“สะโพกร้าวเพราะได้รับแรงกระแทกอย่างแรง ส่งผลให้ขาเปลี้ยไม่มีแรงไปชั่วขณะ ถ้าปล่อยไว้อาจทำให้เป็นอัมพาตได้”ไอ้ฉัดสรุปผลให้ฟัง หลังรับการรักษาอย่างถูกวิธี
“ไอ้ฉัด กูไม่ได้โดนข่มขืนมานะโว้ย”ผมพูดใส่หน้ามัน ถ้ากูดีๆมึงโดนกูแน่
“แล้วตรงไหนที่บอกว่านกโดนข่มขืน”มันถามผมกลับหน้าตาเฉย เรียกชื่อกูซะน่ารักเชียวมึง
“ก็ตรงไอ้แรงกระแทก ขาเปลี้ย เอี้ยอะไรของมึงไง”ผมพยักหน้าใส่มัน
“นกคิดไปเอง หรือว่า ที่จริงแล้ว”มันพูดด้วยรอยยิ้มแสยะในความคิดผม ไอ้ลูกตัวเองกับไอ้ลูกเขยตัวดีอมยิ้ม
“ไอ้ฉัด มึงออกไปเลย รักษากูยังไงเจ็บฉิบหาย มึงแกล้งกูใช่ไหม ฉีดยากูตั้งสามเข็ม”ทำอะไรไม่ได้พาลใส่แม่งเลย
“พ่อ ลุงฉัตรเขาแกล้งที่ไหนล่ะ คิดมากอีกแล้ว”ไอ้หนูเข้ามาสงบศึก
“มึงเข้าข้างมันเหรอ นี่ถ้าตอนนั้นมันได้แม่เอ็ง เมียข้า ไป มึงไม่ได้เกิดมาหล่อและมีผัวแน่”ขุดเรื่องเก่ามาพาลมันพร้อมลูกไปด้วยเลย อยากไม่เข้าข้าง
“ไม่เคยคิดจะแย่งไก่จากนกสักที นกก็รู้”มันพูดเสียงทุ้มทำเอาขนตูดลุก ยิ่งแววตามันที่มองอย่างสื่อให้รู้ว่าไม่เคยคิดจริงๆ
“ระ รู้อะไร กูรู้อะไร ไอ้ฉัด”เกิดติดอ่างซะงั้น
“ก็รู้ว่า ไม่เคยคิดจะแย่ง ไก่ ไง”มันพูดเสียงเดิมแต่เน้น พยักหน้าให้ช้าๆ
“ถึงคิดมึงก็ไม่ได้หรอก เพราะไก่รักกู ฮ่าๆๆๆๆ”ผมไม่รู้จะพูดอะไรเลยตอบแบบนี้ มันจะคิดว่าผมเยาะเย้ยมันไหมเนี่ย
“ก็เพราะรักนี่แหละ ถึงไม่แย่ง”มันตอบกลับมา ทำเอาเงียบกริบทั้งห้อง เพราะรัก มันคงรักไก่ไม่น้อยกว่าผม กูไม่น่าไม่พูดเลย ดูหน้ามันหงอยไปเลย ผมว่าจะขอโทษ แต่มันดันยกยิ้มพูดกลับมาซะก่อน
“เอาเป็นว่า นอนดูอาการสักสองสามวันก่อนนะ อยากกลับบ้านก็ทำตามที่บอก หมอขอตัวก่อน”เมื่อไม่มีใครอ้าปาก มันก็เลยอ้าเอง
“ขอบคุณครับ ลุงฉัตร พ่อไม่เป็นอะไรแน่นะครับ”ไอ้หนูยกมือไหว้พร้อมถามอีกครั้ง
“ดีที่มาทัน คราวหน้าก็ระวังสังขารหน่อยนะ ทำอะไรนึกถึงลูกบ้าง หมอไปล่ะ”มันพูดกับไอ้หนู ก่อนท้ายๆจะหันมาหาผมเต็มๆ เดินออกไปทันที
