัตร แกจะให้ลูกสาวแกต่อยมวยทำไม ?"
คุณพ่อก้มหน้าลงมองลูกชายคนเล็กที่ยืนตาใส ตัวเล็กขาวบาง ใส่เสื้อเชิ้ตปกสีน้ำเงิน กางเกงสามส่วนเข้ากับเสื้อ คุณแม่ยังแถมหมวกเบเร่ต์สีน้ำเงินขลิบทองให้ด้วย
ถึงปากคุณแม่จะชอบบ่นว่าคุณย่าคุณยายชอบให้กระต่ายแต่งตัวเป็นตุ๊กตา แต่ตัวคุณแม่เองกลับหนักข้อยิ่งกว่า
อืม... จะโกรธครูเบิ้มก็ใช่ที่
เพราะคุณพ่อเองก็ยังมองว่าลูกชายตัวเองเหมือนเด็กผู้หญิงเลย
"เอ่อ เบิ้ม คือหนูต่ายเป็นผู้ชาย"
"หะ! น่ารักขนาดนี้เป็นผู้ชาย แล้วหนูจิ๊บของข้าไม่เป็นกะเทยรึไงวะ!" หนูจิ๊บเป็นลูกสาวครูเบิ้ม อายุมากกว่าฝาแฝดสามปี
"หนูต่ายเป็นผู้ชายฮะครูเบิ้ม" ลูกศิษย์คนโปรดยืนยัน พี่เสือกอดเอวน้องแน่น "ต่ายเป็นฝาแฝดเสือ"
ครูเบิ้มลมจะจับ พ่อมันทำอีท่าไหน ลูกถึงออกมาพิกลแบบนี้วะ!
"ข้าว่า ไม่ไหวว่ะฉัตร ให้หนูต่ายมานั่งดูพี่ต่อยมวยเล็กๆ น้อยๆ อ่ะได้ แต่ตัวบางขนาดนี้ไม่น่าจะไหวว่ะ" ครูเบิ้มกลัวแม่หนู ไม่ใช่ พ่อหนูที่น่ารักเหมือนตุ๊กตาคนนี้จะเป็นรอยแผลจริงๆ
เห็นครูเบิ้มยอมขนาดนี้แล้ว คุณพ่อเลยเอาน้องกระต่ายมาฝากไว้ทุกวัน
สิ่งที่คุณพ่อหวังไว้คือ น้องกระต่ายจะแข็งแรง มีท่าทางสมชายชาตรีขึ้นบ้าง แต่ยิ่งนานวัน ตัวน้องยิ่งบาง ผิวยิ่งขาว ตายิ่งโต ขนตายิ่งดกงอนหนา ผิดกับพี่ชายที่ดำปี๋ ตัวสูงพรวดพราด ทุกวันที่น้องกระต่ายไปเฝ้าพี่ชายต่อยมวย เจ้าตัวเล็กจะเล่นกับพี่จิ๊บ ลูกสาวครูเบิ้มรอ
กลายเป็นว่า คุณพ่อได้ลูกสาวมาแทนซะอย่างนั้น
คุณพ่อได้แต่ทำใจ ถ้าหากน้องกระต่ายจะเบี่ยงเบนจริงๆ เพราะอย่างน้อย น้องกระต่ายก็หน้าตาสะสวย โตมาคงเป็นกะเทยสวย
ส่วนคุณแม่นั้น ทำใจได้ตั้งนานแล้ว ก็น้องกระต่ายชอบเจ้าครัวกับคุณแม่ ชอบชงโกโก้เย็นๆ ให้พี่เสือ ชอบชงกาแฟร้อนๆ ไปเสิร์ฟคุณพ่อ พอคุณยายมา ก็ชอบไปนั่งพับเพียบเรียบร้อย ร้อยมาลัยกับคุณยาย
วันนี้ก็เช่นเคย น้องกระต่ายชงโกโก้ใส่กระติกไว้ให้พี่ชาย มีผ้าขนหนูเย็นๆ ไว้คอยท่า ถึงแม้น้องจะทำทุกวัน แต่ก็เรียกเสียงฮือฮาได้จากบรรดาหนุ่มน้อยนักมวยได้ทุกวันเช่นกัน
"น้องต่ายน่ารัก" รุ่นพี่คนหนึ่งในค่ายเอ่ยชม มองน้องกระต่ายเหมือนจะกลืนกิน "ดียิ่งกว่าเมียครูฝึกอีก"
พี่เสือตาขวาง ถึงตัวเล็กกว่าแต่ก็ไม่เคยกลัวใคร เสือน้อยพูดออกมาเสียงดัง
"หนูต่ายเป็นของเสือ พี่กายอย่ามาแย่งนะ"
พี่กาย นักชกรุ่นพี่อายุสิบห้าปีได้แต่โยกศีรษะของเสือน้อยอย่างเอ็นดู "เออ เอ็งดูแลหนูต่ายของเอ็งดีๆ ละกัน น่ารักยิ่งกว่าผู้หญิง นิสัยดีขนาดนี้ระวังจะมีคนฉกไป"
พี่เสือถึงจะยังเด็ก แต่ก็เข้าใจที่พี่กายพูดทุกคำ รีบวิ่งไปหาน้อง จูบแก้มนวลแล้วไล่มาถึงริมฝีปาก หันกลับไปยิ้มให้หนุ่มคนอื่นๆ
"หนูต่ายเป็นเมียเสือแล้ว!"
ครูเบิ้มที่ยืนดื่มสปอนเซอร์ตรงกรอบประตูข้างๆ สำลักทันใด
"เหี้ย ชิบหายแล้ว! หนูจี๊บบบ ไปหยิบโทรศัพท์มาให้พ่อด่วนจี๋เลยลูกกกกกกกกกก"
ครูเบิ้มจูงเด็กสองคนไปส่งที่บ้าน พร้อมเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง คุณแม่หัวเราะคิกคัก คุณพ่อปั้นหน้าไม่ถูก
"คุณจุ๋ม คือผมไม่เห็นว่ามันตลกนะ" ครูเบิ้มเดือดร้อน หนูจิ๊บ ลูกสาวสุดรักกระตุกชายเสื้อพ่อ
"พ่อเบิ้มๆ ไม่เห็นเป็นไรเลย หนูต่ายเหมาะกับน้องเสือออก หนูจิ๊บอยากให้แต่งงานกัน"
หนูจิ๊บเป็นแฟนตัวยงละครหลังข่าว
คุณแม่กลั้นหัวเราะไม่อยู่ เธอจับลูกชายคนโตนั่งตักพ่อ ลูกชายคนเล็กนั่งตักตัวเอง แล้วถามเสียงอ่อนโยน
"เสือ ทำไมลูกอยากให้หนูต่ายแต่งงานกับลูกครับ"
พี่เสือจ้องหน้าแม่แน่วแน่ คล้ายจะให้สัญญาบางอย่าง "พี่เสือจะอยู่กับต่ายตลอดไป จะปกป้อง ดูแลต่ายเอง" คำพูดเกินวัยของเสือน้อยทำเอาผู้ใหญ่นิ่ง หนูต่ายหน้าแดงไปถึงหู ซุกหน้าตัวเองกับอกแม่
พี่เสือส่งยิ้มให้น้องน้อย แล้วยื่นนิ้วก้อยกลมป้อมให้ "พี่เสือสัญญา"
น้องกระต่ายเงยหน้าขึ้นจากอกแม่ ยิ้มหวานตอบกลับ ใบหน้าหวานแดงเรื่อน่ารัก พยักหน้าตอบ แล้วส่งนิ้วก้อยให้พี่
"จ้ะ"
"พี่เสือรักหนูต่ายนะ"
กระต่ายน้อยเขินจนบิดตัวไปมา "หนูก็รักพี่เฉือที่สุดจ้ะ"
ผู้ใหญ่ในห้องเงียบกริบ คุณพ่อกระแอมเบาๆ แล้วอธิบายเรื่องแต่งงานช้าๆ ให้เข้าใจง่ายที่สุด
พี่เสือได้แต่พยักหน้า อุ้มน้องออกจากตักแม่มานั่งตักตัวเอง "งั้นพี่เสือก็แต่งงานกับน้องไม่ได้ ?"
"ไม่ได้จ้ะ"
"แต่พี่เสือดูแลน้องได้ ?"
ครูเบิ้มพยักหน้าให้ พี่เสือรีบจูบแก้มนวล "งั้นหนูต่ายให้พี่เสือดูแลไปตลอดนะ"
กระต่ายน้อยขี้อายพยักหน้าซื่อๆ "จ้ะ"
แล้วเรื่องกระต่ายน้อยเมียเสือในวันนั้นก็จบลง
___
คำ (ไม่) นำ : คำตาม
ขอบคุณค่ะ

