● เล่ห์รักฤดูร้อน ● ตอนพิเศษวันสงกรานต์ (หน้า 151) 13/04/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ● เล่ห์รักฤดูร้อน ● ตอนพิเศษวันสงกรานต์ (หน้า 151) 13/04/59  (อ่าน 1225514 ครั้ง)

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
อ่อยได้น่ารักสุด ๆ นะคิมมี่ 555

ออฟไลน์ chisarachi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1019
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-1
ตามมาอ่านน้องคิมแล้ววววววววววววว
อ๊ายยย  หลังทิ้งไว้นาน  ก็ตามมาจนได้
น้องคิมน่ารักอ่าา เป็นเด้กแสบที่น่าเอ็นดูมากกกกก
ชอบมากกกกกก ชอบบทหวานของเรื่องนี้
บรรยากาศมันพาหวานตาม เอียภพเขารักน้องอ่า
มันเลยรู้สึกว่าทั้งหวาน และน่าเอ็นดู หวานอมเปรี้ยวกับความเกรียนน้องคิม
เหมือนสีส้มเลย ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ isBelle__

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
สองคนนี้น่ารักไม่ไหวแล้วอ่า ทั้งตี๋เกรียนทั้งเฮียภพ โอ้ยย เห็นแล้วอยากจะบีบแก้ม
ตัวละครเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจะมีผลอะไรกับคิมมากป่าว ซาร่าคงไม่มาแย่งพี่ภพใช่มั้ย 5555
คิมคงชักกระแด่วตาย แต่แบบนองอ้อนมากขึ้น เห็นแบบนี้พี่ภพคงยิ้มแก้มปริแล้วดิ จริงจังขนาดจะเอาไปแนะนำที่บ้านขนาดนี้
โอ้ยย ตายตายตายตาย  :impress2:

ออฟไลน์ anchoviiz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
 :-[ :-[ :-[

เขินมากกกกก
น้องมันทำตัวน่ารัก
ไม่อยากให้ดราม่าเลย สงสารเด็ก

หนูให้ท่าแบบนี้แม่ยกชอบนะเออ o13

chubta

  • บุคคลทั่วไป
อ่านเรื่องนี้แล้วต้องจิกหมอนทุกที คำพูดสั้นๆแต่มันทำให้เราเขินมากก  :-[

Anyann

  • บุคคลทั่วไป
คู่นี้นี่มันน่ารักกันจริงๆเลย! หยอดกันไป เขินกันมา 5555

เหมือนตอนนี้ย้ำเรื่องสัญญากันหลายที ตอนหน้าจะฉีกสัญญากันเลยรึเปล่าค๊า

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
น้องครีมชอบกลิ่น(ตัว) เฮียภพเหรอนั้น แหม ทั้งกอด ทั้งดม ใหญ่เลยน้า
ซาร่าห์ รูมเมทอีกคนของน้องครีม ชอบจังเลยอ่ะ ชอบแบบล่ำ ๆ แต่แอบสาวอย่างเนี่ย น่ารักดี
ดูก็รู้เลยว่าเป็นตัวเพิ่มสีสันให้ห้องนี้ได้ครึกครื้นแน่ ๆ ส่วนอีกคนที่เหลือ ยังคงเป็นปริศนา
แหม ๆ น้องครีม ไหนว่าจะไปค้างในวันที่คิดถึงเป็นพิเศษไงล่ะจ้ะ นี่มันถึ่ซะจนเพื่อน ๆ สงสัยเลยน้า
นอกจากกลัวความลับจะเปิดโปงโดยบอมส์ ท่าทางต้องคอยหลบน้องซาร่าห์ด้วยนะเนี่ย อยากรู้ซะเหลือเกิน
น่าสงสารน้องครีม เรื่องพี่ชายที่เป็นปมปัญหาอยู่ในใจตลอดเวลา ทำให้จะรู้สึกดีกับพี่ภพ ก็ไม่ได้เต็มที่ มันรู้สึกอีดอัดแทนจริง ๆ
แหม ต่อปากต่อคำกันได้น่ารักจริง ๆ น้องครีม กลายเป็น "ไอ้อ้วน" สำหรับเฮียภพไปซะแล้ว
แถมยังรับหน้าตาเฉยซะอีกว่ากำลังต้อยเด็กดื้ออยู่ ทำเอาน้องคิมคนแซวเขินแทนซะงั้น
ชอบนะ ที่น้องครีม พูดเรื่องป๊าออกมาตรงๆ กับเฮีย ไม่ต้องปล่อยให้เฮียคิดไปเอง
ว่าแต่เฮียภพ สุดยอดมากเลยอ่ะ ไม่ทันไร จะพาน้องไปเปิดตัวกับพ่อแม่แล้วเหรอเนี่ย ว้าย :m3:
ทางครอบครัวของเฮียภพคิดว่าคงไม่เท่าไหร่หรอก ปัญหาอยู่ที่ป๊าของน้องครีมเนี่ยแหละ เฮียภพจะฝ่าด่านด้วยวิธีไหนนะ
แต่ยังไงซะ ก็ทำให้น้องคิมดีใจ ในความจริงจังของเฮียภพอีกครั้งแล้ว ฮุฮุ ยอมไปค้างกับเฮียอีกจนได้
ที่สำคัญ น้องครีม ยอมรับว่า "อ๋อย" กับเฮียไปแบบนั้น เดี๋ยวคืนนี้ก็ไม่ปลอดภัยหรอกนะจ้ะ ครึ ครึ
รอตอนต่อไปนะจ้ะ ตอนหน้าจะหว้านหวานอีกมั้ยน้า แล้วรูมเมทปริศนา จะได้เวลาปรากฎตัวเมื่อไหร่กันหนอ น่าสนใจจริง ๆ
ขอบคุณคนเขียนจ้า  :L2: :กอด1:



 

PoofuGirl

  • บุคคลทั่วไป
ขึ้นมาก็เขิน ๆ ชอบน้องคิมทั้งอ้อนทั้งแซะเฮีย
อันนี้ใครกำไรก็ไม่รู้ :P ถ้าเป็นผู้หญิงเขาจะเรียกว่า

'อ่อย' นะคะน้องขา  :hao3:

น้องซาร่าห์แย่งซีนมาก !! แบบว่าจริงจังสุด ๆ
สองคนนี้กับบอมบ์นี่ต้องเป็นคู่หูที่ดีกันได้แน่
ประหนึ่ง โคนันกับเอย์จิ =w='' ในยอดนักสืบโคนัน
สืบค้น~~~~ ลืมตาย... (กับสายตาเฮียเพี้ยน)
ขุดเรื่องของพี่ชายร่วมโลกน้องคิมมาแซะบ่อย ๆ

แต่น้องไปค้างกับเฮียบ่อยมากเลยนะลูก !!!
นี่ถ้าไม่ติดสัญญาคงเสียหายไปหลายประตูแว้ววววววว

ตอนท้ายเฮียดูจริงจังเนอะ ก็เฮียจริงจังมาตั้งแต่ต้นแล้ว
ไปบ้านจะแนะนำตัวว่าเป็นคนรัก... แต่มันข้ามขั้นตอนไปป่าว
ยังไม่ได้ขอน้องเป็นแฟนเลยน๊าาาาาาาาาา

อย่าลืมขอนะ อยากอ่านฉากกิ๊บกิ๊วววววมากกกก
(อย่าคิดลึกกกกกก็แค่ฉากเฮียมุ้งมิ้งขอเป็นแฟนของนุ้งคิม
อยากรู้ว่าใครจะบิดจะม้วนอาการหนักกว่ากัน
  :o8:


ขออภัยที่มาเม้นต์ช้า ;A;

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ซาร่ายังน่ากลัวน้อยกว่าธนธร


ออฟไลน์ Kisseu129

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตี๋เกรียนน่ารักสุดใจ ป้าอยากลงไปดิ้นกับพื้น  :m1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ narunarutoboyz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 595
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก

คิมแม่งน่ารักว่ะ  :man1: :man1: :man1: :man1: :man1:

เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่สุดชีวิตเลยจ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

ปล.มีกำลังเสริมเป็นน้องเเซร่าาาาาาาาาา  :hao7:


ติดตามเป็นกำลังใจอย่างกระชั้นชิดจ๊ะเรนนี่  :L2: :กอด1:

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5

ออฟไลน์ luckyzaaa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
ชอบความสัมพันธ์ของคู่นี้จัง เหมือนพี่ชายตัวโต กับน้องชาย (เกรียน) ตัวเล็ก
มันแบบ งุงิ หงิงหงิง น่ารักมากซะจนอยากให้ความสัมพันธ์เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ไม่อยากให้ได้กันซะงั้น  55555555

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
หวานเกิ๊นนนน

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
● เล่ห์รักฤดูร้อน ●

ยกที่ 46 – คนขี้แพ้




         เข็มสั้นนาฬิกาชี้เลขหก แต่ฟ้ายังไม่สว่างนัก


         แสงแดดสีส้มอ่อนบางเบาที่มักส่องผ่านมู่ลี่ในห้องเขาคล้ายจะหยุดทำงานลงชั่วคราว พร้อมกับดวงอาทิตย์ซึ่งซ่อนอยู่หลังม่านเมฆ และไม่รู้ว่าหลอดไฟเริ่มเสื่อมสภาพหรือเปล่า ในห้องสี่เหลี่ยมนี้จึงได้ดูขมุกขมัวนัก ราวกับนี่เป็นเพียงภาพในความฝัน เขายังไม่หลุดจากห้วงนิทรา และทุกอย่างที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าก็ไม่ได้มีอยู่จริง



         สรัญถอนหายใจยาว



         เขาตื่นก่อนอีกแล้ว



         หรืออาจต้องเรียกว่านอนไม่หลับ..?



         นึกดูก็ตลก เขาคิดว่าตัวเองน่าจะเป็นมนุษย์จำพวกนิยมการตื่นสายตะวันโด่ง ขลุกอยู่บนเตียงนุ่ม จมในกองผ้าห่มและร่างเนื้ออุ่น ๆ ของคู่นอนหลังมีเซ็กส์ มากกว่าจะลุกจากเตียงมานั่งทอดถอนใจเหมือนผู้ชายวัยใกล้หมดสมรรถภาพทางเพศ เหม็นเบื่อกับตัวเองและชีวิตซ้ำซากจำเจอันวนเวียนหาที่สุดไม่ได้ เหนื่อยล้ากับบางอย่างซึ่งไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคืออะไร



         เสียงลูกบิดลั่นแผ่วเบา ก่อนประตูห้องนอนจะค่อย ๆ แง้มเปิด



         เขาเพียงแต่เหลือบมองเล็กน้อย รู้แก่ใจว่าเป็นใครที่กำลังเดินออกมา เสียงครวญเอี๊ยดอ๊าดของบานพับฝืด ๆ ทำให้การจะย่องเข้าออกโดยไม่มีคนรู้เห็นกลายเป็นเรื่องยากลำบาก รัญชน์ควรรู้ข้อนั้น เพราะตัวเองมาอพาร์ตเมนต์เขาครั้งแล้วครั้งเล่าจนเกินจะนับแล้ว


         นอกจากเสียงครางของบานประตู ก็นับว่ารัญชน์เป็นมิตรกับความเงียบอย่างดีทีเดียว อีกฝ่ายปรากฏตัวอย่างไร้สุ้มเสียง ย่างก้าวด้วยความระมัดระวัง ร่างกายค่อนข้างเล็กเป็นทุนเดิมอยู่แล้วของเจ้าตัวแม้จะมีกล้ามเนื้อสมส่วน แต่ยิ่งสวมเสื้อเชิ้ตหลวม ๆ ตัวเดียวกับเมื่อวานนี้ก็ยิ่งดูเล็กลงอีก ผมสีดำยุ่งชี้ไปมา ใบหน้าและดวงตาหลังกรอบแว่นดูอิดโรย ระหว่างที่สืบเท้าออกมาจากห้องนั้น ชายหนุ่มไม่ได้หันมามองทางเขาแม้สักนิด ราวกับเห็นเป็นเพียงเฟอร์นิเจอร์ไร้ชีวิตชิ้นหนึ่งที่วางประดับไว้เฉย ๆ


          “จะไปแล้วหรือ?”


         อีกฝ่ายไม่ตอบ ทำราวกับว่าไม่ได้ยิน ก้าวช้า ๆ ผ่านหน้าเขาไป หรือบางทีอาจจะอยากวิ่งแต่ยังทำไม่ไหว


          “ยังเช้าอยู่เลย” เขาท้วง “วันจันทร์เรียนสายนี่”


          “เราจะไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวกัน”



         ช่างพูดมันออกมาได้เย็นชาสิ้นดี



         เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ทั้งที่ท่อนบนเปลือยเปล่า รั้งแขนอีกฝ่ายเอาไว้ไม่ให้เดินไปไกลกว่านั้น 


          “รัน”


          “นายควรเรียกผมว่าพี่” อีกฝ่ายย้ำเสียงแข็งโดยไม่ได้หันมามองหน้าเขาสักนิด “พี่รัน”


         สรัญทำหูทวนลม ก้มลงมองข้อมือที่เขาดึงไว้ ท่าทางอีกฝ่ายดูก็รู้ว่าไม่ชอบ แต่กลับไม่ปฏิเสธ นิสัยแบบนี้ช่างน่าขัดใจเหลือเกิน เขานึกภาพว่าหากรัญชน์ยอมให้คนอื่นทำเหมือนกันให้เห็น คงต้องหงุดหงิดมากแน่ ๆ แม้รับรู้กันจากการกระทำที่ผ่านมา ว่าพวกเขาไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าคู่นอนซึ่งผูกปมความสัมพันธ์ไว้อย่างหลวม ๆ ด้วยความใคร่ชั่วครั้งชั่วคราว


          “รัน”


         คนฟังชักสีหน้าไม่พอใจออกมาจนได้ แต่เขาเลิกเรียกอีกฝ่ายด้วยคำนำหน้าว่าพี่นับจากคืนที่มีอะไรกันครั้งแรกแล้ว  เปล่าประโยชน์กับการย้ำเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับเรื่องวัยวุฒิซึ่งไม่ได้ส่งผลต่อความรู้สึกที่มีต่อชายหนุ่มผู้มีอายุมากกว่าเท่าไรนัก ที่เขามีให้ไม่ใช่ความเคารพในฐานะรุ่นพี่ แต่เป็นอย่างอื่นซึ่งลึกซึ้งและคลุมเครือกว่านั้นมากนัก


          “หลังเลิกเรียนว่างหรือเปล่า?”


         เขาถาม ยืนรอคำตอบ ปล่อยมือจากอีกฝ่ายช้า ๆ แล้วเดินไปขวางอยู่ตรงทางออก เอนหลังพิงประตู ยกมือขึ้นกอดอก บอกให้รู้เป็นนัยว่าจะไม่ยอมให้เดินออกไปได้ง่าย ๆ หากเขาไม่ยินยอม ใช้ระยะเวลาระหว่างที่รุ่นพี่หนุ่มยืนเงียบพิจารณาเสื้อเชิ้ตยับย่นบนร่างกายอีกฝ่าย ลากสายตาผ่านไปบนผิวที่ต้นคอ รอยจ้ำแดงบ้าง ม่วงบ้าง กระจายอยู่ทั่วไปหมด เห็นชัดเจนต่อให้ติดกระดุมจนครบ ออกจะเป็นนิสัยเข้าขั้นย่ำแย่ที่ทำรอยไว้แบบนั้น แต่เห็นแล้วก็ทำให้หายงุ่นง่านกับบุคลิกดื้อเงียบของคนตรงหน้าได้บ้างอย่างไม่ทราบสาเหตุ


         ในที่สุดรัญชน์ก็ยอมตอบ


         “ไม่ว่าง”


         ทว่ากลับเป็นคำตอบที่น่าขัดใจอยู่ดี


          “ไปไหน?”


         รัญชน์ถอนหายใจยาว สิ่งที่คับข้องอยู่ในหัวคือเรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับอีกฝ่ายด้วย อยากต่อยให้คว่ำแล้วเดินหนีเสียรู้แล้วรู้รอด แต่ถ้อยคำซึ่งเอ่ยออกไปกลับเป็นอย่างอื่น ทั้งที่เข้าใจดีว่านั่นไม่เป็นการซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตัวเองเลย


          “เลี้ยงสายรหัส”


         คนฟังพยักหน้า พึมพำกับคำบอกเล่านั้น “ซีเนียร์แล้วสินะ” แม้ไม่เห็นรู้สึกว่าผู้ชายอย่างรัญชน์มาดให้เป็นรุ่นพี่ที่โตสุดในสายตรงไหน 


          “ผมไปด้วย”


         ชายหนุ่มผิวแทนสรุป หลังจากปล่อยความเงียบโอบล้อมพวกเขาอยู่พักใหญ่ จับจ้องดวงตาหลังกรอบแว่นนิ่งงัน สื่อให้รู้ว่าที่พูดนั่นเป็นประโยคบอกเล่า ไม่ใช่การขอ และเขาก็จะไม่เสียเวลารอคำอนุญาตด้วย

          “นายไม่ใช่สายรหัสผม” รัญชน์ตอบเสียงเบา แทบไม่ต่างไปจากกระซิบ ริมฝีปากบางเฉียบขยับเพียงเล็กน้อย สายตาว่างเปล่าจนเกือบกลายเป็นเย็นชืด ยากจะเชื่อว่าเป็นของคนที่เคยมีสัมพันธ์ทางกายกันมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว เอ่ยย้ำอีกครั้งอย่างห่างเหิน “เราไม่ได้อยู่คณะเดียวกันด้วยซ้ำ”


         สรัญพยักหน้าช้า ๆ แสดงอาการรับรู้..แต่ไม่คิดทำตาม “แล้วไง?”


          “รัญ”


          “ผมรู้จักร่างกายคุณดีกว่าน้องรหัสทั้งสายเสียอีก”


          “สรัญ!”


          “อย่าทำเสียงดุกับคนที่มีเซ็กส์ด้วยสิครับ” ชายหนุ่มแค่นยิ้ม จุกแน่นอยู่ในอกจากความรู้สึกกราดเกรี้ยวที่ผลุบโผล่ขึ้นมาแวบหนึ่งเบื้องหลังสีหน้าเยาะเย้ย “คุณเรียกชื่อสามภพออกมาบนเตียงผมยังไม่เคยว่าสักคำ”


         รุ่นพี่หนุ่มเบิกตาโพลง แววไหวระริกในนั้นสะท้อนภาพเขาเองที่กระตุกมุมปาก ท่าทางอีกฝ่ายตื่นตระหนก ริมฝีปากสั่นน้อย ๆ  พร้อมกับที่ดวงหน้ากลายเป็นสีแดงซ่านจนเขานึกสงสัยว่ารัญชน์ต้องรักเพื่อนเขาขนาดไหน จึงได้มีอาการทางกายปรากฏให้เห็นมากขนาดนี้ แค่เพียงได้ยินเขาเอ่ยชื่อสามภพออกมาเท่านั้นเอง


          “เห็นผมเป็นตัวแทนหรือ?”


         เขาเลิกคิ้ว โน้มตัวเข้าใกล้คนตรงหน้า


          “ตอนจะถึง..เห็นหน้าใครล่ะ ผมที่กำลังมีอะไรกับคุณ หรือว่าไอ้ภพที่นอนกกกับเด็กมัน”


          “รัญ...นาย..”


          “คุณน่ะเห็นแก่ตัว” สรัญแค่นหัวเราะ จุดรอยยิ้มขื่นที่มุมปาก คว้าไหล่ทั้งสองของอีกฝ่ายไว้ในมือ บีบจนแน่นแล้วผลักถอยหลังไปกระแทกกับกำแพง “ผมสงสัยเสมอ ทุกครั้งที่เรียกชื่อนั้น กำลังเรียกผมหรือชื่อตัวเอง เพราะความจริงแล้วคุณไม่เคยเห็นหัวคนอื่นเลย”


         ชายหนุ่มร่างเล็กสะอึกไป นัยน์ตาแดงก่ำ หัวคิ้วขมวดมุ่น เลนส์แว่นตามีฝ้าจากไอน้ำเกาะ ครู่หนึ่งจึงเค้นเสียงตวาดออกมาต่อหน้าเขาจนได้


          “นายเองที่ใช้ประโยชน์เรื่องนั้นเพื่อมีอะไรกับผมก็เห็นแก่ตัวไม่ต่างกันหรอก!”


          “ตะโกนเป็นเหมือนกันนี่”


          “หุบปาก!”


          “ไม่คิดหรือว่าเราเป็นคนประเภทเดียวกัน”


          “ผมไม่เหมือนนาย”


          “ทำไมเสียงอ่อนลงซะแล้วล่ะ?”


          “..ไม่เหมือน”


          “เหมือนสิ..”


         สรัญยิ้ม ..แต่บางทีคนเราก็ไม่ได้ยิ้มเพราะมีความสุขเพียงอย่างเดียว



         และสำหรับรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็คงเป็นตัวอย่างสำหรับกรณีที่ว่า 



          “รักคนที่ไม่ได้รักเรา ไม่คิดว่าโง่หรือ”



         เขากระซิบ น้ำเสียงขมขื่นกว่าที่ตัวเองคาดโดยไม่ได้ตั้งใจ แว่นอีกฝ่ายเอียงกระเท่เร่ตอนที่ถูกดึงเข้ามาใกล้ หยาดน้ำอุ่น ๆ หยดลงบนอกเปลือยเปล่าของเขา และศีรษะที่เขาโอบกอดไว้ก็ขยับเบา ๆ ทุกครั้งที่คนในอ้อมแขนสะอื้นออกมา



          “ก็แค่พวกขี้แพ้”




         เขาไม่รู้ตัวเองกำลังพูดถึงใคร




         ตัวเองหรือว่ารัญชน์?





         และยังนึกสงสัยอยู่เสมอ ว่าน้ำตาของเขาเองในเช้านั้นมาจากไหนตั้งเยอะแยะ










         เกือบต้องขาดเรียนคาบแรกแล้วเชียว สายนิดหน่อยแต่ก็ยังทัน เขาเองไม่นึกว่าความตั้งใจจะค่อนขอดอีกฝ่าย กลับกลายเป็นย้อนมาทำร้ายตัวเองให้นึกถึงเรื่องเก่า ๆ ขึ้นมา รักครั้งแรกกับผู้ชายที่ไม่เคยรักเขาเป็นเรื่องเจ็บแปลบในใจทุกครั้งที่นึกถึงกระทั่งทุกวันนี้


         ชายหนุ่มยกมือขยี้ตาเบา ๆ หน้ากระจกในห้องน้ำ ขอบตาช้ำอย่างน่าบัดซบตั้งแต่เช้าจนเพื่อนทัก (แน่นอนว่าเพื่อนคนนั้นไม่ใช่สามภพผู้หายใจเข้าออกก็มีแต่รุ่นน้องชื่อคิมหันต์) และเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าข้ออ้างนอนน้อยเป็นอะไรที่ไม่เข้าท่าอย่างร้ายกาจ


         รัญชน์อาจไม่ต่างจากเขาในอดีต ผิดหวังกับความรักที่ไม่มีทางเป็นไปได้ เห็นคนที่เฝ้ามองมาตลอดไปกับคนอื่นต่อหน้าต่อตา เขาคิดว่าตัวเองเข้าใจมันดี ในฐานะคนที่เคยเจอเหตุการณ์คล้ายกันมาก่อน


         สรัญมีเวลาให้สมเพชเวทนาตัวเองได้ไม่นานนัก นับว่าโชคดีแล้วที่ยังมีแก่ใจมาเข้าเรียนได้ วันนี้มีแต่เนื้อหาส่วนสำคัญทั้งนั้น และแลบสุดท้ายของวันก็กำลังจะทำชีวิตเขาพังพินาศไปพร้อมกับเพื่อนร่วมคณะ เมื่อต้องหยุดพักจากการคร่ำครวญถึงความรักมานั่งแกะแต่งก้อนขี้ผึ้งให้กลายเป็นฟันจนคณะจะปิด ต่อให้ไม่มีสมาธิอย่างไร ก็ต้องกระเสือกกระสนต่อสู้กับความรู้สึกอยากลงไปนอนแผ่หายใจทิ้งขว้างสักห้าหกชั่วโมงของตัวเองอย่างถึงที่สุด

          “กูกำลังจะตายกับซี่ 13” เพื่อนโต๊ะข้างเคียงโอดครวญ

          “13 มันลัคกี้นัมเบอร์” เขาพยายามปลอบ

          “ชีวิตบัดซบเต่าถุย!” อีกฝ่ายยังบ่นต่อ “ครั้งที่แล้วแม่งก็ทำรากหัก กูอยากกรีดร้องเป็นภาษาฮีบรู”

          “เออน่า” เขายังพยายาม ขณะเดียวกันก็ปลอบใจตัวเองไปด้วย ไม่นึกว่าขึ้นปีสองแล้วระดับความโหดของการเรียนจะพุ่งสูงกว่าตอนเป็นเฟรชชีราวกับติดจรวด

         เขาก้มหน้าก้มตาหมกมุ่นกับก้อนขี้ผึ้งอยู่ครู่ใหญ่ก็รู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวที่ฝั่งตรงข้าม

          “อ้าว! เฮ่ยภพ!”

         ชายหนุ่มรีบอ้าปากพะงาบ ๆ ท้วง เมื่อเห็นว่าเจ้าของชื่อกำลังรีบเก็บหนังสือและกล่องเครื่องมือยัดลงกระเป๋า เห็นท่าแล้วคงเตรียมพุ่งออกไปในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้านี้เป็นแน่ “รีบไปไหนวะ”

          “มีธุระ” อีกฝ่ายตอบอย่างขอไปที

         ธุระที่ว่านั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าเรื่องอะไร ไม่พ้นเจ้าหนุ่มน้อยปีหนึ่งที่เป็นเด็กในสังกัดนั่นเอง ขนาดเลี้ยงสายรหัสสามภพยังลากคิมหันต์ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสายสักนิดไปด้วย สนิทกับพี่รหัสคิมหันต์หรือก็เปล่า ดูแลดียิ่งกว่าพี่รหัสเจ้าตัวเสียอีก ฝั่งพี่ตัวจริงพอเจอสายตาดุ ๆ ของสามภพเข้าก็เล่นเอาไปต่อไม่ค่อยถูก แทบปล่อยชายหนุ่มเอาไปเลี้ยงดูปูเสื่อเป็นน้องรหัสตัวเองอีกคนไปแล้ว น้องตัวจริงบางครั้งถึงกับมีบ่นอุบว่าพี่มัวแต่ไปโอ๋คนอื่นอยู่นั่น เขายังนึกสงสัยว่าเรียนกันหัวบานขนาดนี้ สามภพเอาเวลาที่ไหนไปป้อเด็ก แถมมีงานส่งอาจารย์ทันเวลาเสียด้วย ไม่รู้ไอ้เพื่อนถึกนี่ได้หลับได้นอนบ้างหรือเปล่า

          “เอาฮิสโตมาดูก่อน” เขารั้งสายกระเป๋าสามภพไว้ กะว่าหากไม่ส่งของมาก็ไม่ต้องไปหาเด็กที่ไหนแล้ว “เมื่อเช้าจดไม่ทัน”

          “ก็แม่งมัวแต่เหม่อ” อีกฝ่ายสวนกลับ “ทำซึมอย่างกับเมียทิ้ง”

         สรัญอ้ำอึ้ง ที่คิดว่าสามภพไม่ได้สังเกตนั้นเห็นทีคงต้องคิดใหม่ ก่อนจะทันได้เถียงอะไรไป สมุดเล่มหนึ่งก็ถูกโยนลอยหวือมาหล่นบนโต๊ะตรงหน้าเขา ก่อนเจ้าของสมุดจะคว้ากระเป๋าก้าวฉับ ๆ ออกจากห้อง ก้มลงดูจึงเห็นว่าเป็นเลคเชอร์วิชาที่เขาถามหา

          “ไอ้เชี่ย!” ชายหนุ่มก่นด่าเพื่อนไล่หลัง แม้เจ้าตัวไม่ได้ยินแต่ก็ขอเอาสักหน่อย “ไอ้ควาย!”







-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-



มีต่อรีพลายถัดไปค่ะ

v
v
v
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-07-2013 10:53:00 โดย RAINYDAY »

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
ยกที่ 46 (ต่อ)



         ร้านอาหารเวียดนามที่รัญชน์เลือกพารุ่นน้องมาเลี้ยงนั้นอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยเท่าไร สรัญไม่ได้ตามมาด้วยอย่างที่พูดจาเอาแต่ใจเมื่อเช้านี้ มีแค่สองสายคือเขาและอนาวิลผู้เป็นเพื่อน รวมเบ็ดเสร็จแล้วก็แปดคน นั่งร่วมโต๊ะใหญ่เดียวกันกำลังเหมาะ เห็นจำนวนแค่นี้แต่กว่าจะเรียกรวมกันได้ทั้งสี่ชั้นปีไม่ใช่เรื่องง่าย

         เขาไม่ค่อยได้ส่งเสียงพูดคุยมากนัก เดิมก็พูดน้อยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งระยะหลังมานี้ติดอยู่ในความสัมพันธ์รูปแบบที่อธิบายลำบากระหว่างเขากับรุ่นน้องหนุ่มคณะทันตแพทยศาสตร์ที่มีชื่อเล่นเหมือนกัน ก็ยิ่งเหมือนกับว่าจะดึงสติให้อยู่กับเนื้อกับตัวได้ไม่ดีเท่าไร

          “พี่..”

          “พี่รัน”

          “พี่รันคร้าบบบ!”

         ชายหนุ่มสะดุ้งน้อย ๆ  หันไปมองหน้าเฟรชชีของตัวเองที่กำลังนั่งจ้องมาตาใส

          “อะไรครับ”

          “พี่เหม่ออะ” น้องเล็กแต่ตัวใหญ่ทำตาโตประหนึ่งว่าเป็นวาระแห่งชาติ “ได้ไง!”

          “อา..ขอโทษ” เขายกมือขึ้นเสยผม ทำทีเป็นตักซี่โครงหมูย่างตะไคร้แจกให้น้อง ๆ  “เมื่อคืนผมนอนดึกไปหน่อย”

          “ไม่ใช่คิดถึงใครใช่ป่าว”

         แซวได้แค่นั้นคนพูดก็โดนมือลึกลับผลักหัวแทบทิ่มลงจานแหนมเนือง เป็นสายรหัสปีสองที่สนิทกับเฟรชชีกว่าคนอื่นนั่นเองที่เตือนไว้

          “อ้น มึงลามปามละ”

          “พี่ขิมแม่งโหด”

          “ไม่เคยโดนพี่รันต่อยสินะ”

          “พี่รันออกจะน่ารัก” เด็กหนุ่มยังเถียง “จะไปต่อยใครได้ไง”

         สายรหัสปีสามส่ายหน้าอ่อนใจ เป็นเชิงว่าไอ้เด็กนี่ไม่รู้อะไรเสียแล้ว ตัดสินใจชวนคุยเรื่องอื่น ขณะที่พี่ใหญ่ในสายก็เริ่มหลุดไปอยู่กับโลกส่วนตัวอีกครั้ง ปล่อยน้อง ๆ ส่งเสียงเฮฮากันต่อในร้าน


         หลังอิ่มหนำสำราญกับของคาวกันเรียบร้อย พวกเขาออกจากร้านไม่ดึกมาก ยังมีเวลาเหลือให้เด็กวิศวะแปดคนเดินดุ่มเข้าไปต่อที่ร้านไอศกรีมกุ๊กกิ๊กอย่างขัดหูขัดตาต่อคนมองก่อนมันจะปิด ซัดกันอิ่มเอมเปรมปรีดิ์อีกยกใหญ่ จนกำลังเตรียมหารถกลับอ้นก็เปรยอยากไปผับขึ้นมา แต่ปีสามปฏิเสธตามด้วยบ่นกลับมาอีกว่าอายุถึงแล้วหรือ พอบอกจะขอยืมบัตรประชาชนคนอื่นไปทำเนียนพร้อมเถียงว่าสงสัยกลัวเปลืองค่าเหล้าก็โดนปีสองผลักหัวทิ่มอีกรอบจนจ๋อยไป หันไปกระแซะรัญชน์ผู้เป็นพี่ใหญ่อย่างออดอ้อน

          “พี่ขิมรังแกผมอะ”

          “เชี่ยอ้น!” ขิมสวนทันควัน “สำออย เดี๋ยวกูถีบกระเด็น”

         อ้นหัวเราะร่า แกล้งทำเป็นกลัวอย่างกวนประสาท เกาะหลังรัญชน์แน่นหนึบอย่างหาที่พึ่ง โน้มร่างไปข้างหน้าอีกเพียงนิดเดียว ชายหนุ่มผู้เป็นพี่รหัสคนโตก็แทบจมหายไปในอ้อมกอดทั้งตัว

          “พี่ตัวเล็กจัง”

          “เดินดี ๆ เถอะครับ” ชายหนุ่มปราม แต่ไม่ได้ขัดขืน

          “อือ ตัวหอมด้วยอ่า”

         ก่อนจะโดนขิมหิ้วคอออกมาแล้วเตะป้าบเข้าจริง ๆ

          “เมาไอติมเหรอมึง”

          “พี่ขิมแม่งงง ชื่อแต๋วแล้วยังขี้เหวี่ยงอีก”

         สองหนุ่มไล่เตะกันไปตลอดทางจนเรียกแท็กซี่ได้ ส่วนสายรหัสของอนาวิลที่มาด้วยกันนั้นแยกกลับไปอีกทางเมื่อก่อนหน้านี้สักครู่หนึ่ง

          “นายไปก่อนสิ”

         รัญชน์หันไปพยักเพยิดให้เด็กหนุ่มน้องเล็กสุด เจ้าตัวทำตามอย่างว่าง่าย มุดเข้าไปนั่งบนแท็กซี่ แต่มือกลับไม่ยอมปล่อยจากเขา

          “พี่ไปส่งผมหน่อย”

          “อ้อนตีนละ กูส่งไปลงนรกให้ไหม” ขิมขัดได้ไม่มีขาดตกบกพร่อง แต่อ้นยักคิ้วใส่แล้วหันมาส่งสายตาใสแจ๋วให้พี่ใหญ่
 
          “นะ?”

         คนขับแท็กซี่เริ่มมองพวกเขาเซ็ง ๆ

          “นะพี่รัน”

         ชายหนุ่มถอนหายใจ หันไปบอกลารุ่นน้องอีกสองคนที่ไม่มีปัญหาเท่าเจ้าเด็กใหม่ จากนั้นก็มุดตามเข้าไปนั่งในรถ

          “พักที่ไหนครับ?”

          “คอนโดฯ ลูกพี่ลูกน้อง”

         รถเคลื่อนตัวออกจากจุดเดิมหลังจากอ้นหันไปบอกที่หมายกับคนขับ แสงสียามค่ำคืนวิ่งฉิวผ่านสายตา ครู่ใหญ่เขาจึงคิดได้ว่าควรถามไถ่อะไรบ้างตามประสาคนเป็นพี่รหัส

          “ตอนแรกผมคิดว่านายอยู่หอใน”

          “ก็ตั้งใจว่างั้น ลงชื่อไว้แล้วอีกต่างหาก”

         รัญชน์พยักหน้า ไม่ได้ถามหาเหตุผล แต่อีกฝ่ายก็ชิงพูดขึ้นก่อน

          “ทีนี้ผมขี้เกียจเข้าออกตามเวลา...ความจริงคือขี้เกียจปีนหอ จะให้ตรงเวลาเป๊ะมันก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ พอดีมีลูกพี่ลูกน้องอยู่คอนโดฯ ใกล้ ๆ ด้วย” หนุ่มรุ่นน้องพยักหน้ากับตัวเอง “นี่เลยปล่อยที่ลงชื่อไว้เฉย ๆ ไม่เคยเอาของเข้าไปเก็บหอเลย รูมเมทคงงงแย่แล้วว่าหายหัวไปไหน”

         ว่าจบก็หัวเราะ ชายหนุ่มพยักหน้าอีกครั้ง ฟังน้องรหัสเจื้อยแจ้วไปเรื่อย

          “เอาไว้ผมก็ว่าจะแบ่งของไปเก็บบ้างเหมือนกัน สะดวกดี เผื่อแบบฝากไว้ตอนไปเรียนอะไรงี้ แต่คงไม่นอนที่นั่น”

          “อืม”

          “พี่พูดน้อยนะ”

         รัญชน์ไม่ตอบอะไร ฟังอีกฝ่ายเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปตลอดทาง ครู่หนึ่งก็มีคำถามมาให้สะดุด

          “พี่สูงเท่าไหร่อะ?”

         เขามองหน้าอีกฝ่าย เลิกคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ส่วนสูงเขาออกจะน้อยไปสักหน่อยในสายตาคนรอบข้าง แต่โดนถามตรง ๆ เช่นนี้ก็นับว่าเป็นเรื่องคาดไม่ถึงเอาการ

          “หนึ่งร้อยหกสิบ”

         อ้นยิ้มกว้าง เอนหลังพิงเบาะรถท่าทางสบายใจ มองเห็นจากหางตาว่าเอียงใบหน้ามาทางเขา

          “พี่มีแฟนยัง”

          “...”

          “พี่รัน”

          “มีคนที่ชอบแล้ว” เขาตอบเรียบ ๆ ตัดรำคาญ ตั้งใจจะจบบทสนทนาอย่างนุ่มนวล

          “ตอบไม่ตรงคำถามนี่” อีกฝ่ายทำหน้ามู่ทู่ ขยับเข้ามาใกล้อีกคืบ “ผมไม่ได้อยากรู้ว่าพี่ชอบใครอยู่หรือเปล่า แต่อยากรู้ว่ามีเจ้าของรึยัง”

         รัญชน์ปล่อยรุ่นน้องนั่งบ่นหงุงหงิงต่อไปเรื่อย ๆ  ซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่ขัดศรัทธา ชวนคุยอย่างไร้ผลแม้เห็นอยู่ว่าเขาฟังบ้างไม่ฟังบ้าง จนกระทั่งแท็กซี่พาพวกเขามาถึงที่หมาย

          “จะลงไปส่งผมไหม?”

         เขามองรอยยิ้มกว้างของเด็กหนุ่ม เจ้าตัวดูไม่ใช่คนประเภทจะดูแลตัวเองไม่ได้เลยสักนิด ที่กระเง้ากระงอดขอให้ช่วยตามมาส่งก็เรียกว่าแปลกพออยู่แล้ว

          “คงไม่หลงแล้วมั้งครับ?”