“ไอ้ฉัดดดดดดดดดด ไอ้เอี้ยยยยยย”ผมโวยวายใส่มัน หลังจากคิดได้ว่ามันเหน็บเข้าให้ กูไม่น่าคิดขอโทษมันเลย ฮึ่มมมม
“พ่อออ ลุงฉัตรเพิ่งบอกแหมบๆ อย่าใช้พลังงานเยอะ”ไอ้หนูบอกผมด้วยเสียงกลั้นขำ ไอ้เฮียปรับเตียงให้ลงไปอีกนิด
“มึงดูมันพูดใส่กูสิ ฝากไว้ก่อนเถอะมึง อย่าเสือกไปบ้านกูนะโว้ย”เมื่อกี้ทำไมกูคิดไม่ทันวะ เดี๋ยวมันต้องเสนอหน้าไปบ้านผมแน่ๆ ไม่มีความเกรงใจ สี่ห้าทุ่มบางทีเช้ามืด เสือกเอาของฝากไปให้กูอยู่ได้ ไอ้หนูกับไอ้เฮียส่ายหน้าขำๆ
“เอาน่า อย่าเพิ่งเครียด นี่ มีอะไรให้ดู”ไอ้หนูเข้ามานั่งข้างๆพูดเอาใจ ผมเหล่มองมันเมื่อนึกว่า มึงจะมาไม้ไหนอีก ก่อนมันจะพยักหน้าให้ผัวมันหยิบไอแพดกดสามสี่จึ๊ก ก็ได้ยินเสียงสดใส ทำเอาหน้าและปากเบ่งบานเมื่อเอามาจ่อตรงหน้า
“ปู่คร๊าบบบบบบบบบบบบบบบ คิดถุงจุงเบยยยยยยยยยยยย จุ๊บ จุ๊บ”ทำปากจู๋ใส่
“ตุลย์ ปู่ก็คิดถึง เมื่อไหร่จะมาวะ”ผมเรียกเด็กในรูปที่ยิ้มแป้น ใส่เสื้อกันหนาวมีฮู้ดตัวใหญ่ ไอ้เฮีย มันส่งลูกไปเรียนไฮสกรู สคูล ที่เมืองนอกตั้งแต่เด็ก อยู่กับน้องมันที่โน่น ปิดเทอมถึงมากันสักที เจอกันตอนแรกผมก็หลงไอ้หลานนอกลำไส้ซะแล้ว มันกลัวไม่ยกลูกให้เล่นเอาลูกมันมาบังหน้า
“ไม่บอก เดี๋ยวไม่เซอร์ไพรส์สสสสสส ปู่รอตุลย์ด้วยนะ ซนหรือเปล่าเนี่ย”ส่ายหน้าไปมา ทำสายตาเจ้าเล่ห์
“ซนอะไรวะ พ่อเอ็งสองคนมันไม่ให้ปู่ทำอะไรเลย มันยึดสมบัติพร้อมอำนาจปู่ไปหมด เซ็ง”ผมทำเสียงทำหน้าใส่ ตุลย์หัวเราะเอานิ้วจิ้มๆ
“พ่อเขาห่วงปู่น่ะสิ แล้วนี่ปูเปลี่ยนวอลล์เปเปอร์ใหม่แล้วเหรอ ห้องขาวจั๊วะเลยอ่ะ”พูดพร้อมเบิ่งตามองแถบจะทะลุจอ
“เปลี่ยนบ้าอะไรล่ะ ปู่อยู่ดีๆพ่อเอ็งก็พามาโรงพยาบาล”ผมยื่นหน้าเข้าไปมั่ง
“คิดถึงปู่ฉัตร อ่ะเด่ะ ครึครึ”นี่พ่องงงมึงสอนหรือไงวะ ไอ้หนูแน่เลย ไอ้เฮียคงไม่กล้าแน่
“เอ็งอย่าเส้นตื้นตามพ่อเอ็ง โดยเฉพาะพ่อคนเล็ก ขอร้อง”ผมบอกพร้อมยกมือโบกไปมา
“อ่ะเคร แล้วปู่เป็นอะไร เจ็บมากหรือเปล่าครับ”ทำมือทำปากพร้อมถามเสียงเป็นห่วง
“ปู่ล้มนิดหน่อย ไม่เป็นอะไรหรอก”ผมบอกหลานที่หลับตาเอามือกุมตรงหน้าอก
