สวัสดีวันเสาร์ค่ะ พาน้องจอมใจมาทักทายค่ะ
มีความสุขกับน้องใจและพี่ๆน่ค่ะ
จอมใจ : ผมเป็นคนท้วมนิดแต่น่ารักน่าหยิก ขี้อ้อน ขี้งอน และดื้อเป็นบางครั้ง ขอให้คนอ่านอย่าถือสานะครับ อิอิ
บทที 2 (รีไรท์)
[/b]
รถเก๋งนิสสัน เทียน่าสีดำมันวาวเคลื่อนตัวเข้ามาจอดที่หน้าคณะของจอมใจ มือใหญ่ของพี่ชายคนที่สี่สะกิดเบา
“ถึงแล้วไอ้จ้ำม่ำ”
“.....” สิ่งที่ได้กลับมายังคงเป็นความเงียบงัน เสียงหายใจเข้าออกดังแผ่วเป็นจังหวะ เด็กหนุ่มตัวกลมน่ารักยังคงหลับอุตุ
จอมเวทย์ส่ายหัวน้อยๆ
“เห้....ตื่นสิ” เริ่มลงมือสะกิดอีกครั้ง เพราะเด็กหนุ่มขี้เซาขนาดแท้ จนเมื่อเจ้าตัวขาวกลมเริ่มดุ๊กดิ๊กๆก่อนผงกหัวขึ้นจากหมอนอิงใบเล็กที่รถของบ้านนี้ต้องมีทุกคัน เนื่องจาก..... ไอ้ลูกหมูขี้เซาชอบหลับบนรถ
.....ช่างเป็นเหตุผลที่ดูเข้าท่า?.....
“งืม....งืม.....” หลังจากส่งเสียงประหลาด เปลือกตาก็เปิด ดวงตากลมโตที่อ่อนฉ่ำเยิ้ม มือขาวนุ่มนิ่มขยี้ตาสองสามที
“ถึงแล้วเหรอ........” พี่ชายพยักหน้า จอมใจปลดเซฟตี้ออก
“เดี๋ยวตอนเย็นรอใต้ตึกคณะนะ ลุงทศมารับ อย่าไปไหนละ....” กำชับเด็กก่อนขยี้หัวสองสามทีอย่างหมั่นเขี้ยว จนเจ้าตัวดีบ่นอุบ
“อย่าสิ ชิๆๆ...” จัดผมให้เข้าทรงเหมือนเดิมเสร็จก็เปิดประตูรถลง พลางโบกมือ “บ๊ายบายพี่เวทย์...”
ชายหนุ่มหยักหน้าก่อนออกรถไป รถยนต์เคลื่อนตัวไปจอดอีกฝั่งของตึก ซึ่งเป็นตึกของคณะวิศวะฯภาคไฟฟ้า
จอมใจหันซ้ายหันขวาก่อนเดินไปใต้ตึกคณะ
ตึกเรียนสีเทาคาดส้มดูใหม่เอี่ยม มีม้านั่งเรียงรายอยู่ข้างล่าง จอมใจจับจองที่นั่งแล้วหยิบไอโฟนขึ้นมาแล้วส่งข้อความ
‘ถึงแล้วนะครับพี่ราชัน’
เป็นความเคยชินที่ต้องรายงานให้รู้ทุกครั้งและห้ามลืมเด็ดขาด ไม่งั้นหัวเขาอาจจะขาดได้ สักพักเครื่องมือสื่อสารสีขาวก็สั่นครืนๆๆ
‘ดีมาก ตั้งใจเรียน เป็นเด็กดีนะครับ....’
แม้จะฟังดูเหมือนเขาเป็นเด็กประถม แต่จอมใจก็อมยิ้มกับข้อความ แม้จะดูเหมือนพี่ๆจะห่วงและหวงเขามาเกินเหตุแต่ก็ไม่ได้ทำให้จอมใจอึดอัด ลำบากใจ ตรงกันข้าวเขากลับอุ่นใจ อบอุ่นที่พี่ๆห่วงใยเสมอ ถึงแม้จะไม่ได้เป็นพี่น้องแท้ๆ แต่การที่เติบโตมาด้วยกันทำให้เขาเคารพรักพี่ชายทั้งสี่คนเสมอ
สายตากลมโตกวาดมองไปรอบอย่างตื่นเต้นเล็กน้อย
คณะที่จอมใจเรียนนั้นเป็นคณะอินเตอร์ ในสาขาวิศวกรรมซอฟแวร์ ซึ่งเป็นคณะน้องใหม่ที่เปิดได้ไม่นาน ส่วนตัวสถาบันนั้นก็เป็นสถาบันชื่อดังของรัฐ เป็นมหาวิทยาลัยที่เดียวที่มีรถไฟวิ่งผ่ากลาง ทำให้พื้นที่ถูกแบ่งเป็นสองฝั่ง
เขาเคยลองขอนั่งรถไฟจากหัวลำโพงมาเรียนซัมเมอร์ที่ทางคณะเปิดสอนปรับพื้นฐานก่อนเปิดเทอม ซึ่งผลก็คือเขาโดนเอ็ดอยู่พักใหญ่ สุดท้ายก็มีเวรขับรถพาเขามาเรียนทุกวัน ทั้งลุงทศ สลับกับพี่จอมเวทย์
....ไม่รู้จะห่วงไปไหน....
นั่งเรื่อยเปื่อย จิ้มเกมส์ในไอพอดสักพักเขาก็เริ่มเห็นเพื่อนกลุ่มเล็กๆที่พอจะเห็นหน้าค่าตาจากตอนซัมเมอร์เดินเข้ามาในใต้ตึก หลายคนก็พอรู้จักหน้าค่าตากันดีแล้ว จึงไม่ต้องแนะนำตัวกันใหม่ จนเวลาล่วงมาถึงช่วงเข้าเรียน นักศึกษาน้องห่จึงทยอยกันเข้าห้อง
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เวลาล่วงเลยมาถึงราวๆเที่ยงกว่าๆ เด็กทุกคนต่างหลั่งไหลไปยังโรงอาหารเพื่อทานอาหารกลางวัน วันนี้น้องใหม่อย่างจอมใจและเพื่อนๆเลือกที่กินข้าวโรงอาหารใกล้คณะ
มาถึงก็วางของจองที่จองทางกันก่อน แล้วแยกย้ายกันไปซื้อข้าว เจ้าลูกหมูเลือกจะกินร้านที่ขายอาหารคล้ายอาหารญี่ปุ่น ซึ่งเมนูส่วนใหญ่จะเป็นแนวของทอด เช่น ข้าวหน้าหมูทอดทงคัตสึ ข้าวไก่ทอดราดซอส แกงกระหรี่ หรือแม่แต่อาหารจำพวกเส้นอย่างสปาเกตตี หรือหมี่หยกก็มีให้เลือก
สายตากลมโตจ้องมองไปที่เมนูอย่างตั้งใจ ก่อนตัดสินใจเลือก
“ผมเอาข้าวไก่ทอดละกันครับ เอ่อ.....ไม่ผักครับ” เจ้าตัวค้านเมื่อคนขายกำลังตักสลัดเครื่องเคียงวางลงบนจาน
....ป๊อก!!!....
จอมใจรู้สึกเหมือนมีคนมาดีดนิ้วกลางกระหม่อม เจ้าตัวหันไปมองก็พบกับหน้าหล่อ คมคายทำหน้าโหดใส่
“ทำไมไม่กินผัก ไอ้ลูกหมู” พี่เวทย์ของน้องน้อยเริ่มการสวดยับทันที
“ก็ใจไม่อยากกิน.....”
“เดี๋ยวบอกพี่ราชันนะ” โดนขู่แบบนี้เริ่มหน้าเบ้ ใครอยากโดนฟ้องพี่ราชันว่าไม่ยอกกินผักกันละ โดนพี่ท่านสวดอีกดอกแน่ เห็น
เงียบขรึมแบบนั้น พอน้องใจเลือกกินทีไรโดนว่าทุกที เด็กน้อยยอมรับจากใจว่ากลัวพี่ราชันมากกว่าใครในบ้าน แม้แต่ ป๊า ม้า เข้ายังไม่กลัวขนาดนี้
“แหงะ.....พี่เวทย์อย่าบอกพี่ราชันนะ.....ใจกินก็ได้” อ้อนเสร็จ เจ้าตัวก็หันไปบอกคนขายอีกครั้ง
“ใส่ผักก็ได้ครับ.....” คนขายอมยิ้มเล็กน้อย แล้วตักสลัดก่อนโปะข้าวสวยร้อยๆนุ่มๆบนจานพร้อมด้วยไก่ทอดกรอบๆราดซอสชุ่มฉ่ำน่ากิน
จอมเวทย์สั่งอาหารบ้าง “ผมเอาข้าวราดแกงกระหรี่ละกันครับ”
ทั้งสองคนเดินถือจานออกมาที่โต๊ะสำหรับช้อนซ้อม ตอนนี้จอมใจเริ่มสังเกตว่าเขาสองคนดูเป็นที่จับจ้องของคนอื่นที่อยู่ในโรงอาหารพอสมควร แต่วัดจากสายตาแล้วคงมองจอมเวทย์เป็นส่วนใหญ่ ส่วนจอมใจน่ะเหรอะ.....โดนหางเลขละไม่ว่า.....
จอมใจดูไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไรนัก จนพี่จอมเวทย์สังเกตได้
“เป็นอะไร....หืม”
จอมใจส่ายหน้า “เปล่า แค่ไม่ชอบที่เขามองเรา”
“เขาก็แค่มองน่ะ...” จอมเวทย์ก็เริ่มอวด “มีพี่ชายหน้าตาดีก็ยังงี้แหละ”
ริมฝีปากกระจับเบ้ออก บ่นพึมพำ “แหวะ....”
เสียงทุ้มหัวเราะเบาๆๆ ก่อนเดินนำน้องมาที่โต๊ะซึ่งถูกจับจองด้วยชายหนุ่มราวเจ็ดแปดคนในเสื้อช็อปสีน้ำเงินเข้ม รวมถึงพี่ชายของเขาที่ใส่เสื้อช็อปเช่นกัน
สายตาทุกคู่หันมามองยิ้มๆๆ ก่อนมีคนเริ่งตะโกนก่อน
“”โอ้โหเห้.....นี่คงเป็นน้องจอมใจแน่ๆเลย”
เจ้าของชื่อทำหน้างงใส่ เนื่องจากมั่นใจว่าไม่เคยรู้จักมาก่อน
พี่ใส่แว่น ดูตี๋ๆอีกคนบอก “ไม่ต้องตกใจว่าทำไมพี่รู้จักน้อง ก็เพราะไอ้นี่....” สายตาพุ่งไปยังจอมเวทย์ที่ยืนข้างหลัง
“ไอ้จอมเวทย์เอาแต่พร่ำกรอกหูพวกพี่ทุกวันว่าน้องชายจะมาเรียนที่นี่ แถมชอบทำหน้าดีใจสุดยอด” จอมใจหันหน้ากลับไปมองจอมเวทย์ที่ยืนทำหน้าพิลึก แถมขึ้นสีจางๆ
“กูไม่เคยทำแบบนั้นเว้ยไอ้เอก” คนเขินหันไปโวยเพื่อนแว่นหน้าตี๋อย่างเอกวิทย์
“ไม่ต้องอายๆ กูไม่ถือ กรากกกกกกกๆๆๆๆ” เสียงหัวเราะดังๆ กับท่าทางฮึดฮัดของจอมเวทย์ ทำเอาจอมใจหลุดขำกิ๊กๆๆ
“สวัสดีครับพี่ๆ” เจ้าหนูมารยาทงามเอ่ยทักตามที่ที่บ้านอบรมมา
ทุกคนผงกหัวรับอย่างยินดี
“ยินดีต้อนรับสู่รั้วมหาลัยนะครับ....” พี่หน้าตี๋ชื่อเอกคนเดิมต้อนรับ พี่ๆคนอื่นๆก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
จอมใจยิ้มกว้างๆ ก่อนหันไปหาพี่ชายตัวเอง
“ใจไปนั่งกับเพื่อนตรงนู่นนะครับ”
“ไปสิ เดี๋ยวพี่ไปส่ง” คว้าจานข้าวของน้องแล้วเดินนำออกมาทางที่จอมใจชี้
ทั้งสองคนเดินผ่านโต๊ะหลายโต๊ะ จนมาถึงจุดหมาย ซึ่งเพื่อนของจอมใจนั่งอยู่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และกำลังจ้องมองเพื่อนที่เดินมากับรุ่นพี่หน้าตาดีอย่างสนอกสนใจ
“ไง โทษทีที่มาช้า ไปหาเพื่อนของพี่ชายมาน่ะ” เจ้าตัวขอโทษขอโพย ก่อนหันมาทางพี่ชาย
“ขอบคุณที่มาส่งครับผม.....”
รอยยิ้มมุมปากของร่างสูงเผยขึ้น “จ้าๆๆ”
เมื่อมาถึงโต๊ะจอมใจจึงแนะนำพี่ชายให้เพื่อนรู้จัก
“อ....เอ่อ....ทุกคนนี่พี่ชายเราเอง พี่จอมเวทย์เรียนที่นี่เหมือนกัน”
เพื่อนดูอึ้งนิดๆ ก็ใครจะไม่รู้จักหนุ่มหล่อของคณะวิศวกรรมศาสตร์ แม้เจ้าตัวจะปฏิเสธการประกวดเดือนแต่หากความเด่นดังก็ไม่แพ้กันเลยทีเดียว ออกแนวจะเด่นมากกว่าด้วยซ้ำ
“โห...ชื่อเหมือนๆกันจังเลย จอมเวทย์เอย....จอมใจเอย....” เพื่อนหนึ่งในนั้นถามขึ้นมาอย่างสนใจ เพื่อนคนอื่นเลยเบี่ยงเบนความสนใจมาบ้าง
จอมเวทย์ขยับมาใกล้เจ้าลูกหมูมากขึ้น มือใหญ่ๆพาดไหล่ที่เตี้ยกว่า แต่ไม่ยอมพูดอะไร มีเพียงรอยยิ้ม จนจอมใจทำหน้ายู่แล้วอธิบายแทน เมื่อรู้สึกว่าพี่ชายตัวแสบกำลังหาเรื่องปวดหัวมาให้
“ความจริงแล้วเราไปน้องชายข้างบ้านเท่านั้นแหละ ไม่ได้เป็นน้องชายแท้ๆหรอก แค่พี่ๆเขาทั้งดูแลทั้งเลี้ยงทั้งเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เราเกิด”
“แต่....ก็เป็นน้องชายคนสำคัญมากๆๆ” ชายหนุ่มร่างสูงสำทับเข้าไป จอมใจส่งเสียงเหอะในลำคอ
“อ้อ...อย่างนี้นี่เอง” เพื่อนๆพยักหน้าเข้าใจ ใบตองยังคงทำหน้าเคลิ้มๆที่มีเพื่อนเป็นถึงน้องชายของรุ่นพี่คนดัง
“งั้นพี่ไปละ” ไม่วายดึงแก้มนุ่มนิ่มยืดเบาๆ จอมใจสะบัดหน้าหนี
“ไปเลย คนนิสัยไม่ดี” เสียงทุ้มหัวเราะ แล้วโบกมือให้น้องๆในโต๊ะแล้วเดินไป
เท่านั้นแหละ ใบตองที่เคลิ้มเสร็จแล้ว รีบใส่คำถามทันทีเมื่อจอมใจหย่อนก้นนั่งปุ
“มีพี่ชายดังก็ไม่บอก”
“แหงะ...กวนประสาทแบบนั้นอยากมีที่ไหนล่ะ” ปากบอกว่าไม่แต่รอยยิ้มที่ปิดความดีใจไม่มิดนี่สิน่าคิดนะ
....ดีใจสิที่พี่ชายเรามีคนปลื้ม อิอิ.....
+++++++++++++++++++++++++++++++
TBC.