>>**ปล้นร้ายกลายรัก**<< "เรือนจำเปิด" หน้า 167 (17-03-59 )
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: >>**ปล้นร้ายกลายรัก**<< "เรือนจำเปิด" หน้า 167 (17-03-59 )  (อ่าน 1625028 ครั้ง)

ออฟไลน์ goonglovenut

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1188/-10
>> ป.33 <<

‘รัก’

‘รัก’

‘รัก’

‘หนูรักเฮีย’

‘รักเฮีย’

‘หนู เฮียรักหนู รัก’
 
‘สัญญา ว่าจะกลับไปหา เฮียต้องอึด ห้ามตาย ไปบอกพ่อว่าเฮียทำอะไรหนู สัญญา สัญญาสิ’

‘สัญญา เฮียสัญญา’

‘ดูแลมันด้วย มีมันอยู่ด้วยเฮียจะไม่ตาย หนูจะรอ รักเฮีย’

‘ครับ รักหนู เฮียรักหนู’

ผมปาดน้ำตาที่ไหลออกมา หลังจากทบทวนคำพูดและเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนตอนนี้ผมอยู่บนเฮลิคอปเตอร์กับคุณตำรวจ เพื่อกลับไปหาคนที่ผมคิดถึงและรักสุดหัวใจ ‘พ่อ’ ใช่ ในที่สุดผมก็ได้กลับไปหาพ่อจริงๆ ตามที่เฮียสัญญา แต่ผิดแค่คนสัญญาไม่ได้พาไปเอง ผมสับสนไปหมด ดีใจที่ได้กลับ แต่อีกใจก็โกรธคนส่งกลับ ผมโกรธเฮียทำไม โกรธเรื่องไม่ได้มาส่งตามสัญญา โกรธเรื่องหลอกแกมบังคับให้กลับพร้อมคุณตำรวจ โกรธที่ไม่ให้ผมอยู่ด้วยทั้งที่สัญญากันแล้วว่าเราจะอยู่และตายไปพร้อมกันถ้าเกิดอะไรขึ้น โกรธทั้งที่รู้ว่าเฮียทำไปทั้งหมดก็เพราะ ‘รัก’ อยากให้ผมกลับบ้านไปหาพ่อ ไปใช้ชีวิตแบบที่เคยใช้ อยากให้ผมปลอดภัยไม่ต้องเผชิญกับอันตรายที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ผมอยากจะอคติว่าเพราะผมเป็นภาระของเฮียมากกว่าถึงได้ทำแบบนี้ เฮียเลว ทำเป็นพูดสวยหรูดูดี กูไม่เชื่อหรอก

สุดท้าย

ผมก็รู้ว่ามันไม่ใช่ เพราะเฮียไม่ใช่คนแบบนั้น ถ้าเฮียเห็นผมเป็นภาระ เป็นตัวถ่วง เป็นตัวซวย เฮียจะเสียเวลากับผมทำไมตั้งนาน จะดูแลปกป้องแม้กระทั่งเอาตัวเองเข้ามาเสี่ยงในทุกอย่างที่เกี่ยวกับผมเพื่ออะไร สรุปตรงกับใจที่สุด เพราะเฮียรักผม และผมก็รักเฮีย ผมคิดถึงตอนนี้ก็น้ำตาไหลให้ปาดอีกแล้ว ป่านนี้เฮียจะเป็นยังไง นายจะทำโทษเฮียไหม

นั่นสิ!

 ผมหายมาอย่างนี้นายต้องสงสัยแน่ ?

เฮียจะถูกลงโทษ!

“ผมจะกลับไปที่นั่น”ผมหันไปพูดกับคุณตำรวจที่นั่งเหม่อไม่ต่างกันจนเขาสะดุ้ง

“อะไรนะ คุณหนู”เขาดูจะตกใจกับคำพูดผม

“ผมจะไปหาเฮีย พาผมกลับไปหน่อย”ผมพูดกับเขาพร้อมพยักหน้าว่าให้ ฮ. ยูเทริน์หน่อย

“ไม่ได้ ผมทำอย่างนั้นไม่ได้”เขาปฏิเสธทันที คิ้วขมวด   

“ทำไม คุณก็อยากไปหาไอ้เบียร์ไม่ใช่เหรอ อ๋อ ใช่สิ คุณกลับไปได้นี่หว่า เฮียจะช่วย คุณเลยไม่ฟังผม ไม่ช่วยผมใช่ไหม”ผมถามเขาเสียงเริ่มดัง นี่ก็อีกคนไม่รู้จะมาทำไม มาไม่รู้จักเวล่ำเวลา มาตอนกูไม่อยากกลับ ผมคิดอย่างพาลๆ ลืมทุกอย่างในตอนนี้ ห่วงเฮียอย่างเดียว

“คุณหนู”เสียงคุณตำรวจเข้มขึ้น ส่ายหน้าเอือมๆใส่ผม ถ้าเป็นเฮียจะไม่ทำหน้าแบบนี้ เฮียจะยิ้มพูดอ่อนโยน ใช่สิผมไม่ใช่ไอ้เบียร์แฟนเขาสักหน่อย กูชักเริ่มจิตตกเหมือนผู้หญิงประจำเดือนไม่มาแล้ว

“พาผมกลับ ผมจะไปหาเฮีย เฮียจะโดนทำโทษ คุณไม่รู้หรอกว่าเฮียจะโดนอะไร”ผมจับแขนเขาพูดพร้อมเขย่า

“ผมทำไม่ได้ ผมรับปากเขาแล้วว่าจะส่งคุณให้ถึงมือพ่อ เขาไม่เป็นอะไรหรอก”คุณตำรวจฟังไม่รู้เรื่องพูดปลอบผม

“เป็นสิ นายต้องสงสัย นายต้องถาม นายสงสัยคุณด้วย เฮียต้องเดือดร้อน คุณได้ยินไหม”ผมแผดเสียงใส่เขาอีก อย่างไม่สนใจว่าเขาจะหูหนวก หน้าเป็นขี้กลากเพราะการกระจายของน้ำลายผมก็ช่างหัว

“ใจเย็นสิ มีสติหน่อย เขาทำเพื่อคุณนะ เขาต้องคิดดีแล้ว และสั่งห้ามผมพาคุณกลับไม่ว่าจะยังไงต้องส่งคุณถึงมือพ่อให้ได้ผมตกลงกับเขาแล้ว”คุณตำรวจบอกให้ผมใจเย็นมีสติ ทั้งที่หน้าดูจะเสียสติกว่าผมอีก ผมเสียงดังรัวเร็ว

“โกหก เฮียไม่ได้สั่งห้ามพาผมกลับ เฮียสั่งแค่ให้ส่งถึงมือพ่อ เห็นไหมแค่นี้คุณก็โกหกผมแล้ว”ถ้าเขาเสียสติผมก็คงหน้ามืดตามัวหูตึงจนมึนไม่ฟังอะไรทั้งนั้น จะไปหาเฮียอย่างเดียว จนผมลืมไปว่าเขาอาจตบผมให้มีสติแบบในละครก็ได้

“เฮ้ย ดื้อจังวะ”เขาหลุดทั้งเสียงและสีหน้า แต่ไม่หลุดฝ่ามือติดมาด้วย

“คุณนั่นแหละดื้อ ไม่ฟังเหตุผลผมสักนิด เอางี้ ผมแจ้งความก็ได้ ว่ามีคนได้รับอันตรายให้คุณไปช่วย ตกลงไหม”ผมพยายามตั้งสติคุยกับเขาอย่างใจเย็นที่สุด เขาอ้าปากหวอ

“คุณหนู คุณจะบ้าเหรอ นั่นนักโทษนะ”เขาพูดพลางส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย หรือไม่ก็คิดว่าผมบ้าไปแล้ว

“นักโทษไม่ใช่คนหรือไงวะ ขนาดหมอยังช่วยหมดไม่แบ่งแยกอาชีพเลย”ผมเถียงเขาออกไปอีก

“มันไม่ใช่อย่างนั้น ผมไม่ได้แบ่งแยก แต่คิดดูนะตอนนี้คุณเป็นเจ้าทุกข์ถูกจับไปเป็นตัวประกัน นั่นก็ความผิดเขากระทงแล้ว ละ”เขาส่ายหน้าพลางอธิบายเหตุผลให้ผมฟัง แต่ยังไม่ทันจบดี

“ผมไม่ได้แจ้งความสักหน่อย และไม่เอาเรื่องด้วย ทีนี้จะกลับไปช่วยเฮียได้หรือยัง”ผมโพล่งขัดเขาออกไปทันที ผมไม่เอาเรื่องเฮียเด็ดขาด แถมจะบอกว่าเฮียดูแลผมดีโคตรของโคตร

“เฮ้อ คุณหนู”คุณตำรวจถอนหายใจอย่างไม่รู้จะพูดอะไรอีก นี่ผมผิดขนาดทำให้โลกร้อนเลยเหรอ แค่อยากกลับไปช่วยเฮีย

“เรียกหนูก็พอ ไม่ต้องเติมคุณให้ดูสถุลหรอก”ผมบอกเขาเนือยๆเหมือนกัน หันกลับไปพิงพนักมองท้องฟ้าที่กว้าง แต่ต่อให้แคบผมก็ไม่เห็นเฮียอยู่ดี

“งั้นก็เรียกผมสิบ ไม่ต้องเติมตำแหน่งให้ดูกากดีไหม”เขาพูดเหมือนจะขำกลับมาบ้าง ผมเหล่มอง

“สิบเฉยๆคงไม่ได้ ไอ้เบียร์แก่กว่าผมยังเรียกคุณพี่เลย”ผมพูดอีกแต่ไม่หันไปมอง บอกให้รู้ว่าเขาแก่กว่า ได้ยินเหมือนเขาจะหัวเราะในลำคอ

“แล้วแต่คุณ เอ้อ หนู แล้วกัน”เขาตามใจ ถ้าผมเติม ไอ้ คงได้สิ เสียงกลั้วหัวเราะเงียบ ก่อนจะจับไหล่หผมให้หันไปหาเขา นี่เขารู้ว่าผมคิดจะเรียกเขาว่า ไอ้ เหรอ ถึงได้ทำหน้าเข้มใส่

“ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่คุณไม่เอาเรื่อง มันอยู่ที่เขามีคดีติดตัวอยู่แล้ว แต่แหกคุกออกมาเป็นการเพิ่มคดีเข้าไปอีก แถมเป็นคดีใหญ่ด้วย พวกนั้นทั้งหมดรวมทั้งเบียร์กำลังถูกทางการตามตัวอยู่”เขาพูดช้าน้ำเสียงเรียบแต่แววตาสั่นไหวเมื่อพูดถึงคนที่เขารัก

“เฮียกับพวกจะโดนจับตายไหม”ผมถามอย่างเป็นกังวล ห่วงคนที่ตัวเองรักเหมือนกัน

“ถ้ามอบตัวก็ไม่ แต่ถ้าคิดสู้ก็ต้องปะทะ ต้องมีการสูญเสียทั้งสองฝ่าย”คุณตำรวจสีหน้าสลดลงเมื่อพูดตอนท้าย

“แต่เฮีย เบียร์ ไอ้รัน เป็นคนดีนะ คุณจะปล่อยให้ไอ้เบียร์มันตายเหรอ”ผมส่ายหน้าพูดใส่เขา ที่ส่ายหน้าทันที

