♣Maybe...รักนี้อาจเป็นนาย♣
บทที่ 42
Told ya, being with me, don’t ever think about anyone else.
อยู่กับฉัน อย่าแม้แต่คิดถึงผู้ชายอื่น บอกแล้วไง
[Tonhom]
ท้องฟ้าช่างสดใสยิ่งนัก เป็นสีเหลืองเชียว!
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คำสั่งคุณแฟนถือเป็นสำคัญ ห้ามฝ่าฝืนโดยเด็ดขาด ไม่งั้นจะชีวิจไม่สดใสอีกต่อไป
เจ็บครับ เจ็บระบมไปทั้งตัว ปกติพี่ปืนจะไม่ค่อยทำรุนแรงเท่าไหร่ แต่เมื่อวานบอกได้เลยว่าไม่ยั้ง ห้ามก็ไม่ฟังจะทำๆลูกเดียว แล้วเป็นไงล่ะ น้องไข้ที่กำลังจะจากไปยูเทรินกลับมาหาผมแบบรวดเร็วทันใจ อนาถตัวเองชะมัด แทนที่วันอาทิตย์ผมจะได้ไปเดินเที่ยวเล่น แต่กลับต้องมานอนซมอยู่บนเตียง โดยมีตัวการนอนหายใจเข้าออกอย่างสบาย
ผมขยับตะแคงตัวเข้าหาพี่ปืนอย่างอยากลำบาก เจ็บร้าวตั้งแต่เอวลงไปขนถึงปรายเท้า รู้สึกเหมือนเอวตัวเองจะเคล็ด ขอโทษเถอะครับ ผมซ้อมเต้นยังไม่ระบมขนาดนี้เลย
“พี่ปืน” ผมเรียกพี่ปืนเบาๆ ความจริงคือเสียงไม่มี ผมรู้สึกปวดหัวกับปวดตัวเหมือนว่าเป็นไข้ แต่ตัวไม่ร้อนมากเท่าไหร่เพราะถ้าผมตัวร้อนมาก ลมหายใจที่ออกมาจากจมูกจะร้อนตาม แต่นี่แค่อุ่นๆ คงเป็นเพราะเมื่อคืนพี่ปืนกรอกยาใส่ปากผมไปเยอะและทายาที่ด้านหลังให้ผมด้วย
ผมมองไปรอบๆห้องพี่ปืน นั่นมันกล้องพี่ปืนนี่นา
รูป!!!
ใช่แล้ว วันนั้นที่พี่ปืนถ่ายผมไดว้ตอนโป๊ผมยังไม่เห็นเลย ไม่ได้การแล้ว ผมต้องลบมันเดี๋ยวนี้ ยิ่งตอนนี้ยิ่งเป็นเวลาดีพี่ปืนยังไม่ตื่นนอนเพราะฉะนั้นพี่ปืนก็จะห้ามผมไม่ได้ถ้าผมจะลบรูปพวกนั้น
ผมเหลือบมองคนตัวโตข้างๆอีกครั้งหนึ่ง โบกมือไปมาตรงหน้าพี่ปืน นิ่งสนิท สงสัยจะหลับลึกมาๆ ผมวางใจค่อยๆลุกออกจากที่นอน
“อูยยย” ผมร้องเบาๆ ขาสั้นไปหมด ผมค่อยๆพาตัวเองที่หากล้องตัวการ พอได้มาไว้ในมือแล้วผมกทิ้งตัวนั่งลงกับพื้น ไม่ไหวครับ เจ็บร้าวจนไม่อยากจะยืน ผมเคลื่อนตัวถอยหลังนั่งพิงที่ปรายเตียงเอาไว้ เปิดกล้องดูรูป รูปเยอะชะมัด อ๊ะๆ รูปนี้สวยอ่ะ พี่ปืนไปถ่ายมาเมื่อไหร่นะไม่เห็นบอกกันบ้างเลย
โดยส่วนตัวแล้วผมชอบถ่ายภาพน่ารักๆ เจออะไรที่ดูแล้วน่ารักก็จะถ่าย เช่นพวกร้านเครื่องดื่ม ร้านเค้ก หรืออะไรที่มันสวยๆงามๆ แต่พี่ปืนเรียนด้านนี้ก็เลยมีรูปหลายแบบหลายสไตล์ ดูแล้วก็สวยทุกรูปนะครับ แต่ให้ถ่ายเองผมคงทำไม่ได้แบบนี้ แต่เดี๋ยวนะ...นี่ผมกำลังทำอะไรอยู่ ผมต้องหารูปตัวเองสิ!
ผมรัวนิ้วก่อนเลือนรูปไปเรื่อยๆ ในกล้องนี้มันมีกี่รูปกันนะ ทำไมมันเยอะจัง ผมกดดูไปเรื่อยๆ เสียวพี่ปืนตื่นมาก่อน ผมกดหาภาพจนมาหยุดอยู่ที่ภาพๆหนึ่ง
รูปผม...
หน้าผมแดงแปร๊ดทันทีที่ได้เห็น คือมันไม่ใช่รูปวันนั้น ผมเองก็ไม่รู้ว่าวันไหน แต่ว่ารูปนี้มัน...เป็นรูปที่ผมนอนหลับไม่รู้เรื่อง พี่ปืนถ่ายไว้แค่ช่วงบน ที่สำคัญคือผมไม่ได้ใส่เสื้อ ผมรู้ว่าตัวเองขาวนะ แต่พอมองจากกล้องแล้วมัน...อายอ่ะ ไหนจะรอยจูบตรงไหปลาร้าและบนหน้าอกอีกหลายๆที่อีก ถึงจะเห็นแค่ด้านบนแต่มันก็ดูเอ็กซ์เกินจนผมอายตัวเอง ผมกดย้อนไปดูอีกภาพเพื่อว่าจะมีภาพอีก แต่ก็ไม่มี มีภาพเดียว
“อย่าลบนะ!” พี่ปืนพูดเสียงดังตอนที่ผมกำลังจะกดลบ ผมสะดุ้งตกใจเกือบจะทำกล้องของพี่ปืนหลุดมือรีบปิดกล้องแทบไม่ทัน
ผมนั่งตัวแข็งค้างอยู่กับพื้น มือที่ถือกล้องสั่นน้อยๆ โดนจับได้จนได้ว่ามาแอบดูกล้องพี่ปืน ผมรู้ว่าพี่เขาเป็นคนหวงกล้องมาก เพราะกล้องพี่ปืนราคาแพง เลนส์ที่ใช้ก็หลักแสนทั้งนั้น จะรวยไปไหน เพราะอย่างนั้นพี่ปืนเลยไม่ชอบให้ใครจับกล้องนอกจากตัวพี่เขาเอง
“เด็กไม่ดีแอบดูของๆคนอื่น” พี่ปืนว่า ผมยังคงนั่งอยู่ที่เดิมท่าเดิมเป๊ะ ไม่กล้าขยับ พี่ปืนไถลตัวลงมานั่งซ้อมด้านหลังผมก่อนจะจับเอวผมอุ้มขึ้นนั่งบนตักพี่ปืนแทน ท่อนแขนแกร่งโอวเอวผมไว้แล้วเอาคางมาเกยผมบ่าผม ยิ่งทำแบบนี้ผมก็ยิ่งเขินเข้าไปใหญ่
พี่ปืนจับกล้องทับมือผมที่ถือกล้องไว้อยู่ แล้วพี่เขาก็กดเปิดรูปเมื่อกี้ขึ้นมา ยิ่งมองผมยิ่งอายเลยเบนหน้าหนี แต่ดันหันไปทางที่พี่ปืนเอาคางเกยไหล่ผมไว้ พี่ปืนเลยจูบแก้มผมหนักๆ
จะมาหวานอะไรแต่เช้า!
บทจะโหดก็ทำเอาผมเกือบตาย แต่พอบทจะหวานก็ทำเอาผมแทบละลายเสียให้ได้
“น่ารักไหม” พี่ปืนกระซิบถามแล้วก็หอมแก้มผมอีกรอบ
“...”ถามแบบนี้จะให้ผมตอบว่าไงกัน เขินอ่ะ
“น่ารักเนอะ”
อ๊ากกกก ไม่ไหวแล้ว ผมจะระเบิดตัวเองเดี๋ยวนี้แหละ!
“ละ ลบเลยนะ” ผมพูดตะกุกตะกัก พี่ปืนรีบปิดกล้องแล้วเอาออกจากมือผม ผมหันไปหาพี่ปืนเพื่อจะแย้งกล้องกลับมา นี่จะไม่ลบจริงๆใช่ไหม ถึงมันจะไม่ได้โป๊อะไรมาก แต่มันก็...ก็โป๊นิดๆนะ
“ไม่ลบ” พี่ปืนพูดหน้าตาย กวาดมือที่ถือกล้องไปด้านหลังแล้ววางลงบนเตียงให้ไกลมือผมมากที่สุด ผมมองตามกล้องตาปรอยๆ
“พี่ปืนขี้แกล้ง” ผมว่าพี่เขาหน้างอ พี่ปืนยิ้มมุมปากนิดๆ เลื่อนมือทั้งสองข้างลงมาจับเอวผมไว้
“พอใจ จะทำไม” สีหน้าเมือนจะสนุกมากที่ทำให้ผมอารมณ์บูดได้ ก็ไม่ได้โกรธอะไรมากหรอกครับ มันก็แค่กลัวคนอื่นเห็น...ขนาดผมยังเปิดไปเจอได้เลย แล้วคนอื่นล่ะ
“ลบเถอะ เดี๋ยวคนอื่นเห็น” ผมร้องขอ อายจริงๆนะถ้าจะให้คนเห็นภาพนั้นนะ พี่ปืนขมวดคิ้วมองจ้องผมนิ่งๆ ผมเพิ่มออฟชั่นเสริมด้วยการกอดคอพี่ปืนเอาไว้แล้วซบหน้าลงกับไหล่กว้างอ้อนๆ
“นะพี่ปืนนะ ลบเถอะ”
“ไม่ พี่ชอบรูปนี้” พี่ปืนพูดนิ่งๆ อะไรอ่ะ นี่ผมอ้อนแล้วนะ ยังไม่ยอมอีก ว่าแล้วผมก็กัดลงที่ไหล่พี่ปืนอย่างแรง!
“โอ๊ย!” พี่ปืนร้องแล้วก็จับหน้าผมออกจากไหล่ พี่ปืนไม่ได้ใส่เสื้อครับเป็นปกติของพี่เขา แต่ไม่ค่อยจะปกติสำหรับผมสักเท่าไหร่
“ลบๆๆ ลบเดี๋ยวนี้เลยนะ!” ผมร้องโวยวายอยู่บนตักพี่ปืน แต่พอบางอย่างข้างใต้มันตื่นเท่านั้นแหละ ผมหยุดดิ้นทันที พี่ปืนหื่นอ่ะทุกคน!
“กลัวอะไร เคยมีใครจับก้องพี่ได้หรือไง มีแต่เรานั่นแหละ”
“ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ แต่...”
“ไม่มีแต่ สัญญาเลยว่ารูปนี้ไม่หลุดแน่ๆ” พี่ปืนทำหน้าจริงๆ ผมครุ่งคิดก่อนจะพยักหน้า มันก็จริงิย่างที่พี่ปืนว่านั่นแหละ ไม่มีใครจับกล้องพี่ปืนได้ แม้แต่เพื่อนก็เถอะ เพราะกล้องตัวนี้พี่ปืนไม่เคยเอาออกไปไหนด้วยซ้ำ แต่ถ้าอีกตัวอันนั้นคนอื่นจับได้ แต่ตัวนี้เหมือนเป็นของต้องห้าม และเพื่อนพี่ปืนทุกคนก็ดูจะเข้าใจดี ขนาดผมยังเพิ่งได้แตะวันนี้เป็นวันแรกเลย
“จะเครียดอะไรขนาดนั้น บอกว่าไม่หลุดก็ไม่หลุดหรอกนา ถึงหลุดแล้วยังไง พี่รับผิดชอบเอง ดีไหม” พูดเฉยๆก็ได้มั้ง ไม่ต้องทำตากริ่มกริ่มใส่ผมหรอก หน้าจะไหม้แล้ว
“แล้ว...รูปวันนั้นล่ะ” ผมถามเสียงเบา ผมไม่รู้หรอกว่าวันนั้นพี่ปืนใช้กล้องไหนถ่าย พี่ปืนหัวเราะเบาๆก่อนจะตอบ
“อยู่ในมือถือ” พูดแล้วก็ชี้ไปทีโทรศัพท์ที่วางอยู่ตรงหัวเตียง ผมลุกขึ้นเดินไปหยิบโดยที่ลืมไปเลยว่าเจ็บตัวอยู่ พอได้โทรศัพท์พี่ปืนแล้วก็เดินไปหาพี่ปืนอีกครั้งก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนตักพี่ปืน ซึ่งพี่เขาก็โอบเอวผมไว้
“อยู่ในไหน” ผมเงยหน้าถาม
“หาเอาเอง”
“จิ๊!”
ผมเปิดมันทุกโฟลเดอร์ พี่ปืนมือม้เริ่มจะอยู่ไม่สุข ลูบไล้ที่หน้าท้องผมเบาๆ
“อ๊ะ!” เจอแล้วครับ!
แต่...ไม่เห็นอะไรเลยอ่ะ มีแต่ส่วนหัวของผมที่กดหน้าลงกับหมอน แล้วก็เห็นลาดไหล่แวบๆเท่านั้น ผมีอกสองสามภาพก็เหมือนกัน แบบนี้มันแกล้งกันชัดๆ
“ทำไมพี่ชอบแกล้งผมนัก” ผมทำหน้าบึ้งใส่พี่ปืน พี่เขาจะรู้บ้างไหมว่าทำผมเครียดไปหลายวัน ส่วนหนึ่งที่ไม่หายป่วยสักทีก็เพราะเครียดเรื่องนี้ด้วยแหละ
“ก็อยากทำตัวให้น่าแกล้งทำไมล่ะ” โยนความผิดกันแบบนี้เลยเหรอ
“ผมโกรธแล้วนะ”
“งั้นเหรอ ไม่ง้อนะ” พี่ปืนพูดขำๆ ผมจะงอนจริงๆแล้วนะ ง้อก้จะไม่หายงอนด้วย
แต่เอาเข้าจริง ผมก็หายงอนอยู่ดี เซ็งตัวเอง แต่ผมก็โล่งใจนะที่พี่ปืนไม่ได้ถ่ายรูปผมตอนโป๊ไว้จริงๆ แต่ฟังเหตุผลพี่แกแล้วอยากจะบ้า
“มองจากรูปมันไม่เร้าใจเท่าเห็นของจริงหรอก”
เหตุผลนี้...ซึ้งจนน้ำตาจะไหลเลยล่ะครับ!
แฮกๆๆ เหนื่อยๆ เหนื่อยได้อีก ผมทิ้งตัวนอนลงกับพื้นอย่างหมดแรง กี่ชั่วโมงแล้วเนี่ย ตั้งแต่สี่โมงเย็น ตอนนี้สองทุ่มกว่าแล้ว
“วันนี้พอแค่นี้แล้วกัน ไงวะ หอบแดกเลยดิ” ไอ้ซันเอาขาเขี่ยผมเบาๆ เดี๋ยวนี้ยิ่งสนิทยิ่งหยาบคายใส่กันมากขึ้น อยู่กับพวกมันผมก็เลยติดไปด้วย แต่ถ้าอยู่บ้านกับแมทหรืออยู่กับพี่ปืนผมต้องพูดเพราะๆเข้าไว้ พูดคำหยาบไม่ได้ เดี๋ยวโดนดุ
“ไปก่อนนะทุกคน แล้วเจอกัน” โนกับบีมพูดแล้วโบกมือลากลับบ้าน ทีแรกบีมบอกว่าจะขอหยุดซ้อมเพราะเครียดเรื่องเรียน แต่ไปๆมาๆก็กลับมาร่วมทีมต่อ ซึ่งผมกดีใจมาก เพราะในทีมผมจะสนิทกับซันและบีมมากว่าคนอื่น
“กลับไงเนี่ยเรา ให้พี่ไปส่งไหม” พี่ต้าถามผมพลางเก็บของไปด้วย ผมลุกขึ้นเก็บของๆตัวเองลงกระเป๋าบ้าง
“พี่ปืนมารับครับ” ผมบอก พี่เขาพยักหน้าเข้าใจ
ก๊อกๆ
ทุกคนที่อยูในห้องซ้อมหันไปมองที่ประตู พี่ปืนเปิดประตูห้องซ้อมเข้ามา ผมยิ้มกว้างให้พี่ปืนที่เดินมาหาผม ในมือมีแก้วชานมไข่มุขเจ้าโปรดของผม
“อยากกิน” ผมร้องบอก พี่ปืนส่งให้ผมก่อนจะนั่งลงข้างๆ จัดการเก็บของให้ผมแทน ผมรู้สึกหัวใจพองโตคับอกทุกครั้งที่พี่ปืนทำอะไรเล็กๆน้อยๆให้
“กลับยัง” พี่ปืนถามผม
“ครับ กลับเลย ต้นหอมหิวมากกกกก” ผมลากเสียงยาวให้รู้ว่าหิวจริงๆ ปกติผมต้องกินข้าวตั้งแต่หกโมงเย็นแล้ว แต่นี่สองทุ่มกว่าผมยังไม่ได้กินข้าวเย็นเลย แถมยังใช้พลังงานในการซ้อมไปเยอะ
“งั้นก็แวะกินหาอะไรกินก่อนแล้วกัน” พี่ปืนบอก
“พี่ๆ ผมกลับก่อนนะ กลับก่อนนะซัน” ผมเอ่ยลาทุกคนแล้วยกมือไหว้พี่ๆ ไอ้ซันยิ้มล้อผมที่ผมพูดกับมันซะเพราะ ผมเลยขึ้งตาใส่มันไปทีก่อนจะเดินตามพี่ปืนลงไปข้างล่างสตูดิโอ แต่ดันเดินสวนทางกับไมล์ เขามองหน้าผมก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปาก ผมรีบเดินไปเกาะแขนพี่ปืนทันที ผมไม่ชอบเวลาที่ไมล์มองผม มันน่ากลัวแบบไม่น่าเข้าใกล้ เหมือนตัวเขาจะแผ่ไปอันตรายออกมาตลอดเวลา
วันนี้พี่ปืนใจดีมาก พาผมไปกินจิ้มจุ่ม ผมอยากกินมาหลายวันแล้ว แต่ไม่มีเวลา วันนี้พี่ปืนเลยพาผมไปกิน อร่อยมาก ผมกินจนพุงกางจนแทบจะเดินไม่ไหว ทั้งอร่อยและฟรี คึคึ อิ่มจังตังค์อยู่ครบ
ผมแทบไม่เคยได้ใช้เงินตัวเองเลย ไปมหาวิทยาลัยก็ไปพร้อกกับพี่ปืนทุกวัน เดี๋ยวนี้ผมนอนกับพี่ปืนทุกคืน ผมไปนอนกับพี่ปืนที่คอนโดบ้างหรือไม่ก็พี่ปืนมานอนกับผมที่บ้านสลับกันจนผมรู้สึกว่าผมชินเสียแล้ว ถ้าต้องนอนคนเดียวผมต้องนอนไม่หลับแน่ๆ ส่วนค่าข้าว นอกจากค่าข้าวเที่ยงที่ต้องออกเองแล้วผมก็ไม่เสียค่าอย่างอื่นเลย ป๋าปืนเขาออกไปทุกอย่าง
กลับมาถึงบ้านผมรีบอาบน้ำก่อนเพราะตัวมีแต่เหงื่อ อาบเสร็จก็ลงไปข้างล่าง พี่ปืนอาบน้ำต่อจากผม ผมใช้โทรศัพท์บ้านโทรหาแมท
[ฮัลโหล]
“พี่มินเหรอ?” ผมถามเพราะเสียงไม่ใช่แมท
[อืม ต้นหอมเหรอ] พี่มินถามกลับมา
“ครับ แมทล่ะครับ” ผมถาม ได้ยินเสียงดนตรีจากปรายสาย แสดงว่าวันนี้แมทไปนั่งเฝ้าพี่มินทำงานอีกแน่ๆ
[มันนั่งรอพี่ทำงานอยู่ พอดีมันเอามือถือมาฝากพี่ไว้น่ะ มีอะไรไหม เดี๋ยวพี่เอาโทรศัพท์ไปให่มัน]
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมแค่จะโทรมาถามว่าจะกลับมานอนบ้านไหม”
[ไม่รู้มัน เดี๋ยวคุยกับมันเองนะ มึงๆ ต้นหอมโทรมา]
ผมรอจนแมทพูดขึ้น
[ว่าไง]
“กลับมานอนบ้านไหม” ผมถามไปทันที
[ไม่กลับ ล็อคบ้านไปเลย]
“แหม จะนอนกับพี่มินล่ะสิ” ผมแซวขำๆ
[แก่แดด แค่นี้นะ]
“อืม ดูแลพี่มินดีๆนะ” ผมบอกทิ้งท้ายแล้วก็วางหู พี่ปืนอาบน้ำเสร็จแล้ว พี่ปืนเดินเข้าไปในครัวคงจะไปกินน้ำ ส่วนผมก็เดินออกไปล็อครั้วและปิดประตูในบ้าน ตรวจเช็คทุกอย่างจนแน่ใจว่าเรียบร้อย พี่ปืนเดินออกมาจากครัวส่งนมให้ผมกล่องหนึ่ง ผมเขย่งปลายเท้าขึ้นจุบแก้มพี่ปืนไปที
ขึ้นมาบนห้องผมก้นั่งทำการบ้าน รู้สึขี้เกียจเพราะเพลีย แต่ก็ต้องทำให้เสร็จ ส่วนพี่ปืนน่ะเหรอ นอนดูหนังสบายใจอยู่บนเตียง ผมเลยเผลอดูบ้างไม่ดูบ้าง การบ้านก็เลยไม่เสร็จสักที
[Krrrr Krrrr]
ผมหยิบโทรศัทพ์ที่วางอยู่ใกล้ๆมือขึ้นมาดู เป็นเบอร์ไม่คุ้นและไม่ได้เซฟชื่อเอาไว้ ผมกดรับ
“สวัสดีครับ”
[ต้นหอม พี่เองนะ]
“พี่เซน” ผมหลุดเรียกชื่อคนที่โทรมาก ก่อนจะรู้สึกตัว เมื่อกี้พี่ปืนจะได้ยินหรือเปล่านะ ผมเลยหันไปมองพี่ปืน อุ้ย! มองอยู่จริงๆด้วย ผมรีบหันหน้ากลับมาตามเดิม
[ยุ่งอยู่หรือเปล่า พี่คุยด้วยได้ไหม]
“ครับ คุยได้” ผมบอกเบาๆ ยังรู้สึกผิดไม่หายเรื่องวันนั้นที่พี่ปืนต่อยพี่เซน ผมยังไม่ได้ขอโทษพี่เขาเลยด้วยซ้ะที่ทำให้เขาต้องเจ็บตัวเพราะผม
[สบายดีนะ] พี่เซนถามเสียงเรียบ แต่ทำไมผมฟังแล้วมันแลดูเศร้าๆยังไงไม่รู้
“ครับ พี่ล่ะครับ เรื่องวันนั้น ผมขอโทษด้วยนะครับ” ผมถามกลับแล้วก็เอ่ยขอโทษพี่เซน แต่ก็แอบหวั่นว่าพี่ปืนจะรู้ และดูท่าพี่ปืนจะอายุยาว นึกถึงปุบก็มาปับ
“ใครโทรมา” พี่ปืนถามเสียงดุเลยครับ ผมหันไปยิ้มแหยะๆให้พี่ปืน อย่าทำหน้าดุสิ ผมกลัวนะ!
[อยู่กับ...แฟนเหรอครับ] พี่เซนถามกลับมาเสียงเบา ผมที่โดยพี่ปืนจ้องอยู่ถึงกับสะดุ้งนิดๆ
“ว่างเดี๋ยวนี้!” พี่ปืนยืดกอดอกสั่งผม แถมยังส่งสายตามากดดันผมอีก
“เอ่อ พี่ปืน...” ผมเรียกชื่อพี่เสียงเบาๆ
“ว่างซะก่อนที่พี่จะโมโห” พี่ปืนพูดแค่นั้นก่อนจะเดินกลับไปทิ้งตัวนอนที่เตียง
[งั้นก็แค่นี้แล้วกันนะต้นหอม พี่แค่จะโทรมาบอกว่าพรุ่งนี้พี่จะกลับปารีสแล้ว แล้วกํ...] พี่เซนหยุดพูดไปนาน ผมรอแต่ตาก็มองพี่ปืนด้วยความไม่สบายใจ
[พี่ชอบเรานะ...]
สายตัดไปแล้ว แต่ผมยังถือโทรศัพท์ค้างอยู่อย่างนั้น
เมื่อกี้พี่เซนเขาบอกว่า...ชอบผมงั้นเหรอ
ชอบผมเนี่ยนะ!!!
ผมเดินไปหาพี่ปืนก่อนจะกอดพี่ปืนเอาไว้แน่น พี่ปืนกอดตอบผม ผมใจชื้นขึ้นมานิดหนึ่ง แสดงว่าพี่ปืนคงจะไม่ได้โกรธอะไรผมมาก แต่ผมก็รู้สึกไม่สบายใจ เพราะแบบนี้หรือเปล่า พี่ปืนถึงได้ไม่พอใจที่ผมออกไปเที่ยวกับพี่เซน เพราะพี่ปืนเคยอบกไว้แล้วว่าพี่เซนจะจีบผม พี่เซนชอบผมแต่ผมไม่เชื่อ
“คิดอะไรอยู่” พี่ปืนถามตอนที่หนังจบ ผมมานอนกอดพี่ปืนอยู่นาน ในหัวก็คิดแต่เรื่องของพี่เซน
“พี่ปืน พี่เซนเขา...”
“อยู่กับพี่ยังจะคิดถึงผู้ชายคนอื่นอีกเหรอไง!!!” พี่ปืนตวาดใส่ผมก่อนที่ผมจะพูดจบ ร่างผมแทบแหลกเพราะพี่ปืนรัดตัวผมแน่น
“พี่ปืน ต้นหอมเจ็บ” ผมร้องบอก พี่ปืนทำหน้าไม่พอใจใส่ผม
“เคยบอกแล้วใช่ไหมว่าอยู่กันพี่อย่าคิดถึงผู้ชายคนอื่น!”
“ต้นหอมเปล่านะ ก็แค่...ต้นหอมขอโทษ”
“...”
“ขอโทษที่ไม่เชื่อพี่”
“เรื่องอะไร” พี่ปืนถามเสียงเข้ม ผมซบหน้าลงกับอกพี่ปืน
“เรื่องที่พี่บอกว่าพี่เซนชอบต้นหอม เมื่อกี้พี่เขาโทรมาบอกว่าจะกลับปารีสพรุ่งนี้...แล้วก็บอกว่าชอบผม” ผมบอกพี่ปืน ไม่อยากปิดบังอะไร ก็พี่ปืนบอกผมว่าคนรักกันต้องไม่มีเรื่องปิดบังกัน ผมเลยบอกพี่เขาซะ จะได้ไม่มีปัญหาทีหลัง
“ถ้ามันไม่พูดก็ไม่คิดจะเชื่อพี่ใช่ไหม”
“ก็...ใครจะไปรู้ล่ะ”
“ต่อไปนี้ห้ามติดต่อกับมันอีก ถ้ามีอีกครั้งเจอดีแบบวันนั้นแน่!”
โหดเกิน!!! แค่ครั้งนั้นครั้งเดียวก็เกินพอแล้วครับ จะตายเอา!
แต่ผมก็ได้รู้อย่างหนึ่งแล้วว่า การที่เราพูดความจริงออกไป มันสบายใจแบบนี้นี่เอง
……………………..
# ขอติดแก้คำผิดไว้ก่อนนะ ง่วงมากกกก

# ตอนหน้าจะเป็นของแมทมินนะ ใครที่รออยู่สมใจอยากแน่ๆ