When we call it 'LOVE' ... [[หนังสือวางขายที่ร้านนายอินทร์]]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: When we call it 'LOVE' ... [[หนังสือวางขายที่ร้านนายอินทร์]]  (อ่าน 725608 ครั้ง)

ออฟไลน์ Dangdang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: When we call it 'LOVE' ... [[UP p.82 - 11/09/2016]]
«ตอบ #2460 เมื่อ07-11-2016 07:20:55 »

 :ling1: :ling3:  คนเขียนไปไหน
ถ้าว่างมาต่อนะค่ะ
รออ่านค่ะ  :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ silasa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: When we call it 'LOVE' ... [[UP p.82 - 11/09/2016]]
«ตอบ #2461 เมื่อ11-11-2016 10:36:23 »

 :hao5: เรามารอเป็นกำลังใจให้ชายโทด้วยอีกคน

ออฟไลน์ Fragrant

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 859
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
Re: When we call it 'LOVE' ... [[UP p.82 - 11/09/2016]]
«ตอบ #2462 เมื่อ11-11-2016 11:15:24 »

 o13

ออฟไลน์ nixnix

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: When we call it 'LOVE' ... [[UP p.82 - 11/09/2016]]
«ตอบ #2463 เมื่อ14-11-2016 20:55:44 »

อยากอ่านต่อคะ  :3123:

ออฟไลน์ MeWeaw

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: When we call it 'LOVE' ... [[UP p.82 - 11/09/2016]]
«ตอบ #2464 เมื่อ25-11-2016 20:06:59 »

 :katai5: คลานมารอ
มาต่อให้ด้วยนะค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ ป่ามป๊ามป่ามปาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: When we call it 'LOVE' ... [[UP p.82 - 11/09/2016]]
«ตอบ #2465 เมื่อ02-12-2016 08:47:06 »

คิดถึงเรื่องนี้   :katai5:

ออฟไลน์ panpang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 508
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
Re: When we call it 'LOVE' ... [[UP p.82 - 11/09/2016]]
«ตอบ #2466 เมื่อ08-12-2016 22:36:49 »

แง้ รอๆๆๆๆๆ :katai2-1:

ออฟไลน์ nixnix

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: When we call it 'LOVE' ... [[UP p.82 - 11/09/2016]]
«ตอบ #2467 เมื่อ23-12-2016 19:44:21 »

หายไปเลย จะจบมั้ยเนี่ย  :ling1:

ออฟไลน์ seii

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
Re: When we call it 'LOVE' ... [[UP p.82 - 11/09/2016]]
«ตอบ #2468 เมื่อ30-12-2016 03:52:35 »

สนุกค่ะ ติดตาม
เปิดตัวพระเอกมาเ-ี้ยมาก
คือถ้าเพื่อนจะขายเเล้วมึงเสือกไรอ่ะ?
คนขายตัวยังดีกว่าส่ำส่อนเปย์คู่นอนอย่างเเกป่ะวะ
เ-ี้ยเเล้วยังเสือกโง่ให้คนเลวจูกจมูก ไอ้ฟายเอ้ย
ถึงมันจะรักบอกว่ารัก
เเต่รับไม่ได้จริงๆ ที่มันข่มขืนเเล้วยังชดต่อยทำร้ายร่างกาย
คือ สารภาพว่ารักสำรับไอ้นี่ คงยากกว่าข่มขืนทำร้ายร่างกายเเละจิตใจสินะ
หมั่นใส้นางมากค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-12-2016 04:41:34 โดย seii »

ออฟไลน์ Panizzz3838

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Re: When we call it 'LOVE' ... [[UP p.82 - 11/09/2016]]
«ตอบ #2469 เมื่อ20-01-2017 09:50:16 »

มาต่อเถอะนะ :z3: :z3: :z3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: When we call it 'LOVE' ... [[UP p.82 - 11/09/2016]]
« ตอบ #2469 เมื่อ: 20-01-2017 09:50:16 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Walitya

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: When we call it 'LOVE' ... [[UP p.82 - 11/09/2016]]
«ตอบ #2470 เมื่อ20-01-2017 20:43:39 »

รออยู่นะคะ รีบมาต่อน๊า  :z13:

ออฟไลน์ ✿PIERRE

  • ดองนิยายข้ามปี
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 434
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-6
Re: When we call it 'LOVE' ... [[UP p.82 - 11/09/2016]]
«ตอบ #2471 เมื่อ18-02-2017 15:32:21 »

- 26 -

ตกบ่ายขณะที่ผมกำลังแชทไลน์กับเด็กเจ้าปัญหาส่วนตาก็ดูหนังไปด้วย จู่ๆก็มีข่าวดีสำหรับคนที่กำลังจะติด F วิชาภาคที่อ.ดนัยสอนอย่างผม เพราะเพื่อนๆในภาควิชาที่ร้อยละ 90 ล้วนได้ปลามารับประทานนั้นกำลังเห่อคุยในกรุ๊ปของภาค แจ้งเตือนนี่เด้งรัวๆ ไอ้กอล์ฟตัวแทนรุ่นได้บอกว่าอ.จะให้โอกาสแก้ตัวอีกหนึ่งครั้งสำหรับคนที่ได้ 45 คะแนนขึ้นไป โดยการมาสอบใหม่ใช้โจทย์ที่คล้ายของเดิม และเกรดที่ออกมาก็จะสูงสุดแค่ D เท่านั้น

อยากจะกราบแทบเท้าอาจารย์จริง ๆ ขอบคุณที่ให้โอกาสพวกผมอีกครั้ง เพื่อนๆหลายคนที่กลับต่างจังหวัดไปแล้วลงทุนเสียค่ารถทัวร์ ค่าเครื่องบินเพื่อกลับมาสอบใหม่ โดยอาจารย์นัดหมายในอีก 4 วันข้างหน้านี้ เพราะเดี๋ยวไม่ทันตัดเกรดส่งสำนักทะเบียน

“ตามมานี่” ไอ้โทลุกขึ้นไปเปิดไฟ หนังในจอที่กำลังมันส์ๆเป็นอันต้องปิดไป ย้ายก้นจากห้องดูหนังขนาดย่อมมายังห้องหนังสือ
ผมไม่รู้ว่ามันจะทำอะไร เพราะร่างสูงของมันกำลังเลือกหนังสือบนชั้นอย่างเคร่งเครียด ทำเอาผมไม่กล้าถาม เมื่อหยิบหนังสือมาได้ 3-4 เล่ม ไอ้โทก็เอามาวางตรงหน้าผม นั่งลงข้าง ๆ แล้วบอกว่า

“อ่านสิ”

ผมหันไปมองมันอย่างลังเล ซึ่งมันก็ทำท่าบุ้ยใบ้บอกให้ผมหยิบเล่มบนสุดมา หนาจนปาหัวหมาแตกได้เลยนะเนี่ย ผมเปิดหนังสืออย่างกล้า ๆ กลัว ๆ หันไปมองมันอย่างไม่มั่นใจ

“เพราะเล่มนี้กูถึงสอบผ่าน อ.ดนัยก็เอาโจทย์มาจากหนังสือพวกนี้แหละ”

กวาดสายตาแบบผ่าน ๆ มือก็เปิดที่ละหน้า ๆ อย่างไร้จุดหมาย หันไปมองมันอีกทีเพื่อความมั่นใจว่าจะให้กูอ่านหมดนี่จริงหรอ?

“นะโม ถ้ามึงไม่อ่านมึงก็อย่าหวังจะสอบผ่าน เพราะกูช่วยติวให้มึงได้แค่นี้”

“คือ...”
“อะไร?”
“กูแปลไม่ออก...”

ไอ้โทถึงกับสตั้น แล้วถอนหายใจยาว ๆ

“ชวนเพื่อนๆมาติวด้วยกันสิ” ผมเสนอไอเดียเหมือนทุกๆครั้งก่อนจะมีการสอบ พวกเพื่อนๆมักจะชอบถามไอ้โทในสิ่งที่ไม่เข้าใจ จนถ้าจะบอกว่ามันคืออาจารย์อีกคนก็คงไม่ผิด

“เออค่อยชวน”

อ่าว แล้วทำไมไม่ชวนเลยวะ เริ่มติวพร้อมกันจะได้ไม่ต้องมานั่งอธิบายใหม่หลายๆรอบ

ไอ้โทไม่ได้ตอบอะไร มันลุกออกไปนอกห้องประมาณ 15 นาทีก็กลับมาพร้อมชีทสรุปด้วยลายมืออันสวยงามของมัน พี่บัวเดินตามเข้ามา ยกขนมกับน้ำวางบนโต๊ะใกล้ ๆ แล้วปล่อยให้ผมอยู่ตามลำพังกับไอ้โทเหมือนเดิม

เสียงทุ้มนุ่มอธิบายอย่างช้า ๆ ทำความเข้าใจไปทีละส่วน และเริ่มทำโจทย์ไล่จากง่ายไปหายาก ยอมรับเลยว่าพอได้ฟังเนื้อหาจากมันแล้วเข้าใจกว่าที่อาจารย์ดนัยอธิบายเยอะ คงเพราะใช้ศัพท์ธรรมดาๆ ไม่ได้เป็นทางการหรือศัพท์เทคนิคอย่างที่อาจารย์ชอบใช้ ประมาณว่าเรื่องนี้กูกำลังงงเสือกเจอคำศัพท์ใหม่ก็ต้องเปิดหาอีก กลายเป็นว่าไม่ได้ไม่เข้าใจสักเรื่อง

“อ่ะ นี่ คำตอบสุดท้าย กูมั่นใจว่าถูกแน่” ผมยื่นสมุดกางหน้ากระดาษที่เต็มไปด้วยดินสอลายมือผม ร่ายแสดงวิธีทำตามขั้นตอนอย่างที่ไอ้โทสอนเป๊ะๆ ติวเตอร์จำเป็นรับไป กวาดสายตาดูอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยื่นกลับมาให้

“ผิด”
“ห๊ะ?”
“ผิด”

ผิดตรงไหนวะ กูก็ทำตามขั้นตอนตีโจทย์ทีละส่วน ๆ แล้วนะ

นิ้วผมไล่ทีละบรรทัดเพื่อหาจุดผิด โดยมีติวเตอร์หน้าหล่อนั่งจ้องอย่างอึดอัด ไอ้ตอนมันอธิบายผมก็ไม่รู้สึกอะไรหรอก เพราะมันพูดไปด้วย มือก็แสดงโจทย์ให้ผมดู ไม่ได้มานั่งโฟกัสเพ่งเล็งแบบนี้

โอ๊ย กูวนหา 3 รอบแล้วนะ ตรงไหนวะที่ผิด

“มึงคิดผิดเองป่าว แล้วมาบอกว่ากูตอบผิด”
“แล้วถ้ากูหาเจอล่ะ?” มันยักคิ้วกวน
“กูยอ-....”

เกือบละ ดีนะผมยั้งคำพูดไว้ทัน ไอ้ห่านี่ไว้ใจไม่ได้ แถมมันเรียนเก่งกว่าอีก ผมอาจจะพลาดเองจริงๆ

“อะงั้นผิดตรงไหน”
“รูปร่างโมเลกุลโควาเลนต์ของคาร์บอนกับคาร์บอนที่จัดเรียงตัวแบบพีระมิด มันคือเพชร ไม่ใช่แกรไฟต์”

ผมรีบยิ้มแห้งๆไปให้มัน ดึงสมุดมาลบคำตอบอย่างเจี๋ยมเจี้ยม ถ้าเอาไปถามไอจ๊อบหรือบูมมันก็ตอบไมได้เหมือนผมนั่นแหละน่า เรียนตั้งแต่ม.6ละ ความรู้คืนครูไปหมดแล้ว

“โด่วว ผิดแค่นี้เอง”
“ก็แค่ได้ 0 เอง”

เดี๋ยวนี้มียอกย้อน

ไอ้โทมันกล้าเล่น..เอ่อเอาจริง ๆ คือกวนตีนใส่ผมมากขึ้น มากกว่าตอนที่เกิดเรื่องเลวร้ายทั้งหลายนั่นอีก ซึ่งบอกตามตรงผมรู้สึกสนิทใจมากกว่าด้วยซ้ำ คงเป็นเพราะมันไม่ได้ปิดบังอะไรอีกต่อไป ผมรู้ว่ามันอยากจะเข้าหามากว่านี้ แต่ยังกลัวว่าผมจะออกห่าง มันเลยเว้นระยะไว้ให้ ยอมทำตามข้อตกลงที่ผมสร้างขึ้นมา

สำหรับผม...คำขอโทษที่ดีที่สุด ไม่ใช่คำพูด แต่คือการกระทำของตัวมันเอง

ตั้งแต่ไอ้โทรู้ความจริงมันก็ไม่ได้แตะต้องผมอีกเลย ถึงแม้ว่าก่อนหน้านั้นมันจะทำระยำหมาไว้สักแค่ไหน มันคงเพิ่งสำนึกได้ เลยหันมาทำดีด้วย ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรก็ตาม มันได้พิสูจน์ตัวเองในระดับหนึ่งแล้ว ไม่อย่างนั้นผมคงไม่มาดูแลมันง่าย ๆ แบบนี้หรอก เห้อ

“พักก่อนได้ไหม กูปวดหัว”

“อืม” มันเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ “พรุ่งนี้ค่อยไปติวที่หอสมุดแล้วกัน เดี๋ยวกูบอกเพื่อนๆในภาคเอง”
ว่าแล้วก็หยิบโทรศัพท์มาเช็กไลน์สักหน่อย ปกป้องถ่ายรูปตัวเองตอนเล่นบาสมาให้ดู ส่วนผมถ่ายรูปกองหนังสือส่งกลับไป พร้อมกับบอกเรื่องสอบซ่อมด้วย

อยากไปให้กำลังใจ


ต่อหน้าคงไม่มีหรอกคำพูดหวาน ๆ แบบนี้น่ะ

อันที่จริงพรุ่งนี้ปกป้องชวนผมไปถ่ายรูปเล่น แต่บังเอิญว่ามีเรื่องสอบแก้ตัวกะทันหัน ผมเลยบอกปัด ขอเป็นหลังสอบเสร็จแทน
ผมสลับมาที่แชทกรุ๊ป 4 หล่อ กระดอใหญ่ กูล่ะเกลียดชื่อกรุ๊ปจริง ๆ ส่วนใหญ่พวกเราไม่ได้คุยอะไรกันมากหรอกครับ มีแต่ไอ้จ๊อบกับบูมนี่แหละที่แกล้งกวนตีนกันไปมา ผมแจมๆไปบ้างนิดหน่อย ส่วนคุณชายเขาอย่างมากก็ส่งสติ๊กเกอร์ 1 ตัว
ไอ้ฟูมันส่งรูปมาในแชทกรุ๊ป พอกดโหลดรูปก็พบว่านั่นมันตอนที่ผมกำลังซื้อของในห้างนี่หว่า

ใครวะ หล่อทุกรูป ดูดีทุกมุม

ชมตัวเองไป1ดอก

อ๋อ คอร์กี้แถวบ้านกูเอง 55555

สัด เปรียบเป็นหมาว่าแย่แล้ว นี่เสือกพันธุ์ขาสั้นอีก

“ขำเหี้ยไร” ไอ้คนข้างๆผมเอง จู่ๆเสือกหัวเราะ

“เปล่า ดูรูปแล้วมันตลก”

มีคนร้อนตัว

อันนี้ไอ้โทพิม แล้วส่งรูปด้านหลังของใครบางคน...อ๋อ หลังกูเอง เพิ่งถ่ายเมื่อกี้สินะ

ข้างหลังยังหล่อ

กูก็ชมตัวเองต่อได้เนอะ

ผมเลื่อนดูรูป มันมีอยู่รูปนึง เป็นรูปผมกำลังเข็นรถเข็น สายตามองไปยังชั้นวางสินค้า คือแบบโคตรดูดีอ่ะครับ เพอเฟ็คมาก จนอดไม่ได้ที่จะเอามาตั้งเป็นรูปโปร แต่ติดที่ว่าเห็นไอ้โทกำลังหยิบแพ๊คนมกล่องเนี่ยสิ

ครอปแม่งออกเลยก็แล้วกัน ไม่มีใครรู้หรอก

ผมอัพรูปโปรไฟล์ในเฟสบุคยังไม่ถึงนาทีก็มาคนมากดหัวใจให้

Pariwat Waithayawanthiti กินนมเยอะ ๆ จะได้สูงๆ

ปกป้อง...กวนตีนละมึง

ผมตอบรูปอิโมจิที่เป็นฝ่าเท้ากลับไป ระหว่างนั้นก็มีคนทยอยมากดไลค์เรื่อย ๆ ผมวางโทรศัพท์แล้วมาสนใจหนังสือเล่มหนานี้ต่อ ไอ้โทบอกให้ผมอ่านบทต่อไปให้เข้าใจเองก่อน สงสัยตรงไหนค่อยถามมัน

“ละมึงจะไปไหน”
“ครัว จะไปเอาข้าวเย็น อยากกินอะไรไหม”
“เป๊บซี่”
“อย่างเดียว?”
“คุกกี้ที่พี่บัวเอามาให้ด้วย กูแดกหมดแล้ว อร่อยดี”

มีคนคอยบริการให้มันดีแบบนี้นี่เอง ผมสนใจตัวหนังสือภาษาอังกฤษตรงหน้าต่อ ไม่ใช่แปลว่าไม่ออกหรอก คำบางคำมันก็พอถูๆไถๆ แต่ถ้าศัพท์ตัวไหนไม่รู้จริง ๆ ก็เปิดดิกเอา

เจ้าของบ้านติวสอบให้ผมจนเวลาล่วงเลยมาถึง 5 ทุ่ม มันถึงไล่ให้ผมไปอาบน้ำ เดินไปหยิบชุดนอนและตรงไปยังประตูห้องน้ำ
ทำไมมันเปิดไม่ออกวะ

“นะโม เลื่อนขวา”

อะ อ้าว... อย่าขำนะไอ้โท แค่กูยังไม่ชินกับประตูบ้านมึงหรอก เดี๋ยวเป็นลูกบิด เดี๋ยวเป็นกลอน เดียวมีรหัส อะไรไม่รู้เยอะแยะ คือจะออกแบบให้ประตูทั้งบ้านเหมือนกันหมดไม่ได้หรอวะ ไม่เข้าใจบ้านคนรวยจริง ๆ แถมตอนนี้สมองยังเบลอสุด ๆ ในหัวที่เคยมีแต่ขี้เลื่อยเริ่มปรับตัวเอาความรู้เข้าไปแทรกมั่ง

เสียเวลากับการอาบน้ำไม่นานก็ออกมา พบว่าร่างสูงนอนอยู่บนเตียง นอนคุยโทรศัพท์กับใครก็ไม่รู้ แต่ผมพอจะเดาออกว่าเป็นผู้หญิง

“ช่วงนี้ผมไม่ว่าง...อยู่กับเพื่อน...” สายตาคมเหลือบหางตามาทางผมที่กำลังขยี้หัว หวังจะให้มันแห้งเร็ว ๆ “แค่นี้ก่อนนะครับ และไม่ต้องโทรมาอีก”

โห พูดไร้เยื่อใยแบบไม่ไว้หน้าผู้หญิงในสายเลย แต่ไอ้โทมันก็เป็นของมันแบบนี้อยู่แล้ว มันเบื่อใครก็ตัดทิ้งเลย แล้วควงคนใหม่แบบไม่แคร์สื่อ เพียงแต่ช่วงนี้ผมไม่เห็นว่ามันจะกิ๊กกับใครเลยว่ะ หรือว่าโดนไอ้จ๊อบแอบคาบไปแดกหมดแล้ว

“มานั่งนี่” ไอ้โทนั่งขัดสมาธิรออยู่บนเตียง มือตบปุๆใกล้ๆหว่างขามัน “จะเป่าผมให้ เดินขยี้หัวแบบนั้น น้ำมันหยดทั่วห้อง”

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวมันก็แห้ง”

“ลำบากพี่หญิงเขาต้องมาถูพื้นให้” มันทำน้ำเสียงดุ “เร็ว ๆ แป๊บเดียว”

“เออ”

ก็ได้วะ รีบ ๆ เป่า รีบๆแห้ง ผมจะได้นอนสักที

ผมปีนขึ้นเตียงนั่งหันหลังให้ ไอ้โทหยิบไดร์เป่าผมเสียบกับปลั๊กหัวเตียง นึกขอบคุณเสียงมอเตอร์ไดร์ที่ดังไปทั่วห้องกลบบรรยากาศประหลาดๆนี้ นิ้วมือเรียวสางผมพร้อมกับเป่าลมเย็น จะว่าไปมันก็สบายดีแหะ เกิดมายังไม่เคยมีใครทำแบบนี้ให้ ปกติสระผมเสร็จก็เช็ดพอหมาดแล้วนอนเลย

“ใช้แชมพูขวดสีส้มเหรอ”

“เออ หรือว่ามันไม่ได้ไว้สระผม” เอี้ยวคอกลับไปถาม

อย่าเชียวนะเห้ย...กว่ากูจะอ่านตัวหนังสือภาษาอังกฤษเล็กๆข้างขวดออกนี่กินเวลาไปเกือบ 10 นาที ตั้งเรียงรายไว้ทำไมเยอะแยะ ในเมื่อสุดท้ายก็ใช้แค่ขวดเดียว

“เปล่า หอมดี” ไม่พูดเปล่า ปลายจมูกโด่งยังสัมผัสกับเส้นผมเพื่อพิสูจน์โดยตรง

ผมตัวแข็งทื่อ...นี่ถ้าเอียงคอมุมองศาผิดไปนิดหน่อยจมูกโด่งๆนั่นมาสามารถกระทบแก้มผมได้เลยนะ...

