Take off ur Pants!!
Episode 09
‘ SOME DAMN THING THAT I DIDN’T EXPECT. ’
เรื่องเหี้ยที่กูไม่ทันนึก!!!!!!!
Pepper’s Talk} “เป... เป๊ป... เป๊ปเป...ร์ ...”
“...”
“เป๊ปเปอร์! มึง!!!.. ไอ้สัดเป๊ปเปอร์!!!” อ่ะว้ากกกก!? ไอ้เหี้ยหก! วิญญาณผมกลับเข้าร่างทันทีกับเสียงด่าชื่อตัวเอง ภาพที่เห็นคือไอ้ฟี่โบกไม้โบกมืออยู่ตรงหน้าผมเป็นพัลวัน ห๊ะ นี่กูถอดวิญญาณไปเที่ยวดาวไหนมาวะ!!
“หะ โอ๊ย!..ไอ่เหี้ย ตบทำ!?” ผมร้องเสียงหลงเมื่อคนตรงหน้าใช้แขนอันอุดมไปด้วยกล้ามเนื้อของแม่งฟาดเข้าที่หลังหัวผมดังปั่ก! ไอ้สัดมึงก็เห็นว่าวิญญาณกูกลับเข้าร่างแล้วมึงจะตบหัวกูให้มันหลุดไปอีกทำปลาช่อนอะไรวะ!
“หมั่นไส้ไง เหม่อไปหาใครละมึงอ่ะ” ไอ้ฟี่ด่าแต่หน้าเสือกยิ้ม แล้วมันก็ทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้าผมดั่งเดิม
“เหม่อหาชู้ มึงเสือกไร” ความจริงคือกูไม่ได้เหม่อถึงใครเลยต่างหาก จิตหลุดไปเฉยๆไง
“ก็กูผัวมึงอ่ะ” ถุ๊ย ช่างตอบได้เต็มปากเต็มคำ ขนาดคนฟังยังอายปากแทนเลยครับเนี่ย
“แหวะ ยี๋ พูดเหมือนเคย มึงแหละต้องมาเป็นเมียกูไอ้เหี้ย” ผมเบะปากตอบแม่ง ไอ้ฟี่หัวเราะในลำคอแล้วเรียกขอเมนูจากพนักงาน ผมก็ยิ้มๆตอบมัน
เฮ้อ.. เรียบง๊ายยย ง่าย ชีวิตกูหลังคบกันมันนี่เรียบง่ายยิ่งกว่าถนนไฮเวย์ราดยางมะตอยอีกอ่ะ ไม่มีเรื่องให้ทุกข์ใจ ไอ้ทอฟฟี่ก็รักเดียวใจเดียวไม่ข้องเกี่ยวกับใคร ไม่เคยเร่งรัดผม อเมซิ่งป่ะล่ะ ผู้ชายกับผู้ชายนะ คบกันมาแม่งจะแปดเดือนละ..
พวกกูยังไม่เคยมีอะไรกันเลย
เอออ่ะนะ อย่างมากเลยก็คือข้างนอก ซึ่งก็ไม่บ่อยนัก และถ้าผมไม่อยาก ไอ้ฟี่ก็คือ อ้อนขอ แต่ก็ไม่เคยบังคับอยู่ดี คือ..คือแบบ ไอ้เหี้ยมึงดีไปป่าววะ!? ผมเพิ่งมาเข้าใจเหตุผลของคำว่า ‘ดีเกินไป’ ก็ตอนมาคบกับไอ้ฟี่นี่ล่ะ!..
ดูท่าว่า.. หึ คงจะไม่มีแค่ผู้หญิงแล้วล่ะมั้งครับ ที่แม่งชอบคนเลว
“มึงคิดไงพากูมาเลี้ยงเครป” ผมเท้าคางถามไอ้ฟี่ที่ตั้งหน้าตั้งตาส่องเมนูกระดาษแบบใช้แล้วทิ้งของร้าน Vanilla Crepe Café อยู่ อุบ๊ะ คือนี่มันร้านเครปวัยสะรุ่นเหมาะสำหรับคู่เดทหวานใจนะไอ้สัด มึงคิดยังไงพากูมา สายตามึงพร่ามัว? มึงเห็นว่ากูเป็นน้องปลาเหรอห๊ะ =”= ถ้าอยากเอาใจกูนะ พากูไปนู่น สลิม! วิป! เวอร์จิ้น!?
