บทที่ 17
“ ม่าม๊า...เติ้ลดีใจ วันนี้มีปะป๊าแล้ว เติ้ลรักปะป๊าและก็ม่าม๊า ”
“.............................” ผมก็ยังลูบหัวไตเติ้ลต่อไป
“ ปะป๊ารักม่าม๊า...ม่าม๊ารักปะป๊าไหม ” ไม่นานไตเติ้ลก็ผล็อยหลับไป นั่นนะสิ ผมยังเหลือคำว่า “ รัก ” ไว้ให้พัตมันอยู่อีกหรือเปล่า
ทั้งๆ ที่มันกลับมาแล้ว ตอนแรกคิดว่าคงจะโกรธและก็เกลียดมันเอามากๆ แต่ทำไม พอโดนมันกอด มันปลอบได้ไม่นาน ก็เหมือนกับว่า..............
ผมไม่ได้โกรธหรือเกลียดอะไรมันเลยสักนิด ไม่มีเลยแม้แต่......นิดเดียว
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------- >
“ ม่าม๊า...ม่าม๊า ตื่นๆ ” เช้านี่แปลกไปกว่าเดิม เพราะอะไรนะเหรอครับ ก็เสียงนาฬิกาปลุกนี่สิมันดูแปลกๆ เรียกม่าม๊าได้ด้วย นอกจากนั้นยังไม่พอ ยังจะมีการเขย่าแขนเขย่าขาเพิ่มมาอีก พอลืมตาตื่นมาดูปุ๊บ ที่แท้ก็เติ้ลนี่เอง เจ้าตัวเล็กนั่งอยู่ข้างๆ ผม และยังไม่หยุดเขย่าอีก
“ ม่าม๊าตื่นแล้ว ” แถมทำหน้าดีใจอย่างกับถูกหวยแน่ะ
“ อือ...อะไรครับไตเติ้ล กี่โมงแล้วนี่ ” เจ้าตัวเล็กก็หยิบไอโฟนผมมาให้ บร๊ะ นี่เพิ่งตีห้ากว่าๆ เอง ยังไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ
“ ตีห้ากว่าๆ เอง ไตเติ้ลตื่นมาทำไมครับ นอนก่อนน๊า ม่าม๊าเหนื่อยจัง ” เพราะตอนไปเข้าค่ายกว่าจะได้นอนก็เที่ยงคืน ตื่นเช้ามาวิ่งคุมรุ่นน้องอีก แถมกลับมาก็เจอเรื่องให้คิดมากอีก
“ ม่าม๊า...เดี๋ยวปะป๊ามารับนะ ” เจ้าตัวเล็กตอบเสียงใส แล้วปีนมานั่งทับบนตัวผมอีก ถึงแม้จะตัวเล็กๆ แต่ถ้ามานั่งทับอกกันแบบนี้ มีสิทธิ์ลาขาดจากโลกได้เหมือนกัน
“ อือ ไตเติ้ลครับ ม่าม๊าหนักนะครับ มานอนก่อนเร็วครับ เดี๋ยวม่าม๊าพาไปอาบน้ำก็ได้นะ ” ผมก็พยายามกล่อม และก็ดึงเจ้าตัวเล็กลงมานอนกอดข้างๆ แต่ไม่นานเจ้าตัวเล็กก็ดิ้นขลุกขลัก ลุกขึ้นมาเหมือนเดิม
“ ม่าม๊า ขี้เซา...ไม่ตื่นเติ้ลจะเอาไม้จิ้มตูด ” สปริงตัวลุกขึ้นมาเลยครับ ใครสอนแบบนี้ลูกผมเนี่ย
“ ฮื่อ ไตเติ้ลครับ ใครสอนแบบนั้นกันหือ ” ขยี้ขี้ตาออกได้ ก็จับไตเติ้ลมานั่งตัก กอดไว้แน่นๆ เดี๋ยวนึกทำอะไรแผลงๆ อีก
“ พี่ตาพูด ” นั่นไง ต้องตา แล้วทำไมต้องจำแต่อันแผลงๆ ด้วยละครับ
“ ไม่จำนะครับ มันไม่ดีรู้ไหม...แล้วตื่นแต่เช้าๆ นี่ระวังไปหลับในห้องไม่ได้เล่นกับเพื่อนน๊า ”
“ เติ้ลไม่เล่น ภูแกล้งเติ้ล ” เจ้าตัวเล็กหน้ามุ่ย ยู่ปาก พูดเสียงเหวี่ยงๆ นี่ไปโรงเรียนไม่ถึงอาทิตย์ มีเพื่อนแกล้งแล้วเหรอนี่
“ เขาอยากรู้จักไตเติ้ลไงครับ เขาไม่ได้แกล้งหรอกครับ ถ้าใครแกล้งบอกพี่ต้องตาเลย แล้วภูแกล้งอะไรไตเติ้ลครับ ”
“ ภูหอมแก้ม...เติ้ลอาย ” เด็กสี่ขวบอายเป็นแล้วเหรอนี่ แล้วแกล้งอะไรไม่แกล้ง มาหอมแก้มนี่นะ ไตเติ้ลเองก็มุดหน้าเข้ากับอกผมอยู่นั่นแหละ
“ ไม่มีอะไรหรอกครับ ไตเติ้ลน่ารักไง เพื่อนเลยอยากรู้จักครับ ”
“ เหรอ ”
“ ครับ...แล้วตกลงนี่ คงไม่นอนต่อแล้วใช่ไหมครับ งั้นเดี๋ยวไปอาบน้ำกันครับ ” ผมพูดจบก็พยุงไตเติ้ลลุกขึ้นด้วย กอดไม่ปล่อยจริงๆ
“ เย้ๆ...อาบน้ำรอปะป๊า ปะป๊ามารับ ” น่าแปลกนะครับ ถ้าปกติแค่ผ่านไปวันเดียว ไตเติ้ลก็จะไม่พูดถึงเลย แต่กับพัต ไตเติ้ลกลับจำได้และก็รอขนาดนี้ หรือว่านี่จะเป็นสายสัมพันธ์พ่อลูกกันจริงๆ
หากจะนั่งกล่อมกันไปแบบนี้ ผมว่าอีกหน่อยก็คงได้หลับกันไปอีกแน่ และกว่าที่จะตื่นก็คงไม่ทันส่งไตเติ้ลไปโรงเรียนเป็นแน่แท้ ผมวางไตเติ้ลลงให้ยืนเอง และก็เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัว แล้วจูงไตเติ้ลไปห้องน้ำ และผมก็ปิดประตูลงกลอนกันพวกโรคจิตแอบส่องชาวบ้าน
“ แกร๊ก ” ( ฮือๆ เนย์นะเนย์ ปิดประตูลงกลอนทำไม ว่าจะแอบไปส่องไตเติ้ลซะหน่อย เชอะ)
“ ปะป๊ามาแล้วม่าม๊า ” ไตเติ้ลที่กำลังนั่งรอทานข้าวต้มตอนเช้าอยู่ พอได้ยินเสียงรถวิ่งเข้ามาก็วิ่งออกไปดู สักพักก็วิ่งกลับเข้ามาบอกผม และก็วิ่งออกไปอีก ส่วนต้องตารายนั้นก็คงยังอาบน้ำอยู่เลย ไม่นานพัตก็เดินเข้ามา พร้อมกับไตเติ้ลที่ขี่หลังพัตกลับเข้ามาด้วย พอได้เห็นไตเติ้ลยิ้ม หัวเราะแล้ว ตอนแรกที่คิดว่าจะว่าพัตมันสักหน่อย ผมก็นึกไม่อยากทำลายรอยยิ้มของไตเติ้ลแล้วละครับ
“ เอ้า ลงได้แล้วครับ เดี๋ยวปะป๊าป้อนนะ ” พอมาถึงโต๊ะ พัตมันก็ย่อตัวให้ไตเติ้ลลงไปนั่งเก้าอี้ แล้วนี่มันยังจะป้อนข้าวต้มไตเติ้ลอีก เรารึก็อุตสาห์หัดให้ไตเติ้ลกินเองตั้งนาน
“ ไม่ต้องป้อนเลยนะ ไตเติ้ลทานเองได้.......ใช่ไหมครับ ไตเติ้ล ” พูดดักคอมัน เดี๋ยวมันจะเสี้ยมไตเติ้ลอะไรอีกก็ไม่รู้ แล้วก็หันไปพูดเสียงหวานๆ กับไตเติ้ล ไตเติ้ลชอบฟังมาก
“ แต่เติ้ลอยากให้ปะป๊าป้อนนี่นา ” เพล้ง สงสัยกระจกบ้านข้างๆ แตกครับ
“ หึๆ ” มันแอบหัวเราะเยาะ
“ ไตเติ้ลทานเองได้แล้วนี่ครับ อย่าดื้อสิ ” วางหม้อลงแล้วก็หันไปเอ็ดหน่อย ไตเติ้ลหงอยลงไปเลย
“ ม่าม๊าใจร้าย ” อ้าว มาไม้นี้ นั่งซึมก้มหน้า
“ โอ๋ๆ ไม่เป็นไรนะครับ เดี๋ยวปะป๊าจะป้อนเอง ไม่ต้องไปง้อม่าม๊าใจร้ายเลยครับ ” ไอ้นี่ มึงจะหัดให้ลูกเป็นง่อยหรือไง
“ จริงน๊า ปะป๊า...เติ้ลรักปะป๊าที่สุดเลย...” นี่มัน....อย่าบอกนะว่ามันคิดจะดึงไตเติ้ลเข้าพวก
“ ม่าม๊า...โป้งแล้ว ” แล้วไตเติ้ลก็ยื่นแขนออกมาพร้อมกับนิ้วโป้งเล็กๆ หันใส่ผม นี่ตกลง มันเป็นแผนของไอ้พัตใช่ไหม ผมรีบตักข้าวต้มมาวางไว้ตรงหน้าไตเติ้ล แล้วก็นั่งข้างๆ เอื้อมไปกอด แต่....แต่ไตเติ้ลงอน สะบัดหน้าไปหาไอ้พัต นี่...แค่วันเดียว มึงล้างสมองไตเติ้ลหมดเลยเหรอ
“ ไตเติ้ลค้าบ...ม่าม๊าขอโทษน๊า..ดีกันน๊าครับ ” นี่ผมอุตสาห์ลงทุนอ้อนแล้วนะ ไม่เคยอ้อนใครขนาดนี้มาก่อน แต่ไตเติ้ลก็ยังไม่หันหน้ามาอยู่ดี
“ ไตเติ้ลครับ ยกโทษให้ม่าม๊านะครับ น๊า ” สุดๆ แล้วนะ
“ ไตเติ้ลครับ ม่าม๊าขอโทษแล้ว ยกโทษให้ม่าม๊านะครับ เดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะ ” ไอ้พัตมันกล่อมไตเติ้ล คิดเหรอว่าพูดแค่นั้นแล้วไตเติ้ลจะยอม ขนาดผมเป็นม่าม๊า พูดไปตั้งเยอะยังไม่ยอมเลย
“ ก็ได้...แต่ปะป๊ากะม่าม๊าต้องป้อนเติ้ลด้วย ” อ่าฮะ นี่ไตเติ้ลถูกล้างสมองไปแล้วจริงๆ สินะ
“ ได้ครับ ปะป๊าจะทำตามทุกอย่างเลย แล้ว......คุณม่าม๊าละครับ จะทำตามไหม? ” มันเน้นคำว่า ม่าม๊า แล้วยังมายักคิ้วให้ผมอีก ถ้าไม่ติดว่ามือผมกอดไตเติ้ลอยู่นะ ข้าวต้มในชาม ได้แปะอยู่บนหน้ามึงแล้ว
“ ม่าม๊า...” อย่ามาอ้อนกู กูโกรธอยู่นะ
“ ได้...ครับ ” ในที่สุดผมก็แพ้ทางลูกจนได้
แล้วผมก็จำต้องไปเอาช้อนมาอีกคัน เพราะไม่อยากใช้ช้อนคันเดียวกันกับไอ้พัตป้อนไตเติ้ล แต่พอป้อนได้ไม่ถึงครึ่งชาม มาอีกแล้วครับ ไอ้การกระซิบกระซาบกัน ระหว่างสองตัวนั้น ไม่เรียกว่าคนแล้วครับ ผมงอนไตเติ้ล
“ ม่าม๊า......” อย่าเรียกกูด้วยน้ำเสียงและสายตาแบบนั้น กูแพ้ทางสุดๆ
“ ม่าม๊า ป้อนปะป๊าหน่อยสิ ” “ แป๊ก ” อย่าสงสัยว่าเสียงอะไร ช้อนในมือตกลงกระทบกันโต๊ะ ส่วนไตเติ้ลเองก็ใช้สายตาแบบ...........น่าสงสารสุดๆ น้ำตาจะหล่นอยู่แล้ว ผมเดาว่าถ้าหากผมตอบตกลง ไอ้หน้าตาที่อมทุกข์แบบนี้จะหายเป็นปลิดทิ้งเลย
“ อย่าไปบังคับม่าม๊าเลยครับ...ปะป๊าให้ไตเติ้ลป้อนเองก็ได้ครับ เพราะเรา...ก็แค่คนที่ไม่ถูกรัก ” อย่ามาทำเสียงและสีหน้าสลด แกด้วยไตเติ้ล อย่านะ บอกว่าอย่าไง เอาแล้ว เริ่มแล้ว
“ ม่าม๊า ไม่รักเติ้ล ” น้ำตาหล่นลงมาหยดหนึ่ง ยกธงขาวครับ
“ ก็ได้ครับ ” พอพุดจบปุ๊บ ผิดไปจากที่คาดไว้ซะที่ไหน ไอ้น้ำตาที่หล่นออกมา ก็หายไปหมด แถมยังยิ้มสะหน้าบาน นี่แค่วันเดียว มึงทั้งสองคนหลอกกูได้หลายครั้งแล้วนะ
“ เย้ๆ ปะป๊าอย่าลืมพาเติ้ลไปกินติมน๊า ” แล้วมัน ก็ปรบมือดีใจใหญ่ นี่ผมมีค่าน้อยกว่าไอติมเหรอ สรุป ผมถูกหลอก นี่เด็กสี่ขวบมันเล่นละครตบตาได้เก่งขนาดนี้เลยเหรอ ขอมอบรางวัลออสการ์ให้มึงเลย
“ ครับปะป๊าจะเหมาให้หมดเลย แต่...ปะป๊าเพิ่งกลับมา ปะป๊าไม่รู้สิครับว่าเขาขายที่ไหน คงต้องให้ม่าม๊าพาไปแล้วละครับ ” แล้วกูเกี่ยวอะไรด้วย
“ ม่าม๊า...” กูรู้นะว่ามึงจะพูดว่าอะไร ฉะนั้น ต้องปิดปากเอาไว้
“ อ้าปากครับไตเติ้ล..” สั่งเสียงดุๆ พร้อมตักข้าวจนพูนช้อน ไม่ปงไม่เป่ามันแล้ว มันหายร้อนแล้วละ ยังจะมาทำหน้าทำตาอีก
“ อ้ากว้างๆ สิครับ...ไตเติ้ล ” กดเสียงต่ำๆ พร้อมกับมองตาแข็งๆ ไตเติ้ลก็เหวอไปเลย
“ ม่าม๊า...” อ้าปากได้ก็ยัดลงไปเลย แล้วยังทำท่าจะพ่นออกมาอีก
“ อย่าพ่นออกมานะ...กลืนลงไปให้หมด ” พอพูดแบบนั้นแล้ว ไตเติ้ลก็ค่อยๆ กลืนลงไป สงสารอยู่หรอก แต่อย่าทำให้โกรธอีกนะ ยังเหลืออีกหนึ่งตัว
“ หึ มาสิพัต เดี๋ยวจะป้อนให้แบบจุกอกไปเลย ” ตักจนพูนจนล้นช้อนออกมา ไอ้พัตมันก็หน้าตาเหรอหรา ส่วนไตเติ้ลก็ตาโตเงียบกริบ
“ เอ่อ...” มึงอยากให้กูป้อนเองนะ
“ ไม่รักไตเติ้ลแล้วเหรอ...พัต ” กดเสียงต่ำๆ นิ่งๆ พร้อมกับลุกขึ้น ยื่นช้อนไปจ่อตรงปากมัน มันก็เลยหลับตาลง ก่อนจะลืมขึ้นมาแล้วยิ้มแห้งๆ ให้ พร้อมกับค่อยๆ อ้าปากงับ แต่ผมไม่ยอมหรอก ยัดเข้าไปทีเดียว จนมันสะดุ้ง แค่นั้นยังไม่พอ ผมก็จ้วงตักขึ้นมาป้อนมันอีกคำ อีกคำ และอีกคำ จนหมดชาม...
“ ม่าม๊า...เติ้ลปวดฉี่ ” ตอนนี้ไตเติ้ลก็นั่งดูการ์ตูนอยู่ ข้างๆ ก็ไอ้พัตนั่งอยู่ด้วย ส่วนต้องตาก็กำลังนั่งทานอยู่กับพี่มย์และก็พี่เวย์อยู่ หลังจากมื้ออาหารอันรันจวนใจจบลง ก็ไม่มีเสียงใดๆ ให้หนวกหูอีก
“ ก็ให้ ปะป๊าของไตเติ้ล พาไปสิครับ ” ผมหันไปพูดกดเสียงใส่ ไตเติ้ลก็สะดุ้งนิดๆ
“ แต่...แต่ม่าม๊า ”
“ พาไตเติ้ลไปเข้าห้องน้ำสิครับ...
คุณปะป๊า ” ผมเงยหน้าสูงอีกนิดไปบอกไอ้พัต
“ เอ่อ..ไปครับไตเติ้ล ปะป๊าพาไป ” มันลุกขึ้นแล้วก็ส่งมือให้ไตเติ้ล ไตเติ้ลก็ยู่หน้าส่งมือไปให้ ไม่วายตอนจะพ้นประตู ยังหันมาทำตาใสใส่อีก ขอบอกไม่หลงกลแกหรอก
“ คนเรา งอนได้แม้กระทั่งเด็กสี่ขวบ ” เสียงแว่วๆ มาจากโต๊ะทานข้าว พี่เมย์นั่นแหละ
“ ก็ดูทำสิ ”
“ เฮ้อ...หวังว่าเย็นนี้คงไม่มีเหตุฆ่าหมกส้วมใครหรอกนะ ” พูดเหมือนผมจะทำอย่างนั้นแหละ แต่...มันก็ไม่เลวเหมือนกันนะ...ฆ่าหมกส้วม ฮ่าๆๆ
“ อย่าบอกนะว่าคิด...เลิกๆ บ้างซะเถอะ ไอ้จงเกลียดจงชังกันนะ แกก็เห็นไม่ใช่เหรอว่าไตเติ้ลมีความสุขขนาดไหน จะเห็นก็มีแต่แกนี่แหละ ที่ดูจะเป็นทุกข์อยู่คนเดียว ” ตอนแรกก็กะจะเถียงสักนิด แต่พอได้ยินแบบนี้แล้ว มันก็ทำให้ฉุกคิดขึ้นมาได้ นั่นสิ ไตเติ้ลยิ้ม ไตเติ้ลหัวเราะ ไตเติ้ลมีความสุข
“ ซึ้งละสิ ”
“ เปล่าครับ...แค่ไม่คิดว่า พี่เมย์จะพูดอะไรดีๆ ออกมาจากปากได้เท่านั้นเอง ”
“ ไอ้เนย์...แกด่าพี่เหรอ ”
“ เปล่าครับ...”
“ พอเถอะเมย์ อย่าไปเถียงน้องเลย เราเองก็โตซะเปล่าๆ ยังไปทะเลาะกับน้องอีก ” แม่ที่เดินลงมาก็ดุพี่เมย์เข้าให้ ผมก็แอบสะใจเล็กๆ
“ เราเองก็ด้วยเนย์...เป็นน้องสะเปล่า แทนที่จะเคารพพี่ เฮ้อ...”
“ ทะเลาะกันทำไม ตารำคาญแล้วนะ ” ต้องตาที่อยู่เงียบๆ โพล่งขึ้นมา
“ ฮ่าๆ เห็นไหม ขนาดลูกมันยังรำคาญเลย ”
แล้วก็ถึงช่วงที่เรียกได้ว่า อึดอัด ทรมาน ปานจะขาดใจตายไปเลย วันนี้ต้องตาพี่เมย์ไปส่ง ดังนั้น พัตจึงไปส่งไตเติ้ล แต่ทำไมต้องหนีบผมมาด้วย แล้วรถนี่มัยจะติดไปถึงไหน
“ ม่าม๊าเป็นอาราย ” ไตเติ้ลที่นั่งอยู่เบาะหลัง เพราะอยากให้ผมนั่งเบาะหน้า แต่มันคงเป็นความคิดคนขับรถแน่
“ ไม่มีอะไรครับ ”
“ ม่าม๊าคงไม่อยากมากับพวกเรานะสิครับไตเติ้ล ” นี่มึงช่วยไปห่างๆ เรื่องนี้ได้ไหม
“ ทำไมละม่าม๊า ” ไอ้นี่ก็บ้าจี้ตามมันอยู่ได้
“ ม่าม๊าแค่เหนื่อยนิดหน่อยเองครับ ไม่มีอะไรหรอก ”
“ จริงน๊า ไม่โกรธเติ้ลน๊า ”
“ ครับ ไม่โกรธ ” แต่กูงอน
และแล้วก็มาถึงโรงเรียนไตเติ้ลจนได้ รู้สึกได้ว่าอากาศบริสุทธิ์มากกว่าอยู่ในรถเสียอีก ต้องตาก็มาถึงก่อนหน้านี้แล้ว และก็กำลังวิ่งเล่นกับเด็กๆ คนอื่นอยู่
“ ปะป๊ามารับเติ้ลด้วยจิ ”
“ โอเคครับ แต่ม่าม๊านี่สิ...” อย่าเชียวนะมึง
“ ม่าม๊าก็จะมารับไตเติ้ลด้วยครับ ”
“ ดีจัง ” ทีอย่างนี้ละหน้าตาระรื่นเสียจริง
“ เดี๋ยวตอนเย็นปะป๊ามารับไปกินติมนะครับ ”
“ จริงเหรอปะป๊า ” แล้วไตเติ้ลก็ดีใจเอายกใหญ่ ปะป๊าอย่างนั้น ปะป๊าอย่างนี้ ทีกับเราแต่ก่อนไม่เห็นทำแบบนี้เลยชิ ไอ้เด็กหลงพ่อ
“ จริงสิครับ ชวนพี่ต้องตาด้วยนะ ”
“ ฮะ ”
“ มาให้ปะป๊าหอมแก้มหน่อยเร็ว แล้วจะได้รีบเข้าไปเล่น ”
“ ฟอดด ม่าม๊าด้วย ”
“ ฟอดดด ....ไปได้แล้วครับ ”
“ ไปนะ บ๊ายบาย ” ทำแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วไตเติ้ลก็วิ่งเข้าไปเล่นกับต้องตา ทีนี้ก็เหลือแค่ผมกับพัตสองคน
“ กลับบ้านกันเนย์ ” นั่นไง
“ กลับเองได้ นายก็กลับบ้านนายได้แล้ว ”
“ หือ...เนย์ลืมอะไรไปหรือเปล่า? ”
“ อะไร ”
“ ก็ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป....พัตจะมาอยู่กับเนย์และก็ไตเติ้ลไง ” นี่ผมลืมไปได้ไง
“ แต่....”
“ ไม่ต้องห่วง พัตเก็บเสื้อผ้าไว้เรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อคืนนี้ เช้านี้ก็แค่หิ้วใส่ท้ายรถมา นี่ก็มาส่งไตเติ้ลก่อน เลยยังไม่ได้ขนลงเลย ฉะนั้น ปะ กลับบ้านกันเนย์ เดี๋ยวต้องจัดห้อง จัดตู้ จัดเตียงอีก คงนานนะ เร็วๆสิ ....หรือว่า ต้องให้พัตมาอุ้มขึ้นรถเหมือนไตเติ้ลด้วย ”
“ เฮ้ย...หยุดเลยนะ ไอ้บ้าพัต เดินไปเองได้ ”
“ หึๆ ครับ ”
และสรุปว่าวันนี้แทบจะทั้งวัน ผมกับไอ้พัตก็ง่วนอยู่กับการจัดห้อง หวิดจะตีกันตายไปก็หลายยก เรื่องที่นอนนี่หละ ผมเองเอาฟูกมาปูไว้ข้างๆ ส่วนมันก็อยากนอนบนเตียง เถียงกันอยู่นาน สุดท้าย แม่ง.................มันยกฟูกขึ้นมาบนเตียง แล้วบอกว่า
“ ก็เนย์อยากให้พัตนอนฟูกนี่ พัตก็นอนแล้วไง ” ไอ้เหียก มึงมันด้านสุดๆ
และพอมาถึงตอนเย็น โชคดีหน่อยที่ผมไม่ต้องไปทนกินไอติมกับมันและก็ไตเติ้ล ต้องขอบคุณฟ้าจริงๆ ที่ส่งฝนลงมาดับไฟในอกผม ผมคิดว่าถ้าหากไปกินไอติมคงไม่วายโดนมันเล่นงานอีกแน่
แต่มันก็ยังไม่หมดกับวงจรอุบาทนี้ ก็เพราะยังเหลืออีกอย่างที่ผมต้องปวดหัวสุดๆ
“ ม่าม๊า...อาบน้ำให้เติ้ลหน่อยน๊า...ปะป๊าด้วย ” นั่นปะไร ไอ้เด็กเวร
“ ไม่ครับ ”
“ ม่าม๊า อาบให้เติ้ลหน่อยจิ ” ไอ้เรื่องอื่นพอทนได้ แต่จะให้ไปแก้ผ้าอาบน้ำด้วยกันนี่ไม่ไหว ถ้ามีแค่ไตเติ้ลก็ไม่เป็นไร แต่มันมีไอ้พัตมาด้วยนี่สิ
“ เลือกเอาครับ ว่าจะให้ ปะป๊าอาบให้ หรือจะเน่าอยู่แบบนี้ ”
“ ม่าม๊าอะ ”
“ ปะป๊าอาบให้ไตเติ้ลคนเดียวก็ได้ครับ ปะไปอาบน้ำกัน ” แล้วมันทั้งคู่ก็พากันไปอาบน้ำ ไม่นานก็ออกมา ผมก็รีบวิ่งเข้าต่อทันที และทีนี้พออกมาก็เพิ่งเจอปัญหาหนักสุดๆ ของที่สุดในรอบปี
“ ม่าม๊ากับปะป๊านอนกอดเติ้ลด้วย ” นั่นไงกูว่าแล้ว ไตเติ้ลนั่งอยู่กลางส่วนไอ้พัตมันนั่งข้างซ้าย ดังนั้นจึงเหลืออีกด้านเอาไว้ให้ผม
“ ม่าม๊า ” อย่าเรียกกูด้วยเสียงแบบนั้น กูขนลุกแปลกๆ
“ ม่าม๊าหอมแก้มเติ้ลฝันดีหน่อย ” พอนั่งลงได้ก็อ้อนใหญ่เลย ผมก็เลยรีบๆ หอมแก้มให้เสร็จๆ ไป
“ ฟอดด...ปะป๊าด้วย....ฟอดด ” แล้วไตเติ้ลก็หัวเราะคิกคัก ก่อนที่จะหลุดอีกประโยคหนึ่งออกมา
“ ม่าม๊ากะปะป๊าหอมแก้มเติ้ลพร้อมกันด้วยน๊า ” แล้วไตเติ้ลก็หันซ้ายหันขวา ส่งสายตาใสๆ มาให้
“ เอาน๊า หลับตาด้วยจิ หนึ่ง สอง ......” ผมก็กลั้นใจทำตามที่ไตเติ้ลบอก พัตเองมันก็ทำเหมือนกัน แต่พอเอาปากไปโดนเท่านั้นแหละ ทำไม?.............................
ทำไม...มันไม่ดัง ฟอดด ละ พอลืมตาขึ้นมาก็ถึงกับผงะ หน้าไอ้พัต นี่อย่าบอกนะว่า.............ไอ้สัมผัสเมื่อกี้.......มันคือ
จูบ...ผมอึ้งอยู่นาน ก่อนมองไปยังไตเติ้ลที่ตอนนี้ ล้มตัวลงนอนเอามือปิดหน้าหิดตาเอาไว้ แล้วหัวเราะคิกคัก นี่สรุปมันเป็นแผนใช่ไหม ไอ้พัตเองก็ยิ้มให้ และก็หันไปตีมือกันแปะๆ กับไตเติ้ล
“ เก่งมากครับ ลูกปะป๊า เก่งที่สุดเลย ”
“ อย่าลืมขนมน๊าปะป๊า ” นี่สรุป มึงเห็นขนมดีกว่ากูงั้นเหรอ ได้...
“ ไอ้พัต...ไตเติ้ล...”“ ฮะ ม่าม๊า..” ไตเติ้ลหันมามองหน้าใส ไอ้พัตก็ขมวดคิ้ว และผมก็โพล่งเสียงดังใส่
“ แกสองคน...ลงไปนอนโซฟาเลยไป ”
“ ไม่น๊า ม่าม๊า....”-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- >
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- >
ไม่มีอะไรจะ Talk ฮ่าๆๆๆๆ
เอาเป็นว่า..........บ๊ายบายครับ