น้ำตาจะไหล มีคนเมนต์ มีคนอ่านด้วย >< ขอบคุณมากๆ นะคะ ทั้งคนอ่าน คนเมนต์เลย ตอนเราเข้ามาเช็ค แทบยิ้ม.... แต่ยิ้มไม่ได้ เพราะมาร์กหน้าอยู่ (กรี๊ด คราวหน้าจะไม่เข้ามาดูตอนมาร์กหน้าแล้ว!)
ดีใจมากค่ะ เพราะขนาดตัวเราเอง หากระทู้ตัวเองยังไม่เจอเลย (อาย =//=) แสดงว่าทุกท่านที่คลิกเข้ามา คงจะมีวาสนากับเราสินะคะ!!
เมื่อวานมัวแต่ตื่นเต้นเอานิยายลงเล้าครั้งแรก เลยลืมแจ้งว่า นิยายเรื่องนี้ขอความอนุญาติอัพตามรายสะดวกนะคะ

ณ ปัจจุบันสถานะเป็นนักเรียนเตรียมสอบ (ปอโท) ค่ะ ทำงานพิเศษไปด้วย ช่วยงานที่บ้านไปด้วย เลยอาจมีบางทีหายๆ ไปบ้าง เราเป็นคนเขียนช้าด้วยค่ะ

แต่ไม่ว่ายังไง ก็จะพยายามอัพให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้นะคะ
ตอนนี้ของพี่เสือน้องต่าย เราชอบครอบครัวนี้มากค่ะ คุณพ่อเหมือนจะเก๊กดุไปแค่นั้นเอง คุณแม่ก็ติสต์ๆ หลุดๆ ตัวละครรอบๆ ตัวสองพี่น้องก็เป็นคนดีๆ เราอยากให้เด็กสองคนนี้โตมาสภาพแวดล้อมดีๆ ค่ะ จริงๆ แล้วคุณพ่อคุณแม่เป็นนักศึกษาหัวสมัยใหม่ เราอยากยัดแนวคิดอะไรอีกหลายๆ อย่างอยู่ค่ะ
สำหรับภาษา จะพยายามมากขึ้นนะคะ เพราะช่วงหลายปีมานี้ เราร้างจากการขีดๆ เขียนๆ ภาษาไทยไปจริงๆ เรื่องคำเชื่อม คำสันธาน คำบุพบทเลยจะขาดๆ หายๆ บางทีอาจพบโครงสร้างเป็นภาษาอังกฤษแทน... = ='' แต่ภาษาอังกฤษเราก็ใช่ว่าจะดี 55ตอนเขียนวิจัยส่งก็ต้องเปิดพวกลิสต์ศัพท์คำเชื่อมเขียนไปด้วย กร๊ากก โชคดีที่ภาษาอังกฤษมีกฏชัดเจน คำเชื่อมก็ไม่เยอะด้วย
ตอบเมนต์ๆ
ตอบคุณ อยากกินไข่พะโล้ โปะ : ขอบคุณมากนะคะที่เข้ามาเจิม เกือบกรี๊ดแน่ะ
ตอบคุณ gcc :