“ขอให้ปู่หายเจ็บ หายไข้ ยกเว้นอย่าหายไปจากโลกนี้ โอมเพี้ยงงงงงงงงงงงง”พูดจบพร้อมเป่าใส่ ยิ้มแป้น
“ฮ่าๆๆๆๆ ไอ้หลานคนนี้ อวยพรได้ใจปู่จริงๆ”ผมหัวเราะเมื่อได้รับคำอวยพร
“พ่อดูแลปู่ดีๆนะ ปู่ก็อย่าซนนะครับ แล้วเจอกันนะครับ ปู่ ตุลย์ไปเข้าเรียนก่อนนะ สวัสดีคร๊าบบบบบบบบบบบบบบ”สั่งพ่อมันสองคนก่อนจะยกมือไหว้และวิ่งไปพร้อมหน้าจอค่อยๆดับลง
“มาหาปู่เร็วๆนะ คิดถึง”ผมบอกหลานยกมือบ๊ายบาย รอยยิ้มยังไม่จางจากหน้า ทุกครั้งที่เจอกัน ตุลย์ทำให้ผมนึกหนูตอนเด็ก เวลาที่ได้ดูแล ทำโน่นทำนี่ให้ เป็นเด็กช่างซักช่างถาม
“ไม่คิดจะย้ายลูกกลับมาเรียนที่นี่เหรอวะ ข้าคิดถึง เอ็งไม่คิดถึงหรือไง”ผมหันไปถามไอ้ลูกเขย
“คิดครับ”มันตอบแค่นั้น
“คิดและก็ทำด้วยสิวะ เมืองไทยก็มีที่ดีๆเยอะ อยากได้ภาษาเอ็งก็สอนสิ พูดได้ตั้งเยอะ @#$%*&^^@$$$%%^^ เฮ้อ เหนื่อย กูพูดกับคุณมงคลยังรับฟังซะมากกว่า”ผมบ่นกระปอดกระแปดอย่างทุกครั้ง พวกมันก็อมยิ้มทุกครั้งเช่นกัน
.
.
.
.
“เฮ้อ ค่อยหายใจสะดวกหน่อย ได้กลับบ้านสักที”ผมชูแขนสูดอากาศเข้าเต็มปอด หลังได้กลับบ้าน พอกลับมาปุ๊บ มันสองตัวก็ทิ้งผมไว้กับไอ้รงค์ รีบออกจากบ้าน บอกว่าไปธุระ
“ลุง เดินอีกแล้ว มานั่งก่อน บ้านมันไม่หนีไปไหนหรอก”ไอ้รงค์ส่งเสียงโวยวาย หลังเข้าไปเอาน้ำมาให้ รีบเข้ามาประคองให้ไปนั่ง คงเป็นไอ้หนูสั่งมันไว้
“กูรู้แล้วว่าไม่หนี แต่กูอยากหนีมึงนี่แหละ ไม่อุ้มกูเลยล่ะ”ผมพูดใส่มันที่เงยหน้าขึ้นมามอง
“แล้วไม่บอก ไปยืนตรงนั้นใหม่ ไป”มันพยักหน้าเตรียมจะพาไปที่เดิม
“ไอ้รงค์ ไอ้เชื้อไม่ทิ้งหาง ไอ้ลายทาง กวนตีนเหมือนพ่องงมึงไม่มีผิด”อดจะด่ามันไม่ได้
“ติดลุงนั่นแหละ อย่านะ อย่าขยับเดี๋ยวลมจับขึ้นมา ไอ้หนูเอาฉันตาย”มันพูดก่อนจะยกมือห้ามไม่ให้ผมใช้กำลัง
“ให้กูหายก่อน มึง เออ ว่าแต่พวกมันไปไหนวะ”ผมคาดโทษก่อนจะถามมัน ว่าไอ้สองคนมันรีบไปไหนกัน