“ไม่ต้องคิดมากที่รัก กูอยากแดก แค่นั้นแหละ” มันพูดแล้วก้มหน้าก้มตาส่องเมนูต่อ โถะไอกาก.. อย่าลืมส่องให้กูด้วย กร๊าก แม่งหอกหัก ที่แท้ก็คืออยากลากกูเอามาร่วมอายด้วยแค่นั้นแหละ
“ปีสอง วิศวะโยธา..” คิ้วผมกระตุกโดยไม่รู้ตัวเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นๆดังมาจากทางด้านหลัง ผมค่อยๆหันกลับไปมอง ร่างเล็กๆร่างหนึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะเดี่ยวด้านหลังผมโดยมีไอโฟนแนบใบหู มืออีกข้างคนหลอดในแก้วน้ำปั่นของตัวเองไปมา
โลกกลมไม่ใช่เพราะพรหมลิขิต.. นั่นอีเหี้ยฟางเส้นสุดท้าย!!
เหยดเห็ดเป็ดพะโล้! เสือกมาเสี้ยนอยากแดกเครปอะไรกันหมดตอนนี้วะ! .. เหม็นขี้หน้า เหม็นขี้หน้ามันว้อยย!!! เห็นกี่ทีก็เหม็น ไม่ชอบ ไม่ถูกชะตา เหลือบไปเห็นกาแฟร้อนโต๊ะข้างๆมาเสิร์ฟพอดี หืม.. สลัดผัก อย่ามายั่วตา เดี๋ยวอดใจไม่อยู่กูยกสาดหน้าแม่งงง..
“ตัดผมสกินเฮด สูงใหญ่.. สูงแบบเด่นเลย น่าจะเฉียดร้อยเก้าสิบ” บทสนทนากับคนปลายสายของมันทำคิ้วผมสองข้างของผมโผเข้าสมสู่กันแทบจะทันที ก็ไอ้สิ่งที่มันพูดน่ะ มันทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไอ้คนที่มาด้วย
ผมสกินเฮด.. สูงเฉียดร้อยเก้าสิบ..
วิศวะโยธาปีสอง ..?
“รูปร่างใหญ่..ไม่ ไม่ใช่อ้วน! อกผายไหล่ผึ่งน่ะ มันเป็นนักว่ายน้ำ!” ไอ้ฟางดูจะเริ่มอารมณ์เสียกับปลายสาย มันยังคงพูดต่อไปโดยไม่รู้ว่ามีคน(กู)แอบดักฟังบทสนทนาของมันไปด้วย..
“ทอฟฟี่ กูรู้จักแต่ชื่อเล่นมันนั่นแหละ มันชื่อทอฟฟี่..”
..ไม่ต้องทายแล้วล่ะมั้ง ว่าแม่งพูดถึงใครอยู่ คราวนี้ชัดเลยครับ สัด.. เต็มสองรูหู!
ไอ้ฟางพูดต่ออีกสองสามประโยคที่ผมฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง มันก็ลุกไปจ่ายตังค์ที่เคาท์เตอร์และเดินออกไปด้วยท่าทีปรกติ จากตรงนี้ ผมเดาว่าคงไม่ใช่แผนแม่งที่จะแกล้งมาพูดให้กูได้ยินแน่ ผมมองตามแผ่นหลังเล็กๆนั่นไปเงียบๆ ใจนึงกูก็อยากเดินไปกระชากหัวไอ้ฟางแล้วเค้นคอถามแม่งเลยอ่ะนะ ว่าแม่งคิดจะทำอะไรไอ้เหี้ยฟี่..
แต่อีกใจ.. ผมก็อยากรู้ อยากรู้แบบเห็นกับตาเลย! ว่ามันจะทำอะไร ถึงจะใช้ไอ้ฟี่เป็นเดิมพันก็เหอะ แต่แม่ง.. สองจิตสองใจอยู่นาน รู้ตัวอีกทีร่างไอ้ฟางก็เดินหายออกนอกร้านนี้ไปซะแล้ว ซึ่งนั่นก็ทำให้ผมต้องเลือกทางเลือกที่สองอย่างช่วยไม่ได้
“เป๊ป กูจะไปสั่งแล้วนะ มึงเอาไรมั้ย?” เสียงไอ้ฟี่ดังขึ้นมา ผมหันไปมองมัน และดูท่าว่าจะค้างอยู่นานจนมันขมวดคิ้วที่ผมไม่ยอมตอบคำถามซะที
“ไม่ว่ะ.. มึงสั่งให้กูละกัน”
“อ่อ อือ แต่กูไม่เลี้ยงนะ” เค็มสัด ผมยกนิ้วก้อยแสดงถึงความขี้ตืดใส่มัน ไอ้ฟี่ฉีกยิ้มมุมปากใส่ผม แต่ก่อนที่มันจะลุกจากโต๊ะไป ร่างกายมันก็สั่งให้มือของผมไปตะปบคว้าไหล่ของแม่งเอาไว้โดยไม่รู้ตัว
“..? มีไรวะ?” ไอ้ฟี่หันมาถามผมงงๆ ผมพูดไม่ออก ทุกอย่างมันจุกอยู่ที่ลำคอจนน่าสะอิดสะเอียน มันต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ ไอ้ฟางคงไม่ได้สั่งให้คนเอาช่อกุหลาบไปส่งให้ไอ้ฟี่หรอกมั้ง ..แต่จะให้กูบอกแม่งยังไงดีล่ะ!? ผมมองหน้าไอ้ฟี่อย่างกระอั่กกระอ่วนใจ
ทั้งๆที่ไอ้ห่านี่มันก็ดีกับกูขนาดนี้..
“..ระวังตัวนะมึง”
สุดท้ายผมก็พูดได้แค่นี้ .. ไอ้ฟี่หน้างงๆใส่ผม
“มึง.. ไข้ขึ้นป่ะ กลับบ้านมั้ย?” มันยื่นมือมาแปะหน้าผากผม ผมส่ายหน้าหวือ ปัดมือแม่งออก คนตรงหน้าส่งสายตามองผมอย่างจับผิด แต่ผมก็ไม่ตอบอะไรมัน แกล้งล้วงไอโฟนออกมากดเล่นเกม เพื่อนเลี่ยงที่จะตอบคำถาม
ขอโทษนะ.. ขอโทษล่วงหน้าเลยละกันสัด
...
“เป๊ปป.. บาสมั้ยมึง!?” ผมละสายตาจากไอโฟนตรงหน้าเพื่อหันไปตามเสียงเรียก ไอ้ตัวขาวๆกับแว่นอาราเร่นั่นวิ่งมาหาผม มองเลยไปอีกนิดก็มีไอ้นูหอบข้าวของพะรุงพะรังเดินตามหลังมาด้วย
“บาส? ตอนนี้เหรอวะ ใครไปมั้งอ่ะ” ผมถามพลางยัดน้องไอกลับเข้ากระเป๋ากางเกง กูว่าช่วงนี้กูจะคลุกคลีอยู่กับน้องไอมากไปแล้ว กลัวสายตาเสียจริงๆ เป๊ปเปอร์ไม่อยากใส่แว่นนะจิ๊ ถ้าถามว่าผมติดน้องไอมากขนาดไหน เอาเป็นว่าถึงขนาดไอ้ห่าฟี่มันบอกว่าศัตรูหัวใจหมายเลขหนึ่งของแม่งชื่อน้องไอละกันอ่ะนะ พ่อมึงตายแม่ยายมึงชัก
“มีกู ไอ้ควายธนู ไอ้กิจกับเพื่อนของแม่ง แล้วกูจะมาชวนมึงกับผัวมึงไปด้วย” แหมๆๆ.. ดูคำพูดคำจา น่าโดดเตะก้านคอจริงๆไอ้เหี้ยเพ้นท์ ยังมีหน้ามายักคิ้วใส่อีก
“ผัวพ่อง แฟนเว้ยครับ แฟน”
“โธ่เพื่อนเป๊ป มึงพูดไม่ดูตัวมึงเลยเนาะ ถ้ามันได้มึงก็รู้ๆกันอยู่ว่ามันเป็นผัวมึงแหง คิดจะเก็บตำแหน่งผัวไว้ให้คนๆเดียวที่ไม่อยู่แล้วเพื่ออะไร.. โอ้ย!”
ไอ้นูโดนตบปากแล้วตามด้วยตีเข่าใส่ท้องทันที ไม่ใช่ฝีมือผม แต่เป็นไอ้เพ้นท์ คุณแม่จำเป็นของผมเจ้าเก่า ไอ้นูทรุดฮวบลงไปกองที่พื้น ข้าวของที่ถือมาหล่นกระจาย เออ.. สมน้ำหน้า! ไอ้สัดปากดีนัก หัวใจกูเสียวแปล๊บเลยไอ้ห่านี่ หลังจากสตั๊นไปสามวิแล้วก็เหมือนแม่งจะเพิ่งรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป ถึงได้ส่งสายตาขอโทษมาให้ผมใหญ่ ไอ่เควี่ยเอ๊ยย
“ผีเจาะปากรึไง!!” ไอ้เพ้นท์ดุไอ้นูแล้วส่งค้อนให้วงมหึมา แม่งก็หงอยซะ พวกมึงเป็นแม่ลูกกลับชาติกันมาเกิดป่าวเนี้ย ฟีลลิ่งแม่ดุลูกสัดๆอ่ะ .. อืม แต่ถ้ามองไปอีกทาง คู่ผัวเมียนี่ก็ได้อยู่นะฮะ กร๊ากกก
“เออๆช่างแม่ง ไอ้ทอฟฟี่ไม่อยู่นะมึง มันไปงานวันเกิดเพื่อน”
“อ้าว เซ็งเลย กูว่าจะให้มันชวนเชี่ยเฟียซด้วยซะหน่อย” ไอ้เพ้นท์พูด ผมขมวดคิ้ว
“ใครคือเฟียซวะ?”
“อ้าว ก็เพื่อนไอ้ฟี่แม่งไง อยู่คณะเดียวกันอ่ะ มึงเป็นคนแนะนำพวกกูกับมันเองนะไอ้เป๊ป!” อ้าว เรอะ ผมกรอกตาไปมา เดี๋ยวนะขอระลึกชาติก่อน.. เอ้อ ก็เหมือนจะคุ้นๆอยู่..ป่ะวะ? กรรม แต่ก่อนที่จะได้ค้นสมองตัวเองไปมากกว่านั้น น้องไอของผมก็ส่งเสียงร้องแทรกออกมาเสียซะก่อน
‘ Fies – Calling In ’
เฟียซ?.. ใครคือเฟียซวะ อ้าว เฟียซ! อย่าบอกนะว่าเฟียซที่กูกำลังนึกถึงอยู่เนี่ย โอ๊ะโฮ ถ้ามึงจะตายยากชิบหายขนาดนี้ ผมกดรับโทรศัพท์ทันทีในระหว่างที่สหายทั้งสองเองก็เริ่มต่อสายไปทาบทามบุคลากรมาเข้าทีบาสกำมะลอของพวกแม่งอยู่ไม่ต่าง
“ฮัลโหล.. อะน้องเฟียซเหรอวะ นี่กำลังคิดถึงอยู่พอดีเลยนะเว้ยย ฮ่ะๆๆๆ” กูคิดถึงมึงจริงๆนะ ถึงกูจะยังจำหน้าและตัวตนของมังไม่ได้ก็เห๊อะะะ
“ไอ้เป๊ปเปอร์ .. ไอ้ฟี่โดนรถชน” ...
.....
หา..?
ใบหน้าของผมยังคงยกยิ้มค้างอยู่ บางทีผมอาจจะได้ยินผิดไป เสียงสั่นๆของปลายสายนั่นอาจจะเกิดเพราะสัญญาณโทรศัพท์ห่วยแตกในช่วงฤดูฝนนี่ก็ได้นี่?
“.. ว่าไงนะ?” ผมถามย้ำอีกรอบ หัวเราะนิดๆอย่างอารมณ์ดี ทั้งทีสารภาพตามตรง ใจกูแม่งสั่นเป็นสันนิบาตลูกนกแล้ว
ไม่เชื่อ.. ยังไม่เชื่อหรอก ขอให้กูหูฝาด ขอให้มันไม่จริง
“กูบอกว่า.. ทอฟฟี่ ไอ้ฟี่เพื่อนกู.. มันโดนรถชน ตอนนี้อยู่ไอซียู ..พะ เพิ่งเข้าไป .. ฮืมม.. กูก็เพิ่งนึกได้ว่าต้องโทรหามึง”มันพูดด้วยเสียงเบาหวิวพร้อมถอนหายใจ น้ำเสียงที่ฟังดูกลัวและอ่อนล้านั่นทำให้ผมไม่อยากจะจินตนาการถึงสิ่งที่มันและไอ้ทอฟฟี่เจอ
ไอ้พวกนี้ไม่ใช่ลูกคนหนูคุณนายที่แค่เห็นเลือดก็ร้องหาพ่อ .. ถ้าพวกมันแสดงอาการว่าสิ่งที่พบเจอแม่งหนักหนา ก็แสดงว่า .. หนักจริงๆ
“โรงบาลอะไร..”
“มึงใจเย็นๆนะเป๊ป ฟี่มันอยู่กับหมอ ..” “ไอ้สัดเอ้ย!! กูถามมึงว่าโรงพยาบาลอะไรหูหนวกเหรอวะ!!?!” ผมตะคอกเสียงดังลั่นตามที่ความรู้สึกมันเรียกร้อง รู้สึกถึงสายตาของไอ้เพื่อนสนิทสองคนมันตวัดมามองผมทันที แต่ผมไม่ได้แคร์อะไรอีกแล้ว
.. หัวใจผมเต้นรัว
ความผิดของผม นี่เป็นความผิดของผมเองใช่รึเปล่า ผิดที่ผมแม่งเห็นแก่ตัว อยากรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ทั้งที่ความจริงกูบอกมันได้ บอกเหตุผลให้มันระวังตัวกว่านี้ได้ แต่กูก็เลวไง กูใช้มันเป็นตัวล่อ ใช้มันเป็นหนูทดลอง..
มือของผมบีบโทรศัพท์ในมือแน่นจนสั่นระริก นี่ไงล่ะมึง.. ได้รู้เลย เต็มๆ ถึงสิ่งที่ไอ้ฟางคิดจะทำ อ่อ ตอนนี้ไม่ใช่คิดจะทำ.. มันทำลงไปแล้ว
กูแม่งเลวเหี้ยๆ.. หึ แต่ดูท่าว่ายังจะมีหนึ่งคน ที่ยังไม่รู้.. ว่าคนอย่างกูมันสารเลว ได้มากมายกว่าที่ทุกคนคิด!..
มึงเจอกูแน่!!!
...
“เรื่องห่านี่มันเกิดเพราะอะไรวะ..”
ผมถามไอ้เฟียซที่ยืนอยู่ข้างๆโดยไม่ได้หันไปมอง สายตาของผมจ้องไปยังเตียงผู้ป่วยนิ่ง ภาพตรงหน้าทำให้มือของผมกำแน่น ร่างของผู้ชายที่อยู่ร่วมบ้านผม ตอนนี้มันนอนสลบไม่รู้เรื่อง มีสายน้ำเกลือลากยาวออกมาจากหลังมือ บนหัวมีผ้ากอซพันไว้รอบ คอถูกดามเอาไว้ แขนขวาถูกเข้าเฝือก ซี่โครงหัก..
