(ต่อ)
“คนเยอะชะมัด..เพราะงี้ไงฉันถึงได้รีบเอาของขวัญมาให้พี่บัณฑิตตั้งแต่วันก่อน กะว่าไม่ต้องมาอยู่แล้วเชียว”
พอมาถึงบริเวณงาน พี่หมอก็เริ่มบ่นอีกรอบ หลังจากบ่นไปหลายรอบเพราะรถติด และอีกหลายสิบรอบเพราะวนหาที่จอดรถไม่ได้สักที
“ให้ตายเหอะ แล้วอยู่ตรงไหนกันวะเนี่ย?”
“เพชร เพชร!” เสียงคุ้นๆ ทำให้ผมต้องหันไปหาที่มา
“ต๊อกแต๊ก” ต๊อกแต๊กในชุดนักศึกษาถูกระเบียบกำลังวิ่งมาทางนี้
“มากับเขาด้วยเหรอเนี่ย อ๊ะ หวัดดีครับพี่หมอ” ต๊อกแต๊กยกมือไหว้พี่หมอ
“อือดี.. เออ แล้วนี่รู้ไหมว่าพวกวิศวะอยู่กันแถวไหน?”
“อยู่อีกฟากครับ ผมก็กำลังจะไปทางนั้นพอดี”
“ขอบใจมาก” พี่หมอบอกแล้วออกเดินไปยังทิศที่นิ้วของต๊อกแต๊กชี้ไป
“ทำไมอยู่คนเดียวล่ะ?” ผมถามเพื่อนขณะเดินตามพี่หมอ
“เราแยกไปเข้าห้องน้ำมา นี่ก็กำลังจะตามไปสบทบกับคนอื่นๆ พอดี”
“แล้วตะนอยล่ะ?”
“ไม่รู้แม่ง อยู่ดีๆ ก็หายกริบ” คราวนี้คนตอบทำหน้ามุ่ย
“ว่าแต่เพชรเหอะ นึกไงถึงมา คิดว่านอนกลิ้งสบายอยู่ที่บ้านซะอีก”
“กลิ้งจนเบื่อแล้ว เลยไปคลินิก แล้วก็เจอพี่หมอชวนออกมานี่”
“อ้อ แล้วนั่นจะเอาดอกไม้ไปให้ใครน่ะ พี่บัณฑิตสายเพชรไม่มาไม่ใช่เหรอ?” ต๊อกแต๊กพยักพเยิดมาที่ดอกทิวลิปในมือผม
“เปล่า พี่หมอให้มา”
“เห..” ต๊อกแต๊กส่งเสียงแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้ติดใจอยากคุยเรื่องนี้ต่อ
“กรี๊ดดดด~”
เดินมาจนน่าจะถึงจุดหมาย ก็เห็นกลุ่มก้อนนักศึกษาซึ่งส่วนมากเป็นผู้หญิงกำลังรุมทึ้งใครคนหนึ่ง ..หรืออาจจะหลายคนผมก็ไม่แน่ใจ เพราะกลุ่มค่อนข้างใหญ่พอสมควร
“.........” ส่วนพี่หมอจี้ยืนกอดช่อทิวลิปหยุดอยู่ข้างหน้าพวกเรา ไม่ได้ก้าวขยับไปไหน
“วันนี้มีดารามาด้วยหรือไง?” เสียงของคนที่จู่ๆ ก็โผล่มาจากข้างหลังทำเอาทั้งผมทั้งต๊อกแต๊กต้องสะดุ้ง
“เชี่ยแว่น! โผล่มาจากไหนเนี่ย ตกใจหมด” ต๊อกแต๊กหันไปเอ็ดตะนอยเบาๆ “แล้วนี่มึงหายไปไหนมา?”
“ยังมีหน้ามาถาม” ตะนอยเอานิ้วชี้จิ้มหน้าผากคู่กรณีจนหน้าหงาย
“ก็หมาที่ไหนมันบอกอยากแดกน้ำอัดลม กูก็อุตส่าห์ถ่อไปหามาให้ กลับมาอีกทีแม่งหายหัวไปไหนไม่รู้ ให้กูเดินหาซะทั่วเลย”
“อ่ะ.. โทษที กูลืมไปสนิทเลย” จำเลยยิ้มแหยๆ อย่างสำนึกผิด ก่อนจะแบมือออกมาตรงหน้า
“อะไร?”
“ก็น้ำอัดลมไง”
“กูแดกหมดแล้ว” ตะนอยตอบหน้าตาเฉย
“เชี่ยแว่น มึงทำแบบนี้กับกูได้ไง?” ต๊อกแต๊กโอดครวญ แล้วเริ่มลงไม้ลงมือ
“ก็กว่าจะหามึงเจอ ทั้งร้อนทั้งเหนื่อย มันคงเหลือหรอก” ตะนอยไล่จับมือทั้งสองข้างที่พยายามจะประทุษร้ายเป็นพัลวัน
“ก็แล้วทำไมไม่รู้จักโทรถาม หา?!”
“ได้ข่าวว่ามึงฝากโทรศัพท์ไว้กับกูมั้ง ไอ้ปลาทอง”
“กรี๊ดดดด..”
ก่อนที่ทั้งคู่จะได้เถียงกันยืดยาวกว่านี้ เสียงฮือฮาจากนักศึกษากลุ่มเดิมก็ดังขึ้นอีกระรอก แต่คราวนี้กลุ่มก้อนนั้นค่อยๆ แยกออก เผยให้เห็นร่างผอมสูงในชุดสีดำสนิทของใครบางกำลังเดินตรงมาทางนี้
ไม่สิ มาทางพี่หมอต่างหาก
“นั่นมัน..” เสียงต๊อกแต๊กพึมพำ ตาจับจ้องไปยังผู้ชายที่คล้ายจะเปล่งแสงได้ด้วยตัวเองคนนั้น
“ได้ยินแต่เสียง ไม่ได้เห็นหน้าซะนานเลย สวยขึ้นหรือเปล่าครับเนี่ย คุณหมอจีจี้” เสียงนั้นไม่ทุ้มไม่แหลม ติดจะคีย์แปลกๆ แต่กลับน่าฟัง
“ทักให้มันดีๆ หน่อย ซันนี่” พี่หมอถึงกับขมวดคิ้วยุ่ง
“.........” ซันนี่..
“นี่ถ้าเป็นคนอื่นเตะไปแล้วนะเนี่ย” ผู้ชายคนนั้นยิ้มกว้างเสริมสร้างความสว่างไสวในตัวยิ่งขึ้นไปอีก
“เหมือนกันเหอะ” พี่หมอตอบกลับด้วยรอยยิ้มกว้างไม่แพ้กัน
ตอนนี้การสนทนาของคนทั้งคู่ดูเหมือนจะตกอยู่ในความสนใจของผู้คนรอบข้างไปแล้ว
“คนนี้ไง ตำนานตะวันเดือดจากวิศวะ คนที่โค่นเดือนเดือดของคณะเราได้น่ะ” เสียงกระซิบกระซาบของต๊อกแต๊กดังขึ้นใกล้ๆ หู ท่าทางคนพูดดูจะตื่นเต้นพอสมควร
“ขวัญใจวิศวะสี่ปีซ้อน พี่เราคลั่งคนนี้แหล่ะ เก็บรูปไว้เต็มคอมฯไปหมด”
“เดือนเดือด?”
“ก็พี่ฟ้าประทาน สายรหัสปีห้าของเพชรไง”
“.........” ‘ซันนี่’ ..กับพี่ฟ้า
“นี่” บทสนทนาของพี่หมอกับ ‘ซันนี่’ ไหลเข้ามาในสมองผมอีกครั้ง ตอนนี้พี่หมอกำลังยื่นช่อดอกทิวลิปสีเหลืองไปให้
“หือ?” อีกฝ่ายเลิกคิ้วแปลกใจ
“ยินดีด้วยที่เรียนจบ”
“วันนี้กูไม่ได้มารับปริญญาสักหน่อย แค่มายินดีกับเพื่อนๆ”
“แต่ก็จบเหมือนกันไม่ใช่หรือไง?”