ตบคีย์บอร์ด พยายามปั่นต่อรัวๆๆ
ตอบคุณ PandP : ขอบคุณค่ะ จริงๆ แล้วนอกจากเรื่องน่ารักแล้ว ยังมีอีกฉากที่เราถนัดด้วย (....)
ตอบคุณ mom_mam : ขอบคุณมากค่ะ ตอนใหม่มาเสิร์ฟแล้วค่ะ
ตอบคุณ Zitraphat :

ใจให้ไปค่ะ ขอบคุณที่แวะมานะคะ
ตอบคุณ mach201 : จะพยายามที่สุดเลยค่ะ

ตอบคุณ แมวเหมียว : เราเองก็ช๊อบ ชอบค่ะ ขนาดโชวโจวเรายังชอบอ่านพวกกรงรัก โลลิต้าอะไรแบบนี้เลย =///= เขิลลล
ตอบคุณ Moohwan : ขอบคุณมากค่า จะพยายามให้มันน่ารักต่อไปนะคะ ><
ตอบคุณ Chichi Yuki : ขอบคุณมากค่ะ ดีใจที่รักเด็กแฝดนะคะ (แต่ชีวิตจริงเราเกลียดเด็กนะ

ตอนเขียนต้องไปนั่งสังเกตุน้องค่ะ ซึ่งก็มึนไปหลายวัน)
ตอบคุณ Ra poo : ถูกต้องนะค้า!!! แต่เราขอหยิบมาแค่ชื่อเรื่องค่ะ 55 เนื้อหาจะไปกันคนละทิศเลย แต่ไอเดียเริ่มจริงๆ จากลุงเสือกับน้องต่ายจริงๆ แหละค่ะ
ตอบคุณ BeeRY : ขอกอดด้วยคน

ต่อไปถ้าน้องดื้อก็อย่าโกรธน้องนะคะ TT
ตอบคุณ toye : ขอบคุณค่ะ >< จะแต่งต่อสุดฝีมือนะคะ
ตอบคุณ buathongfin : คุณพ่อหลงลูกมากค่ะ 55 จริงๆ เค้าก็ใจดีนะ แต่แอ๊บดุเท่านั้นเอง
ตอบคุณ dahlia : ขอบคุณมากค่ะ จะพยายามปั่นให้เร็วที่สุดนะคะ
ตอบคุณ honeystar : มาแล้วค่า

ปั่นรัวๆ
ตอบคุณ wan_sugi : ขอบคุณมากนะคะ จะพยายามเช็คค่ะ เพราะเราเขียนในโน้ตแพด (ไม่มีเช็คคำให้) แถมพจนานุกรมที่โตมาด้วยกันก็เป็นฉบับ พ.ศ. 2535 ค่ะ (เอิ่ม...) จะพยายามเช็คคำที่อัพเดทที่สุดนะคะ
ตอบคุณ beer : ส่วนหนึ่งค่ะ 55 ได้อารมณ์ฟีลกู๊ดแบบนั้นเลยค่ะ อยากได้นิยายที่อ่านแล้วไม่ต้องอ่านต่อก็เดาเรื่องได้ (เหะ ?) หรือถ้าไม่อ่านนานๆ มาอ่านใหม่ก็รู้เรื่องน่ะค่ะ
ตอบคุณ uknowvry : เอามือทาบอก หยิบผ้าเช็ดหน้ามัลเบอร์รีออกมาซับน้ำตา ขอบคุณค่าาา
ตอบคุณ e-ga-g : ขอบคุณค่า น้องต่ายน้อยเหมือนจะมีบทน้อย แต่อย่างว่า นางเอกเจ้าน้ำตา(?) ค่าตัวแพงค่ะ 55
ตอบคุณ atblueann : ขอบคุณค่ะ อย่าทิ้งกันไปนะตัวเอง

ตอบคุณ eXcelencia : ตาเสือนี่มีแฟนคลับโด้ยยย 55 ขอบคุณมากนะคะ