“ผมไม่มีวันให้เบียร์เป็นอะไร จะปกป้องถึงที่สุด แต่ตอนนี้เราทำได้แค่พยายามพูดให้เขามอบตัวให้ได้”คุณตำรวจพูดเสียงจริงจังรวมทั้งสีหน้าดึงผมเข้าพวกไปด้วย

“ผมพูดแล้ว แต่เฮียบอกยังไม่ถึงเวลา ไม่รู้ว่าเฮียรออะไร”ผมตอบเสียงเบาลง นึกถึงที่เคยขอร้องเฮีย แต่เฮียก็บอกแบบนี้ด้วยสีหน้านิ่งแฝงอ่อนโยน จนผมไม่อยากจะบีบให้เฮียอึดอัดใจไปมากกว่านี้ ได้แต่ภาวนาในใจขอให้เวลาของเฮียมาถึงสักที ถึงแบบไม่มีอันตราย ถึงแบบที่จะได้กลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติสักที

“คุณหนู ตอนนี้ผมจะไม่ถามอะไรหรอกนะว่าคุณรู้อะไรมาบ้าง ผมไม่อยากฉวยโอกาส ผมจะทำตามที่รับปากเขาไว้เท่านั้น”คุณตำรวจยกยิ้มพูดกับผมที่มองเขาอย่างรู้สึกทึ่ง นี่คงเป็นเหตุผลที่เฮียฝากผมกับเขา 

“เขาอยากเห็นคุณปลอดภัย อยากเห็นคุณกลับบ้านไปหาพ่อ แล้วคุณจะทำลายความหวังดีของเขาเหรอ ถ้าคุณกลับไปสิ่งที่เขาทำมันก็สูญเปล่า สู้กลับไปรอเขาไม่ดีกว่าเหรอครับ”เขาเกลี้ยกล่อมผมอีก ยกเหตุผลที่ผมรู้อยู่แล้วว่าเฮียทำไปเพราะอะไร ทำไมผมจะไม่รู้

“แล้วถ้าเฮียไปกลับมาล่ะ”ผมถามถึงสิ่งที่ยังไม่เกิด และภาวนาว่าไม่ให้เกิด แม้แต่กับคนพวกนั้น ผมอยากให้พวกเขากลับตัวกลับใจมามอบตัว ถ้าเป็นไปได้

“เขาเป็นคนชอบโกหกเหรอ”คุณตำรวจถามผม หยิบทิชชู่ส่งให้ผมซับน้ำตาที่ไหลออกมาอีกแล้ว

“ไม่ เฮียไม่เคยโกหก”ผมส่ายหน้าตอบอย่างมั่นใจมาก เหมือนรู้จักเฮียมาตั้งแต่เกิด

“งั้นเขาต้องกลับมาแน่นอน เขาสัญญาแล้วนี่”คุณตำรวจยิ้มอย่างใจดี

“ใช่ เฮียสัญญา”ผมพยักหน้าพร้อมพูดพึมพำ ก่อนจะก้มหน้าพูดต่อสีหน้ากังวลตามเดิม“ผมกลัว กลัวเฮียจะถูกนายทำโทษ เฮียรับปากนายว่าจะรับผิดแทนผมทุกอย่างตอนที่อยู่โน่น”

“เขาไม่โดนแน่นอน ดูแล้วเฮียของหนูจะสำคัญอยู่ และพี่คิดว่าเขาคิดดีแล้วที่ทำแบบนี้”เขายิ้มพูดเพิ่มความมั่นใจให้ และสรรพนามเปลี่ยนไปอย่างเร็ว ผมพยักหน้า คิดว่าผมไม่ควรอ่อนแอ ควรจะเข้มแข็งและอดทนเข้าไว้ ในเมื่อเฮียสัญญาแล้วผมก็ควรจะเชื่อเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ผมยิ้มก่อนจะเช็ดน้ำตาให้แห้งสนิท ยังมีอีกคนที่ผมต้องให้เห็นว่าผมสบายดี

“ดีแล้ว พ่อนกคิดถึงหนูมากนะ เขียนจดหมายไปร้องไห้ไป พี่แอบเห็นจะเข้าไปปลอบแต่คิดว่าจะเป็นการขัด ถ้าเห็นหนูพ่อนกต้องยิ้มออกแน่”พี่สิบเปลี่ยนมาคุยเรื่องพ่อ ทำเอาผมเกือบต่อมน้ำตาแตกอีกแล้ว โธ่ ไอ้พี่สิบมึงจะพูดให้กูบลิ้วทำไมวะ จะเปลี่ยนเรื่องทั้งทีก็ให้มันเซ้นซิทีฟไกลตัวหน่อยสิ ดูแกจะรู้ตัวยิ้มเจื่อนๆ

“พี่ขอโทษนะ แค่อยากให้หนูสบายใจ”แกเกาหัวแกรกๆ ทำเอาผมยิ้มออกมา

“ไม่เป็นไร ผมเห็นตั้งแต่ในจดหมายแล้วจิ้นตามก็รู้ว่าพ่อร้องไห้แน่นอน เราไม่เคยแยกกันนานขนาดนี้”เพื่อให้แกไม่รู้สึกผิดผมเลยตบไหล่แกเป็นการปลอบใจพอกับที่แกขยี้หัวผมเป็นการตอบแทน

“ตั้งแต่แม่ตายเราก็อยู่กันสองคนมาตลอด จนกระทั่ง ฮึฮึ นั่นแหละ”ผมพูดต่ออีกนิดก่อนจะหยุดเมื่อรู้ว่าจะวกกลับไปเรื่องเศร้าอีกแล้ว

“พี่เชื่อว่ามันจะจบลงด้วยดี”พี่สิบพยักหน้ากับผม

“อืม ผมก็หวังให้เป็นเช่นนั้น”ผมพยักหน้ากลับเช่นกัน ก่อนคุณนักบินจะพูดว่า ถึงชายแดนแล้ว พี่สิบบอกว่าเขาไว้ใจได้เขาจะไม่ทำอะไรโดยไม่มีคำสั่ง คนเราทุกคนก็มีหน้าที่ของตัวเอง ยิ่งผมเห็นทหาร ตำรวจ หรือแม้แต่ครูตามชายแดน ทำให้ผมรู้สึกนับถือในตัวพวกเขามากที่เสียสละความสบายส่วนตัวไปลำบากและสร้างประโยชน์เพื่อส่วนรวม ผมคงทำอะไรมากไม่ได้นอกจากขอให้พวกเขาทำสำเร็จในหน้าที่อันมีเกรียติ และขอบคุณที่ช่วยปกป้องให้พวกเรามีความสุข  รวมถึงเฮียด้วยถ้าสิ่งที่เฮียต้องทำมันไม่ผิดต่อประเทศชาติหรือผิดต่อใคร ผมก็ขอให้เฮียและพวกปลอดภัย แต่ถ้ามันผิดผมก็ไม่ขอให้เฮียและพวกเป็นอะไร ขอให้กลับตัวกลับใจมามอบตัว ผมพร้อมจะรอและอยู่ข้างเฮียเสมอ
.
.
.
.
.
“เดี๋ยวหาอะไรกินกันก่อน กว่าเครื่องจะออกก็เกือบสี่ทุ่ม”พี่สิบพูดกับผมเมื่อมาถึงสนามบินของจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือ  ผมเคยขึ้นเครื่องบินอยู่ไม่กี่ครั้งใช้เฉพาะเวลากลับบ้านแบบเร่งด่วน แต่ถึงไม่เร่ง พ่อก็มักไม่ค่อยให้ผมขับรถกลับเอง ตอนที่ยังทำงานอยู่กรุงเทพฯ มีอยู่ครั้งหนึ่งฮามาก ก่อนกลับบ้านช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ่อกับอาเหมารถบาสปรับอากาศมารับผมกับเพื่อนถึงที่เลย แม้แต่ใครที่ไปทางเดียวกันจะอาศัยไปลงด้วยก็ได้ ฟรี กว่าจะส่งครบบ้านปาไปหนึ่งวัน แต่เฮฮาสนุกมาก แถมได้ของฝากเต็มรถ นึกแล้วผมก็ขำ ทำให้รู้สึกดีขึ้น อีกนิดเดียวแล้วสินะ ผมจะได้เจอหน้าพ่อแล้ว

“ยังไงก็ได้”ผมตอบรับ ก่อนจะกอดกระเป๋าสะพายใบใหญ่ที่ใส่ของสำคัญอยู่ เฮียเตรียมเอกสารเดินทางให้ทุกอย่าง แม้กระทั่งแว่นตาดำกับหมวกแก็ปแต่ผมไม่ได้สนใจดูหรอกมัวแต่คิดโน่นคิดนี่ คิดว่าผมเป็นดารานักร้องหรือไงก็ไม่รู้ต้องปกปิดด้วย ผมนึกถึงสิ่งที่กำลังใส่อยู่ตอนนี้ พี่สิบบอกว่าเฮียไม่ให้ขับรถไปเอง ให้เดินทางปะปนกับผู้คน กันคนติดตาม เฮียรู้ว่าตอนนี้มีคนจับตามองเฮียกับพวกอยู่ กลัวผมจะได้รับอันตรายไปด้วย เหมือนตอนที่เราไปทำบุญด้วยกัน ทำให้ผลบุญยังช่วยเราอยู่บ้าง

“เออ พี่ยังไม่ได้บอกหนูอย่างหนึ่ง แต่หลังกินข้าวก่อน”พี่สิบแต่งตัวไม่ต่างจากผม เคราที่เฮียเคยเหน็บแกก็เนียนกว่าเดิม แกคงไม่จี้เส้นใช้กาวตราช้างอย่างที่เฮียแนะนำหรอกนะ ไม่งั้นหนังหน้าแกติดออกมาแน่

“อืม”ผมพยักหน้าตามเดิม ก่อนจะลุกเดินไปร้านอาหารไม่ไกลจากสนามบินมากนัก คนไม่พลุกพล่าน คงเพราะเป็นวันธรรมดาด้วยล่ะมั้ง

“หนูเคยมาเที่ยวที่นี่ไหม”พี่สิบถามผม มือก็พันเส้นขนมจีนราดน้ำเงี้ยวเข้าปาก มีไส้อั่ว พริกอ่อง แคปหมู ข้าวเหนียว

“เคย มากับพ่อและก็เพื่อน”ผมตอบจิ้มไส้อั่วตามด้วยข้าวเหนียว “เชียงใหม่ก็ยังสวยคงที่ แต่เจริญมากขึ้น”ผมพูดต่อเมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลง ความเจริญไม่ใช่สิ่งผิด ผิดที่ไม่รู้จักรักษากันเอง

“นั่นสิ กินๆ เดี๋ยวก่อนกลับพี่ต้องพาหนูไปทำอะไรก่อน”พี่สิบเลิกคิ้วเห็นด้วย ก่อนจะพยักหน้าให้กินต่อแถมพูดแอบแฝง ทำเอาเงยหน้าอ้าปากค้างทันที

“เฮ้ยๆ ไม่ใช่อย่างที่คิด”พี่สิบเห็นหน้าผมรีบปฏิเสธทันที

“ผมไม่ได้คิดอะไรนะ”ผมรีบพูดกลับเหมือนกัน กลัวแกจะหาว่าผมคิดลึก

“เหรอ”แกทำเสียงล้อ ก่อนจะกินต่อ ท่าทางจะกวนไม่ใช่เล่น ดูแกอารมณ์ดี มิน่า อยู่กลับไอ้เบียร์ได้ พูดแล้วก็คิดถึงมัน ไอ้รันด้วย เอาเถอะเดี๋ยวก็ได้เจอกัน
.
.
.
.
“มาทำไรพี่”ผมถามพี่สิบทันทีหลังลงจากรถสองแถว มาหยุดหน้าห้างแห่งหนึ่ง ผมรู้เวลาเหลือเฟือ แต่ไม่ได้มีอารมณ์จะมาเดินห้างนะโว้ย ถ้าเฮียรู้หน้าจะเป็นริ้วรอยขนาดไหน จากกันไม่ทันข้ามวันกูเดินเที่ยวห้างสบายใจเฉิบกับผู้ชายคนอื่น

“เออน่า เข้าไปก่อน”พี่สิบพยักหน้าแตะแขนผมเชิงให้เดินเข้าไปข้างใน หรือแกจะซื้อของไปฝากไอ้เบียร์ งั้นผมซื้อคอลลาเจนฝากเฮียด้วยดีกว่ารู้สึกว่าใกล้จะหมดแล้ว ผมบังคับให้เฮียกินเองแหละ เสียของ พูดถึงเฮียคิดถึงอีกแล้ว แต่ไม่ได้ หนูต้องอดทนเข้มแข็งเข้าไว้ ผมคิดและฮึดจนมาหยุดหน้าร้าน

“หมายความว่าไงพี่สิบ”ผมถามแกที่อมยิ้ม ก่อนจะดันเข้าไปในร้าน

“เชิญค่ะ”พนักงานสาวสวย อึ๋ม ยิ้มพร้อมยั่วยวน เอ้ย เชื้อเชิญ กลับไปอีกทีกูจะฟ้องไอ้เบียร์

“ไม่ พี่สิบบอกก่อน จะทำอะไร”ผมรั้งทั้งตีนทั้งมือไม่ยอมเข้า จนกว่าแกจะบอกเหตุผล พนักงานมองเราสองคนเอียงคอยิ้มๆ พิ่สิบหันไปทำมือขอเวลาสักครู่ จากนั้นโค้ชก็พานักกีฬาอย่างผมเดินมาอบรมตรงมุมหนึ่งที่ไม่มีคน

“คืออยากให้หนูเปลี่ยนตัวเองสักพัก จนกว่าเรื่องจะคลี่คลาย”พี่สิบเริ่มเกริ่น ผมเลิกคิ้วให้พูดต่อ“ความจริงไม่ใช่ความคิดพี่หรอก เฮียของหนูต่างหากที่เสนอ”ผมขมวดคิ้วทันทีเมื่อได้ยินจบประโยค หรี่ตาว่าใส่ร้ายเฮียวิตถารหรือเปล่า อยู่กันจนโดน(นาน)เพิ่งจะคิดได้ให้แต่งหญิงหรือไง และจะแต่งเพื่ออะไรในเมื่อตอนนี้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน

“เขาอยากให้หนูปลอมตัวเป็นผู้หญิง คิดว่าคงจะกันไว้ก่อนมั้ง เผื่อมีใครตามหาตัวหนู ตอนแรกพี่คิดว่าเขาคิดมากไปหรือเปล่า แต่คิดอีกทีก็เห็นด้วยนะ”พี่สิบบอกเหตุผลเหมือนจะไม่เห็นด้วยแต่สุดท้ายก็คล้อยตาม คงจะเจอสายตาประมาณว่า กูไม่ได้คิดมาก กูคิดเยอะแถมลึกด้วย

“ทำไมเฮียไม่บอกผมเอง”ผมยังสงสัยอยู่ดี กลัวผมไม่ทำเอาเฮียมาอ้างหรือเปล่า

“ก็หนูโกรธเขาอยู่ไม่ใช่เหรอ”พี่สิบเลิกคิ้วถามยิ้มๆ

“ต้องทำใช่ไหม”ผมถามย้ำ

“แล้วแต่หนู พี่ไม่มีปัญหาหรอก แต่ทำก็ดี เฮียของหนูจะได้สบายใจ”พูดเชิงล้อเลียน

“เยอะกว่าเฮียอีก”ผมว่าแกกลับแยกเขี้ยวใส่

“เอาน่า ตกลงปลอมนะ”ไอ้พี่สิบสรุป

“พี่อย่าเรียกปลอมตัวเลย มันดูเวอร์ไป”ผมพูดพร้อมส่ายหน้า

 “แล้วจะเรียกอะไร แปลงเพศหรือไง”พี่สิบหันมาล้อไม่เลิก

“พี่จะเยอะตามริ้วรอยบนหน้าไปถึงไหนวะ”ผมพยักหน้าว่าแกทำเอาหุบยิ้ม เมื่อโดนเหน็บ ก่อนจะวกเข้าเรื่อง

“ผมพูดตามตรงไม่อยากทำว่ะ”ผมรู้สึกยังไม่เห็นด้วยอยู่ดี มันต้องดูตลกแน่ๆ  แกเลิกคิ้วแล้วจะเอายังไง

“เอาเป็นว่าผมจะ COVER ให้แล้วกัน ตามนี้”ผมตัดสินใจไม่ปลอมตัวแต่ COVER แทน แกขมวดคิ้ว

“แล้วมันต่างกันตรงไหนวะ”แกทำหน้าใส่

“ไม่รู้”ผมขี้เกียจจะอธิบายไปมากกว่านี้ เดินกลับไปที่ร้านตามเดิม หลังจากตกลงกันได้ว่าจะทำการ COVER

“เชิญค่ะ”พนักงานสาวเชิญอีกครั้ง ก่อนจะพาเดินไปตรงแถวเสื้อผ้าผู้หญิง

“พี่สิบ ไม่ต้องนุ่งกระโปรงก็ได้มั้ง”ผมชักเริ่มไม่มั่นใจ แต่ล่ะตัวพลิ้วไสวลายดอก ลายสก๊อต ลายจุด ลาย(บาง)ขวาง

“เลือกไว้สักสองสามชุดแล้วกัน ช่วยเลือกให้ด้วยครับ”พี่สิบบอกผมก่อนจะหันไปทางพนักงานให้ช่วยเลือก

“เอ้อ แล้วคนใส่รูปร่างแบบไหนค่ะ จะได้จัดให้ถูก”พนักงานถามเสียงหวาน

“นี่ไงครับ คนใส่”พี่สิบดึงผมไปโชว์ตัว คนขายมองก่อนจะอมยิ้ม

“อ๋อ แต่น้องเขาเป็นทอมที่หล่อนะคะ หล่อมากด้วย ถ้าไม่บอกว่าทอม ดิฉันนึกว่าผู้ชายซะอีก”พนักงานขายถึงบางอ้อ พร้อมแจงรายละเอียดตามความเข้าใจ ซึ่งเจ๊เข้าใจถูกแล้ว แต่กูฟังเริ่มสับสนว่าตอนนี้ครองสถานะเพศไหนกันแน่

“น้องรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาว เหมาะกับทุกสี เอาเป็นเดรสยาวดีกว่าค่ะ ถ้าสั้นไปน้องจะเขินได้เพราะไม่ชิน”จะสั้นจะยาวผมก็ไม่ชินหรอกเจ๊นอกจากชุดนางเอกลิเกของแม่ก็ไม่เคยใส่ชุดผู้หญิงอีกเลย พนักงานขายจับชุดมาทาบตัวผม บอกเป็นเม็กซี่เดรส สายเดี่ยว ลายน้ำเงินสลับขาว ยาวเกือบกรอมเท้า อีกชุดเดรสพิมพ์ลาย ระบายตรงอก ถ้าเป็นสาวๆใส่คงจะน่ารักและมีความสุขกับการเลือกของสวยงาม

“ไปค่ะ เดี๋ยวดิฉันช่วยใส่ให้ ดูจะไม่ค่อยถนัดแน่เลย”พนักงานขายหวังดี แตะแขนเตรียมพาเข้าห้องลอง

“เอ้อ ไม่เป็นไรครับ ผมจัดการเอง”ผมรีบปฏิเสธทันที ไอ้พี่สิบนอกจากไม่ช่วยมันยังยืนกลั้นหัวเราะ กูภาวนากลับไปขอให้ไอ้เบียร์ถีบหน้าไปเลย

“อุ้ย พูดจาก็เหมือน นึกไงอยากแต่งหญิงค่ะ”พนักงานขายยังอารมณ์ดีตามฮอร์โมน หัวเราะคิกคัก

“สัญญากับพ่อแม่ไว้น่ะครับ เขาอยากเห็น”เหมือนรู้ว่ากูแช่ง รีบเสนอหน้าช่วยทันที ลดกึ่งหนึ่งแค่ยอดอก

“อ๋อ เชิญทางนี้ค่ะ เดี๋ยวก่อน รอแป๊บนะคะ”พนักขายเชิญทางห้องลอง แต่เหมือนนึกได้ เดินหายไป

“อย่าบอกนะว่าเจ๊นั่นไปเอาชุดชั้นใน ผมไม่ใส่หรอกนะ”ผมพูดกับพี่สิบอย่างไม่ยอมเด็ดขาด แค่นี้กูก็รู้สึกอั๊คลี่ตัวเองแล้ว ออกมาแม่งคงเหมือนกระเทยรถไถแน่ๆ เฮียแม่งคิดอะไรวะ คิดถึงไม่ต้องพูดนะ รู้แล้วเพราะคิดถึงเหมือนกัน เกี่ยวไหม?

“มาแล้วค่ะ นี่เลย รับรอง งามแต้ๆ”เจ๊ดูจะถูกใจยื่นวิกผมสีน้ำตาลเข้มหน้าม้าเป็นลอนแบบวอลลุ่ม นี่ต้องเป็นสัญชาติญาณฮอร์โมนหญิงเริ่มสิงร่างผมแล้วรู้กระทั่งคำว่า ‘วอลลุ่ม’ ผมมองหน้าพี่สิบที่พยักหน้า ก่อนจะรับและเดินหายไปห้องลอง ด้วยนิสัยเยอะจนลึกติดเฮียมองว่ามีกล้องแอบถ่ายหรือเปล่า เกิดไปโผล่โซเชียลแคมอายเขา

ผ่านไปเกือบห้านาทีหลังลอกคราบเปลี่ยนเป็นชุดเดรสผ้ายืดลายน้ำเงินสลับขาว โชว์แผ่นอกขาวจั๊วะอันแบนราบ แต่ที่มันสะดุดสายตาคือตรงรอยจ้ำเล็กๆสองสามจุดที่ไม่ใช่ยุงกัด ผมคงแอ๊บหลอกตัวเองไม่ได้เพราะรู้ว่ามันคือรอยที่เฮียฝากไว้ เอามือลูบไปแถวคอที่มีเช่นกัน อีกไม่นานมันคงจาง แต่ความรักและคิดถึงไม่มีทางจางหายจากใจแน่นอน ไม่อยากจะถอนหายใจเลย แต่ขอเขียนว่า เฮ้อ แทน ผมคิดถึงเฮียเหลือเกิน ขอย้ำหลายๆครั้งถึงจำกันได้ก็เถอะ ผมไม่เคยรักและคิดถึงผู้ชายคนไหนแบบโหยหาเหมือนคนรักมาก่อนเลย

“เรียบร้อยหรือยังค่ะ มีอะไรให้ช่วยไหม”เสียงเจ๊คนเดิมถามแต่ไม่เปิดเข้ามา

“คะ ครับ อีกนิด”ผมสะดุ้งรีบตอบก่อนจะหยิบวิกสวมหัวดับความคิด พอเข้าที่ดีแล้ว ผมสำรวจตัวเองที่ตอนนี้อยู่ในชุดเดรสยาวเกือบคลุมรองเท้าบุชสีน้ำตาล ผมยาวประมาณครึ่งหลัง กระพริบตาปริบๆ สรุปได้ว่า

“แม่ชัดๆเลยกู”ผมพูดกับตัวเองที่หน้าคล้ายแม่ไม่มีผิด ไม่แปลกมั้งที่ผมจะแต่งหญิงก็ในเมื่อผมมีส่วนผสมของแม่ด้วยนี่นา เมื่อเรียบร้อยเตรียมจะเดินออก แต่พอเหลือบตามองในกระจกหยุดชะงัก มองอกที่แบนราบเหมือนถนนราดยาง แล้ว เอาไงดีวะ จะหาอะไรยัดก็ไม่มี  เหมือนได้ยินเสียงกระซิบข้างหู

‘เสื้อแจ็คเก็ตเฮียไง สวมทับไว้ หนูจะได้อุ่นเหมือนมีเฮียอยู่ด้วย’

“อา ใช่แล้ว ขอบคุณครับเฮีย”ผมพึมพำก่อนจะหยิบแจ็คเก็ตยีนส์ที่ใส่มา สวมทับ เป็นอันเรียบร้อย ก้าวออกไปจากห้องลองช้าๆทั้งที่ไม่ได้มีใครกดปุ่มสโลว์ แต่ขาพร้อมตัวก็ค่อยๆสไลด์ไปทีล่ะก้าว

“O_O”หน้าไอ้พี่สิบ

“^_^”หน้าเจ๊

“=_=” หน้ากู

“ต๊ายยยยย น่ารักมากค่ะ หน้าตาจิ้มลิ้ม หุ่นเพรียวบางเป็นกระดานอย่างกับนางแบบ อกแบนไปนิด ไม่ใช่ปัญหาเพราะหน้าเลิศ”เจ๊อุทานพูดชมไม่ขาดปาก ก่อนจะช่วยจัดระเบียบเสื้อผ้าหน้าผมยกเว้นนมให้อีกนิด

“มานี่ค่ะ เดี๋ยวเพิ่มอีกนิด”เจ๊ดูจะถูกชะตากับกูมาก จับลากเข้าไปนั่ง หยิบกระเป๋าเหมือนหีบมาวางพอเปิดออก มันแยกออกเป็นชั้นอัดแน่นด้วยเครื่องสำอาง

“ผิวน้องสวยมากเลยค่ะ ไม่ขาวซีดเหมือนศพจมน้ำ”สาบานว่าเจ๊ชม มือก็ปัดแก้มผมไปมา

“แก้มใสอมชมพูอยู่แล้ว ปากก็อมชมพู ขนตางอนไม่ต้องดัด อุ้ย ดูดีไปหมด เปลี่ยนเป็นหญิงก็เกิดนะคะเนี่ย”เจ๊ยังพรรณาไม่หยุด นี่ยังน้อยถ้าเห็นรูปกูตอนแต่งลิเกยิ่งกว่านี้อีก เผลอๆเจ๊แกเป็นแม่ยกผมแน่

“เลิศค่ะ คุณพ่อคุณแม่ต้องชมแน่ และไม่แน่นะคะเผลอๆเดินออกไปได้เปลี่ยนมีแฟนผู้ชายแน่ คิกคิก”เจ๊ชมหัวเราะคิกคัก พอกับไอ้พี่สิบที่หายอึ้งไม่รู้กูสวยหรือกูแซ่บ ถ้าพี่ชอบซื้อไปฝากไอ้เบียร์มันสักชุดสองชุด เผื่อไอ้รันด้วยก็ดี

“ว่าแต่มีแฟนยังค่ะ ดูไม่น่ารอด”เจ๊ถามต่อหลังจัดการเสร็จแล้ว

“มีแล้ว”ผมตอบเสียงเบา มองตัวเองที่ดูยังไงก็ไม่ใช่ผู้หญิงหรอก แค่ผู้ชายตัวสูงผอมใส่เดรสเหมือนใส่ปลอกหมอนข้าง

“ระวังนะคะ กลับไปแฟนจะขอเลิกเพราะสวยกว่า คิกคิก แต่อย่าได้แคร์ค่ะ เชิดใส่หาแฟนผู้ชายเยาะไปเลย คิกคิก”แกยังแนะนำไม่หยุด นี่ถ้าผมบอกว่ามีแฟนผู้ชายคงกรี๊ดแน่ ผมมองไอ้พี่สิบที่กลั้นหัวเราะ พร้อมส่งสัญญาณว่าคิดเงินได้แล้วเจ๊

“เท่าไหร่อ่ะพี่”ผมถามพี่สิบอย่างเกรงใจ หลังจากออกจากร้านได้เสื้อผ้ามาอีกหลายชุด เจ๊ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อวยพรไม่หยุดปากสมกับอาชีพจริงๆ แต่ดูน่ารักดี เสียอย่างเดียวชอบเอาหน้าอกตูมๆมาทิ่มโดนผมอยู่เรื่อย

“ไม่ต้องเกรงใจ ไม่ใช่ตังค์พี่”พี่สิบพูดพลางยักไหล่ เหล่มองผมยิ้มๆ เท่านี้ก็รู้แล้วว่าของใคร ผมเลยไม่พูดต่อ สักพัก

“หนู”เสียงพี่สิบเรียก

“อะไร”ผมหันไปถาม

“อย่าเกา”พี่สิบบอกผมที่กำลังเกาอยู่

“ก็มันคันนี่พี่ ผ้าอะไรไม่รู้ แสบไปหมด”ผมครวญก่อนจะเกาต่อ

“เกาได้ แต่หลบๆหน่อย ตอนนี้หนูเป็นผู้หญิงนะ”พี่สิบพูดพร้อมเตือน

“ผู้หญิงก็มีอารมณ์คันนะพี่ ถ้าไม่เกาพี่จะให้ผมเดินสีกำแพงแก้คันหรือไงวะ”ผมเถียงอย่างไม่เข้าใจแกอยู่ดีว่าจะห้ามทำไม

“ไม่ห้าม แต่ไม่มีผู้หญิงที่ไหนเขาเดินเกาเป้าตรงที่โล่งแบบนี้หรอก หลบหน่อยก็ดี หนูดูสิ”พี่สิบพูดเสียงเนือยก่อนจะกวาดสายตารอบข้าง ทำเอาผมหยุดชะงักกับมือที่สแคชตรงแถวๆน้องหนูทันที ผ้ามันแข็งเพราะไม่ได้ซักเลยเสียดสีตรงขาด้านในจนผมอดไม่ได้ต้องเกา ลืมไปว่าไม่งาม

“เอ้า แล้วไม่บอกวะ”ผมว่าแกก่อนจะรีบเดินออกจากที่นั่น กูว่าแล้วมันมองอะไรกัน นึกว่าอึ้งที่กูสวย ที่แท้ทึ่งที่กูเกาเป้านี่เอง ก่อนพี่สิบจะพาแวะร้านถ่ายรูปและรอรับเลย เป็นอันเรียบร้อยเรากลับไปที่สนามบินอีกครั้ง เหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงเครื่องจะออกแล้ว พี่สิบหยิบกระเป๋าที่ผมถือไปรื้อและทำอะไรไม่รู้ผมไม่ได้สนใจ นั่งชันเข่าขึ้นมาข้างเอาคางเกย

“เรียบร้อย เอ้อ เดี๋ยวพี่มานะไปเข้าห้องน้ำก่อน อย่าไปไหนล่ะ ใครมาชวนก็ห้ามไป เข้าใจ”พี่สิบพูดกับตัวเองก่อนจะหันมาพูดพร้อมสั่งผมเหมือนเด็กห้าขวบให้รอผู้ปกครองมารับเท่านั้น

“นั่งก็หุบซะมั่ง เดี๋ยวคนมาทักจะว่าไม่เตือน”แกหันกลับมาพร้อมชี้เตือนกิริยาที่ไม่สมควรทำของผมอีกครั้ง

“โว้ย รู้แล้วน่า จะรีบไปบีบคอน้องก็รีบไปเลย”ผมไล่แกอย่างหงุดหงิดแต่ไม่ได้จริงจัง แกหัวเราะก่อนจะเดินไป ผมก็ยังนั่งอยู่ท่าเดิมแต่หุบลงมาหน่อย แต่ถึงออกผมก็ไม่อายหรอกใส่บอกเซอร์อยู่ ก่อนจะปล่อยใจตามเดิม เฮีย หนูคิดถึงเฮีย กินข้าวก่อนไปทำงานหรือยัง มองด้ายตรงข้อมือที่หลวงพ่อผูกให้พร้อมเฮียแล้วก็ยิ้มออกมา ถ้าวันนี้คนที่อยู่ข้างๆ พูดคุย โต้เถียง กินข้าว เป็นเฮียก็คงจะดี ผมยิ้มที่รู้ได้ว่าเหงาหงอย ขอแค่ตอนนี้ที่เป็นแบบนี้ก่อนจะกลับไปเจอหน้าพ่อ ก่อนจะมองไปรอบๆ อะไรวะ ทั้งที่เลิกเกาเป้าแล้ว แต่ทำไมเหมือนมีคนยังมองๆอยู่บ้าง โดยเฉพาะผู้ชาย พวกมันคงขำมั้งที่เห็นกระเทยรถไถ เฮียให้แต่งทำไมก็ไม่รู้ไม่เห็นจะเหมือนตรงไหน ถ้าหน้าน่ะโอเคได้แม่มาอยู่บ้าง

“ไปไหนครับ คนสวย”ใครวะมาขัดอารมณ์ หันไปเป็นไอ้ผู้ชายหัวสกินเฮดแต่ดูด้อยกว่าเฮีย  หูเป็นรูอุโมงค์  ที่บ้านมันคงรับขุดเจาะบ่อบาดาล หน้าตาออกลูกครึ่งแต่ไอ้รันน่ารักกว่าไอ้เชี่ยนี่ ผมไม่ตอบเพราะในตอนนี้ผมต้องรักนวลสงวนตัว ไม่คุยกับคนแปลกหน้า โดยเฉพาะผู้ชาย

“พูดไทยไมได้เหรอครับ เป็นคนเกาหลี”มันยังถามต่อ หน้ากูขี้หลีเหมือนมึงหรือไงถึงได้นึกว่าเป็นเกาหลี ผมเอียงคอมองมันให้รู้ว่ากูเอ๋อ

“น่ารักจัง”อ้าว ไอ้สัดเสือกชอบอีก

“แล้วพูดภาษาอังกฤษได้ไหม Can You Speak English? “ มันพูดภาษาอังกฤษแต่สำเนียงไม่กระแดะเท่าเฮีย ผมขมวดคิ้วสีหน้ายุ่งกว่าเดิม ก่อนจะเอ่ยออกไปทำเอามันตะลึงยิ่งกว่าได้ยินภาษาไหนๆ

“แบระ แบระ เอาอี๋อ่องอึงอิ อวยยย อายยยๆๆๆๆ (เกาหลีพ่องมึงสิ จวย ควายๆๆๆ แต่ผมสปีดเร็วเดี๋ยวมันจับได้ว่าด่ามัน) แบระๆๆๆๆๆๆๆ”แฮ่ก แฮ่ก เหนื่อยฉิบหาย


“!__!” งง สัด ฮ่าๆๆๆๆๆๆ 


ออฟไลน์ goonglovenut

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1188/-10
“มีอะไรเหรอครับ”ไอ้พี่สิบกลับมาแล้ว

“เอ้อ ไม่มีอะไรครับ ผมมาทักเฉยๆ ไม่คิดว่าน้องเขาจะเป็นใบ้ ขอโทษครับ แหะ แหะ”มันรีบพูดหัวเราะแหะๆและเดินเหยาะๆจากไป

“มันทำอะไรหรือเปล่า”พี่สิบถามทันทีหลังมันเดินไปแล้วหันมามอง ก่อนจะหันกลับจ้ำเดิน

“เปล่า มันมาคุยห่าเหวอะไรไม่รู้ ขี้เกียจพูดเลยใบ้ให้มันใบ้แดกไปซะ”ผมส่ายหน้าพลางตอบพี่สิบที่พยักหน้า

“เฮ้ย แสดงว่ามันมาจีบแน่เลย ใช่ไหม”ไอ้พี่สิบเสือกนึกออกถามกลับ

“จีบบ้าอะไร ดูไม่ออกหรือไงวะ”ผมบ่นเชิงด่ามันถ้าคิดจะจีบผมจริงๆ

“ถ้าไม่เห็นลูกกระเดือกก็กลมกลืนนะ ฮ่าๆๆๆ”ไอ้พี่สิบพูดพลางหัวเราะ ก่อนแกจะยื่นเอกสารให้

“เก็บไว้ให้ดี ถ้าจำเป็นต้องใช้ให้แสดงเอกสารพวกนี้ อย่างบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน เราจะ Cover ไปก่อน”พี่สิบพูดกลั้วหัวเราะ ผมเหล่มองก่อนจะรับแล้วเก็บ สักพักเขาประกาศเรียกผู้โดยสาร ผมใจหายทันที ถึงที่นี่จะไม่ใช่ที่ผมจากมาแต่มันก็ใกล้กว่ามาก ผมเริ่มใจเต้นแรงสีหน้าเหมือนจะร้องไห้แต่กลั้นไว้ พี่สิบเหมือนจะรู้แกตบหลังมือเป็นการปลอบ ผมมองไปรอบๆอย่างคาดหวังว่าจะเห็นเฮียโผล่มาเหมือนฉากในหนังที่รอใครสักคนเหมือนจะไม่มาแต่ก็มา ไม่เฉพาะที่นี่ ทั้งวันผมหวังให้เป็นอย่างนั้น แต่ก็ไม่มี ไม่มีเฮียโผล่มาเลย

“ไปกันเถอะ”พี่สิบพูดพร้อมดึงมือให้ผมเดินแต่ก็ยังหันไปมอง จนถึงจุดตรวจเอกสาร ผมยื่นที่เตรียมไว้ให้เขาดู เจ้าหน้าที่มองเอกสารและมองหน้าผมที่สนใจมองแต่ด้านนอก เผื่อว่าเฮียจะมา ผมยังหวังอีกเหรอป่านนี้แล้ว

“ชื่ออ่านว่าอะไรครับ”เจ้าหน้าที่ถามผมที่ยังคงเหม่อลอยแต่หูไม่ได้เหม่อยังกางรับฟังตามเดิม

“‘พฤษภ (อ่านว่า พรึ-สบ,พรึด-สบ)”ผมตอบแต่ไม่ได้มอง จนพี่สิบต้องสะกิดให้สนใจเขาหน่อย

“อืม อ่านยากแหะ แปลกดี”เสียงเขาพึมพึม และพูดต่อ

”นางพฤษภ อาชวกรกุล” ผมพยักหน้าอย่างคล้อยตามก่อนจะ

“อะไรนะ!”ผมหลุดถามเสียงดัง เมื่อเขาเอ่ยชื่อผมที่ถูกแล้ว แต่ไอ้คำนำหน้ากับสกุลตามหลัง มันใครวะ ผมมองหน้าไม่มีใคร มองหลังก็ไอ้พี่สิบ กลับมามองตัวเอง

“ถูกต้องไหมครับ”เขาถามย้ำสีหน้าฉงน จนพี่สิบต้องสะกิดและมองตอกย้ำให้รู้ว่า ชื่อสกุลมึงที่ COVER อยู่นั่นแหละ

“ครับ เอ้ย ค่ะ”ผมตอบผิดตอบถูกกับสถานะใหม่ที่ไม่คุ้นเคย อะไรวะ จากนาย เป็น นาง ไม่คิดจะให้กูใช้  นางสาว ก่อนเลยหรือไง ถึงจะเสียตัวแต่ไม่ต้องประกาศออกสื่อขนาดนี้ก็ได้

“เชิญครับ”เขาผายมือส่งยิ้ม จนพี่สิบเดินมาใกล้ ผมมองด้านนอกอีกครั้ง จนลับตาหายเข้าไปด้านใน
.
.
.
.
“พี่บอกแล้ว ให้ดูเอกสารก่อน ดีนะไม่เผลอแย้งเขา”ไอ้พี่สิบพูดกับผมหลังจาก เครื่องบินเหิรถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ ป้ายไม่มีบอก

“ผมไม่คิดว่าจะเปลี่ยนขนาดนี้นี่หว่า”ผมหันไปเถียงแกก่อนจะเปิดกระเป๋าใบเล็ก หยิบเอกสารออกมาดู

“ต้องเปลี่ยนดิ ดูสารรูปเราตอนนี้สิ”พี่สิบพยักหน้าใส่ ผมมองนิดนึงกับคำว่า ‘สารรูป’ ที่ไอ้พี่สิบมันควรจะใช้คำว่า ‘รูปร่าง’ มากกว่าเหมือนจะพูดไม่ตั้งใจแต่จงใจ ฮึ ฝากไว้ก่อนเจอไอ้เบียร์กูจะใส่ไฟให้ ก่อนจะสนใจเอกสารต่อ โอ้โห รูปกูซิงๆเลยติดหราบนบัตรประชาชน วันเดือนปีเกิด เก่าหมด ยกเว้น คำนำหน้ากับนามสกุลได้มาใหม่ ทะเบียนบ้าน มีอยู่สองคน

สองคน

นายกรกฎ อาชวกรกุล (สามี)

นางพฤษภ อาชวกรกุล (ภรรยา)


ผมหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที เมื่อเห็นนามสกุลปรากฎ บอกให้รู้ว่าเป็นของใครให้มา เผลอยกยิ้มก่อนจะควานหาต่อ

 ไม่มี

 ไม่มี


 เฮียจัดมาเยอะขนาดนี้ไม่น่าจะลืม


‘ทะเบียนสมรส’


นะ


เพื่อความสมจริง แต่ก็ไม่มี สงสัยจะลืม หรือว่าจะส่งตามมาทีหลัง เพราะยังเลือกเขตจดที่ถูกใจไม่ได้


“หาทะเบียนสมรสหรือไง”เสียงพูดล้อเลียนดังข้างๆ ทำเอาผมหันขวับ ที่เสือกมีคนรู้ทันเหมือนมานั่งในใจ

“ถามจริง เป็นหม้ายเมียทิ้งมานานหรือไง ถึงได้ปากอย่างนี้”ผมตอกใส่แกกลับแก้เขิน ทำเอาแกหุบปากแต่ลอยหน้ากวนเป็นที่สุด ผมส่ายหน้ากับคุณตำรวจของไอ้เบียร์ ก่อนจะสงสัยคิดไปอีกว่า


แล้วลูกล่ะ เฮียไม่เห็นใส่ไปด้วยเลย แล้วมันจะสมบรูณ์ได้ยังไงกัน

.
.
.
.
ผมกับพี่สิบมาถึงกรุงเทพฯ แล้ว ใจผมเต้นแรงมากขึ้น ตื่นเต้น ตื้นตัน ที่จะได้เจอพ่อ ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งของหัวใจยังคิดถึงเฮียไปด้วย

“มือเย็นจัง ตื่นเต้นเหรอ”พี่สิบถามผมที่จับแขนแกอยู่ ตอนอยู่บนเครื่องหลังจากเถียงกันก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีก เราปล่อยใจคิดถึงคนที่ตัวเองรัก ผมกับเขาตอนนี้หัวอกเดียวกัน ถ้าวันนี้คนที่อยู่ข้างเราเป็นคนที่รักก็คงจะดีไม่น้อย

“ผมดีใจที่จะได้เจอพ่อสักที มันไม่นานแต่เหมือนนานมาก”ผมบอกพี่สิบที่พยักหน้าอย่างเข้าใจ

“งั้นก็ไปกันเถอะ”พี่สิบยิ้มก่อนจะเดินนำไปที่รถ

“ระหว่างนี้หนูอย่าติดต่อใครนะ แม้แต่ญาติ ก็ห้าม”พี่สิบพูดกับผมหลังขับออกจากสนามบินและขึ้นทางด่วน

“ทำไมล่ะครับ”ผมถามแก ตาก็มองกรุงเทพฯที่ไม่ได้เข้ามาสักพักแล้ว

“ก็เฮียของหนูอีกนั่นแหละสั่งมา เขากลัวว่าจะถูกติดตาม”พี่สิบพยักเพยิดถึงคนที่ห่างไกลกันไปทุกที

“แล้วถ้าเกิดตามจริงๆ ญาติ และ คนที่รู้จักผมล่ะ”ผมถามต่อเมื่อนึกถึงคนรอบข้าง ถ้าคนพวกนั้นจะติดตามก็ต้องเริ่มจากคนใกล้ตัวผม ผมเบิกตาหันไปเขย่าแขนถามพี่สิบอย่างลืมตัว

“พี่สิบ แล้วพ่อล่ะ ตอนนี้พ่อยังอยู่บ้านไหม ผมว่าโทรหาพ่อก่อนดีกว่า”ผมร้อนใจเหลือเกิน ถ้ามันเป็นอย่างที่เฮียคิด คนแรกที่ใกล้ชิดผมก็คือ พ่อ ต่อไปคือญาติ และเพื่อนๆ

“เฮ้ย ๆ ปล่อยก่อน พี่ขับรถอยู่ พ่อเราปลอดภัยดี”พี่สิบรีบพูดพร้อมประคองรถตามเดิม

“พี่ไม่หลอกผมนะ”ผมถามพี่สิบอย่างระแวง คิดว่าแกพูดเพื่อให้สบายใจ

“จะหลอกทำไมล่ะ แกยังฝากจดหมายให้หนูอย่เลยไม่ใช่เหรอ”พี่สิบท้วงผมชะงักไปนิดอย่างนึกได้

“แต่นั่นมันหลายวันแล้วนะพี่ ผมว่า”และก็คิดได้อีก

“พ่อหนูสบายดี ตอนนี้อยู่ที่ปลอดภัย และกำลังไปหานี่ไง”พี่สิบรีบขัดขึ้นมาก่อนที่ผมจะระแวงไปมากกว่านี้

“และก่อนหน้านั้น ก็มีคนไปดูแลให้อยู่แล้ว ไม่ต้องบอกมั้งว่าใครสั่ง”พี่สิบพูดต่ออีก ผมหันไปมองพลางนึกว่าใคร คงเป็นตำรวจ แต่พี่สิบพูดเหมือนไม่ใช่

“เฮีย”ผมพึมพำอย่างไม่แน่ใจ

“อืม เฮียของหนูส่งคนไปคุ้มครอง ทีนี้สบายใจได้หรือยัง”พี่สิบยกยิ้มเมื่อเห็นผมเงียบและพยักหน้าช้าๆ

“หนูไม่รู้จริงๆเหรอว่า เฮีย ของหนูเป็นใคร”พี่สิบถามผมแต่สีหน้าแกไม่ได้สงสัยอะไร ออกจะล้อซะมากกว่า

“รู้แค่เป็น เฮีย นอกนั้นก็ไม่เคยถาม”ผมส่ายหน้าพร้อมตอบหัวพิงกระจก หลังเลิกวิตกเรื่องพ่อก็วกกลับมาเรื่องเฮียอีก พี่สิบไม่ได้พูดต่อ

“ไม่ใช่ผมไม่อยากรู้นะ แต่เหมือนเฮียจะไม่อยากพูดถึงเท่าไหร่”ผมพูดลอยๆพร้อมนึกถึงหน้าเฮียเวลาพูดถึงครอบครัวดูเจ็บปวด ยกเว้นพูดถึงลูกจะดูมีความสุข ผมจำได้เฮียเคยฝันร้าย ผมได้ยินเฮียเอ่ยชื่อพ่อ และ ผู้หญิง ชื่อ ดา และผมพูดถึงจุดหนึ่งอย่างไม่ตั้งใจ เฮียตกใจมากเขย่าถามจนผมไม่กล้าพูดความจริง เลยต้องโกหก น่าแปลกที่ผมไม่ได้กลัวหรือคิดว่าเฮียเป็นฆาตกร กลับอยากปลอบใจเฮียในตอนนั้นเลยพูดเรื่องชวนไปทำบุญ และก็ได้ไปทำมาแล้ว

“และหนูอยากรู้ไหมว่าเขาติดคุกคดีอะไร”พี่สิบเอ่ยออกมาระหว่างรถติดไฟแดง ผมหันไปมองหน้าที่มองอยู่แล้ว แค่เสี้ยวเวลาก่อนรถจะออกตัว ผมตัดสินใจ

“ไม่ครับ ผมอยากฟังจากปากเฮียมากกว่า ผมจะรอให้เขามาตอบเอง ไม่ว่าจะเลวร้ายแค่ไหนก็ตาม”ผมตอบพี่สิบด้วยความมั่นใจทั้งเสียงและสีหน้า
 
“พี่กะแล้วว่าหนูต้องตอบแบบนี้”พี่สิบยกยิ้มพูดพยักหน้าไปมาช้าๆ ก่อนจะเลี้ยวรถไปตามเส้นทางที่ผมเห็นว่าไม่ใช่ทางมุ่งตรงไปสู่จังหวัดบ้านผม ผมน่าจะเอะใจตั้งแต่แรกว่าทำไมต้องขึ้นเครื่องบินนั่งรถทัวร์ลงมาก็ถึงบ้านผมแล้ว มัวแต่คิดเรื่องเฮียซะจนไม่ได้เอะใจอะไรเลย

“พี่จะพาผมไปไหน”ผมถามเสียงเรียบ ไม่ได้ตกใจ ถ้าเขาบิดพลิ้วเฮียไม่ปล่อยเขาแน่

“ไปเซฟเฮ้าส์ ตอนนี้พ่ออยู่ที่นั่น บ้านที่หนูเคยอยู่ปิดไปก่อนแต่ไม่ต้องห่วงมีคนดูแลอยู่”พี่สิบบอกผมให้หายสงสัย

“เฮียรู้ไหม”ผมอดจะถามถึงเฮียอีกไม่ได้ ผมอยากให้เขารู้ด้วย

“เขารู้แค่ว่าหนูกับพ่อไปเซฟเฮ้าส์ แต่ไม่รู้ที่ตั้ง พี่ไม่ได้บอกและเขาก็ไม่ได้ถาม”พี่สิบตอบแบบดับความหวังผมลง แล้วเฮียจะมาหาหนูถูกได้ยังไงล่ะ แล้วบอกให้รอ

“พี่ว่าเขาคงมีเหตุผลอาจจะกลัวถูกติดตาม และอดใจแว่บมาหาไม่ได้มั้ง อย่าทำหน้าเหมือนถูกทิ้งสิ”พี่สิบพูดให้เหตุผลปนให้กำลังใจแบบกลั้วหัวเราะ 

“ไม่ต้องเอาประสบการณ์ตัวเองมาใช้กับผมหรอก”ผมพูดใส่เขาแก้เก้อที่เผลอทำหน้าให้เขาจับได้ ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอ ก่อนจะเงียบ อาจเป็นอย่างที่พี่สิบบอกก็ได้ แต่ส่วนลึกผมเชื่อว่าไม่ใช่เรื่องยากถ้าเฮียจะหาผมเจอ
.
.
.
.
เกือบสองชั่วโมงพี่สิบขับรถพาผมมาถึงบ้านหลังหนึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางแมกไม้ คล้ายบ้านสวน ให้บรรยากาศไม่ต่างจากบ้านเดิมผมเท่าไรนัก ตรงปากทางเข้ามีบ้านประมาณสิบกว่าหลัง มีไฟทางห่างๆกัน ดูน่ากลัวในตอนกลางคืน

“บ้านพี่เอง ซื้อไว้นานแล้ว นานซะจนไม่รู้ว่าคนร่วมชีวิตจะกลับมาอยู่ด้วยไหม”พี่สิบพูดเสียงเรียบแต่รู้ได้ว่า รออย่างมีความหวัง

“แสดงว่าไอ้เบียร์ก็ต้องรู้สิ ว่าผมอยู่ที่ไหน”ผมพูดกับพี่สิบ ทั้งที่ไม่ใช่เวลาจะมาคิดถึงเรื่องตัวเอง ไม่ใช่ว่าผมไม่เห็นใจแก แต่ผมไม่รู้เรื่องระหว่างสองคนนี้เลย รู้แค่ว่ารักกันอยู่แน่นอน

“ไม่รู้หรอก พี่กะว่าจะเซอร์ไพรส์เขา แต่เกิดเรื่องซะก่อน”แกแอบถอนหายใจเบาๆเอามือลูบหน้า

“พี่บอกให้ผมรอ งั้นพี่ก็ต้องเหมือนกัน เราต้องมีความหวังสิพี่”ผมตบหลังมือแกบ้าง แกยิ้มเอามือขยี้หัว ผมชักจะชอบแกแล้วสิ นึกอยากจะมีพี่ชายสักคน

“อืม สู้สู้”แกทำมือทำหน้าด้วย ก่อนจะพากันหัวเราะ และลงจากรถ พี่สิบไขกุญแจบ้าน

“พ่อจ๋า หนูกลับมาแล้ว ฮึกฮึก”ผมพูดเสียงเครือ สะอื้นทันทีทั้งที่ยังไม่เห็นหน้าพ่อก่อนจะปาดและกลั้นสะอื้น

“หน้าผมดียัง ไม่เละใช่ไหม”ผมถามพี่สิบหลังลืมไปว่าแต่งหน้า ป่านนี้เฟะแล้วมั้ง เดี๋ยวพ่อเห็นช็อกกันพอดี

“ยังดีอยู่ เอาทิชชู่ซับสักหน่อย ดูกระจกดิ”พี่สิบบอกพร้อมส่งทิชชู่ให้ เมื่อเรียบร้อยแกขับรถเข้าไปในตัวบ้านที่เปิดไฟสลัวๆหน้าบ้าน มีหมาตัวใหญ่นอนอยู่ลักษณะคุ้นๆ พอผมลงจากรถ มันหูตั้งวิ่งมาทันทีทำเอาเกือบตกใจ ก่อนมันจะกระดิกหาง

“บรู๊ววววว บรู๊วววววววว หงิงงงงงงงง หงิงงงงงงงง”

“ไอ้ตะบัน กูยังไม่ตายห่าราก เสือกหอนทำไม มึงนิ”ผมว่ามันผสมหัวเราะ กอดมันอย่างคิดถึงไม่คิดว่ามันจะมาอยู่ที่นี่ด้วย ไอ้ตะบันมันติดพ่อผมมาก สักพักประตูเปิดออก ร่างสูงโปร่งพอกับผมก้าวออกมา

“ไอ้ตะบัน มึงจะหอนทำไมวะ กูยิ่งเสียวๆอยู่”เสียงที่คุ้นเคย ถึงจะออกดุ แต่อบอุ่นเสมอ

“ฮืฮอออออออออออ ฮืออออออออออออออ”ผมส่งเสียงทันที ว่าจะไม่ร้องไห้ กำลังจะอ้าปากวิ่งเข้าไปหา กลับเป็นพ่อเบิ่งตาถลาเข้ามาหาผมที่รออยู่ ผมกำลังจะกอดแต่หวืด


พ่อทรุดตัวคุกเข่ากอดเอวผมแนบแน่น เปล่งเสียงออกมาอย่างดัง



“ฮืออออออออออออออ ไก่จ๋จจจจจจจจจจา ไก่กกกกกกก จริงด้วยๆๆ ฮืออออออออ นกขอโทษที่ไม่ดูแลลูกหนูไม่ดี ปล่อยให้โจรเอาไป ฮือออออออออ นกขอโทษษษษษษษษ”


“จะโกรธนกก็ไม่ว่า นกยอมรับดูแลลูกไม่ดี  ฮึกฮึก จะมารับนกไปอยู่ด้วยก็ได้ แต่ขอให้นกได้เจอลูกหนูก่อนนะ ไก่จ๋า ฮือออออออออออ”


ผมตั้งสติจับใจความในคำพูด นี่พ่อเห็นผมเป็นแม่เหรอนี่

“พ่อ พ่อ”

ผมเรียกพ่อพร้อมดึงให้ลุกขึ้น พ่อไม่ยอมลุก ผมเลยทรุดลงไปกอดพ่อที่สะอื้นร้องไห้โฮ เอามือลูบหลัง หอมแก้ม จนพ่อผละออกมา ผมยิ้มให้พ่อทั้งน้ำตา ยกมือปาดให้พ่อเห็นผมชัดขึ้น ก้มไปหอมแก้มอีกข้าง

“พ่อจ๋า หนูเอง หนูกลับมาแล้ว ฮึก ฮึก”ผมพูดเสียงสะอื้อน พ่อยังอ้าปากกระพริบไล่น้ำตาที่ไหลลงมาอีกรอบ

“หนู หนู เหรอลูก หนูจริงด้วย ไอ้หนูลูกพ่ออออออออออออออ”พ่อส่งเสียงดังอย่างดีใจก่อนจะกอดผมอย่างแน่น

“พ่ออออออของไอ้หนู ฮืออออออออออออ คิดถึงพ่ออออออ หนูคิดถึงพ่อ ฮึกกกกกกกก”ผมกอดพ่อกลับบ้าง อย่างไม่สนอะไรทั้งนั้น  นอกจากอ้อมกอดที่อบอุ่น อ้อมกอดที่โอบผมมาตั้งแต่เกิด อ้อมกอดที่ไม่เคยทำร้ายผมแม้แต่นิดเดียว เรากอดกันอยู่อย่างนั้น ผลัดกันหอมแก้มไปมา พอตั้งสติได้ ผมประคองพ่อให้ลุกขึ้น พนมมือก้มไปกราบเท้าพร้อมจูบเหมือนที่พ่อเคยจูบเท้าผมตอนเล็กๆ ผมเห็นจากรูปถ่าย

“หนู ฮึก ลุกลูก”พ่อลูบหัวพร้อมประคองผมลุกขึ้นมากอดอีกครั้ง จับออก

“ฮ่าๆๆๆๆ ดูหน้าลูหนูดิ เหมือนแม่เลย พ่อนึกว่าแม่มาหา ร้องไห้ซะหน้าเละเลยลูก”พ่อหัวเราะมองสำรวจผมเอามือค่อยๆเช็ดหน้าให้ ผมยิ้ม

“ดีนะพ่อไม่หัวใจวาย เห็นตัวเองครั้งแรกยังนึกว่าแม่มาสิงร่างเลย”ผมพูดกลั้วหัวเราะ ตาสำรวจมองพ่อที่ผอมลงไปถนัดตา หน้าหมองคล้ำ ทำเอาผมน้ำตาไหลแต่กลั้นเสียงร้องเอาไว้

“พ่อหล่อและหุ่นเฟริม์ขึ้นล่ะสิ ถึงได้มองเหมือนอิจฉา หืม ไอ้ลูกหนู”พ่อหยิกแก้มผมส่ายไปมา

“เฟริม์หุ่นแล้วไม่เฟริม์หน้าด้วยล่ะ ดูสิยิ่งกว่าแปดริ้วอีก ฟิตหน่อยๆ”ผมแซวพ่อบ้าง ในเมื่อพ่อไม่อยากให้ผมกังวล ผมก็จะทำตาม

"พ่อไม่ใช่ช่างจะได้ฟิต"พ่อตบมุกกลับปากหัวเราะแต่น้ำตาเอ่อพอกับผม

“ผมว่าเราเข้าบ้านกันก่อนดีกว่าครับ”พี่สิบที่เก็บรถปิดประตูบ้านเดินสำรวจและวกกลับมาบอก

“เออ พ่อลืมเลย ไปไป เข้าบ้านอาบน้ำอาบท่า กินข้าวก่อน”พ่อนึกได้พูดเร็ว ผมกอดเอวพาพ่อเดินเข้าบ้านที่ถึงแม้จะไม่ใช่บ้านตัวเอง แต่แค่มีพ่อไม่ว่าที่ไหนก็เหมือนบ้านแล้ว
.
.
.
.
“ก็ตามนี้แหละครับ ลุงนก”พี่สิบเป็นคนอธิบายให้พ่อฟัง แต่ไม่ทั้งหมด

“อ๋อ ครับ พ่อก็นึกว่าเอ็งอยากเปลี่ยนแนว”พูดกับพี่สิบ ก่อนจะหันมาพูดขำๆกับผมที่ตอนนี้ฮอร์โมนเพศเดิมกลับมาแล้ว หลังอาบน้ำกินข้าว ก็มานั่งคุยกัน

“พ่อเปลี่ยนเมื่อไหร่หนูก็เปลี่ยนเมื่อนั้นแหละ พ่อลูกกันต้องเหมือนกันดิ”ผมกอดแขนพ่อพูดใส่ยิ้มๆ

“ไอ้หนู ถ้าพ่อจะเปลี่ยนคงตั้งแต่แม่เอ็งตายแล้ว”พ่อผลักหัวผมอย่างหมั่นเขี้ยว ตั้งแต่กลับมาเรายังเกาะกันไม่ปล่อย เหมือนชดเชยเวลาที่ห่างกันไป

“ไม่ต้องห่วงนะครับ อยู่ตามสบาย ไม่มีใครรู้ ขอแค่อย่าเพิ่งติดต่อใครเท่านั้น ส่วนที่โน่นก็ไม่ต้องห่วงมีคนดูแลให้แล้ว”พี่สิบพูดให้พ่อกับผมสบายอีกครั้ง ยังไงเราก็ห่วงคนรอบตัวอยู่ดี พอดีมีโทรศัพท์เข้ามา แกเลยขอตัว

“หนูคิดถึงพ่อมากกกกกกกกกกกกกกกกกก”ผมกอดพ่อล้มตัวนอนบนตัก พ่อลูบหัวผม

“พ่อก็คิดถึงหนู คิดถึงมาก หนูรู้ไหมพ่อมารอเอ็งที่หน้าบ้านทุกวันเลย”พ่อยิ้มน้ำตาจะปริ่มอีกแล้ว

“ไม่ใช่พี่มากนะเนี่ย ทำเป็นมายืนรอ ฮึก”ผมแหย่พ่อกลับแต่เสียงเครือ ก่อนจะหัวเราะกันกลบเกลื่อนความเศร้า ผมจับมือพ่อมาจูบแนบอกตรงหัวใจ

“ไม่นึกเลยว่าพ่อจะได้เจอหนูอีก รู้ไหมถ้าหนูเป็นอะไรพ่อคงอยู่ไม่ได้”พ่อยิ้มพร้อมกอดผมที่กอดตอบ

“หนูรู้ หนูรักพ่อ”ผมพยักหน้ากับอกพ่อ นึกไปถึงที่ผมกับเฮียสัญญากัน ไม่ใช่ว่าผมไม่รักพ่อ แต่ถ้ามันสุดวิสัย ผมก็ยังยืนยันจะตายพร้อมเฮีย แต่ตอนนี้ผมกลับมาแล้ว ผมจึงตายไม่ได้ ผมต้องอยู่กับพ่อ และรอว่าวันหนึ่งจะได้เจอเฮียอีกครั้ง

“ไอ้หนุ่มนั่นมันก็รักษาคำพูดดีนะ ดูสิ เอ็งกลับมาแทบจะไม่มีรอยขีดข่วนเลย เขาดูแลดีใช่ไหม”พ่อจับผมลุกขึ้นสำรวจอีกครั้งพูดถึงเฮียที่เคยรับปากว่าจะดูแลผมเป็นอย่างดี

“ดี เฮียดูแลหนูดีมาก”ผมตอบพ่อเสียงใส พ่อลูบหัว

“เรียกเฮียเลยเหรอ”พ่อถามเสียงขำ

“ไม่ใช่ เขาชื่อ เฮีย เฮียเป็นคนดีนะพ่อ”ผมเงยหน้าบอกพ่ออมยิ้มเมื่อพูดถึงเฮีย ผมอยากให้พ่อรู้ เผื่อวันหนึ่งได้เจอกันอีก

“ตั้งแต่ในป่าจนหลุดไปโน่น เฮียไม่เคยทิ้งหนูเลย ดูแลตลอด ไอ้สองคนนั้นด้วยนะ ไอ้เบียร์กับไอ้รัน ไอ้เบียร์คนที่ตาตี๋ ไอ้รันคนเตี้ยสุดในกลุ่มหน้ามันออกลูกครึ่ง พ่อจำได้ไหม”ผมเล่าให้พ่อฟังต่ออย่างหยุดไม่ได้

“เอ็งก็บ้าพ่อจะจำได้ไงเล่า มันคลุมหน้าเห็นแต่ลูกตากับส้นตีนแค่นั้น แต่ถ้าลักษณะพอจำได้อยู่ ขนาดมันออกทีวี พ่อดูแป๊บเดียวก็ลืมหน้าแล้ว”พ่อพูดไปขำไป ทำเอาผมขำด้วย

“เขาเป็นคนดีกันจริงๆนะ หนูไม่รู้จะบอกพ่อยังไง หนูเอาความรู้สึกตัวเองตัดสินเขามากไปหรือเปล่า”ผมพูดพร้อมกับถามพ่อที่สบตา

“ไม่หรอกลูก บางครั้งเราต้องเชื่อความรู้สึกบ้าง พ่อก็เชื่อว่าพวกนั้นมันเป็นคนดีนะ ดูสิ ความหวังที่พ่อจะได้เอ็งกลับมาน้อยมาก แต่เอ็งก็กลับมา”พ่อลูบหัวผมเสียงเริ่มจะเครืออีกแล้ว

“หนูกลับมาแล้ว จะไม่ไหนอีกแล้ว จะอยู่กับพ่อ เราจะอยู่ด้วยกัน”ผมกอดพ่อพร้อมกับบอก พ่อกอดตอบ
“ดึกแล้วเอ็งกลับมาเหนื่อย นอนเถอะ พรุ่งนี้ ใส่บาตรกันนะลูก จะได้หมดเคราะห์หมดโศกกันสักที”พ่อจับผมออกเอามือลูบหัวไปมา

“หนูอยากนอนกอดพ่อ จะกอดแบบสิงร่างเลย ฮ่าๆๆๆๆ”ผมกับพ่อพากันหัวเราะ ก่อนจะพากันขึ้นบ้าน ปล่อยให้พี่สิบปิดบ้านเอง
.
.
.
.
ผมนอนยิ้มกอดพ่อที่หลับไปแล้ว ไม่อยากเชื่อว่าผมจะได้กลับมากอดพ่อ ไม่อยากเชื่อว่าผมจะกลับมาแล้ว กลับมาในโลกความจริงที่ไม่มีเฮีย บางครั้งผมก็อยากจะให้มันเป็นความฝันนะ แต่ผมก็หลอกตัวเองไม่ได้ ถึงจะได้อยู่กับพ่อแล้ว แต่ใจรวมถึงความคิดก็ยังมีเฮียแทรกซึมเสมอ สัมผัสยังแนบกาย คำพูดยังติดหู

‘เฮียรักหนู’

‘รัก’

ผมรู้สึกนอนไม่หลับ กลัวจะกระสับกระส่ายจนพ่อรู้สึก จะพลอยให้ไม่สบายใจด้วย ก่อนผมจะค่อยยกมือพ่อออก ห่มผ้าให้

“หนูขอเวลาแป๊บนะพ่อ”ผมพูดเบาๆ ก่อนจะเดินไปตรงระเบียง และทรุดตัวหนึ่งพิงผนังห้อง ผมเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาอีกแล้ว ความรู้สึกอายที่ต้องมานั่งคร่ำครวญหาผู้ชายเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยคิดจะทำมาก่อน แต่กับผู้ชายที่ผมรัก ผมกลับทำได้โดยไม่อายสักนิด ทำเพราะรักและคิดถึง ผมไม่รู้ว่านั่งปล่อยน้ำตาปล่อยใจไปนานขนาดไหน ขนาดที่ได้ยินเสียงเพลงแว่วมาเข้าหู ที่รู้สึกว่าจะตรงใจเหลือเกิน ใครกันนะรู้ว่าผมกำลังรู้สึกแบบนี้อยู่

ลืมตาทุกเช้า เหมือนมีความเหงามานั่งรอ
นานเกินแล้วหนอ ที่เราห่างไกลกันอย่างนี้
เจอะเจอได้เพียงแต่ในฝัน ตื่นนอนกันคนละที่
อยู่แบบนี้ข้อดีอยู่ที่ไหน
เมื่อไหร่ไม่รู้จะได้ตื่นมาเจอหน้ากัน
ช่วยเอาคืนวันของเรากลับมาจะได้ไหม
โลกใบเดิมใบนี้ ไม่มีเธอเหมือนไม่มีใคร
ได้โปรดเห็นใจคนที่รักเธอบ้าง
ถ้าหากความคิดถึง ฆ่าคนหนึ่งคนให้ตายได้
อยากให้รู้เอาไว้ ว่าฉันคงตายเป็นหมื่นหมื่นครั้ง
กลับคืนมาได้ไหม กลับมาใช้ชีวิตเคียงข้าง
กลับคืนมาได้ไหม กลับมาใช้คำว่าเราบ้าง
ต้องคิดถึงอีกกี่ครั้ง พรุ่งนี้ถึงจะมีเธอ
เมื่อใจของฉันไม่เคยจะชินความห่างไกล
ยังคงหวั่นไหวถึงใจอีกใจอยู่เสมอ
ห่างกันนานนานอย่างนี้ เธอคิดถึงฉันไหมเธอ
อยากขอร้องเธออย่าทิ้งฉันไว้ลำพัง
ถ้าหากความคิดถึง ฆ่าคนหนึ่งคนให้ตายได้
อยากให้รู้เอาไว้ ว่าฉันคงตายเป็นหมื่นหมื่นครั้ง
กลับคืนมาได้ไหม กลับมาใช้ชีวิตเคียงข้าง
กลับคืนมาได้ไหม กลับมาใช้คำว่าเราบ้าง
ต้องคิดถึงอีกกี่ครั้ง พรุ่งนี้ถึงจะมีเธอ
ต้องคิดถึงอีกกี่ครั้ง พรุ่งนี้ถึงจะมีเธอ

ผมฟังจนจบ ทั้งที่หน้ายังซบกับเข่า ปล่อยความคิดไปกับเสียงเพลง และฝากไปถึงคนที่ผมคิดถึง เมื่อไหร่จะได้เจอกัน เมื่อไหร่จะได้ใช้คำว่า ‘เรา’ มันจะมีวันนั้นไหม

“รัก หนูรักเฮีย รีบมานะ หนูจะรอ”เป็นประโยคสุดท้ายที่ผมฝากไปถึง ก่อนจะกลับเข้าไปซุกอ้อมกอดพ่อตามเดิม ผมจะต้องเข้มแข็ง เพราะยังต้องดูแลผู้ชายคนนี้ที่รักผมและผมก็รักที่สุดอีกคน
.
.
.
.
.
.
“ไอ้หนูเอ้ย ถ้าไอ้หนุ่มนั่นมันเป็นผู้หญิง พ่อคงคิดว่าเอ็งร้องไห้คิดถึงเมียแน่เลย”เสียงพึมพำมืออุ่นลูบหัวลูบหลังอย่างปลอบใจ ทำให้ผมที่รู้สึกว่ายังสะอื้นค่อยคลายลง

“เอ็งโตเกินพ่อจะกล่อมให้หลับได้แล้ว หวังว่าเพลงนี้คงถูกใจเอ็ง พ่อไม่ได้ซ้ำเติมนะ แค่คิดว่ามันน่าจะทำให้เอ็งบลิ้วอารมณ์ได้ดี พรุ่งนี้และวันต่อๆไป เอ็งต้องเข้มแข็งนะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พ่อจะยืนข้างเอ็งเสมอ สู้สู้ ไอ้หนูลูกพ่อ”ผมต้องขอบคุณเจ้าของมือนี้ที่ทำให้ผมอบอุ่นและหลับสนิทลงได้ ผมรักพ่อ แต่ ผมขอให้พ่อรักเฮียด้วยนะ

****************************************************************************************************************

ปล.ชิวๆกันตอนนี้ไม่มีอะไรสบายๆ หลังจากเครียดมาพัก (มีด้วยเหรอ?) น้องหนูถึงมือพ่อนกแล้วจ้า ขอบคุณเพลงเพราะๆจากคุณไม้เมือง ที่คนเขียนขอยืมมาทำมิวสิคให้น้องหนู เนื้อหามีความหมายบวกกับเสียงร้องที่เข้าถึงบทเพลง ทำเอาเราขนลุกและรู้สึกตามไปด้วย ยิ่งบรรยากาศฝนตก ดูเหงา เศร้า ชวนหลับตามน้องหนู แต่ฉันหลับไม่ได้งานทับหัวอยู่ ขอบคุณที่ติดตามให้กำลังใจกันจ้า ตอนต่อไปเราจะไปเลือดสาดดดดดกัน ใจเย็นนะคะใกล้จะไคลแม็กซ์แล้ว เจอกันใหม่เด้อ

อีกนิด เรื่อง IMG บางทีคนเขียนถูกใจหน้ามากกว่าหุ่น ก็เลยมักง่ายประมาณตัดหัวมาใส่ร่างตามที่คิด หุหุ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-10-2013 11:11:15 โดย goonglovenut »

ออฟไลน์ narunarutoboyz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 595
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
:z13:
จิ้มก่อนนะคะ แล้วจะมาเม้นนนนนนะคะ

-----------------------------------Edit-----------------------------------------

มาแล้ววววววว อ่านตอนนี้ร้องไห้ตื้นตันใจไปกับสองพ่อลูกเลย ยินดีด้วยนะคะพ่อนกที่ได้ลูกคืน
ที่เหลือก็ใจหนูที่ดันทิ้งอีกครึ่งไว้กับอีกคน ก็ขอให้กลับมาเจอกันไวๆนะ
แต่เฮียเนี่ยนะ........ตัวไม่อยู่ยังจะสามารถทำให้เขินอีกนะ อยู่ๆก็ให้น้องหนูใช้นามสกุลแบบเนียนๆ
บ้าบอที่สุดเลยยยยยยยยยย  :-[ :-[

หวังว่าวันที่พวกเค้าได้อยู่ด้วยกัน ทั้ง เฮีย เบียร์ รัน หลังพ้นโทษจะมาถึงโดยไวนะคะ
เป็นห่วงสุดๆเลย แต่ที่ห่วงที่สุดก็คือเรื่องของรัน........จะคู่ใครคะ? เข้ม ไป่ 
แต่ไม่ว่าใคร เรายังมองไม่เห็นอนาคตเลย อย่างเข้มเนี่ย......โทษจริง ผิดจริง ติดจริง แล้วแหกคุกมาแบบนี้
หากโดนจับกลับไปก็จะอยู่ยาวแค่ไหนก็ไม่รู้ ส่วนไป่คนนี้ไม่รู้อ่ะยังไง.....
นายสองคนยังไม่ห่วงเท่านี้เลย เพราะเค้าเป็นมาเฟียจริงอะไรจริง อิทธิพลมากพอที่จะใช้ชีวิตข้างนอกได้อย่างสบาย
หรือนายจะใช้อำนาจเข้าช่วย วู้วววววว ไม่รู้อ่ะ ไม่อยากเพ้อไปก่อน(นี่ก็ไปไกลเเล้วนะ - -)
เอาเป็นว่าเรื่องนี้สถานการณ์ยังไม่สู้ดี ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
เป็นกำลังใจให้คนแต่งด้วยนะคะสู้ๆจ้าาาา  :กอด1: :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-10-2013 10:50:44 โดย narunarutoboyz »

acidic_crazy

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักมาก ชอบเฮียที่สุด

ิbenejeng

  • บุคคลทั่วไป
เฮียรีบตามหนูมานะ อย่าปล่อยให้หนูรอนาน

ออฟไลน์ ่KEI_jry

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 207
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
น้ำตาไหลไปฮาไป

ตอนที่พ่อนกเห็นลูกหนูแล้วบอกว่า แม่ไก่มาหา 555555555

ออฟไลน์ NUTSANAN

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1031
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
สงสารหนูจัง เห้อ เฮียก้น่าสงสาร :sad4:

ออฟไลน์ pannixz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 373
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
อบอุ่นกับพ่อลูกคู่นี้
เฮียกลับมาไวๆนะ
 :hao5:

ออฟไลน์ aorpp

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +250/-3
พ่อนกลูกหนูชื่นมื่นกันแล้ว ทำเอาคนอ่านดีใจน้ำตาซึมไปด้วย
นับวันรอเฮียเป็นเพื่อนหนู

+1  :กอด1: บวกๆทุกคะแนน

ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5
จิ้มไว้ก่อนเด้อ เดี๋ยวกลับมาอ่านจ้าาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Sarnaka

  • บุคคลทั่วไป
"เอ็งโตเกินพ่อจะกล่อมให้หลับได้แล้ว หวังว่าเพลงนี้คงถูกใจเอ็ง พ่อไม่ได้ซ้ำเติมนะ แค่คิดว่ามันน่าจะทำให้เอ็งบลิ้วอารมณ์ได้ดี" :m20: ฮาพ่อหนูอ่ะ
อ่านตอนนี้ สงสารหนูมากๆ  เฮียรีบมารับหนูด้วยนะ 
รอตอนเลือดสาด บู๊กระจาย  :pig4:

ออฟไลน์ narongyut

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-1
 :mew6: รักหนูกับเฮีย ครับ

ออฟไลน์ kasarus

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
 :mc4: พี่สิบพาหนูกลับมาส่งถึงอ้อมอกพ่อนกแล้ว

ต่อไปก็รอลุ้นสามหนุ่มที่เหลือสินะ

ออฟไลน์ Monkey D lufy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +245/-4
หนูเข้มแข็งไว้นะ  เฮียก็กำลังอดทนอยู่เหมือนกันนะ

เลือดสาดนี่มันในแง่ไหนอ่ะ  อิอิ

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
หนูจเอพ่อนกแล้วว
ที่น้ก็เหลือแต่เฮียละนะ

ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5
เฮ้อ ขอบคุณพี่สิบที่พาหนูกลับไปหาพ่อนกปลอดภัย หนูกะพี่สิบนี่หัวอกเดียวกันสินะ รอตอนหน้าเลือดสาดจะเป็นไง  :L1: :pig4:

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
น้ำตาซึมๆๆน้องหนูกลับสู่อ้อมอกพ่อนกแล้ว ลุ้นสามหนุ่มให้ปลอดภัย



 :กอด1: :L2:


ออฟไลน์ misso

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
หนูกลับคืนรังแล้ววว

ห่วงก็แต่เฮียนี่แหละ

ขอให้ปลอดภัยนะ :L2:

ออฟไลน์ B_Story

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
ตอนนี้ดีใจหนูเจอพ่อจนต้องเอาทิชชู่มาซับน้ำตากันเลยทีเดียว

แต่ก็เป็นห่วงเฮียเหมือนกันนะคะเนี่ย จะบอกนายยังไงล่ะทีนี้


ปล.อยากให้เฮียเห็นหนูแต่งหญิงจัง ๕๕๕๕  :heaven

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
ขอให้พวกเฮียปลอดภัยทีเถอะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
เฮ้อ........... แล้วเฮียจะเป็นยังไงบ้างเนี่ย???

ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5
ไม่ว่าจะมีเหตุการณอะไร ขอให้เฮียเบียร์รันไอ้ไป่ไอ้โจ๊กปลอดภัยทีเถิ๊ด  :katai2-1:

ออฟไลน์ kataiyai

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-1
ฮาหนูจนน้ำตาเล็ดเลย  :eiei1:

คิดได้แต่ละอย่าง o13

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3

ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
เฮียน่ารักเสมอ คิดถึงเฮียจัง   :กอด1:

ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
ขอให้เฮียปลอดภัยกลับมาหาหนูไวๆนะ

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
สงสารหนู สงสารเฮีย  :mew6:

ออฟไลน์ gneuhp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
ว้าววว ดีใจจัง หนู กลับไปหา พ่อนก แล้ว
หวังว่า เฮีย จะกลับมาหา หนู ไวไวนร้าา ^^

ออฟไลน์ ReiSei

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-5
จากกันแค่ตอนเดียวเราก็คิดถึงเฮียแล้ว  :sad4: 
ขอให้เฮียเคลียร์เรื่องแล้วมาสู่ขอน้องหนูไว ๆ

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
 :hao5:คิดถึงเฮียเหมือนหนูเลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด