………………………………..3………………………….
“เฮ้ย ไอ้เมฆ เป็นไรของมึงเนี่ย” ไอ้ปอ เพื่อนในก๊วนเที่ยวเอ่ยถาม
“กูมีเรื่องกลุ่มใจนิดหน่อย”
“เฮ้ย อย่าเอาแต่ทำหน้าเครียดดิว่ะ โน่นมึง หญิงแจ่มๆทั้งนั้น” มันบอกก่อนจะชี้ไปที่โต๊ะที่มีสาวๆนั่งอยู่ ผมมองผ่านๆ อย่างไม่สนใจนัก ก่อนจะกลับมาสนใจของเหลวดีกรีแรงในแก้วต่อ
“กูว่าวันนี้แม่งหนักว่ะ ไอ้เสือเมฆหงอย หรือว่าแฟนจับได้ว่ามีกิ๊กว่ะ” ไอ้บาส หนึ่งในเพื่อนเที่ยวของผมเอ่ยบ้าง
“เปล่าเว้ย กูมีเรื่องนิดหน่อยวันนี้ไม่มีอารมณ์ หาเหยื่อว่ะเชิญพวกมึงตามสบายเลยครับเพื่อน” ผมบอกแบบขอไปที พวกมันยักไหล่ก่อนจะเข้าไปทำความรู้จักกับสาวๆกลุ่มนั้น ส่วนผมก็นั่งจ้องแก้วเหล้าไปเรื่อยเปื่อย
เสียงเพลงดังสนั่นกระตุ้นให้เหล่าผีเสื้อราตรีต่างออกลีลากันอย่างเมามันส์ แต่อารมณ์ของผมในตอนนี้กลับไม่รู้สึกว่ามันสนุกสักนิด
“มาคนเดียวเหรอครับ” เสียงหนึ่งดังขึ้นก่อนที่ผู้ชายคนนึงจะเดินเข้ามาหาผม
“เปล่าครับ มากับเพื่อน” ผมตอบแบบขอไปที
ผมไม่ใช่ไก่อ่อนหรือพวกมือใหม่เพิ่งหัดเที่ยวนะครับที่จะไม่ทันเกม ส่วนใหญ่คนที่มาทักคนอื่นในผับแบบนี้เจตนามันก็มีไม่กี่อย่างหรอกครับ
“แหม เล่นดักทางขนาดนี้ ผมก็คงหมดหวังสินะครับ” เขาคนนั้นบอก
“แล้วคุณหวังอะไรล่ะครับ” ผมถามกลับบ้าง
“เล่นพูดกันตรงๆแบบนี้ผมก็เขินเหมือนกันนะคุณ” เขาบอกก่อนจะอมยิ้มน้อยๆ
“แล้วจะต้องอ้อมค้อมกันทำไมล่ะครับ”
“คุณเป็นคนที่เกินความคาดหมายจริงๆเลยนะครับ ผม คังวอน ครับ ลีคังวอน ยินดีที่ได้รู้จักครับ” เขาแนะนำตัว
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผม เมฆา เรียกเมฆก็ได้ครับ ” ผมยิ้มตอบ
“คุณเมฆเป็นคนน่าสนใจนะครับ ตอนที่นั่งดูอยู่ห่างๆผมว่าคุณน่าสนใจแล้วนะ แต่ยิ่งได้คุยผมยิ่งรู้สึกว่าคุณน่าสนใจ” เขาบอก
“แล้วคุณสนใจผมแบบไหนล่ะครับ”
“บอกตรงๆเลยนะครับ ว่าผมสนใจคุณ” เขาตอบตรงๆ
“งั้นเหรอครับ”
“นี่คุณไม่แปลกใจเลยเหรอครับที่มี ผู้ชายมาบอกสนใจเนี่ย” เขาถามด้วยความแปลกใจ
“หึ ไม่เห็นแปลกนิครับโลกของเราไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว แต่ก็ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ผมคงรับไว้ไม่ได้”
ผมยิ้มตอบ บางทีการได้คุยกับใครสักคนที่เขาไม่รู้จักเราและเราก็ไม่รู้จักเขามันอาจจะทำให้เราลืมเรื่องอะไรๆในชีวิตจริงไปได้บ้างนะครับ
“ผมก็คิดไว้แล้วล่ะครับ คนน่ารักๆ แบบคุณเนี่ยไม่น่าจะโสด”
“ฮ่าๆๆ ผมเนี่ยนะครับน่ารัก ผมว่าผมห่างไกลคำนั้นเยอะ” ผมหัวเราะร่วน เพราะคำว่าน่ารักไม่น่าจะใช้นิยามคนอย่างผมได้นะครับถ้าเป็นไอ้เล็กว่าไปอย่าง
“ถ้าเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ผมก็คงขอเป็นเพื่อนกับคุณแล้วกันนะครับ คงไม่ว่าอะไรถ้าจะมีเพื่อนเพิ่มมาสักคน” เขาถาม ผมได้แต่ยกยิ้มตอบ
ก่อนจะพยักหน้าเป็นเชิงรับกลายๆ มันก็ไม่แปลกอะไรนิครับที่จะมีเพื่อนเพิ่มมาอีกสักคน
เคว้ง!!!
เสียงแก้วที่กระทบกับเคาเตอร์บาร์ เสียงดังทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนที่ผู้ชายคนนึงจะนั่งลงข้างๆผม เอาเป็นว่าตอนนี้ผมถูกขนาบข้างโดยผู้ชายสองคน คนนึงหล่อใส ออกแนวนักร้องเกาหลีที่เด็กวัยรุ่นยุคนี้กรี๊ดกัน ส่วนคนมาใหม่ก็ออกแนวคมเข้มหล่อแบบไทยแท้เหมือนพระเอกรุ่นเก่าน่ะครับ
“สวัสดีครับ คุยด้วยคนได้ไหมครับ” เขาถาม
“ตามสบายเถอะครับ” ผมตอบ ก่อนจะเงยหน้ามองคนมาใหม่ เห็นชัดๆว่าปากคุยกับผมแต่สายตากลับจ้องใครอีกคนอยู่ นี่ผมมาอยู่ท่ามกลางสงครามหรือเปล่านะ
“ผม สิงห์ครับ สิงหราช ยินดีที่ได้รู้จัก” หนุ่มหน้าไทยบอก
“ครับ ผมเมฆ ยินดีที่ได้รู้จักเหมือนกันครับ” ผมตอบก่อนจะลอบมองคนที่นั่งนิ่งตั้งแต่ อีกคนเดินเข้ามา เฮ้อ สรุปนี่ผมมาอยู่ท่ามกลางสงครามเย็นจริงๆสินะ กะจะมานั่งกินแก้กลุ้ม นี่คงต้องกลุ้มกว่าเดิมแล้วมั้งเนี่ย
“คุณเมฆครับ ไปเต้นกับผมไหมครับ” จู่ๆคังวอนก็เอ่ยชวนผมหน้าตาเฉย
“คุณเมฆไปกับผมดีกว่านะครับ ดูท่าคนบางคนจะไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิดว่าตัวเองปกป้องใครไม่ได้หรอก” หนุ่มหน้าไทยเอ่ยเสียงเข้ม
“นี่ คุณ หาเรื่องกันหรือไง” คนมาก่อนเหวลั่น
“ใครหาครับ ผมก็พูดของผมดีๆ ผมไปหาเรื่องคุณตอนไหนเหรอ” สิงห์รวนกลับ
“เอ่อ ขอโทษนะครับ” ผมเอ่ยเสียงเบา ก่อนจะมองหน้าสองคนนั้นสลับกันไปมา
“คุณสองคนน่ะ เป็นแฟนกันสินะครับ” ผมโพล่งออกไป เท่าที่ฟังมา ผมคิดว่ามันเป็นแบบนั้นนะ
“ไม่ใช่นะครับ ผมจะไปรู้จัก ไอ้บ้านี่ได้ยังไง” คังวอนบอก
“เหอะ ทำยังกะอยากรู้จักตายล่ะ” สิงห์พูดขึ้นบ้าง
ผมได้แต่ส่ายหน้าระอากับคนทั้งคู่ ผมนี่มันดวงสมพงศ์กับไอ้เรื่องแบบนี้ซะจริงนะครับ ทั้งๆที่เรื่องตัวเองก็ยังเอาตัวแทบไม่รอด ยังต้องมาเคลียร์ปัญหาให้คนอื่นอีก
“ผมว่าพวกคุณน่ะใจเย็นๆดีกว่าไหมครับ ต่างคนต่างแรง ต่างคนต่างประชดกันแบบนี้มันไม่ได้อะไรนอกจากความเสียใจหรอกนะครับ ถึงจะโกรธกันแค่ไหน แต่การทำอะไรเพื่อประชดอีกฝ่ายมันก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูกอยู่ดีนะครับ ผมว่าพวกคุณน่ะลองคุยกันดีๆ ดีกว่าไหม การที่พวกคุณโกรธกัน นั่นมันแปลว่าพวกคุณยังรักแล้วก็แคร์อีกฝ่ายอยู่ ผมว่ามันไม่มีประโยชน์หรอกนะครับที่จะมาประชดกันแบบนี้” ผมเอ่ยเสียงเรียบก่อนจะดึงให้คนสองคนนั่งลงข้างกัน
“คือว่า ขอโทษนะครับคุณเมฆที่ทำให้ต้องเดือดร้อน” คังวอนบอกอย่างรู้สึกผิด
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ไอ้เรื่องแบบนี้ผมน่ะเจอจนชินแล้ว” ผมบอกก่อนจะยิ้มให้หนุ่มเกาหลี
“คุยกันดีๆนะครับเดี๋ยวผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน” ผมบอกก่อนจะผละออกมา เอาเป็นว่าปล่อยให้เขาเคลียร์กันเองดีกว่าผมยังไม่อยากยุ่งเรื่องชาวบ้าน
ผมเข้าไปในห้องน้ำด้วยสภาพติดมึนๆนิดหน่อย ก็แหงล่ะ เล่นยกเพียวๆไปหลายแก้วเหมือนกันนิครับ มันก็ต้องมีมึนบ้างเป็นธรรมดาถึงผมจะเที่ยวบ่อยก็ใช่ว่าจะคอทองแดงขนาดนั้น อันที่จริงก็ใช่ว่าจะอยากเข้าหรอกนะครับไอ้ห้องน้ำเนี่ยแต่แค่อยากให้สองคนนั้นเขาได้ปรับความเข้าใจกัน เผื่อว่าอานิสงผลบุญจะส่งให้ผมเจอรักแท้กับเขาบ้าง
ปัง!!!
คลิก!
เสียงล็อคประตูทำให้ผมต้องหันกลับไปดู ก่อนจะเจอกับร่างสูงที่ยืนหน้านิ่งอยู่ที่หน้าประตู
“คุณชลธร มีอะไรไม่ทราบครับ”
“หึ จะขัดสั่งพี่ไปถึงเมื่อไหร่กันห่ะ!!!” เขาตะคอกก่อนจะเดินเข้ามาหาผม
“ขัดคำสั่งอะไรกันครับ ผมว่าผมก็ทำตัวปกตินะ”
“แล้วไอ้ที่ไปมั่วกับไอ้สองคนนั่น เมฆจะให้พี่เข้าใจว่ายังไง เลือกได้หรือยังล่ะว่าจะเอาคนซ้ายหรือคนขวา อ้อ หรือจะเอาทั้งสองคนล่ะ
ครับ” แม้โทนเสียงจะนิ่งเหมือนพูดทั่วไปแต่แววตาเย้ยหยันนั่นทำให้ผมทนมองไม่ได้ ในสายตาของเขาผมไม่เคยเป็นคนดีเลยสินะ
“แล้วถ้าผมจะมั่ว มันจะทำไมเหรอครับ” ถ้าในสายตาเขาผมไม่เคยดี ก็ไม่จำเป็นต้องดี จริงไหมครับ
“ก็ไม่ทำไมหรอก พี่ก็แค่นึกไม่ถึงว่า น้องเมฆจะมั่วไม่เลือกขนาดนี้”
“หึ แล้วไงล่ะครับ ผมมันก็มั่วจนเป็นสันดานแล้วซะด้วยสิ ว่าแต่คุณเถอะครับตามขนาดนี้ ติดใจผมหรือไง” ผมประชดกลับในสายตาของเขาผมมันเลวจนกู่ไม่กลับแล้วสินะ ผมยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่คนดี ออกจะเป็นคนเลวซะด้วยซ้ำ แต่ผมก็มีความรู้สึกและมีหัวใจ ต่อให้มันเป็นหัวใจของคนเลวอย่างที่ใครบางคนบอกก็ตาม
“ปากเก่งแบบนี้แปลว่ากำลังคิดจะต่อต้านพี่สินะครับ” เขาบอกเสียงนิ่ง
“ผมไม่ได้ต่อต้าน เพราะคุณกับผมไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันสักนิด ทำไมต้องต่อต้านด้วยล่ะครับ”
“หึ ถึงน้องเมฆจะพูดแบบนั้นแต่ในความเป็นจริงเราสองคนน่ะเกี่ยวข้องกันจนลึก…..ซึ้งเลยไม่ใช่เหรอครับ อย่าพยายามต่อต้านพี่เพราะเมฆไม่มีวันทำสำเร็จ อย่าพยามออกห่างเพราะเมฆเป็นคนดึงพี่เข้ามาเอง พี่บอกแล้วไงครับถ้าจะทรมานเราสองคนจะต้องทรมานไปด้วยกัน เพราะเมฆเป็นคนทำให้ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้เอง”
“บ่วงที่เมฆเป็นคนสร้างขึ้นมันจะไม่มีวันจบ เพราะพี่ไม่มีวันปล่อยให้เมฆมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นอีกต่อไปแล้ว ถึงเวลาที่เมฆต้องชดใช้เวรที่ตัวเองก่อสักที อย่าคิดว่าจะหนีพ้น เพราะพี่ไม่มีวันปล่อยเมฆไป” เขาบอกเสียงนิ่งก่อนจะหันหลังเดินจากไป
...................TBC....................
มาต่อแล้วๆๆๆ ทุกคนดูสงสารเมฆมาก แต่ก็นั่นแหล่ะ
อย่าเพิ่งตัดสินใจ
ใครผิด ใครถูก เรายังไม่รู้ (นอกจากเค้า ฮ่าๆๆ)
หรือบางทีอาจจะไม่มีใครสักคนที่ผิด หรือถูกเลยก็ได้ (งง ล่ะสิ??)
ไปแล้วล่ะ ง่วงๆๆ พรุ่งนี้ ขอให้ทุกคนสนุกกับการทำงาน/เรียน นะคะ
พิตก็จะสนุกเหมือนกัน ฮ่าๆๆ
(ชีวิตมนุษย์เงินเดือนช่างลำบาก ลำบน)