ตอนที่คิดพล็อตเรื่องนี้ได้ คลับคล้ายคลับคลาว่าผมกำลังเดินดูพวกดอกไม้ที่ผมปลูกไว้
แล้วก็คิดไปเรื่อยเปื่อยว่าจะดีแค่ไหนน้อ ถ้ามีคนมาช่วยดูแลให้ ขอแบบอย่างนายอ้ายสักคนก็คงจะดี
เลยปิ๊งไอเดียมาปั่นต้นฉบับเรื่องนี้ออกมา
ทีแรกจะให้พล็อตเป็นแบบแรงๆ ตามสไตล์คุณหนู เล่นไปเรื่อย
แต่แต่งไปแต่งมากลับหลงรักนายอ้ายซะมากกว่า เลยเขี่ยทิ้งไม่ลง
ตอนนี้เป็นตอนจบแล้วครับ มันเป็นตอนจบที่ผมปวดหัวมากๆเพราะกระแสเรื่องนี้ดีเหลือเกิน
แต่ทุกอย่างมันมีที่มาและที่ไปครับ ทำให้ผมแก้ไขตอนจบไม่ได้
หากไม่ถูกใจใครก็ขออภัยมาล่วงหน้าก่อนเลยแล้วกันนะครับ
FIVE
ทุกสิ่งเหมือนจะดี เพราะมันราบเรียบเหมือนคลื่นลมในทะเลวันฟ้าใส ผมเข้าไปดูแลคลับของเขา(เท่าที่ตัวเองทำได้) คุณหนูจับหลายธุรกิจ งานเลยรัดตัวตลอด ผมในฐานะ...เอ่อ...เมีย...ก็เลยต้องพยายามแบ่งเบาบ้าง แต่ผมมันคนเรียนน้อย อาจจะช่วยได้ไม่เต็มที่ อีกอย่างผมก็กำลังเรียนปริญญาควบคู่ไปด้วย มันเลยหนักจนแทบโงหัวไม่ขึ้น ธุรกิจที่คลับก็ไปได้ดี เราบริหารโดยจัดให้อยู่ในระดับไฮเอ็น ลูกค้าทุกคนต้องมีการลงทะเบียน ต้องมีการตรวจร่างกาย เข้าออกได้ต้องใช้ลายนิ้วมือ คุณหนูไม่อยากให้คลับนี้เป็นเหมือนซ่อง ที่แต่ละคนมาเพื่อหาที่ลง ตะกรุมตะกรามมูมมามแล้วก็แยกย้ายกลับไป เราต้องรักษามาตรฐานการบริการให้สมกับค่าสมาชิกหลายแสนที่ลูกค้าทุ่มเข้ามา...ผมเหนื่อยแทบทนไม่ไหว แต่ยังดีที่ได้ความช่วยเหลือจากผู้ช่วยมือหนึ่ง
กริช ไต่เต้ามาจากการเป็นบริกรที่นุ่งน้อยห่มน้อย เขาเป็นคนรักดี สามปีที่ผ่านมาเขาได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่ามีความสามารถ คุณหนูเป็นคนแต่งตั้งให้เขาเป็นผู้ช่วยส่วนตัวผม กริชเป็นคนหล่อ หน้าตาออกไปทางพวกแขกขาว ตาคมขนตางอนยาว ผิวขาวจัดสลับกับขนสีเข้มขึ้นตามตัว กล้ามเป็นมัด เพราะบริกรที่นี่ถูกบังคับว่าต้องหุ่นดี เขาสูงประมาณ 180 พูดจาสุภาพ ตั้งใจทำงาน (ผมยังจำตอนที่เขานุ่งจีสตริงได้ติดตาอยู่เลย เหมือนเพิ่งผ่านมาเมื่อวาน) กริชมาจากไหนผมไม่รู้ได้ แต่เขาเป็นคนมีความรู้ การศึกษาดีแต่มาทำงานแบบนี้เพราะเหตุผลบางอย่าง บ้างก็บอกว่าเพราะต้องการเงินจำนวนมากไปช่วยที่บ้าน ผมเห็นว่าเป็นเรื่องส่วนตัวเลยละไว้ไม่สอบถามเพิ่ม
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ผมต้องอยู่ดึก ลูกค้ามาใช้บริการเยอะเป็นพิเศษ ผมไม่ปฏิเสธว่าเราไม่ขายบริการทางเพศ มันมาในรูปแบบแอบแฝง ทางคลับเราไม่ได้ประกาศ แต่มันขึ้นอยู่กับแขกตกลงกับพนักงานเอง เราเพียงจัดเตรียมห้องไว้ที่ชั้นสาม รายได้แค่ค่าห้องและค่าเครื่องดื่มเท่านั้นที่เราเก็บ แต่ค่าใช้จ่ายอื่นๆขึ้นอยู่กับสองฝ่ายตกลงกันเอง...
“เหนื่อยมั้ยครับพี่อ้าย” กริชยื่นเครื่องดื่มมาให้ มันเป็นสไป๊ซ์ใส่เกลือแบบที่ผมชอบ
“นิดหน่อย นายล่ะ” ตอนนี้ก็ปาเข้าไปตีสี่ คุณหนูไม่เข้ามาเพราะพรุ่งนี้มีประชุมแต่เช้าที่บริษัท
“ผมสบายมาก พี่ไปนอนพักที่ห้องก่อนมั้ย สายๆผมปลุก” เรามีห้องพักอยู่ที่ชั้นสามเหมือนกัน พนักงานคนไหนที่ไม่อยากขับรถกลับบ้าน ไม่ว่าจะเพราะเมาหรือเหนื่อยก็สามารถนอนพักได้
“เอาดิ” ผมรับคำและลุกขึ้น จู่ๆหน้ามืดเกือบวูบ
“พี่ เป็นอะไรครับ” กริชมาประครอง ผมรู้สึกมึนๆ
“สงสัยเหนื่อยว่ะ พักผ่อนน้อยมาหลายเดือนติด” ทั้งเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย และปรนนิบัติไอ้คุณหนูไปด้วย ต่อให้ถึกแค่ไหนก็ไม่ไหว...
“งั้นผมช่วย” กริชพยุงผมจนถึงห้องพัก ผมมึนหัวไม่นานนักกลับรู้สึกร้อนผ่าวแบบแปลกๆ
“พี่เป็นอะไรครับ” กริชถามเมื่อเห็นผมหายใจหอบ
“พี่ร้อน...” ผมถอดสูทแกะไท ร่างกายมันร้อนไปหมด เลือดสูบฉีดจนผมแทบทนไม่ไหว
“นะ นายจะทำอะไรน่ะ” ผมถาม เมื่อเห็นกริชช่วยผมถอดเสื้อผ้า เขาแกะกระดุมเสื้อเขาออกทีละเม็ด ใบหน้านั้นเปลี่ยนแปลงไป ไม่มีวี่แววของความเป็นมิตรหลงเหลืออยู่
“ก็...ช่วยให้พี่หายร้อนไงครับ”
“อย่านะ..” ลมหายใจผมติดขัด เรี่ยวแรงเหือดแห้งไปหมด เสื้อผ้าหลุดรุ่ยทั้งผมและเขา
“ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย” ผมไร้เรี่ยวแรงขัดขืน กริชโลมเลียตามลำตัวผม น่าแปลกที่ผมกลับตอบสนอง
“พี่จำผมไม่ได้เหรอ...วันนั้นในห้องน้ำไง...วันนั้นที่ไอ้คุณหนูมันเกือบตัดไอ้จ้อนของผม” ผมตาเบิกโพลง ความทรงจำฉายชัด
“แก...”
“จำได้แล้วสิ” เขาขบหัวนมผม ผมครางด้วยความเสียวซ่าน “ไอ้คุณหนูมันเหยียบไอ้นั่นพี่ชายผมจนเขาใช้งานไม่ได้ ตอนนี้สภาพเขาเหมือนคนตาย เพราะมัน”
“พวกมึงเป็นคนเริ่มก่อน...พวกมึงจะข่มขืนกู”
“ใครใช้ให้พี่น่าดึงดูดขนาดนี้ล่ะ พี่รู้มั้ยว่าเนื้อตัวพี่หอมหวานแค่ไหน” เขาดูคลึงกับท่อนเนื้อของผม นิ้วมือดุนคว้านในรูแคบ
ผมหายใจติดขัด อยากไปให้พ้นจากตรงนี้ น้ำตาผมไหลพราก เพราะร่างกายมันไม่ทำตามคำสั่งผม มันกลับตอบสนองสัมผัสอันน่ารังเกียจของเขา ใบหน้าหล่อๆซุกไซร้ เขาดูดรัดจนผมหลั่งออกมา
“อย่าทำอะไรพี่เลยนะกริช พี่ขอล่ะ” ผมอ้อนวอน เขาหยิบถุงยางมาสวม เผยเห็นท่อนเนื้อแกร่งที่ผงาด มันใหญ่โตจนผมใจหาย มันเกินกว่าที่ผมเคยได้รับจากคุณหนูมากนัก ผมได้แต่ร่ำไห้ขอความเมตตาจากเขา คิดถึงแต่คุณหนู ช่วยด้วย...ผมคร่ำครวญในใจ
“ไม่มีใครช่วยพี่ได้หรอก”
“อย่าทำอะไรพี่เลยนะกริช แล้วพี่จะลืมว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น พี่จะไม่บอกใคร...อย่าคิดแต่จะแก้แค้นจนลืมมิตรภาพของเราเลยนะ” ผมร้องไห้ ความภาคภูมิใจในตัวเองค่อยๆปลิดปลิว