“เสร็จแล้ว ปิดไฟละนะ” พูดปุ๊บปิดปั๊บ

รีบไปไหนเนี่ย ให้กูเดินไปที่โซฟาก่อนไม่ได้ไง๊

“นอนนี่แหละ มันดึกแล้ว”
“อย่ามาเนียน”

ดึกแล้วเกี่ยวอะไรกับที่นอนกูไม่ทราบครับ อีกไม่กี่เมตรกูคลานไปเองได้น่ะ

แต่ขณะที่ผมกำลังคลำลงจากเตียง อีกฝ่ายก็คว้าข้อมือไว้เสียก่อน ดึงให้ผมล้มนอนลง แม้ว่าผมจะลืมตาแต่ก็มองไม่เห็นอะไรเลย เพราะมันมืดมาก รู้แต่ว่ากายอุ่นนั้นเบียดเข้ามาใกล้ เสียงทุ้มกระซิบข้างหูบอกให้ยกหัวขึ้น พอผมทำตามก็ได้สัมผัสกับหมอนนุ่ม โดยที่ต้นคอมีแขนของคนข้างๆรองหนุนให้

แม้อยากจะกระเถิบหนี แต่ติดที่ผ้าห่มหนาปกคลุมลงมาแล้วมันช่างพอดีและลงตัวจนไม่อยากลุกไปไหน อีกอย่างผมก็ง่วงมากแล้วด้วย ใช้พลังงานทั้งวัน ขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงด้วยเรื่องไร้สาระ ไหนๆเจ้าของเตียงก็บังคับผมให้นอนอยู่แล้ว งั้นไม่เกรงใจล่ะนะ

ผมนอนหงายแบบปกติ สายตาที่จับจ้องเพดานหรูค่อยๆปรือลงอย่างช้า ๆ ก่อนเปลือกตาจะปิดลงผมเห็นว่ามีคนแอบยิ้มกว้างในความมืด

แบบนี้มันสบายกว่านอนโซฟาเป็นไหนๆ...



ผมปรือตาขึ้นมาเพราะแสงแดดที่ส่องผ่านผ้าม่าน พลิกตัวหลบแดดหันไปอีกทางโดยลืมไปว่าตัวเองนอนอยู่ที่ไหน คว้าผ้าห่มหนานุ่มมาซุกไว้ที่คอ ขาข้างซ้ายยกขึ้นเพื่อที่จะได้ก่ายหมอนข้าง

แต่ทำไมหมอนข้างมันแข็ง ๆ วะ ?

ในหัวคิดพิจารณาถึงสถานการณ์ตอนนี้อย่างถี่ถ้วน...หมอนนุ่ม ผ้าห่มหนา เตียงกว้าง แสงแดดส่องผ่าน .. และสุดท้าย...หมอนข้างแข็ง ๆ

เดี๋ยวนะ เมื่อคืนผมหลับบนเตียงไอ้โทนี่หว่า 2 คืนแล้วที่ผมนอนเตียงเดียวกับมันแบบงงๆ เมื่อคิดได้ดังนั้นผมก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา เห็นใบหน้าหล่อจ่ออยู่ใกล้ในระยะไม่ถึงคืบ ผมตัวแข็งไปชั่วขณะ ก่อนจะค่อยๆ เขยิบออกห่าง

ฟึ่บ !

เชี่ย มีท่อนซุงมาทับขาผม หนักชิบหาย แบบนี้ไอ้คนข้าง ๆ แอ๊บหลับแน่ ๆ

“ไอ้โท เอาขามึงออกไป”

มีเพียงแค่เสียงครางในลำคอตอบรับ เหมือนคนหงุดหงิดที่โดนกวนตอนหลับ ผมเลยลุกขึ้นมา แม้ขาจะยังโดนทับนั่นแหละ ผมปัดผ้าห่มให้ออกจากตัว แล้วก้มมองขายาว ๆ ของใครบางคน

ตอนนี้ผมตื่นเต็มตาแล้ว ดังนั้นไอ้โทก็ต้องตื่นเหมือนกัน เพราะวันนี้ผมต้องไปสอบซ่อมตามที่อ.นัดเมื่อหลายวันก่อน แต่ในเมื่อผมพยายามลุกแล้วแต่ขาก็ยังติดอยู่ มันก็ต้องมีมาตรการขั้นเด็ดขาดสักหน่อยล่ะ

“โอ๊ย!!” คนที่นอนอยู่ถึงกับลุกขึ้นมา

“555555555” ส่วนผมน่ะหรอ ก็ขำแบบสะใจอยู่นี่ไง

“มึงทำไรเนี่ย” ไอ้โทถามหงุดหงิด

ผมไม่ตอบ แต่ชูขนหยิก ๆ 2 เส้นให้มันดู ขนที่ว่านี่ก็มาจากการที่ผมดึงขนหน้าแข้งมันเองนั่นแหละครับ ฮ่าๆๆๆๆ แม่งเป็นอะไรที่เจ็บสุดในชีวิตลูกผู้ชายแล้ว ถ้าไม่นับโดนเตะไข่น่ะนะ

ไอ้โทขยี้หัว บ่นพึมพำว่าผมเล่นไม่รู้เรื่อง และก่อนที่ผมจะรู้ตัว มันก็ใช้ผ้าห่มคลุมตัวผมแล้วนอนทับ

“สัดโท กูหายใจไม่ออกโว๊ยยยยยยย”

ผมดิ้นสุดกำลัง แต่แน่ล่ะ แรงผมหรือจะไปสู้แรงมันได้ ผมถีบผ้าห่ม พยายามเอาหัวออกเพื่อสูดอากาศหายใจให้ได้ แต่พอได้ยินเสียงไอ้โทหัวเราะผมเลยคิดแผนการอะไรดี ๆ ออก

หึหึ รู้จักนะโมน้อยไปซะแล้ว

แกล้งทำเป็นดีดดิ้นได้สักพัก ก็ค่อยๆผ่อนแรงจนนิ่งไป ไอ้โทยังคงแกล้งทับผมผ่านผ้าห่มอยู่ แต่พอผมนิ่งเป็นเวลานาน ไอ้โทเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ตอบ น้ำเสียงมันกระวนกระวายใจ รีบเอาผ้าห่มออกแล้วเอามือตบหน้าผมเบา ๆ

“นะโม นะโม เป็นอะไร? เห้ย อย่าเล่นแบบนี้ กูใจไม่ดี”

“แบร่ !!”

ไอ้โทหน้าเหวอ ผมละอยากถ่ายรูปช๊อตนี้เก็บไว้จริง ๆ  กร๊ากกกกกกกกกกก

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” ผมขำไม่หยุด ก็มันตลกจริง ๆ ไม่คิดว่าคนอย่างไอ้โทจะเหวอเป็นกับเค้าด้วย เห็นแม่งเก๊กหน้านิ่งตลอด น่าเอามุขนี้ไปแกล้งที่มหาลัย ไอ้บูมไอ้จ๊อบคงขำน้ำตาเล็ด

“นะโมมึงแกล้งกูหรอ”

“เปล๊า” ผมตอบเสียงสูงก่อนจะลุกจากเตียงไปหยิบผ้าเช็ดตัว บ่งบอกว่าหมดเวลาเล่นแล้ว เพราะนี่มันก็ปาไป8โมงกว่า ๆ อาจารย์เขานัดสอบ 9 โมงครึ่ง กว่าจะกินข้าว อาบน้ำแต่งตัว เฉียด ๆ เข้าห้องสอบสายด้วยมั้งเนี่ย

ขณะทานข้าวเช้าผมก็นั่งอ่านชีทสรุป แต่ไม่ใช่ชีทสรุปลายมือไอ้โทที่ผมอ่านเมื่อหลายวันก่อนนะครับ อันนี้เป็นชีทสรุปของผมเอง ที่ไอ้โทมันบังคับให้ผมทำ มันบอกว่า

‘ถ้ามึงจำไม่ได้ ไม่เข้าใจ ตีโจทย์ไม่แตก อย่างน้อยมึงก็เคยอ่านผ่านตา เขียนผ่านมือมาแล้ว มันต้องมีนึกออกบ้างแหละน่า’

จะได้ผลหรือไม่ได้ผลก็วัดกันในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้แล้วล่ะครับ

ไอ้โทขับรถไปส่งที่มหาลัย ส่วนผมก็จดจ่ออยู่กับชีท จนไม่รู้ตัวเลยว่ามาถึงหน้าห้องสอบเมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีก็นั่นแหละ ไอ้จ๊อบไอ้บูมโหวกเหวกโวยวายมาแต่ไกล

“ไอ้เตี้ย เดี๋ยวนี้หัดทำชีทสรุปหรอ มาแบ่งเพื่อนอ่านเลยสัด” ไม่ต้องขอแม่งก็ฉกไปแล้วครับ สันดานจริง ๆ ไอ้บูมเอ๊ย อยากด่ามัน แต่ผมก็ยอมให้มันเอาไปอ่าน ในขณะที่หัวผมกำลังนึกทบทวนว่าอาจารย์น่าจะออกสอบแนวไหนบ้าง ปากหมา ๆ ของไอ้ฟูก็แซวขึ้นมา

“คนแถวนี้มีติวเตอร์ส่วนตัวเว้ยเห้ย น่าอิจฉาซะจริง”
“ติวเตอร์ส่วนตัวเหี้ยไร ได้ข่าวว่าเมื่อวานไอ้โทก็มาหาที่หอสมุดเพื่อติวให้พวกมึงไม่ใช่หรอไงวะห๊ะ”
“มีคนร้อนตัวว่ะ”

สัด! ไม่คุยกับพวกมันและ เช็กไลน์ดีกว่า ปกป้องน่าจะส่งข้อความมาแล้วล่ะ ซึ่งก็จริง ๆ พอผมเข้าแอพลิเคชั่น เจ้าของห้องแชทเดิม ๆ ก็ส่งข้อความให้กำลังใจมา

‘ขอให้ทำข้อสอบได้นะครับ ถ้าทำไม่ได้ก็ให้นึกถึงหน้าผมไว้ ว่ายังมีอีกหนึ่งกำลังใจอยู่ข้าง ๆ ตรงนี้นะครับ’

เลี่ยนชะมัด ว่าแต่ผมยิ้มทำไมวะเนี่ยยยยย

‘จริงอ่ะ ? ไม่เชื่อ ถ้าอยากเป็นกำลังใจจริง ๆ ก็ต้องมาอยู่ข้าง ๆ ตอนนี้ดิ’

คือตอนนี้กลายเป็นว่าปกป้องกับผมคุยแชทไลน์กันหวานเลี่ยน จนบางทีผมก็ไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะพิมลงไปได้ บางอารมณ์ผมก็ตอบสติ๊กเกอร์กลับไปตัวเดียวบ้าง บางอารมณ์ก็เล่นบทหวานๆตอบไป ขึ้นอยู่กับอารมณ์

‘งั้นเดี๋ยวสอบเสร็จแล้วไปหา เสร็จเที่ยงใช่ไหม สอบห้องไหน?’

มาเป็นชุด

‘ถ้าโดดเรียนไม่ต้องมาเลยนะ’
‘แง รู้ทันอีก’

ส่งสติ๊กเกอร์หมีบราวร้องไห้มาอีก เด็กน้อยเอ๊ยยยยย

‘เข้าห้องสอบและ’

ผมพิมเสร็จก็กดปิดเครื่องทันที หันไปหาเพื่อน ๆ ก็เห็นไอ้จ๊อบ ไอ้เฟิสและไอ้หนุ่มกำลังเล็งฮวงจุ้ยแจ่ม ๆ ปกติแล้วพวกมันจะเล็งข้าง ๆ ไอ้โทไม่ก็พวกผู้หญิง แต่คราวนี้ไม่เหลือใครให้สะกิดถามแล้วไง แม่งเลยเบนเข็มมาที่ผมแทน

“ไอ้เตี้ย มึงนำเลย อยากนั่งไหน เดี๋ยวกูประกบเป็นบอดี้การ์ดให้เอง” ไอ้เฟิสดัน ๆ หลังผม

“นี่พวกมึงแน่ใจว่าจะฝากชีวิตไว้ที่กูแล้วเหรอวะ?” ผมหันไปถามอย่างงงๆ

“ก็มึงได้รับการถ่ายทอดวิชามาจากปรมาจารย์แล้ว มึงก็ต้องทำได้สิวะ”

เอ้า! ไอ้นี่ มีงี้ด้วย?

คืออันที่จริงพวกผมก็ไม่ได้จะลอกแบบหน้าด้าน ๆ หรอกครับ แค่แบบกระซิบถามกันนิดหน่อยเท่านั้นเอง ผมเดินไปนั่งที่แอร์ไม่ตก เพราะถ้านั่งมีหวังมือแข็งเขียนไม่ได้คิดคำตอบไม่ออกแน่ ๆ ปล่อยให้ไอ้ฟูนั่งไปละกัน อาจารย์เดินมาแจกกระดายคำถามขนาดครึ่งเอสี่กับสมุดคำตอบ เน้นอีกครั้ง สมุดคำตอบ หมายความว่าจะทำยังไงก็ได้ให้เขียนคำตอบออกมาสมกับที่ต้องใช้สมุด ไม่ใช่กระดาษแผ่นสองแผ่น

เมื่อได้รับข้อสอบมา ผมก็อ่านอย่างรวดเร็ว ในสมองเค้นความรู้ทุกอย่างที่ไอ้โทพร่ำสอนมา2วันเต็ม ๆ
ข้อสอบตรงกับที่ไอ้โทเก็งมาให้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ผ่านและได้เอมาครอง

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว แป๊บเดียวก็หมดเวลาทำข้อสอบ 3 ชั่วโมง

“ไงมึง กูเห็นนั่งเหม่อมองฟ้า” คนแรกที่ออกจากห้อง ไอ้เจษ
“แล้วมึงล่ะ กูเห็นนะว่ามึงนั่งแคะขี้เล็บตัวเอง” ไอ้บูมด่ากลับไป
“มั่วแล้ว นั่นเขาเรียกว่ากำลังใช้สมาธิเว้ยยย” ไอ้เจษแก้ต่างแล้วหันมาถามเต้บ้าง “แล้วมึงอ่ะเต้ เป็นไง”
“ปากกาหมดไป 2 แท่ง”
“โห ทำได้หรอวะ ?”
“เปล่า กูซื้อมาแท่งละ3 บาท เขียนได้ 2 บรรทัดหมึกก็หมดแล้ว กากชิบหาย อย่าไปซื้อนะยี่ห้อนี่อะ”
“สัด กูก็นึกว่าทำได้ ฮ่าๆๆๆๆๆ”
“ไอ้เตี้ยนี่เงียบ ทำได้ล่ะสิมึง” แหนะ ยังจะวกมาหากูอีก อุตส่าห์นั่งฟังเงียบ ๆ แล้วนะ แต่เล่นกับพวกมันสักหน่อยก็ได้ ผมยักคิ้วกลับไปให้แบบเท่ ๆ พร้อมกับพูดว่า

“จะเหลือเหรอ”

“เหยดดดด” ทุกคนพากันโห่

“หมายถึงคะแนนกูอ่ะ....จะเหลือเหรอ 5555555555”

เฮฮาขำขันกันไป แต่ทุกคนดูมั่นใจมากกว่าคราวที่แล้ว น่าจะผ่านกันหมดไม่มีเอฟแล้วล่ะครับ ซึ่งแน่นอนว่ามีสอบก็ต้องมีฉลองหลังสอบเสร็จ พวกมันพากันนัดโดยไม่ถามความสมัครใจ แม่งบอกบังคับว่าทุกคนที่สอบในวันนี้ต้องไป รวมถึงไอ้โทด้วย ที่ถึงแม้ว่าจะผ่านแล้วแต่มันก็มาอยู่หน้าห้องสอบตลอดเวลา ดังนั้นถือว่ามันก็มาสอบด้วยเหมือนกัน

ตรรกะเหี้ยไรวะเนี่ย ?

ช่างเหอะ เอาเป็นว่าตอนนี้ขอไปหาอะไรลงท้องก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน

พวกผมพากันมากินเตี๋ยวหน้า ม. นั่งโต๊ะใหญ่เอะอะโวยวายเสียงดังที่สุด ดีที่ไม่มีลูกค้าคนอื่น เพราะตอนนี้ยังปิดเทอมอยู่ ตัวผมนั่งกินไปเรื่อย คอยหัวเราะตามมุกแป้ก ๆที่พวกมันชอบยิงใส่กัน จนกระทั่งมีสายเรียกเข้าจากเด็กหัวเกรียน ผมจึงขอตัวออกไปคุยโทรศัพท์

ปกป้องถามเรื่องข้อสอบที่เพิ่งสอบเสร็จไป แล้วถามว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่

“กำลังกินเตี๋ยวกับพวกเพื่อนๆ มึงล่ะ?”
/กินข้าวผัดพริกแกงอยู่...เออนี่ พรุ่งนี้ออกไปถ่ายรูปกันนะ/ น้องมันยังยืนยันตามนัดหมายเดิม /ผมได้กล้องใหม่มา อยากลองวิชาแล้ว ไปกันนะๆ เดี๋ยวผมไปรับ/
ผมยิ้มให้กับน้ำเสียงอ้อน ๆ ก่อนจะตอบตกลง
/งั้น 10 โมงเจอกันที่หน้าร้านกุ้งเต้นนะ/
“เออๆ อย่าสายนะมึง มารับกูช้าเกิน 10 นาทีกูไม่ไป”
/โอ๊ย บอกตัวเองเหอะโม ฮ่าๆๆๆๆ/
“เออ แค่นี้แหละ ไปกินข้าวไป” ผมกดวางสาย ตั้งใจจะหันหลังกลับไปเข้าไปในร้าน แต่ดันมีรอยยิ้มกรุ่มกริ่มส่งมาจากไอ้บูมซะก่อน
“ยิ้มเหี้ยไร”
“โหย ด่ากูไมงะ แค่กูยิ้มนี่ก็ผิดหรอ ใช่สิ กูไม่ใช่เด็กนักเรียนกางเกงน้ำเงินนี่”
“พรุ่งนี้ไปถ่ายรูป ไปด้วยกันไหม?” ผมเปลี่ยนเรื่อง ขี้เกียจโดนแซว
“ปกป้องถ่ายให้หรอ?” ผมพยักหน้า “ก็อยากไปนะ แต่ไม่ดีกว่า ไม่อยากไปเป็นก้าง คิคิ ทำไมไม่ลองชวนไอ้โทล่ะ รับรองรายนั้นตอบตกลงแน่นอน”
“ไม่ล่ะ แทนที่จะได้ถ่ายรูป กูว่ากูต้องไปเป็นกรรมการห้ามมวยต่างหาก”
“แล้วคืนนี้มึงจะไม่ไปแดกเหล้ากับพวกเพื่อนหรอ”
“ไปดิ แม่งกดดันกูขนาดนั้น” ตอบไอ้บูมพลางมองไปยังโต๊ะที่ยังโวยวายตั้งแต่เข้าร้านจนเรียกเก็บเงิน
ทุกคนพากันแยกย้าย กลับไปนอนบ้าง ร้านเกมบ้าง ไปหาแฟนบ้าง แต่นัดหมายไว้แล้วว่า 2 ทุ่มต้องได้เห็นหน้าทุกคน ณ ร้านเหล้า ยังดีที่คราวนี้ไม่ใช่ผับ แต่เป็นร้านนั่งชิล ฟังเพลงสบาย ๆ เพราะจุดหมายคือไปนั่งคุย นั่งก๊งเหล้า มากกว่าที่จะไปหลีสาว ดังนั้นแต่งตัวไม่ต้องหล่อมากก็ได้ครับ บางคนใส่เสื้อกีฬามหาลัยไปด้วยซ้ำ

ผมเดินกลับไปที่รถพร้อมไอ้โท ขณะที่กำลังจะเปิดประตูข้างคนขับ มันกลับบอกให้ผมไปนั่งที่คนขับแทน

“กูจะสอนมึงขับรถ” ไอ้โทขยายความ
“ขับเป็นก็เท่านั้น กูไม่มีปัญญาซื้อรถหรอก” ถึงในอนาคตผมจะทำงานเก็บตังจนซื้อรถได้ แต่ไม่ใช่ตอนนี้แน่ๆล่ะ
“ไหนบอกมาดูแลกูไง”
“พยาบาลดูแลคนป่วย ไม่รวมหน้าที่ขับรถเว้ย” อย่ามาหัวหมอ ขี้เกียจขับเองล่ะสิ
“มาเหอะน่า เผื่อคืนนี้กูเมาขับเองไม่ไหว” ไอ้โทยังตื้อต่อ
“เพื่อนคนอื่นมีเยอะแยะ”
“ไม่คิดบ้างเหรอว่าพวกมันอาจเมาเละหนักกว่ากูก็ได้”
“งั้นก็ไปแท็กซี่ จบ” สิ้นเสียงผมก็เปิดประตูข้างคนขับแล้วยัดตัวเองลงไปนั่งประจำที่ทันที

คนที่พยายามจะให้ผมขับรถไม่ได้ว่าอะไรอีก นอกจากสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วขับออกไป อันที่จริงแล้วผมก็ว่าดีถ้าหากผมขับรถเป็น แต่ผมกลัวครับ กลัวว่าจะไปชนคนอื่น กลัวอุบัติเหตุ กลัวโน่นนี่ไปหมด
และอีกอย่าง...

“ที่กูไม่อยากขับเพราะพ่อแม่กูตายด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์” ผมพูดขึ้นขณะติดแยกไฟแดง เรื่องนี้ผมไม่เคยบอกใคร ไอ้บูม ไอ้จ๊อบ รวมไปถึงคนข้าง ๆ ตอนนี้ก็รู้แค่ว่าพ่อแม่ผมเสียชีวิต แต่ไม่รู้ว่าด้วยสาเหตุใด

ตอนนั้นผมยังเด็ก ผมไม่รู้จริงๆหรอกว่ารถมีสภาพเป็นยังไง รู้แค่ว่ารถแหกโค้ง เพราะขับเร็วเกิน แถมถนนยังลื่น ผมไม่อยากจะเชื่อ เพราะพ่อเป็นคนที่ขับรถระมัดระวังและขับอยู่ในความเร็วตามที่กฎหมายกำหนดไว้ตลอด มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่พ่อจะขับเร็วจนแหกโค้งง่าย ๆ แต่แล้วพ่อและแม่ก็หมดลมหายใจตอนที่ถึงโรงพยาบาลพอดีเพราะเสียเลือดมาก ผมร้องไห้เอาเป็นเอาตาย นอนอยู่วัดเฝ้าศพไม่ยอมไปไหน ใครหาข้าวหาปลามาให้ก็ไม่ยอมกิน จนป้าต้องมาอยู่เป็นเพื่อน พูดกล่อมให้กินข้าวและรับผมไปเลี้ยงนั่นเอง

“ป้ากูบอกว่าพ่อกับแม่หมดกรรมแล้ว มีแต่สร้างบุญสร้างกุศล เทวดาท่านเลยรับไปอยู่บนสวรรค์ก่อนหมดอายุขัย”
“ถ้าอย่างนั้นกูคงบาปหนามาก เพราะขนาดโดนยิงเข้าจัง ๆ ยังทำไรกูไม่ได้เลย”

ผมหันไปหาคนพูด แล้วเราก็หัวเราะออกมาพร้อม ๆ กัน

“เออ มึงต้องอยู่ชดใช้กรรมบนโลกนี้ไปอีกนานนนนนนนนน”
“หึหึ รู้แล้วล่ะน่า...”






ออฟไลน์ ✿PIERRE

  • ดองนิยายข้ามปี
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 434
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-6
Re: When we call it 'LOVE' ... [[UP p.82 - 11/09/2016]]
«ตอบ #2472 เมื่อ18-02-2017 15:34:02 »

เมื่อถึงเวลานัดหมาย ไอ้กอล์ฟเลยคนแรกที่มาถึง มันจองโต๊ะชั้นสองมุมดีวิวสวยให้เพื่อน ๆ อย่างรู้งาน ผมไม่เคยมาร้านนี้ เลยมองไปรอบ ๆ สำรวจร้านเล็กน้อย ร้านนี้เป็นร้านไม่เล็กไม่ใหญ่ น่าจะจุแขกได้ประมาณ 50 คน มีโต๊ะพูล ทีวี โปรเจคเตอร์ และก็เวทีให้นักร้องอยู่ด้านหน้า ส่วนชั้นสองที่ผมอยู่ตอนนี้เหมือนดาดฟ้า มีไฟประดับสวยงาม แต่พอเมาแล้วไม่ต้องกลัวพลัดตก เพราะทางร้านมีรั้วกั้นสูงแน่นหนา

ผมนั่งลงข้างไอ้บูม ไอ้โทนั่งข้างผม ตรงข้ามเป็นหัวฟูและเฟิสที่พากันไปเปิดโต๊ะพูลเล่นกันอยู่สองคน ไม่รู้ว่าตั้งใจลงไปแทงพูลหรือหาสาวแทงกันแน่ ประธานเจอร์อย่างกอล์ฟนั่งหัวโต๊ะ ส่วนเจษนั่งเยื้องๆ ถัดไปเป็นมิ่งและเต้ ข้างๆไอ้บูมคือหนุ่มและหัวโต๊ะอีกฝั่งก็ไอ้ปลั๊กครับ

งานนี้มีแต่หนุ่ม ๆ สาวๆไม่เกี่ยว พวกมันเริ่มกินกันไปก่อนหน้านี้แล้ว ดูจากเหล้าในขวดที่หายไปเกือบครึ่ง คือพวกมึงจะรีบกันไปไหนวะครับ อาหารบนโต๊ะ กับแกล้มต่าง ๆ ก็ร่อยหรอ

“ไหนบอกนัดสองทุ่ม นี่พวกมึงมาถึงกี่โมงเนี่ย ห่า” ผมถามแบบไม่เจาะจง

“ไม่รู้เว้ย มาก่อนมาหลัง หารเท่ากันหมด” นี่คือคติของพวกผม ใครจะกินน้อยกินมาก มาช้าหรือมาเร็วก็ต้องจ่ายเท่ากัน จะมาบอกว่ากูกินน้อย กูไม่แดกไอ้นี่ไอ้นั่นมันยากครับ ใครอยากสั่งไรก็สั่งเลย ดังนั้นผมถึงไม่เกรงใจ ร่ายอาหารเพิ่มไปอีก 3-4 อย่าง  ถึงแม้ว่าในตัวจะไม่มีเงินเลยสักบาทก็ตาม

นาน ๆ ทีได้ออกมาสังสรรค์กับเพื่อน ส่วนเรื่องเงินนี่ไม่ใช่ปัญหา ดูด้วยว่าผมมากับใคร

“แค่นี้นะครับ?” พนักงานจดออร์เดอร์ทวนเสร็จ ไอ้โทกลับสั่งฮูการ์เด้นเพิ่มด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่ไอ้มิ่งที่ได้ยินโวยวายใหญ่
“ทำงี้ได้ไงวะโท สั่งไม่ถามเพื่อน...เอามา 2 ขวดใหญ่เลยครับ”

ไอ้หัวฟูกับเฟิสที่เพิ่งขึ้นมาชั้นสองเดินมานั่งตรงข้ามผม พวกมันสองคนคุยอะไรกันไม่รู้ แต่พอจะจับใจความได้ว่าไอ้เฟิสมันโดนเทจากรุ่นพี่สาวสวยต่างมหาลัย

“เดี๋ยวนะ ได้ข่าวว่าพี่เค้าทักมาจีบมึงก่อนไม่ใช่หรอไงวะ?” ไอ้มิ่งยื่นหน้ามาเสือก นั่งห่างขนาดนั้นแต่สกิลการเสือกของมันยังทำงานเต็มที่

“เออดิไอ้เหี้ย พอกูจะจริงจังเสือกหายไป ไม่ค่อยตอบไลน์กู เหี้ยเอ๊ย” ว่าแล้วก็กระดกเหล้าเข้าปาก

“โดนเทแล้วไง...รินใหม่เดี๋ยวก็เต็ม”

คำคมจากไอ้ปลั๊กซึ่งนั่งอยู่หัวโต๊ะ พร้อมกับทำหน้าที่เด็กชงเหล้าไปด้วย ทำเอาพวกผมโห่แทบไม่ทัน

“ง่อวววววววววววววว”

“ท่านประธานที่เคารพครับ มีสายข่าวรายงานมาว่า ท่านประธานเปย์ให้น้องส้มโอคณะวิทย์หนักอยู่นะครับ ไม่ทราบว่าเรื่องแบบนี้จะมีผลกระทบต่อความมั่นคงของเงินในกระเป๋าหรือไม่ครับ” เชี่ยเจษถามได้เป็นการเป็นงานมาก อย่างกับเปิดประชุมในสภา เล่นใหญ่ไปอีก

“อย่าเรียกกูว่าสายเปย์ ให้เรียกกูว่าผู้ทุ่มเทกำลังทรัพย์มากกว่าปกติ”

ไอ้กอล์ฟ ประธานเจอร์ โดนโห่ไปอีก1ดอก

“ทุ่มหมดเป็นแสนระวังแม้แต่แขนจะไม่ได้จับนะครับ” ไอ้จ๊อบยักคิ้วกวนตีน

“ไม่ต้องห่วง เรื่องนี้กูศึกษามาอย่างดีจากไอ้โทแล้ว” คนนั่งหัวโต๊ะเหลือบมามองหน้าหล่อ ที่เอาแต่กระดกเหล้าเข้าปาก ตายอดตายอยากมาจากไหนวะเนี่ย แต่ดูมันก็ไม่ได้เมานะครับ ยังตอบโต้ได้ปกติ

“ไอ้โทแม่งไม่ต้องมีเงินสาวๆที่ไหนก็อยากถวายตัวให้ทั้งนั้นแหละ” เจษพูดอย่างหมั่นไส้ “วันนั้นมีน้องเฟรชชี่คณะบัญชีทักเฟสมาหากู กูก็หลงดีใจ ที่ไหนได้ เสือกทักขอให้กูบอกให้ไอ้โทรับเฟสน้องมันหน่อย แม่มเอ๊ย”

ผมหัวเราะ ไม่รู้จะสงสารหรือยังไงดี อันที่จริงพวกมันก็หน้าตาดีนะครับ มีสาว ๆ ในสต๊อกกันหมดทุกคนแหละ เพียงแต่ว่าใครจะเอามาเปิดเผยหรือกินในที่ลับก็แล้วแต่คนเท่านั้นเอง

ยิ่งดึกพวกผมก็ยิ่งเรื้อน ทั่งโต๊ะเริ่มพูดคุยกันคนละเรื่อง คงจะมีแต่ผมที่ยังไม่เมา นั่งกินข้าวสลับตอบไลน์ปกป้องอย่างเดียว ส่วนเหล้าแทบไม่ได้แตะ ปล่อยให้ยุงมันไข่ แต่ไอ้โทเนี่ยดิ ตาแดงก่ำ ไม่พูดไม่จา ดื่มเอา ๆ จนไอ้บูมต้องปราม

“เป็นเหี้ยไรเนี่ยไอ้โท เดี๋ยวก็ขับรถกลับไม่ไหวหรอก มึงห้ามมันหน่อยดิ๊เตี้ย”

ผมถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะหันไปพูดกับคนที่รินเบียร์แก้วใหม่

“หมดแก้วนี้พอได้แล้วมั้ง มึงเพิ่งผ่าตัดมานะ”

“เป็นห่วงด้วยเหรอไง?” ไอ้โทพูดพร้อมกับส่งสายตามันดูเหมือนคนตัดพ้อ

“กูห่วงตัวเอง ขี้เกียจแบกมึงกลับ ละถ้าอาการมึงกำเริบจนต้องเข้าโรงบาล กูจะสู้หน้าแม่เกศได้ยังไง เข้าใจนะ?” อาการแบบนี้คือมันต้องน้อยใจหรืองอนอะไรสักอย่าง ไอ้บูมที่เห็นมันยังกระซิบถามผมเลยว่าไอ้โทมันงอนใครรึเปล่า เพราะพวกเราตั้งแต่รู้จักกันมาไม่เคยเห็นมันมีท่าทีแบบนี้

“เข้าใจ...” มือเรียววางแก้วลง ร่างสูงลุกขึ้นก่อนจะเดินลงไปชั้นล่าง ไอ้บูมส่งซิกเป็นนัยน์ให้หัวฟูตามมันลงไป เผื่อเป็นไรขึ้นมาอย่างน้อยไอ้จ๊อบจะได้ช่วยทัน

“มึงทะเลาะไรกับมัน?”

“เปล่านิ ก่อนมาก็ยังปกติดีอยู่” ผมพูดพลางตอบไลน์ปกป้องไปด้วย ไอ้บูมชะเง้อหน้ามามองจอ

“กูว่ากูรู้สาเหตุแล้วล่ะ...”

อย่าบอกนะว่าไอ้โทหึงผมที่คุยไลน์กับปกป้อง ? ผมก็คุยมาตลอด ต่อหน้ามันด้วยซ้ำ ยังไม่เห็นจะออกอาการอะไร แล้วไหงวันนี้จู่ ๆ ซัดเอา ๆ แบบนั้นวะ ? คงไม่ใช่มั้ง...

ไอ้โทหายไปนาน ผมเลยย้ายที่ไปนั่งอีกฝั่ง ฟังพวกมันนินทาสาวบ้าง นินทาอาจารย์บ้าง

“เอ้า ไอ้โทกับไอ้ฟูมาแล้ว มามะ ๆ มาโชนนนนนนนน” เสียงไอ้กอล์ฟเรียกรวมพล ไอ้โทเลยจัดการไปลากเก้าอี้มาแทรกนั่งข้างผม ได้กลิ่นบุหรี่ลอยออกมาจากตัวมันนิด ๆ

ปอดมึงแผลยังไม่หายดีเสือกไปสูบบุหรี่อีก เวร อยากจะด่า แต่ทำได้เพียงปรายตามองมัน ขี้เกียจพูดครับ ยกแก้วชนเพื่อน จิบเข้าไปนิดหน่อยพอเป็นพิธี

“เดี๋ยวนะไอ้โม อย่าบอกนะว่าแก้วนี้ตั้งแต่มาถึงน่ะ ?” ชิบหายล่ะครับ โดนไอ้เฟิสจับได้

“เปล่า กูก็ดื่มเติมเรื่อยๆแหละ” อย่าไปรับสารภาพ ถ้าคนกล่าวหาไม่มีหลักฐาน

“อย่ามาเนียน กูเห็นอยู่” อีกหนึ่งพยาน ไอ้เต้

“แบบนี้มันต้อง 10 วิ !!”

“เห้ยยยยยยยย”

พวกมันไม่รอให้ผมได้ตั้งตัว เข้ามาล๊อคแขนล๊อคขา จับเงยหน้า ไอ้บูมถือขวดเรดเพียว ๆ มาจ่อปาก แถมบีบแก้มเพื่อไม่ให้ผมปิดปากด้วย พวกเพื่อนเหี้ยยยยย

“5วิ ๆ นะ พลีสส 5 วิเถอะ 10วิกูอ้วกแน่ๆ”

“ไม่มีข้อต่อรองเว้ย”

แล้วไอ้บูมก็เทแอลกอฮอล์ไหลเข้าปากผมทันที สัมผัสแรกคือร้อนคอวูบวาบ แม่งทรมานสุด ๆ  ผมไม่เคยโดนแบบนี้ ปกติแค่แก้วช๊อตผมก็จะตายห่าอยู่แล้ว นี่เล่น 10 วินาที ถ้ากูอ้วกไม่ไหวพวกมึงเก็บศพกูด้วยละกัน

“1 2 3 ... 10 !!”

เป็น 10 วิที่โคตรทนมาน เหมือน 10 ชั่วโมงได้ ผมไอแค่ก ๆ รีบควานหาน้ำเปล่า มีคนส่งมาให้ ผมไม่รอช้ายกขวดดื่มอึก ๆ เพื่อล้างความแสบร้อนในลำคอทันที

พอแกล้งผมจนพอใจแล้วพวกมันก็เบนเข็มไปหาคนอื่นต่อ

“อ่ะนี่น้ำอีกขวด” มีคนส่งน้ำมาให้อีก ไม่ใช่ใคร ไอ้โทนั่นเอง มันมองผมอย่างเป็นห่วง “ไหวไหม? ไม่ไหวก็กลับ” ผมมองดูเวลาบนหน้าจอโทรศัพท์ นี่มันก็ล่วงเลยเข้าวันใหม่ไปแล้ว พรุ่งนี้ยังต้องตื่นไปถ่ายรูปกับปกป้องอีก เอ้ย...ผมยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับไอ้โทเลยนี่หว่า  คือไม่ได้ขนาดต้องรายงาน แต่บอกให้เจ้าของบ้านรู้หน่อยก็ดี เพราะตอนนี้ยังไงซะผมก็เป็นพยาบาลคอยดูแล (ที่ไม่ค่อยได้ทำอะไร) รับเงินจากแม่เกศอยู่

“เออนี่ พรุ่งนี้กูไปถ่ายรูปกับปกป้องนะ”
“ไม่ให้ไป”
“บอกให้รู้เฉยๆ กูไม่ได้ขออนุญาต” สวนกลับทันที ผมจ้องมันอย่างเอาเรื่อง ร่างสูงเดินหนีไปที่ระเบียง ก่อนจะสบถคำหยาบคายออกมา
“มันเป็นอะไรวะ? คลั่งเหรอ?”
“มั้ง...”

ผมนั่งดื่มต่อกับเพื่อน ๆ ไม่ได้สนใจอะไรคนที่นั่งหน้าเครียดอยู่ไกลๆ ตอนนี้ใครหน้าไหนก็เข้าหน้าไม่ติด ยกเว้นไอ้บูมที่ยอมเสี่ยงชีวิตตัวเองเข้าไปคุยกับมัน

ไม่รู้ว่าสองคนนั้นคุยอะไรกันไอ้โทถึงได้มีท่าทีเย็นลง เดินมาบอกผมว่าให้กลับบ้าน โบกมือลาเพื่อน ๆ  ทิ้งเงินจำนวนหนึ่งเป็นค่าเหล้าและค่าอาหารวางไว้บนโต๊ะ

“มึงเมาปะเนี่ย?” ไม่ได้เป็นห่วงมันครับ แต่ประเด็นคือผมต้องนั่งรถคันเดียวกับมัน เสือกพุ่งไปชนใครเขาจะทำไง “กลับแท็กซี่ดีกว่าไหม? หรือไม่ก็รอให้มึงสร่างกว่านี้”

“ไหว”

ผมขมวดคิ้ว แต่ก็ยอมเดินตามมานั่งในรถ ไอ้โทขับรถออกไปอีกเส้นทางที่ผมพอจะเดาออกว่ามันไม่ใช่ทางกลับบ้าน แต่ผมก็ไม่ได้ถามอะไร คนขับดูไม่เมาอย่างที่ปากว่า เพราะมันขับช้า ๆ เอื่อย ๆ และกดเปิดหลังคาเปิดประทุนรับลม มองแสงสีในยามค่ำคืน มองผู้คนที่ใช้ชีวิตต่างกัน มีทั้งนอนบนฟุตบาธ ขายของกิน เตรียมตัวเปิดร้าน แท็กซี่รอผู้โดยสาร วัยรุ่นและชาวต่างชาติมากมายที่เมาแอ๋เดินออกมาจากผับ

มองข้างทางไปเรื่อยจนกระทั่งสารถีหยุดรถ เดินไปซื้อซาลาเปากับขนมจีบร้อน ๆ มาให้กิน เราสองคนนั่งกินบนม้าหินอ่อนแบบเงียบ ๆ ไม่มีใครเอ่ยปากก่อนจนกระทั่งเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์อีกฝ่ายดังขึ้น

“เออ อยู่แถวถนน eee ...ไม่เมา...เออ...โอเค” ระหว่างคุยไอ้โทเหลือบมองมาทางผมนิด ๆ “จะลองดู...แค่นี้แหละ”

ผมกับมันนั่งกินจนหมด ก็ไม่ได้หิวนะ แต่ทำไมกินหมดไม่รู้ เราสองคนยังนั่งอยู่แบบนั้นไม่ได้ไปไหน ผมไม่เคยมีโอกาสได้ดูภาพแบบนี้ เพราะทำงานเสร็จ เก็บร้านให้เฮียโกว ผมก็กลับบ้านเลย

“พรุ่งนี้...จะไปถ่ายรูปกับไอ้เด็กนั่นที่ไหน” จู่ ๆ คนข้าง ๆ ก็เปิดปากถาม
“ไม่รู้ เดี๋ยวปกป้องมารับหน้าร้านกุ้งเต้น”
“กี่โมง เดี๋ยวไปส่ง”

ผมหันขวับ

“ไม่ต้องอ่ะ เดี๋ยวเสือกต่อยกันอีก ขี้เกียจห้าม”
“จะไปส่ง” มันยังยืนยันคำเดิม
เออ เรื่องของมึง กูไม่ห้ามนะคราวนี้
“คิดถึงพ่อกับแม่มั้ย ? อยากเจอป้ารึเปล่า ?” ไอ้โทเปลี่ยนเรื่องจนผมเกือบตามไม่ทัน
“คิดถึงสิ คิดถึงมาก...”

นานเท่าไหร่แล้วนะที่ผมไม่ได้กลับไปหาป้าเลย แค่โทรคุยกันบางครั้งบางคราว ไม่รู้ว่าป้าจะเป็นยังไงบ้างตอนนี้ ส่วนอัฐิของพ่อกับแม่ที่อยู่วัดผมก็ไม่ได้กลับไปไหว้ท่านตั้งแต่เปิดเรียนขึ้นปีสอง

“งั้นอาทิตย์หน้ากลับไปหาพวกท่านกัน” พูดจบคนตรงหน้าก็ส่งยิ้มมาให้ “กูจะไปขอขมาพวกท่านด้วย”

ผมมองมันอย่างเดาใจไม่ถูก ตอนนี้ไอ้โทเหมือนคนใจดี หรือเป็นเพราะไอ้ 10 วิที่ผมโดนจับกรอกปากจนทำให้ภาพตรงหน้าเบลอก็ไม่รู้

“นะโม...ร้องไห้ทำไม”

ผมก็ไม่รู้ว่าน้ำตามันไหลออกมาได้ยังไง ความรู้สึกมันผสมปนเปจนแยกไม่ออก อ้อมแขนแกร่งโอบตัวผม มือหนากดหัวให้ซบลงบนบ่า

น้ำตาไหลไม่หยุด เสื้อเชิ้ตสีอ่อนเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่เราสองคนนั่งโอบกอดกันอยู่อย่างนี้

ผมรู้แค่ว่าอยากอยู่แบบนี้ไปนานๆ...


ออฟไลน์ ✿PIERRE

  • ดองนิยายข้ามปี
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 434
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-6
Re: When we call it 'LOVE' ... [[UP p.82 - 11/09/2016]]
«ตอบ #2473 เมื่อ18-02-2017 15:39:09 »

- 27 -
(part1)

แอร์เย็นๆ ผ้าห่มหนาๆไว้พันรอบตัวเหมือนมัมมี่ นอนขลุกอยู่บนที่นอน ไม่มีเสียงปลุกรบกวนในตอนเช้า เป็นอะไรที่ฟินสุดๆสำหรับผม

ไม่ต้องพะวงว่าจะเข้าเรียนสาย เพราะนี่มันปิดเทอมแล้ว
ไม่ต้องกลัวว่าจะเข้างานไม่ทัน เพราะงานของผมตอนนี้คือดูแลไอ้โท

ผมตื่นแล้ว แต่ยังนอนหลับตา กระชับผ้าห่มนุ่มๆให้พันรอบตัวแน่นยิ่งขึ้น นอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยสักพักก่อนจะคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาเช็ค

11.30 น. อืมมม เดี๋ยวนะ...วันนี้ผมต้องไปไหนรึเปล่าหว่า?

ผมนึกคิดอยู่ไม่นานก็กระเด้งตัวลุกจากที่นอน

ชิบหายแล้ว!! วันนี้นัดกับปกป้องไว้ โอ๊ยตายๆ ก็เมื่อคืนนั่นแหละ ไอ้ 10 วินั่นทำเอาผมตายคาที่ อ้วกออกมาหมดไส้หมดพุง ยังดีที่มาอ้วกที่บ้าน ถ้าอ้วกบนรถไอ้โทนี่มีหวังต้องรับจ๊อบเสริมเป็นคนล้างรถให้มันอีก

ผมรีบเข้าแอพไลน์เพื่อจะแก้ตัวกับปกป้องว่ารถติด อาจจะไปสายหน่อย และคาดว่าต้องพบกับข้อความที่ส่งมาเป็นร้อยๆบรรทัด แต่เมื่อเข้าสู่หน้าแชท กลับมีแจ้งเตือนข้อความของปกป้องแค่2ข้อความเท่านั้น ผมกดเข้าไปอ่าน

ถ้าโมถึงก็โทรมา ผมถึงแล้ว
ผมยังรอโมอยู่นะ


ส่งมาตอน 11 โมง ผมรีบตอบกลับไป สารภาพมันตรงๆแบบลูกผู้ชายแมนๆนี่แหละว่าตื่นสาย แถมตอนนี้ยังมีอาการแฮ้งค์จากเมื่อคืนด้วย ปวดหัวสุดๆเลยโว๊ยยยยยย

ถ้าไม่ไหว ก็ไม่ต้องมา

อ่านจบปุ๊บคิดได้อย่างเดียวว่าปกป้องมันเริ่มออกอาการงอนซะแล้ว

ผมพูดจริงๆ ถ้าโมปวดหัวก็นอนพักเถอะ เรื่องถ่ายรูปไว้วันหลังก็ได้

อีก 30 นาทีเจอกัน


ผิดสัญญามันมาหลายครั้ง แถมเป็นความผิดผมเองทั้งนั้น ป่านนี้น้องมันคงรอเก้อ เลทมาชั่วโมงครึ่ง เป็นผมผมด่าไปแล้ว
ตอนแรกตั้งใจไว้อย่างดิบดีว่าจะแต่งหล่อๆ แต่ตอนนี้หล่อไม่หล่อก็เอาไว้ก่อน ขอให้ไปถึงในครึ่งชั่วโมงก็พอ ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวจนลืมสังเกตไปเลยว่าไอ้โทมันไม่อยู่ ตอนตื่นก็ไม่เจอมัน

เดินลงมาชั้นล่างแบบรีบๆ เจอพี่หญิงกำลังเช็ดกรอบรูป

“คุณนะโมตื่นแล้วเหรอคะ? จะรับอาหารมื้อเช้าหรือมื้อเที่ยงดีคะ?”
มีแซว
“เอ่อ..ไม่ล่ะครับ ว่าแต่พี่หญิงเห็นไอ้...เอ่อ โท บ้างไหมครับ?”
“อยู่ห้องนั่งเล่นค่ะ”

ผมบอกขอบคุณและตรงมายังน้องนั่งเล่น ได้ยินเสียงหนังลอยมาแว่วๆ พอโผล่หน้าไปก็เห็นคุณชายของบ้านนั่งจิ้มๆโทรศัพท์ คงแชทกับสาวๆอยู่ล่ะมั้ง

“ตื่นแล้วเหรอ” มันทักก่อนที่ผมจะอ้าปากเรียก “นี่จะออกไปข้างนอกสินะ ปะ เดี๋ยวไปส่ง”

คิ้วของผมมุ่นเข้าหากันอย่างสงสัย วันนี้ไอ้โทดูอารมณ์ดีแปลกๆ ร่างสูงเดินไปหยิบกุญแจรถที่แขวนไว้พลางฮึมฮัมเพลงคลอเบาๆ

มีนัดกับสาวๆแหงมมมม แต่ช่างมันครับ เรื่องของมัน ไม่ใช่เรื่องของผม

ใช้เวลาประมาณ 25 นาทีก็มาถึงที่หมาย เด็กหัวเกรียนนั่งเหม่อลอยอยู่ริมถนน ผมเห็นแล้วอดรู้สึกผิดไม่ได้ รถยุโรปจอดเลยจากจุดที่ปกป้องอยู่ไปนิดหน่อย ผมลงมาจากรถ ก่อนปิดประตูหันไปบอกขอบคุณกับสารถี อย่างน้อยๆมันก็ออกมาส่ง ทั้งๆที่ไม่จำเป็น

ปกป้องมาในมาดของเด็กวัยรุ่นทั่วๆไป เกงยีนส์ เสื้อยืด แว่นกันแดดอันโต คล้องกล้องตัวใหญ่ ผมมันเริ่มยาว ไม่ได้เกรียนสนิทแบบที่เจอครั้งแรก

“ไง” นี่คือคำแรกที่ทัก
“นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว”
“โห่ บอกว่ามาก็มาดิว้า พอดีเมื่อคืนสังสรรค์กับพวกเพื่อนๆที่คณะหนักไปหน่อย เลยตื่นสาย”

ปกป้องไม่ว่าอะไรนอกจากยื่นถุงเซเว่นมาให้ ผมรับมาแล้วเปิดดูในถุง

“แก้แฮ้งค์”
“นี่เดินไปซื้อที่เซเว่นมาเหรอ” มันไกลนะนั่น “ขอบใจว่ะ”

ไม่มีคำตอบรับใดๆจากอีกฝ่าย ผมแกะเครื่องดื่มกระดกเข้าปาก ในหัวก็คิดว่าทำยังไงดี บรรยากาศมันเริ่มอึดอัด ผมไม่ชอบที่เห็นปกป้องเป็นแบบนี้เลย

“เอ่อ ขอโทษจริงๆนะ ไม่ได้ลืมนัด...”
“แค่ตื่นสาย ตั้งใจมาจริงๆทำไมไม่ตั้งนาฬิกาปลุก”

เถียงไม่ออกเลยกู..แต่เรื่องความตั้งใจจะมานัดในวันนี้เป็นเรื่องจริงนะ

“เมื่อคืนดื่มเยอะไหม?”
“ก็..นิดหน่อย” นิดหน่อยจริงๆนะ แค่10วิเอง

ตอนนี้ผมเหมือนถูกผู้ปกครองดุเลยครับ แม่ง กูรุ่นพี่มึงนะโว๊ย

“แล้วเมื่อกี้ใครมาส่ง”
“ไอ้โท...”

ปกป้องหันขวับ แววตามันดูเจ็บปวด

“มันทำอะไรรึเปล่า?”
“เปล่าๆ มันไม่ได้ทำอะไรพี่”
“โมเลิกดูแลมันเหอะ เดี๋ยวผมหาคนอื่นมาดูแลแทนให้”
“แม่เกศเขาขอร้องไว้...อีกอย่าง ถ้าไม่ใช่เพราะพี่มันก็คงไม่ต้องโดนยิงแบบนั้น”

นี่ผมกับปกป้องจะไปเที่ยว ไปถ่ายรูปด้วยกันไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงได้มานั่งเครียดอยู่ตรงนี้ล่ะ

“ช่างมันเถอะ .. แต่ถ้าไอ้โทมันทำอะไรโมอีกคราวนี้ผมไม่ยอมแน่ๆ”
“อื้ม”
“เห้อออออ” ปกป้องบ่นพึมพำอะไรไม่รู้กับตัวเอง ก่อนจะปรับสีหน้าให้ดีขึ้น “หิวรึยัง? อยากไปไหนมั้ย?”
“ก็หิวนะ ส่วนอยากพาไปไหนก็ไปเลย”
“โอเค ผมก็เริ่มหิวแล้วเหมือนกัน งั้นไปหาอะไรกินก่อนดีกว่า”

เราสองคนนั่งกินข้าวเที่ยงที่ร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทาง ก่อนปกป้องจะร่ายรายละเอียดทริปในวันนี้ให้ฟัง

เริ่มจากพอกินข้าวเสร็จก็บ่ายโมงตรงพอดี ปกป้องจะพาไปไหว้พระที่วัดแห่งหนึ่ง ซึ่งขอบอกเลยว่าวิธีการไปก็แบบสมถะ คือนั่งรถเมล์ไป ผมชอบมากๆ รู้สึกเป็นตัวของตัวเองดี ไม่ต้องเกร็ง ถึงแม้จะลำบากนิดหน่อยที่ต้องยืน แถมยังร้อน แต่ก็โอเค พอจะหันไปถามคนพาทัวร์มันดันยกกล้องขึ้นมาแชะๆ ผมนี่รีบหลบหน้าหนีแทบไม่ทัน

เหงื่อเต็มหน้าเต็มหลัง รอให้ลงจากรถเก๊กหน้าหล่อๆก่อนไม่ได้หรอวะไอ้เด็กนี่

ดูเหมือนช่างภาพจะชอบใจกับรูปที่ปรากฏ เพราะไอ้เด็กหัวเกรียนเอาแต่หัวเราะ พอผมจะขอดูบ้างมันเสือกเบี่ยงหลบ และพอดีกับที่รถเมล์เบรก หัวผมเลยทิ่มไปตรงกลางอกปกป้องอย่างไม่ได้ตั้งใจ

“โทษทีว่ะๆ”
“จับไม่ถึงก็บอก”

สาดดดดดด จับถึงเว้ยย แค่ต้องเขย่งนิดหน่อย ฮ่าๆๆๆ ล้อเล่นครับ ปกติก็จับราวถึงแหละ แต่เมื่อกี้มัวแต่แย่งกล้องมาจากปกป้องเลยไม่ได้จับราวไว้น่ะ

ใช้เวลาพอประมาณพวกเราก็เดินทางมาถึงวัด ปกป้องจะเดินไปซื้อน้ำมาให้แต่ผมขอไปซื้อเองดีกว่า ให้มันจัดการเรื่องถวายสังฆทานกับเจ้าอาวาส

เราเถียงกันนิดหน่อยเรื่องของขนาดถังสังฆทาน แต่สุดท้ายผู้ชนะก็คือผมอยู่ดี

เมื่อถวายเสร็จปกป้องพาผมไปอีกด้านของวัด ซึ่งตรงนี้เป็นศาลาติดริมแม่น้ำ มีแม่ค้าขายอาหารปลาแบบขนมปังและแบบเม็ด นอกจากนั้นยังมีกรงเล็กๆที่ขังนกตัวน้อยไว้ด้านใน เดินมาอีกหน่อยก็จะเจอกะละมังที่แยกปลาแต่ละชนิดไว้ มีป้ายบอกข้างหน้าว่าปลาแต่ละชนิดแก้ชงหรือช่วยเสริมดวงด้านไหน

ผมเห็นแล้วส่ายหัว ชักจะไปกันใหญ่ จับสัตว์มาขายทั้งๆที่สัตว์พวกนั้นก็เป็นอิสระอยู่แล้วน่ะนะ? แต่เอาเถอะ...ความเชื่อของคนที่มีจิตศรัทธานั้นไม่เหมือนกัน ทำแล้วสบายใจก็ว่ากันไป แต่ผมขอให้อาหารปลาอย่างเดียวดีกว่า

นานๆทีผมจะได้มีโอกาสมาให้อาหารปลาแบบนี้ เลยอยากรู้ว่าอาหารปลาแบบเม็ดกับแบบขนมปังอย่างไหนมันจะอร่อยกว่ากัน จะได้ซื้อให้ปลาถูก

ขณะที่ผมกำลังหยิบก้อนขนมปังเข้าปาก ปกป้องก็มาเห็นพอดี พร้อมกับเสียงแชะอีกครั้ง

“โมหิวเหรอ”
“ก็ไม่นะ”
“แล้วทำไมต้องแย่งอาหารปลากินด้วย”
“เปล่า แค่อยากรู้ว่ามันอร่อยมั้ย”

แล้วผมก็เอาขนมปังใส่ปาก เคี้ยวๆๆกลืน ต่อด้วยอาหารปลาแบบเม็ด หยิบใส่ปาก เคี้ยวๆๆๆกลืน ปกป้องมองผมไม่วางตา

“กินจริงดิ”
“เออ กูกินเล่นๆ”
“แล้วแบบไหนอร่อยกว่า?”

ผมขมวดคิ้ว วิเคราะห์ถึงรสชาติในปาก

“แบบขนมปังมันจะแข็งนิดหน่อย จืดๆ แต่ถ้าโยนลงไปในน้ำมันก็จะนิ่ม ส่วนอาหารเม็ดมันมีกลิ่นคาวหน่อยๆ ปลามันคงชอบอาหารเม็ดมากกว่ามั้ง ไม่งั้นบริษัทผลิตอาหารปลาคงผลิตขนมปังออกมาแล้ว”
“อ๋อ เร่งสีเร่งวุ้นอ่ะนะ”
“เออ”
“แบบโมน่าจะเลี้ยงง่าย แต่ถ้าเลี้ยงด้วยอาหารเม็ดผมจะเลือกแบบเร่งโตด้วย”

กว่าผมจะคิดออกว่าไอ้เด็กหัวเกรียนมันแอบหลอกด่า มันก็หนีผมไปถ่ายรูปที่อื่นแล้ว




โปรดติดตามตอนต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2017 20:26:36 โดย ✿PIERRE »

ออฟไลน์ nongou

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: When we call it 'LOVE' ... [[UP p.83 - 18/02/2017]]
«ตอบ #2474 เมื่อ18-02-2017 16:08:36 »

รอคอยมาแสนนานและจะรอต่อไปนะคะ เรื่องนี้ชอบมากกกกกกก

ออฟไลน์ tangtey59

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
Re: When we call it 'LOVE' ... [[UP p.83 - 18/02/2017]]
«ตอบ #2475 เมื่อ18-02-2017 19:21:53 »

ดีใจจัง ตอนใหม่มาแล้ว เข้ามาเช็คตลอด
ชอบเรื่องนี้มากเลย  แต่งได้ดีมากเป็นกำลังใจให้คนเขียนนะค่ะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: When we call it 'LOVE' ... [[UP p.83 - 18/02/2017]]
«ตอบ #2476 เมื่อ18-02-2017 20:26:22 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ MeWeaw

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: When we call it 'LOVE' ... [[UP p.83 - 18/02/2017]]
«ตอบ #2477 เมื่อ18-02-2017 21:08:21 »

 :3123: :3123:

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
Re: When we call it 'LOVE' ... [[UP p.83 - 18/02/2017]]
«ตอบ #2478 เมื่อ18-02-2017 23:22:15 »

มีความมาเดท และมีความหึง โททำไรไว้ดูรมดี พูดไรกับปกป้องเปล่า
คิดถึงนะคะนะ
ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
Re: When we call it 'LOVE' ... [[UP p.83 - 18/02/2017]]
«ตอบ #2479 เมื่อ18-02-2017 23:38:35 »

มาแล้ววววว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: When we call it 'LOVE' ... [[UP p.83 - 18/02/2017]]
« ตอบ #2479 เมื่อ: 18-02-2017 23:38:35 »





ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: When we call it 'LOVE' ... [[UP p.83 - 18/02/2017]]
«ตอบ #2480 เมื่อ19-02-2017 01:31:06 »

 :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
Re: When we call it 'LOVE' ... [[UP p.83 - 18/02/2017]]
«ตอบ #2481 เมื่อ19-02-2017 01:54:42 »

นึกว่าตาฝาด ดีต่อใจ

ออฟไลน์ INK@PANTIP

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: When we call it 'LOVE' ... [[UP p.83 - 18/02/2017]]
«ตอบ #2482 เมื่อ19-02-2017 09:39:37 »

มาแล้วดีใจ ขอบคุณน้ามาต่อบ่อยๆน้า

ออฟไลน์ leemmm

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-6
Re: When we call it 'LOVE' ... [[UP p.83 - 18/02/2017]]
«ตอบ #2483 เมื่อ19-02-2017 11:08:40 »

รอๆมาต่อไวๆนะ :katai2-1:

ออฟไลน์ skysky

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-0
Re: When we call it 'LOVE' ... [[UP p.83 - 18/02/2017]]
«ตอบ #2484 เมื่อ19-02-2017 18:22:22 »

วันนี้อ่านเรื่องนี้ทั้งวันเลย ชอบๆ รอติดตามตอนต่อไปค่ะ ^_^

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
Re: When we call it 'LOVE' ... [[UP p.83 - 18/02/2017]]
«ตอบ #2485 เมื่อ19-02-2017 19:46:47 »

ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: When we call it 'LOVE' ... [[UP p.83 - 18/02/2017]]
«ตอบ #2486 เมื่อ19-02-2017 22:12:11 »

ดีใจที่กลับมาต่อ...

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: When we call it 'LOVE' ... [[UP p.83 - 18/02/2017]]
«ตอบ #2487 เมื่อ19-02-2017 23:10:22 »

นี้ถึงขั้นอ่านหัวเรื่องนิยายสองรอบ กลัวตาฝาดว่าอัพแล้ว 5555

ออฟไลน์ padloms

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: When we call it 'LOVE' ... [[UP p.83 - 18/02/2017]]
«ตอบ #2488 เมื่อ19-02-2017 23:44:47 »

มาต่อแล้ว ดีใจ :L1:

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: When we call it 'LOVE' ... [[UP p.83 - 18/02/2017]]
«ตอบ #2489 เมื่อ20-02-2017 23:11:27 »

มาแล้วววว

รอนานมาก,,,

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด