KO-JAP : ฉันเกาหลี นายญี่ปุ่น รักวุ่น ๆ ของเราสองคน [ตอนที่ 34 บทส่งท้าย 100%] [14.03.2013]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: KO-JAP : ฉันเกาหลี นายญี่ปุ่น รักวุ่น ๆ ของเราสองคน [ตอนที่ 34 บทส่งท้าย 100%] [14.03.2013]  (อ่าน 31209 ครั้ง)

kaino

  • บุคคลทั่วไป
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

________________________________________________________________________

เรื่องนี้เป็นความขัดแย้งของตัวเอก ระหว่างที่คนหนึ่ง ชอบเกาหลีแบบสุดขั่ว
และอีกคน ชอบญี่ปุ่นแบบสุดฤทธิ์ แต่ก็ต้องมาอยู่ชายคาบ้านเดียวกัน
ทำให้เกิดเรื่องวุ่น ๆ ระหว่างความชอบสองฝั่ง

...............................

ตอนที่แต่งเรื่องนี้ก็กลัว ๆ เหมือนกันว่ามันจะจุดประเด็นอะไร

แต่ว่าก็เป็นแนวเรื่องที่น่าสนใจและอยากจะแต่ง

ถ้ากระแสมันแรง ก็จะหยุด

เพราะไม่อยากจะสร้างปัญหาให้แฟนคลับทั้งสองฝ่ายมาทะเลาะกัน

เดี๋ยวจะดูไปเรื่อย ๆ และกันนะ ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะฮะ

Kaino.


>.<

Ps1. นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการ ไม่ได้ต้องการให้เกิดความขัดแย้งใด ๆ ทั้งสิ้น
หากไม่พอใจในตอนใด ขอร้องว่าอย่าก่อดราม่านะฮะ สามารถส่งข้อความ หรือโพสบอกได้ ว่าไม่เหมาะสมยังไง ถ้าผมเห็นว่าไม่ดี แล้วจะลบเรื่องทันทีครับ

Ps2.เหตุการณ์ต่าง ๆ บางอย่างที่นำมาอ้างอิง หรืออธิบาย หรืออยู่ในคำพูดของตัวละคร บางเหตุการณ์จะเป็นเรื่องจริง....ชื่อศิลปินที่มีอยู่ในเรื่องนี้ เป็นชื่อจริงทั้งหมดครับ เครดิตเนื้อเพลง ทุกอย่างจะใส่ให้เจ้าของเครดิตที่ผมนำมา

หากไม่พอใจ หรือคิดว่าไม่เหมาะสมยังไง รีบบอกนะฮะ
จะลบเรื่องนี้ทันที

________________________________________________________________________
สารบัญเรื่อง

KO-JAP # 1 : ศาสดา vs ศิลปิน http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34973.0
KO-JAP # 2 50% : เดินทางกลับบ้าน : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34973.0
KO-JAP # 2 100% : เดินทางกลับบ้าน : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34973.0
KO-JAP # 3 100% : ที่บ้าน : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34973.0
KO-JAP # 4 100% : ฉันคือเอลฟ์ : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34973.0
KO-JAP # 5 100% : พื้น - เตียง : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34973.0
KO-JAP # 6 100% : อาการช็อค : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34973.0
KO-JAP # 7 100% : เพื่อนใหม่ : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34973.0
KO-JAP # 8 100% : ภาพบาดตา : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34973.0
KO-JAP # 9 100% : เพื่อเพื่อน : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34973.0
KO-JAP # 10 100% : มหาวิทยาลัย : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34973.0
KO-JAP # 11 100% : นักศึกษาแลกเปลี่ยน : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34973.30
KO-JAP # 12 100% : กว่าจะเจอคนที่ชอบเหมือนกัน มันยากนะ : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34973.30 For 12-10-12
KO-JAP # 13 100% : เกมป๊อกกี้ : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34973.30 For 13-10-12
KO-JAP # 14 100% : เข้าเล่นเกม : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34973.30 For 14-10-12
KO-JAP # 15 100% : ชัด ๆ : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34973.30 For 15-10-12
KO-JAP # 16 100% : ชั้นไม่ยอม!!!! : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34973.30 For 16-10-12
KO-JAP # 20 100% : เช้าวันเสาร์ : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34973.30
KO-JAP # 22 100% : แค่คิดว่า : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34973.30
KO-JAP # 23 100% : รักไม่ได้ : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34973.30 For 23-10-12
KO-JAP # 24 100% : ชกต่อย :  http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34973.30For 24-10-12
KO-JAP # 25 100% : การกระทำ สำคัญ กว่าคำพูด :  http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34973.60For 25-10-12
KO-JAP # 26 100% : NC!for Bedroom :  http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34973.60For 26-10-12
KO-JAP # 27 100% : NC!for Bathroom :  http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34973.60For 27-10-12
KO-JAP # 28.1 50% : NC! for Kitchen :  http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34973.60For 28-10-12
KO-JAP # 28.2 100% : NC! for Kitchen : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34973.60 For 28-10-12
KO-JAP # 29 100% : พายุ วันอาทิตย์ : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34973.60 For 29-10-12
KO-JAP # 30 100% : สุดท้ายแล้ว : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34973.60 For 30-10-12
KO-JAP # 31 100% : ก่อน ก่อกำเนิด ตำนาน : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34973.60 For 31-10-12
KO-JAP # 32 100% : (ว่าที่) ตำนานฟื้นคืนชีพ : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34973.60 For 01-11-12
KO-JAP # 33 100% : บทส่งท้าย : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34973.60 For 02-11-12
KO-JAP # 34 100% : บทส่งท้าย : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34973.60










 






________________________________________________________________________


KO-JAP # 1 : ศาสดา vs ศิลปิน

“นายมาช้า”
“ห่า กูมาเร็วที่สุดแล้ว”



“ชั้นนั่งรอนายเกือบชั่วโมง”
“รถมันติดเว้ย”



“แล้วทำไมไม่รู้จักคำนวณเวลา”
“สัส! กูไม่ได้เรียนวิทย์-คณิตนะว้อย~~”



“ถ้าทำแบบนี้ที่ญี่ปุ่นจะถือว่าเสียมารยาทมาก”
“แต่นี่ที่ไทยนะ”



“นั่นทรงผมอะไรของนาย”
“อย่ามาว่าทรงผมกู”



“หน้าม้าอะไรวะ โค้งยังกะทางโค้งร้อยศพ”
“นี่เป็นทรงกำลังฮิตในศิลปินเกาหลี”
“เอ๋อเหรอ?”



“ผมมึงก็เหมือนกันแหละ จะหนามไปใหน”
“เชี้ย อย่ามาว่าทรงศาสดากู”
“มึงก็ว่าศิลปินกูเหมือนกัน”



“แต่งตัวยังกะจะไปเดินแบบ บ้านมึงขายอมยิ้มโลลิป๊อปหรือไง”
“ส่วนมึง แต่งตัวยังกะจะไปงานศพ ดำยังกะอีกา ญาติเสียเหรอ?”



“ไอ้เวร ศาสดากูชอบโทนสีดำ”
“ศิลปินกูก็ชอบแนวแคนดี้ โลลิป๊อป สีสัน”



“ไอ้ไบเซป!!!!”
“ไอ้เชี้ยฟีนิกซ์!!!”


แล้วเราจะอยู่กันรอด 1 ปีการศึกษาไหมอาครับ T.T

________________________________________________________________________

แฮร่~~~ ^^

KainO.
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-03-2013 08:32:53 โดย kaino »

ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2
เฮ้ย ชอบอ่ะ

มาต่อเร็วๆ

แค่บทนำเค้าก็ติดแล้ว

 o9

ออฟไลน์ mutyamania

  • สามารถติดตามงานติดเรทที่ลงเล้าไม่ได้ที่ ReadAWrite ในชื่อมัสยากลับมาจากป่าช้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1898
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +794/-139
    • https://mutyawhocamebackfromthedead.readawrite.com
ชอบ ๆ ๆ ใจเรามันเอนเอียงไปทางญีุ่ปุ่นมากกว่าอ่ะนะ  คือไม่ใช่อะไร  หนังเอวีเต็มเครื่องไง๊.....กร๊ากกกกก  ผู้ชายญี่ปุ่นดูดีเป็นธรรมชาติ  ไม่ผ่านคมมีด....แบบ....ไอ้ที่หน้าตาแจ่ม ๆ นี่ก็ค้นพบในหนังเอวีท๊างน๊านนนน...เอิ๊ก ๆ

เกาหลีก็ชอบนะ  ชอบ 2PM....

อยากอ่านต่อ  เพราะแค่อินโทรก็เกรียนและมันส์มากมายแล้ว

kaino

  • บุคคลทั่วไป
KO-JAP # 2 : เดินทางกลับบ้าน

โหมด : ไบเซป
ขณะนี้ผมกำลังเดินนำไอ้บ้าญี่ปุ่นหัวหนาม ชุดดำ ญาติเสีย (มาเป็นชุด) ลงมาที่ชั้นล่างของสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อที่จะมาขึ้นรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ หลังจากที่เกิดสงครามน้ำลายย่อย ๆ ที่จุดผู้โดยสารขาเข้า มาถึงตอนนี้ ตลอดทั้งทางเราไมไ่ด้คุยกันครับ เพราะทั้งผมทั้งมันต่างก็ย้ายมาอยู่ในโลกส่วนตัว

ผมเอาหูฟังยัดหู เปิดเพลงบอยแบนด์ เกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีฟังอย่างสบายอารมณ์ ในขณะที่อีกคนมันเดินไปด้วยผงกหัวไปด้วย จนคนที่เดินผ่านเป็นอันต้องหันเหลียวมามองว่ามึงเป็นอะไรวะ เดินไปผงกหัวไป ซึ่งผมพอจะรู้สาเหตุโดยไม่ต้องรอให้มันบอกครับ

ก็จะอะไรอีกล่ะ ตอนนี้มันคงฟังเพลงเจร็อค บ้าบอสติแตก ชอบความรุนแรงนั่นแหละ ผมล่ะไม่เข้าใจเลยว่ามันมีเสน่ห์ตรงไหนนะ ร้องเพลงอะไรก็ไม่รู้ ฟังไม่รู้เรื่อง ทั้งเพลงมีแต่ส่งเสียงว๊ากน่ารำคาญ มันทำให้ผมรู้สึกราวกับผมกำลังอยู่ในช่วงรับน้อง ที่จะมีพี่ว๊ากมาตะโกน แบบนั้นน่ะ ฟังไปเป็นอันตรายต่อเยื่อประสาทหูเปล่า ๆ

สู้เพลงเกาหลีก็ไม่ได้ ไพเราะชิบหาย ผู้หญิงก็สวย ผู้ชายก็หล่อ แถมเต้นก็เก่งอีกตางหาก มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับแฟนคลับ ที่เวลาขึ้นคอนเสิร์ตจะมีบางช่วงที่แฟนคลับจะช่วยร้องเพลง ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องดีนะ แบบว่าช่วยสานสัมพันธ์อันดีระหว่างศิลปินและแฟนคลับ

แล้วเจร็อคของไอ้ฟีนิกซ์ล่ะ?

เหอะ! เท่าที่ผมรู้ เข้าไปในคอนเสิร์ตก็ห้ามเอากล้องเข้าไป เวลาอยู่ข้างนอกก็ห้ามถ่ายรูป ห้ามตาม ห้ามนู้น ห้ามนี่ แล้วศิลปินและแฟนคลับจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ยังไงวะ ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ

ผมคิดจนเดินมาถึงช่องขายตั๋ว

“พญาไท 2 ที่ครับ” ผมบอกพนักงานแล้วยื่นเงินให้ คุณเธอยื่นเหรียญสีแดงให้ผม พลางมองดูคนที่เดินตามผมมาติด ๆ

คงจะคิดว่าพิลึกสินะ ฮ่า ๆ ไม่ใช่แค่พี่สาวคิดคนเดียวหรอกครับ ผมว่าป่านนี้ เค้าคิดกันทั้งสนามบินแล้วล่ะ ผมส่งยิ้มให้เธอ แล้วเดินออกมาจากช่องขายตั๋วเพื่อให้ลูกค้าคนอื่นได้ใช้บริการ ผมยื่นเหรียญสีแดงให้อีกฝ่าย

ฟีนิกซ์ยังคงหลับตา ผงกหัว และอยู่ในโลกส่วนตัวของมัน

ผมสะกิด

มันยังคงทำเหมือนเดิม

ผมสะกิดอีก

มันก็ยังคงไม่รู้สึกรู้สาอะไร รอบนี้ผมเลยตัดสินใจดึงหูฟังมันออกครับ ตาของมันลืมพรึบขึ้นมาราวกับผีที่ฟื้นคืนชีพ เล่นเอาผมก้าวถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว


“ห่าเอ๊ย! ศาสดากูกำลังร้องท่อนฮุค” ฮุคบ้านมึงสิ มึงจะกลับบ้านไหมเนี่ย มัวแต่สรรเสริญศาสดาอยู่นั่นแหละ

“ฟังเข้าไป เจร็อคอะไรของมึงน่ะ ระวังหูจะหนวกซักวัน” ผมพูดประชด ฟีนิกซ์เบ้หน้า

“แล้วไงวะ แนวกูนิ”

“กูเตือนมึงด้วยความหวังดี”

“มึงก็เหมือนกันแหละ”

“อะไร?” ผมถามมันงง ๆ ศิลปินกูมีอะไรให้กูต้องระวังวะ

อีกฝ่ายฉีกยิ้ม “มึงก็ระวังเถอะ ซักวันหน้ามึงจะเป็นพลาสติก หึึหึ หึหึ”

ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2
โอ้ววว แรง !

หน้าพลาสติก 555555

 :beat:

kaino

  • บุคคลทั่วไป
มาต่ออีก 50%
(สั้นนิดนึงฮะ)


โหมด : ฟีนิกซ์
อ่าาา สวัสดีครับทุกท่าน ผมฟีนิกซ์นะ เด็กเจร็อคตัวพ่อเลยล่ะ (ผมกล้าพูดนะ >.<) ผมคิดว่าเพลงแนวนี้เป็นอะไรที่ตอบโจทย์ชีวิตของมนุษย์ได้ดีมากอีกแนวหนึ่งเลย บรรดาแบนด์แมนจะหยิบยกเอาความรู้สึก ประสบการณ์รอบกายแต่งออกมาเป็นเพลง มันทำให้เราได้รับรู้ถึงความรู้สึกที่บทเพลงต้องการจะสื่อออกมา คุณเชื่อไหม บางเพลงผมฟังไม่เข้าใจเท่าไรนะ แต่ว่ามันก็ทำให้ผมร้องไห้ได้

เพราะบทเพลงนั่นถูกกลั่นออกมาจากความรู้สึกจริง ๆ ไม่เหมือนเพลงติ๊งต๊องหวานแหววของไอ้ไบเซป ไบเซ็กซ์ช่วลอะไรนั่นหรอก เห็นที่ TV บนเครื่องบินระหว่างที่บินกลับไทย แล้วรู้สึกว่าปัญญาอ่อน

ทำอะไรวะ สีเสื้อเครื่องแต่งกายจะสดใสไปไหน โลกมันไม่ได้สวยงามดังที่พวกนั่นบรรยายออกมาหรอกนะเว้ย จะบ้าหรือไง ร้องเพลงแล้วอัดใส่ CD จากนั้นก็เอาไปให้สาว ๆ ถึงประตูหน้าบ้าน แถมยังไปเต้นอยู่หน้าบ้านสาวอีก ชุดใส่นี่ยังกะเทวดาลงมาเกิด แมร่ง ขาวทั้งตัว เห็นแล้วยังงงเลยว่า มาผิดงานเป่าวะ หรืออันที่จริงพวกศิลปินของมันกำลังจะไปวัด แต่ค่ายเพลงดันจับมาเต้นเสียก่อน ทั้งเพลงไม่มีไรและ Boyfriend Boyfriend ทั้งเพลง ฟังแล้วเครียด =.=”

ผมเดินตามเจ้าไบเซปพลางนึกขำ ๆ กับรสนิยมในแนวเพลงของมัน แต่ช่างเถอะ ตอนนี้ผมกำลังฟังเพลง VORTEX ของศาสดาอยู่ หากจะคิดถึงศิลปินวงอื่นก็ดูเหมือนจะเป็นการไม่ให้เกียรติศาสดาเท่าไร เพราะงั้น เรื่องเพลง Boyfriend Boyfriend อะไรนั่นทิ้งไว้ก่อนแล้วกัน

ผมหลับตาในขณะที่ไอ้ไบเซปกำลังซื้อเหรียญของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้ง การที่ได้ซึมซับไปกับบทเพลงของศาสดานี่เป็นช่วงเวลาที่ผมชอบที่สุดแล้ว ต่อให้โลกนี้ดินถล่มฟ้าทลาย ขอแค่มีเพลงของศาสดาผมก็บ่หยัน

I don't wanna become the fuckin' garbage like you
ฉันไม่อยากกลายเป็นเศษสวะอย่างเธอ
Vortex of industry
วังวนของธุรกิจ
Shut the.....
หุบ.....

0.0!!!!! ผมลืมตาพรึบ!!!! ห่า!!! คิดว่า fuck up Jack off มันหายไปไหน!!! ท่อนต่อไปมันหายไปหน๊าย ๆๆๆ!!!อารมณ์กำลังมันส์ เพลงกำลังจะไคลแม็กซ์ กำลังจะเข้าฮุกอยู่แล้ว ใครมันบังอาจมาขัดช่วงเวลาแฮปปี้เนสของกูวะ แมร่ง อารมณ์ค้างชิบหาย และมันก็ไม่ใช่ใครหรอกครับ เพราะเตี้ยตรงหน้าผมกำลังถือหูฟังทั้งสองข้างอยู่

“ห่าเอ๊ย! ศาสดากูกำลังร้องท่อนฮุค” ผมบ่นใส่ไอ้ไบเซปอย่างอารมณ์เสีย

“ฟังเข้าไป เจร็อคอะไรของมึงน่ะ ระวังหูจะหนวกซักวัน” มันพูดประชดผมครับ ผมเบ้หน้า มึงเป็นใครวะ มาหาว่าเพลงของศาสดาจะทำกูหูหนวก

“แล้วไงวะ แนวกูนิ” ผมตอบกลับครับ

“กูเตือนมึงด้วยความหวังดี”

“มึงก็เหมือนกันแหละ”

“อะไร?” ไอ้เตี้ยทำหน้างง ๆ ได้ทีผมล่ะครับ ^,..,^

ผมฉีกยิ้ม แล้วกระซิบข้างหูมัน “มึงก็ระวังเถอะ ซักวันหน้ามึงจะเป็นพลาสติก หึึหึ หึหึ” พอผมพูดจบครับ อีกฝ่ายแมร่งค้างเลย ฮ่า ๆ สมน้ำหน้า มากัดกับใครไม่กัด เสือกมากัดกับฟีนิกซ์ รู้ไว้ซะด้วยว่าศาสดากูอ่ะ พูดเก่งแค่ไหน (ไม่อยากจะใช้คำว่าปากดี เพราะเดี๋ยวศาสดาจะเสียหาย) ผมหัวเราะใส่หน้ามันด้วยความสะใจ คว้าเอาหูฟังยัดหูอีกรอบ บทเพลงของศาสดาบรรเลงอยู่ในหัวสมอง ผมหยิบเอาเหรียญรถไฟฟ้าจากมือมัน แล้วเข้าไปยังเกทรอรถไฟ โดยที่อีกคนสบถไล่หลังเป็นชุด

ช่างสิ

Who care!!!!



ชื่อเพลง, ศิลปิน ที่เกี่ยวข้องในตอนนี้ :
VORTEX - the GazettE [J-Rock] เนื้อเพลง : http://bit.ly/GDqj4z
Boyfriend - Boyfriend [Korea]
Who care - Waii Kamikaze [Thai]


maii

  • บุคคลทั่วไป
 :z13:

ตลกดีคะ สนุกมาก

จริงๆเราชอบหมดนะ ทั้งเกาหลี ญี่ปุ่น ไทย

แต่ละคนก็มีสไตล์เป็นของตัวเอง

แต่...ชอบที่เถียงกันอ่ะ เคยเห็นในบอร์ด(สักแห่ง = =)  อ่านแล้วก็ขำๆดี


รอตอนต่อไปจ้า  o13

ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2

kaino

  • บุคคลทั่วไป
KO-JAP : ที่บ้าน 100%

โหมด : ไบเซป

ตอนนี้ผมกำลังไขกุญแจเข้าบ้าน ช่วงเวลาที่นั่งอยู่แอร์พอตลิ้งแทบอยากจะฆ่าตัวตาย เพราะสายตาหลายคู่ในรถไฟ ทั้งไทยและเทศต่างก็มองมาที่พวกผม ไม่มีอะไรหรอกครับ สงครามน้ำลายเหมือนเดิมนั่นแหละ มันยังคงหาจุดจบแห่งการเถียงกันไม่ได้ ผมเหล่มองฟีนิกซ์ที่มันไม่สนใจโลกภายนอก หลังจากที่ทะเลาะกัน แล้วต่างฝ่ายต่างไม่มีคำจะเถียง มันก็เข้าไปอยู่ในโลกส่วนตัวของมันและศาสดาทันที

นี่มันเรียกว่าเถียงไม่ได้แล้วหนีนี่หว่า โถ ๆๆๆๆ ไอ้ญี่ปุ่น!!!!

จะว่าไป นี่ผมยังไม่ได้บอกที่มาที่ไปของไอ้ฟีนิกซ์ใช่ไหมครับ? อ้าาา งั้นจะเล่าให้ฟังนะครับ อันดับแรกเลย เจ้าเนี่ย แม่ของมันเป็นเพื่อนกับแม่ผมครับ พวกเราชอบไปมาหาสู่กันบ่อย ๆ บ้านฟีนิกซ์ทำธุรกิจที่ประเทศญี่ปุ่น ส่วนบ้านผมทำธุรกิจเกี่ยวกับการนำเข้าเสื้อผ้า แม่ผมต้องบินไปบินมาหลายประเทศ เพื่อไปดูแฟชั่นและเทรนด์ใหม่ ๆ ทั่วโลก ผมชอบอยู่บ้านคนเดียว แต่ก็ไม่ได้อะไรมากหรอก ต่อให้อยู่คนเดียว ก็ไม่ได้เหงา ไม่สิ อันที่จริงก็เหงาอยู่ แต่ว่า เพราะมีเพลงคอยเปิดแก้เหงา เรียกได้เลยว่าเพลงนี่แหละที่เป็นเพื่อนผมเวลาที่ผมอยู่บ้านคนเดียว

มาถึงเจ้าฟีนิกซ์ มันจะมาอยู่กับผม 1 ปีการศึกษา มันเป็นเด็กแลกเปลี่ยนจากประเทศญี่ปุ่นครับ ผมก็ยังงง ๆ อยู่ว่า มึงจะแลกเปลี่ยนมาทำไม ในเมื่อมึงก็มีบ้านที่ไทยอยู่แล้ว แล้วอีกอย่าง ทุนของทางการญี่ปุ่นไม่ได้กำหนดเหรอว่าให้เฉพาะคนที่ไม่เคยมาประเทศไทย หรือเคยมาประเทศไทย แต่ไม่เกิน 1 เดือนอะไรทำนองนั้น เฮ้อ~ พูดเรื่องทุนแล้วปวดหัว ไม่พูดดีกว่า แต่ที่หน้าหมั่นไส้มากที่สุดคือ ทำไมมึงต้องเลือกแม่กูเป็นโฮส แถมแม่ก็บ้าจี้เล่นกับมันอีกตางหาก =.=” เครียดครับ

นั่นแหละครับ ขี้เกียจหาจุดเชื่อมโยง งั้นเอาง่าย ๆ สรุปว่า มันมาแลกเปลี่ยนครับ

ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างผมกับมันก็ไม่มีอะไรมาก แม่รู้จักกัน ลูกก็เลยลูกจักกันตามไปด้วย ส่วนพ่อผมกับพ่อมัน เป็นคู่แข่งทางธุรกิจกัน ถึงจะไม่ได้ประกอบการกิจการเดียวกัน แต่ก็แข่งกันทำยอดขาย =[]= ดู ๆ ไปพวกผู้ใหญ่นี่ก็ชอบทำอะไรแปลก ๆ นะ แต่ละกิจการจุดอ่อน จุดแข็งมันต่างกัน แล้วจะมาแข่งยอดขายกันได้ไงวะ

ไบเซปไม่เก็ต!!!!!!

“เปิดประตูบ้านได้ยังมึง กูร้อน” เสียงนรกดังทะลุผ่านหูฟังของผม แมร่ง มินโฮกำลังแร๊ปเพลง Hello บังอาจเอาเสียงของมึงมากลบเสียงศิลปินกู ไม่มีมารยาท =...= ผมไขกุญแจบ้าน ผลักประตูเข้าไปพลางทิ้งตัวลงบนโซฟา ในขณะที่อีกคนมันไม่ยอมเข้ามาซักที

ผมปิดเครื่องเล่น iPod แล้วมองมันที่ประตู

“เข้ามาสิมึง”

มันอ้าปากค้าง กระเป๋าเดินทางตั้งอยู่ข้าง ๆ เท้ามัน

“มึงแน่ใจนะว่านี่คือบ้านมึง ไม่ใช่พิพิธภัณฑ์” มันพูดออกมา ผมขมวดคิ้ว

“พิพิธภัณฑ์ไรวะ” ผมยังคงไม่เก็ตครับ

ฟีนิกซ์ปลดหูฟังออกจากหู ทำมือเป็นรูปไม้กางเขน แล้วพึมพำอะไรซักอย่างที่ผมฟังไม่ถนัด ก่อนที่จะลากกระเป๋าเข้ามาในบ้าน

“มึงจะให้กูอยู่ท่ามกลางดงเกาหลีเนี่ยนะ???” มันถามผม พลางชี้ไปที่ชั้นหนังสือติดผนัง ที่ตอนนี้มันกลายสภาพเป็นชั้น CD, DVD ที่วางสินค้าของศิลปินที่ผมชอบไปหมดแล้ว

ผมมองมันพลางทำตาปริบ ๆ

“ทำไม ศิลปินกูทำมึงร้อนหรือไง”

“ห่า กูไม่ใช่ผี” มันพูดพลางสะบัดผมหนาม ๆ ของมันสองสามที เฮ้ย ไอ้ฟีนิกซ์ กูถามจริง ๆ เถอะว่ามึงใช้สเปรย์ยี่ห้อไหนวะ ผมแมร่ง ชี้โด่ชี้เด่ไม่มีล้ม

“อย่ามายุ่งกับศิลปินกูเลย เอาของไปเก็บไป๊” ผมบอกมัน ขืนให้มันอยู่แบบนี้ มีหวังไม่ได้เก็บของแน่ ๆ

“กูนอนห้องไหน”

“ห้องเก่ามึงนั่นแหละ” มันมานอนบ้านผมบ่อยครับ

“นึกว่าจะให้กูนอนกับมึง”

ผมสะดุ้งเฮือก รีบหันควับไปหามัน แต่ปรากฏว่าอีกฝ่ายลากกระเป๋าขึ้นบันไดอย่างรวดเร็ว บักบ้าเอ๊ย!! ทำกูขนลุก ใครจะไปนอนกับมึงวะ สยองตายห่า ที่นอนกูนี่คงจะเป็นรุนพรุนเพราะหัวหนาม ๆ ของมึงแน่ ๆ


โหมด : ฟีนิกซ์
ผมละไม่เข้าใจกับไอ้ไบเซปเลยแม้แต่น้อย เมื่อก่อนจำได้ว่ามันยังแอ๊บแบ้วไม่ได้อะไรขนาดนี้ แต่นี่อะไรของมันวะ เถียงไฟแล๊บ ปากหมา คำก็ศิลปิน สองคำก็ศิลปิน ฟังมันอยู่นั่นแหละเพลงมองโลกแง่ดีเนี่ย แล้วไหนจะเรื่องการแต่งตัว เมื่อก่อนมึงแค่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ แต่เดี๋ยวนี้เล่นซะขนมเม็ดช็อคโกแลต M&M ยังต้องเรียกพี่ เห็นแล้วปวดตับ ความน่ารักของมันหายไปไหน T.T

ผมลากกระเป๋ามายืนอยู่หน้าห้องที่ผมเข้ามาพักเป็นประจำ นี่คงยังไม่รู้สินะว่าผมน่ะมาค้างบ้านมันบ่อยแค่ไหน ก็แบบว่า แม่ของผมและแม่ของมันเป็นเพื่อนกันมาก่อน ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่บรรดาลูก ๆ ของแม่ ๆ จะไปมาหาสู่กัน (พูดยังกับผัวเมียเลย =[]=) เฮ้ย ไม่ได้เป็นผัวเป็นเมียกันแต่อย่างใดครับ ผมยังไม่เคยล่วงเกินมันเลยนะครับ

ไว้ใจได้ :P

ผมค้นเอากุญแจห้องกับกระเป๋าลากที่หอบมาจากญี่ปุ่น เหตุเพราะเข้ามาค้างที่นี่บ่อยคุณแม่ของบักไบเซปก็เลยให้ผมถือกุญแจไว้เลย ตอนที่มาค้างจะไม่ได้ลำบากหากุญแจเปิดห้อง จะว่าไปคุณแม่มันนี่ก็เทคแคร์ดีชิบหาย ไม่เหมือนแม่ผมเลย วัน ๆ ยุ่งแต่กับธุรกิจ จะดีหน่อยก็โทรมาชวนผมไปกินข้าวนอกบ้าน และหลังจากนั้นก็ไม่มีอะไร ผมควานหากุญแจจนเจอและไขเข้าไปภายในห้องตามปกติที่ผมทำเป็นประจำเวลาที่มานอนค้างที่นี่ แต่มันมีบางอย่างที่ทำให้ผมคิ้วกระตุกทันทีที่เปิดประตูเข้าไป

...กูว่าแล้ว กูว่าแล้ว กูว่าแล้ว!!!!!!...



ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






kaino

  • บุคคลทั่วไป
KO-JAP : ฉันคือเอลฟ์ 100%

โหมด : ไบเซป

เสียงกรีดร้องดังขึ้นเมื่อผมกำลังกระดกน้ำเข้าปาก เล่นเอาซะตกใจเผลอพ่นน้ำออกมา เลอะแมร่งทั่วทั้งห้องครัว เวรเอ๊ย เพิ่งทำความสะอาดไปเมื่อเช้านี่เอง T.T

“มึงจะกรี๊ดหาเตี่ยมึงหรือไงวะ ไอ้ฟี!!!” ผมเดินออกมาจากห้องครัว หลังจากที่ใช้ผ้าซับน้ำเรียบร้อยแล้ว ตะโกนขึ้นไปด้านบนเพื่อให้อีกฝ่ายมันได้ยิน แต่ผมว่าไม่ต้องแล้วล่ะ เพราะฟีนิกซ์ทำหน้าบอกบุญไม่รับเดินตึงตังลงมาจากชั้นล่าง มันคว้าเอาคอเสื้อด้านหน้าของผม แล้วลากผมขึ้นบันไดราวกับผมเป็นกระเป๋าล้อลากได้

“เฮ้ย ๆๆๆๆ มึง ๆๆๆๆ” ผมพูดพลางทุบแขนมันเพื่อให้มันปล่อย แต่อีกฝ่ายก็ยังลากผมขึ้นบันไดเหมือนเดิม อะไรของมึงวะ ห้องมึงมันมีหนูตายอยู่ในนั้นหรือไง =[]=!!! มันลากผมจนตอนนี้ขึ้นมาชั้น 2 และยืนอยู่หน้าห้องมันแล้วครับ มันปล่อยคอเสื้อผมแล้วชี้ไปที่ประตู

“มึงทำอะไรกับห้องกูเนี่ย” อ้าว สัส! ถามแบบนี้แล้วกูจะรู้ไหมว่ากูทำอะไร ผมไม่รู้ว่าจะตอบมันยังไงก็เลยเงียบ แล้วทำหน้าเอ๋อแดก “อย่าเงียบสิวะ!!!” เอ๊า!! บักอันนี้นิ

“กูทำอะไรว้าาาา” ผมพูดยานคางพลางเกาหัวแกรก

“มึงดูเลย มึงมาดูเลย” มันพูดซ้ำไปซ้ำมาพลางบิดลูกบิดประตู แล้วโยนผมเข้าไปข้างใน ก่อนที่มันจะตามเข้ามา โดยที่ยังเปิดประตูห้องทิ้งไว้

“มึงดูเลย นั่นมันอะไรวะ มึงเอามาตั้งไว้ในห้องกูได้ยังง๊าย!!!!!~~~”

เมื่อเข้ามาในห้องและมองตามนิ้วที่มันชี้ ผมก็เข้าใจทันทีว่ามันหมายความถึงอะไร ผมอมยิ้ม แล้วหันไปมองหน้ามัน

“เอ๊าาา มึงไม่รู้หรือไงว่าดงเฮ แห่งวง SJ เค้าไปเป็นพรีเซนเตอร์ให้คอนแทกเลนส์ maxim อ่ะ” ผมพูดพลางเดินไปยังป้ายรูปดงเฮขนาดเท่าตัวจริงที่ผมพิงไว้ข้างผนัง กว่าจะได้ป้ายแผ่นนี้มา กูควานหาแทบตายนะเว้ย ต้องไปตอแยร้านแว่นว่า ถ้ามีรูปเวอชั่นใหม่มา ป้ายเก่าอย่าทิ้ง ผมขอเอามาเก็บสะสม (โคตรหน้าด้านอ่ะ)

ฟีนิกซ์อ้าปากค้าง มองผมราวกับเป็นตัวประหลาด

“นี่มึงบ้าเป่าวะ”

“มึงไม่เข้าใจเอลฟ์อย่างกูหรอก”

“หะ? ตะกี้มึงว่ามึงอะไรนะ?”

“เอลฟ์”

“เอลฟ์ห่าอะไรวะ” =.=” มึงไปอยู่ขุมไหนมาวะ ไม่รู้จักเอลฟ์เนี่ย

“ชื่อแฟนคลับ Super Junior ไง พวกเรามีชื่อว่าเอลฟ์” ฟีนิกซ์อ้าปากค้างอีกรอบ ก่อนที่จะหุบ แล้วโบกไม้โบกมือราวกับจะไล่แมลงวัน

“เออ งั้นกูว่ามึงไม่ใช่แล้วเอลฟ์แล้วล่ะ มึงน่ะ โรคจิตชัด ๆ”

“อย่ามาว่ากูนะ!!!” อ๊ายยยยยย บังอาจมาว่าผมโรคจิตได้ยังไง นี่มันเป็นความชอบส่วนบุคคลเว้ย

“กูไม่ได้ว่ามึง กูพูดตามความจริง แล้วแมร่ง อันที่จริงถ้ามึงจะเอามาตั้งโชว์ กูก็ไม่ได้ใส่ใจดงฮ่ง ดงเฮ หรือดงมันสำปะหลังอะไรของมึงหรอก มึงจะเอาไปชาบู ที่ไหนก็เรื่องของมึง แต่กูไม่เข้าใจว่า มึงจะเอาเข้ามาไว้ในห้องกูทำไมมิทราบ”

เอ๊า!!! บักบ้านิ มึงไม่รู้หรือไงว่าห้องมึงมันเป็นห้องเก็บของขนาดย่อม ๆ ของกูอ่ะ ถึงมึงจะมาค้างบ้านกูบ่อย แต่มันก็ไม่ได้บ่อยอะไรขนาดมาทุกเดือน แล้วจะให้กูปล่อยห้องมึงว่างเนี่ยนะ จะบ้าเหรอ กูก็แค่ขออนุญาต (โดยไม่บอกมึง) ใช้สอยให้มันเกิดประโยชน์แค่นั้นเอง

“พอ ๆๆๆ เออ ๆๆ สรุปว่ากูผิด แมร่ง ผ้าปูที่นอน ห้องห่าอะไรกูก็ทำความสะอาดให้ แค่เอาฮยองดงเฮมาฝากไว้ในห้องทำเป็นโวย โด่เอ๊ย!!!” ผมบ่นกระปอดกระแปดเหมือนผู้หญิงไม่มีประจำเดือน(?) พลางยกป้ายที่ฮยองดงเฮเป็นพรีเซ้นเตอร์คอนแทกเลนส์ออกจากห้อง

ในขณะที่ใกล้จะถึงประตู ไอ้ฟีนิกซ์มันก็ดึงแขนผมไว้ ผมหันกลับไปขมวดคิ้วให้มัน สะบัดแขนออกอย่างงอน ๆ ตามองมัน แต่เท้าผมก้าวออกจากห้องไปแล่ว

“อะไรอีกล่ะ” หัวเสียเว้ย ฮยองกูไม่มีที่อยู่ T.T

“เออ กูขอโทษ” สำนึกแล้วเหรอมึง

“แล้วไงต่อ” ผมยังเล่นลิ้น

“เออ มึงจะเอาฮยง ฮยองอะไรของมึงไว้ห้องกูก็ได้” เหยดดดดดดดดดดดดดดด ให้มันได้แบบนี้สิวะบักฟี ผมอมยิ้ม รีบเดินอุ้มป้ายโฆษณาดุ่ม ๆ กลับเข้าห้อง แล้วเอาไปตั้งไว้ที่เดิม ยังไม่ทันได้หันหลังกลับ เสียงบักฟีก็ลอยมาตามลม

“แต่กูจะไปนอนห้องมึง”

=[]=!!!!! สัส!!!!


ศิลปินที่เกี่ยวข้องในตอนนี้
ลี ดงเฮ - Super Junior [Korea]

ชื่อแฟนคลับที่เกี่ยวข้องในตอนนี้
E.L.E - ใช้เรียก FC ของ Super Junior

ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2

kaino

  • บุคคลทั่วไป
KO-JAP : พื้น-เตียง

โหมด : ไบเซป
เช้านี้ผมตื่นขึ้นมาด้วยสภาพหัวฟู และปวดหลัง เหตุเพราะเมื่อวาน หลังจากที่บักฟีนิกซ์มันโวยวายเรื่องป้ายโฆษณาคอนแทกเลนส์ของโอ๊ปป้าดงเฮแล้ว มันก็ไม่ยอมนอนห้องมันอีกเลย โดยคำให้การของมันมีอยู่ว่า

“มึงจะบ้าเหรอ เวลากูอยู่ในห้องแล้วมีดงเกย์คอยจ้องกูเนี่ยนะ”

=____= ดงเกย์บ้านมึงสิ

“กูไม่เอาอ่ะ ถ้ามึงจะเก็บไว้ห้องกู มึงก็ต้องให้กูไปนอนห้องมึง”

=[]=!!! เรื่องมากอ่ะมัน

“เชี่ย มึงเข้าใจกูไหมเนี่ย กูเป็นผู้ชาย เวลากูอาบน้ำ กูเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วมีผู้ชายมองแบบนี้ กูหลอน”

0.0!!!! แล้วทีตอนมัธยมมึงแอบดูกูอาบน้ำ แอบดูกูเปลี่ยนเสื้อผ้า มึงคิดว่ากูไม่หลอนหรือไง บักบ้า!!!!!

“ไม่ ๆๆๆๆ มึงจะหันด้านหน้าของป้ายเข้าผนัง แต่ตอนปิดไฟ มันก็เหมือนกับมีคนยืนอยู่นะเว้ย”

*.......* นี่มึงกลัวผีหรือไง?

“กูไม่เอา กูไม่ชอบนอนเปิดไฟ”

T.T กล่อมไงก็ไม่ยอมอ่าาาาา

“มึงไม่ต้องพูดและ กูจะไปนอนห้องมึง”

T____________T ไอ้คนใจร้าย !!!!

และนี่ก็คือที่มาอย่างคร่าว ๆ ของเรื่องนี้ หลังจากที่มันตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว มันก็จับกระเป๋าลากของมันลากไปห้องผมอย่างรวดเร็ว ผมที่วิ่งตามมาพยายามที่จะเกลี่ยกล่อม สุดท้ายมันสั่งผมให้เปิดประตู เพราะมันไม่มีกุญแจ ผมไม่ยอมเปิด มันก็หันมาเล่นงานผมโดยการค้นทั้งตัวเพื่อหากุญแจ

อันค้นธรรมดากูไม่ว่า แต่ถ้าเล่นถอดเสื้อนี่กูยอม

เสื้อของผมปริวว่อนลงไปชั้นล่าง เหลือเพียงแค่เสื้อกล้ามสีขาว ห่า มึงก็รู้ว่าทั้งตัวกูกระเป๋ามันอยู่ที่กางเกง แล้วมึงจะมาถอดเสื้อกูหาพระแสงอะไร ทำไมมึงไม่ถอดกางเก๊งงงง!!!! หะ? เอ๊ย!!! เดี๋ยว!!! ไม่ใช่นะ ตะกี้ผมพูดอะไรออกไปเนี่ย =[]=!!!! ไม่ ๆๆๆ ลืมมันซะ

มาสรุปกันเลยแล้วกัน เพื่อไม่ให้ออกนอกเรื่องไปมากกว่านี้ =[]=!!! หลังจากที่เสื้อของผมปริวว่อนเรียบร้อยแล้ว ผมก็เลยตัดสินใจวิ่งฉิวลงไปชั้นล่าง คว้าเอากุญแจห้องแล้วไขให้มันทันทีอย่างไม่มีข้อแม้ ขืนมีนี่มีหวังว่าจะได้ตายอย่างอนาทแน่ ๆ

และเมื่อมันเข้าไปในห้องปุ๊บ มันยืนค้าง สายตาจองมันจ้องไปยังฝาผนังห้องอีกฝั่งหนึ่งที่ตอนนี้เต็มไปด้วยคอเล็กชั่น Mr.Simple ของวง Super Junior กะจะบอกให้ทราบคร่าว ๆ นะครับว่า Mr.Simple เนี่ยเป็นอัลบัมที่ 5 ของวง Super Junior โดยได้มีคอเล็กชั่นออกมาคือ กล่องอัลบัมนั้นจะมีเท่ากับจำนวนสมาชิกวง ด้านหน้าของกล่องจะเป็นรูปของสมาชิกแต่ละคนต่อ 1 กล่อง โดยมาในคอนเซปท์ Ubersexual ที่มาในแบบโคตรจะคัลเลอร์ฟูล

งานนี้ พูดตรง ๆ คนได้เงินคือศิลปิน และคนเสียเงินคือเอลฟ์

แต่ยังไงก็ยอมเสียละวะ

1 คอเล็กชั่นมันตกราคาราว ๆ ห้าร้อยบาท แล้วคิดดู มีทั้งหมดสิบคอเล็กชั่น ผมยอมรับว่าผมเสียเงินไปเกือบหมื่นเพื่อเก็บสะสมคอเล็กชั่นของสมาชิกวงทุกคน ปาดเหงื่อเหมือนกันครับ แต่พอเห็นติดอยู่ที่ฝาผนังทั้งสิบกล่องแล้วรู้สึกหายเหนื่อยในทันที

ก็ความสุขทางใจของผมนิเนอะ ^w^

แต่ดูท่าอีกคนมันจะไม่สุขครับ ตลอดทั้งวัน (ทั้งคืนด้วย) มันเล่นเงียบแล้วจมจ่อมอยู่ในโลกส่วนตัว กดโน๊ตบุคต๊อก ๆ แต๊ก ๆ ทั้งคืนจนผมไม่ได้นอน แล้วเมื่อผมนอน เสียงโทรศัพท์บักฟีดันดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงกรี๊ด ใช่แล้วครับ อ่านไม่ผิดหรอก กรี๊ดครับ บักฟีมันกรี๊ดจนผมสะดุ้ง

คำพูดมันเมื่อคืนที่ผมพอจะจำได้

“ห่า Goods ออกมาแล้วเหรอ!!!” เสียงมันโคตรจะตกใจ แล้วเสียงกดรัวคีบอร์ดก็ดังขึ้น กูขอภาวนาให้น้องแมกบุคโปรของมึงพัง เพี๊ยง ๆ !!!

“เชรี่ย ผ้าขนหนูพันสองร้อยเยน แมร่ง งามชิบหาย ฮือ ๆๆ” แล้วมึงจะร้องไห้ทำไมเนี่ย

“เอ๊า มึงยังทำถุงยางอยู่อีกหรอ!!!!!” =[]=!!!!

“เฮ้ย กางเกงในสีโคตรแรด นี่กูต้องซื้ออีกตัวใช่ไหมนิ” =__________+ ยิ่งฟังยิ่งเครียดครับ มีทั้งถุงยาง ซึ่งผมคิดว่ามันคงไม่พ้นถุงยางอนามัย มีทั้งกางเกงในสีโคตรแรด (มันเป็นยังไงวะ) (แถมบักฟียังบอกว่าต้องซื้ออีกตัว แสดงว่าตอนนี้มันมีอยู่แล้วใช่มะ?) แล้วก็มีนู้นมีนี่ตามมาอีกเป็นสิบรายการ เล่นเอาผมที่นอนอยู่ข้างเตียงถึงกับต้องดึงผ้าขึ้นมาคุมโปงด้วยความสยดสยอง

นี่หรือวะที่เรียกว่าเจร็อค บรึ๋ย~~~ น่ากลัว

ผมนอนฟังฟีนิกซ์กรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์อยู่ราว ๆ สิบนาทีก่อนที่จะหลับไป และตื่นขึ้นมาด้วยสภาพที่เห็น ณ. ตอนนี้แหละครับ ด้วยความที่นอนบนพื้น เอ๊ะ!!! ผมบอกพวกคุณหรือยังว่าเมื่อคืนผมนอนที่พื้นข้างเตียงล่ะ ใครจะกล้าขึ้นไปนอนกับเตียงกับมันล่ะ สยองขวัญ

เห็นดังนั้น ผมก็เลยตัดสินใจยกเตียงให้มันนอน ส่วนผมไปลากเอาที่นอนปิ๊กนิกมาปูกับพื้นข้าง ๆ เตียงนั่นแหละ ดู ๆ แล้วเหมือนหมานอนเฝ้าเจ้าของยังไงยังงั้น แต่ช่วยไม่ได้นินา เป็นหมาก็ดีกว่าเป็นคนนอนเตียงเดียวกับมันล่ะ =[]=!!!!

ผมโผล่หน้าขึ้นมาที่ขอบเตียงด้วยอาการที่เรียกว่าสะลึมสะลือ แต่แล้วก็ต้องรีบล้มตัวลงไปนอนเหมือนเดิม อาการสะลึมสะลือตะกี้หายไปเป็นปลิดทิ้ง ผมนอนลืมตาโพลงดูเพดานห้อง

ถ...ถ้า...ถ้ากูไม่ตาฝาดนะ ม...เมื่อกี้...เมื่อกี้นี้มัน....

ผมโผล่หน้าไปอีกรอบ ซึ่งรอบนี้ไม่ล้มลงไปนอนแล้วครับ ผมนั่งค้างเลย

ห่า!!! ถ้ามึงจะมาโป๊ในห้องกูขนาดนี้ สงสารกูบ้างอะไรบ้าง T......T



ศัพท์ที่เกี่ยวข้องในตอนนี้
Goods - สินค้าของที่ระลึก

Mr.Simple Collection - http://bit.ly/GSsn93

Goods ของ the GazettE - http://on.fb.me/GHyI6x

ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2

kaino

  • บุคคลทั่วไป
KO-JAP : อาการช็อค
โหมด : ฟีนิกซ์

ผมไม่รู้ว่าไอ้ไบเซ็กชวลมันเป็นบ้าอะไรแหกปากโวยวายแต่เช้า แมร่ง คนจะหลับจะนอน เมื่อคืนอาบน้ำเสร็จ มานั่งเล่นคอม กูยิ่งสติแตกอยู่ กว่าจะได้นอนก็เกือบตี 3 (มัวแต่นั่งดู Goods ของศาสดา) ขนาดปิดคอมแล้ว ตาผมยังหมุนวนเป็นสัญลักษณ์เงินเยนอยู่เลย ก็ศาสดาอ่ะดิ เล่นอัพราคาสินค้ากันตอนเที่ยงคืน เพื่อนที่ญี่ปุ่นโทรมาบอกอย่างรวดเร็ว แล้วมีหรือที่ HERESY อย่างผมจะรอช้า

เปิดเว็บไซต์ของต้นสังกัดแล้วส่องอย่างรวดเร็วครับ

เพียงแค่เห็นสินค้า ผมก็กรีดแตก เนื้อเต้นเป็นเจ้าเข้า แล้วยิ่งมาเห็นราคา เนื้อยิ่งเต้นหนักเข้าไปอีก มันรู้สึกราวกับไปยืนอยู่กลางภูเขาหิมาลัยที่มีหิมะโอบล้อม มีลมเย็นพัดผ่านจนเย็นยะเยือก นั่นแหละครับ พอเห็นราคาแล้วเย็นยะเยือก =[]=!!!!

ผ้าขนหนู ผืนละหนึ่งพันสองร้อยเยน กางเกงชั้นในสีสันแสบตา ชมพูโคตรแรดอีกสามพันกว่าเยน ถุงยางอนามัยรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น (รุ่น the GazettE ที่หาซื้อจากไหนไม่ได้) แล้วไหนจะกระจก นู้นนั่นนี่ สรุปแล้ว คาดว่าผมจะถูกศาสดาสอยไปไม่ต่ำกว่าสองหมื่นเยน =___=” โปรดไว้อาลัยให้ผมด้วย ฮือ ๆ

เอาเถอะ ยังไงเป็น HERESY ก็ต้องสนับสนุนสินะ เรื่องเงินช่างแม่ง เอาของไว้ก่อน

คิดได้ดังนั้นผมก็นอนครับ แล้วก็มาตื่นเพราะเสียงแปดหลอดของไอ้คนที่นอนพื้นนี่แหละ แมร่ง บอกให้มานอนเตียงด้วยกันก็ไม่เอา เรื่องมากนอนพื้น เป็นไงล่ะมึง พื้นมันแข็ง เจ็บตัวล่ะสิ สมน้ำหน้า

ผมแอบสะใจเล็ก ๆ แต่ก็ยังไม่อยากจะตื่น ก็เลยถู ๆ ไถ ๆ หน้าไปกับหมอนจากนั้นก็ยกหมอนขึ้นมาคลุมหัว เป็นสัญญาณบอกว่า กูรำคาญเสียงมึง สาดดดดดดดดดดดดดดดด~~~!!!!!! ป่านนั้นมันก็ยังกรีดร้องไม่หยุด โยนหมอน โยนผ้าห่มมาใส่ผม

อะไรของมึงวะไอ้นิ

ผมรำคาญก็เลยลุกขึ้นนั่ง อีกฝ่ายเอามือปิดตา

“อะไรของมึง” ผมพูดเสียงงัวเงีย

“มึงทำบ้าอะไรของมึงเนี่ย” =.=’ เอาให้มันกระจ่างกว่านี้สิ

“กูทำไร กูนอนอยู่ดี ๆ มึงก็กรี๊ด”

“กูไม่ได้กรี๊ด”

“เออ กูใช้คำผิด กูนอนอยู่ดี ๆ มึงก็โวยวาย”

“ไอ้บ้า ไอ้หื่นกาม” เอ๊า 0.0!!! เสือกด่าผมว่าหื่นกามซะงั้น น้องชายกูมันไปแตะตูดมึงหรือไงวะ

“เดี๋ยวดิ ตกลงมึงเป็นอะไรวะเนี่ย แล้วมึงจะปิดตาทำไม” ผมก้าวลงจากเตียงแล้วไปกระชากมือมันออก ไอ้ไบค้างในทันที แต่ผมว่ามันไม่ได้ค้างหรอก แบบนี้มันเรียกว่าช็อคมากกว่า เฮ้ย!!!! มึงจะมาช็อคอะไรตอนนี้ ไอ้บ้า ผมรีบตบหน้ามันในขณะที่ตามันเหลือกขึ้นเรื่อย ๆ มือมันเริ่มจับจีบ

ตายละว้า ตายละว้า คนช็อค คนช็อค คนช็อคทำไงวะ!!! มือจับจีบ เดี๋ยวนะ มือจับจีบ มันช็อคใช่มะ? มันเรียกว่าช็อคใช่มะ? เว้ย ตายและ กู...กูจะทำไงดีเนี่ย...!!!

ในช่วงเวลาที่รนลาน ผมทุบหัวตัวเองเพื่อฟื้นความจำ ไงวะ มือจับจีบ จำได้ว่าเคยดูหนังเรื่องหมอเจ็บ มันต้องมีกรวยใช่ไหม อะไรก็ได้ที่เป็นกรวย ใช่ ๆๆๆ แล้วเอามาครอบปากมัน เดี๋ยวนะมึง ผมหันไปมองไอ้ไบที่ตอนนี้มันเริ่มกระตุก อย่าเพิ่งตายนะมึง

ผมภาวนาในใจพลางรีบรื้อของในห้องเผื่อมีอะไรที่พอจะทำเป็นกรวยครอบปากมันได้บ้าง อะไรวะ กูยังไม่ได้ทำอะไรมึงเลยเสือกมาช็อคซะแล้ว อะไรของมึงเนี่ย ผมตัดสินใจกระชากสมุดออกมาจากโต๊ะ เล่มไหนก็ช่างแม่งมันเถอะ เอามาบิดเป็นกรวยได้ก็พอ ดังนั้นผมจึงฉีกหน้ากระดาษออกมาแผ่นนึงแล้วม้วน ๆๆๆๆ อีกฝ่ายเริ่มส่งเสียงเฮือก ๆ

เฮ้ยมึง อย่าเพิ่งมาตายอะไรแถวนี้นะ ผมนั่งคล่อมมัน ใช้เข่าทับแขนทั้งสองข้างของมันไว้ แล้วเอากระดาษที่บิดเป็นกรวยครอบปาก ผ่านไปไม่นานอาการดิ้นรุนแรงเมื่อครู่เริ่มดีขึ้น ไอ้เตี้ยเริ่มที่จะกลับมาหายใจเป็นปกติ แต่ผมก็ยังคงเอากรวยกระดาษครอบปากมันไว้อย่างนั้น แบบว่าไม่ชัวร์อ่ะ ถ้าเกิดมันเป็นอะไรมากกว่าเดิมผมจะซวยเอา โตมาจนปูนนี้ยังไม่เคยเห็นมันเป็นแบบนี้ T.T

เจอทีก็ตกใจเหมือนกันนะครับ




 
โหมด : ไบเซป

ผมรู้ว่าผมช็อค มันเอาอีกแล้วครับอีอาการนี้ มือจีบเท้าจีบเนี่ย ส่วนมากจะเป็นเวลาที่ตกใจมาก ๆ แม่เคยบอกว่าจะพาผมไปหาหมอ แต่ผมไม่ไปหรอก น่ากลัวจะตาย เดี๋ยวก็ได้ยาบ้าบออะไรมากินอีก ผมเคยถามเพื่อนที่มีอาการเช่นนี้เหมือนกัน เพื่อนก็บอกว่า มันเป็นเรื่องปกติ แค่หาที่ครอบปากเวลาที่เกิดอาการเดี๋ยวก็หายแล้ว

ดังนั้นผมจึงไม่ไปหาหมอครับ 55555 แล้วมันก็นาน ๆ เป็นทีก็เลยไม่ได้สนใจอะไร แต่ว่าตอนนี้นี่ดิ ทรมานครับ มันหายใจไม่ออก ตัวเกร็งไปหมด แต่ผมรับรู้สิ่งรอบตัวได้หมดทุกอย่างเลยนะ ผมรู้ว่าไอ้ฟีนิกซ์มันตกใจ

ใช่สิ คนอย่างมึงไม่เคยเจออะไรแบบนี้นอกจากศาสดาเจร็อคของมึงอยู่แล้วนินา =.=” และมันก็ตามมาด้วยเสียงค้นของ เสียงของตกจากโต๊ะ เสียงกระดาษถูกฉีกดังแขวกกกกกก~~ แขนทั้งสองข้างของผมที่เกร็งรู้สึกถึงแรงที่กดทับลงมา หน้าท้องของผมรู้สึกหนักราวกับมีคนนั่งทับ โลกเบื้องหน้าเริ่มมืดลง เห็นเพียงใบหน้าซีดเผือกของไอ้ฟีนิกซ์

จากนั้นจมูกและปากของผมก็ถูกครอบด้วยกรวยกระดาษที่ทำขึ้นอย่างง่าย ๆ

อ่าาาา ในที่สุดมึงก็หาวิธีแก้ให้กูได้แล้วสินะ

การหายใจของผมเริ่มกลับมาเป็นปกติ ผมเริ่มกำหนดลมหายใจของตัวเองได้ มือและเท้าที่จับจีบอยู่เริ่มคลาย อาการเกร็งต่าง ๆ เริ่มดีขึ้น แต่มันมีอยู่สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกว่ามันยังไม่เข้าที่เข้าทางเท่าไร นั่นก็คือ...

ทำไมมันต้องมานั่งคล่อมผมด้วย






โหมด : ฟีนิกซ์
ผมรับรู้ถึงอาการที่ดีขึ้นของอีกฝ่าย คงจะพอวางใจได้แล้ว จึงเอากรวยกระดาษออก หน้าอกของไอ้ไบเซปกระเพือมขึ้นลงอย่างช้า ๆ และเป็นปกติ ดวงตาของมันจากที่เหลือกขึ้นเริ่มปิดลง สงสัยกำลังทำสมาธิกับการหายใจอยู่ มือของมันที่จับจีบตอนนี้คลายเป็นปกติแล้ว

ผมปาดเหงื่อให้ตัวเอง แล้วกระโดดขึ้นไปนั่งบนเตียง ในขณะที่อีกฝ่ายค่อย ๆ ยันตัวเองขึ้นมาจากพื้น

“เป็นไรมากไหมนิ?” ผมถามมัน ไบเซปเอามือลูบไปตามใบหน้าเรียวของมัน

“เปล่า ไม่เป็นไร” เสียงตอบกลับมาบ่งบอกได้ถึงความเหนื่อย

“มึงเป็นแบบนี้บ่อยเหรอ”

“ไม่อ่ะ แค่เวลาที่ตกใจมาก ๆ มันจะเป็น” หะ? เวลาที่ตกใจมาก ๆ ?

ผมขมวดคิ้ว “แล้วมึงตกใจไรวะ”

อีกฝ่ายตวัดตาหันควับมามองผม เล่นเอาซะขนลุก “ก็จะตกใจอะไรอีกเล่า บ้านมึงสอนให้มึงใส่กางเกงในนอนหรือไง” =[]=!!!! อะไรวะไอ้เตี้ย เนี่ยนะเหตุผลมึง??? ผมก้มลงมองสารรูปตัวเองที่ท่อนบนนั้นเปลือยเปล่าส่วนท่อนล่างผมใส่กางเกงในสีชมพูแรดของท่านศาสดา แล้วเงยหน้ามองมันสลับไปสลับมาอยู่สามครั้ง หน้ามันเริ่มแดงขึ้นเรื่อย ๆ พอ ๆ กับเครื่องหมายคำถามที่มันผุดอยู่บนหน้าผม

“เฮ้ย มึงจะบ้าหรือไง นี่มันเรื่องคอมม่อนของผู้ชายมากนะเว้ย ไอ้ใส่กางเกงลิงนอนน่ะ”

(-””-; ) <<<< ดูมันทำหน้า อะไรของมึงนิ

“ก็....ก็....ก็กูไม่เคยเห็นนิ!!!!!!!” แล้วมึงจะขึ้นเสียงสูงทำเพื่อ? ผมเกาหัวแกรกด้วยความงุนงง นี่มันอะไรของมันวะ อีแค่ใส่กางเกงในนอนทำเป็นตกใจ ศาสดากูยิ่งนอนแบบไม่ใส่อะไรเลย กูยังไม่แคร์ (ดูเหมือนเคยเห็นเอง แต่อันที่จริง ฟังจากที่แฟนคลับเล่ามาอีกที ฮ่า ๆ )

“ศาสดากูไม่ใส่ไรนอนเลยนะ” ผมพูดขึ้น อีกฝ่ายอ้าปากค้าง

“ศาสดามึงต้องโรคจิตแล้วแน่ ๆ” รอบนี้คิ้วกระตุก ว่าใครไม่ว่าเสือกมาว่าศาสดานี่มีของขึ้นนะครับ ได้ไง มันไม่ใช่โรคจิต มันเป็นเพียงวิถีชีวิตการหลับการนอนของแต่ละคนเว้ย

“มึงจะบ้าเหรอ มันเป็นวิถีการนอนของศาสดา”

“วิถีการนอนบ้านมึงดิ โรคจิตชัด ๆ”

“งั้นไอ้พวกที่ชอบใส่ชุดนอนมันก็โรคจิตเหมือนกัน” แทงใจมันเต็ม ๆ เพราะมึงก็ชอบใส่ชุดนอนเวลานอน

“ไอ้บ้า!!! มันจะโรคจิตได้ไง ไม่มีเหตุผล!!!!” =.=” เถียงไม่สู้แล้วพาลซะงั้น ไอ้เตี้ยตรงหน้าผมทำท่ากระฟัดกระเฟี้ยดไม่พอใจเหมือนพวกชะนีแรกรุ่นที่ไม่มีใครเอา ปากมันยื่นออกมาเหมือนที่พวกเนตไอดอลเกาหลีชอบทำเวลาถ่ายรูป นี่มึงคิดว่ามึงดูดีหรือไงวะ (=‵′=)

ด้วยความหมั่นไส้ บวกกับอารมณ์อยากแกล้งที่บังอาจปลุกผมให้ตื่น ทั้ง ๆ ที่เพิ่งนอนได้เพียง 3 ชั่วโมง แถมยังมาด่ามาว่าศาสดาผมโรคจิต (ทีมึงยังว่าศิลปินกูเลย T.T // ไบเซป) ผมลุกขึ้นจากเตียงอีกครั้ง แล้วเดินเข้าไปหามัน อีกฝ่ายสงสัยจะรู้ทันครับ เพราะมันถอยหลังกรูดไปจดผนัง แต่ก็นั่นแหละ ชนผนังแล้วมันจะหนีผมได้ที่ไหนเล่า

“ออกไปนะไอ้บ้า!!!” มันทั้งเตะทั้งผลักผมเมื่อผมอุ้มมันขึ้นแล้วโยนลงไปที่เตียง เอ๊ะ!! ช้าก่อนนะครับ งานนี้ไม่มี NC ผมรับรองได้ แค่จะเล่นกับมันเหมือนที่ผู้ชายเขาเล่นกันเฉย ๆ

ไอ้ไบเซปรีบคลานลงจากเตียง แต่ก็ลงไปได้ครึ่งตัวครับ ผมจับขามันไว้ในขณะที่หัวมันห้อยลงไปอยู่กับพื้นท่าทางมันโคตรจะอุบาทเลยครับ คึคึ คึคึ เห็นแล้วผมล่ะอยากจะหัวเราะก๊าก ให้คนทั้งโลกได้ยิน แต่ก็ต้องกลั่นไว้ แล้วลากขาให้ตัวมันกลับขึ้นมาอยู่บนเตียง จากนั้นก็จับการปลดกระดุมชุดนอนของมันออกทั้งหมด

อีกฝ่ายกรี๊ดแตก 55555 ได้ข่าวว่ามึงบรรยายลักษณะของกูให้รีดเดอร์รู้ว่ากูกรี๊ดใช่มะ งั้นกูเอามึงคืนมั้ง เสื้อของมันถูกผมดึงออกแล้วโยนลงเตียง ไอ้เตี้ยตาโตเลยครับงานนี้ แต่ผมตาโตกว่า เพราะทันทีที่เสื้อมันหลุดออกผิวขาวของมันก็กระแทกตาผมเต็ม ๆ เรียกได้ว่าผมอึ้งไปเกือบจะครบวิ =.=” กว่าจะเรียกสติมาได้

ไอ้ห่านี่!!! ซ่อนรูปนี่หว่า ไม่อยากจะเชื่อว่ามึงจะขาวอมชมพูขนาดนี้

อยากไปเตะบอล

เฮ๊ย!!! ไม่ใช่แล้ว ไม่เกี่ยวอะไรกับข้อสอบคุณภาพต่ำของสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (ไทย) ไม่เกี่ยวครับ ไม่เกี่ยว เพียงแค่ผมอ่านเจอแล้วดันนึกถึงเฉย ๆ มาต่อดีกว่าครับ พอถอดเสื้อ พออึ้งในเรือนร่างของมันแล้ว(?) ชิ้นต่อไปที่ต้องถอดก็คือกางเกง งานนี้ไม่ยาก เพราะกางเกงนอนมันหัวยืด ดึงปรื้ดเดียวก็หลุดแล่ว แต่มันจะมายากตรงที่ อีกฝ่ายมันขัดขืนนี่แหละ

ยิ่งใกล้ตีนมันแล้วด้วย ถูกเตะแน่ ๆ กู T^T แต่ด้วยศรัธทาอันแรงกล้าที่มีต่อท่านศาสดา ตีนเล็ก ๆ ของไอ้ไบเซปมันทำอะไรผมไม่ได้มากหรอกคร้าบบบบบบบบบ

ผมจัดการดึงกางเกงมันอย่างรวดเร็ว กะว่าจะม้วนเดียวจบ แต่ไอ้นั่นก็ไม่ยอมง่าย ๆ ครับ มันดึงขอบกางเกงไว้ทันเมื่อมันหลุดมาแล้วครึ่งตูด O_o!! ห่าเอ๊ย ใส่กางเกงในทั้งที เอาให้มันมีสีสันเหมือนเสื้อผ้ามึงหน่อยสิวะ

“มึงจะทำอะไรกูเนี่ย!!!” เสียงของไอ้ไบเซปดังอู้อี้ออกมาในขณะที่กำลังต่อสู้อยู่กับแรงของผม

“ก็ทำให้มึงโรคจิตเหมือนกูไง”

“กูไม่เอ๊าาาาาา กูไม่ได้อยากโรคจิตเหมือนมึ๊งงงงงง~~~”

ถึงมึงจะว่างั้นก็เถอะ แต่ซอรี่วะ เล่นว่าศาสดากู มันทำกูของขึ้นนะ >.<~~~

พวกเราสองคนยังยื้อหยุดฉุดกระชากขอบกางเกงกันอยู่บนเตียง โดนที่มีผมนั่งส่วนอีกคนนอน และดูท่ามันจะไม่จบง่าย ๆ งานนี้เลยงัดท่าไม้ตายครับ อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เล็กจนโตกูรู้จุดอ่อนทั่วร่างกายมึงดี ไอ้ไบเซ็กชวล!!! นิ้วมือของผมจิ้มเข้าไปที่เอวของอีกฝ่าย และนั่นแหละ มือมันปล่อยขอบกางเกงทันทีหันมากอดเอวตัวเองไว้

สรุปแล้ว ไอ้นี่บ้าจี้ครับ 5555555

ได้โอกาส ผมก็ดึงกางเกงของมัน รอบนี้ม้วนเดียวจบจริง ๆ กางเกงมันหลุดแล้วฟาดอยู่กับขอบเตียง ตอนนี้ทั้งผมและมันก็ล่อนจ่อนเหลือแต่กางเกงในทั้งคู่

“โอเค ทีนี้มึงก็โรคจิตเหมือนกูแล้ว ฮ่า ๆๆๆๆ” ผมหัวเราะอย่างสะใจ อีกฝ่ายกัดริมฝีปาก สะบัดหน้าไป ๆ มา ๆ กับที่นอน แล้วมันก็ทำในสิ่งที่ผมคาดไม่ถึง ตีนมันฟาดเข้าต้นคอผมเต็ม ๆ =[]=!!! ผมลงไปนอนนับดาวอยู่บนเตียง เรียกได้ว่าแทบจะสลบ แต่ก็ยังมีสติอยู่ อีกฝ่ายกระโดดขึ้นมานั่งบนตัวผมแล้วเอาหมอนมาปิดหน้า

ไอ้ควายไบ~~!! มึงทำแบบนี้แล้วกูจะหายใจยังง๊ายยยย!!!

ดิ้นครับ งานนี้ต้องดิ้นให้หลุดถ้าไม่อยากตายลงข่าวหน้าหนึ่งว่าขาดอากาศหายใจ มือของผมวาดเปะปะไปทั่วอากาศ แล้วก็จับเอาหัวไอ้ไบ ผมโยกหัวมันกลับไปกลับมา แรงที่กดหมอนลงมาเริ่มเบา ผมโยกหัวมันอีกรอบ หมอนหลุดออกจากหน้าผมทำให้ผมหายใจโล่งขึ้น แต่ก็ยังมองเห็นดาวอยู่ซักสามดวงได้

ผมพลิกตัวกลับมาอยู่ด้านบน หน้าไอ้ไบแดงเป็นลูกตำลึง ผิวของมันชมพูมากขึ้นจากแรงเสียดสีของผ้า ของผิวหนัง หรือของห่าอะไรก็ช่าง แต่มันชมพูงามมากเลยนะครับ ฮือ ๆ

พวกเราฟัดกันอยู่บนเตียง แรงที่ถาโถมใส่กันมากขึ้นเรื่อย ๆ ต่างฝ่ายต่างผลัดกันรุก ผลัดกันรับ (เอ๋?) จากที่เล่น ๆ เสือกมาตีกันจริง ๆ โอ๊ยน๊อออออ~~~~ ไม่รู้ว่าพวกผมนัวเนียกันบนเตียงนานแค่ไหน เพราะรู้ตัวอีกทีอะไรบางอย่างแตกมันก็ดังขึ้นอยู่หน้าห้องแล้ว




ศัพท์ที่เกี่ยวข้องในตอนนี้

HERESY - ชื่อแฟนคลับของวง the GazettE [Japan]

ListeL

  • บุคคลทั่วไป
ชอบบบบบบบบบบ><
เข้าข้างฟีเต็มที่ ฮ่าๆ เรามาแนวเดียวกันเว้ยยยย สนุกจ้าดูเปนธรรมชาติดี:)

ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2
ถ้าจะกระฟัดกระเฟียดกันขนาดนี้  :-[ (ไม่ปล้ำกันไปเลยล่ะ)

kaino

  • บุคคลทั่วไป
KO-JAP : เพื่อนใหม่
โหมด : ไบเซป

ตอนนี้ผมล่อนจ่อน

ตอนนี้ผมถูกจับถอดเสื้อผ้า

ตอนนี้ผมถูกไอ้บ้า หน้าหล่อ คลั่งเจร็อคนั่งทับผมอยู่

และตอนนี้ผมถูกจับจ้องด้วยดวงตา 1 คู่ที่หน้าประตู

อ๊าคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค!!!!! ซวยแล่ว ๆๆๆๆๆๆ ทำไมมึงต้องโผล่หน้าสวย ๆ ของมึงมาตอนที่กูกำลังอยู่ในสภาวะไม่พร้อมด้วยวะ แล้วนั่นอะไรน่ะ อย่ามาชี้แล้วอ้าปากค้างแบบนั้นนะ ไม่ได้มีอะไรอย่างที่มึงคิดเว้ย ๆๆๆๆ =.=”

“ไบเซป นี่นาย” ฮือ ๆๆๆ กูไม่ได้อะไรอย่างที่มึงคิด อีฟีมันทำกูตางหาก อย่าเข้าใจกูผิด ขอร้อง T...T

“แล้วนาย.....” บุคคลมาใหม่ชี้นิ้วไปยังอีฟีที่ตอนนี้ก็คงจะอึ้งพอ ๆ กับผม มันรีบกระโดดลุกพรวดแล้วไปยืนอยู่มุมห้อง เออ ทีเรื่องแบบนี้ล่ะเร็วนะมึง ผมยันตัวเองลุกขึ้นจากเตียงแล้วเอาผ้าห่มมาพันตัว ดู ๆ ไปเหมือนฉากนางเอกถูกพระเอกข่มขืนแล้วมีคนมาเห็น

เฮ้ย!!! แล้วทำไมต้องฉากข่มขืนล่ะ? ม่ายยยยยยยยย มันแค่จับผมถอดเสื้อผ้าให้แลดูบ้าเหมือนมันแค่นั้นเอง T_____T

“ไม่ได้มีอะไรอย่างที่มึงคิดนะเว้ย” ผมเดินตรงไปแล้วเขย่าร่างผู้มาใหม่ อีกคนโยกไปโยกมาตามแรงเขย่าของผม

“เออ ๆๆๆๆ กูรู้ ๆๆๆๆ” อีกฝ่ายตอบกลับแล้วผลักมือผมออก รู้เหี้ยบ้านมึงทำหน้าซีดแบบนั้นหรือไง

“ไม่มีจริง ๆ นะเว้ย”

“.....” รอบนี้มันเงียบ ไอ้ห่าฟีนิกซ์ มึงเล่นกูแรงมาก T.T เพื่อนกูเข้าใจกูผิดแล้ว มึงเห็นไหมเนี่ย ฮือ ๆๆๆ

“มึงอย่าเงียบเซ่!!” ผมยังเขย่าตัวมันต่อเพื่อให้มันพูดอะไรบ้าง ไม่ใช่เงียบแบบนี้

“เอ่อ... มึงจะให้กูพูดอะไรล่ะ” เออ นั่นดิ O.O

“มึงพูดอะไรก็ได้ บอกว่ามึงเข้าใจ มันไม่ได้เกิดอะไรขึ้น” ผมพยายามยัดเยียดคำพูดให้มัน ในขณะที่อีกคนกลืนน้ำลายลงคอ

“เอ่อ.....”

“ปล่อยเพื่อนนายเหอะไบเซป” หือ? เสียงใครวะ มึงจะทำเสียงหล่อไปไหนมิทราบ?? ผมหันไปหาอีฟีแล้วก็ต้องยิ้มค้าง เหอะ ๆ เหอะ ๆ เหอะ ๆ

ไอ้เชรี้ย!!!! มึงปล่อยให้กูแก้ตัวกับเพื่อนผับ ๆ แล้วมึงหนีไปแต่งตัวเนี่ยนะ ไอ้เลววววววว T______T แล้วให้กูล่อนจ่อนอยู่คนเดียว ฮือ ๆๆๆ หมดคำจะด่ามันแล้วครับ ไม่ทราบว่าเด็กเจร็อคมันเป็นแบบนี้ทุกคนหรือเปล่า ประมาณว่าเวลามีโอกาสนี่ไวชิบหาย ชอบทำให้คนอื่นเดือนร้อน อับอาย ฮือออออออ

“นายไปใส่เสื้อผ้าก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันคุยเอง” น่าน มาดคุณชายเชียวนะมึง ไอ้ภาษาที่ชอบคุยกะกูนี่ไม่มีหลุดเลยนะ โว้ยยยย หมั่นไส้ ผมมองหน้ามันสลับกับเพื่อน ก่อนที่จะวิ่งไปคว้าเสื้อผ้าแล้วเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว แต่พอมาคิดไปคิดมา ก็เพิ่งจะคิดได้ว่า...

กูปล่อยอีฟีอยู่กับเกย์!!!!!



โหมด : ฟีนิกซ์
บอกตามตรงว่าผมอึ้ง ช่วงเวลาที่กำลังฟัดกันอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีเสียงของตกแตก และร่างใครคนหนึ่งที่หน้าหวานโคตรพ่อโคตรแม่ หวานกว่าไอ้ไบอีก จมูกนี่สวยมากตามแบบฉบับเกาหลี ปากรูปกระจับสีชมพู ตาเรียว ผิวขาวจั๊วน่าเจี๊ยะ (ชักหื่น TwT) หมอนั่นยืนอยู่หน้าห้อง พลางยกมือขึ้นปิดปาก ไบเซปจากที่ดิ้นถึงกลับเงียบ ส่วนผมกระโดดออกมาอย่างรวดเร็ว

ผมมองดูไอ้ไบที่เหลือเพียงกางเกงในเดินเข้าไปเขย่าตัวเพื่อนมันราวกับมันเป็นเพื่อนเป็นกระทิงแดงที่ต้องเขย่าก่อนดื่ม เสื้อผ้าผมอยู่ใกล้ ๆ มือหลังจากที่ถอดทิ้งไว้เมื่อคืน ผมรีบคว้าเอามาสวมลวก ๆ แล้วเดินไปหาไอ้ไบและเพื่อน

“ปล่อยเพื่อนนายเหอะไบเซป” ผมพยายามทำเสียงหล่อ อยู่ต่อหน้าคนอื่นมันต้องดูดีเข้าไว้ (แต่ตะกี้ดีแตกวะ =.=”) ไอ้ไบมองผมตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า “นายไปใส่เสื้อผ้าก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันคุยเอง” ผมพูดกล่อมมันอีก มันมองผมสลับกับเพื่อน ก่อนที่จะคว้าเอาเสื้อผ้าที่กองอยู่บนพื้นแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำ

โอเค ตัดปัญหาไปได้แล้ว 1 ทีนี้ก็เหลือไอ้หน้าหวานที่ยืนค้างอยู่หน้าห้อง ผมส่งยิ้มหวานที่คิดว่าผู้หญิงทั้งโลกคงต้องละลายไปให้ อีกฝ่ายยังค้างอยู่ ผมกระแอม 1 ครั้งมันถึงรู้สึกตัว

“สวัสดีครับ” เอ่ย แอ๊บเสียงหล่อ อีกฝ่ายก้มหน้า โยกไปโยกมา

“สวัสดีครับ” อุแม่เจ้า!!! ขนาดเสียงมึงยังทำกูขนลุกได้ขนาดนี้ สดใส ไพเราะที่สุด เอ๊ะ!! หรือกูเริ่มเบี่ยงเบน =.=”

“ฟีนิกซ์ครับ” พูดพลางยื่นมือไปให้อีกฝ่าย หมอนั่นหน้ามันเริ่มแดงขึ้นเรื่อย ๆ เฮ้ย อิพวกเด็กไทยสมัยใหม่นี่มันเป็นอะไรมากหรือเปล่า นิด ๆ หน่อย ๆ ก็หน้าแดง กูว่าโลกมันก็ไม่ได้ร้อนอะไรมากมายนี่หว่า บ้านอิไบก็ถูกออกแบบมาอย่างดี ที่ต่อให้อากาศภายนอกร้อน แต่ภายในตัวบ้านจะเย็นสบาย

“เอ่อ...ทวิตครับ” มันยื่นมือมาจับ แล้วรีบปล่อยอย่างรวดเร็ว ผมยิ้มน้อย ๆ ให้มัน แค่ชื่อก็ยังน่ารักเลยอ่ะ ทวิต ทวิตเตอร์!!!! TwT ผมก้มลงมองอะไรบางอย่างที่มันตกอยู่แทบเท้า จากนั้นจึงนั่งยองกับพื้นเพื่อเก็บถุง เสียงข้างในเมื่อผมยกถุงขึ้น ส่งเสียงบ่งบอกเป็นอย่างดีว่ามันแตกละเอียดเรียบร้อยแล้ว

ทวิตรีบก้มตามลงมา และมือมันกุมมือผมพอดีครับ =[]=!!!!!

ไอ้เด็กนั่นรีบเอามือออกแทบจะทันควัน

“อ่ะ ขอโทษครับ”

“ไม่เป็นไร” ผมยืนขึ้น ไอ้เด็กทวิตเตอร์ยืนตาม ของในถุงส่งเสียงกรอบแกรบของเศษแก้วกระทบกัน ผมเปิดดู แต่อีกฝ่ายกลับคว้าเอาไปถือไว้ก่อน

“แย่จังเลยนะครับ” มันพูดเสียงค่อย ผมยืนมองมือของมันที่กำลังสั่น

“นายเป็นอะไรหรือเปล่า สั่นใหญ่เลย” ผมเอ่ยเสียงนุ่มพลางยื่นมือออกไปจะจับมือมัน แต่ไอ้เด็กนั่นกระชากมือออกอย่างรวดเร็วราวกับถูกไฟฟ้าช็อต

“ไม่...ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผม...ผมว่า ผมไปรอไบเซปที่ข้างล่างดีกว่า ขอโทษที่รบกวนครับ”

แล้วมันก็วิ่งจู๊ดลงไปชั้นล่าง

ผมยืนอมยิ้มอยู่หน้าประตู มองไล่ตามหลังมันไปซักพักก่อนที่จะกระชากประตูปิด จัดการได้แล้ว 2 ทีนี้ก็เหลือแต่ต้นคอกูที่โดนฝ่าตีนอีไบฟาดเข้าให้สินะ เจ็บอ่ะ ฮือ ๆๆๆๆ T_____T

ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2

kaino

  • บุคคลทั่วไป

KO-JAP : ภาพบาดตา
โหมด : ทวิต

อ่าาา นี่ผมเป็นอะไรครับ ผมเป็นอะไรเนี่ยยยยย ทำไมหน้ามันร้อนผ่าว ๆ ไปหมด ตะกี้ตอนที่ยืนอยู่หน้าฟีนิกซ์มือผมก็สั่นด้วย แบบว่าฟีนิกซ์จับมือผมอ่ะ กรี๊ดดดดดดดดดด!!!!!~~ อยากจะกรี๊ดให้โลกแตก แต่ทั้ง ๆ ที่ฝ่ายนั้นเป็นคนจับมือผมก่อน แล้วทำไมผมต้องกระชากมือหนีด้วยนะ ไม่เข้าใจตัวเองเลย คนหล่อ ๆ แบบนั้นอ่ะ หายากจะตาย ถ้ามัวแต่กระชากหนี อีกฝ่ายต้องคิดว่าเราเสียมารยาทอยู่แน่ ๆ เลย Y.Y

อ่าาา นี่ผมทำอะไรลงไปเนี่ย

จะว่าไป ฟีนิกซ์นี่เขาเป็นใครเหรอครับ ทำไมจู่ ๆ มาอยู่บ้านของไอ้ไบได้ ในเมื่อบ้านหลังนี้มีมันอยู่คนเดียวนี่นา หรือว่าเพื่อนผมมันมีวิวัฒนาการ นิวเจเนอเรชั่น แปลสภาพมาเป็นแบบผมเรียบร้อยแล้ว??? โวะ งี้มันก็แรงกว่าผมสิ ถึงผมจะเป็นชาวสีม่วง แต่ผมก็ไม่เคยมั่วใครเลยนะ ไม่เคยจูบใคร ไม่เคยกอดใครที่ไหนนอกจากเพื่อนอ่ะ

แฟนมี แต่ผมไม่ปล่อยให้แฟนลวนลาม จนอีกฝ่ายบอกเลิก =[]=!! นั่นแหละครับ ผู้ชายเมะ ๆ มันไม่ได้ต้องการอะไรหรอก นอกจากฟันเคะไปวัน ๆ

เอ๊ะ เดี๋ยวนะ ถ้าว่าไอ้ไบมันมีเจเนอเรชั่นใหม่เหมือนผม ถ้างั้น คนที่ชื่อฟีนิกซ์ก็ต้องเป็นแบบมันใช่มะ ถึงได้มานั่งใส่กางเกงในกดกันแบบนี้ งั้นคุณสมบัติการเท่ากันทางคณิตศาสตร์ที่กล่าวไว้ว่า
       
เมื่อ A เท่ากับ B และ B เท่ากับ C

จะได้ความว่า A เท่ากับ C

A เท่ากับ C

A เท่ากับ C

ผมเป็นเกย์ ไอ้ไบก็เป็น แล้วฟีนิกซ์ก็เป็นเกย์.....

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ทั้งผมและฟีนิกซ์ต่างก็เป็นเกย์เหมือนกันใช่ม๊ายยยยยยยยยย!!!!!!!!







โหมด : ไบเซป

ขณะนี้ผม ทวิต และไอ้เหี้ยฟีนิกซ์กำลังนั่งจ้องหน้ากันอยู่ที่โซฟาห้องรับแขก ผมนั่งตัวตรงกลางที่มันยาวที่สุด ขวามือผมเป็นไอ้ทวิตที่นั่งบิดไปบิดมา สายตาปิ๊งปั๊งนี่ส่งให้อีฟีตลอด =.=” กูว่าและ นี่มึงกำลังเล็งจะจับอีฟีขึ้นเขียงใช่มะ? เสียใจเว้ย อีนั่นมันเป็นผู้ชาย (มั้ง)

ส่วนอีกคน อีตัวก่อเรื่อง อีพระเอกจอมปลอม อีชอบหว่านเสน่ห์ อีทำทรงผมไม่ดูกาลเทศะ และอีกางเกงในสีชมพูแรดฟีนิกซ์ก็กำลังส่งยิ้มให้เพื่อนผมที่นั่งบิดตัวเป็นเกลียว

ผมนั่งมองสองคนนี้สลับไปสลับมาอย่างอารมณ์เสีย

ถ้ามึงจะมัวแต่บิดแต่จ้องกันแบบนี้ กูเปิดห้องให้พวกมึงคืนนึงเลยเอ๊าาาา แมร่ง รำคาญ!!!

“มึงมาทำไมนิ” ผมเอ่ยปากทำลายความเงียบ ไอ้ทวิตค่อย ๆ ช้อนตาขึ้นมามองผม อย่ามาทำหน้าแบบนั้นนะ กูจะอ๊วก

“เอ่อ เอาของฝากจากเกาหลีมาให้น่ะ แต่ว่า...ตอนนี้มันแตกหมดแล้ว” เสียงมันเบาลงเรื่อย ๆ ผมทำเสียงหายใจ ‘เฮือก’ ของฝากจากเกาหลี? แล้วมึงทำแตกเนี่ยนะ?

“แตกเหรอ?”

“....” มันไม่พูดแต่พยักหน้าแทน

“เออ ช่างมันเหอะ ไม่เป็นไรหรอก อย่าเศร้าหลาย” ผมพูดปลอบใจมัน แต่อีกฝ่ายก็ยังนิ่ง แล้วมันก็ยกนิ้วขึ้นมาเช็ดน้ำตา ห่า!!! อีอารมณ์ลูกคุณหนูอีกแล้วสินะ

“เฮ้ย กูไม่ได้อะไรจริง ๆ นะเว้ย มันแตกแล้วก็ไม่เป็นไร แค่มึงซื้อมาให้กู กูก็ดีใจแล้ว” ผมพยายามพูดปลอบมันอีก ไอ้ทวิตส่งเสียงสะอื้น แล้วพูดประโยคที่เล่นเอาผมอยากจะถอนคำพูดเมื่อตะกี้

“มันเป็นแก้วน้ำ แก้วน้ำลาย SISTAR19” มันเว้นระยะสะอื้น แต่ผมคิดว่ามันเป็นระยะเวลาให้คำพูดของมันกระแทกเข้าหัวผมมากกว่า SISTAR19 SISTAR19 SISTAR19!!!!! สาด ๆๆๆๆๆ แก้วน้ำลาย SISTA19 อิมพอตมาจากเกาหลี แล้วเสือกมาแตก???? งานนี้ผมนั่งนิ่ง ค้างครับ ค้างอีกแล้ว รู้สึกราวกับวิ่งอีกก้าวเดียวจะถึงเส้นชัย แต่ดันล้มแล้วถูกคนอื่นวิ่งแซง

ทำไมอ่ะ ทั้ง ๆ ที่อีกนิดเดียวก็จะถึงมือผมอยู่แล้ว ทำไมต้องมาแตกด้วย ทำม๊ายยยย!!!

แต่เดี๋ยวนะ ถ้าถามว่าทำไม ผมก็พอจะนึกอะไรออก หันไปมองอีกคนที่มันนั่งหน้าสลอนอยู่ทางซ้ายมือสิครับ หึหึ กูพอจะมองออกแล้วว่าอีต้นเหตุที่ทำให้แก้วน้ำลาย SISTAR19 แตกคือใคร เลวมากนะมึง ถ้ามึงไม่มามัวจับกูแก้ผ้าแก้วน้ำกูก็คงไม่แตก

ผมหันไปมองมันตาเขียวปั๊ด แต่อีกฝ่ายไม่ได้รับรู้อะไรเลยครับ หัวหนาม ๆ ของมันที่เช้านี้มันทำหนามเพียงข้างเดียว ส่วนอีกข้างฟู ๆ พอง ๆ ทรงบ้าบออะไรของมึงวะ กูไม่เก็ต ตาของมันจ้องเข้าไปที่ iPhone 4S หูมันสวมหูฟัง หน้ามันผงกขึ้นผงกลง ขานี้กระทืบพื้นเบา ๆ พอเป็นจังหวะ แหมะ! มีความสุขจริงนะมึง ไม่ได้รับรู้เลยว่าตัวเองทำความผิดอะไรไว้ ชิ!

ด้วยความหมั่นเขี้ยว ผมปล่อยให้ไอ้ทวิตร้องไห้ไปกับเรื่องที่มันทำแก้วแตก ส่วนผมลุกขึ้นแล้วเดินอ้อมโซฟาไปอยู่ด้านหลังไอ้ฟี ตอนนี้พอจะมองเห็นอยู่ว่าหน้าจอไอโฟนของมันกำลังเล่นอะไร มันกำลังฉาย MV เพลงครับ ฉากขาว ๆ แล้วก็มีคนตีกลอง มีคนดีดกีต้าร์ เล่นเบส มีคนร้อง พูดง่าย ๆ ก็วงแบนด์นั้นแหละครับ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมงงก็คือ ถ้าสังเกตดี ๆ ทำไมนักร้องนำมันไม่ใส่รองเท้าวะ =.=”

เท้าเปล่าเข้าฉากเนี่ยนะ มึงจะอินดี้ไปไหนมิทราบ? MV นี่โคตรจะไม่ลงทุน ยืนร้องเพลง ทำท่าม้าดีดกะโหลกอยู่ในฉาก ก้ม ๆ เงย ๆ ดีดกีต้าร์ พวกมึงจะเมพไปหน๊ายยยยยย!!!! แล้วนั่นชุดอะไรของมึงเนี่ย รัดเอาแค่หน้าอกแล้วโชว์พุง ตัวก็เตี้ย เล็ก แคระ สู้เด็กน้อยอายุ 17 ที่มีความสูง 179cm. Ren มักเน่แห่ง NU’EST ก็ไม่ได้ =[]=!!!!!

ดูเหมือนไร้รสนิยมแปลก ๆ ไม่เหมือนศิลปินของกูเลย เสื้อผ้าหน้าผมต้องดูดี สมกับเป็นไอดอลของวัยรุ่น เห็นอีพวกนี้แล้วปวดตับ แต่ป่านนั้นบักฟีมันก็ยังคงจมอยู่ในโลกส่วนตัว เสียงสะอื้นของไอ้ทวิตเงียบไปแล้ว ผมเงยหน้าขึ้นมองมัน อีเด็กคุณหนูนั่นนั่งทำตาปริบ ๆ มองดูว่าผมจะทำอะไร

เหอะ งานนี้ขอขัดความสุขมึงหน่อยเถอะ แด่แก้วของ SISTAR19 อิมพอตจากเกาหลีที่มึงเป็นต้นเหตุให้มันแตก แต่มินโฮ ที่กำลังแร๊พในเพลง Hello แล้วเสียงนรกของมึงก็เข้ามากลบ แด่โอปาดงเฮ ที่โดนบักฟีไล่ออกมาจากห้อง (แต่ตอนนี้โอปาได้อยู่ที่เดิมแล้วนะ) และแด่ศิลปินเกาหลีทั้งหลายที่โดนไอ้ฟีนิกซ์สบประมาท

ผมยกนิ้วแตะที่ปากเพื่อเป็นสัญญาณบอกให้ไอ้ทวิตเงียบเข้าไว้ ก่อนที่จะโน้มใบหน้าลงไปข้าง ๆ หูไอ้ฟีนิกซ์

“ฟี....~~~” ผมค่อย ๆ ส่งเสียงช้า ๆ หลอน ๆ อีกฝ่ายยังคงอยู่ในโลกส่วนตัว

“ฟี~~~~” รอบนี้เอาอีกครับ เท้ามันหยุดกระทืบแล้ว

“ฟี ฟี่ ฟี๊~~~” คราวนี้ไล่ตามวรรณยุคต์ มันเอามือปัด ๆ แถวหู ผมรีบเอาหน้าออก ก่อนที่มือมันจะฟาดหน้าผม จากนั้นผมก็กลับเข้าประจำตำแหน่งเดิม

“ฟี~~~นิกกกกกก~~~~” คราวนี้มันถอดหูฟังออกข้างหนึ่ง แล้วหันไปมองโซฟาที่ผมเคยนั่งอยู่ ก่อนที่จะเอ่ยถามไอ้ทวิต

“หะ ไอ้ไบไปไหนแล้วล่ะ” ไอ้ทวิตอ้าปากเหมือนจะตอบ ผมที่ตอนนี้ยืนอยู่หลังไอ้ฟียกนิ้วขึ้นแตะที่ปาก ทวิตส่ายหน้าแล้วบอกว่าผมไปห้องน้ำ “ฮะ ฮะ สงสัยไปหาศิลปิน” พูดกลั๊วหัวเราะ เอาอีกแล้วนะมึง กัดกูต่อหน้าเพื่อนกูเลยนะรอบนี้อ่ะ จากนั้นมันก็ก้มลงไปจมกับ iPhone 4S ของมันต่อ ไอ้ทวิตทำปากพะงาบ ๆ บอกให้ผมหยุด แต่ผมทำมือห้ามมัน

กูจะหยุดทำซากอะไรล่ะ กัดทั้งกู กัดทั้งศิลปินกู ถ้าแฟนคลับฝั่งเกาหลีมาอ่านแล้วเห็นว่ากูไม่ทำอะไรเลย  ปล่อยให้มันกัดโอปา กัดนูนา ตลอดทั้งเรื่อง แล้วแบบนี้กูจะสู้หน้าบรรดาแฟนคลับได้ไงวะ บางอย่างที่โดนมากไปก็ต้องออกมาปกป้อง ยิ่งกับไอ้ฟีด้วยแล้ว สมควรที่จะเอาคืนเลยล่ะ

ไอ้ทวิตเห็นว่าจะห้ามไม่อยู่ มันก็หันไปหยิบรีโมตแล้วยิงไปที่จอทีวีเพื่อเปิดเครื่อง รายการล่าสุดที่ผมเปิดทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อวานก่อนที่จะไปรับไอ้ฟีนิกซ์ที่สนามบินคือรายการสอนเต้นเพลงเกาหลี ผมละสายตาจากจอทีวีแล้วก้มลงไปหวังจะแกล้งมันต่อ แต่อีบ้านี่มันอะไรไม่รู้ถอดหูฟังออกแล้วเสือกหันหน้าไปทางทีวี มันเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ผมก้มหน้าและหันเข้าหาหูมันเรียบร้อยแล้ว

งานนี้ไม่ต้องบอกหรอกนะครับว่าเกิดอะไรขึ้น

ไอ้ทวิตนี่ถึงกับทำรีโมตหลุดจากมือ

ไอ้ฟีนิกซ์ค้าง

ส่วนผม ค้างมากกว่า

จูบแรกของกู~~~~ T____________________T

__________

ศิลปินที่เกี่ยวข้องในตอนนี้

SISTAR19 [Korea] - http://bit.ly/GJNdXs
REN - NU'EST [Korea] - http://on.fb.me/GJNZUC

ศัพท์ที่เกี่ยวข้องในตอนนี้

มักเน่ - น้องเล็ก


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2

kaino

  • บุคคลทั่วไป
KO-JAP : เพื่อเพื่อน
โหมด : ฟีนิกซ์

อันที่จริงผมไม่ได้ใส่ใจอะไรมากกับเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว เพราะศาสดาผมและบรรดารุ่นน้องที่อยู่ในค่ายมันก็เซอวิสกันเองยกค่าย เพราะงั้นเรื่องนี้ปกติมาก แต่อีกคนนี่สิ หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ไอ้ไบเซปอาระวาดบ้านแตกเลยครับ เจ้าทวิตเตอร์นี่เงียบเป็นเป่าสาก แล้วรีบขอตัวกลับบ้านอย่างรวดเร็วหลังจากที่เริ่มเห็นว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดีเท่าไร ถ้าจะอยู่ต่อ

ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับมันแหละ รีบ ๆ กลับไปก่อนน่ะถูกแล้ว เพราะอยู่ไปก็คงจะช่วยอะไรผมไม่ได้ หลังจากที่ทวิตกลับไป อะไร อะไรมันน่าจะดีขึ้น แต่เปล่าเลยครับ รอบนี้มันเล่นนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่หน้าโซฟา ทั้งเลื้อยทั้งกลิ้งตกพื้นแล้วลุกขึ้นมาใหม่

ไอ้นี่มันบ้าวะ =.=”

“ฮือ ๆๆๆๆ มึงเอาจูบแรกกูคืนมา!!!!” เรียกร้องหาอดีตอะไรล่ะมึง มันผ่านมาแล้ว

“มันผ่านมาแล้ว มึงจะเอาคืนยังไง ไอ้บ้า!!!”

“มึงทำให้กูเสียจูบแรก สัสเอ๊ย!!! กูกะว่าจะเก็บไว้ให้แฟน”

“ใครบอกให้มึงมาแกล้งกูล่ะ”

“แล้วใครบอกให้มึงหันหน้ามาวะ” ความผิดกูอีก ควายยยยยยยยยย

“พอเลย มึงน่ะ พาลมากแล้วนะ” ผมพูดพลางลากมันขึ้นมานั่งบนโซฟา หลังจากที่มันกลิ้งตกลงไปเป็นรอบที่ 3 อุบาทจริงไอ้นิ

“ไม่ต้องมาแตะตัวกูเลย” แหนะ กูจะช่วยยังมีการเล่นตัวอีก “อันที่จริงมึงว๊อนที่จะฉวยโอกาสกับกูอยู่แล้วใช่ไหม เพราะกูหน้าสวยใช่ไหมล่ะ ฮือ ๆๆๆๆ ไอ้เลว!!!!!” เชรี่ย!!! ไอ้คนหลงตัวเอง อย่างมึงน่ะ สวยไม่เท่าไอ้ทวิตเตอร์เพื่อนมึงด้วยซ้ำ มันทั้งด่าผมทั้งสะอึกสะอื้น ทั้งคลานขึ้นไปนอนแผ่บนโซฟา เห็นแล้วอยากถีบจริง ๆ

“มึงโตแล้วนะเว้ย”

“โตแล้วทำไม โตแล้วก็ไม่ได้หมายความว่ากูจะต้องเสียจูบแรกนิ”

“ในอนาคตมึงก็ต้องเสียอยู่ดี”

“แต่ไม่ใช่กับมึง”

O.O ถึงขั้นว่าหน้าชาครับ โดนคำพูดนี่เข้าไปนี่ชาเลย เหมือนกับมันกำลังจะบอกผมว่า ผมมันไม่สำคัญพอที่จะอยู่กับมันอะไรทำนองนั้น ผมเงียบ ยืนนิ่ง ไอ้ที่ด่า ๆ มามันไม่เข้ากะโหลกหนา ๆ ของผมเท่าไร แต่ทำไมคำนี้มันถึงกระแทก กระเด้งกระดอนอยู่ในหัวได้นะ

“เออ กูไม่สำคัญอยู่แล้วนิ” ผมพูดออกไปอย่างงอน ๆ

“มึงไม่ต้องมางอนกูเลย”

“กูไม่ได้งอน แค่กูพูดไปตามความจริง มึงจะให้กูทำยังไงล่ะ ในเมื่อเรื่องมันเกิดมาแล้ว มันเอาคืนไม่ได้” ผมพยายามพูดกับมันด้วยเหตุผล ทั้ง ๆ ที่ในใจงอนมันไปสามโลกแล้ว “หรือมึงจะให้กูจูบมึงอีกรอบจะได้รู้สึกว่ากูคืนให้มึงแล้ว”

ไอ้ไบเซปเงียบครับ...

“ม...ไม่ต้อง...” มันพูดออกมาเบา ๆ แล้วนอนคว่ำหน้ากับโซฟาตัวยาว ผมมองกริยาท่าทางของมันแล้วต้องส่ายหน้า กูว่านะ มึงกำลังทำตัวเลียนแบบนางเอกในซีรี่ส์ชัด ๆ








โหมด : ทวิต
ผมว่าแล้ว ผมว่าแล้ว ไอ้ไบมันจะต้องเป็นแบบผมจริง ๆ ด้วย และฟีนิกซ์เองก็อีกคน ไอ้ตอนที่ผมเปิดห้องแล้วไปเจอพวกนั่น 2 คนล่อนจ่อนอยู่ในกางเกงในตัวเดียวยังพอให้อภัยได้ว่าอาจจะเล่นกันแบบผู้ชายธรรมดา แต่ต่อมาเล่นโชว์หนังสดให้ดูนี่คิดหนักนะครับ

เพราะทันทีที่ริมฝีปากของพวกมันทั้งคู่แตะกัน มันก็น่าจะผละออกจากกันทันทีด้วยความตกใจ แต่นี่อะไร ค้างอยู่เกือบจะ 1 นาที แล้วค่อยรู้ตัว แบบนี้มันแปลกนะครับ 0.0!!!

งานนี้ทวิตมั่นใจร้อยเปอร์เซ็น คอนเฟิร์ม อีกไม่นานมันจะต้องได้กันเองแน่ ๆ =[]=!!!!! แต่ว่าถ้าเป็นเช่นนั้น ฝ่ายเสียหายก็ต้องเป็นไบเซป เพราะมันเป็นเคะ เคะอ่ะจะรักด้วยใจจริง แต่เมะเท่าที่ผมเจอมา ก็มีแต่พวกฟันแล้วทิ้ง เฮือก ๆๆๆ นี่ผมจะปล่อยให้เพื่อนถูกฟันเป็นของเล่นอย่างนั้นเหรอครับ เหอะ! ไม่มีทางหรอก

เพื่อนผมมันเพิ่งเจเนอเรชั่นใหม่ ๆ อาจจะยังตามเล่ห์กลของไอ้พวกเมะไม่ทัน ยิ่งหน้าตาแบบฟีนิกซ์ด้วยแล้ว บอกได้เลยครับว่าไอ้นี่เหลี่ยมจัด แล้วแบบนี้ไบเซปเพื่อนรักของผมจะรอดจากเงื่อมมือฟีนิกซ์หรอเนี่ย ไม่ได้ ๆๆๆ ผมเป็นเพื่อนที่ดี ผมจะต้องช่วยเพื่อน ผมจะไม่ยอมให้ไอ้คนไม่รักจริงหวังแต่ง อย่างฟีนิกซ์มาทำอะไรเพื่อนผมเด็ดขาด ต่อให้ผมต้องใช่ร่างกายของผมเพื่อแลกกับความปลอดภัยของเพื่อนก็ตาม(?)

เห็นดังนั้นผมจึงวางแผนครับ อันดับแรก จะต้องพยายามทำให้ฟีนิกซ์อยู่ห่างไบเซปให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก่อนที่จะเริ่มแผนแรก จนปูนนี้ ผมก็ยังไม่รู้เลยว่า ฟีนิกซ์คือใคร? มาทำอะไร? มาทำไมที่บ้านเพื่อนผม? หงะ ก็ถ้าไม่รู้แบบนี้แล้วจะวางแผนถูกได้ไงเล่าาาาาาาา

ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรถามไอ้ไบทันที







โหมด : ไบเซป
โลกนี้จบลงแล้ว ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ทั้งจูบแรก ทั้งหัวใจของผม มันรุ้สึกถูกพรากออกไป ผมรู้สึกราวกับจะเข้าใจนางเอกในซีรี่ส์เกาหลีที่ถูกพระเอกพรากจูบแรก นี่มันนรกชัด ๆ ทั้ง ๆ ที่คิดว่าจะเก็บไว้ให้คนที่รักเท่านั้น แล้วนี่อะไร ทำไมต้องเป็นไอ้ฟีนิกซ์ กูแกล้งมึงก็จริง แต่มันไม่ใช่เหตุผลที่มึงจะต้องหันหน้ามาในจังหวะนั้น อันที่จริงมึงน่ะ จ้องจะลวนลามกูอยู่แล้วใช่มะ? สัส!!! ทั้งงอแงจะนอนห้องกู ทั้งจับกูถอดเสื้อผ้า

กูไม่ใช่ตุ๊กตาที่มึงจะทำอะไรก็ได้นะเว้ย T______T


Dance I wanna dan dan dan dan dance fantasric baby~~~~

น่าน กราบเรียน BIGBANG งาม ๆ นะครับ แบบว่าตอนนี้ V.I.P อย่างกระผมกำลังเศร้าเจียนขาดใจ(ตาย) ยังไม่พร้อมที่จะไปแฟนตาสติกอะไรที่ไหนทั้งนั้นเฟร้ยยยยย~~~ เวลานี้ไม่ใช่เวลาแฟนตาสติกนะ Y....Y มันเป็นเวลาเศร้า เงียบ ๆ เสียงของพวกคุณไปซะ (ความเกรียนของ V.I.P เริ่มออก)

แล้วเสียงของศิลปินก็เงียบจริง ๆ ครับ แหมะ ศิลปินดี เข้าใจอารมณ์ของแฟนคลับ TwT *ซาบซึ้ง*...ผมพ่นลมออกจากปาก แล้วมุดหน้าเข้ากับโซฟาตัวยาวอีกรอบ ไอ้ฟีนิกซ์นี่แมร่งก็หายตัว ไอ้เลว!! ก่อเรื่องแล้วไม่แก้ เสือกหนี นี่มึงคงจะหนีไปสิงอยู่กับศาสดาพันธุ์(เจ)ร็อคของมึงอีกแล้วใช่มะ แทนที่จะมาช่วยปลอบใจกู พูดซักนิดว่าจะรับผิดชอบ พูดห่าอะไรก็ได้ให้กูรู้สึกดี แต่นี่ไม่มีอะไรเลย เอาแต่แก้ตัวว่าคนที่ผิดคือกู T___T ฮือ ๆๆๆ อีคนใจร้าย


Dance I wanna dan dan dan dan dance fantasric baby~~~~

=[]=!!!!! เอ่อ ก็บอกแล้วไงว่าตอนนี้ยังไม่พร้อมที่จะไปแฟนตาสติกที่ไหนทั้งนั้น จะส่งเสียงขึ้นมาทำไมเนี่ย วุ้ย!!! ผมควานหามือถือในกระเป๋ากางเกงอย่างอารมณ์เสีย กดรับสายแบบเหวี่ยง ๆ

“ว่าไงวะ”


...เอ่อ นายโอเคหรือยัง...

“กูกำลังจะผูกคอตายแล้ว”


...เฮ้ย!!!... แล้วมึงจะตกใจทำไม กูประชด =.=” ...อย่าเพิ่งคิดสั้นนะ...

“มีไรว่ามาเร็ว ๆ อารมณ์กูไม่คงที่”


...เออ คือ คนที่ชื่อฟีนิกซ์นี่เขาเป็นใครเหรอ..

นั่น!!! อีทวิตนี่เริ่มออกลาย เริ่มแรดอีกแล้วนะมึง มึงกำลังคิดจะงาบไอ้ฟีไปแดกใช่ไหมนิ

“เพื่อนกูอ่ะ” ผมตอบแบบสั้น ๆ อย่าไปยุ่งกับมันเลย ไอ้ฟีมั่นบุคคลอันตราย


...แล้วเขามาทำอะไรเหรอ...

“นักเรียนแลกเปลี่ยนอ่ะ”


...หือ? แลกเปลี่ยนปี 2 เนี่ยนะ...

“เออ กูก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่มันบอกกูว่างั้นน่ะ”


...นายไม่คิดว่ามันแปลก ๆ เหรอ...

ไม่ใช่ว่ากูไม่คิด แต่กูคิดแล้ว กูคิดจนกูขี้เกียจคิดแล้ว

“ไม่รู้อ่ะ กูไม่ได้ใส่ใจอะไร มันเรียนอยู่ที่ญี่ปุ่น บางทีระบบการศึกษาอาจจะไม่เหมือนกัน” ผมพูดไปตามที่คิดออกในตอนนี้


...งั้นเหรอ อืมมมมมม ขอบคุณมากนะ ไม่มีอะไรแล้วล่ะ...

จากนั้นมันก็ตัดสายครับ แหมะ มาไวไปไวจริง ๆ นะมึง ถ้าอยากรู้ทำไมไม่โทรถามมันวะ เสือกมาถามกู แล้วกูจะไปรู้ได้ไงเนี่ย แต่จะว่าไป การที่ไอ้ฟีนิกซ์มาไทยครั้งนี้ผมเองก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลย นอกเสียจากว่ามันมาแลกเปลี่ยนในสาขาภาษาญี่ปุ่นที่มันกำลังศึกษาอยู่ เฮ้อ~~~ มึงจะมาแลกเปลี่ยนอะไรก็เรื่องของมึงเถอะ แมร่ง ปั่นหัวกูตั้งแต่เจอกันครั้งแรกยันตอนนี้ แถมนี่มึงยังหว่านเสน่ห์ใส่เพื่อนกูอีก เลวชิบหายเลยมึงเนี่ย






โหมด : ทวิต

หลังจากที่ผมวางสาย ความคิดผมก็ตีกันยุ่งเลยครับ ผมว่างานนี้ไบเซปไม่ปลอดภัยแน่ ๆ การที่ฟีนิกซ์จะแลกเปลี่ยนมาในตอนปี 2 มันใช่เรื่องซะที่ไหน ส่วนมากจะแลกเปลี่ยนกันในตอนปี 3 ถึงไอ้ไบมันจะบอกว่าระบบการศึกษาอาจจะต่างกันก็เถอะ แต่แบบนี้โอกาสที่จะเกิดขึ้นมันน้อยนะครับ

ผมคิดแล้วว่า ยังไงผมก็ปล่อยให้เพื่อนผมอยู่ใกล้ไอ้คนอันตรายฟีนิกซ์ไม่ได้เด็ดขาด เห็นทีจะต้องวางแผนเพื่อช่วยเพื่อนแล้วล่ะ...


__________

ชื่อเพลง, ศิลปินที่เกี่ยวข้องในตอนนี้
FANTASTIC BABY - BIGBANG [Korea] http://bit.ly/GLX8zp

ชื่อแฟนคลับที่เกี่ยวข้องในตอนนี้
V.I.P - ใช้เรียก FC ของ BIGBANG
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-10-2012 21:06:34 โดย kaino »

dog

  • บุคคลทั่วไป
ก๊ากกกกกกกกก
ทวิตนี่แอบช่วยหวังผลป่าวเนี่ย
ปิ้งฟินิส์ก็บอกมาจิ๊ อิอิ

ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2

kaino

  • บุคคลทั่วไป
KO-JAP : มหาวิทยาลัย
โหมด : ไบเซป

เป็นเวลาเกือบเดือนที่ผมต้องทนทุกข์อยู่กับเด็กเจร็อค ที่วัน ๆ ไม่ทำอะไรล่ะ ยึดห้องนอน(น้อย ๆ)ของผมนั่งจัดแต่งทรงผมตั้งแต่ไก่ยังไม่ขัน แล้วกว่าจะเสร็จก็ตะวันตกดินพอดี (เว่อร์) แต่ละวันแต่ละทรงนี่ไม่เคยมีซ้ำกัน ชุดมันก็มีแต่สีเดิม ๆ คือสีเผาศพ (สีดำ) เสื้อผ้าที่มันใส่ก็โยนลงตะกร้าและเป็นผมที่ต้องมานั่งซักให้มัน ไม่เว้นแม้แต่กางเกงในสีโคตรแรดที่มีตั้ง 7 ตัว (ถ้าผมนับไม่ผิด)

อันที่จริงก็ไม่อยากจะซักให้หรอกครับ แต่พอผมไม่ทำ มันก็ไม่ทำ แถมนับวันยิ่งจะเยอะขึ้นเรื่อย ๆ จนสุดท้าย ผมทนมองอะไรอุบาท ๆ ไม่ได้ ก็เลยต้องเทตะกร้าผ้าของมันแล้วเอาไปซักให้ =.=”

และวันนี้ก็เป็นวันเปิดเทอมครับ ชุดนักศึกษาไซต์ S ของผมก็ยังคงใส่ได้ปกติ นี่แสดงว่าผมไม่ได้โตขึ้นเลยสินะ ทั้ง ๆ ที่ปี 2 แล้วแท้ ๆ T.T ส่วนอีกคนที่มีชีวิตร่วมหายใจอยู่บนโลกเดียวกัน มันไม่ยอมใส่ชุดนักศึกษาครับ โดยอ้างเหตุผลที่ว่า วันแรกมันจะแอ๊บแบ้วทำเป็นเด็กญี่ปุ่น ไม่รู้วิถีชีวิตของนักศึกษาไทย

ถุ๊ย!!!! กูจำได้ว่าเป็นมรึงไม่ใช่เหรอที่แอบไปส่องสาว XX แถวรังสิตโดยการใส่ชุดนักศึกษา YY อ่ะ =.=” แล้วอีกอย่าง จะเป็นเด็กแลกเปลี่ยนได้มันต้องศึกษาชีวิตความเป็นอยู่ในมหาวิทยาลัยนั้น ๆ มาก่อนแล้ว ไม่ใช่มาเดาสุ่มเอาแบบนี้ เหตุผลควาย ๆ ของมึงนี่ก็เพื่อล่อสาวใช่ไหมล่ะ เลวไม่มีคำจะบรรยายจริง ๆ

“นี่มึงจะเอาผมทรงนี้เข้ามหาลัยจริงดิ” ผมเหล่มองทรงผมมันที่ไม่ต่างอะไรจากตระกูลทุเรียนเลยแม้แต่น้อย

“เออ นา กูไม่รู้วิถีชีวิตของนักศึกษาไทย” มันพูดพลางกระโดดโลดเต้น ไว้เผลอเมื่อไร กูจะแฉมึงให้หมดเปลือกเลย

“ตั้งแต่มึงมา กูยังไม่รู้เลยว่ามึงแลกเปลี่ยนคณะอะไร” ผมเลียบ ๆ เคียง ๆ ถาม อีกคนตวัดเปลือกตาที่เต็มไปด้วยเส้นอายไลเนอร์หนาทึบหันมามองผม เล่นเอาซะหลอนไปสามชาติ

“มึงพูดจริงดิ เอ๊ะ! หรือกูยังไม่ได้บอกมึง” =.=” มึงยังไม่ได้บอกกู กูก็ไม่เคยถามมึง และกูก็จินตนาการมั่ว ๆ ว่ามึงอยู่คณะเจร็อค สาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีการผสมพันธุ์สัตว์หัวหนาม

นั่นแหละ ถูกต้องที่สุดแล้ว

แล้วมันก็ทำปากพะงาบ ๆ บอกชื่อคณะที่มันแลกเปลี่ยนมา เล่นเอาผมต้องร้องห๊าเสียงดังด้วยความไม่เชื่อ =[]=!!!!!!!

“ห๊าาาาา!!!!! มึง...มึงเอาใหม่ดิ....มึงเอาให้ชัด ๆ นะ” ผมถึงกับตะลึง เอาใหม่นะ พูดให้ชัด ๆ เอาให้ชัด ๆ อีกครั้ง บอกกูดี ๆ อย่ามาอำ เรื่องนี้มันไม่ตลก เพราะกูต้องเดินไปส่งและมอบตัวมึงที่คณะ อีฟียิ้มครับ มันชี้ที่ปากของมัน

“อ่านปากของฉันนะ” เชรี่ยนี่ ยังมามีเวลาเล่นเพลงพี่โต๋อีกนะ “ว่า...” ใจผมเต้นตึก ๆ เพราะลุ้น

“ศึก-ษา-ศาสตร์”

...อ่าาาาา ไว้อาลัยแด่ Faculty of Education.....

อาเมนนนนน~~~





ขณะนี้พวกเรากำลังยืนกันอยู่ในรถไฟฟ้า BTS เพื่อไปมหาวิทยาลัย ผมไม่ขับรถมาเองเพราะวันเปิดเทอมวันแรกคนจะเยอะ รถจะแน่น เผลอ ๆ ไปเข้าปฐมนิเทศไม่ทันด้วยซ้ำ ดังนั้น ตัดปัญหาครับ ใช้ขนส่งมวลชนนี่แหละ

“ทำไมมึงไม่เอารถม๊าาาา” อีฟีมันคร่ำครวญอยู่บน BTS ที่ตอนนี้เรียกได้ว่าอัดปลากระป๋อง กูว่าข้างในรถไฟฟ้ามันก็ไม่ได้ร้อนอะไรนิหว่า แต่เป็นมึงอ่ะที่มีปัญหาเอง ไม่สิ ไม่ใช่มึงที่มีปัญหา แต่ทรงผมมึงตางหาก หนามมึงมันจะทิ่มตาชาวบ้านอยู่แล้ว ยิ่งอัดกันแบบนี้ กูโคตรจะส่งสารคนบนขบวน แต่ดีหน่อยที่กูเตี้ย ยอดผมกูชี้ตรงแล้วอยู่เพียงแค่จมูกมึง

เพราะงั้น ปัญหาเรื่องหัวหนาม ๆ ของมันจึงไม่ส่งผลต่อผมมากนัก แต่คนที่จับเสาภายในรถไฟฟ้านี่สิ มองมันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

เด็กน้อยมัธยมต้น (คิดว่างั้น) คนหนึ่งชี้มือชี้ไม้มาที่มันแล้วคุยโทรศัพท์ที่คิดว่าคงเบาที่สุดแล้วมั้ง

‘กูเจอตัวอะไรก็ไม่รู้บน BTS วะ’ โวะ!! เล่นแรงนะนั่น ‘วันนี้มันไม่มีงานอะไรอยู่สยามใช่มะ แมร่ง แต่งตัวไม่ดูอากาศ ร้อนจะตายห่าใส่ชุดดำ หน้าตามันไม่เหมือนคนไทยเว้ย สงสัยจะต่างชาติอ่ะ ฮ่า ๆๆๆ ฟังไม่ออกหรอก’

เหอะ ๆ เด็กหนอเด็ก มึงจะแน่ใจได้ไงว่าอีฟีมันฟังไม่ออก มึงคุยกับมันแล้วหรือไง ต่อให้มันหน้าตาญี่ปุ่นแค่ไหน แต่ด่าไทยนี่ไฟแล๊บเลยนะมึง ผมละสายตาจากเด็กน้อยปากสุนัขไม่รับประทานแล้วมองไปที่อีตัวที่ถูกด่า

=.=” เอ่อ... สไตร์มึงสินะ ไอ้อยู่ในโลกส่วนตัวเนี่ย ไม่เคยจะมาอยู่ในโลกความเป็นจริงกับชาวบ้านเขาเลย เขาด่าเขาว่าอะไรมึงก็ทำหน้าสลอน ฟังเพลงพระศาสดาของมึงไปเรื่อยเปือย เห็นแล้วกูเพลีย

บอกก็แล้ว เตือนก็แล้วว่าเอาหูฟังยัดหูบ่อย ๆ มันจะทำให้หูมึงหนวกเร็วผิดปกติ ยิ่งเพลงมึงนี่ฟังแล้วไพเราะเสนาะหูตายและ ว๊ากกันทั้งเพลง ยัดกันเข้าไปเสียงกลอง เสียงเบสน่ะ ทำร้ายตัวเองชัด ๆ เลย เฮ้อ~~ ไอ้พวกเด็กเจร็อคเนี่ย เข้าใจยาก คร้านจะพูด

แล้วในที่สุด รถไฟฟ้ามันก็มาหยุดอยู่ที่สถานีสยามครับ ณ. จุดตรงนี้คนลงค่อนข้างจะเยอะ ผมต้องเบียดตัวออกมา ส่วนไอ้ฟีมันยังยืนพงกหัวขึ้น ๆ ลง ๆ เอาตูดหนีบเสาอยู่ในรถไฟฟ้า โอ๊ยยย!!! ไอ้บ้า มันถึงที่ลงแล้วเว้ย และเป็นผมที่ต้องวิ่งเข้าไปลากมันออกมา เกือบโดนประตูรถไฟหนีบ

“มึงน่ะ จะไม่ฟังเพลงซักสิบยี่สิบนาทีมันจะตายไหม” ระหว่างที่เดินเข้าไปมหาลัยผมก็บ่นอีก ไอ้ฟีมันดึงเอาหูฟังออก แล้วม้วนสายเก็บเข้ากระเป๋า เออ ดีที่มึงยังพอฟังกูบ้าง

“บทเพลงของศาสดาขับเคลื่อนชีวิตกู” อ๋อ เหรอ

“เออ งั้นวันหลัง กูจะเอาบทเพลงของศิลปินกูไปขับเคลื่อนชีวิตมึงบ้าง”

“ขอโทษวะ กูยังไม่อยากขับถอยหลัง” อ...ไอ้...ไอ้ปากหมา =.= เห็นว่าเถียงไม่ได้ผมเลยเงียบครับ ขืนเถียงกับมันต่อมีหวังศิลปินผมเปื้อนมลทินหมด อย่าไปเอาอะไรกับไอ้คนใจแคบพวกนี้เลย

“ตกลงมึงศึกษาศาสตร์จริง ๆ ใช่มะ” ผมเปลี่ยนเรื่อง

“เออ” มันตอบสั้น ๆ

“กูไม่อยากเชื่อ คณบดีคิดอะไรวะรับมึงมาแลกเปลี่ยนเนี่ย”

“กูว่าคณบดีคิดถูกแล้วที่รับกู” ผมเหลือบตามองมันตั้งแต่หัวจรดเท้า ถ้ามึงคิดว่าคณบดีคิดถูกแล้ว กูว่าคณบดีคนนั้นต้องโดนมึงวางยาแน่ ๆ เดินเข้ามาในมหาลัยนี่โคตรจะตกเป็นเป้าสายตา ป่านนั้นมันยังคงความสามารถเชิดได้ทั้ง ๆ ที่ผมต้องยกมือขึ้นมาปิดหน้าแล้วเดิน เพราะอายที่ต้องมาเดินคู่กับอิตัวประหลาดชุดดำ





ภายในคณะศึกษาศาสตร์คราคร่ำไปด้วยนิสิตนักศึกษาที่ บอร์น ทู บี จะเป็นครูในหลักสูตร 5 ปี พวกเขาต่างแต่งตัวถูกระเบียบเรียบร้อยตามแบบฉบับความเป็นครู เสื้อผ้าหน้าผมทุกอย่างนี่เรียกว่าเป๊ะ ไม่แต่งตัวจัดจ้าน  ท่าทางการเดินสง่าผ่าเผยน่านับถือเมื่อยามพบเจอ

นี่คือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นเอกลักษณ์ของศึกษาศาสตร์

หากแต่ตอนนี้กลับมีอะไรบางอย่างที่ไม่เข้าพวก และโผล่มาราวกับแกะดำ...

ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2

ออฟไลน์ mutyamania

  • สามารถติดตามงานติดเรทที่ลงเล้าไม่ได้ที่ ReadAWrite ในชื่อมัสยากลับมาจากป่าช้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1898
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +794/-139
    • https://mutyawhocamebackfromthedead.readawrite.com
น่ารักค่ะ  และสนุกมาก  ตัวละครทุกตัวน่ารัก  แม้กระทั่งน้องทวิต  ก็แร่ดแบบน่ารักสัด ๆ

โชคดีที่เราไปทางสายตะวันตก  ฮิปฮอปอาร์แอนด์บีอะไรเทือกนั้น  เลยไม่มีปัญหากับมุขจิกกัดสไตล์ Ko-Jap  แต่ก็เข้าใจนะ  ว่าคนแต่งต้องการจะสื่ออะไร  เพราะเคยตามกระแสเอเชี่ยนป๊อบอยู่ช่วงหนึ่ง (หลัง ๆ ก็ไม่ค่อยได้ตามแล้ว  วงเกาหลีหน้าใหม่ออกมาเพียบ  ไม่รู้จักซักวง  แต่วง Nu'est นี่รู้จักนะ  รู้จักแต่น้องเรนคนงาม  งามจริงอะไรจริง)

ชอบเนื้อเรื่องมากค่ะ  แปลกใหม่  และเอาเรื่องบันเทิงกระแสหลักมาเชื่อมเรื่องได้อย่างน่าสนใจ  ฉากพระนางเถียงกัน  พาลนึกไปถึงพันทิพย์  สยามโซน  กวน ๆ เกรียน ๆ งีองแง๊งน่ารักดี  ฉากเด็กบนบีทีเอสก็ฮามาก  มุขเฉียบหลายมุข  โดนใจอย่างแรง  แหวกกระแสสุด ๆ แถมคนแต่งยังน่ารักมาก  อัพถี่จุใจดีค่ะ

ปล.วงเกาหลีที่ชอบที่สุดคือ 2PM กับ 2NE1 ค่ะ ส่วนญีุปุ่นเราชอบวง WaT (น่ารักมาก) ชอบเพลงของ Chara ,Crystal Kay ,Namie Amuro,ACO,Yukari Fresh,Kahimi Karie  เยอะค่ะ 5555+



ออฟไลน์ tarkung

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 997
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ railay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 983
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด