สวัสดีค่ะ
ขอโทษที่หายไปนานนะค่ะ
ตอนนี้กำลังจะทยอยลงตอนใหม่ที่รีไรท์นะค่ะ
บางส่วน บางตอนอาจจะไม่แตกต่างกันมากแต่ว่าค่อยลองอ่านนะค่ะ
เรื่องที่รีไรท์ใหม่(ดูจะ)กระชับ แล้วก็ดำเนินเรื่องไวกว่าเดิมนะค่ะ
ขอให้ทุกท่านเอ็นดูน้องใจกับพี่ๆต่อไปด้วยนะค่ะ
ขอบคุนค่า
บทที 1 (รีไรท์)
[/b][/size]
“ไอ้จ้ำม่ำเสร็จหรือยังเนี่ย” เสียงตะโกนไม่เบานักจากหน้าบ้านทำเอามือขาวดูเจ้าเนื้อเล็กน้อยผูกเนคไทมือเป็นระวิง เจ้าของร่างสูง 168 เซนติเมตรที่ยืนทำหน้ายุ่งคิ้วขมวด กำลังมีปัญหากับเนคไทสำน้ำเงินเข้มที่มีตราสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยปักอยู่ ร่างสมส่วนมีค่อนข้างเจ้าเนื้อด้วย นำหนัก 60กิโลกรัมกับส่วนสูง 168เซนติเมตรทำให้เด็กหนุ่มดูท้วมเล็กน้อย ใบหน้าออกกลมเล็กน้อยมีเลือดฝาดสีชมพูน่ารัก นัยน์ตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนใส่ดึงดูดให้คนสบตา ริมฝีปากบางกระจับได้รูปสีชมพูอมส้ม ทั้งหมดดูลงตัวภายใต้ทรงผมสีน้ำตาลเข้มตัดเป็นระเบียบ ส่งผลให้เด็กหนุ่มแลดูน่ารัก น่าเอ็นดูจากผู้พบเห็น รวมถึงรอยยิ้มกว้างๆที่เจ้าตัวขยันส่งให้
จากเด็กน้อยอายุหนึ่งเดือนเมื่อหลายสิบปีก่อน กลายมาเป็นเด็กหนุ่มวัยรุ่นอายุ 18 ปี ที่กำลังจะเป็นนักศึกษาน้องใหม่ในมหาวิทยาลัยรัฐชั้นนำของประเทศ
จอมใจตัดสินใจล้มเลิกการผูกเนคไทแล้วเดินหิ้วกระเป๋าลงมาชั้นล่างของบ้านเดี่ยวหลังกะทัดรัด ส่งเสียงทักทาย
“สวัสดีจ้ะ ป๊า ม้า” ร่างบุพการีทั้งสองที่นั่งอยู่บนโต๊ะอาหาร นาย ”ประสิทธิ์ วีระ” บิดาของ นาย “จอมใจ วีระ” ยิ้มรับคำทักทายของบุตรชาย แล้วเอ่ยว่า
“หม่าม้าทำกับข้าวเสร็จแล้ว เราไปเรียกพี่ชายเราให้มากินข้าวด้วย” พ่อเขาเอ่ยสำทับ จอมใจเดินฉากกั้นห้องไปยังห้องนั่งเล่นที่มีโซฟาบุนวมนุ่มนิ่ม บัดนี้กำลังถูกยึดครองด้วยร่างสูง 180 เซนติเมตร ของนาย “จอมเวทย์ สุทธิไพศาล” พี่ชายข้างบ้านข้างรั้วคนที่สี่ ที่สนิทสนมมาตั้งแต่วัยเด็ก และชอบแกล้งเขาเป็นว่าเล่น จนอาจเรียกว่าเป็นอริกันย่อมๆๆก็ว่าได้
“พี่เวทย์ ป๊าเรียกกินข้าว” สายตาของชายหนุ่มยังคงจับจ้องไปยังข่าวภาคเช้าอยู่ ไม่มีท่าทีว่าจะสนใจน้องชายต่างสายเลือกคนนี้
“อืม……” เสียงครางตอบรับในลำคอเบาๆ ทำให้จอมใจหงุดหงิดเล็กน้อย
ขากลมกลึงก้าวมาบังจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ พลางถลึงตาใส่
“ไม่ได้ยินที่ใจเรียกหรือไง”
“อย่าบังสิไอ้จ้ำม่ำ” เมื่อไม่ได้รับคำตอบที่อยากได้ เจ้าน้องชายคนเล็กก็เอื้อมมือไปกดรีโมทปิดโทรทัศน์ทิ้ง สายตาคมเฉี่ยวมองอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนส่ายหน้า
“ไอ้อ้วนจอมแสบ” จอมใจคิ้วกระตุกก่อนเอ่ยซ้ำ
“กินข้าว” แล้วเจ้าตัวก็เดินไป
จอมเวทย์ทรุดตัวนั่งข้างๆน้องชายตัวกลมแล้วบอก
“กับข้าววันนี้น่ากินจังครับ” เมนูวันนี้ประกอบด้วย ข้าวต้มเปล่าหม้อใหญ่ ยำผักกาดดอง ไข่เจียวหมูสับ และ ผัดผักบุ้ง
จอมใจทำหน้ายู่ “พี่เวทย์ก็บอกว่าน่ากินทุกวันนั่นแหละ”
ประสิทธิ์หัวเราะ พร้อมกับอรอุมา หรือ หม่าม้าของเจ้าตัวกลมตักข้าวต้มแบ่งใส่ชามให้ทุกคน
ระหว่างนั้นก็มีการเปิดการสนทนาประจำวัน พร้อมกับมื้อเช้า
“เวทย์อาฝากน้องไปมอ.ด้วยนะ”
“ได้ครับ ผมไปส่งน้องเอง แต่ตอนเย็นผมไม่ว่างเพราะติดเรียน เดี๋ยวผมให้ลุงทศไปรับนะครับ” จอมเวทย์เอ่ยถึงคนขับรถที่ทำงานมาตั้งแต่พวกเขาเด็กๆๆและมีความนับถือกัน
“โอเค เพราะอาต้องไปดูงานกับนายใหญ่” ประสิทธิ์เอ่ยถึงเจ้านายซึ่งเป็นบิดาของชายหนุ่ม
“ปีนี้เวทย์ขึ้นปีสี่แล้วใช่มั้ย” หญิงคนเดียวในโต๊ะเอ่ยถาม
ร่างสูงพยักหน้ารับก่อนเบือนสายตามาที่หัวทุยๆของเด็กข้าง ก่อนยกมือใหญ่โยกเบาๆ
“เป็นอะไรไปจ้ำม่ำ”
“เปล่า เชอะ” สะบัดหน้างอนๆใส่ก่อนลงมือตักข้าวต้มเข้าปาก คนเป็นพี่ชายเห็นจึงหัวเราะขำๆ แม้ว่าพวกเขาสองคนจะดูเป็นไม้
เบื่อไม้เมากัน อาจเป็นเพราะว่าเขาสองคนทีอายุที่ใกล้เคียงกันมากที่สุดเลยเป็นเพื่อนเล่นกันมาตลอด แต่เขาก็รักและเอ็นดูน้องชายตัวน้อยมากเหมือนกัน
มือใหญ่ตักไข่เจียวหมูสับของโปรดไปให้ ก่อนลงมือกินของตัวเองบ้าง พอเสร็จเรียบร้อยสามหนุ่มก็เดินออกจากบ้านเดี่ยวหลังน้อยข้ามประตูทางเชื่อมตรงกำแพงที่นายจอมไตร บิดาของสี่หนุ่มสั่งให้ทำขึ้นเป็นพิเศษเพื่อที่ไปมาหาสู่กันสะดวก
ทั้งสามคนเดินผ่านประตูกระจกสวยงามผ่านเข้าไปยังเขตในของตัวบ้าน
ร่างสูงใหญ่น่าเกรงขามของประธานบริษัทแลนด์ พรอบพรอตี้ บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายยักษ์ของประเทศนั่งอยู่ที่โซฟาหลุยส์ตัวเขื่องกลางห้องนั่งเล่น
“สวัสดีฮะลุงไตร” เจ้าจอมใจ ขวัญใจของบ้านวิ่งเข้าไปสวมกอดผู้ใหญ่อย่างออดอ้อน
ชายวัย 60 ที่ยังไม่ยอมเกษียนตัวเองเนื่องจากยังสนุกกับงานอยู่หัวเราะ ทำให้โครงหน้าดุดันดูผ่อนคลาย หนุ่มใหญ่มีใบหน้าที่ดูอ่อนกว่าอายุจริง รวมถึงออกกำลังกายเป็นประจำทำให้ไม่มีไขมันส่วนเกิน
“ขี้อ้อนแต่เช้าเชียวนะใจ”
“แหะๆๆ” เด็กน้อยของบ้านยิ้มกว้าง ก่อนถาม
“ป้านงค์ไปไหนครับเนี่ย” จอมใจถามถึงภรรยาของจอมไตรและเป็นมารดาของพี่ชายทั้งสี่ของเขา
“ไปรำไทเก๊กที่สวนลุมนู่น” แม้ว่าจะเป็นตระกูลร่ำรวย แต่ไม่เคยใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย กลับรู้จักความพอเพียง และยังสอนให้ลูกๆรู้จัก
ค่าของเงิน คุณนายของบ้านเลือกที่จะไปออกกำลังกายตอนเช้าอย่างที่พวกคนเฒ่าคนแก่ชอบทำในสวนสาธารณะกลางกรุง มากกว่าการไปสปาเหมือนคนร่ำรวยคนอื่น
“ว้าๆๆ ใจมาช้าไป อดเจอเลย” มื้อใหญ่กว้างขยี้หัวทุยนั่นเบาๆ
“ตอนเย็นก็มากินข้าวที่นี่สิ” จอมไตรเอ่ยชวน แม้ว่าตอนเช้าที่เป็นช่วงเวลาเร่งรีบ แต่ละคนไม่ค่อยมีเวลาสำหรับมื้อเช้านัก อย่างมากก็กาแฟและขนมปัง บ้านสุทธิไพศาลจึงไม่มีการตั้งสำรับอาหารเช้า แต่กลับให้ความสำคัญกับช่วงเวลาอาหารเย็นแทน ทุกคนจะกลับมาทานข้าวเย็นพร้อมกัน หรือพยายามกลับให้ทันเสมอ บางวันช่วงเช้าหากสมาชิกมีเวลามากพอหรือไม่เร่งรีบ ก็จะไปฝากท้องไว้กับรั้วข้างบ้านอย่างบ้านของจอมใจ ที่มารดาเป็นนักเขียนและพอมีเวลามาทำอาหารเช้า ซึ่งวันนี้จอมเวทย์ก็เป็นหนึ่งในนั้น
“ไม่พลาดอยู่แล้ว” ยิ้มตาหยีใส่ก่อนหัวเราะ
ตั้งแต่จอมใจเกิด ความสนใจ ความรักก็พุ่งเป้ามาที่เด็กหนุ่ม ทุกคนในครอบครัวรักและเอ็นดูมากจนกลายเป็นขวัญใจของทั้งสองครอบครัวไปเสียแล้ว
“พี่ๆไปไหนหมดครับเนี่ย” จอมเวทย์เอ่ยถึงพี่ชายทั้งสามคนที่ยังไม่เห็นหน้าตั้งแต่เช้า
“ทัพยังนอนหลับอยู่เห็นเมื่อคืนทำงานจนดึกดื่น พลยังอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนพี่ใหญ่ของแกกำลังลงมา” จอมไตรเอ่ยถึงลูกชายที่เหลือทั้งสามคน
จอมทัพ ลูกชายคนที่สามเรียนจบจากคณะสถาปัตย์ในรั้วมหาวิทยาลัยชื่อดัง ตอนนี้ทำงานนักออกแบบอิสระ ซึ่งบางครั้งเหมือน
ทำตัวลอยชายไปมา แต่ทุกคนรู้ว่าเขาทุ่มเทกับงานและได้เงินไม่น้อยสำหรับการเขียนแบบในแต่ละครั้ง
จอมพล บุตรชายคนรอง เป็นศัลยแพทย์โรงพยาบาลชื่อดังของกรุงเทพฯ แต่หมอพลก็ยังมีเวลาให้ครอบครัวเสมอ
ส่วนคนโต จอมราชัน ชายหนุ่มวัยฉกรรจ์อายุสามสิบสอง ขึ้นชื่อว่าเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงทายาทแลนด์ พรอบพรอตี้ นั่งเก้าอี้รองประธานฯตั้งแต่วัยหนุ่ม
ส่วนคนเล็กสุด จอมเวทย์ นักศึกษาชั้นปีที่สี่ คณะวิศวกรรมไฟฟ้าในรั้วสถาบันชื่อดัง
“ผมว่าเราไปกันก่อนไหมครับ เดี๋ยวจะไม่ทัน” ประสิทธิ์ลูกน้องคนสนิทเอ่ยถาม แม้จะเป็นลูกน้องแต่ก็ยังเป็นเพื่อน ที่ปรึกษาที่รู้ใจเนื่องจากทำงานกันมานาน
จอมไตรพยักหน้ารับก่อนหยัดตัวยืนขึ้น พลางขยี้ผมนิ่มๆ
“ลุงไปก่อนนะ เดี๋ยวพ่อลูกน้องจอมขี้บ่นจะว๊ากเอาได้” พูดเสร็จก็หัวเราะ ส่วนคนที่ถูกเหน็บส่ายหัวเบาๆ ก่อนเดินนำออกไป
“สวัสดีฮะ ป๊า ลุงไตร รักนะ จุ๊บๆๆ” เจ้าขี้อ้อนตัวกลมไม่วายส่งเสียงใสๆหยอกเย้าปิดท้าย
“สวัสดีครับพ่อ อาประสิทธิ์” คราวนี้จอมเวทย์เอ่ยบ้าง
หลังจากส่งผู้ใหญ่เสร็จ ทั้งสองคนก็มานั่งเล่นรอเวลาที่จะไปมหาวิทยาลัย ระหว่างนั้น ป้าอุ่น หรือ นางอุ่นใจ ที่เป็นทั้งแม่บ้านและพี่เลี้ยงของคุณหนูก็เดินมา
“รับนมร้อนๆก่อนไปไหมค่ะ คุณหนูเวทย์ คุณหนูใจ” แม้จะเป็นเพียงพี่เลี้ยง แต่ทุกคนก็รักและนับถือป้าอุ่นเสมือนผู้ใหญ่ที่เคารพ
“เอาฮะๆๆๆๆๆ นมร้อนๆหวานนิดๆของป้าอุ่นนะอร่อยที่ซู้ดดดดดด” เจ้าตัวกลมทำตาวาว เอ่ยบอกเสียงใส
ความน่ารัก ความขี้อ้อนของจอมใจทำให้ทุกคนตกหลุมรัก
“ไอ้อ้วน...” จอมเวทย์พึมพำ
หน้ากลมใสหันมาค้อนพี่ชาย ก่อนสะบัดบ๊อบใส่อย่างไม่สนใจ
“เมื่อไรพี่ราชันจะลง...” ยังไม่ทันพูดจบ เสียงฝีเท้าหนักมั่นคงก็ดังมาจากทางบันไดของบ้าน
“อ้ะ... พี่ราชันนนนนนนนนน” พาร่างกลมๆนุ่มนิ่มของตัวเองวิ่งไปที่ทางบันไดทันที จนดวงตาคมกริบของชายหนุ่มร่างสูงใหญ่มองมาอย่างอดห่วงไม่ได้
“อย่าวิ่งสิเด็กดี เดี๋ยวหกล้มหรอ” เสียงทุ้มเอ่ยเสียงนุ่ม
ยามที่ชายหนุ่มเป็น “จอมราชัน” รองประธานฯผู้น่าเกรงขาม มีแต่คนกลัวเกรง แต่หากเป็นเรื่องของน้องชายคนเล็กเมื่อไร “พี่ราชัน” จะมีท่าทีอบอุ่น นัยน์ตาคมคู่นั้นจะอ่อนลงเสมอ
วันนี้ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ 189เซนติเมตรอยู่ในชุดสูทสากลที่เทาอ่อน ใบหน้าคมสันรับกับคิ้วเรียวดำสนิท ดวงตาคมกริบราวกับนักล่าที่หลายคนกลัว จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากกระจับหน้า ทรงผมสีดำสนิทตัดเรียบร้อย ส่งผลให้ชายหนุ่มดูหล่อเหลา คมคาย มีเสน่ห์ พร้อมด้วยผิวเนียนตึงมีกล้ามเนื้อสีชมพูอมแดงบ่งบอกว่าชายหนุ่มออกกำลังเป็นนิจ
รอยยิ้มอบอุ่นส่งมาถึงจอมใจ
“มีอะไรครับคนเก่ง”
“วันนี้ใจเป็นนักศึกษาแล้วนะ” เจ้าตัวเอ่ยโอ้อวด ก่อนขยับมือส่งเนคไทเส้นยาวให้
“แต่ใจผูกไทไม่เป็นพี่ราชันผูกให้หน่อยจิ๊” เอ่ยอ้อนๆก่อนส่งยิ้มประจบประแจให้
ชายหนุ่มหน้าดุ คลี่ยิ้มหัวเราะเบาๆก่อนเอ่ย แต่มือก็ผูกให้เรียบร้อยก่อนส่งคืนให้
“ไม่ให้เวทย์ผูกให้ละ” เจ้าหนูหน้างอ
“ไม่เอา พี่เวทย์ขี้แกล้ง” คราวนี้ถึงตาคนโดนว่าหัวเราะบ้าง
“แล้วนายมันน่าแกล้งไหมละ ไอ้ลูกหมู”
“ใจไม่อ้วนขนาดนั้นนะ เนอะๆพี่ราชัน” หันไปพยักเออเองกับร่างสูง ตากลมโตแวววาวออดอ้อน
มือใหญ่อุ่นลูบหัวทุยเบาๆ “แต่เราน่ะ อ้วนกว่านั้น” ไม่บ่อยหนักที่รองประธานฯหนุ่มจะหยอกเย้า ล้อเล่นแบบนี้
คราวนี้น้องน้อยหน้างอง้ำ
“ชิๆ งอนๆ” แก้มป่องพองลมใส่
จอมเวทย์ที่นั่งอยู่ ยืนขึ้นแล้วขัด “เราไปกันได้แล้ว...”
ร่างกลมกลึงค้อนพี่ชายใหญ่เล็กน้อย ก่อนหัวเราะแหะๆ “ใจไม่งอนแล้ว เดี๋ยวพี่ราชันไม่ง้อ”
พูดเสร็จก็กระโดดกอดหมับที่ร่างใหญ่ ถูหน้าไปมากับอกกว้าง “ไปนะครับ”
มือใหญ่กว้างให้ความรู้สึกปลอดภัยตบปุๆลงบนกลุ่มผมหนา “ครับๆ ตั้งใจเรียนละคนเก่ง”
จอมเวทย์เอ่ยสวัสดีพี่ชาย
“ดูแลน้องดีๆนะ” ไม่วายเอ่ยสำทับ กับเจ้าตัว
นักศึกษาสองคนก็ได้เวลาเดินทาง
+++++++++++++++++++++++++++++++++++
TBC.