Special Part ll: Sales Support {พี่เป็ด/น้องจี}
จีรวัฒน์แหงนหน้ามองท้องฟ้าเบื้องบน ความมืดมิดโรยตัวครอบคลุมพื้นที่ เวลาเพียงทุ่มเศษๆ แสงสีในกรุงเทพฯ คล้ายเพิ่งตื่นจากหลับใหล ถนนเส้นเล็กบรรจุรถราที่ต่อแถวเรียงกันยาวสุดสายตา ผู้คนมากมายแทรกซึมอยู่ในทุกอณู ...วุ่นวายแต่อ้างว้าง มากมายแต่โดดเดี่ยว สว่างไสวแต่มืดมิด...
สองเท้าก้าวเดินเรื่อยเปื่อยไร้จุดหมาย น้ำตาในอกข้างซ้ายก่อตัวขึ้นท่วมท้น แต่เขาจำต้องเก็บกลืนมันลงไปให้ลึกกว่าหัวใจ นาทีนี้เขาคิดถึงแม่... คิดถึงบ้านหลังเล็กอันอบอุ่นที่จากมา เมื่อกรุงเทพฯ มีเงิน มีงาน มีทุกอย่างรออยู่
ยกเว้นความรัก...
"เฮ้ย! อะไรวะ" จีรวัฒน์สะดุ้งสุดตัว เมื่อผู้ชายสองคนท่าทางเมามายเดินเข้ามาหา มือเล็กกระชับกระเป๋าใบเก่าแน่น สายตาระแวดระวังมองไปโดยรอบ ผู้คนเดินผ่านเขาไปเหมือนอากาศ
"ขะ..ขอ..โทษครับ" แม้จะมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด แต่คนตัวเล็กก็เลือกจะเอ่ยออกไป ชายสองคนมองหน้ากันเหมือนปรึกษา จีอาศัยจังหวะนั้นพุ่งตัวออกมาและวิ่งสุดฝีเท้ากลับไปในเส้นทางเดิม
หลังพาตัวเองมาถึงหน้าออฟฟิศได้ ร่างเล็กก็ทิ้งตัวลงนั่งอย่างหมดสภาพ น้ำตาที่เก็บซ่อนไหลออกมาอย่างสุดกลั้น เหนื่อยกับความเฮงซวยที่เจอตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาในเมืองนรกแห่งนี้
เขาได้งานที่นิตยสารฟรีก็อปปี้หัวเล็กๆ เก็บกระเป๋าหนึ่งใบมาจากบ้านนอก ถึงหมอชิตตอนห้าโมงเย็นเมื่อวาน ทำเซ่อๆ ซ่าๆ ให้แท็กซี่หลอกเงินไป 500 บาท ก่อนจะพาตัวเองดั้นด้นมาจนถึงหอพักที่ญาติของญาติหาไว้ให้ และพบว่าเงินประกันที่แม่ฝากให้คนจองห้องถูกโกงหายไปกับอากาศ เขากลายเป็นคนไร้ที่ซุกหัวนอน แต่โชคดีที่เจ้าของหอพักเมตตาสงสาร เลยให้เขาพักกับลุงยามเมื่อคืนนี้
แสงไฟจากรถยนต์สาดกระทบร่างเล็กๆ ที่นั่งกอดเข่าอยู่หน้าประตูรั้วออฟฟิศ คนบนรถเหยียบเบรกเสียงดังลั่น วอลโว่คันงามหยุดตรงหน้าร่างดังกล่าวไปไม่กี่เซนติเมตร
“จี?!” เป็ดเรียกคนตรงหน้าอย่างประหลาดใจ เขากลับมาเอาเอกสารที่ออฟฟิศ เพราะพรุ่งนี้มีไปพบลูกค้าแต่เช้า คิดไม่ถึงว่าจะเจอเซลส์ซับพอร์ตคนใหม่ในเวลานี้
“หวะ...หวัดดีครับ” คนตัวเล็กตอบเสียงเบา ขณะที่ผู้มาใหม่ไขกุญแจเข้าออฟฟิศอย่างคล่องแคล่ว และทำท่าเชื้อเชิญให้อีกคนเข้าไปในออฟฟิศด้วยกัน
“ทำไมยังไม่กลับบ้าน” เสียงทุ้มถามออกไปแล้วก็ได้แต่ความเงียบเป็นคำตอบ
คนแก่กว่าถอนหายใจ “อยู่ไหน เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
จีส่ายหน้า ก่อนจะตอบออกไปในที่สุด “ผม...ยังไม่มีที่อยู่เลยครับ”
หลังจัดการกับเอกสารที่ต้องใช้เรียบร้อย เซลส์ประจำเกย์สเกลก็จับเด็กใหม่ยัดใส่รถ และตัดสินใจพาไปบ้านตัวเอง เป็ดฟังเรื่องราวที่เด็กชายตัวเล็กเล่าให้ฟังอย่างแล้วก็ได้แต่สงสาร แม้ตัวเองจะมีพร้อมตั้งแต่ออกจากท้องแม่ แต่ก็เข้าใจว่าความอ้างว้างหน้าตาเป็นยังไงเช่นกัน
วอลโว่คันงามจอดเทียบหน้าบ้านหลังโต เจ้าของรถกดรีโมทสองที ประตูรั้วอัตโนมัติก็เลื่อนออกช้าๆ จีรวัฒน์เบิกตากว้างกับความอลังการของบ้านเซลส์รุ่นพี่ หลังรถจอดสนิท เจ้าสุนัขสองตัวก็ทั้งวิ่งทั้งเห่าแสดงการต้อนรับเสียงดัง
“สหกิจ! วิจิตรา!” เป็ดดุเจ้าสุนัขชื่อแปลกเพียงครั้งเดียว ทั้งหมดก็พากันเงียบและส่งเสียงหงิงๆ ก่อนเจ้าของบ้านจะเดินมาที่ประตูอีกฝั่ง และพาคนตัวเล็กเดินเข้าบ้านไปด้วยกัน
“แม่...แม่ๆๆ” จีรวัฒน์เหลือบมองผู้ชายอายุราวสามสิบที่ส่งเสียงเรียกแม่ตัวเองเสียงลั่นบ้าน
“ทำไมวันนี้กลับเร็วฮะตาเป็ด” คุณหญิงของบ้านปรากฏตัวพร้อมถุงมือไมโครเวฟ จีสบตาผู้หญิงหน้าตาใจดีแล้วยกมือไหว้อย่างมีมารยาท
“จี นี่แม่พี่” ลูกชายของบ้านแนะนำ “แม่ครับ นี่จี เซลส์ซับพอร์ตที่ออฟฟิศ”
“พอดีมีแอคซิเดนท์นิดหน่อย คืนนี้ให้น้องมาพักด้วยนะฮะ” เป็ดบอกง่ายๆ และผู้เป็นแม่ก็ตอบรับแบบง่ายๆ ก่อนจะเชิญชวนลูกชายและเพื่อนไปที่ห้องอาหาร
“เดี๋ยวแม่ทำผัดผักเพิ่มอีกอย่างละกัน น้องจีกินผักได้ใช่มั้ยลูก” ผู้มาเยือนตอบรับอย่างเกรงใจ
อาหารมื้อนั้นทำให้จีเริ่มสบายใจมากขึ้น ท่ามกลางเรื่องราวแย่ๆ ร้อยพันเรื่องที่ผ่านเข้ามา ยังมีเรื่องดีๆ และคนดีๆ อีกสองคนที่ทำให้ชีวิตของเขาไม่โหดร้ายเกินไปนัก
“งั้นน้องจีก็อยู่นี่ไปก่อนก็ได้นะ” ผู้เป็นแม่เอ่ยปาก เมื่อรู้ว่าเด็กหนุ่มเดินทางจากบ้านเกิดมาเพียงลำพัง และต้องเจออะไรในเมืองหลวงแห่งนี้บ้าง คุณหญิงมีลูกชายคนเดียว และอยู่กับลูกแค่สองคนในบ้าน คงไม่เป็นไรหากจะมีใครอีกสักคนมาอยู่ด้วย ท่าทางนอบน้อมและแววตาใสนั่นยิ่งทำให้รู้สึกไว้วางใจ
“นั่นดิ่ อยู่นี่ไปก่อนแล้วกัน หาหอได้เมื่อไรค่อยว่ากัน” พี่เป็ดช่วยสรุปอีกที น้องจีอึกอักด้วยความเกรงใจ ก่อนจะตอบตกลงในที่สุด
หลังพาเพื่อนลูกชายไปอยู่ในห้องเล็กของบ้านเรียบร้อย ผู้เป็นแม่ก็เดินมากระซิบกระซาบ “แกไม่ได้พาโจรเข้าบ้านใช่มั้ยตาเป็ด”
เป็ดหัวเราะแล้วกระซิบตอบ “ระดับพี่เอ้สกรีนนะแม่ สืบไปถึงประวัติอาชญากรรม ญาติพี่น้อง บุญกรรมตั้งแต่ชาติที่แล้ว”
เซลส์ของออฟฟิศไม่ได้พูดเกินจริง คนอย่างบก.เอ้ เห็นเงียบๆ แต่หมอดูเพียบนะครับ!! นอกจากตรวจสอบประวัติอื่นๆ แล้ว ยังเอาดวงชะตาราศีไปดูต่ออีกด้วย ถ้าดวงไม่ส่งเสริมบริษัทก็อย่างหวังจะได้มานั่งหน้าแป้นอยู่เลย
“ดูท่าทางซื่อๆ มารยาทก็ดี หน้าตาก็น่ารัก” คุณหญิงเปรย ฝ่ายลูกชายหัวเราะขัน น่ารักยังไงมันก็ผู้ชายนะแม่ ถึงจะตาแป๋วๆ แก้มแดงๆ ตัวเล็กๆ ขาวๆ ก็เถอะ
“แม่ชอบ” ผู้เป็นแม่สรุป ก่อนจะเดินเข้าห้องนอนไป
“เสน่ห์แรงจริงไอ้ตัวเล็ก” เป็ดพึมพำ “อย่าพาพวกมายกเค้าบ้านกูละกัน เหอะๆ”
…………. Gayscale Magazine………….
ชีวิตการทำงานเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับจี หลังเรียนจบจากมหาวิทยาลัยในจังหวัดบ้านเกิด นิตยสารแห่งนี้ก็เป็นที่แรกที่ได้มาเริ่มงาน ตำแหน่งของเขาคือเซลส์ซัพพอร์ต หรือผู้ช่วยเซลส์ที่คอยทำเอกสาร นัดลูกค้า บางครั้งก็ช่วยทำราคาด้วย คนที่เป็นทั้งเพื่อนร่วมงานและครูคนแรกในการทำงานก็คือพี่เป็ด ผู้ชายที่หยิบยื่นน้ำใจมาให้เขาในวันที่ชีวิตไร้ทางออก
พี่เป็ดเป็นคนปากร้าย แต่ลึกๆ แล้วแกก็ใจดีอย่างประหลาด บก.เอ้มักแซวบ่อยๆ ว่าพี่เป็ดเบื่อชีวิตคุณชาย เลยมาทดลองใช้ชีวิตรากหญ้า หากเขาไม่เคยเห็นบ้านพี่เป็ด อาจจะคิดว่านี่เป็นคำแซวเล่นๆ เท่านั้นเอง ชีวิตระดับพี่เป็ด ไม่ต้องทำงานก็น่าจะเหลือกินเหลือใช้ แต่ด้วยความเป็นคนแอคทีฟ ทำให้พี่เป็ดไม่ยอมอยู่เฉย และพาตัวเองมาทำอาชีพที่ต้องเอาใจคนอื่นอย่างเซลส์
“จี!” คนในความคิดเดินหน้าเครียดเข้ามาหา เจ้าของชื่อรับคำเบาๆ
“ทำไมใส่ราคานี้ไป นี่มันสำหรับแอดที่ลงหกเดือน ไม่ใช่เดือนเดียว” คนพูดชี้ตัวเลขในกระดาษให้เซลส์ซัพพอร์ตดู ราคาค่าโฆษณาในนิตยสารจะมีเรทแตกต่างกัน อยู่ที่ว่าจะลงพื้นที่เท่าไร และระยะเวลากี่เดือน
“จริงด้วย... ขอโทษนะครับ เดี๋ยวผมทำให้ใหม่ตอนนี้เลยครับ ขอโทษนะครับ” คนผิดลุกลี้ลุกลน เอ่ยขอโทษซ้ำๆ ตากลมมีแววสำนึกผิดอย่างจริงจัง
เซลส์เบอร์หนึ่งของออฟฟิศแสร้งหันไปมองทางอื่น ด้วยรู้สึกว่าการสบตากับคนตัวเล็กเป็นเรื่องยากกว่าการขายโฆษณามากนัก
“เหอะ เหอะ” บก.ร่างใหญ่แอบหัวเราะในลำคอกับปฏิกิริยาที่ลูกน้องเป็น
“พี่เป็ดโกรธผมเหรอ” มือนิ่มคว้าแขนคนที่กำลังจะเดินหนีแล้วเขย่าเบาๆ “โกรธแน่ๆ เลย...ใช่มั้ย”
จีหมายถึงการเมินเฉยของอีกคน เขารู้ว่าราคาเป็นสิ่งสำคัญและควรจะรอบคอบกว่านี้ เขารู้...แต่เขาก็ทำผิดพลาดจนได้ ไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้ และไม่อยากให้อีกคนโกรธแบบนี้ด้วย
“เปล่า” หัวหน้าเซลส์ตอบ หัวใจสั่นรัวไปหมดกับท่าทางของอีกคน ไม่กล้าสบตา ไม่อยากให้มาแตะต้อง เพราะเหมือนความรู้สึกข้างในมันจะอ่อนไหวขึ้นทุกวัน
“ไม่จริงอ่ะ พี่เป็ดไม่ยอมมองหน้าผมเลย” เสียงเศร้าๆ ทำให้พี่เป็ดยอมแพ้ มือใหญ่วางบนศีรษะกลมและขยี้ผมสีเข้มอย่างแรง คนโดนแกล้งร้องโวยวาย แต่นัยน์ตาสะท้อนความโล่งใจและประกายแห่งความสุข
“ไม่เกินครึ่งปี...” บก.เอ้แกล้งเปรยเสียงดัง พนักงานที่เหลือหันมามองหน้าเจ้านายที่ทิ้งคำปริศนาไว้ คนพูดมีนัยไร้คำพูดอื่นๆ ต่อ ได้แต่อมยิ้มกับความคิดของตัวเอง ...ไม่เกินครึ่งปี มันต้องได้กันแน่นอน บก.เอ้ฟันธง!
ระยะเวลาสามเดือนที่นิตยสารแห่งนี้ถือเป็นช่วงแห่งการเรียนรู้อย่างแท้จริง พี่เป็ดเริ่มให้จีออกหาลูกค้าพร้อมกับตนเอง เพื่อจะได้ฝึกการเป็นเซลส์ต่อไป แต่วันนี้เป็นครั้งแรกที่จีต้องเข้าพบลูกค้าเพียงลำพัง ร่างเล็กรู้สึกตื่นเต้นจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ และดูเหมือนว่าพี่เป็ดเองก็สังเกตเห็นเช่นกัน
“เอามือมา” คนหลังพวงมาลัยที่อาสามาส่งเอ่ยกับลูกน้องที่นั่งเคียงข้าง น้องจีทำหน้าเหรอหราแต่ก็ยอมยื่นให้โดยดี
พี่เป็ดคว้ามือขาวมากุมไว้แน่น ปลายนิ้วเย็นเฉียบบอกให้รู้ว่าเจ้าของมือรู้สึกอย่างไร “ไม่ต้องกังวล พี่จะรออยู่ใกล้ๆ นะ”
หัวหน้าเซลส์เอ่ยเสียงเบา ก่อนจะเลื่อนมือไปแตะที่แก้มนิ่มทั้งสองข้าง จีรวัฒน์แทบหยุดหายใจกับการกระทำนั้น ความอบอุ่นแผ่ซ่านจนใบหน้าเริ่มร้อน และบางทีมันอาจลุกลามมาถึงหัวใจ...
“จำที่พี่บอกได้ใช่มั้ย...” พี่เป็ดเอ่ยถาม คนข้างๆ พยักหน้าแข็งขัน
งานแรกเป็นการเข้าพบเอเจนซี่ที่ดูแลบริษัทอาหารกึ่งสำเร็จรูป จีเลือกเสื้อเชิ้ตพอดีตัวสีใกล้เคียงกับสีประจำของแบรนด์ มีสูททรงแคชชวลเพิ่มสไตล์ให้ดูไม่เคร่งขรึมเกินไปนัก หลังติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์เพื่อแลกบัตรผ่าน เซลส์มือใหม่ก็พาตัวเองไปยังชั้น 8 ก่อนเวลานัดหมายเล็กน้อย
สมาร์ทโฟนรุ่นกลางสั่นอยู่ในกระเป๋า เมื่อหยิบออกมาดูก็พบว่ามีข้อความในโปรแกรมสนทนาจากเซลส์รุ่นพี่ที่รออยู่ด้านล่าง
‘สู้ๆ นะ เสร็จแล้วจะพาไปกินชาบู’
นิ้วเรียวกดตอบโดยส่งสติกเกอร์รูปมือทำท่าโอเค รู้สึกสงบขึ้นอย่างง่ายดายเมื่อเห็นข้อความเพียงไม่กี่คำนั้น
รอเวลาไม่นานนัก เอเจนซี่ที่นัดไว้ก็ปรากฏตัวพร้อมเชิญเซลส์จากนิตยสารเกย์สเกลเข้าไปในห้องประชุม จีแนะนำตัวเล็กน้อย ก่อนจะยื่นนามบัตรที่เพิ่งได้มาสดๆ ร้อนๆ เป็นใบเบิกทาง อีกฝ่ายส่งนามบัตรของตัวเองมาให้ ก่อนทั้งหมดจะนั่งพูดคุยถึงรายละเอียดของงานร่วมชั่วโมง
“นึกว่าพี่เป็ดจะมาด้วยซะอีกครับ” เอเจนซี่ที่ท่าทางจะรู้จักกับเซลส์รุ่นพี่เอ่ยขึ้นเมื่อการสนทนาเรื่องงานจบลง
“อ่า...พี่เป็ดมีประชุมที่ออฟฟิศน่ะครับ” เซลส์ใหม่โกหกคำโต อีกฝ่ายไม่ได้ติดใจอะไร ก่อนจะเดินไปเปิดประตูและยืนรอส่งผู้มาเยือนที่หน้าลิฟต์
พี่เป็ดนั่งจิบกาแฟอยู่ที่ล็อบบี้ด้านล่าง เกือบชั่วโมงแล้วที่เด็กในสังกัดขึ้นไปขายงานด้านบน เขาเลือกลูกค้าที่คุ้นเคยกันดีให้จีสำหรับงานแรก เพื่อเป็นบทเรียนสำหรับให้กำลังใจเซลส์ใหม่ เขามั่นใจว่ายังไงรายนี้ต้องซื้อโฆษณาแน่นอน แต่ไม่ได้บอกความน่าจะเป็นนี้ให้จีรวัฒน์ทราบ ยังไงก็อยากให้คนตัวเล็กได้ประสบการณ์จริงด้วยตัวเองมากกว่า
“เรียบร้อยแล้วครับ!!” เสียงใสดังขึ้นก่อนตัว ซึ่งเรียกสายตาจากคนในบริเวณนั้นทั้งหมด น้องจีก้มหัวเป็นเชิงขอโทษพร้อมยิ้มแหยๆ กับอาการดีใจจนลืมตัวไปหน่อย
“เป็นไง” เซลส์รุ่นพี่ลุกขึ้นต้อนรับ คนตัวเล็กวิ่งมาเกาะแขนแล้วเดินนำไปที่รถอย่างอารมณ์ดี น้องจีเล่าทุกคำพูด ทุกกิริยาตอนอยู่ในห้องประชุม ส่วนคนฟังก็เอาแต่หัวเราะกับเรื่องราวนั้นจนถึงร้านอาหารตามที่ได้สัญญาไว้
จีรวัฒน์รู้สึกหัวใจพองโต วันนี้เขาทำงานแรกได้สำเร็จ วันนี้เขามีใครบางคนคอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ ใครบางคนที่ยื่นมือมาให้ในวันที่ชีวิตไร้ทางออก นำพาเขาสู่โลกอีกใบที่ไร้ความโดดเดี่ยว
ความอ้างว้างเป็นยังไงเขาเคยเรียนรู้
และความอบอุ่นเป็นยังไง ...เขาก็ได้เรียนรู้แล้วเช่นกันTBC.
เอาตอนพิเศษของคู่เซลส์แห่งเกย์สเกลมาคั่นเล็กน้อยระหว่างรอตอนหลักจ้า
//อย่าลืมมโนหน้าน้องจีเป็นพจมานตอนเข้าบ้านทรายทอง
//พี่เป็ดบทแลดูนิสัยหล่อ แต่ทางกายภาพนี่หัวเริ่มล้านแล้วนะ พูดเลย!
เจอกันในตอนหลักตอนต่อไปค่า บ๊ายบายยย