[Second Short] บอกชั้นให้มันชัดเจนที 03.05.13 [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Second Short] บอกชั้นให้มันชัดเจนที 03.05.13 [END]  (อ่าน 10136 ครั้ง)

PoofuGirl

  • บุคคลทั่วไป
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0


======================

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-05-2013 18:41:27 โดย PoofuGirl »

PoofuGirl

  • บุคคลทั่วไป
[One Short] เวลาไม่เคยพอ
อิฐ x ภัทร


การอยู่ด้วยกันเป็นความสุข
เป็นบางครั้งความไม่ชัดเจน
ก็ทำให้ทุกอย่าง... กลายเป็น

ความทุกข์

คุณล่ะคิดเหมือนผมไหม ?


.
.
.



เสียงเพลงดังเบา ผมนอนกลิ้งอ่านหนังสืออย่างไม่ได้ตั้งใจ


"อิฐว่างไหม... ภัทรขอคุยด้วย"


"ได้สิ..." อิฐว่างสำหรับภัทรเสมออยู่แล้ว ผมวางหนังสือในมือลง


"อิฐจะว่าอะไรไหม ถ้าภัทรจะย้ายออก"


"ภัทรหมายความว่ายังไง ?"


"อิฐ… พี่อิงขอเราคบล่ะ เราตอบตกลงไปแล้ว อิฐไม่โกรธใช่ไหม" คนตัวเล็กหน้าแดงน้อย ๆ วินาทีนั้นเหมือนจะทำให้ร่างกายของผมหยุดหายใจได้ แต่ก็ไม่ผมยังไม่ตาย หัวใจของผมยังเต้น เพียงแต่มันเต้นแรงและค่อย ๆ แผ่วลงเป็นปกติ ริมฝีปากของผมกระตุกยิ้มให้แบบเสแสร้งหน่อย ๆ ผมไม่เคยยินดีกับคำพูดของภัทรเลย


ผมไม่ได้ตอบอะไรไป ทั้งที่ควรจะสังเกตลอบอาหารของอีกฝ่ายเมื่อสองสามวันก่อนก็ตามแต่ก็ไม่ได้ทักออกไป ภัทรเก็บของในส่วนของตัวเองจนแทบจะเกลี้ยงคอนโด.... ผมมองไปรอบ ๆ ห้อง ห้องที่เคยเป็นของเรา จะเรียกว่าเราได้ไหม ในเมื่อมันไม่เคยมีคำนั้น ผมไม่เคยทำอะไรให้ชัดเจนเลยสักครั้ง


ขณะที่อีกฝ่ายตั้งหน้าเก็บข้าวเก็บของ วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ภัทรจะอยู่กับผม จะพูดไปมันก็ไม่ได้เรียกว่าวันสุดท้ายสักทีเดียวหรอก เพราะถ้าเขาเก็บทุกอย่างเสร็จแล้วสารถีประจำตัวอย่างพี่อิงคงรีบแล่นขับรถมารับไป ห้องนี้คงจะเหลือเพียงแค่ผม... คนเดียว แม้แต่คำที่เขาอยากได้ยิน ผมก็ไม่เคยพูดมันออกไป เพราะผมคิดว่าเราอยู่ด้วยกัน เพียงแค่การกระทำก็น่าจะเพียงพอแล้ว ทุกอย่างที่ผมทำเพื่อภัทรน่าจะพอ แต่สุดท้ายมันก็ไม่ใช่


"ดีแล้ว พี่อิงเป็นคนดี" ผมตอบแค่นั้นก่อนจะล้มตัวลงไปบนเตียงที่เย็นชืด


"เดือนหน้าเราจะย้ายออกนะ ขอโทษที่บอกกระทันหันนะอิฐ อิฐไม่ว่าอะไรใช่ไหม" ผมรู้ดีว่าที่ภัทรพูดไม่ได้เป็นความตั้งใจของภัทรเอง ทุกอย่างพี่อิงเป็นคนกำหนด คนที่ดีแสนดีนั่น... คงจะดีแล้วที่ภัทรเลือกที่จะไป คำพูดของผมที่อยากจะเอ่ยว่า 'อย่าไปได้ไหม' ถูกกลืนอยู่ในลำคอ กลืนหายลงไปพร้อมกับความรู้สึกที่มีให้อีกฝ่ายไว้ในอก


"เราไม่เป็นไร" นั่นเป็นคำตอบของผม ก่อนที่ความอึดอัดจะแทนที่เข้ามา... ผมจี้ห้อยคอไว้แน่นของขวัญเพียงหนึ่งเดียวที่ได้จากภัทร แล้วทุกอย่างก็เงียบสงบลงไม่มีคำพูดจากภัทรอีก ผมได้ยินเสียงหายใจที่สม่ำเสมอนั่นก่อนจะหลับตาลง ผมเอื้อมมือไปปิดไฟที่หัวเตียง ทุกอย่างมืด นิ่ง สงบ เหมือนกับกลางคืนของทุก ๆ วัน เพียงแต่วันนี้มันไม่เหมือนเดิม





…………………………………………………………..
…………………………………………
………………………..
………..




ผมกับภัทรเราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยประถม มีผมก็ต้องมีภัทร ภัทรเป็นเด็กผู้ชายหน้าตี๋ ตาชั้นเดียว ผิวขาว รูปร่างเล็กไม่มีอะไรที่โดดเด่นเป็นพิเศษยกเว้นรอยยิ้มที่ใคร ๆ เห็นก็ต้องหลงรัก รอยยิ้มของภัทรทำให้โลกหยุดหมุน ด้วยความเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่เด็ก ๆ จะเรียกว่าเพื่อนข้างบ้านก็คงได้ บ้านของเราอยู่ติดกัน ทั้งแม่และญาติพี่น้องต่างก็สนิทกัน


ภัทรเป็นเด็กดื้อ ร่างกายอ่อนแอ ป่วยบ่อย... ด้วยความที่ตัวเล็ก ผิวขาวซีดกว่าเด็กผู้ชายทั่วไป บางครั้งก็ถูกแกล้งบ้างทั้งอย่างจงใจและไม่ได้ตั้งใจ ผลก็ทำให้ผม ไอ้อิฐคนนี้ต้องเป็นองครักษ์พิทักษ์เจ้าชายน้อยของ(ข้าง)บ้าน ครับ.. ภัทรเป็นลูกชายคนเดียว ภัทรต่างจากผมที่ถึก อึด ทน ผมสูงพรวดตั้งแต่เด็ก ๆ และดูเหมือนจะตัวโตกว่าเด็กทั่วไปในวัยเดียวกัน สมัยประถมผมอยู่ต้นแถวสำหรับคนที่สูงที่สุด ในขณะที่ภัทอยู่ท้ายแถวเป็นคนที่ตัวเล็กที่สุดของห้อง เวลาเดินด้วยกันเราเหมือนตอหม้อกับเสาไฟฟ้า หรือ ทางม้าลาย ใคร ๆ ก็ว่าอย่างนั้น



"นี่แผลนี่ได้มาจากไหน" ผมสังเกตร่องรอยที่ถูกทำแผลไว้อย่างดี


"เราหกล้ม"


"ใครผลัก..."


"ไม่มีใครผลักหรอก อิฐอย่าคิดมากน่า" ภัทรก้มหน้างุด อาการไม่สบตาทำให้รู้ว่าโกหก ผมรู้ดีว่าภัทรโกหกไม่เก่งไม่มีสักครั้งที่โกหกแล้วจะจับผิดไม่ได้


"ภัทรไม่มองตาเรา ภัทรกำลังโกหก"


"มันเป็นอุบัติเหตุ อิฐก็รู้นี่นาว่าเราซุ่มซ่าม"


"อย่าให้เราไปถามเองนะภัทรก็รู้ว่าเราโมโหร้าย น้าดาวต้องโกรธมากแน่ ๆ ถ้าภัทรโกหก ภัทรดื้อแบบนี้"


"อิฐพูดเหมือนกับว่าเป็นพี่ชายเรา เราไม่ได้ดื้อ อีกอย่างเราก็อายุเท่ากัน เรารู้ว่าถ้าเราบอกไปอิฐก็ต้องไปต่อยเขา ครั้งก่อนยังโดนพักการเรียนไม่พออีกเหรอไง คราวนี้ถ้าทำอีกนายต้องซ้ำชั้นนะ เราเป็นห่วงนาย" น้ำเสียงบ่งบอกความห่วงใย ภัทรยังคงก้มหน้าขยำเสื้อนักเรียนของผม


"อย่าร้องไห้ เราขอโทษ" ผมลูบศีรษะภัทร อีกฝ่ายยืนแน่นิ่งปล่อยให้น้ำตาไหลลงมา


"ลูกผู้ชายต้องไม่ร้องไห้"


"ลูกผู้ชายก็ต้องมีเหตุผลไม่ใช่เอะอะใช้แต่กำลังเราไม่ชอบ" ทุกอย่างเงียบผมปล่อยให้ภัทรร้องไห้เงียบ ๆ จนกระทั่งได้ยินเสียงผิวปากวี๊ดวิ้วของพวกแก๊งซ์แสบต่างห้อง


"สวีทกันใหญ่เลยโว้ยยยยย... พวกตุ๊ดนี่มันเปิดเผยเนอะเดี๋ยวนี้"


"ถ้าพวกกูไม่เดินผ่านมาแถวนี้ คิดว่าต้องมีฉากสวีทอีกสักสองสามฉากว่ะ มึงคิดว่าไงวะคีสซ๊นไง คีสซีน ไอ้ตี๋ภัทรตาตี่นั่นยอมให้มึงเอาแน่ ๆ จูบโชว์หน่อยดิวะอิฐ" ไอ้บีมยังคงพูดต่อผมขยับตัวแต่ภัทรกำชายเสื้อนักเรียนผมแน่น


"อิฐอย่าไปสนใจ" เสียงของอีกฝ่ายเบา


"จูบเลย จูบเลย จูบเลย.... " เสียงร้องประสานดังแก๊งซ์แสบที่นำทีมโดยไอ้บีมร้องดังพร้อมกับหัวเราะเอิ๊กอ๊าก


"ถ้ามึงไม่หยุดกูจะไปต่อยให้พวกมึงฟันร่วงเดี๋ยวนี้"


"กล้าก็เอา !" ก่อนที่กำปั้นผมจะเคลื่อนตัวไปถึงใบหน้ามัน อ้อมแขนของภัทรก็กอดผมจากด้านหลัง


"หยุดอิฐ... อย่า… อย่าทำแบบนี้ กลับบ้านกัน" ทำผมชะงัก เป็นบุญของไอ้บีมและผองเพื่อนที่ไม่ได้ชิมกำปั้นผมก่อนที่จะแน่นิ่งนอนหยอดน้ำข้าวต้มเข้า รพ. และบุญของผมที่ไม่ได้ซ้ำชั้นเพราะคำพูดของภัทร ภัทรเดินจับจูงมือผมผ่านหน้าพวกนั้น เดินเร็ว หน้างอง้ำ...


"ถ้าเราไม่ห้าม อิฐก็จะมีเรื่องอีกใช่ไหม จำไม่ได้เหรอว่าเราพูดไว้ว่ายังไง"


"อิฐของโทษ สัญญาจะไม่ใช้กำลังแล้ว"


"ถ้าอิฐผิดสัญญาเราจะโกรธมาก" เราเกี่ยวก้อยสัญญากัน ผมจำได้ว่าภัทรยิ้มให้ผมเป็นรอยยิ้มที่ทำให้โลกทั้งใบสว่างไสว หัวใจผมเต้นแรง ณ ตอนนั้นผมเป็นแค่เด็กมัธยมปีที่ห้า ยังคงคิดว่านั่นไม่ใช่ความรู้สึกแปลก ๆ ที่เกิดขึ้น เพราะเราก็โตมาด้วยกัน ทำอะไรทุกอย่างร่วมกันเสมอ เป็นเพื่อนสนิทที่รักกันมากเท่านั้นเอง ผมเป็นห่วงภัทรและภัทรเป็นห่วงผมนั่นเป็นเรื่องปกติ... ผมเคยละสายตาจากภัทร ในขณะเดียวกันภัทรก็ไม่เคยมองใครเหมือนกัน เราเป็นที่หนึ่งของกันและกัน


เรากอดกัน จูงมือกลับบ้านด้วยกันทุกวัน... ผมเชื่อว่ามันจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป จนกระทั่งเวลาผ่านไป เราสอบเข้ามหาลัยได้ที่เดียวกันแต่คนละคณะ ภัทรเลือกเรียนมนุษย์ศาสตร์ ส่วนผมเรียนวิศวะ... เวลาที่อยู่ด้วยกันของเราน้อยลง แต่อย่างน้อยเวลาที่กลับหอพักมาผมก็ยังเห็นภัทรอยู่ในห้อง ผมยินดีทุกครั้งที่ได้กลับมาที่หอพักเราเป็นรูมเมทของกันและกัน


"อ้าว… อิฐวันนี้กลับเร็วเชียวนะ" ภัทรกำลังแกะถุงอาหารเทลงชาม ผมชะงักเพราะใครอีกคนที่อยู่ในห้องด้วย


"นี่พี่อิง รุ่นพี่ที่คณะ... ใกล้สอบแล้วเราขอให้พี่เขามาติวให้เราน่ะ ขอโทษที่ไม่ได้บอกอิฐก่อนนะ แต่เดี๋ยวกินเสร็จแล้วพี่อิงก็จะกลับแล้วล่ะ" น้ำเสียงเจื้อยแจ้วของภัทรเป็นเหมือนปกติ เพียงแต่ผมรู้สึกหงุดหงิดอย่างประหลาด ผมไม่ชอบเสียงของภัทรที่เรียกรุ่นพี่คนนี้เลยสักนิด ห้องของเราแต่มีคนอื่นมาอยู่ด้วย... พี่อิงคนนี้สนิทกับภัทรมาก ? ตั้งแต่เมื่อไหร่ พอโตขึ้นจนถึงตอนนี้เราไม่เคยคุยอะไรด้วยกันจริง ๆ จัง ๆ สักทีหรืออาจจะเป็นเพราะว่าเราต่างก็โตขึ้นไม่จำเป็นต้องพูดระบายอะไรให้ใครฟังเหมือนตอนเด็ก ๆ ที่มีเพียงแค่เราสองคน


"อิฐสินะ... ตัวเล็กพูดถึงนายบ่อย ๆ"


"ครับ" ผมตอบไปแบบนั้น สะดุดนิด ๆ กับวิธีการเรียกภัทรที่ดูเหมือนจะเป็นพิเศษ


"อิฐจะกินเกี้ยวน้ำไหม เราซื้อมาเผื่อ"


"ไม่ล่ะเดี๋ยวเราจะทำงานก่อน ดึก ๆ ค่อยกิน"


"แต่นี่มันจะสามทุ่มแล้วนะ อิฐยังไม่ได้กินอะไรเรารู้ เดี๋ยวก็โรคกระเพาะถามหาต้องเข้าโรงพยาบาลอีกหรอก"


"เข้าก็ดีสิ พยาบาลสาวสวยเยอะแยะมาคอยเอาใจ" เหมือนผมพูดประชดไปแบบนั้น ยิ่งทำให้อีกฝ่ายหน้างอ


"งั้นไม่ต้องกินแล้ว เชิญเข้า รพ. ไปหาพยาบาลสาวสวยให้พอเลยไป" น้ำเสียงงอน ๆ เอ่ยขึ้นจนพี่อิงหัวเราะน้อย ๆ


"สนิทกันจังเลยนะ"


"แค่เพื่อนสมัยเด็ก ๆ ครับ ชอบว่าคนอื่นดื้อแต่ตัวเองกลับดื้อกว่า" ภัทรว่าแบบนั้น คำพูดเหมือนไม่ได้คิดอะไร แต่ก็ทำให้ผมคิด... แค่เพื่อน นั่นสิผมก็เป็นแค่เพื่อน ไม่กล้าฟันธงว่าไอ้ที่โมโห ไอ้ที่หงุดหงิดอยู่เนี่ยมันเพราะหวงเพื่อนหรืออะไร


"พี่จะกลับแล้วภัทรเดินลงไปส่งหน่อยสิ" 


"เดี๋ยวผมลงไปส่งเอง ภัทรดึกแล้วไปอาบน้ำ ชอบอาบน้ำตอนดึก ๆ ผมไม่แห้งเดี๋ยวก็ไม่สบายอีกหรอก" ผมหันไปดุคนตัวเล็กกว่าก่อนจะหยิบผ้าขนหนูส่งให้แล้วดุนหลังอีกฝ่ายเข้าห้องน้ำไปโดยไม่สนเสียงโวยวายนั่น


.
.
.



"ท่าทางหวงนั่นเกินกว่าเพื่อนสนิทหรือเปล่าอิฐ" พี่อิงถามผมตอนที่เรากำลังรอลิฟท์อยู่ ผมหันไปมองรุ่นพี่ของภัทรแบบไม่ชอบใจอยู่หน่อย ๆ ผมไม่ชอบคุยกับคนไม่สนิทถึงแม้เขาจะเป็นรุ่นพี่ที่อาจจะเรียกว่าสนิทมากของภัทรถึงขั้นมีน้ำใจมาติวหนังสือให้ทั้งที่่ช่วงเวลาก่อนสอบแต่ละฝ่ายก็หัวมุนจนแทบระเบิดก็ตาม


"พี่หมายความว่ายังไง พูดให้มันดี ๆ"


"พี่ว่าอิฐดูสนิทกับตัวเล็กเกินไปหน่อย"


"เราเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่เกิดจนถึงตอนนี้ บ้านเราอยู่ข้างบ้านกัน ผมเรียนมาด้วยกันกับภัทรตั้งแต่อนุบาลจนถึงตอนนี้ พี่ว่ารู้จักกันตั้งแต่เกิดนี่เรียกว่าสนิทเกินไปหน่อยเหรอ ?" ผมกระแทกเสียงใส่อย่างหงุดหงิดไอ้รุ่นพี่บ้านี่


"พี่หมายถึงอิฐไม่ชอบหน้าพี่เหมือนพี่จะมาแย่งภัทรไปอย่างงั้นแหล่ะ"


"ไม่ใช่ เราเป็นแค่เพื่อนสนิทกัน พี่อย่าพูดแบบนั้นคนอื่นมาได้ยินภัทรเสียหาย"


"งั้นพี่ต้องขอโทษด้วยนะ ที่เข้าใจผิด แต่ที่ไม่ผิดคือพี่ถูกใจเพื่อนเรามาก ไม่ต้องไปส่งนะ กลับห้องไปเถอะ... พี่กลับเองได้" พี่อิงพูดแบบนั้นแล้วก็เดินเข้าลิฟท์ไปโบกมือให้ผม ก่อนประตูลิฟท์จะปิดลงไป ผมยืนตัวชาอยู่ตรงนั้นทบทวนความคิดหลายอย่าง... ถูกใจ หมายความว่ายังไง ?


คำพูดนั้นยังวนเวียนไปมา.... ผมทำท่าไม่ใส่ใจ อีกอย่างเราก็ใกล้จะเรียนจบแล้วด้วยคงมีโอกาสเจอพี่อิงอีกไม่บ่อย แต่นั่นอาจจะเป็นความคิดที่ผิด ผมไม่รู้มาก่อนว่าพี่อิงตั้งท่าจีบภัทรตั้งแต่เรียนปีหนึ่งที่นี่แล้ว และเป็นแขกประจำของหอพักมาโดยตลอด ในขณะที่ผมกลับดึกเพราะต้องส่งงานโปรเจ็คหรือไปเมาหัวราน้ำบ้าง แต่อีกฝ่ายอยู่เป็นเพื่อนภัทรคุยเรื่องเดียว ๆ กันที่บางทีผมก็ไม่เข้าใจ จนครั้งหลังสุดหลังจากจบมหาลัย เราก็ตัดสินใจเช่าคอนโดอยู่่ด้วยกันอีกเพราะต่างฝ่ายก็ได้ที่ทำงานที่ไม่ไกลจากคอนโดนี้สักเท่าไหร่


ปีใหม่ปีที่แล้วเพื่อน ๆ ยกโขยงมาเมาส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ห้องผม... ผมไม่เคยเห็นภัทรเมาเพราะเวลาผมไปด้วยอีกฝ่ายจะได้ดื่มแต่น้ำอัดลมหรือไม่ก็น้ำเปล่า ผมไม่เคยให้ภัทรแตะต้องแอลกฮอลล์นั่นเป็นความห่วงของผม เพราะเคยเห็นจิบแค่สไปด์ไวท์คูลเลอร์ตัวก็แดงเมาจนต้องไปนั่งเป็นเพื่อนสนิทอยู่ที่คอห่านชักโครกแล้ว


แต่เพราะปีใหม่เพื่อนร่วมรุ่นร่วมแก๊งซ์เยอะ ! ผมเลยไม่ห่วงสักเท่าไหร่แต่ละคนก็เมาเรื้อนได้เต็มที่ วันนั้นผมไม่เห็นพี่อิง ผมดีใจที่ไม่ต้องส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กับคนที่ผมไม่ชอบหน้า... และเป็นครั้งแรกที่ภัทรเมาเรื้อนเสียจนเพื่อน ๆ บอกให้ผมหิ้วภัทรไปนอนเพราะอีกฝ่ายดูท่าไม่ได้สติหนัก ตัวแดงเถือกเพราะฤทธิ์แอลกฮอล์ ปกติภัทรจะตัวเบา แต่วันนี้ตัวหนักเป็นพิเศษดูงอแง เดี๋ยวก็ร้องไห้เดี๋ยวก็หัวเราะ ผมเห็นแล้วก็อยากหัวเราะไม่บ่อยนักที่จะได้เห็นภัทรทำตัวงี่เง่าพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้


"ภัทรร้อน... ถอดเสื้อให้หน่อย"


"ร้อนอะไรนี่เปิดแอร์จนเย็นไปถึงไส้ติ่งแล้วนะภัทร"


" 25 องศา ร้อนจะตาย อิฐงก... เปิด 30 สิ 25 มันจะไปเย็นได้ยังไง" คนเมางอแง เอากับเขาสิ 25 ร้อนแล้ว 30 ไม่ร้อนตับแตกเลยเหรอยังไง


"เมื่อวานพี่อิงขอภัทรคบด้วย.... อิฐรู้ไหมพี่อิงใจดีมาก แต่อิฐใจดีกว่า" เสียงเมางัวเงียแต่ผมก็ยังได้ยินทุกคำพูด


"ภัทรน่ะ... รักอิฐนะ อิฐรักภัทรบ้างไหม ภัทรรักอิฐ" ดวงตาคู่นั้นมองผมด้วยฤทธิ์แอลกฮอล์เยิ้ม ริมฝีปากแดงคลี่ยิ้มน้อย ๆ ผมยังมีสติดีอยู่


"อิฐชอบภัทรมากเพราะเราเป็นเพื่อนกัน"


"อิฐไม่รักภัทร อิฐไม่รักภัทร" เสียงคนเมาร้องไห้สะอึกสะอื้น... ผมไม่เข้าใจความหมายของภัทรมากนัก เจ้าตัวไม่ค่อยพูดหรือบอกว่ารักสักเท่าไหร่เหมือนตอนเด็ก ๆ ภัทรชอบอิฐนะ ภัทรชอบอิฐมากเลย เป็นเพื่อนกันตลอดไปนะ คำสัญญาตอนเด็ก ๆ ผุดขึ้นมาอยู่ในหัวผมเสมอ มโนภาพที่ภัทรยิ้มดีใจกว้างเกี่ยวก้อยสัญญาจะเป็นเพื่อนกันตลอดไปผุดขึ้นมาชัดเจนราวกับเป็นสิ่งที่เพิ่งเกิดเมื่อวาน


"อิฐจะเป็นเพื่อนรักของภัทรตลอดไป อิฐไม่ผิดสัญญาหรอก อิฐรักภัทรนะ" ผมกอดอีกฝ่ายที่ดึงดันจะถอดเสื้อตัวเองออกซะให้ได้ ภัทรร้องไห้น้ำตาไหลดิ้นไปมาอยู่ในอ้อมแขนผม อิฐเกลียดภัทรแล้ว... อิฐเกลียดภัทรแล้ว อิฐไม่รักภัทร ภัทร้องอยู่แบบนั้นพร้อมกับทุบอกผมไปมาก่อนจะสงบนิ่งหลับเป็นตาย


"ภัทร….. รัก อิ…." คำพูดสุดท้ายที่แผ่วเบาของภัทรแทบจับไม่ได้ศัพท์ว่าภัทรพูดอะไร... ผมปล่อยภัทรทิ้งตัวลงบนเตียงใบหน้าขาวแดงระเรื่อ คืนนี้ผมจะปล่อยตัวปล่อยใจเป็นครั้งสุดท้าย


อีกฝ่ายเมาไม่ได้สติจะว่าผมเลวก็ยอม ผมจูบลงบนริมฝีปากนิ่มครอบครองไว้อยู่อย่างนั้น สอดใส่ลิ้นเข้าไปค้นหาความหวานจูบจนหนำใจทั้งที่ภัทรเมาแบบนั้นแต่ก็จูบตอบกลับมาคงเป็นปฎิกิริยาของคนเมา อ้อมแขนเล็ก ๆ รั้งคอผมไว้ผมไซร้ซอกคอขาวทำรอยคีสมาร์คก่อนเลิกเสื้อยืดตัวบางขึ้นจะลิ้มรสตุ่มไตของบนหน้าอกทั้งตั้งชูชันนั่น ภัทรครางส่งเสียงอื้ออึง ผมมองหน้าเขาอีกครั้งก่อนน้ำตาจะไหลออกมาแล้วก็หยุดทุกอย่างลงผมไม่อยากเป็นคนเลวในสายตาภัทร


"อิฐรักภัทรนะ...."


แล้ววันรุ่งขึ้นภัทรก็ปวดหัวงอแง โวยวายสัญญาและสาบานกับผมว่าจะไม่แตะแอลกฮอล์อีก

.
.
.



"นกขออิฐคบเหรอ" เป็นคำสนทนาในยามบ่ายของวันปีใหม่ที่ทุกอย่างดูสดใส ถ้าไม่ติดอาการแฮงค์เอ้าท์ของเราทั้งคู่


"อือ…ใครบอกเหรอ" ผมยังง่วนอยู่กับขนมปังปิ้งที่ทาแยมส้มแล้วส่งให้คู่สนธนาตัวดี


"นกบอก นกว่าชอบอิฐมานานแล้ว อิฐตอบตกลงไปหรือเปล่า" ทั้งที่งับขนมปังแต่ยังพูดจาเจื้อยแจ้วได้ดี จนขนมปังแทบติดคอ ผมส่งน้ำส้มอย่างที่เจ้าตัวชอบส่งไปให้


"บอกแล้วว่าเวลาเคี้ยวอาหารอย่ามัวแต่พูด" ผมเลี่ยงที่จะตอบคำถาม


"ขอโทษ… แล้วอิฐตอบตกลงไปหรือเปล่า"


"เปล่า อิฐมีคนที่ชอบแล้ว อิฐไม่อยากให้นกเสียใจ"


"เหรอ... ภัทรรู้จักคนนั้นหรือเปล่า ทำไมอิฐปิดเงียบไม่บอกภัทรเลย"


"ภัทรไม่รู้จักหรอก" แล้วทุกอย่างก็เงียบ ผมได้ยินเสียงนกร้อง... ท้องฟ้ายังคงสว่างไสวราวกับเช้าของวันปีใหม่แต่นี่ก็บ่ายแก่ ๆ แล้ว


"วันนี้ภัทรไปข้างนอกนะอิฐ มีนัดกับพี่อิง"


"อิ่มแล้วเหรอ"


"เปล่า ภัทรเบื่อแยมส้มแล้ว เดี๋ยวต้องไปกินข้าวกับพี่อิงด้วย ภัทรไปอาบน้ำก่อนนะ"


.
.
.
.



นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายของภัทร เราไม่ได้คุยกันอีก ช่วงนี้ภัทรงานยุ่งกลับบ้านดึกบ่อย ๆ ขณะที่ผมกลับบ้างไม่กลับบ้าง ผมขี้ขลาดเองไม่กล้าที่จะพูดอะไรให้มันชัดเจนออกไป ผมอยากจะพูดว่า 'คบกันนะ อิฐรักภัทร' แต่ก็เหมือนไม่ใช่วิสัยของผมสักเท่าไหร่  เราเป็นเพื่อนกันมานาน นานจน... ผมอยากให้มันเป็นตลอดกาล



"ไอ้อิฐ! จะกินจนเมาเป็นหมาหรือไงวะ"


"ปล่อยกู" ไอ้น้ำดึงแก้วเหล้าออกจากมือถือเมื่อเห็นท่าว่าออนเดอะร็อกกำลังจะทำให้เพื่อนมันสิ้นฤทธิ์


"แด่กอย่างกับน้ำเปล่า กลุ้มนักเดินไปบอกไอ้ภัทรเลยว่ารัก"


"ก็เขาไม่ได้รักกู บอกไปก็ไม่ได้ทำให้รัก เขากับกูน่ะ.... มันก็แค่เพื่อนร๊าาาาากกกก... "


"สัดนี่! ไม่บอกใครเขาจะรู้วะ มึแต่มึงนี่แหล่ะที่โง่งมโข่งอยู่ในกะลา เป็นกูบอกไปตั้งแต่รู้ตัวแล้ว ไม่ปล่อยโอกาสให้ใครมาทำคะแนนไปง่าย ๆ หรอก น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกล่อน อย่าว่าแต่ใจคนเลยมึงงงงง มึงดีกับภัทรมันเท่าไหร่ ไอ้พี่อิงนั่นแม่งก็โคตรดี... ไม่ต้องเป็นเกย์กูก็อยากได้เป็นแฟนวะ" ไอ้น้ำเริ่มพล่ามอะไรก็ไม่รู้...


"ภัทรมันก็รักมึงแหล่ะ สัดนี่! ฟังกูอยู่ป่ะเนี่ย... ถ้ามันไม่รักมึงมันคงไม่..."


"ไม่เชี่ยไร..."


"ช่างเหอะ บอกมันไปซะว่ารักมัน ก่อนที่จะมีใครคาบไปแด่กแล้วต้องมานั่งร้องไห้ให้กูปลอบ"


"กูไม่อยากเป็นคนเลว... ภัทรไม่ได้รักกูหรอก ถ้ากูบอกไปมันคงเลิกคบกับกู"


"ไอ้โง่บัดซบเอ๊ยยยยยย...." ผมโดนไอ้น้ำตบกระบาล หลังจากนั้นก็ไม่รู้ว่ากลับมาถึงคอนโดได้ยังไง เราสองคนหลบหน้าหลบตากันตั้งแต่หลังวันปีใหม่ ภัทรทำท่าแปลก ๆ ตั้งแต่วันที่ออกไปกับพี่อิง ถามคำตอบคำ ผมเหนื่อยที่จะซักไซร้ไล่เรียง หลัง ๆ มานี่บางทีภัทรก็ประชดมากขึ้น

.
.
.



"อิฐไม่ใช่พ่อภัทรไม่ต้องมาบ่น ภัทรไม่อยากฟัง ทีอิฐออกไปดึก ๆ ดื่น ๆ ภัทรไม่เห็นว่าสักคำเลยนะ"


"แต่ภัทรกลับดึกอิฐเป็นห่วง"


"อิฐห่วงทำไม ภัทรก็เหมือนอิฐเป็นผู้ชายเหมือนกัน ภัทรโตแล้ว อิฐเลิกห่วงเถอะไปห่วงคนนั้นของอิฐเถอะ"


"ดื้อว่ะ!"


"ภัทรไม่ได้ดื้อ ภัทรเบื่อ... โน่นก็ไม่ได้นี่ก็ไม่ได้อิฐเป็นใครเป็นแค่เพื่อนสนิทอย่ามาทำตัวเป็นพ่อกับแม่นะ ภัทรไม่ชอบ"


"ใช่สิ! อิฐไม่ใช่พี่อิงคนดีของภัทรนิ"


"รู้ตัวก็ดีแล้ว"


.
.
.




เราทะเลาะกันในคืนนั้นต่างฝ่ายต่างไม่ได้พูดอะไรอีก จนถึงตอนนี้ ผมนั่งฟังเพลงอยู่เพลงที่ทำให้ผมสะดุดใจ



"อิฐว่างไหม... ภัทรขอคุยด้วยหน่อย"


"ได้สิ..." อิฐว่างสำหรับภัทรเสมออยู่แล้ว ผมวางหนังสือในมือลง


"อิฐจะว่าอะไรไหม ถ้าภัทรจะย้ายออก"


"ภัทรหมายความว่ายังไง ?"


"อิฐ… พี่อิงขอเราคบล่ะ เราตอบตกลงไปแล้ว อิฐไม่โกรธใช่ไหม"


"ดีแล้ว พี่อิงเป็นคนดี"  ผมกำลังหลอกตัวเองอยู่ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มที่สุด... เพลงยังคงดัง




เรายังอยู่ด้วยกันอีกนานแสนนาน
ฉันเชื่อตัวเองเช่นนั้น ถึงได้ปล่อยวันเวลาไปไกล
ควรจะบอกบางคำก็ทำลืมไป
คิดว่าเหลือเวลาเท่าไรก็พอพูดมัน
กว่าจะบอกตัวเองว่าอย่ามั่นใจ
ก็เมื่อในวันที่สาย ที่ไม่มีเธอข้างๆกายกัน
อยากจะบอกคำเดิมที่เธอรอนาน
ฉันก็เหลือแค่เพียงสิทธิ์บอกเธอผ่านสายตา


และทีนี้เวลาที่มีไม่พอสักอย่าง
อยากมีหนทางดึงสิ่งต่างๆย้อนมา
จะกอดเธอไว้จะทำทุกวันให้มีความหมายให้มีค่า
จะไม่ทำให้เธอปวดใจ


ฉัน ไม่มีวันได้เธอคืนมา ฉันขอเวลาแค่บอกคำนั้น
ที่เธอเคยต้องการมันยังทันใช่ไหม
ฉันเสียใจตลอดเวลาที่รักษาเธอไม่ได้ สุดท้าย
อยากให้รู้ว่ารัก


ได้แต่เกลียดตัวเองที่ลืมนึกไป
ว่าโลกมีคำว่าสาย ไว้สะกิดใจให้ฉันรีบทำ
ได้แต่กอดตัวเองกับความทรงจำ
ที่ยิ่งย้ำว่าฉันมันผิดที่ชะล่าใจ


และทีนี้เวลาที่มีไม่พอสักอย่าง
อยากมีหนทางดึงสิ่งต่างๆย้อนมา
จะกอดเธอไว้จะทำทุกวันให้มีความหมายให้มีค่า
จะไม่ทำให้เธอปวดใจ


ฉัน ไม่มีวันได้เธอคืนมา ฉันขอเวลาแค่บอกคำนั้น
ที่เธอเคยต้องการมันยังทันใช่ไหม
ฉันเสียใจตลอดเวลาที่รักษาเธอไม่ได้ สุดท้าย
อยากให้รู้ว่ารัก


ฉันขอได้ไหม แค่บอกคำนั้น (แค่บอกคำนั้นจากใจ)
ที่เธอเคยต้องการมันยังทันใช่ไหม
ฉันรักเธอตลอดเวลา แต่รักษาเธอไม่ได้
เชื่อไหม (สุดท้าย) เวลาไม่เคยพอ




ความไม่ชัดเจนกำลังฆ่าผมอย่างช้า ๆ ในห้วงของความฝันผมมีภัทร เรามีแค่กันและกัน... ผมกำลังหลอกตัวเองแบบที่ไอ้น้ำบอก ทุกอย่างมันเป็นเพราะความไม่กล้าพอของตัวผมเอง สุดท้ายผมก็คงต้องปล่อยมือภัทรไปความรักของผมเริ่มต้นและจบลงด้วยรอยยิ้มของภัทร... 23 ปีที่ผ่านไปผมคงต้องจบมันซะที พรุ่งนี้นะพรุ่งนี้ ผมจะเป็นเพียงแค่เพื่อนที่ดีที่สุดของเขา ผมสัญญา


"อิฐรักภัทรนะ"


===========================


เนื้อเรื่องเนิบ ๆ เหมาะสำหรับบ่าย ๆ ของวันอาทิตย์ค่ะ ไม่ดราม่าเกินไป เป็นเรื่องสั้นเรื่องที่ 2 ค่ะ ฝากด้วยนะคะ  :กอด1:
พอดีฟังเพลงแล้วคึก >w< ได้พล็อตจากการฟังเพลงค่าาาาาาา

ปล. 2 ตอนจบนะคะ มีต่อข้างล่างค่ะ ^^;; เป็น POV ฝ่ายภัทรเป็นคนเล่า


เพลงเวลาไม่เคยพอ

เวลาไม่เคยพอ - แดน


ฝากเรื่องอื่นในสังกัดด้วยค่ะ

อยากให้รักนี้...ไม่มีชื่อเรื่อง 1-4 (ยังไม่จบ)
[One Short] วันธรรมดาวันหนึ่งของคนโสด(จบแล้ว)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-05-2013 01:59:36 โดย PoofuGirl »

kissazazel

  • บุคคลทั่วไป
อะไรเนี่ยยยย ทำไมต้องให้เค้าคิดต่อด้วยนะ

ชีวิตจริงมากอะ รักกันนะ แต่แค่ไม่ยอมพูดกันออกมา

แค่พูดก็จบแล้ว เซ็งงงงงงงง

PoofuGirl

  • บุคคลทั่วไป
[One Short] บอกชั้นให้มันชัดที
อิฐ x ภัทร

บางครั้งผมก็อยากได้ความชัดเจน
บางครั้งก็อยากถามออกไป
ตกลงเราเป็นอะไรกัน

ทุกวันนี้ผมยืนอยู่ข้างเขาในฐานะอะไร
คนรักหรือเพื่อนสนิท
ทุกอย่างไม่เคยชัดเจน.. เพราะเขาเอง
หรือว่าความรู้สึกของผมไม่เคยส่งไปถึงเลย


   "เดือนหน้าเราจะย้ายออกนะ ขอโทษที่บอกกระทันหันนะอิฐ อิฐไม่ว่าอะไรใช่ไหม" อิฐเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบ

   "เราไม่เป็นไร" นั่นคือคำตอบที่ให้กับผมมา ใบหน้าเขาดูไม่ใส่ใจยังคงง่วงพลิกอยู่กับหนังสือเล่มโปรด... ผมเบือนหน้าหนีไม่ได้พูดอะไรอีก ล้มตัวลงบนที่นอนนิ่มที่เย็นชืด กุมมือไว้บนอก... เฝ้าบอกตัวเองว่าอย่าร้องไห้ ผมเพียงแค่อยากได้ยินอิฐพูดว่า 'อย่าไปได้ไหม' แค่ให้เขารั้งให้ผมอยู่ด้วยกันตรงนี้... ผมทำได้แค่มโนภาพไปเองทุกอย่าง นั่นเป็นแค่ความคิดของผม แต่ในความเป็นจริง มันไม่เคยเกิดขึ้นเลย

   อิฐเอื้อมมือไปปิดไฟที่หัวเตียง ทุกอย่างมืด เงียบ สงบเหมือนกลางคืนของทุก ๆ วัน เพียงแต่วันพรุ่งนี้ห้องนี้จะมีเพียงแค่อิฐ.. ไม่มีเราอีกต่อไป จริง ๆ มันอาจจะไม่เคยมีคำว่า 'เรา' มาตั้งแต่แรกเลยด้วยซ้ำไป ผมเฝ้าถามตัวเองบ่อย ๆ ทุกวันนี้ผมยืนอยู่ข้างเขาในฐานะอะไร ผมไม่เคยค้นหาคำตอบของมัน... แค่ได้อยู่ข้าง ๆ ก็น่าจะพอใจแล้ว แต่ผมเป็นคนโลภไม่เคยพอใจกับสิ่งนั้น ถ้าไม่ได้หัวใจก็สู้ตัดใจเสียดีกว่า มันคงเป็นทางออกที่ดีที่สุด อิฐใจดีกับผมมากจนเกินไป ใจดีจนผมคิดว่าตัวเองเป็นคนพิเศษ... แต่มันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างนั้น ผมก็แค่คิดไปเอง


……………………………………………………………
……………………………………………………
………………………………………..
………………….

.
.
.


   ผมกับอิฐ เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เกิด จะเรียกว่าตั้งแต่เกิดก็อาจจะไม่ผิดล่ะมั้ง บ้านเราอยู่ข้างกัน อิฐเป็นเด็กผู้ชายที่โตไวกว่าเด็กในวัยเดียวกัน เขามีดวงหน้าได้รูป ผิวสีน้ำผึ้ง ดวงตาคู่สวยเฉี่ยว... ดวงตาคู่นั้นสะกดผมตั้งแต่ครั้งแรกที่จำความได้ ผมอ่อนแอกว่าเด็กในวัยเดียวกัน ขณะที่อิฐดูโตกว่าเด็กในวัยเดียวกัน เราเรียนโรงเรียนเดียวกัน ห้องเดียวกัน เลขที่ติดกัน อิฐดูแลผมประหนึ่งน้องชาย... บ่อยครั้งที่ผมโดนรังแก แต่อิฐเองนั่นแหล่ะที่เป็นฝ่ายไปแก้แค้นจนเจ้าตัวได้แผลบ่อย ๆ

   "อิฐโกหกเราอีกแล้วใช่ไหม นี่หน้าไปโดนอะไรมา ? ทำไมเขียวแบบนี้" ผมกำลังประคบร้อนลงใบหน้าของอีกฝ่ายที่บัดนี้เขียวบูดจนเปลี่ยนป็นสีม่วง

   "อิฐหกล้ม"

   "อิฐโกหก... หกล้มอะไรนี่ไปต่อยกับใครมา ถ้าอิฐไม่บอกเราจะฟ้องน้าเพ็ญ"

   "บอกก็ได้อย่าทำหน้างอสิ ก็ไอ้บีมนั่นแหล่ะ"

   "อิฐไม่เข็ดใช่ไหม ถ้าพักการเรียนล่ะ... เดี๋ยวได้ตกซ้ำชั้นหรอก"

   "ไม่หรอกน่า พวกนั้นไม่กล้าหรอก อิฐก็แค่สั่งสอนนิด ๆ หน่อย ๆ"

   "นิดหน่อยของอิฐน่ะ พรุ่งนี้โดนเรียกผู้ปกครองแน่ ๆ"

   "ก็พวกนั้นมันแกล้งภัทรก่อนนี่นา ภัทรไม่โมโหเหรอไง ไม่อยากแก้แค้นเหรอ"

   "เราโมโห แต่เราไม่อยากให้อิฐแก้แค้น... ทะเลาะกันไปมามันก็ไม่จบสักที สู้เราเงียบ ๆ ไปดีกว่าจะได้ไ่ม่ต้องมีเรื่องด้วย เราทนได้ อิฐไม่ต้องเป็นเดือดเป็นร้อนหรอกน่า เราไม่อยากให้อิฐเดือดร้อนเจ็บตัวกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง" ผมมองอีกฝ่ายที่เต็มไปด้วยแผลแล้วก็อดถอนหายใจไม่ได้ อิฐคงไม่รู้ทุกครั้งที่ผมทำแผลให้เขาผมใจผมรู้สึกเจ็บมากกว่าเขาซะอีก ผมไม่อยากเห็นเขาสภาพนี้เลย

   "แต่…. ภัทรเป็นเพื่อนรักอิฐ อิฐยอมไม่ได้หรอกที่จะให้พวกนั้นรังแกฝ่ายเดียว" ผมเป็นเพื่อนรักของเขา... เพื่อนรักสินะ

   "แต่อิฐสัญญากับเราแล้วนะว่าจะไม่ใช้กำลัง อิฐผิดสัญญา จะทำให้ตัวเองเจ็บตัวทำไม อีกเดี๋ยวเราก็เรียนจบไม่ต้องเจอพวกนั้นแล้ว หัดมีเหตุผลซะบ้างโตแล้ว" ผมดุอิฐเหมือนทุกที แต่อีกฝ่ายได้แต่หัวเราะจนกระทั่งโดนกดแผลปิดพลาสเตอร์ที่ข้างแก้มถึงได้ร้องโอดโอย

   "ภัทรมือหนักเป็นบ้า เบา ๆ หน่อยสิ"

   "แล้วใครใช้ให้อิฐซ่าไม่เข้าเรื่องล่ะ คราวหลังอย่าทำอีก เราไม่ช่วยอิฐทำแผลแล้วนะ"

   "ขอโทษ… สัญญาจะไม่ผิดสัญญาอีก" ผมใจอ่อนทุกทีเวลาได้ยินอิฐพูดขอโทษดวงตาคู่นั้นมองตรงมา หัวใจผมก็อ่อนยวบ อิฐคงไม่รู้หรอกว่า... เพือนรักของเขานิสัยแย่มาก คิดแย่ ๆ กับตัวเอง ทุกอย่างมันผิดตั้งแต่ผมคิดกับอิฐมากกว่าเพื่อน ผมยังหลอกตัวเองให้ยืนอยู่ข้างอิฐในฐานะเพื่อนสนิท หลอกตัวเองว่าเป็นคนพิเศษ


   มันเป็นวาเลนไทน์สุดท้ายของชีวิต ม. ปลาย ผมได้รับของขวัญเยอะจนแทบหอบไม่หมดจากเพื่อนต่างห้องที่ไม่รู้จักรวมถึงเพื่อนสนิทที่ให้กันพอเป็นพิธี แต่ก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองพิเศษอะไร... ที่ชอบที่สุดคือกุหลาบสีขาวดอกโตเพียงดอกเดียวที่ถูกผูกด้วยริบบิ้นสีแดงเหลือบทอง ท่ามกลางกุหลาบหลากสีที่ได้มา... ได้รับทุก ๆ ปีจนแปลกใจถึงเจ้าของกุหลาบที่ไม่เคยได้เจอเพราะเป็นกุหลาบดอกแรก ดอกเดียวที่ได้รับใต้ลิ้นชักก่อนที่จะมาถึงโรงเรียนเสียอีก

.
.
.


   "อิฐกลับกันหรือยัง... " ผมเดินกลับมาที่ห้องหลังจากไปส่งการบ้าน โชคดีที่เสียงผมเบาถึงได้ไม่รบกวนคนในห้อง ภาพที่ผมเห็นทำเอาหลบลงใต้โต๊ะแทบไม่ทัน เลิฟซีนระหว่างอิฐกับแก้วสาวสวยหัวหน้าห้อง ผมไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นแต่คีสซีนดูดดื่มนั่นติดตาผม... จนหน้าผมร้อนขึ้นมา ในอกร้อน... หัวใจเต้นตึกตักรู้สึกเจ็บอย่างไม่มีเหตุผล ม่านน้ำตาเอ่อท้น ผมนั่งเงียบ ๆ แทบจะลืมหายใจ เห็นคนสองคนยืนเบียดกันแทบจะเป็นกลายเป็นคน ๆ เดียวกัน

   "พอใจหรือยัง" อิฐพูดไม่มีหางเสียง อารมณ์เหมือนกับว่าโมโหอะไรอยู่

   "จะพอใจกว่านี้ถ้าคืนนี้อิฐอยู่กับแก้วทั้งคืน"

   "ไม่ว่าง..."

   "อิฐก็ไม่ว่างทุกทีแหล่ะ ตอนมาขอแก้วคบไม่เห็นทำตัวเย็นชาแบบนี้เลย"

   "ขอโทษ"

   "ถ้าอิฐเปลี่ยนใจก็โทรมานะ แก้วจะรอ... แก้วจะไม่ตามหึงอิฐเหมือนใครต่อใครหรอกนะ แก้วรู้ว่าอิฐน่ะรักแก้ว" ผมได้ยินเสียงแก้วมฮัมเพลง... ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเสียงฝีเท้าที่เดินออกจากห้องไป อิฐยังคงอยู่ในห้องแต่ผมไม่กล้าโผล่หน้าไปให้เห็น

   "ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ได้วะ !! แม่งเอ้ยยยย...." อิฐทุบโต๊ะแล้วเดินกระแทกเท้าออกไป ผมรออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะคว้ากระเป๋านักเรียนแล้วเดินกลับบ้านทางอ้อมที่ไม่ได้ใช้เป็นทางกลับบ้านประจำ ผมยังไม่อยากเจออิฐ อย่างที่บอกผมก็แค่เข้าใจผิดไปเองว่าเป็นคนพิเศษ ผู้ชายด้วยกันมันไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว... ไอ้ภัทรหน้าโง่ !!

   วันนั้นอิฐโทรมาหลายครั้งผมไม่ได้รับสาย เขาคงตามหาผมเพราะเรากลับบ้านด้วยกันทุกวัน... แต่วันนี้ผมยกให้วันนึง วาเลนไทน์อิฐน่าจะอยู่กับแก้วไม่ใช่เพื่อนสนิทอย่างผม

   "ทำไมเมื่อวานไม่รับสาย โทรไปตั้งหลายทีตัดสายทำไม รู้ไหมว่าเราหาภัทรไม่เจอ เราเป็นห่วง"

   "เราลืมมือถือไว้ที่บ้านก็เลยรีบกลับน่ะ เผลอหลับด้วย ขอโทษนะ"

   "ไม่เป็นไร คราวหลังอย่าลืมอีก อิฐเป็นห่วงภัทรรู้ไหม หายไปแบบนั้น ติดต่อไม่ได้" อิฐจะเป็นห่วงผมในฐานะอะไร ? เพื่อนสนิท... นั่นสิ ก็แม่ผมฝากอิฐดูแลนี่นา มันเป็นหน้าที่ที่อิฐต้องคอยมาเป็นห่วง ผมได้แต่ยิ้มให้อิฐทั้งที่ในใจรู้ดีถึงคำว่าเป็นห่วงของอิฐ

   "ขอโทษนะ คราวหลังเราจะไม่ลืมอีก"

   ผมได้ข่าวว่าอิฐเลิกกับแก้วหลังจากวาเลนไทน์นั่น ผมไม่ได้เซ้าซี้ถามอะไรเขาอีก ท่าทางเขาไม่สบอารมณ์ทุกครั้งเวลาที่เพื่อนล้อเรื่องเขากับแก้ว บรรยากาศระหว่างทั้งคู่มึนตึงเฉยชาต่อกันผิดกับฉากจูบที่ยังคงติดตาผมไม่หาย ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิม อิฐทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น... ดีกับผมเหมือนเดิม อาจจะพูดได้ว่าดีกว่าเดิมด้วยซ้ำ ตอนที่เขาคบแก้วดูเหมือนเขาจะลืมเพื่อนคนนี้ไปถึงได้ชดเชยทำตัวดีเสียจนผมตัดใจไม่ลง เราเดินจูงมือกัน หัวเราะ วิ่งไล่กันกลับบ้าน ผมอยากหยุดช่วงเวลานั้นไว้.. ให้มันกลายเป็นคำว่าตลอดกาล...



[To be continue] 25% finished.

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

PoofuGirl

  • บุคคลทั่วไป


      พอเข้ามหาลัยเวลาที่อยู่ด้วยกันก็น้อยลงไปอีก ถึงแม้จะเรียนอยู่มหาลัยเดียวกันแต่คนละคณะ... ทั้งเรื่องรับน้อง โปรเจ็คงานที่โถมเข้ามาและวิชาเรียนที่หนักขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เราแทบจะไม่เจอหน้ากันซักเท่าไหร่ อิฐกลับดึกบ่อย ๆ สังสรรค์กับเพื่อนใหม่ในกลุ่มวิศวะด้วยกัน บ่อยครั้งที่ผมรอจนหลับไป และบ่อยครั้งที่อิฐไม่กลับห้อง... เป็นช่วงเวลาที่เราแทบจะคุยกันนับคำได้เลย จากคำว่าเพื่อนสนิท กลับกลายเป็นเพียงเพื่อนหรือแค่คนที่รู้จัก บางครั้งอิฐก็พาเพื่อนที่คณะมานั่งทำโปรเจ็คที่ห้อง และไม่มีช่องว่างใด ๆ ที่ผมจะเข้าไปแทรกแซงในบทสนทนาได้เลย



      “อิฐมาดูงานตรงนี้ให้หน่อย มึงว่าอาจารย์จะให้ผ่านหรือเปล่าวะ? ถ้าถูกตีกลับมาให้ทำใหม่กูต้องตายแน่ ๆ"


      “แหม! ไอ้น้ำ ถ้าของมึงถูกตีกลับ ของกูนี่อาจารย์ไม่ให้ทำใหม่ตั้งแต่ต้นเลยหรือไงวะ" อิฐหัวเราะในแบบที่ผมไม่ได้ยินมานาน เขามักจะทำหน้าเคร่งเครียดเวลาอยู่ด้วยกันกับผมเพียงสองคน... หรือบางทีมันอาจจะกลายเป็นความอึดอัดก็ได้ ที่ต้องมาอยู่ร่วมห้องกับคนที่เอาแต่เงียบอย่างผม


      “หิวว่ะ เร่งแทบตายกว่าจะเสร็จไปเลี้ยงฉลองกันไหมวะอิฐ"


      “ฉลองที่ว่าของมึงคือ?”


      “ก็ต้องน้องเมรัยสิวะ ถามมาได้ ผับใหม่เพิ่งเปิดเมื่อเดือนก่อน ไอ้นิคบอกกูว่ามีแต่สาวสวยแจ่ม ๆ ทั้งนั้นเลย"


      คนสองคนคุยฟุ้ง คำพูดไม่ได้ลอยเข้าหูผมสักเท่าไหร่ ผมเหลือบมองอิฐที่หัวเราะเต็มเสียงอยู่ตรงนี้ ตอนแรกที่ตั้งใจไปยืนต่อคิวเกี้ยวน้ำเจ้าอร่อยแถวบ้าน เจ้าประจำที่อิฐชอบยืนรออยู่สองชั่วโมงก็คิดว่าไม่เป็นไร วันนี้อิฐทำโปรเจ็คจบกะว่าจะเซอร์ไพรส์สักหน่อย ตอนนี้คงไม่จำเป็นแล้วล่ะ... เกี้ยวน้ำคงต้องเป็นหมันเพราะอิฐคงสนสิ่งที่น้ำเสนอมากกว่าเกี้ยวน้ำเย็น ๆ ที่ต้องเอามาอุ่นซะมากกว่า


      "แหม! สมกับเป็นเพื่อนรักกูจริง ๆ ว่ะไอ้น้ำ"


      “ไปด้วยกันไหมครับภัทร... เดี๋ยวป๋าน้ำพาไปเปิดหูเปิดตาข้างนอกนะ" น้ำเดินมาโอบไหล่ผมที่กำลังนั่งคัดตัวจีนในสมุดการบ้านอยู่


      “ไอ้น้ำ! ลามปามนะมึง" อิฐพูดแค่นั้นแล้วก็ตบหัวน้ำพร้อมกับดึงมือที่โอบไหล่ผมออก


      “หวงนะหวง... แค่นี้ทำหวง"


      “สัด! ก็เพื่อนสนิทกูก็ต้องหวงเป็นธรรมดา ภัทรเขาเป็นเด็กดีมึงอย่าไปชวนให้เขาเสียคน" อิฐพูดแล้วก็ตบหัวน้ำอีกทีดังพลั่ก! อีกฝ่ายจับหัวทุยน้อย ๆ ไว้ท่าทางจะเจ็บน่าดู


      “เจ็บนะเฟ้ย! เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อล่ะสิมึง แล้วนี่ฟาดลงมาแรงอย่างกับควายสงสารกูบ้างไหม สรุปก็คือกูไปกับมึงสองคนแล้วเดี๋ยวโทรชวนพวกไอ้นิคมาด้วยแล้วกัน ไม่ได้ก๊งกันนานแล้วเปรี้ยวปากว่ะ"


      “เออก็แค่นั้น! ภัทร... อิฐออกไปกับน้ำนะ กลับดึกไม่ต้องรอล่ะ" อิฐยิ้มให้ผมพร้อมกับลูบศีรษะผมเบา ๆ อย่างที่เคย ผมได้แต่พยักหน้า อยากจะเอื้อมมือไปรั้งเขาไว้... แต่ผมก็ไม่ได้ทำ ได้ยินเสียงประตูปิดลง พร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงบนสมุดการบ้าน ผมร้องไห้อยู่อย่างนั้นทั้งที่ไม่มีเสียง เป็นความเหงาที่ไม่มีใครเข้าใจ นั่งอยู่ตรงนั้นอยู่นานก่อนจะหยิบเกี้ยวน้ำไปเทใส่ชามอุ่นเข้าไมโครเวฟ ร้องไห้ทั้งที่กินเกี้ยวน้ำนั่นจนหมดชาม


.
.
.



      ช่วงที่ห่างกันผมกลับสนิทกับรุ่นพี่คนนึง พี่อิง พี่รหัสที่แสนใจดีของผม เป็นทั้งที่ปรึกษาในทุก ๆ เรื่องแล้วก็ที่พักพิงเวลาผมร้องไห้ พี่อิงมาอยู่เป็นเพื่อนผมบ่อย ๆ ที่หอพัก พี่เขาเป็นคนใจดี... มีคนรักคนชอบอยู่มาก ดูแลผมเสมือนน้องชายคนนึงเลยทีเดียว พี่ฝ้ายแฟนพี่อิงก็สวยใจดีไม่แพ้กัน... ผมถูกลากไปกินข้าวกับพวกพี่เขาบ่อยมากยิ่งกว่าจะอยู่กับกลุ่มเพื่อน ๆ รุ่นเดียวกันเสียอีก


      “ภัทรพี่โคตรหิวเลยว่ะ ! หาอะไรให้กินหน่อยสิ นี่ติวให้นายตั้งแต่เช้าจรดเย็น ใช้แรงงานพี่รหัสตัวเองเยี่ยงทาสขนาดนี้รู้ตัวบ้างไหมเนี่ย?”


      “ผมไม่ได้ขอร้องพี่อิงสักหน่อย" ผมพูดพร้อมกับเดินไปแกะถุงเกี้ยวน้ำเจ้าเดิมนั่นแหล่ะ


      “ไม่ได้ขอร้องก็เหมือนขอแหล่ะวะ ถ้าพี่ไม่มาช่วยแกติว ฝ้ายต้องมาฉีกอกพี่แน่ ๆ คราวก่อนภัทรคะแนนตกจากมีนไปแต้มเดียว ฝ้ายนี่แทบจะกินเลือดกินเนื้อพี่เลย ไม่รู้ว่าแกเป็นน้องรหัสใครกันแน่ ไปทำสเน่ห์ใส่ฝ้ายหรือยังไง ถึงได้ทั้งรักทั้งหลงเราขนาดนี้หือ! ตัวเล็ก"


      “ภัทรเปล่าสักหน่อย พี่อิงอย่าขี้ตู่เลยดีกว่า นี่เกี้ยวน้ำภัทรไปต่อคิวซื้อให้ตั้งแต่เช้าเลยนะ เจ้าอร่อยด้วย พี่อิงกินแล้วจะติดใจ เจ้านี้เจ้าประจำของอิฐเลย"


      “จะมีสักวันที่พี่ไม่ได้ยินเรื่องของนายอิฐอะไรนี่ไหมเนี่ย ? รักเค้าชอบเค้าก็บอกเขาไป เก็บงึมงำไว้ใครมันจะไปรู้"


      “คำว่าเพื่อนมันค้ำคออยู่นี่พี่อิง เกิดพูดไปแล้วอิฐเขาไม่ได้รักไม่ได้สนใจภัทรอย่างที่ภัทรคิดล่ะ ไม่เอาดีกว่า ขอแค่ภัทรยืนข้าง ๆ อิฐในฐานะเพื่อนสนิทอย่างนี้ก็คงจะดีกว่า อีกอย่างอิฐเขาก็ไม่ได้ชอบผู้ชาย จะไปบีบคอบังคับให้มารักมาชอบก็ใช่เรื่อง"


      “ไม่พูดแล้วใครเขาจะไปรู้ ไม่ลองไม่รู้นะเฟ้ย! อย่างพี่กับฝ้ายเล่นเกมจ้องตากันอยู่สองปีกว่าจะง้างปากสารภาพรักไปเนี่ยรู้ไหม ฝ้ายเขาบอกว่ารอให้พี่พูดมานานแล้ว ถ้าวันนั้นพี่ไม่เอ่ยปากพูดไปฝ้ายเขาว่าจะไปคบกับไอ้หมอตี๋ที่มันคอยมาแจกขนมจีบอยู่ทุกวันเนี่ย ไอ้เราเฝ้าของเรามาอย่างดีเป็นเพื่อนกันมาตั้งกี่ปีจะปุบปับเปลี่ยนเป็นแฟนก็คิดหนักอยู่แหล่ะ คิดให้ดีนะภัทร.. คนเราเกิดมาทั้งทีต้องทำอะไรให้สุด ถ้าไม่ได้รักไม่ได้ชอบกันกลับมาเป็นเพื่อนเหมือนกันเดิมก็ได้ เพื่อนกันตัดไม่ขาดหรอกน่า" ถึงพี่อิงจะพูดว่าอย่างนั้น แต่กรณีพี่อิงกับผมมันช่างต่างกันลิบลับ...


      “นี่ถ้าอิฐเขาเป็นผู้หญิงผมจีบไปแล้ว"


      “โอ๊ะ โอ๋!!~~~~ ไอ้ตัวเล็กช่างกล้าพูด อ๊ะ! หน้าแดง ๆ อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อหรอก หน้าอย่างเราเหรอจะบอกรักอิฐไม่ว่าอิฐจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ภัทรก็ไม่พูดอยู่ดีแหล่ะอย่ามาอ้างหน่อยเลย"


      “พี่อิงอ่าาาาาา ใจร้ายว่ะ"


      ผมหยุดคำสนทนาทันทีที่ได้ยินเสียงประตูห้องเปิด... วันนี้อิฐกลับเร็วกว่าทุกที


.
.
.



      "อิฐสินะ... ตัวเล็กพูดถึงนายบ่อย ๆ" พี่อิงทักอิฐทันทีที่เห็นร่างสูงเดินเข้ามาในห้อง แต่ไอ้น้ำเสียงยียวนนี่มันอะไรกันนะ


      "ครับ" อิฐตอบพี่อิงพร้อมกับมองตาขวาง อันที่จริงผมก็รู้ว่าอิฐไม่ชอบให้คนแปลกหน้าเข้ามาในห้องและก่อนที่บรรยากาศจะดูแย่ลงไปกว่านี้คงต้องพึ่งเกี้ยวน้ำเจ้าเก่านี่แหล่ะ ถึงคราวก่อนจะเป็นหมันไปแล้วก็เหอะ


      "อิฐจะกินเกี้ยวน้ำไหม เราซื้อมาเผื่อ"


      "ไม่ล่ะเดี๋ยวเราจะทำงานก่อน ดึก ๆ ค่อยกิน" ท่าทางจะไม่ได้ผล อิฐยังคงทำหน้าหงิกแบบที่ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย อันที่จริงผมก็ผิดเองที่ไม่ได้บอกอิฐก่อนเพียงแต่ทุกทีพี่อิงจะกลับก่อนที่อิฐจะมาถึงก็เลยไมได้บอกอะไรยังไงล่ะ


      "แต่นี่มันจะสามทุ่มแล้วนะ อิฐยังไม่ได้กินอะไรเรารู้ เดี๋ยวก็โรคกระเพาะถามหาต้องเข้าโรงพยาบาลอีกหรอก" ผมแหวใส่อิฐ ไอ้คนไม่รักตัวเอง ไม่รักตัวเองก็รักกระเพาะตัวเองบ้างก็ได้... จะฟิตทำงานไปถึงไหนกัน


      "เข้าก็ดีสิ พยาบาลสาวสวยเยอะแยะมาคอยเอาใจ" หึ! พยาบาลสาวสวย ใช่สิ !! เพราะอิฐเป็นแบบนี้นั่นแหล่ะ ยียวนกวนตีน... จะให้ผมสารภาพไปได้ยังไงในเมื่ออีกฝ่ายเขามีสเป็คสาวหมวย สวย อึ๋ม! ส่วนผมมันแว่น เนิร์ด แบน เตี้ย แถมยังมีไอ้นั่นเป็นของแถมเหมือน ๆ กันซะอีก


      "งั้นไม่ต้องกินแล้ว เชิญเข้า รพ. ไปหาพยาบาลสาวสวยให้พอเลยไป" ผมคว้าถุงเกี้ยวน้ำที่ยื่นไปคืนกลับมา พี่อิงมองหน้าผมที่งอนถึงขีดสุดแล้วก็หัวเราะ


      "สนิทกันจังเลยนะ"


      "แค่เพื่อนสมัยเด็ก ๆ ครับ ชอบว่าคนอื่นดื้อแต่ตัวเองกลับดื้อกว่า" ผมจ้องตาอิฐแล้วก็พูดออกไปด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้นให้รับรุ้ว่างอนรู้ตัวบ้างไหม ! เกี้ยวน้ำผมท่าทางจะเป็นม่ายอีกแล้วสินะ คราวหน้ากินข้าวผัดดีกว่าไหม ?


      "พี่จะกลับแล้ว ภัทรเดินลงไปส่งหน่อยสิ"


      "เดี๋ยวผมลงไปส่งเอง ภัทรดึกแล้วไปอาบน้ำ ชอบอาบน้ำตอนดึก ๆ ผมไม่แห้งเดี๋ยวก็ไม่สบายอีกหรอก" อิฐหันมาดุผมแล้วก็เดินตามพี่อิงออกไป...


      หลังจากนั้นเวลาที่อิฐเจอพี่อิงทีไรมักจะทำท่าเหมือนหมาตัวโตขู่ฟ่อ ๆ ใส่หน้าพี่อิงอยู่เสมอ บางครั้งเวลาเห็นผมอยู่ในห้องสองต่อสองกับพี่อิงที่แอบจะมาเป็นแขกที่ห้องบ่อย ๆ เพราะทะเลาะกับพี่ฝ้ายบ้างหรือมาติวให้ผมบ้าง มาดูดำดูดีคนอกหักทั้งที่ยังไม่สารภาพบ้างอย่างผมก็มักจะทำท่าทีหงุดหงิดใส่อยู่บ่อย ๆ จนหลัง ๆ พี่อิงก็ยอมแพ้อิฐ... เพราะหลังจากที่พี่อิงกลับไปแล้วผมทั้งโดนวีนทั้งโดนเหวี่ยงแบบไม่มีเหตุผลอยู่บ่อย ๆ จนผมเอาใจไม่ถูกเลยทีเดียว


      

               ไม่นานเราก็เรียนจบ... ความสัมพันธ์ของผมกับอิฐยังคงไม่คืบหน้าไปไหน อิฐเปลี่ยนคู่ควงบ่อยจนน่าตกใจ บางครั้งก็พากลับมาที่ห้องด้วย เราเช่าคอนโดอยู่ด้วยกันเนื่องจากว่าที่ทำงานของเราทั้งสองคนไม่ห่างกันมากอีกอย่างก็อยู่ติดรถไฟฟ้าไปไหนมาไหนสะดวก เขาไม่รู้หรอกว่าทุกครั้งที่ผมได้ยินเสียงร่วมรักผ่านฝาผนังที่กั้นอยู่นั่นมันทำให้หัวใจผมเจ็บขนาดไหน... แต่ในเมื่อยืนกรานที่จะยืนอยู่ข้าง ๆ ในฐานะเพื่อนสนิท คนไม่พิเศษอย่างผม... นั่นมันก็สมควรแล้ว พระเจ้าคงลงโทษที่ผมคิดไม่ซื่อกับอิฐ รักคนคนนี้เกินกว่าคำว่า 'เพื่อนสนิท' ไปแล้ว

   

……………………………………….
………………………………
……………………


   

          

PoofuGirl

  • บุคคลทั่วไป
ปีใหม่ปีที่แล้ว เพื่อน ๆ ของอิฐนัดรวมตัวกันที่คอนโดของเรา มีเพื่อนผมมาด้วยเพียงไม่กี่คน เพราะแต่ละคนก็ติดไปฉลองกับคนรักที่ต่างจังหวัดบ้าง ที่ต่างประเทศบ้าง แม้แต่พี่อิงกับพี่ฝ้ายยังทิ้งผมไปฉลองรับลมหนาวกันสองคนที่นิวยอร์กเลย~~ ไปสวีทกันตั้งแต่คริสมาสต์โน่นช่างน่าอิจฉา... หลังจากที่ฟังเรื่องที่เพื่อนเผาเพื่อนผ่านไปแยะอยู่ ผมก็เมาได้ที่ อาจจะเรียกว่าอารมณ์หึงหน้ามืดตามัวซะมากกว่าเพราะเล่นเผาตั้งแต่แฟนคนแรกที่อิฐคบสมัยมหาลัยจนถึงเพื่อนในกลุ่มที่ชื่อว่า ‘นก’ อะไรนั่นกำลังวางแผนจะสารภาพรักกับอิฐ เพราะไม่อยากฟังอะไรให้ปวดใจอยู่แล้วถึงได้กระดกเหล้าเพียว ๆ เพียงสองสามแก้วโลกของผมก็เริ่มมึนได้ที่ ความใจกล้าของผมมันคงเริ่มมาจากตรงนั้น
   

            ‘น้องภัทร รู้จักคำว่าอ่อยไหมคะ... หน้าตาน่ารักแบบภัทร ส่งยิ้มหวานให้ร้อยทั้งร้อยก็ต้องระทวยทั้งนั้นแหล่ะ’ พี่ฝ้ายเคยหยอกกับผมแบบนี้...


      จู่ ๆ ผมก็หัวเราะออกมากับคำพูดของพี่ฝ้าย.. น่ารักเหรอ ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองน่ารักสักครั้ง เพราะว่าใคร ๆ ก็บอกว่าผมหน้าตาบ้าน ๆ ไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ ก็เหมือนอาตี๋ตาตี่ทั่วไปแถมยังเนิร์ดใส่แว่น ตัวก็เตี้ยมีดีที่ขาวเท่านั้นแหล่ะ ก็นั่นสินะไม่มีตรงไหนที่เรียกว่าน่ารักได้เลยสักนิด... ไม่น่ารักที่จะทำให้อิฐรักได้เลยสักนิดเดียว เพราะฤทธิ์แอลกฮอล์ทำให้อารมณ์ผมไม่ปกติหลังจากหัวเราะก็ร้องไห้.. แล้วก็หัวเราะกับเรื่องไร้สาระที่ตัวเองเอาแต่คิดฟุ้งซ่านไปมา


      “ภัทรเมาแล้วนะ อิฐไม่ให้ภัทรดื่มแล้ว พอได้แล้วนะ” อิฐพูดแบบนั้นแล้วก็ยื้อแย่งแก้วเหล้าของผมไป นี่มันแก้วเหล้าของผมนะ ของอิฐก็มีทำไมต้องมาแย่งกันด้วย... ถึงเป็นอิฐผมก็ไม่ให้หรอกนะ


      “ภัทรไม่เมา.. ภัทรไม่เมา” ทำไมผมจะต้องเชื่ออิฐ แก้วนี่ก็ของผม เหล้านี่ก็ของผม ผมไม่เมาสักหน่อย ยังได้ยินเรื่องพวกนั้นอยู่เลย ผมอยากจะลืม ๆ มันไปทั้งหมดนั่นเรื่องที่ได้ยินมา


      “อย่าดื้อนะภัทร อิฐไม่ชอบเด็กดื้อ”


      “ใครดื้อ... ภัทรไม่ใช่เด็กนะ”


      “แก้วเดียวนะ อิฐให้ภัทรดื่มอีกแค่แก้วเดียว” อิฐทำหน้ายุ่งแล้วก็ชงเหล้าให้ผม ดูก็รู้ว่าอ่อนกว่ากินน้ำเปล่าเสียอีก ไม่รู้หรือไงว่าผมต้องการเมาจะได้ไม่ต้องได้ยินอะไรที่ไม่อยากฟังอีก...


      “ชงแบบนี้อิฐให้ภัทรกินน้ำเปล่าเลยก็ได้นะ”


      “แล้วจะเอาไม่เอา” ผมไม่ตอบแต่ก็คว้าแก้วนั่นมา ประคองสองมือค่อย ๆ ดื่มไปทีละอึก รู้ตัวอีกทีก็หมดแก้วซะแล้ว... หัวเราะเอิ๊กอ๊าก ร้องไห้น้ำตาไหลแล้วก็งอแงงี่เง่าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นี่สินะที่เขาเรียกว่าความกล้าหาญที่มาจากแอลกฮอล์หรือว่าผมจะใช้คำผิด ? แอลกฮอล์ซึมเข้าสู่เส้นเลือดทำให้ผมร้อนผ่าวไปทั้งร่างรู้สึกมึน ๆ งง ๆ แล้วก็สนุกอย่างที่ไม่เป็นมาก่อน


      “ภัทรร้อน ถอดเสื้อให้หน่อย” ผมชูมืออ้อนอิฐที่มองใบหน้าผมอย่างอ่อนใจ


      “ร้อนอะไรนี่เปิดแอร์จนเย็นไปถึงไส้ติ่งแล้วนะภัทร” อิฐว่าอย่างนั้น แต่ว่ามันร้อนไม่เข้าใจหรือยังไง... ผมเดินเป๋ไปมาไปยืนจ้องที่อุณหภูมิแอร์แทบจะหน้าทิ่มให้อิฐประคองเสียหลายครั้ง


      “25 องศา ร้อนจะตาย อิฐงก... เปิด 30 สิ 25 มันจะไปเย็นได้ยังไง” ผมค้านอิฐหัวชนฝา แต่เจ้าตัวกลับเร่งแอร์ขึ้นไปที่ 20 แบบนี้มันประชดกันนี่นา แล้วผมก็พูดสิ่งที่งี่เง่านั่นออกไปมันเกิดจากความเมาและความคะนองปากของผมเอง


      “เมื่อวานพี่อิงขอภัทรคบด้วย... อิฐรู้ไหมพี่อิงใจดีมาก แต่อิฐใจดีกว่า” ถึงจะพูดแบบนั้นแล้ว อิฐก็ไม่ตอบอะไรกลับมา นั่นสินะ... ก็อิฐน่ะไม่ได้คิดอะไรกับภัทรสักหน่อย ไม่ได้คิดเลยจริง ๆ


      “ภัทรน่ะ... รักอิฐนะ อิฐรักภัทรบ้างไหม ภัทรรักอิฐ” ผมโถมตัวกอดอิฐแล้วก็พูดคำว่า ‘รัก’ ออกไป คำว่ารักที่ไม่เคยพูดออกไปเลยสักครั้ง ผมไม่ได้เมา ผมรู้ตัวว่าผมยังมีสติดีอย่างน้อยผมก็ได้ยินเสียงหัวใจของเราที่เต้นตึกตักนั่นเหมือน ๆ กัน ใบหน้าของผมร้อนฉ่า... คำบอกรักที่น่าอายในสถานการณ์ที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น แต่แล้วคำตอบของอิฐก็ทำให้ผมต้องร้องไห้... นั่นก็เพราะเราเป็น แค่ เพื่อนกัน


      “อิฐชอบภัทรมากเพราะเราเป็นเพื่อนกัน” นั่นคือคำตอบของอิฐ


      “อิฐไม่รักภัทร อิฐไม่รักภัทร” ผมได้แต่พูดอยู่อย่างนั้น ทั้งที่ร้องไห้สะอึกสะอื้น ทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้ว ทั้งที่รู้ดีว่าต้องเจ็บซ้ำ ๆ แล้วทำไมยังหวังอะไรลม ๆ แล้ง ๆ นั่นอีก อิฐกอดผมแน่นแต่ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีสักนิดร่างกายร้อนผ่าวจนผมยื้อจะถอดเสื้อออก อากาศร้อนเกินไป อ้อมกอดอิฐร้อนเกินไป อ้อมกอดที่ไม่ได้มีไว้เพื่อผม...


      “อิฐจะเป็นเพื่อนรักของภัทรตลอดไป อิฐไม่ผิดสัญญาหรอก อิฐรักภัทรนะ” ผมไม่ต้องการ ไม่ต้องการความรักแบบนี้ของอิฐ น้ำตายังคงหลั่งออกมาผมทุบอกอิฐแล้วก็ร้องไห้ทั้งที่อีกฝ่ายกอดผมแน่น ผมพร่ำคำว่าเกลียดออกไป....


      “อิฐเกลียดภัทรแล้ว อิฐเกลียดภัทรแล้ว... เกลียดภัทรใช่ไหม แต่ว่าภัทร... รัก อิ”


      อ้อมกอดอิฐอุ่น กระแสแอลกฮอล์ในร่างทำให้ผมเริ่มเบลอจนสุดท้ายก็ไม่ได้รู้สึกอะไร ดวงตาปิดลง รู้สึกเหมือนแผ่นหลังสัมผัสไปกับพื้นเตียงที่ยวบนิ่มลงไปริมฝีปากอุ่นถูกสัมผัสผมคงกำลังฝันอยู่ อยากเอื้อมมือไปไขว่คว้าอีกฝ่าย... ถ้านั่นเป็นความฝันก็คงจะเป็นฝันที่ดีที่สุด ไม่เคยรู้มาก่อนว่าถ้าเมาจะสัมผัสได้ถึงความฝันที่แสนหวานและเจ็บปวดเช่นนี้ รู้สึกอกอุ่นวาบหวามหากลืมตาขึ้นมาก็คงสลายกลายเป็นแค่ความฝัน


      ได้ยินเสียงบอกรัก ‘อิฐรักภัทรนะ’ นั่นคงเป็นแค่ฝัน... ฝันที่ดี


      แล้วเช้าวันรุ่งขึ้นผมก็ปวดหัวแทบตาย... สัญญากับตัวเองว่าจะไม่แตะต้องแอลกฮอล์นั่นอีกแล้ว

.
.
.


      อิฐยื่นแผ่นขนมปังปิ้งมาให้ เป็นยามบ่ายของวันปีใหม่ที่ทุกอย่างดูสดใส ถ้าไม่ติดอาการแฮงค์เอ้าท์ของเราทั้งคู่


      “นกขออิฐคบเหรอ” ผมพูดทั้งที่ยังงับแผ่นขนมปังอุ่นในปาก


      “อือ.. ใครบอกเหรอ”


      “นกบอก นกว่าชอบอิฐมานานแล้ว อิฐตอบตกลงไปหรือเปล่า” ผมพูดทั้งที่ขนมปังยังอยู่เต็มปาก อันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องอะไรที่ผมจะมาซักอิฐหรอกเพียงแต่รู้สึกหงุดหงิดใจเท่านั้นเอง จริง ๆ ทุกอย่างนั่นได้ยินมาจากน้ำต่างหาก แอบเผลอกลืนขนมปังไปคำโตฝืดติดคอเสียจนอิฐส่งน้ำส้มที่อยู่บนโต๊ะมาให้แทบไม่ทัน   


      “บอกแล้วว่าเวลาเคี้ยวอาการอย่ามัวแต่พูด” ถึงจะตั้งท่าดุผม แต่น้ำเสียงนั่นฟังดูอ่อนโยนกว่าที่ควรจะเป็น เข้าข้างตัวเองได้ไหมว่าอิฐก็เป็นห่วงผมอยู่เหมือนกัน ถึงแม้จะในฐานะเพื่อน


      “ขอโทษ.. แล้วอิฐตอบตกลงไปหรือเปล่า”


      “เปล่า อิฐมีคนที่ชอบแล้ว อิฐไม่อยากให้นกเสียใจ” ผมไม่เคยรู้เลย.. นี่สินะคำตอบของอิฐ ผมน่าจะรู้... ภัทรคนโง่ นายมันโง่ จะฝันลม ๆ แล้ง ๆ ไปถึงไหนกันตื่นได้แล้ว ตื่นจากความฝันได้แล้ว เลิกหลอกตัวเองซะที ผมปรับสีหน้าแสร้งยิ้มจริงใจ ยินดีกับอิฐทั้งที่ในใจร้องไห้



      “เหรอ ภัทรรู้จักคนนั้นหรือเปล่า ทำไมอิฐปิดเงียบไม่บอกภัทรเลย” น้ำเสียงผมฟังดูจริงใจพอหรือเปล่านะ


      “ภัทรไม่รู้จักหรอก” อิฐพูดแค่นั้นแล้วก็เงียบ... ดูท่าผมจะยุ่งเรื่องส่วนตัวของอิฐมากไปสินะ ผมหันไปมองท้องฟ้าข้างนอกยังคงดูสดใสสมกับเป็นบ่ายของวันปีใหม่ เหมาะกับที่จะเริ่มอะไรใหม่ ๆ ภัทรคนนี้ยินดีจะปล่อยมืออิฐไป เลิกหลอกตัวเองเสียทีนะภัทร...


      “วันนี้ภัทรไปข้างนอกนะอิฐ มีนัดกับพี่อิง”


      “อิ่มแล้วเหรอ” อิฐส่งขนมปังปิ้งอุ่น ๆ มาให้ เนื้อแยมส้มทาหนาฉ่ำแบบที่ผมชอบ


      “เปล่า ภัทรเบื่อแยมส้มแล้ว เดี๋ยวต้องไปกินข้าวกับพี่อิงด้วย ภัทรไปอาบน้ำก่อนนะ” อิฐไม่ได้ตอบอะไร นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เราได้พูดกันดี ๆ หลังจากที่คิดว่าจะตัดใจแล้วผมใช้เวลาทั้งหมดจมอยู่กับงานรับทำทั้งงานนอกงานใน มีไปต่างจังหวัดกับสัมมนาที่ต่างประเทศบ้าง บางทีก็อยู่ทำโอทีจนดึกดื่น อยากทำงานให้มากพอ มากพอที่จะเลิกคิดถึงอิฐ... ไม่อยากเจอหน้าอิฐในตอนนี้เพราะผมรู้ว่าผมอ่อนแอเกินไป ถ้าเราได้อยู่ไกลกันผมคงจะตัดใจจากอิฐได้....

.
.
.


      “ภัทรทำไมภัทรเหลวไหลแบบนี้ กลับดึกทำไมไม่บอก นี่เมามาด้วยเหรอ เมาแล้วขับรถกลับมาเองทำไมไม่โทรให้อิฐไปรับ แล้วนี่พี่อิงไม่มาส่งหรือไง ทำไมปล่อยให้ภัทรกลับเอง” อิฐเสียงดังโวยวายหน้าเคร่งเครียดเมื่อเห็นผมเดินเข้าห้องมาด้วยกลิ่นกายที่คละคลุ้งไปด้วยแอลกฮอล์


      “อิฐไม่ใช่พ่อภัทรไม่ต้องมาบ่น ภัทรไม่อยากฟัง ทีอิฐออกไปดึก ๆ ดื่น ๆ ภัทรไม่เห็นว่าสักคำเลยนะ” ผมย้อนอิฐไปด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่มีอยู่ตอนนี้


      “แต่ภัทรกลับดึกอิฐเป็นห่วง”


      “อิฐห่วงทำไม ภัทรก็เหมือนอิฐเป็นผู้ชายเหมือนกัน ภัทรโตแล้ว อิฐเลิกห่วงเถอะ ไป่ห่วงคนนั้นของอิฐเถอะ” จะห่วงทำไมในเมื่อไม่เคยมีใจให้กันไม่ต้องการหรอกนะความห่วงใยเพราะภัทรไม่ได้อยากเป็นแค่เพื่อนของอิฐ ภัทรเป็นคนโลภ


      “ดื้อว่ะ!”


      “ภัทรไม่ได้ดื้อ ภัทรเบื่อ โน่นก็ไม่ได้นี่ก็ไม่ได้ อิฐเป็นใคร... เป็นแค่เพื่อนสนิทอย่ามาทำตัวเหมือนเป็นพ่อกับแม่นะ ภัทรไม่ชอบ”


      “ใช่สิ อิฐไม่ใช่พี่อิงคนดีของภัทรนิ”


      “รู้ตัวก็ดีแล้ว” คำตอบของผมทำเอามือแกร่งปล่อยผมที่ยืนเซอยู่ให้ล้มลง อิฐเดินหนีผมไป ได้ยินเสียงประตูปิดดังโครม น้ำตาของผมไหล ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ลืมไม่ได้สัมผัสของความอบอุ่นที่ผมยินดีจะผลักไสออกไป


      “ภัทรรักอิฐ... รักอิฐนะ” น้ำตารื้นออกมาไหลลงอาบแก้มผมได้แต่ร้องไห้....
.
.
.


      ตั้งแต่คืนนั้นผมก็ไม่ได้คุยกับอิฐอีกเลย ทุกคืนที่อยู่ด้วยกันที่ห้องมีแต่ความเงียบ....



      “อะไรนะ!! จะตัดใจ” พี่ฝ้ายตะโกนเสียงสูงจนผมต้องเอามือขึ้นมาปิดหู แทบจะเอาหน้ามุดลงบนดิน ตอนนี้ผมอยู่ที่ร้านอาหาร    ร้านประจำของพี่อิงกับพี่ฝ้าย วันนี้พี่ชายกับพี่สาวเรียกผมมารับการ์ดแต่งงานครับ


      “พี่ฝ้ายเสียงดังทำไมล่ะครับ พูดเบา ๆ ก็ได้ภัทรอายเขา”    


      “แล้วรู้ตัวหรือเปล่าว่าพูดอะไรออกมา ยังไม่ได้สู้เลยจะตัดใจแล้วเหรอ พี่บอกว่าให้สู้ ๆ ภัทรไม่พูดไม่บอกแล้วอิฐเขาจะตรัสรู้ไหมล่ะ ไอ้ตัวเล็ก! แถมยังไปทำเรื่องไว้อีกนะ พี่ได้ยินมาจากยัยจีนว่าไอ้ที่มึนตึงกันอยู่ทุกวันนี้เพราะว่าไม่พูดกันไม่ใช่เหรอ แล้วภัทรไปบอกว่าภัทรคบกับพี่อิงอยู่ ส่วนอิฐก็คิดว่าพี่อิงมาจีบภัทร... ให้มันได้อย่างนี้ซี่!!~ จะให้พี่ห่วงเราไปถึงไหนเนี่ย”


      พี่ฝ้ายตีหน้ายักษ์ใส่ผม ผมรู้ว่าพี่ฝ้ายเป็นคนใจดีเป็นห่วงผมแล้วก็ไม่เคยคิดรังเกียจที่ผมเป็นแบบทุกวันนี้ ไอ้แว่นเนิร์ดหน้าตาไม่ดีแถมยังโมเมเอาเองว่าเป็นแฟนกับพี่อิงแฟนพี่แกด้วยก็ตามที


      “ผมไม่เคยเล่าให้พี่จีนฟังเลยนะ”


      “ยัยจีนน่ะกลายเป็นอมตะไม่รู้เหรอไง เป็นผู้หญิงนิยมกินเด็ก... คบอยู่กับน้ำเพื่อนสนิทอิฐน่ะ เดี๋ยวพี่ว่าจะกลับแล้ว นี่ก็ดึกแล้วเรากลับได้แล้วล่ะเดี๋ยวอิฐเขาจะเป็นห่วง ดูท่าอิงช้าอีกตามเคยเห็นบอกว่าไม่ต้องรอวันนี้ติดธุระ แล้วอย่าเถรไถลอีกล่ะ ดึกแล้วพี่เป็นห่วงนะ”


      พี่ฝ้ายลูบหัวผมเบา ๆ ก่อนสั่งเช็คบิล ผมพยักหน้าตอบรับไม่ได้พูดอะไรออกไป ใจจริงวันนี้อยากจะแวะกลับออฟฟิศไปเอาเอกสารที่ต้องใช้สำหรับสัมมนาวันจันทร์ที่จะถึงนี้ที่ประเทศญี่ปุ่น แต่คิดแล้วคิดอีกสุดท้ายผมก็ตัดใจกลับคอนโด ยังไงเสียก็ต้องกลับไปแพคกระเป๋าอยู่ดี อาทิตย์หน้าผมไปญี่ปุ่นทั้งอาทิตย์กลับมาก็ต้องย้ายออกจากคอนโดเลย เพราะว่าตัดสินใจไปแล้วนี่นา ถ้าก้าวถอยหลังไปอีกผมก็คงจะตัดใจจากอิฐไม่ลงและคงทำใจลำบากที่จะมองหน้าอิฐไปยิ่งกว่านี้ ยิ่งรู้ว่าเขามีคนที่ใช่อยู่แล้ว ผมจะดันทุรังมันไปเพื่ออะไรอีก

.
.
.



      “พี่อิง!” ผมตะโกนดังไล่หลังร่างสูงเบา ๆ เหมือนพี่อิงจะไม่เห็นผม ท่าทางพี่เขาเดินรีบร้อนจะตายไป ผมตะโกนไปสองสามครั้งแต่พี่เขาก็ไม่หันมา จนร่างนั้นหายเข้าลิฟท์ไปผมถึงได้ตัดใจ นี่มันก็ดึกแล้ว รู้สึกแปลก ๆ ทำไมพี่อิงถึงแวะมาที่คอนโดทั้งที่สัญญากันว่าจะไปเจอกันที่ร้านอาหารแท้ ๆ


      พอเปิดประตูห้องมารู้สึกแปลกใจที่ไฟยังเปิดอยู่ข้าวของกระจัดกระจายไม่เป็นที่ นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น หรือว่ามีโจรเข้ามา! ความพะวงของผมหมดสิ้นไปเมื่อสายตาประสานกับอิฐ... พอกวาดสายตามองก็พบว่าใบหน้าคมนั่นเป็นรอยช้ำหลายจุด ปากแตกรอยเลือดแห้งกรังยังติดที่ขอบปาก ผมกำลังจะถามอะไรออกไปแต่แล้วอิฐก็เข้ามากอดผมแน่น กอดแน่นจนแทบหายใจไม่ออก


      “ทำไมภัทรต้องโกหกอิฐ ภัทรกำลังจะหนีอิฐไปใช่ไหม” น้ำเสียงนั้นสั่นเครือ... ผมพยายามผลักร่างสูงกว่านั้นออกแต่ก็ไม่มีผลคนตัวเล็กที่ไร้กำลังอย่างผมจะไปสู้อะไรกับชายผู้มีซิกแพคได้ล่ะคุณว่าจริงไหม?


      “อิฐพูดเรื่องอะไรภัทรไม่เข้าใจ” ผมก้มหน้าไม่กล้ามองหน้าอิฐตรง ๆ ไม่เข้าใจว่าที่อิฐพูดมันหมายถึงเรื่องไหนกันแน่


      “ภัทรรักอิฐใช่ไหม?” เสียงนั้นเบากระซิบที่ข้างหู ประโยคนั้นตอกย้ำหัวใจของผม ถ้าอิฐรู้ อิฐคงจะโกรธจะเกลียด รังเกียจความรู้สึกของไอ้ตี๋แว่นเตี้ยอย่างผม....


      “เปล่า ภัทรไม่ได้.... ระ” คำพูดถูกกลืนหายไปเมื่อริมฝีปากร้อนบดเบียดเข้ามาอย่างเร่าร้อน อิฐใช้สองมือประคองใบหน้าของผมไว้จูบเร่าร้อนแต่แสนหวานถูกมอบให้ ปฎิกิริยาที่อยากจะปฎิเสธนั่นถูกทำให้ลืมเลือน สมองของผมเบลอไปหมดจดจำได้แต่ว่าต้องการตอบรับจูบของอิฐ ถ้าวินาทีนี้โลกจะแตกสลายผมก็ยอม แค่จูบเดียวเท่านั้น เราจูบกันอยู่อย่างนั้น แลกลิ้น ตอบรับความหวานของกันและกันจนเมื่ออิฐถอนริมฝีปากออกไป ความละอายต่อทุกสิ่งอย่างก็ร้อนขึ้นมาที่หน้าน้ำตาผมจะไหลไม่กล้ามองหน้าอิฐ อิฐไม่เคยทำให้ผมปฎิเสธได้เลย

      “ภัทรรักอิฐ”


      “ภัทรไม่ได้.... ”


      “แล้วจูบตอบอิฐทำไม”


      “ภัทรขอโทษ” น้ำตารื้นไหลลงอาบแก้ม.... อิฐเกลียดคนโกหก ที่จูบนั่นก็แค่ทดสอบเรื่องโกหกของผม ไม่ได้มีความหมายใด ๆ


      “อิฐรู้หมดแล้ว ความลับของภัทร ขอโทษที่อิฐเป็นคนโง่....” อิฐกอดผมแน่น ผมได้แต่ยืนนิ่งร้องไห้อยู่อย่างนั้น พยายามกลั้นเสียงสะอื้น พยายามตัดขาดความรักที่มีต่ออิฐ พยายามที่จะเลิกทรยศความเป็นเพื่อนของเรา      


      “อิฐรักภัทรนะ.. เด็กโง่ ทำไมต้องโกหก ถ้าพี่อิงไม่พูด ภัทรจะหนีจากอิฐไปใช่ไหม” อ้อมกอดนั่นกระชับแน่น หัวใจผมเต้นระรัว ใบหน้าร้อนผ่าวกับคำบอกรักที่ไม่ทันตั้งตัว


      “อิฐรักภัทรมาตลอดนะ รักมาก ห่วงมาก หวงมาก แต่อิฐกลัวภัทรจะเกลียดเพราะว่าเราเป็นเพื่อนกัน อิฐกลัวว่าภัทรจะรังเกียจอิฐที่คิดกับภัทรมากกว่าเพื่อน วันนี้พี่อิงเอาการ์ดแต่งงานมาให้ อิฐทะเลาะกับพี่อิงยกใหญ่เพราะอิฐคิดว่าพี่อิงหลอกภัทร พี่อิงหักหลังภัทรกว่าจะฟังพี่เขาอธิบายความจริงเราก็แลกหมัดกันไปจนหน้าแหกไปข้างแล้ว แถมโดนพี่อิงด่ามาด้วยว่าอิฐมันโง่ที่ไม่เคยรู้อะไรเลย”

      “ภัทร....ขอโทษ” ผมไม่รู้จะตอบอย่างไรดีกับสถานการณ์แบบนี้มันเป็นสิ่งที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน


      “ภัทรคนดีรักนะครับ เป็นแฟนกันนะ”


      ตอนจบของเรื่องผมคุณก็คงจะรู้ว่าไอ้ตี๋แว่นเนิร์ดอย่างผมคงไม่ปฎิเสธคำร้องขอของอิฐ เรื่องราวของผมอาจจะไม่ได้จบแบบ Happy Ever After เหมือนเทพนิยายชวนฝันที่เราได้อ่านกันตอนเด็ก ๆ ผมรู้แค่ว่าในตอนนี้เรารักกันและก็จะจูงมือประคับประคองความรักของเราไปจะไม่ยอมเสียเวลาที่เรียกคืนนั่นไม่ได้อีกแล้ว.. คุณล่ะครับกล้าไหมที่จะบอกความในใจกับใครสักคน อย่าปล่อยให้ทุกอย่างมันค้างคา ชีวิตของเรามันมีแค่นี้สุดท้ายมันก็อยู่ในชะตากรรมที่เราดิ้นรนกันเอง พรหมลิขิตอะไรนั่นมันไม่มีจริงหรอกนะ...
   
      why not (Why not)
      take crazy chance
      why not (Why not)
      do a crazy dance
      if you lose the moment
      you might lose a lot
      so why not why not

      
      
“ความรักไม่ต้องการเหตุผลของการกระทำ แค่เพียงทำตามเหตุผลของหัวใจก็เพียงพอแล้ว”
                               
ประโยคนี้พี่อิงเป็นผู้กล่าว

      
จบเหอะ!!


Finished 100%

PoofuGirl

  • บุคคลทั่วไป
เพลงสำหรับ [Second Part] ฟังเพลงนี้แล้วก็ออกมาแบบนี้แหล่ะ  :ruready


https://www.youtube.com/watch?v=5rJsMgAXULQ



ที่คบกันตลอดมา ไม่รู้เลย ฉันคิดไปเองไหม
ไม่เห็นเธอเคยบอกฉัน สักครั้งเลย
ว่าคิดกันแบบไหน

เธอว่าฉันไม่ค่อยใส่ใจ
พอฉันแคร์ เธอก็บอกว่าอย่ามากไป

บอกกันทีว่าคนๆ นี้ ควรอยู่ตรงไหน
ในหัวใจเธอ หรือแค่เพื่อนกัน
บอกตามตรงยังคงสับสน ระหว่างเรานั้น
เป็นได้แค่ไหนกัน ให้รู้เลยได้ไหม
จะให้ยืนข้างเธอแบบคนรัก
หรือมีค่าแค่คนทั่วไป บอกฉันให้มันชัดที

ไม่รักก็แค่บอกมา ให้รู้ตัว เดี๋ยวฉันมัวแต่ฝัน
หลายเรื่องที่ทำด้วยกัน ฉันคิดไกล
รู้ไหมมันสับสน

เธอว่าฉันสำคัญกว่าใคร
แต่เอาจริงๆ เธอก็ไม่เคยใส่ใจ

บอกกันทีว่าคนๆ นี้ ควรอยู่ตรงไหน
ในหัวใจเธอ หรือแค่เพื่อนกัน
บอกตามตรงยังคงสับสน ระหว่างเรานั้น
เป็นได้แค่ไหนกัน ให้รู้เลยได้ไหม
จะให้ยืนข้างเธอแบบคนรัก
หรือมีค่าแค่คนทั่วไป บอกฉันให้มันชัดที

บอกกันทีว่าคนๆ นี้ ควรอยู่ตรงไหน
ในหัวใจเธอ หรือแค่เพื่อนกัน
บอกตามตรงยังคงสับสน ระหว่างเรานั้น
เป็นได้แค่ไหนกัน ให้รู้เลยได้ไหม
จะให้ยืนข้างเธอแบบคนรัก
หรือมีค่าแค่คนทั่วไป บอกฉันให้มันชัดที

kissazazel

  • บุคคลทั่วไป
อารมณ์ดีจัง

พี่อิงเป็นคนดีมากก อิฐเอ๊ยยย ปากหนักจริงนะเกือบจะโดนแย่งไปแล้วสิ

ขอบคุณคร้าบที่แต่งให้อ่านอีก จุ๊บๆ

ออฟไลน์ tegonata

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
    • ~~เมื่อผมหลงเข้ามาใน...ร้านนั่งเล่นของสาววาย~~
อ้าาา ดราม่ามากกก นั่งร้องไห้เลย
อ่านตอนแรกจบ เห็น วันช็อต ก็นึกว่าจบแล้ว
พอมีแนะนำนิยายลองกดเข้าไปดู กลายเป็นนิยายที่เคยแนะนำเพื่อนไป
ชอบมากเลยค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Aomampapeln

  • แมวเหมียว เมี๊ยว เมี๊ยว~
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
^
^
^
เหมือนรีบนอ่ะนึกว่าจบตั้งแต่ตอนแรกแล้วเห็นเขียนว่าวันช็อตลองเข้ามาดูมีต่อนิ
แอบเสียใจคิดว่าจะจบแบบเศร้าๆซะอีกในที่สุดก็แฮปปี้

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
สรุป...ปากแข็งทั้งคู่ แล้วจะคบกันรอดไหมเนี่ยยยยย

อยากอ่านต่อจังค่ะ เขียนสนุกดี^^

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ที่จริงไม่น่าจะสมหวังกันหรอกนะเนี่ย ต่างก็เอาแต่เงียบและคิดไปเอง แบบนี้มันน่านัก

ออฟไลน์ tegonata

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
    • ~~เมื่อผมหลงเข้ามาใน...ร้านนั่งเล่นของสาววาย~~
จิ้มๆ
ข้างบนอย่าโกรธเค้าเลยค่ะ
จะได้รุ้ไงคะว่ารักกันจริง

-------------
แต่งนิยายมาลงอีกนะคะ ลืมบอกค่ะเลยมาอีกรอบ ขอโทษคร้าบ

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
เกือบไปแล้ว  :katai5: ดีนะที่มีพี่อิงมาช่วยไม่งั้นคงไม่ได้ลงเอยกันแน่คู่นี้

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
ลุ้น มากมาย

ออฟไลน์ myall

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 525
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-3
น่าดีใจที่ภัทรเจอคนดีๆอย่างพี่อิงกับพี่ฝ้ายนะ
ในที่สุดก็จบแบบแฮปปี้ ตอนแรกนึกว่าจะเศร้าเสียแล้ว

ออฟไลน์ DZiik

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อ๋อยย ~
ในที่สุดก็จบแบบแฮปปี้
ลุ้นตั้งแต่ต้นจนจบ
 :katai2-1:

ออฟไลน์ IRIS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 434
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
ถ้าไม่ได้พี่อิงก็คงไม่ได้คบกันละนะคู่นี้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Chichi Yuki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1584
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-3
ลุ้นแทบตาย นึกว่าจะจบเศร้าซะแล้ว
เรื่องนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับพี่อิงเลยนะเนี่ย
ถ้าไม่มีพี่อิงก็ไม่เข้าใจกัน

HappyItim

  • บุคคลทั่วไป
น้องภัทรกินเกี๊ยวไปน้ำตาไหลไป

คนอ่านกินมาม่าไปน้ำตาไหลไป

ซึ้งอ่ะซึ้ง แต่ไม่ถึงกับร้องไห้ฟูมฟาย ที่ร้องน่ะเหรอ... - -

เผลอสำลักมาม่า ความเผ็ดแล่นขึ้นจมูก จี๊ดไปถึงสมอง น้ำตาไหลปานจะขาดใจ อาเมน... :a6:

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2683
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
โอยยย~~~ นึกว่าจะไม่แฮปปี้เอนดิ้งซะแร้วว >.<

ออฟไลน์ ไอ้หัวแห้ว

  • ยิ่งมืดเท่าไหร่ ยิ่งเห็นดวงดาวชัดเจน...
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +568/-5
เย้ๆๆ


ในที่สุดดดดด

ออฟไลน์ GMT101

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด