Lesson 13
( Kim Part )
ผมสลึมสลือตื่นขึ้นมาหันไปมองนาฬิกาก่อนอันดับแรก ขณะนี้เวลาเจ็ดโมงครึ่งแล้ว ว่าแต่ทำไมวันนี้อุ่นจัง ผมหันหน้าไปอีกทางก็เจอกับ...
“คุณโชว์!!!” ผมตกใจเมื่อเห็นคุณโชว์นอนกอดผมอยู่
“…” เหมือนคุณโชว์จะยังไม่ตื่น
“คุณโชว์ครับ” ผมเรียก
“อื้ออออ อะไร” คุณโชว์ตอบเสียงงัวเงียมาก
“ปล่อยผมก่อนนะครับ ผมจะไปทำกับข้าว”
“นอนต่อนี่แหละ ฉันยังไม่ตื่น”
“แต่ว่า...” ผมพูดยังไม่จบเลยคุณโชว์ก็จับหัวผมลงมาซบลงที่อกทันที ตอนนี้ผมรู้สึกหน้าร้อนผ่าว ใจเต้นแรงผิดปกติ รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
“เอี๊ยด คิมข้าวตะ..” เฟียร์ชะงักทันทีเมื่อเห็นภาพตรงหน้า
“เฮ้ยๆ เช้าแล้วตื่นๆ” พี่วินเดินตามเข้ามาแล้วก็ชะงักไปเหมือนกันเมื่อเห็นภาพเดียวกันกับเฟียร์
“คุณโชว์ลุกเร็วครับ เฟียร์กับพี่วินเข้ามาแล้ว” ผมบอกคุณโชว์ คุณโชว์ก็ปล่อยตัวผมแล้วลุกขึ้นนั่ง
“ไงตื่นเช้าจังนะมึงน่ะ เมื่อคืนก็ท่าทางจะหนัก แรงเหลือหรอ” คุณโชว์พูดออกมาทำให้ผมรู้สึกหน้าร้อนเลยครับ อายแทนเฟียร์เมื่อหันไปมองเฟียร์ อาการก็ไม่ต่างจากที่ผมคิดเท่าไรครับ ม้วนเลย
“ก็กูบอกมึงแล้วไงว่าฝึกจนชิน” พี่วินพูด
“เพี๊ยะ!!! ไอ้บ้า” เฟียร์ตีแขนพี่วินแล้วก็ด่านิดหน่อย
“ว่าแต่กู มึงก็ไม่ธรรมดานะ นอนกอดกันกลมเชียว” เอ่อ จะพูดทำไมครับพี่วิน ผมเลยอายเลยครับตอนนี้
“เสือก!!! เมื่อคืนคิมมันบ่นหนาวกูไม่รู้จะทำไงเฉยๆหรอก” อ๋อ อย่างนี้นี่เอง
“คิมอาจจะหนาวกาย แต่ถ้ามึงฟอร์มมากๆ มึงได้หนาวใจแน่ๆ ฮ่าๆๆๆ” พี่วินพูดจบก็วิ่งออกจากห้องไปพร้อมกับคุณโชว์ที่วิ่งไล่ตาม เหมือนผมมองเด็กสามขวบไล่จับกันเลย
“อ่ะนี่กินข้าวต้มนะ” เฟียร์ยื่นชามข้าวต้มมาให้ผม
“ขอบใจนะ”
“ไม่เป็นไรหรอก ตัวยังร้อนอยู่หรือเปล่า”
“ไม่แล้วแหละ เราว่าเราหายแล้วนะ” ผมบอกเพราะตอนนี้ไม่มึนหัว ตัวไม่ร้อนเลย
“อืมจริงด้วย ตัวไม่ร้อนแล้ว วันนี้เรามีเรียนบ่าย คิมล่ะมีเรียนไหมวันนี้อ่ะ”
“บ่ายเหมือนกัน” ผมตอบ
“งั้นเดี๋ยวไปพร้อมกันหมดนี่แหละ เพราะมีเรียนบ่ายกันทุกคน”
“อื้ม ได้สิ” ผมตอบส่งๆไปงั้นแหละแต่เดี๋ยวผมไปเองดีกว่า ผมกินข้าวต้มต่อจนหมดแล้วกินยาเป็นมื้อสุดท้าย แล้วผมก็ลุกไปอาบน้ำแต่งตัว
“ไปได้แล้วมั้ง นี่ก็จะเที่ยงแล้วค่อยไปหาไรกินที่มหาลัย” พี่วินพูดขึ้น
“อื้มๆ งั้นเดี๋ยวเฟียร์ไปกับพี่วินก่อนนะ คิมรีบตามมาล่ะ” เฟียร์บอกผม
“อื้ม แล้วจะตามไปนะ” ผมตอบแล้วยิ้มส่งให้ เมื่อรถของพี่วินออกจากบ้านไปผมก็เตรียมเดินออกจากบ้าน
“จะไปไหน” คุณโชว์ถามผม
“ไปมหาลัยครับ” ผมตอบ
“แล้วไปจะยังไง”
“แท็กซี่ครับ...ผมไปก่อนละกันนะครับเดี๋ยวเข้าเรียนสาย” ผมเดินออกมาถึงหน้าปากซอยมองหาแท็กซี่ แต่แล้วรถฟอร์จูเนอร์ก็พุ่งมาจอดริมฟุตบาตร คุ้นๆเว้ยรถ สักพักกระจกก็เลื่อนลง
“ขึ้นรถ” คุณโชว์นี่เอง
“เอ่อ…” ผมตอบไม่ถูกจะไปหรือไม่ไปดี
“เร็วๆดิ!!!” คุณโชว์แทบจะตะโกนใส่ผม
“ครับๆ” ผมรีบเปิดประตูแล้วขึ้นไปนั่งในรถทันที ตลอดระยะเวลาทางจากบ้านถึงมหาลัยไม่มีใครปริปากพูดอะไรสักคำผมก็มองแต่นอกรถ ไม่กล้าหันไปสบตากับคุณโชว์ ผมกลัว กลัวใจตัวเองที่มันกำลังหวั่นไหวไปกับผู้ชายคนนี้
ผมคิดอะไรเรื่อยๆไปจนถึงมหาลัยแหละครับ ผมลงจากรถแล้วตรงไปหาเฟียร์ทันที ตอนนี้ผมรู้สึกทำตัวไม่ถูก ผมสับสนไปหมด คุณโชว์...ผม คุณโชว์กอดผม โอ้ยยย แล้วคิดทำไมเนี่ยไอ้บ้าคิม
“ไง คิมหายดีแล้วหรอ” พี่ส้มถามครับ
“ก็ดีแล้วอ่ะครับ มาเรียนได้ตามปกติ” ผมตอบแล้วยิ้มให้ แล้วผมก็นั่งลงที่ริมๆเพราะไม่อยากไปนั่งตรงกลางโต๊ะ พี่ส้มเป็นคนที่เม้าส์เก่งมากๆ คุยมันทุกเรื่องแล้วพี่แกก็พูดไม่หยุดด้วย ระหว่างที่ผมฟังเค้าคุยกันเพลินๆก็มีเสียงดังมาจากข้างๆผม
“เอ่อ นายชื่ออะไรหรอ” ผมหันไปตามเสียงก็เจอกับผู้ชายหน้าตาดีคนนึงผิวขาว แต่ถ้าเทียบกับพวกในกลุ่มที่ผมนั่งอยู่แล้วดูธรรมดาไปเลยแฮะ กลุ่มนี้นี่หน้าตาดีทุกคนเลยจริงๆ
“เราชื่อคิม แล้วนายล่ะ” ผมถามกลับตามมารยาทนะครับ
“เราชื่อ เต้ นะเรียนเศรษฐศาสตร์” เค้าตอบผม ผมก็ยิ้มกลับไป
“เราเรียน...”
“บัญชีและการเงินธุรกิจ” ผมยังไม่ทันตอบเลยอ่า
“เอ่อ นายรู้ได้ไงอ่ะ” ผมถาม
“เราอยากรู้จักนายก็ต้องรู้เรื่องของนายบ้างสิ” พูดจบเต้ก็ยิ้มให้ผม แต่ผมไม่ได้โง่นะ นี่เต้กำลังจีบผมอยู่ใช่ไหมเนี่ย
“เราขอเบอร์คิมหน่อยสิ”
“เอ่อ จะเอาไปทำอะไรหรอ” ผมตอบเลี่ยงๆ
“อยากได้ไว้นะ เผื่อมีอะไรจะให้ช่วย” มาแบบนี้แล้วผมทำไงอ่ะจะให้ไปดีไหม แต่คงไม่เสียหายอะไรหรอกมั้ง
“08X-XXXXXXX” ผมบอกเบอร์ของตัวเองไปสักพักเสียงโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น
“นั้นเบอร์เรานะ เราไปละแล้วเจอกัน” เต้พูดจบก็เดินจากไป
“เว้ย ๆ ๆ เสน่ห์แรงนี่หว่าคิม มีคนมาจีบด้วย” พี่ส้มพูดครับ ผมเลยยิ้มแหยๆกลับไป
“คงไม่ใช่หรอกพี่ แค่อยากเป็นเพื่อนน่ะ” ผมบอกกับทุกคนแบบนั้น
“อย่าให้หลุดนะ มีมาให้เลือกแล้วเลือกไปเลย” พี่วินพูดกับผม
“ปึง!!! กูมีธุระ” คุณโชว์พูดเสียงดุดันมากแล้วก็เดินจากไป เป็นไรหว่า
“อ้าวมึงไม่เรียนหรอ”
“กูไม่เรียนละ” พูดจบคุณโชว์ก็เดินออกไปเป็นอะไรไปน่ะ อยู่ดีดีก็อารมณ์เสียแปลกคนจริงๆ คุณโชว์ไปได้ไม่นานพวกผมก็ลุกไปเรียนกันเพราะได้เวลาพอดี