“อ้าว ลุงไม่รู้เหรอ”มันทำหน้าใส่ แบบ อะไร เป็นพ่อพวกมันไม่รู้ได้ไง “ไอ้หนูมันลูกลุง พี่เฮียก็ลูกเขย ลุงก็พ่อพวกเขา ไม่รู้ได้ไงว่าไปไหน”ไอ้ฉิบรงค์ กูแค่คิดเสือกแปลความหมายหน้าตัวเองมาบอกกูอีก
“กูพ่องงงงงงงงงงงมันก็จริง แต่ไม่รู้โว้ย”ผมพูดเน้นๆใส่หน้ามัน
“อื้อหือ พ่องงงง มาเต็มหน้าเลย ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน มันโทรบอกให้มาก็มา ขี้เกียจถาม ฉันเห็นว่าเรื่องส่วนตัวไม่อยากยุ่ง”มันเอามือเช็ดหน้าก่อนจะพูดต่อ
“เหรออออออออออ ไอ้รงค์ หน้ามึงมันขึ้น แต่ ส ใส่ เกือกเต็มไปหมด”ผมจิ้มหน้าผากมันจนหน้าหงายไปหัวเราะ ถึงได้คบกับลูกกูได้เพราะบ้าๆบอๆเหมือนกันนี่เอง สุดท้าย ไม่รู้
.
.
.
.
“บ้านเงียบๆวะ มันยังไม่กลับมาอีกเหรอเนี่ย”ผมค่อยๆเดินบนบ้าน ปากก็พึมพำ ก่อนจะได้ยินเสียงจุ๊กจิ๊กๆ ที่ห้องตรงข้ามซึ่งเป็นห้องมันสองคน ตอนแรกของไอ้หนูคนเดียว แต่ตอนนี้พาไอ้เฮียมาเสียวด้วย
“อืม เฮีย จะดีเหรอ”เสียงไอ้หนูนี่หว่า แหบพร่าเชียวมึงเป็นหวัดเหรอ
“ดีสิ”เสียงไอ้เฮียยืนยัน ว่าพวกมันแน่นอน แล้วมึงทำอะไรกันวะ
“แต่มันแคบนะเฮีย”ผมเอาหูแนบประตูฟังเสียงพวกมันที่ซุบซิบกันพลางคิด มึงยังเหลือความแคบอยู่อีกเหรอ โดนยุโรปบุกขนาดนั้น
“เดี๋ยวเฮียขยายออก มันก็กว้างแล้ว”แน่นอนมึงขยายมันก็ต้องกว้าง แล้วมึงจะมาขยายอะไรกันตอนนี้ มึงจะรอกลางคืนไม่ได้หรือไงวะ
“งั้นก็ได้”เสียงไอ้หนูพูดเบาลงคงจะยอม แต่บ้านไม้กลางวันมันก็ลั่นอยู่นะ ผมจะเคาะเตือนพวกมันดีไหม
“ขอบคุณนะ หนูของเฮีย”เสียงระรื่นเชียวนะมึงพอลูกกูยอม
จึก
จึก
ใครมาทิ่มหลังกูทำไมวะ
“ปู่ทำอะไร”
“แอบฟังพ่องงงเอ็งน่ะสิ”
“แอบฟังทำไมอ่ะ”
“มันจะจุ๊กกรูกัน ปู่ว่าจะห้ามอยู่ เอาไว้มืดๆก่อนก็ไม่ได้”
“ตุลย์ฟังด้วยนะ”
“เออ เฮ้ยยยยยยยยยยย”
ผมเออออ ก่อนจะร้องเสียงดัง
“ตุลย์ยยยยยยยยยย”
“คร๊าบบบบบบบบบบบบบบ”
มันส่งเสียงแข่งไม่ต่างจากผม ก่อนจะโผเข้ากอดไม่แรง
“มาเมื่อไหร่ลูก”ผมกอดไอ้หลานรักที่ยิ้มกว้าง
“มาตั้งโดน(นาน)แล้ว ปู่หลับอยู่ตุลย์ไม่อยากกวน ได้แต่หอมแก้มไปสองฟอด ครึครึ”ไอ้ตัวแสบยิ้มกริ่ม ถึงว่าเหมือนมีอะไรมาสัมผัสแก้ม คิดว่าโดนผีเอา เอ้ย ผีอำ
“ปู่หอมคืนบ้าง อืม ฟอดดดดดดดดด”ผมหอมไปสองฟอด ก่อนประตูจะเปิดออกมา
“อ้าวพ่อ เจอกันแล้วเหรอ”ไอ้หนูพูดเหมือนจะตกใจก่อนจะยิ้มเมื่อเห็นไอ้ตัวเล็ก
“เออ เจอแล้ว ถ้าไม่เจอ ข้าได้เคาะพวกเอ็งแน่ ทำอะไรไม่คิด ลูกก็อยู่ ห่วงดูดุ้นกันอยู่นั่นแหละ”ผมหันไปเอ็ดมันสองคนที่ทำหน้าเหรอว่า พ่อด่าทำไมวะ
“อะไรของพ่อ ดูดุ้น”ทำไขเสือนะพวกมึง
“อดฟังเลยอ่ะปู่ เราไม่น่าเสียงดังเลยเน๊าะ”ไอ้ตัวเล็กขัดขึ้นมาด้วยความเสียดาย
“ฟังอะไรครับ ตุลย์”ไอ้เฮียถามลูกมัน
“ก็ฟังว่า พ่อกับพ่อเล็กทำอะไรกันน่ะสิ”เด็กคือสิ่งมีชีวิตที่คิดอะไรก็พูดอย่างนั้น แต่ทำให้ผู้ใหญ่หน้าเหวอได้
“ห๊ะ ทำอะไรกัน เปล่านะ พ่อบอกอะไรหลาน”เด็กไม่เข้าใจความหมาย แต่ไอ้ผู้ใหญ่มันเสือกร้อนตัว
“กูไม่ได้บอก แต่พวกมึงน่ะสิ มัวแต่แคบแล้วขยายอยู่นั่นแหละ กลางวันแสกๆ”ผมกระซิบกระซาบกับมัน
“โอ้ย พ่อเข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้ว ตุลย์ด้วย มานี่เลย”ไอ้หนูพูดกลั้วหัวเราะ ก่อนจะพากันไปจากตรงนั้น
“คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้ หนูกับเฮียจะขยายบ้านออกไปอีก ก็เลยปรึกษากัน ว่าจะขยายส่วนไหนดี เพราะยังไงก็ต้องอยู่กันอีกนาน”ไอ้หนูพูดพร้อมเล่าให้ฟัง
“อ๋อ พวกเอ็งจะขยายบ้าน”ผมพยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่ลูกพูด
“ครับ ผมคิดว่าจะขยายตรงห้องผมนี่แหละ ออกไปอีกสักสองห้อง เป็นห้องนอน แล้วก็ห้องสำรองไว้เผื่อมีใครมาพักที่บ้าน พ่อจะว่าหรือมีความเห็นอะไรไหมครับ”ไอ้เฮียพูดต่อพร้อมขอความเห็น
“ข้าไม่ว่าหรอก จะทำอะไรก็ทำ ก็ดีเหมือนกัน เวลา ตุลย์กับน้องเอ็งมา หรือเพื่อนๆ จะได้ไม่ต้องเบียดเสียดกัน”ผมพูดอย่างเห็นด้วย เวลามากันทีนอนให้เต็มบ้านไปหมด มุ้งมีกี่หลังขนออกมาเต็มที่ ห้องอีกห้องก็ทำที่เก็บของไปซะแล้ว
“ไอ้เรื่องนั้นไม่ได้ลำบากหรอกครับพ่อ แต่เราจะมีสมาชิกมาเพิ่มก็เลยต้องทำ เขาจะอยู่ถาวรเลย พ่อคงไม่ว่านะ”ไอ้เอียออกตัวอย่างเกรงใจ แต่หน้ามันยิ้ม เวลามันทำหน้านิ่งไม่ค่อยมีใครกล้าคุยกับมันเท่าไร ดูมันน่าเกรงขาม แต่เวลายิ้มก็ทำเอาละลาย สาวๆแถวนี้เคลิ้มกันเป็นแถว
“ได้สิ ใครจะมาอยู่วะ กว่าตุลย์จะมาปู่ก็คงหง่อมแล้ว”ผมบอกอย่างยินดี แต่มีต่อยอดหลานนิดๆ อยากให้มันมาอยู่ด้วย
“ไม่หง่อมหรอกปู่ ก็ตุลย์นี่แหละจะมาอยู่ด้วย”ไอ้ตัวเล็กพูดเสียงใส ทำเอาผมหันไปมอง
“จริงเหรอ ตุลย์จะมาอยู่กับปู่”ผมพูดอย่างดีใจ
“จริงสิครับ ตุลย์คิดถึงปู่ม๊ากกกกกมาก เลยขอพ่อกลับมาอยู่เมืองไทย”ไอ้ตัวเล็กกอดผมส่งสายตาออดอ้อน
“ฮ่าๆๆๆ ไอ้ขี้อ้อน ดีเลยปู่จะได้มีเพื่อน เดี๋ยวปู่ไปรับไปส่งเอง ข้าไม่ง้อเอ็งสองคนแล้วโว้ย”ผมหัวเราะขยี้หัวไอ้ตัวแสบ คุยทับไอ้สองคนที่ส่ายหน้า
“แหม ได้หลานลืมลูกเลยนะ”ไอ้ลูกในไส้แต่ยกตับให้คนอื่นกินไปแล้ว ทำเสียงใส่
“อ้าว ก็เอ็งมี ผะ เอ้ย คนนอนเป็นเพื่อนแล้วนี่ ข้ายังไม่มีนี่หว่า”ผมพูดกลับอย่างลืมตัวแต่ดีกลับลำทัน ตุลย์เป็นเด็กฉลาด ผมว่าตุลย์รู้แต่ไม่ได้คิดอะไรมากเหมือนผู้ใหญ่
“ช่ายยยยยย ปล่อยพ่อเขาดูดุ้นกันไปเถอะ ตุลย์จะอยู่เป็นเพื่อนปู่เอง เน๊าะ”ไอ้ตัวเล็กยิ้มแป้น
“ตุลย์”เสียงพ่อพวกมัน
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ดีมากหลานรัก ครึครึ”ผมหัวเราะชอบใจ ก่อนจะเห็นอีกสองคน
“หัวเราะอะไรดังเชียว พ่อ ถูกใจอะไรเหรอ”สิงห์ น้องคนรอง ไอ้เฮีย เรียกผมเต็มปากเต็มคำ
“ดังไปถึงข้างล่าง เดี๋ยวสะโพกร้าวนะคะ พ่อ”กันย์ น้องคนเล็กมันก็เช่นกัน นอกจากลูกเขย หลานชาย ก็ได้ลูกชาย ลูกสาวที่น่ารักเพิ่มมาอีก
“อ๋อ ปู่เขาขำที่ตุลย์บอกจะอยู่เป็นเพื่อน ปล่อยให้พ่อดูดุ้นกันเองต่อไป แค่นี้เอง อา”เสียงเจื้อยแจ้วพูดอย่างไร้เดียงสา แต่พาไอ้คนเป็นพ่อคนเล็กหน้าแดง
“เหรอ ฮ่าๆๆๆๆ เออ ดีๆๆๆ”สิงห์หัวเราะไม่ต่างจากผม กันย์หน้าแดงแต่ก็หัวเราะไปด้วย บ้านคึกครื้นกันอีกครั้ง แน่นอนคืนนี้กว่าจะได้นอนคงเกือบเช้า แต่ผมไม่กลัวหรอกเพราะความสุขมันล้นอก
.
.
.
.
หลังใส่บาตรเช้าพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว ก็กินข้าวเช้ากัน บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เสียงพูดคุย วันนี้เป็นวันมงคล ไม่ใช่สิ เป็นวันมหามงคล วันที่คนไทยทั้งแผ่นดิน รวมถึงคนไทยทั่วทุกมุมโลก รู้ว่าวันนี้เป็นวันอะไร
ครับ
วันเฉลิมพระชนม์พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พ่อหลวงของคนไทยทั้งแผ่นดิน พ่อผู้ยิ่งใหญ่ พ่อผู้มีแต่ให้โดยไม่เคยหวังสิ่งตอบแทน
และถือวันนี้ เป็นวันพ่อแห่งชาติ ในฐานะที่ผมเป็นพ่อคนและก็ยังเป็นอยู่ จนถึง ณ ตอนนี้ ลูกๆกำลังทำสิ่งที่คนเป็นพ่อน้ำตาปริ่ม
“หนูขอให้พ่อมีสุขภาพแข็งแรง อยู่ให้ลูกได้ดูแล เป็นที่พึ่งพาทางใจ ไปนานๆนะพ่อ”ไอ้หนูเอาน้ำล้างเท้าผมอย่างแผ่วเบา ทะนุถนอมราวกับกลัวจะแตก
“หนูจำได้ ตอนเด็กพ่ออาบน้ำให้ พ่อสระผมให้ พ่อ ฮึก ล้างเท้าให้ แม้แต่ก้นพ่อก็ล้างให้ ฮึก นับแต่นี้ต่อไป หนูจะทำให้พ่อบ้าง หนูรักพ่อนะ รักมากที่สุดของทุกๆโลก”มันพนมมือพูดกับผมก่อนจะก้มลงกราบที่ตัก ผมลูบหัวก่อนจะหอม
“พ่อก็รักเอ็ง เอ็งเป็นแก้วตาดวงใจของพ่อ ขอให้เอ็งมีความสุข ความเจริญ ในชีวิต มีทุกข์ก็ขอให้นึกถึงพ่อนะ”ผมบอกกับลูกพยายามไม่ให้เสียงสั่น
“ขอบคุณครับพ่อ”มันก้มลงกราบอีกครั้ง ก่อนไอ้คนที่ผมยอมรับเป็นลูกเขยก็ทำให้ผมไม่ต่างกัน
“ผมขอบคุณที่พ่อให้โอกาสดูแลแก้วตาดวงใจ ขอบคุณที่เมตตาผมและครอบครัวมาตลอด ขอบคุณที่ให้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวพ่อ ผมสัญญาจะดูแลครอบครัวของเราตลอดไป ขอให้พ่อเป็นกำลังใจให้ด้วยครับ”มันพูดจบก็ก้มลงกราบ ผมตบไหล่มันเบาๆ
“ข้าก็ขอบใจที่เอ็งมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ขอบใจทีดูแลและทำตามที่พูดมาตลอด ขอบใจนะลูกนะ”ผมบอกด้วยรอยยิ้ม น้องสองคนก็กราบและอวยพรให้ผม ส่วนไอ้ตัวเล็ก คลานเข่าเข้ามาหาพร้อมพวงมาลัย
“ตุลย์ขอให้ปู่มีความสุขมากๆ ขอบคุณที่ปู่รักและเอ็นดู ขอบคุณที่ให้ตุลย์มาอยู่ด้วย ขอบคุณที่รับพ่อเป็นลูกเขย”พอมันพูดถึงตรงนี้ ทำเอาปล่อยก๊าก
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”
“เดี๋ยวสิ ตุลย์ยังพูดไม่จบเลย”มันท้วงหน้างอปากยื่น
“เอ้า ๆ พูดต่อลูก”ผมยังแอบขำ
“ตุลย์จำได้ว่าครั้งหนึ่งเคยได้อยู่กับปู่ ปู่เคยอุ้ม ปู่ดูแล ฮึก ตุลย์คิดถึงปู่ พอได้เจอปู่ ตุลย์ดีใจมากที่มีปู่ให้ได้กอด มีปู่ให้คิดถึง ฮึก ฮือออออ”ไอ้ตัวเล็กพูดเสียงมั่นคง จนเสียงเครือ จนปล่อยโฮ อย่าว่าแต่เด็กเลย ผู้ใหญ่ในนี้ก็น้ำตาคลอ
“โอ๋ ๆๆๆๆ ไม่ร้องลูก ไม่ร้อง ตุลย์เป็นเด็กดี ปู่ก็รักตุลย์ กลับมาอยู่กับปู่นะลูกนะ”ผมดึงไอ้ตัวเล็กมากอดอย่างรักใคร่
“ครับ ตุลย์กลับมาแล้ว ตุลย์รักปู่นะ”พูดจบก็คล้องมาลัยที่แขน หอมแก้มผมสองข้าง พร้อมกอดไม่ยอมปล่อย
“พ่อก็ขออวยพรให้ลูกๆทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง จะได้ดูแลพ่อไปนานๆ ขอให้มีความสุข ความเจริญ คิดดี ทำดี นะลูกนะ”ผมอวยพรให้ลูกและหลาน ก่อนทุกคนจะเข้ามากราบที่ตักและโอบกอดผมเอาไว้ ช่างเป็นอ้อมกอดที่มีความสุขจริงๆ
.
.
.
.
ตอนนี้พวกเรายืนตรงลานบ้าน ในมือมีเทียน พร้อมเสียงที่เปล่งร้อง สรรเสริญพระบารมี ให้พ่อหลวงของเรา พ่อที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจให้ลูกๆในแผ่นดินอยู่อย่างมีความสุข พ่อที่ไม่เคยย่อท้อ ให้บุกป่าฝ่าดง น้ำท่วม หรือภัยอะไรก็แล้วแต่ พ่อผู้ก็รีบฝ่าไปทันทีโดยไม่รีรอ พ่อที่ทั้งชีวิตไม่มีใครรู้ว่า วันหนึ่งได้หลับกี่ชั่วโมง วันหนึ่งได้พักเพื่อความสุขส่วนตัวบ้างหรือเปล่า พ่อที่แม้ยามเจ็บป่วยก็ยังห่วงลูกไม่เสื่อมคลาย ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหน พ่อผู้ยิ่งใหญ่พระองค์นี้ก็ไม่เคยทอดทิ้ง แล้วลูกๆในแผ่นดินนี้ล่ะทำอะไรให้พ่อพระองค์นี้บ้าง เชื่อเถอะพระองค์ไม่เคยขอสิ่งที่เป็นวัตถุ พระองค์ขอแค่ให้รักและสามัคคีกัน
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ***********************************************************************************************************************
วันพ่อคงไม่ต้องบอก ว่าต้องทำอะไร ลูกทุกคนย่อมรู้อยู่แล้ว คนเขียนขอให้พ่อทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง นะคะ เจอกันอาทิตย์หน้านะคะ เดินทางกลับไปหาพ่อด้วยความปลอดภัยนะคะ

ปล. คำว่า ฉัด ไม่ได้พิมพ์ผิดนะคะ เป็นการออกเสียงแบบประชดของพ่อนกเขา และมีคำวิบัติบ้างนิดหน่อยจ๊ะ
