บทที่ 8
รู้แต่เพียงว่าอีกไม่นานผมก็จะได้เจอหน้าลูกแล้ว วินาทีนี้มันเลยทำให้ผมรู้ว่า คนเป็นแม่ ต้องทุ่มเทขนาดไหน กว่าที่จะดูแลลูกตัวเล็กๆ ในท้องให้ออกมาลืมตาดูโลกได้ ตอนนี้ผมรู้แล้ว และผมเองก็รักแม่มากเหลือเกิน
ได้ยินแต่หมอบอกว่าต้องผ่าตัดเท่านั้น เพราะผมเองไม่มีช่องคลอด เพื่อความปลอดภัยของทั้งผมและลูกเอง ตอนนี้ผมไม่สนใจแล้วว่าผมจะเจ็บแค่ไหน หรือจะเป็นอะไร ขอเพียงอย่างเดียว ให้ลูกได้มีชีวิตมาลืมตาดูโลก แต่ผมก็หวังว่าผมเองก็จะตื่นมาพบกับลูกอีกเช่นกัน
------------------------------------------------------------------------------------------------------------->
ต้องตา
ไตเติ้ล
“ เนย์...ตื่นได้แล้ว ” เสียงเด็กผู้หญิงที่ไหนนะมาเรียกผมอยู่ตอนนี้ ลืมตาขึ้นมาก็พบกับสถานที่เดิมอีกแล้ว และเด็กผู้หญิงคนเดิม แต่ก็ยังมีความรู้สึกสับสนอยู่เหมือนกัน บางทีก็เหมือนรู้จักแล้วจากใครบางคน แต่บางทีก็ยังเหมือนไม่รู้จัก มันเป็นความรู้สึกที่เรียกได้ว่า อึดอัด อย่างบอกไม่ถูก
“ เนย์ตื่นได้แล้วนะ ลูกของเนย์กำลังรออยู่นะ รีบๆ ตื่นสิ ” ลูก นั่นสิ แล้วตอนนี้ลูกเราอยู่ไหนละ
“ เดี๋ยวเราพาเนย์ไปหาลูกนะ ตามมาสิ ”แล้วเด็กผู้หญิงคนนี้ ก็เดินมาจูงมือผมเดินไปที่ไหนสักแห่ง แต่ดูเหมือนว่ายิ่งเดินไปเท่าไหร่ มันก็ยิ่งสว่างจนแสบตาไปหมด แล้วยังได้ยินเสียงคนพูดคุยกันอะไรสักอย่างอยู่ แต่ยังจับใจความไม่ได้ แล้วสัมผัสที่มือก็หายไป
“ รีบไปหาลูกนะเนย์ ”
“ อือ...”
“ เนย์...ฟื้นแล้ว...น้ากานครับ พี่เวย์...เนย์ฟื้นแล้ว ” เสียงไอ้แวนนี่
“ ไหนๆ เนย์ลูก ฟื้นแล้ว ” กระพริบตาสักหน่อยเพราะรู้สึกว่า จะลืมตาไม่ขึ้น แต่สักกกพักก็ปรับสภาพได้แล้ว แม่ พี่เวย์ ไอ้แวน ม่าน พะแพง พิมพ์ อิง ยืนล้อมรอบผมอยู่ตอนนี้
“ แม่...”
“ น้ำจ๊ะน้ำ...ช่วยไปตามหมอมาทีนะจ๊ะ ”
“ ครับ/ค่ะ ”
“ เป็นไงบ้างเนย์ รู้สึกยังไงบ้างลูก ” ลองขยับตัวดูรู้สึกเจ็บแปลบๆ แถวหน้าท้อง
“ โอ๊ะ...”
“ อย่าเพิ่งขยับสิเนย์...ค่อยๆนะ เดี๋ยวเวย์ปรับเตียงให้น้องหน่อย ”
“ ครับ ”
“ แม่...ลูกเนย์ละ ลูกเนย์ อยู่ไหนแม่ ”
“ ใจเย็นๆ เนย์ ตอนนี้ลูกอยู่ที่ห้องเด็กอ่อนนะ อย่าเพิ่งขยับมากนะ เดี๋ยวแผลจะฉีก ”
“ ผมอยากเห็นหน้าลูก แม่...”
“ จ๊ะๆ ตอนนี้อย่าเพิ่งนะ นี่ก็เพิ่งฟื้น พักอีกสักหน่อยนะ...รู้ไหม เรานะหลับไปอาทิตย์หนึ่งเลยนะ แม่เป็นห่วงนะรู้ไหม ”
“ นี่ผม หลับไปอาทิตย์หนึ่งเลยเหรอแม่ ”
“ จ๊ะ หมอบอกว่าเรานะ ร่างกายยังปรับตัวไม่ทัน ก็เลยอ่อนเพลียมาก นี่แม่เองก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าเราจะหลับไปนานแค่ไหนนะ ”
“ คนไข้ฟื้นแล้วใช่ไหมครับ ”
“ ค่ะคุณหมอ ”
“ เดี๋ยวหมอขอตรวจดูอาการหน่อยนะครับ ” แล้วหมอก็เข้ามาตรวจดูอาการอะไรบ้างก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าผมจะต้องได้อยู่โรงพยาบาลอีกยาวแน่
“ อาการเบื้องต้นไม่น่าเป็นห่วงนะครับ ที่เหลือก็แค่แผลที่หน้าท้อง และก็อาการข้างเคียงที่อาจจะมีผลทีหลังนะครับ ”
“ อาการข้างเคียงอะไรค่ะหมอ ”
“ เนื่องจากพื้นฐานทางด้านร่างกายที่ไม่รองรับการมีลูกได้นะครับ อาการที่อาจจะตามมาทีหลังอาจจะเป็น เกี่ยวกับพวกกระดูก หรือกล้ามเนื้อ ที่คอยรับน้ำหนักในช่วงตั้งท้องนะครับ แต่ก็ไม่น่าเป็นกังวลมากครับ แค่ไม่ทำงานหนัก หรือยกของหนักๆ ก็ช่วยได้แล้วครับ แต่ก็ขอให้คนไข้พักอยู่ที่โรงพยาบาลอีกสักระยะหนึ่งก่อนนะครับ เพื่อที่ทางเราจะได้สังเกตอาการไปด้วยครับ ”
“ ค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ ”
“ แม่ ผมอยากเห็นหน้าลูก ”
“ ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวหมอจะให้พยาบาลพามาพบแล้วกันนะครับ ”
“ ขอบคุณครับ หมอ ”
“ น้องมาแล้วค่ะ ” พยาบาลอุ้มลูกมาแล้ว
“ นี่ไงเนย์ เป็นไง น่ารักน่าชัง ไหม ดูสิ ” แม่รับต่อจากพี่พยาบาลมาแล้ว และอุ้มมาให้ผมที่เตียงแล้วในตอนนี้ พอเห็นหน้าลูกเท่านั้นแหละครับ บ่อน้ำตาแตกเลยทีเดียว
“ ขี้แยจัง เป็นแม่คนแล้ว ยังมาร้องไห้ขี้มูกโป่งอีก ” แม่ยังมาแซวผมอีก
“ แม่อะ...ก็มันดีใจนี่ ” พอเห็นหน้าลูกแล้วมันพาลทำให้คิดถึงใครบางคน แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ควรเอามาใส่ใจ เพราะตอนนี้คนที่สำคัญที่สุดได้อยู่ในอ้อมกอดผมเรียบร้อยแล้ว
“ อยากอุ้มบ้างเนย์ ให้กูอุ้มบ้างดิ ” ไอ้ม่านมันเดินมาขออุ้มแล้วครับ
“ หยุดเลยมึง ให้แม่ลูกเขาได้อยู่ด้วยกันหน่อย ” ไอ้แวนมันพูดดักคอไว้เลย
“ อย่างกะมึงไม่อยากอุ้มละ ” มันงอน
“ ถ้ามึงอยากอุ้มมึงก็หาเวลาไปทำเอาเองสิ ”
“ พอๆ พวกมึงอย่าเสียงดัง เดี๋ยวหลานมันก็ตกใจหรอก ” พิมพาเป็นคนพูดขึ้นมา
“ เออ เนย์ แล้วชื่อลูกละ...”
“ นั่นดิ ”
“ ไตเติ้ลไง ว่าไงครับชอบชื่อนี้ไหมตรับ ไตเติ้ล ” ผมหันมาถามลูก ซึ่งลูกก็พยักหน้าให้ด้วยแฮะ
“ ไตเติ้ล ตอบตกลงแล้ว พยักหน้าให้ด้วย ”
“ ไหนๆๆๆๆ ดูหน่อยๆ ” แล้วพวกมันก็กรูกันเข้ามาดู
“ เนย์เป็นแม่คนแล้วเว้ย งั้นต่อไปนี้เนย์ก็ต้องเรียกตัวเองว่า แม่ อะดิ ” อิงพูดขึ้นมา ตอนนี้แม่พาไตเติ้ลไปแล้วละครับ กลัวว่าผมจะเจ็บแผล
“ งั้นต่อไปนี้ ก็ต้อง ไตเติ้ลมาหาแม่เนย์เร็วลูก นั้นสิ ”
“ ฮ่าๆๆ จริงด้วย แม่เนย์ แม่เนย์ ” พวกมันล้อใหญ่เลยทีนี้
“ ไอ้พวกบ้า ถึงยังไงกูก็ผู้ชายนะเว้ย จะให้เรียกตัวเองว่า เอ่อ..แม่ งั้นเหรอวะ ” มันก็จริงนั่นแหละ ใช่ไหม เพราะยังไงผมก็เป็นผู้ชาย แต่จะให้เรียกตัวเองว่าแม่เนี่ย มันกระดากปากยังไงชอบกล
“ ถึงขนาดตั้งท้อง คลอดลูก ยังจะไม่ยอมรับอีกเหรอวะ ”
“ ก็มัน ไม่ชินนี่หว่า ”
“ งั้นมึงก็เปลี่ยนเป็น อืม.....ม่าม๊าสิ แบบนี้ก็น่ารักไปอีกแบบนะ ”
“ ม่าม๊าเหรอวะ ”
“ เออนั่นแหละ ม่าม๊า หรือมึงจะเอาม่ามี๊ ”
“ ไม่เอาๆ ม่าม๊านั่นแหละ ค่อยฟังได้หน่อย ”
“ ม่าม๊า ” แล้วพวกมันก็พากันประสานเสียงล้อผมใหญ่เลย นี่ถ้าหากว่าไม่ ติดว่าแผลยังไม่หายนะ ผมลุกขึ้นไปเตะพวกมันแล้ว
“ ไปได้แล้วพวกมึง รำคาญ คนจะนอน ”
“ เขินอะดิ ม่าม๊า ”
“ ไปได้แล้วไอ้พวกบ้า ”
“ ฮ่าๆๆ ไปๆ พวกเราอย่ากวนม่าม๊า เดี๋ยวม่าม๊าไม่มีนมให้ลูกกิน ”
“ ไอ้พวกบ้าไปเลย ” แววมาได้ กูก็อายเป็นนะเว้ย พวกนี้นิ
“ ม่าม๊า...ฮึก ฮือออออ ม่าม๊า ” ผมที่กำลังนั่งซักชุดเจ้าตัวเล็กอยู่หลังบ้าน ก็ได้ยินเสียงร้องไห้ดังมาแต่ไกล นี่ก็คงโดนต้องตาแกล้งอีกแน่ๆ ตอนนี้ทั้งต้องตาและไตเติ้ลเองก็ 3 ขวบกว่าแล้วละครับ วัยกำลังซนเลยทีเดียว ส่วนผมตอนนี้ก็กำลังเรียนอยู่คณะบริหาร ปี 1 ซึ่งตอนนี้ก็กำลังจะเข้าเทอมที่ 2 แล้วละครับ นี่ก็อยู่ในช่วงปิดเทอมภาคเรียนแรกอยู่ จึงปิดไม่นาน เพียงแค่สองสัปดาห์เท่านั้น
“ ม่าม๊า ฮึก ตาแกล้งเติ้ล ฮืออ หนอน ” วิ่งมาหาผมได้ก็กอดขาหมับเลยละครับ ไตเติ้ลนี่กลัวหนอนเป็นที่สุด ส่วนต้องตาเองดูเหมือนว่าจะไม่กลัวอะไรเลย เห็นเป็นจับเป็นบีบไปทั้งหมด
“ โอ๋ๆๆ ไม่ร้องนะครับ งั้นมาช่วยม่าม๊าซักผ้าเนาะ ” ต้องกล่อมสักหน่อยละครับ
“ แงๆๆๆๆ หนอนๆ ไม่เอาๆๆ ” ร้องไห้โฮอีกแล้วละครับ ทีนี้ปีนขึ้นมาเกาะเอวผมหนึบเลย ก็ต้องตานะสิ เดินถือหนอนมาเต็มกำมือ แถมมายืนอยู่ต่อหน้าผมอีก คือไม่อยากจะบอกนะว่า ผมก็กลัวเหมือนกัน
“ ต้องตาไม่เล่นนะครับ ปล่อยมันไปนะครับนะ มันบาปนะ เดี๋ยวโตขึ้นมาต้องตาไม่สวยนะ ” ต้องกล่อมต้องตาอีกละครับ ซึ่งต้องบอกว่าต้องตานี่ ติดผมกว่าแม่แท้ๆ ซะอีก และก็จะเชื่อฟังผมค่อนข้างมากด้วย
“ ไม่สวยเหรอ งั้นไม่เล่นแล้ว จะเล่นกับม่าม๊า ” เอาไปปล่อยได้สักที เกือบหัวใจวายตาย ไอ้ตัวเล้กนี่ก็ยังเกาะผมหนึบอยู่นะครับ แถมยังสั่นๆ อีกด้วย สงสัยจะกลัวมาก ต้องตาเองก็ติดเรียกผมว่าม่าม๊ามาจากไตเติ้ลนี่หละครับ
“ ไหนๆ ดูสิ เห็นไหมครับ ไม่มีแล้ว หนอนน้อยไม่มีแล้วครับ ” หันมาดูก็ยังเอาหน้าซุกอยู่เลยครับ กว่าจะแงะออกมาได้แทบเซ
“ ไหนต้องตา แบมือให้น้องดูหน่อยสิครับ ” ผมก็นั่งยองๆ ให้ไตเติ้ลกอดคออยู่อะครับ เพราะดูเหมือนจะยังกลัวอยู่
“ นี่ๆๆ ไม่มี ทิ้งแล้ว ” เสียงใสๆ ดังมาจากต้องตาพร้อมกับแบมือยื่นมาข้างหน้า ให้ไตเติ้ลดู ไตเติ้ลเองก็กอดผมแน่นอีก แต่ก็ยังส่องตาเล็กตาน้อยมาดูอยู่
“ เห็นไหมครับ ไม่มีแล้ว ” ต้องได้ผมยืนยันอีกที ไตเติ้ลถึงยอมออกจากผม ไปยืนตรงๆ ต่อหน้าต้องตา
“ ตานิสายม่ายดี ” เจ้าตัวเล็กว่าให้ต้องตา แถมยังยืนท้าวเอว ทำปากยื่นใส่อีก
“ ปล่าวน๊า ไม่ได้แกล้ง หนอนน้อยน่ารักออก ” ต้องตาเองก็ไม่ยอมแพ้เหมือนกัน
“ น่ากลัว หยะแหยง คราวหน้าไม่เล่นกะตาแล้ว ” งอนครับงอน ไอ้ตัวเล็กมันงอนต้องตาอยู่ ผมเองก็ยืนกลั้นหัวเราะดูอยู่เฉยๆ อยากจะดูว่าเด็กสองคนนี่จะง้อกันยังไง
“ ไม่อาว จะเล่นกะเติ้ล ”
“ เล่นกะเติ้ล ตาต้องไม่เล่นหนอน ”
“ หนอนน่ารักออก ”
“ งั้นไม่เล่นกะตา ”
“ ไม่เอาหนอนก็ได้ ”
“ งั้นเล่นกะตา ”
“ ปะ งั้นไปหายาย ยายซื้อหนมมาเยอะแยะเลย ”
“ ไปๆ ”
แล้วเด็กสองคนก็จูงมือกันวิ่งไปหาแม่ที่อยู่ในบ้าน นี่หละหนอเด็ก โกรธกันได้ไม่นานสักพักก็ดีกันแล้ว ผมไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไหร่ เพราะเด็กสองคนนี้รักกันเหมือนพี่น้องแท้ๆ เลยละครับ เรียกได้ว่ามีต้องตาที่ไหน ต้องมีไตเติ้ลที่นั่น ไตเติ้ลได้อะไรต้องตาก็ต้องได้ด้วย ไม่งั้นไม่มีใครยอม
ผมก็กลับมาซักผ้าต่อ ซักเสร็จก็เอามาตากที่ราวหลังบ้าน ซักพักก็ได้ยินเสียงเด็กๆ ร้องดังลั่นบ้าน สงสัยพวกเพื่อนๆ จะพากันแห่มาแล้วละครับ คงมีขนมไม่ก็ของเล่นอะไรมาฝากเด็กๆ เป็นแน่
“ ได้อะไรแผลงๆ มาให้ลูกกุเล่นอีกละพวกมึง ” มาถึงข้างในบ้าน ก็ไม่รู้อะไรกองเต็มไปหมด คราวที่แล้วพวกมันก็ดันซื้อตุ๊กตาสัตว์ประหลาดหน้าตาน่ากลัว มาให้เล่น แต่คนที่ถูกใจดูเหมือนจะมีแต่ต้องตาเท่านั้นละ ส่วนไตเติ้ลเองไม่กล้าเข้าใกล้เลย
“ อะไรว๊า คราวนี้กูอุตสาห์ซื้อหมีพูห์ โดเรม่อนมาเลยนะเวย ดูสิเนี่ย ไตเติ้ลชอบใหญ่เลย ” ไอ้แวนมันบอก ซึ่งก็คงจะจริง เพราะไตเติ้ลเองก็จับตัวนั้นตัวนี้มาวางไว้ข้างๆ ตัวซะหมด ต้องตาเองก็กอดเจ้าสติสตัวใหญ่อยู่
“ กูว่าถ้าไตเติ้ลโตขึ้น มันคงจะหาลูกเขยมาให้มึงวะ ดูสิ หนอนก็กลัว ปีนต้นไม้ก็ไม่ปีน แถมยังชอบตุ๊กตาน่ารักๆ อีก นี่มึงกะจะเลี้ยงให้ได้แบบมึงเลยเหรอ ” ดูพะแพงมันว่าผมสิ
“ กูเลี้ยงยังไง เด็กมันเป็นของมันเองเว้ย ไม่เกี่ยว ”
“ น่าเชื่อเนาะ พวกมึง ”
“ มากกกกกก ”
“ พอเลยพวกมึง แล้วนี่มาบ้านกูมีธุระอะไร มาได้ทุกวัน ”
“ เอ๋า ก็มาหาหลานสุดที่รักทั้งสองของพวกกูไง ”
“ แล้วทำไมพวกมึงไม่มีอะไรมาบ้างเลย มีแต่ตัวมาทุกที แถมกลับไปอิ่มจนท้องแทบแตกทุกวัน ”
“ ก็อาหารบ้านนี้อร่อยนี่ ใช่มั้ยครับเด็กๆ ”
“ ช่ายยยย อร่อยสุดๆ ” เด็กๆ ก็ให้ความร่วมมือพวกมันดีซะด้วย
“ เห็นไหมๆ ”
“ เออๆ ขี้เกียจเถียงกับพวกมึงแล้ว ถ้างั้นก็ช่วยดูให้หน่อยแล้วกัน เดี๋ยวไปหาอะไรมาให้เด้กกินซะหน่อย ”
“ เออๆ เผื่อพวกกูด้วยน๊า “
“ ไม่ ”
“ ม่าม๊าไปไหนเหยอ ” ตัวเล็กทั้งสองหันมาถามตาแป๋วเลย
“ เดี๋ยวม่าม๊าไปหาอะไรมาให้ทานนะครับ อยู่เล่นกับพวก ตาๆ ยายๆ แถวนี้ไปก่อนนะครับ ”
“ ค๊าบบบ/ค่า ”
“ ตายายเลยเหรอวะ ”
“ นั่นแหละ เหมาะสมที่สุด สำหรับพวกมึง ”
ผมก็เข้าครัวมาทำอาหารให้เด็กๆ ทานก่อนละครับ เพราะอีกเดี๋ยวก็คงจะหิวกันแล้ว เด็กช่วงนี้ชอบเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ครับ ก็เลยว่าจะทำสปาเก็ตตี้ให้ทานบ้าง ซอสนี่ผมก็กะว่าจะเอาซอสมะเขือเทศนี่หละครับ และก็น่าจะใส่พวกหมูบดลงไปบ้าง และก็ผักอีกหลายๆ สีให้เด็กๆ กินควบคู่ไปด้วย
แต่ยังไม่ได้ทำอะไรก็มีเสียงกริ่งดังหน้าบ้านขึ้นมา
“ ไปดูให้หน่อยสิพวกมึงว่าใครมา ”ผมก็ตะโกนออกไปสั่งพวกมันสักหน่อย มาทั้งทีต้องมีประโยชน์บ้างสิครับ
“ เออๆ สั่งจริง ” และก็มีเสียงของไอ้ม่านตอบกลับเข้ามา
“ ปายด้วย ” ไตเติ้ลเองก็ส่งเสียงดังตามา
“ ปะๆ งั้นเราไปกันครับ ไตเติ้ล ไหนใครวิ่งเร็วกว่ากัน ”
“ อย่าวิ่งเร็วนะ เดี๋ยวหกล้ม ” ตะโกนตามออกไปไม่รู้จะได้ยินหรือเปล่า
ผมก็กำลังเอาเส้นออกมาแช่น้ำรอครับ กำลังยกจะเอาไปวางบนโต๊ะ ไตเติ้ลก็วิ่งตึกตัก เข้ามาพร้อมกับทำหน้าตาระรื่นดีใจ อย่างกับเจออะไรมางั้นแหละ
“ อ้าว ใครมาหาครับ ”
“ ม่าม๊า...ปะป๊ามาหาฮับ ” เจ้าตัวเล็กตอบออกมา
“ เคร้งงงงงงงงงงงงงงงงงงง ”------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------>
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------>
มาแล้วมาแล้ว ยินดีต้อนรับ คุณลุง คุณป้า คุณน้า คุณอา (บางคนอาจจะเป็น ตายาย ไปแล้วก้ได้
)
พาต้องตา กะ ไตเติ้ลมาหาแล้ว รีบมารับขวัญกันหน่อย
เอาเป็นว่าตอนนี้ชิวๆ ไปก่อนแล้วกัน ส่วนตอนหน้ามาลุ้นกันว่า ปะป๊าที่ไตเติ้ลว่า ใช่ไอ้พัต หรือเปล่า
สำหรับความน่ารักของเด็กๆ ก็จะมีมาอีกอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ กระผมขอตัวไปหาไรกินก่อนแล้วกัน บ๊ายบาย