= 2 = “หึ..ทั้งหมดเท่าไหร่” น้องถาม
“แปดพัน”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้เอาให้”
“ไม่ต้องหรอก พี่ได้ค่าชกเอาเงินนั้นใช้ก็ได้” ผมแย้ง
“จิ๊..พรุ่งนี้เอาให้ คืนพี่โจ๊กไปซะไม่ต้องพูดมาก แล้วเงินนั่นเก็บเข้าบัญชีไว้ บอลให้พร้อมค่าใช้จ่ายรายเดือนทีเดียว สองหมื่นแปดโอเคไหม” น้องสรุปตัดบท น้ำเสียงเริ่มหงุดหงิดผมเลยหุบปากสนิท ไม่อยากให้มาทะเลาะด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง อยากรับผิดชอบก็ตามใจ อย่างว่าเศรษฐีนิ ดอกเบี้ยยังใช้ไม่หมดประสาอะไรกับเงินแค่นี้
“เดี๋ยว..คุยก่อน” น้องเรียกผมไว้ หลังกลับถึงบ้าน ช่วยขนของวางบนโต๊ะ กำลังจะเดินขึ้นชั้นบนไปอาบน้ำนอนพัก เหนื่อยเพลียรู้ตัวตอนที่กลับถึงบ้านนี่แหละ อยากพักมากๆ
“มีอะไร” หันไปถาม
“นั่งก่อน” น้องเลื่อนเก้าอี้นั่ง ก่อนจะพยักหน้าให้ผมนั่งฝั่งตรงข้าม
“เป็นตุ๊ดไม่ได้แปลว่าต้องปล่อยตัว” จู่ๆพูดแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย แต่ผมเข้าใจทันที คงหมายถึงตอนชกบนเวทีแล้วไอ้เอ็กซ์มันลวนลาม
“ตอนนั้นลูกพัวพัน ไม่ได้อยากให้มันทำ” ผมเถียง
“แล้วตอนไอ้หนุ่ยหอมแก้มที่ลานจอดรถล่ะ” เออ..กูจะบอกว่าไง น้องหนุ่ยมันเล่นทีเผลอนิ อีกอย่างก็ไม่ได้เสียหายแฟนกันหอมก็ไม่แปลก
“น้องหนุ่ยเป็นแฟนหอมนิดหน่อยไม่เป็นไรหรอก” พูดตามที่คิด แล้วทำไมกูเป็นพี่เหมือนเป็นลูกมานั่งให้พ่ออบรมด้วยวุ้ย
“เห็นป่ะ..มักง่ายแบบนี้ เดี๋ยวมันก็ฟันแล้วทิ้ง” เฮ้ย! คิดไปถึงไหน
“พี่ไม่ได้ปล่อยตัวขนาดนั้นสักหน่อย” เสียงแข็งแล้ว
“ถึงได้เตือนก่อน คนเรามันเริ่มแบบนี้ได้ ก็ต้องมีมากขึ้นเรื่อยๆ ครั้งหน้าก็จูบสุดท้ายก็จบเรื่องอย่างว่า ยิ่งตุ๊ดไม่มีใครสนหรอก” อึ้งเลย
“เห็นพี่เป็นคนแบบไหนหึ” กำหมัดแน่น ชักโมโหที่น้องมองเหมือนผมทำตัวเหลวไหล
“ไม่เห็นเป็นแบบไหนทั้งนั้น ผู้หญิงที่ว่ายากยังได้มาง่ายๆ แล้วบูเป็นตุ๊ดง่ายกว่ากันตั้งเยอะ ไม่ต้องกลัวท้องไม่ต้องรับผิดชอบ เตือนเพราะเป็นห่วงหัดฟังกันบ้าง” น้องเริ่มเสียงดังใส่ผมแล้ว ขืนต่างใช้อารมณ์ผมว่าคงเป็นเรื่องจนได้ ดีที่สุดเลี่ยงดีกว่า
“ช่างเถอะ จะระวังก็แล้วกัน” เตรียมลุกขึ้นห้อง
