ตอนนนี้มาแบบหวานๆ ???? นะจะบอกให้
ตอน 3 อดีต 2
“โอ้ย!!!” ร่างที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ร้องขึ้นทันทีที่ขยับร่างกายเปลือกตาที่ยังลืมไม่เต็มที่นัก
หนักอึ้งเหมือนโดนสิบล้อทับไว้ไหนจะความความเจ็บจี๊ดๆ ที่เหมือนมีมดนับพันตัวมารุมต่อยนี่อีก
อืม มันทรมานดีเว้ย
คนเจ็บบอกกับตัวเองในใจก่อนที่จะลืมตาขึ้นห้องโทนสีขาวปรากฏให้เห็นในสายตา
รวมทั้งใครบางคนที่นอนหลับอยู่บนโซฟาตัวยาวหน้าห้องด้วย
“เฮ้ย ไอ้แมน ตื่นดิ” เรียกเพื่อนเสียงดังก่อนจะหยิบหมอนเขวี้ยงตามไป
เพราะเชื่อแน่ๆว่า คนขี้เซาอย่างเพื่อนสนิทตนไม่มีทางตื่นง่ายๆแน่นอน
“ไอ้แมนตื่น!!!”
“อื้อ คนจะหลับจะนอนเว้ย อย่ามากวนสิว่ะ” ร่างสูงที่ยังคงนอนอยู่บนโซฟาสบถขึ้น
“เชี่ยมึงจะมาเฝ้ากูหรือมานอนห่ะ นี่ขนาดกูฟื้นแล้วมึงยังไม่ยอมลุกอีกเหรอ”
“เออๆๆ ลุกก็ได้ว่ะ ตื่นมาก็ด่ากูเลยนะมึง แรงดีแบบนี้อีกไม่กี่วันคงออกจากโรงพยาบาลได้” ว่าพลางเดินมาหาคนเจ็บ
“แล้วนี่กูหลับไปกี่วันว่ะ”
“ก็ สามวันมั้ง ”
“วันนี้วันที่เท่าไหร!!!! โอ้ย!!!” คนเจ็บถามอย่างร้อนรนก่อนจะพยายามลุกขึ้นนั่ง
แต่ติดที่แค่ขยับตัวความเจ็บปวดก็แล่นพล่านทั่วร่างจนต้องทิ้งตัวลงนอนบนเตียงเหมือนเดิม
“ซ่านะมึง เพิ่งฟื้นแท้ๆ ยังจะลุกอีกเจียมบ้างนะสังขารน่ะ”
“มึงนี่ บ่นยิ่งกว่าแม่กูอีก ตกลงตอบกูได้หรือยัง”
“19”
“19 เหรอ แล้ว ….”
“การแข่งชิงแชมป์นะเหรอ เขาแข่งเสร็จไปแล้วล่ะ” แมนตอบก่อนจะตบที่ไหล่ของเพื่อนเบาๆ
ถึงเป็นเอกจะไม่ได้พูดอะไรแต่ด้วยความที่เป็นเพื่อนกันมานานทำให้รู้ว่าถ้าไอ้เพื่อนคนนี้มันเงียบเมื่อไหร่
แปลว่ามันกำลังเสียใจสุดๆเลยล่ะ
“กูไปแข่งไม่ทันสินะ”
“เอาน่า ไม่ได้แข่งปีนี้ปีหน้ายังมีนะเว้ย มึงค่อยแข่งปีหน้าก็ได้ อย่าคิดมากดิว่ะ”
“แล้วนี่..เอ่อ” คนป่วยเอ่ยถามเพื่อนถึงใครบางคนที่น่าจะมาเยี่ยมเขาบ้างแต่ว่ากลับไม่เห็นแม้แต่เงา
“ไอ้เกาหลีนะเหรอ แหมๆๆ คิดถึงแฟนอ่ะดิมึงอ่ะ”
“เออ มึงจะทำไม” ตอบหน้าตาเฉย เพราะไม่รู้จะปิดเพื่อนทำไม ยังๆไงไอ้เพื่อนบ้านี่มันก็ดูออกอยู่ดีนั่นแหล่ะ
“ตอบได้แมนมากครับเพื่อน ทีกับกูล่ะกล้าแต่พอเจอไอ้เกาหลีทีไร ป๊อดตลอด เก่งไม่จริงนี่หว่า ”
“อย่ามาล้อกู เอาไว้วันไหนที่มึงชอบใครสักคนมึงจะรู้เอง ว่า “เขิน” มันเป็นยังไง”
“ไม่มีทางเว้ย คนอย่าง ซุปเปอร์แมน ของสาวๆนะเหรอจะเขิน กูเทพเรื่องนี้มึงก็รู้”
บอกอย่างภูมิใจพลางตบอกตัวเองจนคนเจ็บได้แต่ส่ายหน้าระอากับเพื่อน พลางคิดถึงใครบางคนที่ป่านนี้ไม่รู้ไปอยู่ไหน
ใจคอไม่คิดจะมาเยี่ยมกันเลยเหรอ แด ฮุน
ก๊อกๆๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับร่างของใครบางคนที่เดินเข้ามาในห้อง คนเจ็บถึงกับฉีกยิ้มกว้างทันทีที่เห็นหน้า
“มากไปมึงมากไป” แมนกระซิบแซวเพื่อนที่ยิ้มจนปากจะฉีกถึงรูหูอยู่แล้ว
“แด ฮุน มาแล้วเหรอ”
ร่างเพียวหันมายิ้มให้คนป่วยก่อนจะ ……
เพี๊ยะ!!!!
“โอ้ย!!! เชี่ยฮุน มึงตบหัวกูไมเนี่ยเจ็บนะเว้ย”
“ก็มึงมัน…”
“เฮ้ย หยุดๆๆ มึงสองคนอ่ะ เกรงใจกูนิดนึงให้กูออกไปก่อนแล้วค่อยทะเลาะกัน กูไม่อยากยุ่งเรื่อง ผัวเมีย ไปล่ะ”
“เชี่ยแมน!!! ใครเป็นเมียมันว่ะ” แด ฮุน หันกลับไปด่าคนพูดเสียงดัง แต่มีหรือคนอย่างซุปเปอร์แมนจะสนใจ
เขาเพียงแค่ยักคิ้วกวนตีนก่อนจะเดินออกไปหน้าตาเฉย
“ชิ” สบถเบาๆก่อนจะหันมามองคนเจ็บตาขวาง
“อย่ามาตาขวางใส่กูนะ ไอ้แมนมันพูดเองเหอะ ว่าแต่มึงยอมรับแล้วเหรอว่าเป็นเมียอ่ะ” เอ่ยบอกพลางยิ้มเจ้าเล่ห์
“อย่ามาเปลี่ยนเรื่องนะ ไอ้ไอ กูยังไม่ได้ชำระความกับมึงเลย”
“กูต่างหากที่ต้องชำระ มึงเป็นไรถึงมาตบหัวกูอ่ะ”
“กูไม่ถีบก็บุญเท่าไหร่แล้ว ใครใช้ให้มึงไปยืนเซ่อให้รถชนห่ะ ไอ้บ้า ถ้าเกินว่ามึง ….”
“ตายนะเหรอ” คนเจ็บเอ่ยขัดขึ้นมาก่อนที่อีกคนจะพูดจบ ถ้าเป็นแบบนี้จะคิดเข้าหากตัวเองไหมว่าอีกคนเป็นห่วง
หึหึ แค่คิดว่าไอ้คนตรงหน้านี่เป็นห่วงทำไมหัวใจเขามันต้องพองจนแทบระเบิดแบบนี้นะ ฮ่าๆๆ จะน่ารักเกินไปแล้วนะ ลี แด ฮุน
“ไอ้ไอ มึงพูดอะไรว่ะ”
“เป็นห่วงกูอ่ะดิ”
“ก็เออสิว่ะ มึงเป็นเพื่อนกูนะ”
“แค่เพื่อนเองเหรอ…” คนเจ็บเอ่ยถาม
“เอ่อ..” ร่างเพียวได้แต่ก้มหน้าแทบจะชิดกับอก
“ว่าไงอ่ะ กูกับมึงเป็น “เพื่อน” กัน อย่างเดียวเหรอ”
“ละ แล้ว มึงจะมาคาดคั้นอะไรกับกูเล่า ไอ้เชี่ยนิ”
“แด ฮุน มึงเสียใจไหมที่กูไม่ได้เหรียญ” จู่ๆคนเจ็บก็เอ่ยถามขึ้นมา ดื้อๆจนร่างเพรียวเปลี่ยนอารมณ์แทบไม่ทัน
ไอ้บ้าเอ้ย เปลี่ยนอารมณ์ไม่มีบอกล่วงหน้าเลยนะเว้ย
“ก็นิดหน่อย กูว่าถ้ามึงไม่เจ็บนะมึงต้องได้เหรียญทองแน่ๆ”
“แล้วเสียใจไหมที่กูทำตามสัญญาว่าจะเอาเหรียญทองมาให้ก่อนวันเกิดมึงไม่ได้”
“คิดมากน่ามึง พอเลยอย่าคิดเยอะ เอาเป็นว่ากูไม่เสียใจเพราะมันเป็นเหตุสุดวิสัยใช่ว่ามึงแพ้ซะเมื่อไหร่กัน”
“แด ฮุน”
“อะไรของมึงอีกเนี่ย คนป่วยอะไรพูดมากจังว่ะ”
“กูมีอะไรจะบอกมึง คือกู เอ่อ กู”
เป็นเอกมองอีกคนด้วยความประหม่า ตื่นเต้นยิ่งกว่าตอนลงแข่งครั้งแรกซะอีก
ทั้งๆที่เตรียมใจมาตั้งนานแล้วแต่พอเจอหน้า ไอ้เกาหลี นี่ทีไร ทำไมใจมันต้องสั่นทุกทีว่ะ
“เอ่อ กู เอ่อ กู ระ……”
“พี่ไอ!!!!!” เสียงตะโกนโหวกเหวกดังขึ้นพร้อมกับเหล่าลิงแสบที่วิ่งกรูเข้ามาในห้องจนเป็นเอก
ต้องรีบซ่อนอาการแทบไม่ทัน
ไอ้พวกบ้าจะมาขัดจังหวะทำไมว่ะ
“อะไรเนี่ยพี่ พวกผมอุส่ามาเยี่ยมนะทำหน้าให้มันดีๆหน่อยสิว่ะ” เหล่าลูกลิงในชมรมบอกก่อนจะเข้ามาล้อมซะรอบเตียง
จนแด ฮุน ต้องหลบออกมาอีกมุม
“พวกแกก็ลองไปให้รถชนดูสิแล้วจะได้รู้ว่ามันจะยิ้มออกไหม เจ็บจะตาย”
“อะโด่ ไม่อ่ะเกรงใจ ว่าแต่มีอะไรกินบ้างอ่ะเปล่าเนี่ย” เจ้าไทม์ ตัวแสบบอกก่อนจะชวนพรรคพวกวิ่งวุ่นค้นตู้เย็นรวมทั้งกระเช้าของเยี่ยมมากินซะแทบเกลี้ยง จนเป็นเอกกับแด ฮุน ได้แต่อมยิ้ม อยู่เงียบๆ
แต่กว่าท่านลูกลิงทั้งหลายจะหมดอิทธิฤทธิ์ก็ปาเข้าไปจนหมดเวลาเยี่ยม จนแล้วจนรอดเป็นเอกก็ยังไม่ได้บอกความจริงกับร่างเพรียวสักที
เฮ้อ จะรอดไหมว่ะ กู
เอ่ยกับตัวเองเบาๆก่อนจะเผลอหลับไปเพราะฤทธิ์ยาที่โดนใครบางคนบังคับให้กินตอนหัวค่ำ
ทั้งๆที่ไม่ชอบกินยาแต่แค่ได้เห็นว่าร่างเพรียวเป็นคนป้อนทำไมยามันหวานๆก็ไม่รู้เนาะ
เช้าวันต่อมาเป็นเอกลืมตาขึ้นมองหลังจากที่ได้ยินเสียงกุกกั๊กๆ ในห้อง
“โทษทีว่ะ กูทำมึงตื่นหรือเปล่า” ร่างเพรียวหันมายิ้มให้พลางขอโทษเบาๆ
“ไม่หรอก ว่าแต่วันนี้มึงไม่มีเรียนเหรอมาแต่เช้าเลย”
“มีเรียนบ่ายน่ะ ก็เลยกะจะมาดูมึงก่อน ตื่นก็ดีแล้วจะได้ทานข้าว” ร่างเพรียวบอกก่อนจะยกชามข้าวต้มมาวางตรงหน้า
“กูไม่ชอบกินข้าวเช้าอ่า”
“ไม่กินก็ต้องกิน มึงป่วยอยู่นะไม่กินข้าวแล้วจะกินยายังไง”
“ก็กูไม่ชอบ”
“มึงอายุเท่าไหร่แล้วห่ะ ไอ้ไอ ทำตัวเป็นเด็กๆนะมึง” ร่างเพรียวยิ้มให้คนเจ็บเพราะไม่บ่อยนักที่
พี่ไอ สุดเท่ห์ของไอ้พวกลูกลิงจะหลุดมาดจอมกวน มาเป็นเด็กขี้อ้อนงอแง แบบนี้ แต่ว่า แบบนี้ มันก็น่ารักดีนะ
“คิดอะไรอยู่ว่ะ ทำไมหน้าแดง”
“เปล่า กินไปเลยนะอย่าเป็นเด็กดื้อสิ”
“กูไม่ใช่เด็กนะ กูโตแล้วอายุเท่ามึงเลยเหอะ”
“ถ้างั้นมึงมันก็ ไอ้ผู้ใหญ่ดื้อ กินเลยนะจะกินดีๆหรือต้องให้เตะสามแต้มก่อน”
ว่าจบก็ยัดช้อนให้ไอ้ผู้ใหญ่ดื้อที่นั่งหน้างออยู่บนเตียงทันที
“เหอะ ถ้าเป็นน้ำเต้าหู้ กูจะไม่ว่าอะไรเล๊ยยยย” คนเจ็บบอกลอยๆก่อนจะลงมือกินข้าวเงียบๆ
“มึงชอบกินน้ำเต้าหู้เหรอ”
“อืม แต่ต้องเป็นร้านหน้าปากซอยบ้านกูเท่านั้นนะ อร่อยมากเลยนะเว้ย หมดตั้งแต่ยังไม่เจ็ดโมงด้วยซ้ำ
บางทีกูต้องไปต่อคิวตั้งแต่ตีห้าแน่ะ”
“อร่อยขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ใช่ดิ " คนป่วยตอบหน้าระรื่น
"เอาไว้มึงหายแล้วพากูไปกินได้ไหม”
“อ่ะๆๆ นี่มึงนัดกูเดทเหรอไอ้เกาหลี” เป็นเอกถามก่อนจะเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ทำเอาร่างเพรียวถึงกับต้องหลบสายตา
“เชี่ย เดทบ้านมึงดิไปแดกน้ำเต้าหู้”
“นั่นๆๆ มีหลบตา เขินกูอะดิ๊”
“กูไม่พูดกับมึงแล้ว”
“ง่า เขินพี่ก็บอกมาเหอะน้อง กิ้วๆๆๆ” คนเจ็บยังล้อเลียนไปเรื่อยๆ
ส่วนอีกคนก็เอาแต่เก๊กหน้าตายทั้งๆที่จริงๆ เขินจนจะระเบิดอยู่แล้ว
“มอนิ่ง คร้าบบบบบบบบบบบบ” เสียงทุ้มที่เป็นเอกลักษ์ส่วนตัวดังขึ้นก่อนที่ร่างสูงของนักแบดหนุ่ม (หล่อ)จะเดินเข้ามา
“มาทำไมว่ะไอ้แมน” คนเจ็บถามเพื่อน ก่อนจะมองตาขวาง
“อ่า นี่กูมาขัดจังหวะเหรอเนี่ย โทษทีๆ เอางี้พวกมึงก็คิดว่ากูเป็นจิ้งจกแล้วกัน เชิญตามสบายนะกูไม่ถือ ก๊ากๆๆๆ”
“เชี่ยแมน พูดไรว่ะ” ร่างเพรียวที่นั่งเงียบอยู่นานหันมาโวยกับคนมาใหม่
“พูดเรื่องจริงไง พวกมึงเนี่ยปากแข็งชะมัดกูรำคาญ”
“ไอ้แมน!!!”
“ไม่ต้องเรียกแมนบ่อยหรอกครับ แมนจำชื่อตัวเองได้ ฮ่าๆๆ”
ก๊อกๆๆๆๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้ร่างสูงรอดได้ทันเวลาเพราะตอนนี้ร่างเพรียวเตรียมง้างเท้า
กระโดดเตะสามแต้มใส่ไอ้คนพูดมากอยู่พอดี
“สวัสดีครับ คุณเป็นเอก” หมอหนุ่ม (เหลือ)น้อย ทักทายคนเจ็บก่อนจะยกประวัติการรักษาขึ้นมาอ่านคร่าวๆ
“สวัสดีครับ”
“เป็นยังไงบ้าง ยังเจ็บอยู่ไหม”
“ก็เจ็บครับโดยเฉพาะขาซ้าย” บอกกับหมอเจ้าของไข้พลางมองขาซ้ายของตนที่ตอนนี้ถูกพันผ้าอย่างกับแหนมป้าย่น
“ครับ อาการโดยรวมคงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว แต่ที่ต้องระวังคือขาซ้ายนะครับเพราะกระดูกหน้าแข้งหักทำให้ต้องใส่เหล็กดาม
เอาไว้ ในระยะ 3-4 เดือนแรกคงต้องอาศัยไม้เท้าช่วยพยุงไปก่อนแล้วต้องทำกายภาพบำบัดร่วมด้วยนะครับ”
คนเจ็บได้แต่นั่งฟังอย่างเงียบๆโดยไม่พูดอะไร จนร่างเพรียวต้องจับมือไว้แน่น แรงบีบเบาๆทำให้เป็นเอกผ่อนคลายขึ้นแต่ก็ยัง
กังวลอยู่มาก เพราะเป็นนักกีฬาถึงรู้ว่าอาการบาดเจ็บแบบนี้มันมีผลมากแค่ไหน ก็ได้แต่หวังว่า เรื่องทุกอย่างมันคงไม่เลวร้ายไปมากกว่านี้
“แล้วมันต้องใช้เวลานานแค่ไหนครับ”
“คงราวสัก 1-2 ปีครับถึงจะสามารถหายเป็นปกติได้”
“แล้วผม…”
“หมอเสียใจด้วยนะครับคุณเป็นเอก หมอเองก็รู้ว่าคุณเป็นนักกีฬาอนาคตไกล แต่อาการบาดเจ็บของคุณมันค่อนข้างจะร้ายแรงมาก เพราะฉะนั้นหมอขอให้คุณงดทำกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการหักของกระดูกอีกนะครับ”
“หมอหมายความว่ายังไงครับ” เอ่ยถามหมอเสียงแผ่วความกลัวและความกังวลเข้าเกาะกุมจิตใจ ขออย่าให้มันเป็นอย่างที่เขาคิดเลยนะ
“คุณอาจจะไม่สามารถกลับไปเล่นเทควันโด้ได้อีกแล้วครับ”นี่เขาฝันไปใช่ไหม มันไม่จริงใช่ไหม ทำไมล่ะ ทำไมกัน ทำไมโชคชะตาถึงต้องเล่นตลกกับชีวิตเขาขนาดนี้
แค่พลาดการชิงแชมป์ปีนี้เขาก็เสียใจมากพออยู่แล้ว แต่นี่…….เขาจะไม่สามารถกลับไปเล่นกีฬาที่เขารักได้จริงๆหรือ
ตลอดชีวิตของเขา ไม่เคยคิดสักนิดว่าจะมีวันนี้ ทำไมล่ะ….ทำไม
เป็นเอกได้แต่จมอยู่กับความคิดของตัวเอง เฝ้าถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่ามันเป็นเพราะอะไร
แล้วต่อไปนี้เขาจะต้องใช้ชีวิตต่อไปยังไง
“ไอ” แรงบีบเบาๆที่มือทำให้คนเจ็บเงยหน้าขึ้นมองร่างเพรียวที่อยู่ตรงหน้า
แววตาของร่างเพรียวฉายความห่วงใยจนเขารู้สึกได้
“แด ฮุน กูเล่นเทควันโด้ไม่ได้อีกแล้ว กูจะทำยังไงดีล่ะ กูจะทำยังไงดี”
ถึงไม่มีน้ำตาแต่ร่างเพรียวกลับรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่อีกคนต้องแบกรับ แด ฮุน ทำได้เพียงสวมกอดเป็นเอกไว้แน่น เท่านั้น
“อย่าคิดมากนะ ไอ กูจะดูแลมึงเองนะ มึงต้องหาย เพราะกูยังอยากจะเดินลงสนามพร้อมมึงในฐานะนักกีฬาทีมชาติอย่างที่เราเคยสัญญากันไว้ กูเชื่อว่ามึงทำได้ ”
“แด ฮุน แมน พวกมึงออกไปก่อนได้ไหม กูอยากอยู่คนเดียว”
“แต่..” ร่างเพรียวลังเล
“ปล่อยมันไว้สักพักเถอะ มันคงยังไม่พร้อมจะคุยกับใคร” ร่างสูงอีกคนบอกก่อนจะเดินนำออกไป
หลังจากที่อยู่คนเดียว น้ำตาที่กลั้นมานานก็ไม่สามารถกลั้นได้อีกต่อไป เป็นเอกมองขาซ้ายของตนผ่านม่านน้ำตาช้าๆ
ไม่มีแม้แต่เสียงสะเอื้อนมีแค่เพียงน้ำตาลูกผู้ชายที่ไหลอาบแก้มเท่านั้น
ทำไมเขาไม่ตายๆไปเลยนะ ทำไมพระเจ้าต้องให้เขามารับรู้อะไรแบบนี้ด้วย
มันเจ็บปวดยิ่งกว่าตายซะอีก เขาทำผิดอะไรทำไม พระเจ้าต้องให้เขา
ตายทั้งเป็น!!!! แบบนี้
.............................................. TBC............................................
หวานไหมอ่า