“งั้นก็...” คนรับไม่ได้รับไปแค่ช่อดอกไม้ แต่รวบเอาเอวเจ้าของช่อดอกไม้ไปด้วย ก่อนก้มลงกระซิบอะไรบางอย่างข้างหูพี่หมอ เรียกริ้วแดงๆ จากแก้มคนฟังได้ทันที
“กรี๊ดดดด..” รวมทั้งเสียงกรี๊ดของสาวๆ เหล่าแฟนคลับด้วย
“เฮ้ยๆๆ น้อยๆ หน่อยซันนี่ รู้ว่ามันชอบก็ยังจะไปแกล้งมันอีก” อีกเสียงที่คุ้นหูดังขึ้น หันไปมองที่มาก็เห็นพี่ปอเดินหน้าระรื่นเข้ามา ตามด้วยพี่ฟงฝู แล้วก็พี่ผู้ชายในชุดบัณฑิตอีกคน
“กูชื่อซันซายน์ สัด!”
‘ซันนี่’ ปล่อยมือข้างที่โอบเอวพี่หมอไปชูนิ้วกลางใส่หน้าพี่ปอ ขณะที่มืออีกข้างอุ้มทิวลิปสีเหลืองช่อใหญ่เอาไว้
“ใครชอบ?!” พี่หมอเองก็ชูนิ้วกลางใส่หน้าพี่ปอเช่นกัน
“เอ๊า นี่กูเข้าใจผิดเหรอ อิคึคึคึ~” แต่คนได้ของฟรีไปเต็มหน้าไม่มีสะทกสะท้าน แถมยังปิดปากหัวเราะแปลกๆ เรียกเสียงฮาจากคนอื่นได้อีกต่างหาก
“รีแอ็คชั่นมึงคงเส้นคงวาจริงๆ ไอ้ซัน” พี่ฟงฝูส่ายหน้ายิ้มๆ
“ส่วนมึงก็ซึนตลอดศก ไอ้หมอ”
“เมย์.. มึงทำหน้าเหมือนกะเทยพิการซ้ำซ้อนมากอ่ะ ไหวป่ะเนี่ย?”
‘ซันนี่’ หันไปคุยกับพี่คนที่ใส่ชุดบัณฑิต
“ไม่เจอกันเกือบปี มึงทักกูแบบนี้เหรอคะ ดอกซันซัน? เออ! ตอนนี้กูง่วง กูเพลีย แล้วกูก็หิวเอี้ยๆ เลยด้วย แหกขี้ตาตื่นมาตั้งแต่ตีสี่ตีห้ายังไม่มีผู้ชาย เอ้ย อะไรตกถึงท้องเลย ยิ่งชะนีสวยมันตื่นก่อนกูมาแต่งหน้าทำผมเป็นชั่วโมงๆ ไม่รู้ว่าป่านนี้ได้กินอะไรบ้างหรือยัง เออ พูดแล้วก็นึกขึ้นได้ มีใครเห็นลูกกับเมียชะนีของกูบ้างไหม?”
“เมียอยู่นี่ค่ะตุ๊ด”
ยังไม่ทันขาดคำ พี่บัณฑิตสาวสวยคนหนึ่งก็เดินฝ่าฝูงชนเข้ามา ข้างหลังมีพี่ผู้หญิงปีห้าที่ผมเคยเห็นอยู่กับพวกพี่ฟงฝูบ่อยๆ อุ้มเด็กทารกคนหนึ่งตามมาด้วย
พวกพี่ๆ เลยหันไปรุมดูเด็กน้อยด้วยความสนใจ
“นั่นเจ้ชิฮัว เพื่อนเฮียฝู ส่วนเด็กที่เจ้เหมยอุ้มอยู่นั่นชื่อน้องเมย์เดย์ เพิ่งคลอดได้สามเดือน เป็นลูกของเจ้ชิฮัวกับ..เอ่อ..พี่เมย์คนนั้นแหล่ะ” ตะนอยเล่าให้ฟัง
“แต่..พี่คนนั้นเขาเป็นตุ๊ดไม่ใช่เหรอ?” ต๊อกแต๊กถามงุนงง
ตะนอยแค่ยักไหล่โดยไม่ตอบอะไร
“อร๊ายยยย อีซินดี้ ไม่เจอกันแค่ไม่ถึงปี มึงฟิตหุ่นได้น่าฟัดมากมายอ่ะ”
อยู่ดีๆ พี่เมย์คนนั้นก็ร้องลั่น หันไปหาเจ้าของทรงผมเดทร็อคแบบถักเปียที่เพิ่งเดินฝ่าวงล้อมของสาวๆ ออกมาพร้อมกับออร่าสว่างสดใสเฉพาะตัว
“กูนึกว่ามึงโดนสาวๆ รุมโทรมไปแล้วซะอีก เชี่ยซิน” พี่ฟงฝูพูดด้วยท่าทางหมั่นไส้ แต่อีกฝ่ายกลับแลบลิ้นเขี่ยจิลที่ริมฝีปากล่าง พลางยักคิ้วกวนๆ ส่งกลับมา
“คนนั้นน่าจะเป็นพี่ซินเซียร์ ฝาแฝดคาสโนว่าของพี่ซันซัน” ต๊อกแต๊ก กระซิบบอก
“.........” ฝาแฝด..
“มามะ มาให้เพื่อนรักอย่างกูได้ชื่นใจหน่อย” พี่เมย์คนเดิมวิ่งกางแขนถลาเข้าไปหา แต่ยังไม่ทันถึงตัว พี่หัวเดทร็อคก็ยกเท้าขึ้นห้ามในท่าขนานกับพื้นซะก่อน
“ขืนเข้ามาอีกก้าวเดียว ต่อให้เป็นเพื่อนรักในชุดบัณฑิต กูก็เตะม้ามเล็ดได้นะอีอาจ”
“ฮึ่ย อีงก!” คนถูกขัดใจทำท่ากระฟัดกระเฟียด แต่คนที่อยู่รอบๆ พากันหัวเราะขบขัน
“โอ๋ๆ กูล้อเล่นน่า มาๆๆ กูจะยอมเสียสละร่างกายให้มึงได้แทะโลมสักหน่อยก็ได้ ถือเป็นของขวัญวันรับปริญญา” พี่หัวเดทร็อคยิ้มทะเล้น แล้วกางแขนเรียกให้เพื่อนเข้าไปหา
“อีซินนนน~” พี่เมย์คนนั้นไม่รอช้า รีบวิ่งเข้าไปมุดอกเพื่อนที่สูงกว่าหลายเซ็น ก่อนจะตวัดสายตากลับมามอง ‘ซันนี่’ ที่ยืนหัวเราะอยู่ข้างหลัง
“แล้วมึงอ่ะ อีซันซัน?”
“เฮ้อ.. เอาก็เอา” คนถูกทักพูดเหมือนจำใจต้องเดินเข้าไปให้กอด แต่ใบหน้ากลับเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม
“กูรักพวกมึง อีแฝดดดดด~”
“พวกกูก็รักมึง เมย์บี”
“.........” เหมือนตรงนั้นสว่างจนแสบตา ราวกับว่ามีพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมกันสองดวง..
“ยินดีด้วยนะ น้องเมย์” ผู้ชายตัวสูงใหญ่คนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมยื่นตุ๊กตาเท็ดดี้แบร์ขนาดเหมาะมือให้เจ้าของชื่อ
“อ๊ายยยยย พี่ฌาน~ มาด้วยเหรอฮะเนี่ย” พี่เมย์คนนั้นรีบถลาไปหาผู้มาใหม่
“โชเฟอร์กิตติมศักดิ์” เสียงพี่หัวเดทร็อคแทรกขึ้น
“อืม วันนี้มาเป็นคนขับรถจำเป็นให้แฝดกับพี่ซอลลี่น่ะ”
“อีแฝดไล่พี่ออกเมื่อไหร่ เมย์ขอจ้างต่อไปขับรถให้ที่บ้านได้ไหมฮะเนี่ย?” พี่เมย์คนนั้นหัวเราะคิกคักอารมณ์ดี
“แรดไปแล้วค่ะตุ๊ด ไว้หน้าเมียนิดนึง” พี่บัณฑิตสาวสวยขัดขึ้น แต่ใบหน้ายังยิ้มแย้ม
“แหม ชะนี นานๆ จะมีผู้ชายหน้าตาดีมาล้อมหน้าล้อมหลัง เข้าใจกูหน่อยสิ ..อ้าว นั่นมันน้องอินเทวดานี่นา”
“.........” ผมเองก็แปลกใจเหมือนกันที่เห็นพี่เดินตามหลังผู้ชายตัวใหญ่กับเท็ดดี้แบร์มา
“หวัดดีครับๆๆ” พี่ยกมือไหว้รอบวง ก่อนจะก้าวมายืนข้างๆ ผม
“ตัวเล็ก มาไง?”
“มากับพี่หมอจี้ฮะ”
“คนนี้เหรออิน?” ผู้ชายเท็ดดี้แบร์มองมาทางผม แล้วหันไปถามพี่ยิ้มๆ
“ครับ คนนี้แหล่ะ” พี่ยิ้มร่าตอบ
“.........” ผมมองคนทั้งคู่สลับกัน
“ตัวเล็ก นี่พี่ฌานนะ เป็นนักบาสเก่า จบไปเมื่อปีก่อน ..พี่ฌานครับ นี่น้องเพชร แฟนผม เพิ่งอยู่ปีหนึ่ง” พี่แนะนำ
ผมยกมือไหว้ พี่ฌานคนนั้นก็รับไหว้
“มึงไม่ค่อยอยากอวดเท่าไหร่เลยนะไอ้อิน” เสียงพี่ฟงฝูเหน็บเบาๆ
“เดี๋ยวนี้ริอาจกินเด็กเหรอน้องอิน?” เสียงพี่เมย์คนนั้น
“เด็กผู้ชายด้วยสิ” อันนี้เสียง ‘ซันนี่’
“ว้าว หน้าตาดีชะมัดเลยแฮะ” พี่บัณฑิตสาวสวยเข้ามามองผมใกล้ๆ ก่อนมองเลยไปทางต๊อกแต๊ก “แล้วที่ยืนหล่อๆ อยู่ข้างตะนอยนั่นใครล่ะ ไม่คิดจะแนะนำกันบ้างเหรอ?”
“ชะนี เห็นผู้ชายหน้าตาดีหน่อยไม่ได้เลยนะมึง”
“แหม ฉันก็เหมือนแกนั่นแหล่ะตุ๊ด ฮ่าๆๆ” หลังเสียงหัวเราะ ก็ตามมาด้วยเทศกาลแนะนำตัว
“โฮ่..” พี่หัวเดทร็อคเดินมายืนหน้าผมกับพี่
“มึงก็เกย์กับเขาเหมือนกันเหรอเนี่ยไอ้อิน? ที่เมื่อก่อนตอนเล่นบาสเห็นชอบเข้ามาคลุกวงในกูบ่อยๆ ไม่ใช่ว่าคิดอะไรกับกูหรอกนะ”
“เมื่อก่อนพี่ซินเขาชอบมาเล่นบาสกับพวกพี่ตอนเย็นๆ น่ะ” พี่หันมาบอกผม แล้วหันกลับไปหาคู่กรณี
“ถึงเกย์ผมก็เลือกเหอะพี่”
“อ้าว พูดงี้ต่อยกับน้องกูเปล่า?” พี่หัวเดทร็อคโบ้ยไปให้คนที่ยืนเยื้องกัน
“ตลอดอ่ะมึง หาเหาให้กูตลอด” ‘ซันนี่’ บ่น แต่คนอื่นๆ หัวเราะ
“ว่าแต่เด็กมึงมีปัญหาอะไรกับซันนี่ของกูหรือเปล่า? เห็นเอาแต่จ้องมาตั้งแต่เมื่อกี๊แล้ว” พี่หัวเดทร็อคถามพี่ แต่จ้องหน้าผม
“นั่นสิ มีอะไรหรือเปล่า?” ‘ซันนี่’ ถามผมตรงๆ
“ตัวเล็ก?” พี่ก็มองผมเป็นเชิงถาม
“ไม่ได้นะน้อง คนนี้อ่ะพี่หวง” พี่หัวเดทร็อคกอดคอ ‘ซันนี่’ ยิ้มกวนๆ ให้ผม
“พี่ซันนี่..”
“ซันชายน์ครับ” ‘ซันนี่’ หน้ายิ้ม แต่หางคิ้วกำลังกระตุก
“ถ้าเรียกซันนี่อีกที มีเตะนะครับ”
“.........” ผมถอยหลังออกมาให้พ้นรัศมีขายาวๆ ของ ‘ซันนี่’ แต่เพื่อความชัวร์ ไปหลบอยู่หลังพี่ดีกว่า
“มึงทำให้น้องเขากลัวแล้วนั่น อีโหดซันซัน”
“อะไรของมันวะ? แปลกคน..”
“เด็กมึงแปลกดีว่ะไอ้อิน ฮ่าๆๆ”
“ขอร้องล่ะซิน เลิกสักทีเหอะไอ้นิสัยชื่นชมของแปลกเนี่ย”
“ก็มันน่าสนใจดีออกซันนี่”
“เอ้อ แล้วนี่พี่กายไม่มาด้วยกันเหรอครับ? เห็นพี่ซินแต่ไม่เห็นพี่กายแล้วมันแปลกๆ ปกติเห็นตัวติดกันตลอด” พี่ถามพี่หัวเดทร็อคพลางขยับมายืนบังผมจนมิดทั้งตัว
“บวชน่ะ บวชแบบไม่มีกำหนดสึก สงสัยจะอยู่จนบรรลุอรหันต์นั่นล่ะมั้ง”
ท้ายเสียงมีแววประชดนิดๆ แต่ไม่ใช่เสียงของพี่หัวเดทร็อค เป็นเสียงของพี่เมย์คนนั้น
“อ้าว งั้นเหรอครับ” พี่พึมพำ
“เฮ้ย เดี๋ยวกูต้องขอตัวก่อนว่ะ” ‘ซันนี่’ ที่หลบไปรับโทรศัพท์กลับมาบอก
“ไม่รู้ซอลลี่หายหัวไปไหน ไอ้ยูมันเดินหาจนจะร้องไห้อยู่แล้ว”
“ลูกฉันก็หิวนมแล้วเหมือนกัน” พี่บัณฑิตสาวสวยกำลังปลอบลูกที่เริ่มร้องไห้โยเย
“งั้นก็สลายตัวก่อน ตอนเย็นค่อยเจอกันใหม่” พี่เมย์คนนั้นสรุป
“เออ เจอกันที่ร้านพี่ตินติน ถ้าไม่ติดอะไรมึงกับน้องๆ ก็ไปด้วยนะไอ้อิน พอดีพี่ชายกูปิดร้านเลี้ยงฉลองให้พี่สะใภ้ ไปกันเยอะๆ จะได้มันส์ๆ” พี่หัวเดทร็อคหันมาบอก
จากนั้นทุกคนก็นัดแนะและล่ำลากัน
“จะกลับด้วยกันหรือเปล่า?” พี่หมอหันมาถามผม สลับกับมองหน้าพี่
“.........” ผมก็หันไปมองหน้าพี่
“มีอีกสามสี่คนที่พี่ต้องไปทักทายน่ะ ตัวเล็กกลับไปพร้อมพี่หมอเลยก็ได้นะ แล้วเดี๋ยวเย็นๆ พี่ไปรับไปทานข้าว”
“.........” ผมเลยหันไปพยักหน้าให้พี่หมอ แล้วไปบอกลาตะนอยกับ ต๊อกแต๊ก ก่อนสลายตัว
“จี้! เย็นนี้มึงจะไปใช่เปล่า?” มีเสียงตะโกนถามไล่หลังมา พี่หมอหันไปชูมือเป็นเชิงตอบตกลง แล้วเดินต่อ
ผมเหลียวมองกลับไปข้างหลัง ยังเห็นคนคนนั้นยืนมองอยู่
‘ซันนี่’ ของพี่ฟ้า..
“พี่จะไปต่อที่ผับเหรอฮะ?”
หลังทานมื้อเย็นกันเรียบร้อย พี่ก็ขับรถพาผมกลับมาส่งบ้าน
“อืม ไหนๆ พวกพี่เขาก็ชวนแล้ว นานๆ ได้เจอกันทีด้วย ตัวเล็กจะไปด้วยกันไหมล่ะ?”
“พี่ก็รู้ว่าผมแพ้แอลกอฮอล์” ผมส่ายหน้า
“เดี๋ยวพี่สั่งเป็ปซี่ให้”
“อยากให้ไปจริงเหรอฮะ?” ผมแหนหน้ามองอีกฝ่าย
“หืม? ไปก็ดีนะ พี่อยากอวด” พี่ยิ้มทะเล้น
“แล้วแน่ใจว่าจะไม่หวงผมนะฮะ?”
ขนาดพี่หัวเดทร็อคคนนั้นทำท่าสนใจนิดหน่อยเมื่อตอนกลางวัน พี่ยังออกอาการหวงผมเลย
“แหม่.. ชอบจริงๆ นะคนรู้ทันเนี่ย” พี่บีบแก้มผมเล่น
“งั้นก็รีบเข้าบ้านเหอะ เดี๋ยวจะมีใครมาแอบมองแฟนพี่อีก”
“พี่จะไปจริงๆ เหรอฮะ?” ผมถามพี่อีกครั้งเมื่อพี่เดินเข้ามาส่งถึงห้องรับแขก
“หือ? ไม่อยากให้พี่ไปเหรอ?” พี่เลิกคิ้ว ก่อนจะยิ้มพราย “ถ้าอยากให้พี่อยู่ด้วยก็บอกได้นะ”
“.........” ผมเข้าไปกอดเอวพี่เอาไว้ ซบหน้าลงบนอกแกร่ง
“ตัวเล็ก?” เสียงพี่ฟังแปลกใจ แต่ก็โอบหลังผมไว้หลวมๆ
“อยู่แบบนี้อีกแป๊บนะฮะ” ผมพูดอู้อี้กับอกพี่
พี่ตอบรับด้วยการกระชับอ้อม ฝังจมูกลงมาบนกลุ่มผม
“ขี้อ้อนจังเลยเรา”
“ผมไม่ชอบเวลาที่พี่หายไปนานๆ เลย”
“ไม่มีอีกแล้วล่ะ”
“พี่ไม่ต้องไปเข้าค่ายที่ไหนอีกแล้วเหรอฮะ?”
“ไม่ต้องแล้ว พี่ว่าพี่จะลงแข่งปีนี้เป็นปีสุดท้าย”
“ทำไมล่ะฮะ?”
“พี่อยากใช้เวลาอยู่กับตัวเล็กให้มากกว่านี้ อีกอย่างปีหน้าพี่ก็อยู่ปีสี่แล้วด้วย เลยว่าจะเพลาๆ กิจกรรมลง”
“.........” ผมจะได้อยู่กับพี่นานขึ้น..
“ตัวเล็ก พี่ถามอะไรหน่อยได้ไหม?”
“อะไรฮะ?”
“มีอะไรกับพี่ซันหรือเปล่า?”
“อะไรยังไงฮะ?”
“ก็อย่างที่พวกพี่เขาถามนั่นแหล่ะ ตัวเล็กเอาแต่จ้องพี่ซันไม่วางตา”
“หึงหรือไงฮะ?”
“แหงสิ” พี่แกล้งกอดคอผมแน่น
“พี่เขาดูสว่างไสวดีน่ะฮะ”
“ครับ?”
“แต่ ‘ซันนี่’ เป็นแสงสว่างของคืนอื่น..” ผมกระชับวงแขนที่กอดพี่ให้แน่นกว่าเดิม “ส่วนพี่เป็นแสงสว่างของผม”
“ตัวเล็ก?”
“เป็นของผมคนเดียวนะฮะ”
“แน่นอนอยู่แล้วครับ” พี่ก้มลงมากระซิบคำสัญญาข้างหูผม
“ไม่ว่าผมจะหลงไปอยู่ที่ไหน พี่ก็ต้องนำทางผมกลับมาให้ได้นะฮะ”
“ครับ คนดี”
ให้พี่เป็นทิวลิปสีเหลืองของผม ส่วนผมก็จะเป็นทิวลิปสีส้มให้พี่..
สัญญานะฮะ
TBC. 