ถึงผมจะมาถึงหลังจากที่ไอ้ฟี่ปลอดภัย และถูกย้ายมาห้องพักแล้ว แต่สภาพมันก็ทำเอากูสะเทือนอารมณ์ชิบหาย
“ไม่ใช่อุบัติเหตุ” ไอ้เฟียซตอบออกมา มันเดินเลี่ยงไปนั่งบนโซฟาแล้วเริ่มเล่า “กูนัดไปพร้อมมัน กูขับรถตามมันไป ตามไอ้ฟี่.. กูเห็นว่ารถมันเริ่มส่าย ตอนแรกกูก็ยังไม่เอะใจอะไร จนรถแม่งเลื้อยส่ายจนน่ากลัว ความเร็วก็ไม่ลดลงเลยซักนิด กูพยายามต่อโทรศัพท์ถึงมัน แต่ไม่ทัน ภาพสุดท้ายที่เห็นคือรถของมันพุ่งเข้าตะบันกับเสาสะพาน.. ดีที่มันยกเบรกมือชะลอไว้ได้ก่อนทัน .. ไม่งั้นคงได้ตายห่า”
“พวกมึงไม่ได้เมาใช่มั้ย” ผมถามยืนยันมัน
“เออ” มันตอบเสียงหงุดหงิดแล้วลูบหน้าตัวเองแรงๆพลางเอนตัวลงนอนบนโซฟาแบบเหนื่อยๆ ผมนิ่งเงียบ ไม่อยากจะใช้อคติหรอกนะ แต่กูแม่งพุ่งประเด็นไปที่ไอ้ฟางสุดตีน.. ต้องเป็นมัน ต้องมันแน่ๆว่ะ อีสลัดเอ๊ยย! กูไม่เข้าใจว่ะแม่งเป็นห่าอะไรมากป๊ะ! ผัวเก่ากูก็ได้ไปแล้วแม่งแค้นเหี้ยไรกูมากจะมาฆ่าไอ้ฟี่อีก!!
“แจ้งตำรวจยังวะ”
“กูให้ไอ้แก้วดูเรื่องให้แล้ว” ใครคือไอ้แก้ววะ เออแต่ช่างเหอะ คงเป็นเพื่อนพวกมันอีกคนละมั้ง ขี้เกียจถาม
ก๊อก ก๊อก ก๊อกผมกับไอ้ฟี่หันไปมองพร้อมกันกับเสียงเคาะประตูหน้าห้อง แต่ก็ไม่มีใครเปิดเข้ามา .. แสดงว่าไม่ใช่พยาบาล แล้วใครมาวะ มีมารยาทเหลือทลาย ไม่ใช่เพื่อนไอ้ฟี่หรือเพื่อนกูแน่อีหรอบนี้ -_- และเมื่อไอ้เปตรเฟียซไม่กระดิก ผมจึงต้องเดินไปเปิดประตู
“คุณปฤษนี รึเปล่าครับ?” กูติดสตั๊นทันที เมื่อเปิดประตูออกไปเจอไอ้ผู้ชายนอกห้องที่ดูท่าทางเหมือนแมสเซนเจอร์ แต่แม่งเสือกถามถึงชื่อผมทันทีทันใด ทั้งๆที่นี่มันห้องผู้ป่วยของไอ้ฟี่อ่ะนะ?
“หะ.. ก็ใช่ ไมครับ?” มันมองผมที่ทำหน้าควายงงอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะก้มลงไปหยิบของที่ผมเพิ่งเห็นว่าวางอยู่ข้างตัวแม่ง เป็นอะไรกลมๆ ใหญ่ๆ เหมือนยางล้อรถแต่แม่งมีผ้าซาตินสีม่วงอ่อนคลุมอยู่ มันยกไอ้ยางล้อรถนั่นยื่นมาให้ผม ผมมองงงๆแม่งก็ยัดใส่มือกูเลย อิห่า! ผมรับเอาไว้แบบมึนๆ เออแต่ไม่หนักอย่างที่คิดไว้แฮะ แถมมีกลิ่นหอมๆบอกไม่ถูกด้วยว่ะครับ
“ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ”
เอ๋อแดกสิวะ หา อะไร ใครเสียใจยังไงแบบไหน คือกูงงอย่างแรง? แต่ก่อนที่ผมจะได้พูดอะไร มันก็เดินหายไปตามทางเดินโรงพยาบาลซะแล้ว
“อะไรวะ” ไอ้เฟียซเดินมาเสือกสมทบ ผมส่ายหน้าให้มันอย่างไร้คำตอบ มันจึงแย่งของจากมือผมไปอย่างไร้มารยาท ต่ำทรามโคตร แต่กูก็ยังไม่มีอารมณ์จะปากหมาใส่เท่าไหร่ ณ จุดนี้ ปล่อยๆมันไปวันนึงแล้วกัน ไอ้เฟียซวางไอ้กลมๆนั่นไว้กับพื้น ก่อนที่จะกระชากผ้าที่ห่อคลุมไว้ออกและ..
โฮ่.. ไอ้ชิบหาย..
“.. ไอสัด!!!!!!”
ไอ้เฟียซเร็วกว่าผม พริบตาเดียวที่ไม่ทันตั้งตัว มันเตะ
‘พวงหรีด’ ตรงหน้าจนแตกกระจุย! ดอกไม้กระเด็นไปคนละทิศล่ะทาง แต่แม่งก็ไล่เหยียบขยี้และลงตีนกระทืบมันจนเละติดพื้นกระเบื้องโรงบาล
ซึ่งถ้าแม่งไม่ทำกูก็จะเป็นคนทำอยู่แล้ว ..
แต่ตอนนี้ผมดันนิ่งอยู่ เพราะสายตามันดันไปจ้องอยู่บนไอ้ป้ายพวงหรีดที่โดนไอ้เฟียซ เตะกระเด็นไปติดผนังอีกด้าน ซึ่งมันถูกเขียนไว้เป็นคำว่า..
‘ โชคร้ายหน่อยนะเมีย ’“มันเป็นใคร!!!!” ไอ้เฟียซร้องคำรามแล้วเดินมากระชากไหล่ผม .. ผมมองหน้าไอ้เฟียซอย่างอึ้งๆ ไม่ใช่อึ้งเพราะมัน แต่อึ้งกับความคิดตัวเอง ใช่ มันเป็นใคร ..ไอ้ตองน่ะสิ ในห้องนี้คนที่เคยเป็นเมียคนอื่นก็คงมีแต่ผมคนเดียว แล้วคนที่ได้เป็นเจ้าของคำๆนั้นก็คือไอ้ตอง
เหี้ยตองจงใจฆ่าไอ้ฟี่!!!!!
“ไม่ใช่..”
“อะไรที่ไม่ใช่ .. มึงรู้ใช่มั้ยว่าใครเป็นคนทำไอ้ฟี่!!!?” ไอ้เฟียซเริ่มตะคอกใส่หน้าผม ถ้าเป็นเวลาปรกติกูได้ต่อยกับแม่งซักยกแน่ แม่งกล้าดียังไงมาสามหาวใส่กู แต่พอดีเพราะตอนนี้ไม่ใช่เวลาปรกติ กูจะหยวนให้อีกรอบละกัน สำนึกบุญคุณกูไว้ซะด้วย
“กูรู้.. แล้วมึงก็ไม่ต้องสะเออะห่าอะไรด้วยเฟียซ..” ผมพูดออกไป แต่ก็ต้องรีบจับมือไอ้เฟียซแทบไม่ทัน! ไม่ใช่อะไร คือคอเสื้อกูโดนกระชากซะแล้ว ใจร้อนเชี่ยๆ..
“มึงคิดว่ามึงเป็นเมียไอ้ฟี่แล้วกูจะไม่กล้าเล่นมึงเหรอเป๊ป..” มันมองผมอย่างกินเลือดกินเนื้อและพ่นเสียงรอดไรฟัน เหอะ กูเริ่มไม่ชอบหน้าห่านี่แล้วล่ะ ผมยิ้มเย้ยมันก่อนจะอาศัยทีเผลอดึงมือไอ้เฟียซออกจากคอเสื้อตัวเอง จ้องตามันกลับด้วยอารมณ์โกรธที่ปะทุออกมาจากข้างใน
“..อย่ามาแส่ นี่เป็นเรื่องของกูกับมัน!! .. ถ้าอยากจะแก้แค้นในส่วนของเพื่อนมึง ก็ต้องรอรับซากศพมันจากกู!!!”
ตราบชั่วโคตรของมัน ขอสาบาน ถ้าแม่งไม่ผวาทุกครั้งที่ได้ยินชื่อของกูล่ะก็..
ไม่ต้องเรียกกูว่าเป๊ปเปอร์!!!!!TBC.
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
มาตอนเช้าเลยทีเดียว (ความจริงคือหนูยังไม่ได้นอน

)
กราบขอโทษด้วยที่มาช้าและดองค่อนข้างนาน แต่เพราะว่ากำลังเร่งปั่นนิยายอยู่ด้วย
การเปิดหลายเรื่องโดยไม่คำนึงถึงสังขารตัวเองนี่มันหายนะแต๊แต๊ นี่พูดเลย จะตายเอา

ขอตอบเม้นท์หน่อยละกันโน๊ะ
"Nano PL - เม้นท์แรกไม่ต้องรีบ เรื่องนี้คนอ่านไม่เยอะ กร๊ากกก #หลบฉากไปร้องไห้
"puppyluv - คนมันปากแข็งใจแข็งสันดานแข็ง เราก็ต้องค่อยๆดัดกันไป ไม้แข็งมันดัดยากส์ กร๊ากก 55555
ปล. เราอ่านลมเหนือที่รักแล้วนะ ชอบมวก คิคิ♥
"love2you - อ่านต่อไปน้า แล้วจะมีโหดกว่านี้อีก 555555555
"wi_OoO_wi - โดยส่วนตัวแล้วชอบนายเอกเถื่อนๆค่ะ 555+ ส่วนการเดินเรื่องในเด็กดี .. นั่นเป็นเพราะฝีมืออีซี่ไม่เข้าขั้นเองค่ะ ผิดเพราะอีซี่เอง 55555555+
"cherilnatcha - คุยกันดีๆ? มันคืออะไรหยอ

"EARTHYSS

- ใจเย็นค่า อ่านขำๆ ไม่ต้องอินมากนะ เดี๋ยวเสียสุขภาพจิต 5555
"Tassanee - เราเป่าเพี้ยงให้
"bauloy - เดี๋ยวปั่นให้ไกลกว่านี้อีกนิดแล้วจะเอามาลงนะคะ กลัวดอง กร๊ากกก
"rubymoona - ฟีฟี่ มาดพระรองเกาหลี

ฮืออ
"ลิงน้อยสุดเอ๋อ - ยินดีต้อนรับเข้าสู่วงการ SM ค่ะ ฮิฮิฮิ (ไม่ใช่ละ)
"mcooky - แบบเป๊ปเขาไม่เรียกซึน มันเลยจุดของคำว่าซึนไปแล้ว กร๊ากกก
"diduek - เดี๋ยวเขาก็ดีกัน.. (เดี๋ยวนั้นเดี๋ยวไหน?)
"Pawaree - ไม้แก่มันดัดยาก สันดานมันเสียแพคคู่ T_T
"sakiko - ต้องรอๆ ติดตามกันต่อไป
"ammamooty - อย่ามาแย่งนะ ทอฟฟี่แฟนเรา(?) 55555 ตอนนี้ที่เด็กดีเรื่องนี้ได้ติดท็อป 6 ด้วยล่ะค่ะ

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามและให้กำลังใจ เป็นพระคุณมากๆอย่างยิ่งยวด

รักคนอ่านที่สุดนะคะ!