พิเศษ :ไตเติ้ล-???:
“ ไม่เอานะ ภู...พี่ตาช่วยด้วย ” และทุกๆ เช้าของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ก็ต้องมีเสียงแบบนี้ดังขึ้นทุกเช้า โดยหลังจากสิ้นสุดเสียงนั้นแล้ว ไม่นาน ก็จะมีเด็กชายคนหนึ่งที่วิ่งหน้าตาตื่น เด็กชายที่ว่า ก็คือไตเติ้ล เด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้อง 1 ผิวขาว ตัวเล็ก ผอม และที่ขาดไม่ได้ทุกคนให้ความเห็นว่า “ น่ารัก ” แต่ถึงอย่างนั้น ก็มีดีกรีเป็นนักวิ่งเหรียญทอง ซึ่งก็คงมีคำถามจากคนต่างถิ่นว่า “ ทำไมตัวเล็กๆ แบบนี้ถึงได้แชมป์มาราธอนละ ” ซึ่งเด็กนักเรียนของโรงเรียนนี้ทุกคนก็จะตอบแบบเดียวกันว่า “ มาดูสิ ว่าตัวเล็กๆ แบบนั้นนะ ซ้อมวิ่งทุกเช้าเลย ”
ส่วนอีกคนที่วิ่งตามหลังมา ก็เป็นเด็กผู้ชายเช่นเดียวกัน คนนั้นคือ ภูผา เด็กชายหัวโจก เด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้อง 3 ซึ่งแน่นอนว่า ต้องหัวอ่อนกว่าเด็กห้อง 1 แน่ ภูผา ผิวสีแทน หน้าคมสัน สูง สมส่วน และทุกคนบอกว่า “ หล่อ ” กำลังวิ่งตามหลังอีกคนไป ซึ่งถ้าหากว่าไม่ได้เป็นนักกีฬา คงวิ่งตามไม่ทันแน่นอน เขาเป็นนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียน แต่ถ้าถามว่าทำไม ต้องวิ่งตามเด็กอีกคนด้วยละ ซึ่งทุกคน (ยกเว้น ไตเติ้ลที่ไม่รู้) ก็จะตอบว่า “ เขากำลังจีบกันอยู่ ” แต่คงไม่มีใครเชื่อหรอก ว่าการจีบจะดูน่ากลัว มากกว่าน่ารักขนาดนี้
ภูผา วิ่งตามไตเติ้ลพร้อมกับที่มือถือยอดใบไม้วิ่งตามอยู่ เป็นใครก็คงต้องบอกว่า “ แค่ใบไม้ กลัวอะไร ” แต่ถ้าหากว่ามีเพียงแค่ใบไม้เท่านั้น ไตเติ้ลคงจะไม่กลัวหรอก แต่ที่วิ่งหนีนี่ ไม่ใช่ใบไม้ แต่เป็นหนอนที่อยู่บนใบไม้นั่นต่างหาก ใครจะไม่รู้ละ ว่าไตเติ้ลกลัวหนอนขนาดไหน เห็นจะมีแค่คนเดียวนั่นแหละที่ไม่กลัวอะไรเลย และทุกคนต้องกลัวเธอเท่านั้น
“ หยุดนะ นายภูผา เลิกจีบน้องฉันด้วยวิธีแปลกๆ แบบนี้สักที ” และเด็กสาวที่ปรากฏกายออกมายืนเป็นที่กำบังให้กับไตเติ้ล จากภูผา ที่จีบด้วยวิธีประหลาดๆ ก็คือ ต้องตา เด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้อง 1 ห้องเดียวกันกับไตเติ้ล ผิวขาว สวย และสูงกว่าไตเติ้ล และมาพร้อมกับสิ่งที่ตรงข้ามกับทุกสิ่งที่เห็นเพียงภายนอก “ โหด ” นี่คือสิ่งที่ทุกคนไม่อยากพบ
สองศรีพี่น้อง ต้องตา กับไตเติ้ล ต้องตาเป็นผู้หญิง แต่เข้มแข็งกว่า ไตเติ้ล ที่เป็นผู้ชาย มันคงจะน่าแปลกสำหรับที่อื่น แต่ไม่ใช่ที่นี่ ถ้าหากทุกท่านรู้ว่า ไตเติ้ลคนน้อง ถูกหนุ่มๆ รุมจีบ มากกว่าต้องตาที่เป็นพี่สาว แล้วละก็ ทุกท่านจะไม่แปลกใจเลย เพราะไตเติ้ล ไม่ค่อยสู้คน แต่ต้องตา สู้ทุกคน ไตเติ้ลหัวอ่อนในเรื่องแบบนี้ แต่ต้องตาหัวไวกว่ามาก ไตเติ้ลน่ารัก ทุกคนจึงรักไตเติ้ล แต่รักมากก็ย่อมมีคนเกลียดมากเหมือนกัน นั่นเองทำให้ต้องตา ต้องเข้มแข็งและแข็งแกร่ง จนคนอื่นต้องฉายาให้เธอว่า “ สวยขาโหด ” ไม่ว่าใครที่ป้อล้อไตเติ้ล ต้องตาจะจัดการทุกคน แต่ไม่รู้ทำไม กับคนที่ชื่อ ภูผา ต้องตาถึงยังกำจัดไม่ได้สักที ข้อนี่เป็นข้อเดียวที่ทุกคนยังหาสาเหตุไม่ได้
“ อะไรยัยตา ถอยไปสิ ” ภูผาก็ยังเป็นภูผา ไม่หวั่นเกรงสิ่งใดสมชื่อ แม้แต่ต้องตาที่เป็นที่ขยาดของชายหนุ่มเกือบทุกคน และก็นับว่าเป็นคนเดียวที่ไม่กลัวเกรงต้องตาขาโหด
“ อ้อ เหรอ...ถ้าอย่างนั้นนายเองก็ช่วยกรุณาเอาไอ้หนอนน้อยชาเขียวเหี่ยวๆ นั่น เก็บเข้ากระเป๋ากางเกงนายด้วยละกันนะ ” ต้องตาเองก็ใช่จะเก่งแต่กำลัง เรื่องจิกกัดก็ใช่ย่อยเช่นกัน ภูผานิ่งไปก่อนสักพักเพื่อรอสมองประมวลผลคำพูดของต้องตาอยู่ครู่หนึ่ง แต่กว่าที่จะนึกขึ้นได้ ทั้งต้องตาและไตเติ้ลก็หายไปแล้ว
“ นี่ยัยป้าต้องตา กลับมาเดี๋ยวนี้นะ มาว่าลูกชายฉันกระจิ๋วหริวแบบนี้ แล้วหนีหายไปเลยนะ ฮึ่ย ” เมื่อตะโกนออกไปแล้ว แต่กลับไม่เห็นวี่แววว่าจะมีคนที่ชื่อต้องตาแสดงตัวออกมา ภูผาก็สลัดหนอนทิ้ง แล้วเอาดอกไม้ (ที่เหลือเพียงใบเท่านั้น) เหน็บกระเป๋าเสื้อนักเรียน แล้วเดินกลับไปจับกลุ่มกับเพื่อนเหมือนเดิม
“ ฮ่าๆๆ เป็นไงไอ้ผา จีบติดหรือเปล่าวะ ” ทันทีที่ภูผา หรือผา ส่วน ภู นั้นภูผาบอกว่า เอาไว้ให้แค่ไตเติ้ลเรียกได้คนเดียวเท่านั้น ทันทีที่นั่งลงได้ก้นยังไม่อุ่นเลยด้วยซ้ำ บอส เพื่อนของภูผา ทั้งยังพ่วงตำแหน่งหัวหน้าห้อง และก็เพื่อนสนิทเขา ก็เอ่ยแซวออกมา เพียงเพราะเห็นว่าเพื่อนหน้างิกกลับมา นี่ก็คงโดนต้องตาเล่นอีกแล้วละสิ
“ ดูหนังหน้ามันดิ บูดยังกับตูดเป็ด คงจะติดหรอก ” เพื่อนอีกคนเอ่ยออกมา มันมีนามว่า เวฟ
“ ฮ่าๆ ก็ดูวิธีจีบของมันสิ เอาอะไรไปจีบไม่เอา ดันเอาอันไอ้ที่เขากลัวไปจีบ ถ้าจีบติดนี่กูก็ว่าน่าจะแก้ผ้าฉลองให้มันหน่อย เดินรอบโรงเรียนสักสิบรอบ ฮ่าๆๆๆ ” เนสที ก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ตอกย้ำเพื่อนเข้าไปอีก
“ พวกมึงไม่รู้อะไร ไอ้เหี้ยผาอยากให้ไตเติ้ลเกลียดนะสิวะ ”
“ อ้าว ทำไมวะ ชอบเค้า แล้วไปทำให้เค้าเกลียดทำไม ”
“ มันบอกกูว่า.......”
“ ว่า...................”
“ เกลียดอะไรได้อย่างนั้นวะ ฮ่าๆๆๆ นี่สงสัยเค้าคงจะไม่เกลียดแล้วละมั้ง แต่เค้าไม่ชอบขี้หน้าเลยต่างหากละ ฮะๆๆ ”
“ แหวะ ฮะๆๆ มึงคิดได้ไงวะ ฮะๆๆ ” เพื่อนทั้งกลุ่มยังประสานเสียงหัวเราะกันเสียงดัง ทำให้นักเรียนแถวนั้นหันกลับมามองทางกลุ่มเขาหมด แต่มีเหรอที่พวกเขาจะแคร์
“ เออ จำไว้เลยมึง ไอ้เนสที มึงเตรียมตัวแก้ผ้าฉลองได้เลย ” ภูผายืนขึ้นแล้วชี้หน้าเพื่อน โดยเฉพาะ เนสที
“ อ้อ เหรอวะ ถ้าอย่างนั้นมันก็ต้องเดิมพันกันหน่อย ”
“ เดิมพันอะไร ”
“ มึงต้องจีบให้ติดภายในอาทิตย์นี้ ”
“ หืม เออได้ ”
“ แต่ถ้าไม่ติด...มึงก็ต้อง..........”
“ จะให้กูทำอะไรละ ”
“ แก้ผ้าแบบกูนะสิ หรือว่ามึง....”
“ โอเค ”
“ เยี่ยม ”
แล้วหลังจากนั้นก็เกิดมีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันเกิดขึ้น ไม่เพียงแต่กลุ่มของเขาเท่านั้น แต่กลับมีรุ่นน้อง รุ่นพี่ร่วมมาเป็นสักขีพยานด้วย ฝ่ายของภูผาเองมีเวฟเป็นเพื่อน ฝั่งเนสทีเอง มีบอสเป็นเพื่อน
กติกาง่ายๆ ที่ตั้งขึ้น เนสทีจะทำอะไรก็ได้ไม่ให้ภูผาทำสำเร็จ แต่ห้ามมีตัวช่วย ส่วนภูผาเองก็แค่จีบไตเติ้ลให้สำเร็จแค่นั้น ห้ามมีคนช่วยอีกเช่นกัน หากแต่ว่า ทั้งสองคงไม่รู้หรอกว่า ต้องตาเองก็พนันแบบลับๆ กับเขาด้วย ซึ่งมีคนจำนวนมากมาเชียร์ต้องตา แต่ไม่มีใครรู้ว่าต้องตาพนันอะไรไว้กับบอสและเวฟ แต่ทุกคนก็เห็นเค้าลางๆ แล้วว่า งานนี้สนุกแน่
“ ไตเติ้ลไปทานข้าวเที่ยงกับภูนะครับ ภูมารับ ” และช่วงเที่ยงของวัน ภูก็เดินหน้ารุกเข้าหาไตเติ้ลด้วยวิธีใหม่ ที่คนทั่วไปเขาใช้จีบกัน
“ หา เอ่อ..คือว่า...”
“ อะไรกันครับไตเติ้ล จะใจร้ายกับภูได้ลงคอเหรอ เค้ารึก็อุตสาห์มาชวนแต่คนถูกชวนกลับปฏิเสธ หักหามน้ำใจกันแบบนี้ มันน่าน้อยใจนัก ” ภูผายังคงพร่ำเพ้อต่อไป แต่หางตาก็แอบชำเลืองมองไตเติ้ลอยู่ด้วย ยิ่งเห็นสีหน้าลำบากใจแบบนั้นแล้ว ก็ยิ่งได้ใจ แต่
“ มาทำไมไอ้ภูผา ” นรกชัดๆ
“ อ้าวต้องตา พอดีว่านี่ก็เที่ยงแล้ว ก็เลยมาชวนไตเติ้ลไปทานข้าวเที่ยงด้วยกัน ว่าแต่ต้องตาเองจะไปด้วยกันไหม ” ภูผาตอบแบบเรียบนิ่ง หวังจะเรียกคะแนนจากไตเติ้ลหากว่าต้องตาโวยวายใส่เขา แต่
“ อ้อ พอดีเลย ถ้าอย่างนั้นก็ไปด้วยกันเลยสิเติ้ล คนเยอะๆ สนุกดี ” มีเหรอที่ต้องตาจะไม่รู้ว่าภูผาหวังอะไร เธอไม่ให้เขาสมหวังง่ายๆ หรอก ภูผาเองถึงกลับขมวดคิ้ว ผิดไปจากที่คาด นอกจากจะไม่โวยวายใส่แล้ว ไหนยังจะมาชวนเขาไปด้วยอีก นี่มันผิดวิสัยชัดๆ
“ อ้าว ตกลงจะไปไม่ไปคะ ภูผา ไตเติ้ลรอนานแล้วนะ ” อีกทั้งรอยยิ้มนั่นอีก แค่เห็นก็บอกได้ว่า ขนพองสยองเกล้า มันต้องมีอะไรแน่ๆ แต่ยังไม่ทันไร ไตเติ้ลก็เรียกเสียก่อน
“ เอ่อ ภู...จะ จะไปทานข้าวเที่ยงด้วยกันไหม ” นี่เขาคงหูไม่ฝาด ไตเติ้ลชวนเขา แถมยังทำท่าเหมือนกับเขินอีก นี่แสดงว่า
“ จะไปไม่ไป ยืนยิ้มอยู่นั่นแหละ ” ไม่ทันไร เสียงมารผจญก็ขัดขึ้นเสียก่อน
“ ครับ ไปครับ ปะไตเติ้ลเดี๋ยวภูนำทางให้เอง ” ว่าจบก็ถือโอกาสเดินไปจูงแขนไตเติ้ลด้วย ทีแรกคิดว่าต้องตาคงต้องมาแว๊ดใส่แน่ แต่กลับเงียบสนิท
ทันทีที่มาถึงโรงอาหาร สายตาทุกคู่ก็จับจ้องมายังทั้งสามคน ยังไม่ทันที่ภูผาจะไปหาที่นั่งให้ ต้องตาก็เดินนำไปนั่งที่โต๊ะหนึ่ง ตอนนี้เขารู้แล้วว่ารอยยิ้มของต้องตานั้นคืออะไร
“ มาแล้วเหรอวะ นั่งสิ ” ไอ้เนสที มันนั่งรออยู่ก่อนแล้ว มิน่าละ ต้องตาคงจะรู้ว่าพวกเขาพนันกันละสิ แต่ภุผาไม่ยอมแพ้หรอก
“ ไม่ว่ากันใช่ไหม ภูผา ” ส่งมาพร้อมกับรอยยิ้มพิมพ์ใจ แต่ขอโทษ ภูผาไม่หลงกล
“ ครับ น่าจะสนุกดี ”
“ เอาละ เราว่าเรามาสั่งอาหารกันดีกว่านะ เติ้ลสั่งเลยสิ เอ....ว่าแต่ใครน๊า จะอาสาไปซื้อกับข้าวให้ไตเติ้ล อืม ” นี่สินะที่มาของรอยยิ้ม แต่ไม่เป็นไร เขาทำได้
“ เดี๋ยวเนสทีไปเอาให้เอง ไตเติ้ลสั่งมาได้เลยครับ ” นั่นไง ไอ้มารผจญ มาขัดขวางเขาแล้ว ต้องตาก็ยังมีรอยยิ้มเย็นๆ ส่งมาให้อีก
“ ไม่เป็นไร ภูไปเองได้ครับ ไตเติ้ลจะสั่งอะไรได้หมดเลย ”
“ จริงเหรอ ” เพิ่งจะมีบทพูด ทั้งๆ ที่เป็นคนต้นเรื่องแท้ๆ
“ จริงสิครับ ” ส่งยิ้มไปให้อีก แต่ไม่น่าเชื่อ ไตเติ้ลจะส่งยิ้มกลับมาให้เขาด้วย พอไตเติ้ลเขียนเสร็จก็เอาให้ภูผาไป ก่อนไปยังหันไปยักคิ้วส่งให้เนสทีอีก
“ ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูไปช่วยถือ ”
“ เชิญ ” ลับหลังร่างทั้งสองแล้ว สองศรีพี่น้องก็หันมายิ้มให้กันแบบมีเลศนัย
“ ทำดีมากจ๊ะเติ้ล ”
“ อิๆ ” นี่คงเป็นครั้งแรกที่ต้องตาเห็นว่าผู้เป็นน้อง หัวเราะได้ชั่วร้ายที่สุดในชีวิต
หลังจากผ่านวันอันแสนโหดร้ายของสองเพื่อน ภูผาและก็เนสทีแล้ว คงต้องบอกได้ว่า ทั้งสองมีสภาพไม่ต่างกับศพ เพราะตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องคอยทำนู่นทำนี่ให้ต้องตา ที่ต้องบอกว่าต้องตา เพราะ ไม่เคยมีสักครั้งที่ไตเติ้ลจะออกปากเองเลย
“ นี่ไอ้ภูผา ”
“ หือ..”
“ กูว่าเลิกเถอะวะ กูยังไม่เห็นวี่แววเลยว่าจะมีใครชนะ ”
“ เสียใจวะ กูไม่เลิก หึๆ ”
ทำไมภูผาถึงไม่เลิกนะเหรอ เหตุผลมันมีอยู่ว่า
วันหนึ่งหลังเลิกเรียน ไตเติ้ลต้องอยู่เวรทำความสะอาดห้อง แต่ต้องตาก็ต้องไปซ้อมกีฬา ทั้งห้องจึงเหลือเพียงไตเติ้ลคนเดียว แล้ววันนั้นภูผาเองก็เดินผ่านมาพอดี
“ ไตเติ้ล ” ภูผาว่าเสียงเรียบๆ เย็น พร้อมย่างสามขุมเข้ามา ไตเติ้ลถอยหนีไปจนจนมุมห้อง
“ อะ อะไร ภู ”
“ จะยอมเป็นแฟนกับภูไหม ” ภูผาถามพร้อมกับกักตัวไตเติ้ลไว้ไม่ให้หนีไปไหน
“ นี่ นี่ภูจะมาบังคับเราเหรอ ” ถามทั้งที่เหงื่อชุ่มตัวแล้ว
“ เปล่า ไม่ได้บังคับ...แต่ไตเติ้ลต้องทำตาม ” ว่าแล้วก็เดินเข้าไปหาอีก ไตเติ้ลยิ่งต้องหดตัวหนีอีก
“ ผะ เผด็จการ ถ้าเราไม่ยอมจะทำอะไรเรา ”
“ หึๆ ก็แค่....ปล้ำ ” ว่าแล้วก็มองสำรวจไปทั่วตัวอีกฝ่าย
“ อย่า นะ ” ทั้งสั่นแบบนี้จะสู้อะไรเขาได้
“ ถ้าอย่างนั้นก็เป็นแฟนกับภูสิ ”
“ ได้ไง ไม่เอา ”
“ ปล้ำ ”
“ ไม่นะ..ก็ได้...แต่....”
“ แต่อะไรครับ ” ถามไปนิ่งๆ ทั้งที่ในใจลิงโลดอย่างที่สุดแล้ว
“ แต่ไม่เป็นแฟนนะ แค่...แค่ศึกษากันก่อน ” แต่ก็ถือว่าสำเร็จไปอีกขั้นละนะ
“ ได้สิ ”
และนั่นก็ทำให้ภูผามั่นใจว่าตนเหนือกว่าอีกฝ่าย แต่หารู้ไม่
“ อะไรนะต้องตา...เธอบอกว่าไอ้ภูไม่มีทางได้คบกับไตเติ้ลจริงๆ เหรอ ”
“ จริงสิ ”
“ หึๆ ”
“ ต่อไป นายก็แค่หว่านล้อมให้มันถอนตัวออกไปเท่านั้นเอง ”
“ ถอนตัว แล้วฉันก็จะชนะ หึๆ ได้สิ ”
“ เป็นอย่างไรบ้างเติ้ล ”
“ เรียบร้อย พี่ตาละ ”
“ ระดับนี้ไม่มีพลาด ”
พร้อมกับรอยยิ้มของทั้งสองคน ที่ว่าพรุ่งนี้ต้องมีเรื่องสนุกแน่ๆ
เย็นของวันนี้ เป็นวันสุดท้ายแล้วที่จะตัดสินว่าใครจะชนะ เด็กนักเรียนต่างยังไม่กลับบ้าน เพื่อรอดูว่าใครจะเป็นผู้แพ้
“ แกแพ้แล้ววะไอ้ภู ยอมรับมาซะแล้วฉันจะใจดีให้แกเหลือกางเกงในสักตัว ”
“ มึงแน่ใจเหรอ ”
“ เอาละ มาฟังกันดีกว่านะว่าใครจะเป็นผู้ชนะ...เกือบลืมแนะ งานนี้ เสมอ เท่ากับแพ้ ”
ต้องตาว่าออกมา เพียงเท่านั้นทั้งเนสทีและภูผาก็รู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ นี่คิดจะเพิ่มกติกาก็เพิ่มเลยเหรอ
“ เอาละเรามาดูผลกันเลยดีกว่า........”
“ สรุปว่า...........................................”
“ หึๆ งานนี้................เสมอ ” “ ห๊ะ....เสมอ ” เท่ากับแพ้ สองเสียงประสานกัน
“ เฮ้ยได้ไงวะ ไตเติ้ลกับกูคบกันแล้วนะ ”
“ แน่ใจเหรอ ”
“ เออ........สิวะ ”
“ แต่เท่าที่รู้มาก็แค่...ศึกษากันไม่ใช่เหรอ ยังไม่ได้คบกันนี่ ”
เพียงเท่านี้ภูผาก็ถึงกับพูดไม่ออก นี่แสดงว่า ทั้งหมดนั้นเป็นแผนของ ต้องตา
“ ฮ่าๆ แบบนี้ก็เท่ากับว่ากูชนะนะสิ ”
“ มั่นใจขนาดนั้นเหรอเนสที ”
“ เอ้า ก็ไอ้ผามันจีบไม่ติด แบบนี้ก็เท่ากับว่า เรากีดกันได้สำเร็จนะสิ ”
“ หึๆ แต่ทำไม...เขาถึงยังตกลงศึกษากันได้ละ แบบนั้นก็แสดงว่า ทำไม่สำเร็จนะ ”
ตอนนี้ทั้งภูผาและเนสทีเอง ต่างก็มองหน้าเข้าหากัน แล้วก็เพิ่งได้สติอย่างครบถ้วน ถึงรอยยิ้มของต้องตาที่ผ่านมา ที่แท้มันเป็นแบบนี้นี่เอง
“ หึๆ เอาละ ทีนี้ก็.......ได้เวลา แก้ผ้าละนะ ”
“ ม่ายยยยยยยยยยยยยยย ”แต่ก็นับว่าพวกเขายังพอฉลาดอยู่บ้างที่สามารถต่อรองได้ ทำให้ทั้งตัวของพวกเขา เหลือเพียงบอกเซอร์กับกางเกงในเท่านั้น งานนี้ทั้งสาวแท้ สาวเทียมต่างมองตาเป็นมัน หากทั้งสองจะกลับคำพูดละก็ คงได้นอนโรงพยาบาลทั้งเดือนแน่แท้
“ กูไม่น่าเลย ”
“ เป็นเพราะมึงนั่นแหละ ไอ้เนสที ”
“ อ้าว แล้วมาโทษกู ”
“ พอแล้ว เมื่อไหร่จะวิ่งได้สักที นี่ก็เลยเวลามาแล้วนะ อย่าลืมนะว่าข่าว มันเร็ว หึๆ ”
“ จำไว้เลยยัยต้องตา ”
“ วิ่งสิจ๊ะ หนุ่มๆ ”
“ ฮึ่ย ก็ได้วะ ไปไอ้เนสที ”
“ กูอาย ”
“ ยิ่งช้าคนยิ่งเยอะ มึงไม่เห็นหรือไง ” เพราะดูเหมือนว่า ยิ่งพวกเขายืดเวลาเท่าไหร่ คนก็จะยิ่งเยอะขึ้นเท่านั้น
“ เอาวะ อายครั้งเดียว ” สองหนุ่มฮึดสู้อีกครั้ง แต่ยังไม่ทันที่จะออกวิ่ง
“ เดี๋ยว ” เสียงของไตเติ้ลก็ดังเข้ามา ภูผามองมาแบบตัดพ้อ ทำกันได้
“ ไหนบอกว่าจะกลับบ้านแล้วไม่ใช่เหรอ กลับมาทำไมอีก ” ต้องตาเอ็ดน้อง
“ คือ......”
“ อะไร หน้าแดงทำไมเติ้ล ” ไตเติ้ลไม่พูดแต่มายืนอยู่ตรงหน้าภูผา
“ คือเติ้ล...ยอมคบกับภูก็ได้...เป็นแฟนกันนะ ” ว่าเสร็จไตเติ้ลก็หันหลังวิ่งออกไป ทิ้งให้ทุกคนยืนตะลึงกันอยู่ ไม่เว้นแม้แต่ต้องตา เพราะนี่ไม่อยู่ในแผน
“ แสดงว่า กู.....กูชนะ ไม่ต้องวิ่งแก้ผ้านะสิ ฮ่าๆๆๆๆ ” หลังจากที่หายอึ้งแล้ว ภุผาก็หัวเราะลั่นออกมา แต่เนสทีเองกลับหน้าซีดกว่าเดิม
“ ว่ายังไงต้องตา ”
“ ชิ...งั้นก้เหลือแค่ไอ้เนสทีเท่านั้น เพราะมีผู้ชนะแล้ว ”
“ ไม่นะ ”
“ จะวิ่งดีๆ ไหม เนสที ”
“ ว๊าก วิ่งก็ได้ ”หลังจากวันนั้น เนสทีก็ไม่มาโรงเรียนเป็นอาทิตย์เนื่องจากว่า
“ ว๊ายยย ตาเถรหก ” อันนี้ไม่เท่าไหร่ แต่ที่น่าเจ็บใจต้องอันนี้
“ กรี๊ดดดด พี่เนสที พกหนอนชาเขียวติดตัวมาด้วยเหรอค่ะ ” นี่แหละที่เนสทีอายที่สุด และทำให้เขา จดจำชื่อต้องตา ไปตลอดชีวิต
ปล. ภูผาคือใคร................ก็คนที่หอมแก้มไตเติ้ลตอนเข้าโรงเรียนครั้งแรก ตอนสี่ขวบนั่นแหละ
ง่วงมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แต่ก็สัญญาไว้แล้วว่าจะมาต่อ ก็เลยถ่างตามา
แต่เพื่อทุกคนที่รอ ไม่เป็นไร
คืนนนี้ฝันดีนะครับ ขอบคุณทุกๆ คำอวยพร และเป็ดทุกๆ ตัวที่บวกให้
เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาบวกคืนให้ วันนนี้ง่วงเหลือเกิน ราตรีสวัสดิ์ครับ