“พรุ่งนี้ไปยังไง” ยังไม่ยอมปล่อยผมอีก
“ไปไหน” ไม่เข้าใจ นัดหลายที่
“ไปเยี่ยมพี่หนกกับพี่แบม”
“โจ๊กขับมอเตอร์ไซค์มารับ”
“ให้พี่โจ๊กเอารถมาจอดไว้ที่บ้าน เดี๋ยวไปส่ง” ไม้ไหนของเขาเนี่ย
“บอลจะไปด้วยหรือไง”
“อืม” หมดคำถาม อีหรอบนี้คงได้แต่พยักหน้า ขึ้นไปโทรบอกโจ๊กมันก่อนดีกว่า
“ว่าไงมึง..” โจ๊กรับสาย
“ทำอะไรอยู่”
“อาบน้ำเพิ่งเสร็จ โทรคุยกับอีแบมเสียงมันยังเพลียๆ แต่ไอ้หนกมันหลับไปแล้ว” มันรายงานเป็นเรื่องเป็นราว
“น้องกูไปด้วย” ผมบอก
“ไปไหน งานเลี้ยงอะเหรอ ก็ต้องสิ น้องมึงหัวหน้าวงไม่ไปสิแปลก” มันเข้าใจไปคนละเรื่อง
“ไปเยี่ยมแบมกับกนก” ผมบอก
“เฮ้ย..จริงดิ” มันยังตกใจ นึกว่าจะมีกูคนเดียวเสียอีก
“เออ..บอกให้มึงจอดรถไว้บ้านกู แล้วเอารถยนต์ไปแทน”
“นึกยังไงไปด้วยว่ะ” มันสงสัยไม่แปลกหรอก บอลลูนไม่เคยทำตัวสนิทอะไรกับเพื่อนผมขนาดนี้ สนิทประมาณหนึ่งแต่ทำอะไรแบบนี้ไม่เคยมี
“กูไม่รู้ แล้วมึงว่าไง” ผมถามเผื่อมันไม่สะดวก
“ไม่เป็นไร ดีเสียอีกไม่ต้องตากแดดให้ร้อน” ตามนิสัยง่ายๆสบายๆไม่คิดมาก
“งั้นแค่นี้นะเจอกันพรุ่งนี้ กูอาบน้ำก่อน” ต่างวางสาย กำลังจะลุกคว้าผ้าเช็ดตัว สายเรียกเข้าอีกแล้ว
“ว่าไงหนุ่ย” น้องหนุ่ยโทรมา
“ถึงบ้านหรือยัง”
“อืม..กำลังจะอาบน้ำ แล้วหนุ่ยละ”
“อาบเพิ่งเสร็จโทรหาเลย แต่สายไม่ว่าง”
“อ๋อ..เพิ่งวางหูโจ๊ก” ผมบอก
“เหรอ..นึกว่าคุยกับใคร” แอบมีประชด
“คุยกับใคร” นั่นสิเข้าใจว่าผมต้องคุยกับใคร
“ไม่รู้..เห็นมันตะโกนตามหลังจะโทรหาคืนนี้” ไอ้เขม ลืมไปด้วยซ้ำ นี่น้องหนุ่ยดันจำได้อีก
“ไม่มีใครโทรมาหรอก” พูดความจริง
“ดีแล้ว มันโทรมาจะรับไหม” อ้าว...ต้องตอบว่าไง ไอ้เขมมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ติดแค่พูดกวนผมมากกว่า
“ก็รู้จักกัน ทำไมล่ะ”
“เปล่า..ไม่อยากให้รับ” เปล่าแล้วไม่ให้รับเนี่ยนะ เงียบไม่รู้ต้องตอบยังไง ทำไมมีแต่คนห้ามไม่ให้รับสายไอ้เขม บอลลูนก็อีกคน
“เงียบทำไม” ผลของการมีแฟนสินะ สิทธิของเขา
“อืม..” คงอยากให้รับปาก
“อืม..หมายความว่าไง” ชักเซ็ง ต้องการให้รับปากว่าไงเล่า
“อืม..คือไม่รับก็ไม่รับ” ตัดรำคาญ
“ครับ..ดีใจจัง แฟนหนุ่ยน่ารักมาก” เย้ย!..อารมณ์ไหนเนี่ยะ
“มีอะไรอีกหรือเปล่า ขออาบน้ำก่อน” เขินอ่ะ จู่ๆมาชมกัน
“คร๊าบ..ไม่กวนแล้ว เจอกันพรุ่งนี้ ว่าแต่บูตัสมายังไงให้ไปรับไหม” ยังมีแก่ใจห่วงผมอีก
“ไม่ต้องหรอก ไปกับบอล” ผมบอก น้องคงพ่วงพวกผมไปด้วย
“เหรอ..ถ้างั้นนอนหลับฝันดี”
“ครับ..ฝันดีเช่นกัน” ผมบอก ก่อนจะยิ้มใส่โทรศัพท์ น้องหนุ่ยทำตัวน่ารักกับผมจริงๆ
“ชะลัลาๆๆ!!” มาอีกสายล่ะวางหูปัปสายเข้าปุ๊บ อะไรวุ้ย! ดูเบอร์ไอ้เขม ไม่รับดีกว่ามีแต่คนไม่อยากให้รับสายมัน คว้าผ้าเช็ดตัวอาบน้ำจะได้พักผ่อนเสียที
กลับออกมาสิบมิสคลอ แถมอีกหนึ่งข้อความ ของไอ้เขมคนเดียวล้วนๆ อะไรของมันนิ ผมเปิดอ่านข้อความ
“มึงไม่รับโทรศัพท์กู พรุ่งนี้เช้ากูบุกถึงบ้าน” อ่ะไอ้เวร..มีขู่ด้วยวางมวยกับบอลลูนแน่ ถ้ามันมาที่บ้านละก็ เสือกรู้จักบ้านกูตั้งแต่เมื่อไหร่ กลัวไม่มาคนเดียวพ่วงเพื่อนมาด้วยจะห้ามพวกมันไม่ไหว
“ว่าไง” จำต้องโทรกลับไปจนได้
“คุยกับกูได้แล้วสิ” กวนอีก
“กูอาบน้ำอยู่” โกหกด้านๆ
“นึกว่ากลัวกูบุกถึงบ้าน” กลัวที่ไหน กูไม่อยากมีเรื่องไอ้ห่า
“แล้วมึงมีไร พูดยังกับรู้จักบ้านกู” เผื่อได้คำตอบ
“รู้สิ..ไม่รู้กูจะกล้าบอกมึงเหรอ รู้ตั้งแต่วันที่มีเรื่องกับน้องมึงแล้ว” ว่าแล้วเชียว มันคงมาดูลาดเลาไว้นิสัยพวกห่านี่
“ตกลงมีไร” เปลี่ยนเรื่องคุย
“ไปดูหนังกัน” ผมเงียบ นี่มึงชวนกูเดทเหรอเนี่ย
“เงียบทำไม รอคำตอบอยู่”
“กูไม่ไป” ผมบอก
“มึงไปแน่นอน..อย่าเล่นตัว ที่กูไม่เล่นน้องมึงคืนเพราะมึงหรอกจะบอกให้ อย่าเข้าใจว่ากูสู้น้องมึงไม่ได้แล้วหยุด ความจริงกูจบกับสายไหม เพราะกูสนใจมึงต่างหาก เลยไม่คิดเอาคืนน้องมึง แค่บอกพวกกูน้องมึงรับรองแดกน้ำเกลือ” นี่มันขู่เหรอเนี่ย
“สัดนิ..มึงขู่กูเหรอ พ่องมึงสิสอนให้จีบแบบนี้ห๊ะ” ผมด่ามันแล้ว โมโหชะมัดจีบภาษาอะไรของมัน ขู่เอาๆ
“จีบตามสไตล์เด็กช่าง กูหวานไม่เป็น มึงชอบเถื่อนๆแต่หล่อรวยไม่เล่า ว่าไงสนใจคบกับกูไหม” ฟังมัน ไม่รู้ตอนจีบสาวทำแบบนี้หรือเปล่า
“มึงไปเช็คประสาทก่อนเหอะ กูว่าสมองมึงชักเพี้ยนแล้วเขม” แนะนำมันดีๆ คนปกติที่ไหนเขาทำอย่างมันกัน
“ฮะฮ่าๆๆ..มึงไปเป็นเพื่อนกูสิ ไม่พาไปกูจะบอกหมอได้ยังไงว่าใครเป็นญาติกู” เอากับมันสิ
“พ่อแม่พี่น้องมึงไง เกี่ยวไรกู” ยิ่งคุยยิ่งหงุดหงิด ไม่กล้าวางสาย กลัวมันบ้าทำอย่างที่พูด
“กูอยากให้มึงเป็นญาติ เผื่อหมอถามจะได้บอกแฟนพามาส่ง” โธ่เว้ย! อยากจะบ้าตาย
“กูมีแฟนแล้ว เลิกวุ่นวายกับกูเหอะ” พูดเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว
“กูว่ามึงนั่นแหละควรไปเช็คประสาท สมองเสื่อมหรือเปล่า กูบอกแล้วไม่สนใจเรื่องแฟนมึง กูจีบมึง..ไม่รู้จักจำ” เวร..เพิ่งเจอไอ้นี่แหละมึนจนอยากเอาหัวโขกเตียงเวลาคุยกับมัน
“เขม..กูจะนอนแล้วแค่นี้นะ” ผมตัดบท
“เดี๋ยวดิ..รีบนอนไปไหน กูยังไม่ได้ชมมึงเลย วันนี้มึงแน่มากเล่นซะไอ้เอ็กซ์น็อกหลับคาเวทีเลยมึง” ยังมีลูกต่ออีก
“มึงก็รู้ กูสู้มันไม่ได้หรอก มันไม่ยอมทำกูเอง” ผมไม่กล้ารับคำชม คนเป็นมวยถ้าไม่ตาบอดมองออกง่ายจะตาย
“ใครบอกมันไม่ทำมึง ทั้งฟัดทั้งจูบยิ่งกว่าทำอีก”
“สัด..พวกมึงเป็นกันทั้งอาชีวะเลยหรือเปล่า” อดไม่ได้ว่าแดกแล้ว
“คนอื่นไม่รู้ ส่วนกูเป็นกับมึงคนเดียว” อึ้ง..ฟังมันหยอดได้หน้าถีบหน้าตาไม่ได้ขี้เหร่ เป็นห่าไรถึงมาป่วนผมอยู่ได้
“แค่นี้ใช่ไหม กูวางนะ เหนื่อยอยากพัก” ผมพูดติดเสียงเหนื่อยให้ได้ยินชัดๆ
“มึงยังไม่รับปากไปดูหนังกับกูเลย” นึกว่ามันลืมไปแล้วเสียอีก
“กูไม่ว่าง เพื่อนกูป่วยต้องไปเยี่ยม” ผมบอก
“แล้ววันอื่นล่ะ” ยังไม่เลิกตื้อ
“กูต้องติวเตรียมสอบแอดฯ ไม่มีเวลาแล้ว” เลี่ยงสุดชีวิต
“ก็ได้..งั้นฝันถึงกูด้วยล่ะ กูจะฝันถึงมึงเช่นกัน” วางสายเลย ไม่คิดว่าคนเถื่อนอย่างมันจะน้ำเน่าได้ขนาดนี้ ก่อนจะปิดไฟเข้านอนด้วยอารมณ์หลากหลาย ทำไมช่วงนี้มีแต่คนเพี้ยนๆ เข้ามาหาก็ไม่รู้...??
อัพก่อนแทนการขอบคุณทุกเม้นท์ทุกโพสฯ ที่ให้กำลังใจกันมากมาย
คนเขียนปั่นจนน้ำตาไหล ไม่คาดคิดว่าจะมีคนรอและติดตามจนขึ้นโพส 4 หน้าเป็นครั้งแรกของนิยายเรื่องนี้
หากได้กำลังแบบนี้ คนเขียนสู้ตายเลยทีเดียว ต้องขออภัยที่หลายคนค้างจากตอนที่แล้ว
ความจริงมันไม่ได้เจตนา มันยาวมากและก็เขียนต่อไม่ออก 555+++ สารภาพความจริง
เลยยกยอดมาตอนนี้ หวังว่าคงหายงอลลลล!!!! กันแล้วนะเคอะ
Luk.
ปล. บวก 1 ทุกเม้นท์ย้อนหลังสำหรับมาลัยน้ำใจแห่งคอมเม้นท์ที่น่ารักค่ะ
แต่ขอยกยอดไปกดบวกให้พรุ่งนี้นะคะ วันนี้ยังกดไม่ได้ค่ะ