         อีกฝ่ายยิ้มเผล่ ปราศจากอาการสลดแม้แต่น้อย ชูนิ้วชี้แตะปากตัวเองเบา ๆ แล้วโบกไปมาตรงหน้าเขา “พี่ปฏิเสธแล้ว”

          “..?”

          “ก่อนหน้านี้ใครจะอะไรก็ไม่ยอมปฏิเสธสักอย่าง”

          “มีบ้างครับ”

          อ้นไม่เก็บคำค้านของเขามาเป็นประเด็น ยังคงพูดต่อไปเรื่อย “เป็นไทป์ที่จะโดนรังแกนะ”

         รัญชน์เพียงแต่รับฟังเงียบ ๆ  เรื่องนั้นทำไม่เขาจะไม่รู้

          “แต่ไปส่งผมเถอะ”

         พูดจบก็หัวเราะร่า รีบชิงจ่ายเงินก่อนแล้วกึ่งดึงกึ่งลากเขาจนลงมายืนอยู่นอกตัวรถด้วยกันทั้งคู่ พักใหญ่ที่เขามัวลังเล ไม่มีทีท่าจะขยับตัวไปไหน และอีกฝ่ายก็ไม่ได้เร่งรัด ยืนรออยู่ด้วยกันเช่นนั้นเป็นนานสองนาน มองดูผู้คนเดินเข้าออกจากอาคารตรงหน้า สายลมเบาหวิวยามค่ำคืนโชยต้องผิว เท้าตรึงอยู่ตรงจุดนั้นราวกับมีอะไรยึดไว้ ก่อนอีกฝ่ายจะทำให้เขาต้องประหลาดใจเป็นครั้งที่สอง ด้วยการก้มลงมากระซิบคำถามที่ไม่คาดคิดว่าจะได้รับ


          “พี่รันเป็นเกย์ใช่ไหม?”


         ใจร่วงไปกองอยู่ที่ตาตุ่ม..คงเป็นความรู้สึกคล้าย ๆ อย่างนั้น


          “ใช่จริงด้วย” อ้นยิ้มร่า “คนประเภทเดียวกันมักจะถูกดึงดูดเข้าหากัน ว่างั้นหรือเปล่า?”


         ชายหนุ่มเบือนสายตาไปทางอื่น มองไปในความมืดมิดของซอกตึกอีกฝั่ง ผ่อนลมหายใจยาว ครุ่นคิดกับถ้อยคำของรุ่นน้องหนุ่ม


         คนประเภทเดียวกันจะถูกดึงดูดเข้าหากันอย่างนั้นหรือ?


         น่าแปลกที่เขานึกถึงสรัญและคำพูดใกล้เคียงกันของเจ้าตัวเมื่อเช้านี้ มันวนเวียนหลอกหลอนอยู่ในหัวจนไม่มีสมาธิตลอดวัน สลัดอย่างไรก็ไม่หลุดสักที
 

          “ที่ห้องมีเบียร์ด้วย” อีกฝ่ายเปรย ระหว่างเขามัวแต่ใจลอยอย่างโง่ ๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

          “ผมไม่ดื่มแอลกอฮอล์”

          “อาซาฮี เบา ๆ” อ้นยิ้ม “หรือไม่งั้นไปนั่งเล่นสักพักก็ได้ ผมอยากฟังพี่เล่าเรื่องมหา’ลัย”

         โดยไม่รอบคำตอบ เด็กหนุ่มดึงแขนรุ่นพี่ให้เดินตามเข้าไปในตัวอาคาร แต่ยังไม่ทันไปได้ไกล เสียงที่เขาคุ้นยิ่งกว่าคุ้นก็ดังขึ้นจากข้างหลัง


          “บอกตั้งแต่แรกแล้วให้มาอยู่ด้วยกันรู้แล้วรู้รอด”

          “นี่ก็มาตั้งบ่อยแล้วไง” อีกเสียงบ่นหงุงหงิงเป็นการตอบโต้ “ผมมีรูมเมทต้องดูแล”

          “ซาล่ำน่ะนะ”

          “ซาราห์” ตามด้วยเสียงหัวเราะร่า “มุกห่วยว่ะเฮียเพี้ยน”

          “ไอ้เบื๊อกนี่ก็เส้นตื้น ถ้าโดนกะเทยปล้ำก่อนพี่จะตามไปฆ่ามัน”

          “พูดเชี่ยไรวะ”


         รัญชน์แทบยืนตัวแข็งเป็นหิน ปลายมือปลายเท้าคล้ายจะหมดความรู้สึกเสียตรงนั้น จุกแน่นในอก ก้าวขาไม่ออกขึ้นมาดื้อ ๆ 

         หลังบทสนทนาระหว่างสองคนข้างหลังที่เขาไม่กล้าหันไปมองชัด ๆ ก็ตามด้วยเสียงหัวเราะทุ้มต่ำของผู้ชายที่เขาได้แต่เฝ้ามองมาแสนนาน และเป็นความจริงที่ว่าคงทำได้แค่นั้น อย่าว่าแต่คุยเล่นหัวอย่างเมื่อครู่ ปกติสามภพไม่ใช่คนมีอารมณ์ขันขนาดจะพูดจาเรื่อยเปื่อยกับใครไปทั่วเลยด้วยซ้ำ นั่นตอกย้ำความจริงว่าคู่สนทนามีความสำคัญต่ออีกฝ่ายขนาดไหน


          “อุ..!”


         แรงกระแทกเบา ๆ ตรงไหล่ทำให้เขาหลุดจากภวังค์ เหลียวหลังกลับไปมองต้นเหตุจึงได้เห็นว่าเป็นคนที่กำลังทำให้ปัญหากับความคิดของเขานั่นเอง อีกฝ่ายมัวแต่เล่นกับเด็กหนุ่มข้างกายจนถอยหลังมาชนโดยไม่ได้ตั้งใจ



         แวบหนึ่งซึ่งสายตาสองคู่สบกัน แค่ชั่ววินาทีเท่านั้น




         แต่กลับหนาวไปถึงขั้วหัวใจ




         คำขอโทษตามมารยาทจากอีกฝ่ายราวกับดังมาจากที่ไกลแสนไกล



         ผู้ชายตรงหน้ายังคงเป็นสามภพคนเดิม กับคนอื่นแล้วไม่ได้เปลี่ยนไปอย่างที่เขาเข้าใจผิดเมื่อครู่ ดวงหน้าคมคายนิ่งสนิท สายตาว่างเปล่า รอยยิ้มและเสียงหัวเราะอย่างที่เพิ่งได้ยินคงมีไว้สำหรับคนเพียงคนเดียว เด็กหนุ่มท่าทางขี้เล่นที่เขาเคยเห็นอยู่ข้าง ๆ สามภพหลายต่อหลายครั้ง คนเดียวกับที่สรัญย้ำให้ฟังบ่อย ๆ ว่าพวกเขารักกัน เขาเคยเจอทั้งสองคนพร้อมกันบ้าง แต่ไม่เคยเห็นอากัปกิริยาเต็มไปด้วยความรักชัดเจนดังคำบอกเช่นนี้มาก่อน



         คิมหันต์




         ฤดูร้อน...สดใส...เจิดจ้า..



         เขานึกอิจฉาเด็กคนนั้นเหลือเกิน



         ทั้งสองเดินผ่านหน้าเขา หยุดรอลิฟต์อยู่อึดใจหนึ่งจนประตูเปิดออกจึงก้าวขาเข้าไปข้างใน มองหน้ากันเองพร้อมรอยยิ้มเมื่อเห็นว่าไม่มีผู้โดยสารคนอื่นขึ้นอีก ประตูลิฟต์ยังไม่ทันปิดดีก็ขยับเข้าไปใกล้กัน มือเด็กหนุ่มเกาะอยู่บนเอวสามภพ และเจ้าตัวก็ยกแขนคล้องคอคนข้างกายพร้อมกับก้มหน้ามาแทบชิดคล้ายจะกระซิบอะไรบางอย่างซึ่งเขาไม่ได้ยินจากตรงนี้ ถูกกั้นออกจากโลกของคนทั้งสองโดยสมบูรณ์


         ประตูปิดลง แทนคำปฏิเสธเรียบง่ายแต่หนักหน่วง เจ็บลึก..ยาวนาน ดึงขาสองข้างของเขาให้จมดิ่งลงในความสิ้นหวัง เจ็บใจตัวเองที่มัวแต่กลัวจนยังไม่ได้พยายามจริงจังสักครั้งจนกระทั่งสายไป



          “พี่รัน..พี่!”


          “..?” 


         เสียงเขาแห้งไปหมด แต่ท่าทางที่หันไปทางรุ่นน้องพอบอกให้รู้ว่าได้ยินแล้ว


          “รู้จักเขาหรือ?”


         ชายหนุ่มโคลงศีรษะ หัวใจบีบเค้นราวกับกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงตอนเห็นทั้งสองคนเกาะกอดกันแนบชิดก่อนประตูลิฟต์จะปิดลงตรงหน้า นึกสงสัยว่าต้องเจ็บปวดอีกสักขนาดไหนจึงชาชินจนไม่ต้องรู้สึกอะไรอีก


          “แฟนเก่า?”


         อ้นถามซ้ำ แต่เขาหมดเรี่ยวแรงจะอธิบายต่อ ตอบคำถามรุ่นน้องพร้อมกับที่ย้ำตัวเองให้เข้าใจสถานะอย่างถูกต้องเสียที



          “..ไม่รู้จักกัน”




          ‘รักคนที่ไม่ได้รักเรา ไม่คิดว่าโง่หรือ’




         ถ้อยคำเสียดแทงของสรัญ ได้ยินชัดเจนในหัวยิ่งกว่าคำพูดของรุ่นน้องที่ยืนอยู่ตรงหน้าเสียอีก




          ‘ก็แค่พวกขี้แพ้’




         เขาเกลียดสรัญที่พูดความจริงนั้นออกมาอย่างแทงใจดำ





         พอกับเกลียดตัวเองที่เอาแต่หนีความจริงมาตลอด





         รัญชน์หลับตาเหนื่อยอ่อน หันหลังกลับ และคิดว่าคงไม่มาส่งรุ่นน้องที่คอนโดฯ นี้อีกแล้ว


          “ผมไปก่อน”


          “เดี๋ยวสิ!” เด็กหนุ่มร้องห้าม เดินตรงเข้ามาประชิดพร้อมกับจับแขนเขาไว้ “ไหนตกลงกันว่าไปนั่งเล่นห้องผมไง”


          “อ้น”


          “พี่รัน”


          “ปล่อยผมครับ”


         เสียงเขาสั่น และดวงตาก็ร้อนผ่าวอย่างน่าประหลาด นี่มันแย่มากทีเดียว


          “ทำไมล่ะ?”


          “ปล่อย!”


          “พี่หนีอะไร” อีกฝ่ายถามเสียงต่ำ จ้องมองเขาอย่างดื้อดึง มือข้างที่จับแขนซ้ายเขาบีบแน่นขึ้นอีก



         แต่เขาถนัดขวา



         “พี่จะแคร์อะไรนักหนากับคนอื่น!?”



         และใช่..นั่นทำเขานึกได้ว่าจะแคร์อะไรมากมาย ต่อให้เป็นน้องรหัสก็เถอะ




         พลั่ก!



         ขิมได้เตือนเฟรชชีไว้แล้ว



         รุ่นน้องผู้น่าสงสารเป็นคนแรกในรอบสองสามปีมานี้ที่โดนรัญชน์ต่อยเข้าเต็มหน้าด้วยหมัดขวาจนหงายไปด้านหลัง มือที่รั้งอยู่คลายลงในจังหวะที่เจ้าตัวเสียหลักเกือบล้มลงกับพื้น


         ท่ามกลางสายตาแตกตื่นของผู้ร่วมเหตุการณ์อีกสองสามคนในบริเวณนั้น รัญชน์วิ่งออกมานอกตัวอาคาร เกือบชนกับแท็กซี่คันหนึ่งซึ่งชะลอลงเพื่อส่งผู้โดยสารตรงหน้าพอดี ชายหนุ่มรีบมุดเข้าไปนั่ง บอกชื่อมหาวิทยาลัยตัวเองกับคนขับซึ่งยังทำหน้าประหลาดใจอยู่นิดหน่อยแต่ก็พยักหน้ารับ จังหวะเดียวกับที่โทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้น


         เขาล้วงเข้าไปในกระเป๋า หยิบมันขึ้นมาดู เมื่อเห็นว่าเป็นใครก็ลังเลที่จะรับ ได้แต่กดปิดเสียงไปก่อนแล้วจ้องอยู่อีกครู่หนึ่งจึงยอมรับสาย




         ...คนขี้แพ้อีกคน




          “อยู่ไหน?” อีกฝ่ายถามเรียบ ๆ



          “ข้างนอก”



          “จะกลับหรือยัง?”



          “กำลัง”



          “ร้องไห้หรือ?”



          “...”



         ราวกับทำนบความอดทนของเขาที่คงอยู่มาตั้งนานได้พังทลายลงในวินาทีนั้น ไหล่เขากระตุกเบา ๆ ครั้งหนึ่ง จากนั้นก็ไม่รู้ว่าน้ำตาที่ร่วงไหลอาบเต็มสองข้างแก้มนั้นมาจากไหน



          “ผมอยู่ที่อพาร์ตเมนต์”



          “..อือ”



          “งานล่าสุดเพิ่งทำเสร็จ แลบรอบนี้หินน่าดู”



         บางทีเขาน่าจะตอบอะไรบ้าง แต่ก็ควบคุมเสียงตัวเองได้ยากเย็นเหลือเกิน จึงได้แต่นั่งเงียบ ๆ ฟังที่อีกฝ่ายพูดผ่านโทรศัพท์ ช้า ๆ ทีละคำ เนื้อประโยคขาดช่วงเป็นระยะจนคล้ายจะหายใจไม่ออกเมื่อได้ยิน





          “ถ้าไม่บังคับ คุณจะมาไหม?”





         สุ้มเสียงเขาทรยศลำคอไปหมดจึงไม่ได้ตอบอะไรสักอย่าง





          “รัน”





           "..."






          “ผมคิดถึงคุณ”






         รัญชน์ชาไปหมดทั้งตัว โทรศัพท์หลุดจากมือช้า ๆ หล่นลงบนตักโดยยังไม่ได้วางสาย เค้นเสียงออกมายากเย็นเพื่อบอกคนขับว่าอยากขอเปลี่ยนจุดหมายจากที่บอกไว้ตอนแรก





         “...อึ้ก!”





         จากนั้นก็สะอื้นออกมาเป็นวรรคเป็นเวรไปตลอดทาง







- หมดยกที่ 46 –








-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-




มาต่อแล้วค่าา ตอนนี้คู่สองรันเต็ม ๆ เลย อึน ๆ หน่วง ๆ กลับไม่ได้ไปไม่ถึง เอาจริงก็เป็นพวกอ่อนไหวลึก ๆ กันทั้งคู่เนอะ
มีเฮียเพี้ยนกับอาตี๋โผล่มาให้ริษยาเบา ๆ XD

อนึ่ง แอบใส่ข้อสังเกตให้เล็ก ๆ ค่ะ เพราะว่าสองคนนี้ชื่อเล่นออกเสียงเหมือนกัน แล้วสรัญก็ไม่ยอมเรียกว่าพี่แล้วด้วย เดี๋ยวจะงงว่าบางประโยคใครพูดกันแน่
ถ้าเป็นชื่อรัญชน์ จะพิมพ์ว่า "รัน" (สะกดด้วย น.หนู ซึ่งเป็นชื่อเล่น)
ถ้าเป็นชื่อสรัญ จะพิมพ์เป็น "รัญ" (สะกดด้วย ญ.หญิง ซึ่งกร่อนมาจากชื่อจริง)
ส่วนสรรพนามเวลาสองคนนี้คุยกัน สรัญจะเรียก ผม กับ คุณ
แต่รัญชน์จะเรียก ผม กับ นาย 
ลองสังเกตดูได้ค่ะ ชื่อเหมือนกันพาลปวดหัว 555


ที่บ้านรัญชน์เป็นค่ายมวยค่ะ เคยแอบแทรกรายละเอียดไว้ครั้งหนึ่งเมื่อหลายตอนที่แล้ว เป็นเหตุผลที่ขิมขู่น้องเล็กว่าระวังโดนต่อย แต่รัญชน์เป็นพวกไม่สู้คน กลัวนั่นกลัวนี่ ยอมเขาไปเรื่อยมาตลอด แล้วปกติก็ไม่ชอบใช้กำลังด้วย


รูมเมทคนที่สี่ของคิมหันต์อยู่นี่เอง
คู่หลักรอยกหน้านะค้า ^o^ รักและคิดถึงคนอ่านเสมอ ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยียนค่า ^o^
 :L1: :pig4: :กอด1: :L2:

ตัวละครเริ่มเยอะ พยายามค่อย ๆ ปล่อยนะคะ รอบนี้เพิ่มน้องรหัสรัญชน์มาอีกสอง ขิม (ปี 2) กับอ้น(เฟรชชี่) สำหรับปี 3 ยังไม่พูดถึง เดี๋ยวเยอะไป ฮาา ส่วนอนาวิล(ตั้ม) เพื่อนรัญชน์ที่ได้ออกมาติ๊ดเดียวก่อนหน้านี้นั่นเอง ตัวประกอบอดทนสุด ๆ 555

มีของแถมนิดหน่อยรีพลายถัดไปค่ะ :D




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-07-2013 10:44:16 โดย RAINYDAY »

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
ของแถมค่ะ ^o^



ถ้าเฮียเพี้ยนเลี้ยงดี ๆ  จิ้งจอกเกรียนตัวจิ๋วอาจโตเป็นอย่างนี้ก็ได้นา





คิมหันต์กับแม่ไก่ปิ่นหยก (เวอร์ชันเดียวกับข้างบนค่ะ)
คิดถึงคู่หูดูโอนี้เหมือนกันน้า




ปิดท้าย อันนี้แอบไปพาดพิงคู่อาทิตย์ปิ่นหยกอีกเรื่องค่ะ แงงง ฝนตกแล้วเลยเวิ่น ขอแอบแปะแถมไปด้วยนิดนึง
(ดูรูปใหญ่ไม่ได้คลิกนี่นะคะ http://fc04.deviantart.net/fs71/f/2013/183/5/e/dd_rain_resize_by_xx_rainyday_xx-d6bn5xy.jpg )



พบกันยกหน้าค่า ^o^

 :กอด1: :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-07-2013 22:36:46 โดย RAINYDAY »

ออฟไลน์ SenzaAmore

  • Where troubles melt like lemon drops....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 713
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-0
อร้ายยยยยย คู่รัน-รัญชน์ หม่นหมอง ดราม่ามากมายอ่านแล้วหน่วงงงง
สงสารรัญชน์อ่ะะะ ลุ้นให้รักกะรันเร็วๆ
 ชอบคำว่า--กลับไม่ได้ไปไม่ถึง จังง  :hao5:

แอบสะดุ้งนิดนึงกะฮิสโต เพิ่งเรียนไปวันนี้เอง 555  o22

โอ่ยยย น้องคิม พี่ภพ สร้างโลกส่วนตัวไปแล้วนะ อิจฉาด้วยคน55555 :-[

มาต่อเร็วๆน้าา  :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-07-2013 23:08:36 โดย Theomen »

ออฟไลน์ Gnannanz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-3
คู่นี้หน่วงมากกกกกกกกกกกกกกกกก
อ่านแล้วลุ้นเว่อร์~~~  :mew3:

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
พี่รัญชน์คงไม่คิดจะมาแย่งเฮียเพี้ยนหรอก

ยังไงก็ยังมีนายรันอยู่ เปิดใจให้นายรันเหอะ ถึงเราจะสงสารพี่รัญชน์ยังไง แต่เราก็รักนุ้งคิมมากกว่า ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ pilar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-14
ไม่สงสารพี่รัญชน์แฮะ (พิมพ์ชื่อถูกมั้ยเนี่ย ยากเกิ๊นนนน)
ไม่กล้าสารภาพรักเค้าเอง เฮียเพี้ยนจะเมินก็ไม่เห็นแปลก ก็ไม่เคยรู้จักนี่
ให้คนมืดหม่นสองคนปลอบใจกัน ค่อยๆ รักกันไปดีกว่า 555+

แต่สังหรณ์ว่าอีกไม่นานคนอ่านได้ซดมาม่าเป็นกะละมังแน่ใช่มั้ยคะ? TT^TT

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
เห็นรูปแล้วคิดถึงอาทิตย์กับปิ่นหยกเจงๆ ตอนนี้อึนๆหม่นๆดีแท้

ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11
จกรูปล่างไปเป็นวอลมือถือเรียบร้อย ฮี่ๆๆ

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
*ตบบ่ารัญชน์เบาๆ*

อกหักตั้งแต่ยังไม่ได้บอกรักเค้า
ความรู้สึกนี้มันจี๊ดดด~~

ขอบคุณมากค่ะ +1^^

ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
เวลาอ่านเรื่องของเฮียกับคิมรู้สึกว่าโลกมันสดใส สว่างจ้า สีชมพู๊ ชมพู
เจอเรื่องของดับเบิ้ลรันเข้าไป
เหมือนพระอาทิตย์ปรับโหมด ดับวูบ
รู้สึกดาร์คมากกกกกกกกกกก
ปรับโหมดแทบไม่ทัน
 :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ toou

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-3
 :a5:2รันดราม่าแต่ชอบฟีลลิ่งแบบนี้. แต่ต้องคู่กันน๊าาาาาา

ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
คู่รอเรือเหมือนคนจะจมน้ำ   :o12:

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
2 รันเปิดใจให้กันเถอะนะ  :hao5:



 :กอด1: :L2:

ออฟไลน์ chisarachi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1019
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-1
บอกแล้วฉากจูบเรื่องปิ่นหยกมันฮอต  โอ๊ยยยยได้เห็นฉากฮอตๆเป็นรูปบ้างแล้ว
จริงๆชอบฉากจูบเรื่องปิ่นหยกทุกฉากเลย  แบบถ้าวาดออกมามันจะรู้สึกอ๊ายยย ดิ้นตายแน่ๆ :ling1:

เข้าเรื่อง น้องอ้นนี่กวนใจพี่รันมากเลยนะ สมควร อิอิ
คู่นี้ดราม่าอ่าาา ชอบกินมาม่าฮ่าๆๆ
แวะมาคู่นี้บ่อยๆนะ อารมณ์มันหมองแบบหวานๆดีๆ

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
หวังว่าสองรันจะกลบมาสดใส และทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน
สงสารน้องเฟรชชี่นะ แต่ก็สมควรโดนแหละ เป็นไงละนอนนับดาวไปเลย

คู่หูเฮียเพี้ยนกับเจ้าเบื้อกออกมาให้รันอิจฉา แบบที่ไม่ได้รู้ตัวเล้ยยยย

ขอให้รักและเข้าใจกันเร็วๆนะสองรัน
ขยับจากคู่นอนเป็น "คู่รัก"เร็วๆเน้อ :hao5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด