- 17 -
(part2)
หลังจากวันที่ผมคิดจะบอกความจริงกับปกป้อง กลายเป็นว่าผมไม่มีโอกาสได้บอกอีกเลยเพราะปกป้องต้องกลับไปนอนที่คอนโดพี่แป้งเพื่อเตรียมสอบ ขอลาเฮียกวงยาวๆจนกว่าจะสอบเสร็จ
แม่มมม หนีเอาตัวรอด ทีผมอยู่ม.ปลายยังเป็นอัจฉริยะข้ามคืนเลย อ่านหนังสือคืนก่อนสอบเอา ไม่มีหรอกอ่านล่วงหน้าน่ะ ข้ออ้างทิ้งให้ผมทำงานหนักคนเดียวปะวะ แถมยังต้องมานั่งตอบคำถามลูกค้าสาวๆซ้ำๆซากๆอีกว่าไอ้เด็กหัวเกรียนมันไปไหน
“เห้ยๆ 9 นาฬิกา” ไอ้บูมเอาศอกกระทุ้งผมขณะที่อาจารย์กำลังบรรยายน่าเบื่ออยู่หน้าห้อง ผมหันตามที่มันบอก
“ไอ้หลาม?” ผมมองแวบเดียว ไม่อยากมองนานให้เสียลูกตา “ทำไม?”
“โทรมชิบหาย”
เรื่องของมันสิ ผมยักไหล่ ไม่สนใจ
“นายตนุพล ข้อ17ตอบอะไร?”
จึ๋ยย เสียงจารย์นี่หว่า ไอ้บูมลุกขึ้น หันหาตัวช่วย ซึ่งไม่ใช่ใครอื่น ก็คนนั่งเก๊กหล่ออยู่หลังห้องนั่นแหละ ขณะที่คนข้างๆผมยืนตอบคำถามอาจารย์อยู่นั้น ผมหันไปมองไอ้หลามอีกที ซึ่งมันเองก็เอาตาโหลๆใบหน้าซูบตอบต้องมองทางผมเช่นกัน
วินาทีนั้นผมชาวาบไปทั้งตัว
ถ้าเป็นแววตาปกติของมันผมจะสบตาสู้ แต่เวลานี้มันไม่ใช่ ไอ้หลามมันน่ากลัว สายตามันว่างเปล่า ไร้วิญญาณ มองผมเป็นแค่เศษขยะที่รอวันกำจัด ไม่รู้ว่าผมคิดเองรึเปล่า บวกกับรอยคล้ำใต้ตาของมันแล้วยิ่งเพิ่มความหวาดหวั่น
สัญญาณบางอย่างร้องเตือนว่าครั้งนี้มันไม่ใช่แค่เรื่องแกล้งเอารูปไปโพสในเว็บขายตัวของพวกเกย์แน่
พอคนข้างๆตอบคำถามอาจารย์เสร็จแล้วก็นั่งลง ทำให้ลำตัวไอ้บูมขวางกั้น ผมละสายตาไปจากมัน ไอ้บูมหันมามองผมแบบงงๆ
“จารย์เรียกมึงอ่ะ ลุกสิวะ นั่งทำด๋อยไร”
ผมสลัดความคิดร้ายๆออกไป ก้มลงอ่านโจทย์ในชีทแล้วตอบออกไปแบบมั่วๆ แน่นอนว่าผมโดนจารย์ว่า แต่คำพูดของอาจารย์นั้นไม่ได้เข้าหูผมเลย สายตาของไอ้หลามยังคงติดในหัว
ขอให้ผมคิดมากไปเองทีเถอะ
ตกเย็นผมกลับไปนอนที่ห้องเอาแรงก่อนจะลุกเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อไปทำงานเหมือนเคย วันนี้ปกป้องไม่อยู่งั้นขออู้เลทสัก15นาทีละกัน
“ไอ้เด็กนั่นไม่อยู่ก็สายเลยนะมึง”
“โธ่เฮีย ทำเหมือนผมไม่เคยสายไปได้” เฮียกวงค้อนสายตาขวับ ผมรีบเผ่นเข้าครัวทันทีก่อนที่จะโดนหักค่าจ้าง อันที่จริงเงินเก็บในบัญชีผมมีเหลือเฟือที่จะพอจ่ายค่าหอไปอีกเดือนเลยด้วยซ้ำ ก็ไอ้เด็กที่มาอยู่กับผมเล่นไม่ยอมให้ผมออกค่าใช้จ่ายอะไรเลย ตั้งแต่ค่ารถยันค่ามาม่าซองละ6บาท ดีหน่อยที่ข้าวกลางวันผมได้ออกเอง ถ้ามันให้ตังค์ผมบนโต๊ะก่อนออกจากห้องไป ผมควรไหว้มันเหมือนพ่อดีมั้ย เล่นดูแลซะขนาดนี้ ทั้งๆที่ผมอายุมากกว่าตั้งหลายปี
วันนี้ลูกค้าประปราย ไม่เยอะแต่ก็ไม่น้อย พอมีงานให้ผมทำได้เรื่อยๆ เสิร์ฟอาหาร ต้อนรับแขก เช็ดโต๊ะ เติมทิชชู่ ว่างก็แอบอู้ในห้องน้ำบ้าง รู้สึกแปลกๆไปจากทุกวันที่จะมีคนหัวเกรียนๆมาหยอกล้อจนโดนเฮียกวงด่าทั้งคู่
เวลาเที่ยงคืนก็เริ่มเก็บร้าน ล้างจาน เช็ดโต๊ะ ยกเก้าอี้ กว่าจะได้ร่ำลาเฮียกวงก็ปาไปตี1กว่าๆ ปกติแล้วผมกับปกป้องจะนั่งรถเมล์กลับเพราะน้องมันออกค่ารถเมล์ให้ เอ้ย ไม่ใช่ เพราะล้าจากการทำงานต่างหาก แต่ก็มีบางวันที่งานไม่หนัก ก็จะเดินทางลัดที่มาถึงหอเอา วันนี้ผมเลือกขึ้นรถเมล์ ถ้าเป็นไปได้ผมก็ไม่อยากจะใช้เส้นทางลัดสักเท่าไหร่ ความทรงจำแย่ๆมันผุดขึ้นมาน่ะ
แต่รอแล้วรอเล่า รถเมล์ก็ไม่มาสักที ผมถอนหายใจและก้าวหันหลังกลับเพื่อไปใช้เส้นทางลัดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แม่ง รถเมล์ไปไหนหมดวะ? ปกติมันต้องมีสัก2-3สายวิ่งผ่าน แต่นี่ไม่มีเลย จนคนรอรถเมล์ที่ป้ายพากันขึ้นแท็กซี่เพื่อกลับบ้านกลับช่องกันไปหมดแล้ว
เส้นทางลัดที่คุ้นเคยอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง ผมมองซ้าย ขวา หน้า หลัง อย่างระแวดระวัง
เอาว่ะ แค่เดินๆผ่านไปเดี๋ยวก็ถึงหอแล้ว
“จะรีบไปไหนหรอ?”
จู่ๆก็มีเสียงชายนิรนามดังขึ้น ผมหันหลังควับ
ใครวะ? ไม่คุ้นหน้าเลย ท่าทางไม่ได้มาดีแน่ๆ ผมคิดในแง่ร้ายไว้ก่อน ซอยเปลี่ยวแบบนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้
ผมไม่ตอบ กะว่าจะรีบเดินให้ถึงหอเร็วที่สุด อีกแค่ครึ่งทางเท่านั้น แต่ไม่เป็นไปตามคาด มีผู้ชายร่างใหญ่อีกคนมาดักผมไว้ หันซ้ายก็เจอผู้ชายที่กำลังลูบหนวด หันขวาก็เจอชายอีกคนที่มองผมด้วยสายตากระหลิ้มกะเหลี่ย
อันตราย...อันตรายมากๆ
“เอ่อ พี่ครับ ทั้งเนื้อทั้งตัวผมไม่มีอะไรเลย มีแค่มือถือเครื่องเดียว” ผมรีบบอกพวกมัน หยิบโทรศัพท์ที่ไอ้บูมให้ไว้ใช้ขึ้นมาชูต่อหน้า สถานการณ์ตอนนี้ช่างหัวเรื่องที่ไอ้บูมจะทวงโทรศัพท์ไปได้เลย ผมคืนมันแน่ๆ ถ้ารอดออกไปได้น่ะนะ..
ชายไว้หนวดหยิบโทรศัพท์ผมไปอย่างรวดเร็ว
“งะ งั้น ผมไปก่อนนะครับ”
“เดี๋ยวสิ จะรีบไปไหน” คนข้างหลังคว้าตัวผมไว้ ผมตกอยู่ในวงล้อมของพวกมันทั้ง 4 คน ไม่รู้ว่าพกอาวุธรึเปล่า ใจผมตอนนี้ภาวนาให้ใครก็ได้ออกมาเดินเล่นเพ่นพ่านแถวนี้ที ทั้งๆที่รู้ว่าโอกาสนั้นแทบจะเป็นศูนย์ ซอยเปลี่ยวแบบนี้เวลาตี 2 ใครมันจะบ้ามาเดินเล่นวะ รู้งี้ขึ้นแท็กซี่กลับหอก็ดี ยอมเสีย 50 บาท ดีกว่ามาเจออะไรแบบนี้
“ผะ ผม ไม่มีเงินแล้วครับ มีแค่ 100 บาท” ผมพยายามขัดขืนไอ้คนที่ล๊อคตัวทางด้านหลัง “ถ้าจะปล้น ผมมีให้แค่นี้จริงๆครับ ยะ อย่าทำอะไรผมเลย”
ใจเย็นๆเข้าไว้นะโม พูดดีๆกับมัน พวกมันมีมากกว่า แถมร่างใหญ่โตกว่าผมทั้งหมดด้วย ผมประเมินสถานการณ์ตรงหน้าโอกาสที่ผมจะรอดนั้น บอกเลยว่ายาก ผมไม่ใช่คนรวยจึงพกเงินไม่เยอะ ของมีค่ามีราคามากสุดก็โทรศัพท์ที่ไอ้บูมให้มานั่นแหละ
“100บาท?” ชายด้านขวาทวนคำ แล้วพวกมันทั้งหมดก็พากันหัวเราะ “ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
ขำเหี้ยไรกันวะ...อยากจะด่า แต่เผลอด่าออกไปตอนนี้มันคงไม่ดีกับตัวผมแน่ๆ
“สัตว์เอ๊ย หน้าตาก็ไม่น่าจนขนาดนี้นี่หว่า”
“งั้นพี่ให้เพิ่มเอามั้ยน้อง?...อีกสัก200เป็นไง” คำพูดกักขฬะพ่นใส่หน้าผมพร้อมกับชูธนบัตร100บาท2ใบ ผมมองอย่างไม่เข้าใจ
พวกมันไม่ได้จะมาปล้น?
แล้วมาดักทำอะไร?...
ทันใดนั้นผมก็ได้คำตอบเมื่อชายตรงหน้าบีบคางผมแน่นแล้วพูดว่า
“แลกกับค่าตัวน้องที่ต้องบริการพวกพี่ทั้ง 4 คนไง ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
ไอ้สัตว์!! ไอ้เหี้ย!!
เมื่อกี้ผมไม่น่ายื่นโทรศัพท์ให้มันก่อนเลย อย่างน้อยผมจะได้แอบกดโทรหาไอ้บูมได้ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว หมดทางรอด นอกเสียจากว่าจะมีคนเดินผ่านมา
“เอ๋าๆ กัดปากตัวเองอย่างนั้นไม่ดีนะจ๊ะ เดี๋ยวช้ำหมด” มือที่บีบคางคลายตัว บังคับให้ผมหันซ้ายหันขวาแทน “ดูไปดูมาแม่งน่ารักเหมือนผู้หญิงเลยว่ะ ถึงจะมีแค่รูเดียวก็เถอะ ฮ่าๆๆๆๆๆ” แล้วพวกมันทั้ง 4 ตัวก็ขำกันยกใหญ่
แขนผมถูกล๊อคไว้ด้านหลัง มีชายประกบซ้ายขวา ดูยังไงๆผมก็ไม่สามารถต่อกรได้เลย เสียเปรียบสุดๆ ถ้ามา1หรือ2 ผมว่าผมยังสู้ไหว
“เอ้า! ยิ้มหน่อยสิ คืนนี้จะมีผัวทีเดียวตั้ง 4 คน”
ผมยิ้มให้มันตามคำขอ ก่อนจะถุยน้ำลายใส่หน้าเหี้ยๆของคนพูด มันยกหลังมือปาดน้ำลายผม สายตาน่ากลัวหันมามองช้าๆ
ผลัวะ!!!
“อึก!” ใบหน้าซีกซ้ายร้าวไปทั้งแถบ สัมผัสรสเลือดสนิมทีละน้อย แต่กระนั้นคงยังไม่พอสำหรับสัตว์นรกอย่างพวกมัน หมัดหนักพุ่งตรงเข้าท้องจนผมตัวงอ
มันไม่ให้ผมได้มีเวลาเจ็บตัวมากนัก มือสากช้อนใต้คางผมอีกครั้ง
“โอ๊ะๆ โทษที มือมันเผลอน่ะ”
“รีบลากมันไปในพุ่มดีกว่า เดี๋ยวเสือกมีใครมาเจอจะชิบหายกันหมด” พวกมันถูลู่ถูกังเพื่อลากผมไปในพงหญ้าข้างทาง ผมขืนตัวไว้สุดแรง แต่หมัดที่ชกเข้าท้องทำเอาผมแทบไม่มีแรงต่อต้าน
“ฤทธิ์เยอะนักนะมึง”
ผลัวะ!!!
มันซ้ำเข้าที่เดิม คราวนี้ผมงอตัวลงไปกับพื้นดินเย็นๆ แสงไฟริบหรี่ทำให้ผมรู้ว่าพวกมัน4ตัวยืนค้ำหัวผมอยู่และบดบังใบหน้าของพวกมันจนหมด มือทั้ง 2 ถูกมัดเอาไว้เหนือหัว ผ้าเน่าเหม็นถูกจับยัดใส่ปากเพื่อกันผมส่งเสียง มือสากลูบไล้ใต้เสื้อยืดบาง ผมตัวสั่นอย่างควบคุมไม่อยู่
ขยะแขยง...
ทำไมผมต้องมาเจอเรื่องเหี้ยๆแบบนี้อยู่เรื่อย
“สั่นกลัวหรือสั่นสู้ว่ะ?”
“สั้นสู้มั้ง จะมีผัวทีเดียวตั้ง 4 คนนิ”
พวกมันคุยกันตามด้วยเสียงหัวเราะอันน่ารังเกียจ มือสากหยุบหยับไปตามเนื้อตัวผมกี่มือต่อกี่มือไม่รู้ที่ลากผ่าน น้ำตาผมไหลอย่างห้ามไม่ได้
“อื้อออออออออออออ!!!!!!” ผมเปล่งเสียงในลำคอแต่ก็ได้เท่านี้ แค่พวกมันหัวเราะก็กลบเสียงในลำคอผมหมดแล้ว
เสื้อถลกขึ้น เพิ่มพื้นที่ให้พวกมันได้สัมผัสผิวกายมากกว่าเดิม ร่างกายสั่นเทาจากความกลัวที่มาจากก้นบึ้งของจิตใจ เหตุการณ์ร้ายๆที่ผมเคยพบเจอวาบเข้ามาในหัวเป็นฉากๆ ผมออกแรงต่อต้านอีกครั้ง ดวงตาเบิกกว้างเมื่อกางเกงหลุดไปอยู่ที่ข้อเท้า
“อย่าดิ้นสิวะ” สิ้นคำเหี้ยมพวกมันก็ชกผมเข้าที่หน้าและท้องอย่างจัง ครั้งนี้เหมือนมันสุดจะทน ใส่มาเต็มแรงจนผมหยุดดิ้น กดขาผมไว้ไม่ให้ขยับได้อีก
เจ็บตัว เจ็บใจ แต่ทำอะไรไม่ได้เลย
ตาผมปรือลงช้าๆ
ช่วยฆ่าผม แล้วข่มขืนผม หรือจะทำอะไรกับร่างกายผมก็ตามแต่...
ขอร้อง ฆ่าผม ฆ่าผมให้ตาย
ทนรับไม่ไหวแล้วจริงๆ
ผมอยากตาย...
ปังงงงง!!!!!!Next Chapter >> - 18 - (part1)สั้นหน่อย แต่จะพยายามมาบ่อยๆนะก๊ะ
ตอนนี้โปรโจคเยอะมาก อาจารย์ต่างคนต่างพากันสั่ง เห้อ ปีสุดท้ายแล้วด้วย งานหนักมากๆค่ะ แบบมันเครียด ขี้เกียจตีดอท กลับมาแต่งนิยายดีกว่าเนอะ 555555
ยังมีคนอ่านไหมเนี่ยยยย ขอเสียงคนยังอ่านหน่อยยยยยยยย
จุ้บๆๆๆ ♥