[เรื่องสั้น - Hidden Love] Foolish Beat [pg.4, 6/7/58]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น - Hidden Love] Foolish Beat [pg.4, 6/7/58]  (อ่าน 139971 ครั้ง)

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
Re: [เรื่องสั้น - In Love] Wonderful Tonight [pg.2, 23/3/56]
«ตอบ #60 เมื่อ24-03-2013 10:47:23 »

ว้าว~ รสชาติใหม่  :m25: สถานที่ใหม่  :z1: แต่ขอคนเดิมนะ :กอด1:

รัตติกาล

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น - In Love] Wonderful Tonight [pg.2, 23/3/56]
«ตอบ #61 เมื่อ30-03-2013 13:14:59 »

มาติดตามฮับ
 :mew3:

ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: [เรื่องสั้น - In Love] Wonderful Tonight [pg.2, 23/3/56]
«ตอบ #62 เมื่อ24-05-2013 17:33:13 »

 :L1: Hurt Love :L1:


"All I Have To Do is Dream"



@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@


..ผมชอบคนว่าง่าย..
   
“คืนนี้ไม่กลับนะ” มันเป็นแค่ประโยคบอกเล่า ไม่ใช่คำถาม ไม่ใช่การขออนุญาต และไม่ยินยอมรับคำปฏิเสธ
   
‘ครับ’ ปลายสายพึมพำ เสียงที่ได้ยินนั้นเบาหวิว..เหมือนคนจะขาดใจ
   
ผมกดตัดสาย ปิดมือถือ ทันทีที่โยนโทรศัพท์ไปไว้เบาะหลัง ทันทีที่ขาก้าวออกจากรถ เปิดประตูเข้าสู่โลกแห่งสีเสียง..ผมก็ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง

..ลืมกระทั่งคนที่เฝ้ารอผมอยู่ที่บ้าน..
   
“สวัสดีค่ะคุณเอกรัตน์” พวกวัวเคยค้า ม้าเคยขี่
   
“อืม..” ผมกวาดสายตาหารายใหม่ มองผ่านแสงสลัวเลือนของบรรยากาศ ผ่านกลิ่นแอลกอฮอล์และควันบุหรี่คละคลุ้ง
   
ผู้หญิงคนหนึ่งชูแก้วทักทายผม เธอคลี่เรียวปากสีแดงฉาน อวดปลายเล็บที่แต่งแต้มสีชาดเด่นสะดุดตา ผมก้าวเท้าเข้าไป เลี้ยงเธอแก้วหนึ่ง
   
..คืนนั้นเราจบกันที่โรงแรม..
   
จำไม่ได้ว่านานเท่าไหร่ที่ผิวกายเราเบียดเสียด ริมฝีปากสีแดงนั้นจุมพิตผมครั้งแล้วครั้งเล่า เล็บสีสดกรีดลงแผ่นหลัง ครวญครางเสียงอ่อนหวาน ผมตักตวงทุกอย่างจนเกินคุ้ม เธอขอ ผมสนอง ไม่มีอะไรติดค้างต่อกัน..แค่เล่นสนุก
   
..แม้ว่าใครบางคนอาจจะทุกข์เจียนตาย..
   
ผมไม่ได้เมา แค่มึนหัวเล็กน้อย แต่ก็ทำเอาเห็นถนนเส้นตรงเป็นวงคดเคี้ยวราวกับงูได้เหมือนกัน แสงไฟหน้ารถสาดผ่านความมืดยามค่ำคืน ผมเปลี่ยนใจในทันทีที่บทรักของผมกับสาวแปลกหน้าจบลง ไม่มีอะไรให้น่าประทับใจสำหรับการสานสัมพันธ์ต่อในวันรุ่งขึ้น ผมเลยเลือกที่จะกลับบ้านตอนตีสาม

รอบด้านมืดมิด เงียบสนิท ไม่มีรถสักคันแล่นสวน ผมเปิดวิทยุแก้เหงา

dream..dream..dream

ผมเร่งเสียง เปิดกระจกรถพลางจุดบุหรี่สูบ ปล่อยอารมณ์ล่องลอยไปกับอากาศเย็นเฉียบสองข้างทาง

When I want you..in my arms

when I want you..and all your charms

Whenever I want you, all I have to do, is dream..dream..dream

“dream..dream..dream” ผมร้องคลอ จำได้ว่าชอบมาก

..ผมร้องเพลงนี้จีบคนรัก..

“ทำไมน้องจีนถึงตกลงคบกับมึงวะ เสียดายของ”

“เพราะเป็นกูไง” มันต้องเลี้ยงเหล้าเพราะผมจีบเด็กติด เราไม่ได้พนันกัน เพียงแต่ว่ามันมองไม่เห็นทางไหนเลยที่คนอย่างจีนจะยอมลงเอยกับผม


“When I feel blue in the night..and I need you” ผมกลืนน้ำลายแห้งผากลงคอ นึกถึงน้ำตาของคนรักในวันแรกที่ได้ฟังเพลงนี้

จีน..ตอนรู้จักชื่อของเด็กฝึกงานในแผนกที่ผมเป็นผู้จัดการอยู่ ความรู้สึกแรกคือ ชื่อแปลก แต่พอได้เห็นตัวแล้วไม่สงสัยนัก จีนก็คือจีน ตรงตัว โต้งๆ ไม่ต้องตีความ ผิวจีนเหมือนหยวก ตาสีน้ำตาลอย่างคนเชื้อสายจีน ตัวคล้ายจะปลิวลมได้ตลอดเวลา ทำอะไรเซ่อซ่า งุ่มง่าม ว่าง่าย ใครใช้อะไรก็รับทำหมด แม้กระทั่งถูกหยอกเย้าให้ไปขัดห้องน้ำ จีนยังหาไม้ม็อบกับถังเสียทั่วชั้น

..ผมชอบคนว่าง่าย..

ไม่ใช่ว่าไม่มีคนเข้าหาจีน มีเยอะ..มากมายนับไม่ถ้วน แต่ผมชนะ

“..to hold me tight. Whenever I want you, all I have to do, is dream..” ผมเลี้ยวรถไปตามเส้นทางคุ้นเคย

ผมไม่ได้ทำอะไร แค่นึกชอบ ลองเข้าหา แรกๆก็เหมือนผู้ชายทั่วไป ซื้อของให้ ชวนกินข้าว แม้จีนจะไม่ได้ปฏิเสธ แต่ก็ไม่มีทีท่าตอบกลับ ผมพากเพียรอย่างนั้นอยู่หลายเดือน..เกือบจะถอดใจ

..กระทั่งผมพาไปดินเนอร์..แล้วร้องเพลงนี้ให้ฟัง..

..ง่ายๆแค่นั้นเอง..รู้อย่างนี้ก็ร้องมันตั้งนานแล้ว..

“ทำไมถึงคบกับพี่” ผมสงสัย

“เพราะพี่เอกรู้ว่าจีนชอบอะไรที่สุด”

“เพลง..งั้นเหรอ” ผมเดาสุ่ม เพราะนี่คือสิ่งเดียวที่ผมทำแตกต่าง

“ชีวิตจีนเหมือนความฝัน” จีนหลับตานิ่ง อกไหวแผ่วเบาจนน่ากลัวว่าจะหยุดหายใจลงไป “ได้แต่ฝัน..เท่านั้น”

“ถึงจะพยายามแค่ไหน ทุ่มเทเท่าไหร่..ก็ไม่มีอะไรดีเลย” จีนยิ้ม “เลยต้องฝันไปวันๆ ในความฝัน..จีนเป็นได้ทุกอย่าง”


ผมไม่ใช่คนที่มีเวลาว่างมากพอจะฟังเรื่องในอดีตของใคร ใส่ใจบ้าง ไม่ใส่ใจบ้าง แต่พอรู้ว่าจีนอยู่ตัวคนเดียวลำพัง ช่วงประถมต้น พ่อแม่หย่า จีนไปอยู่กับน้าสาว พอทางนั้นมีลูก ที่ของจีนก็คือสถานสงเคราะห์ของซิสเตอร์

..แน่นอน..มันคงไม่ราบรื่นนักหรอก..

..ผมเคยเห็นรอยถูกจี้ด้วยบุหรี่..กับแผลเป็นจากแนวหวาย..

“มาอยู่ด้วยกันมั้ยล่ะ” ผมชวน..หลังจากที่เรามีเซ็กซ์กันครั้งแรก

..ง่ายอย่างที่คิดนั่นล่ะ..

“I can make you mine, taste your lips of wine, any time, night or day” ผมไม่รู้ว่ารักจีนหรือเปล่า แต่เราอยู่ด้วยกันมาห้าปีแล้ว

มันคงเหมือนความคุ้นเคย ผมไปทำงาน กลับมาเจอหน้า จีนจะนั่งรอผมที่โต๊ะกินข้าว ทำอาหารไว้รอ ใบหน้าเรียบเฉยนั้นจะยิ้มแย้มทุกทีที่ได้เจอกัน

จีนไม่ได้ออกไปทำงาน แค่อยู่กับบ้าน ทำงานแปลเอกสาร แปลหนังสือ ผมเคยบอกให้ไปเปิดหูเปิดตาบ้าง แต่มันคงไม่ใช่วิสัย จีนเป็นพวกชอบเก็บตัว

..และเอาแต่ฝันเฟื่องไปวันๆ..

“I need you so..that I could die..I love you so” ผมเคยรู้สึกเหมือนจะตายจริงๆ ต้องการ..จนเหมือนจะขาดใจ

ผมเคยบอกตัวเอง ถ้าไม่ได้คนนี้ ผมจะไม่มองใครอีก

..แต่ของที่มันได้มาง่ายๆ..มันก็เบื่อได้ง่ายเช่นกัน..

“and that is why whenever I want you, all I have to do, is dream..” เสียงในลำคอแห้งผาก ผมนึกถึงน้ำตาของคนรัก

..ผมไม่ใช่คนซื่อสัตย์กับใครได้นานพอ..

แค่สามเดือนเท่านั้น..หลังจากที่ผมเคยชินกับลีลาและท่าทางอ่อนเดียงสาซ้ำยังว่าง่ายของจีนแล้ว ผมก็เริ่มออกหาคู่ควงคนใหม่

ผมยังใจดีอยู่บ้างที่ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับจีนตรงๆ แต่พอจีนรู้เรื่อง ผมก็เลิกที่จะแคร์ ถ้าผมอยากไป ผมจะไป ไม่มีใครทักท้วงได้

“มีจีนคนเดียวไม่ได้เหรอ” แฟนผมร้องไห้ ขอร้อง..อ้อนวอน

ผมตอบไปแค่คำเดียว “ฝันเอาสิ”


“dream..dream..dream.. dream”

เพลงจบลง ผมขับรถถึงบ้านพอดี ไฟด้านในมืดสนิท จีนนอนฟุบอยู่บนโต๊ะกินข้าว ตลอดห้าปี..จีนยังคงรอผมกินมื้อเย็นด้วยกันทุกวันแม้ว่าจะนับครั้งได้ที่ผมสามารถอยู่ร่วมโต๊ะ ไม่ใช่ว่างานเยอะ แต่ผมเลือกจะไปต่อเอง

“ไม่ต้องทำหรอก เสียของ”

“ไม่เป็นไร” จีนยิ้ม “อันนี้เงินจีน เผื่อพี่เอกกลับมาหิวๆจะได้กินไง”


ผมปลดกระดุมเสื้อ ส่ายหัวด้วยความระอา ทั้งที่บอกแล้วว่าไม่กลับบ้าน แต่จีนก็ยังรอผมที่นี่ ตรงนี้..เหมือนทุกครั้งไป

“จีน..” ผมเขย่าตัวคนที่นอนนิ่ง “พี่กลับมาแล้ว..ตื่นได้แล้วจีน”

ร่างตรงหน้าแทบไม่ไหวติง ผมต้องตีเบาๆบนแก้ม จีนเป็นแบบนี้ทุกครั้ง แรกเริ่มที่นอนด้วยกัน ผมต้องตกใจแทบบ้าเพราะนึกว่าทำคนตาย

จีนหายใจน้อยมากเวลาหลับตา น้อยเสียจนต้องเพ่งมองว่ายังหายใจดีอยู่หรือหยุดไปแล้ว และในบางครั้ง..ตัวของจีนจะเย็นเฉียบ ไม่ได้ให้ความอบอุ่นของคนเป็นอยู่เลย แน่นอน..ผมตกใจ แต่พอเริ่มเคยชิน ความชินนั้นก็เปลี่ยนเป็นเบื่อหน่าย ใครจะอยากกอดท่อนไม้แข็งทื่อในเวลานอนกัน

“เวลานอน..จีนจะอยู่อีกโลก” จีนเล่าให้ผมฟัง

“งั้นเหรอ”

“อืม..รู้จักพวกดักแด้ใช่มั้ย ตัวหนอนจะพันตัวเองด้วยใยจนมิด”

ผมไม่เห็นจะเข้าใจตรงไหน

“ช่วงที่หลับลึก จีนจะพันตัวเองเป็นดักแด้” ใบหน้านั้นคลี่ยิ้ม “พอเริ่มฝัน จีนจะเป็นผีเสื้อออกจากเปลือก บินไปอีกโลกหนึ่ง”

“แล้วไง”

“ที่พี่เอกเห็นมันแค่เปลือกดักแด้ บางที..มันเลยเหมือนหุ่น ไม่ได้หายใจ ไม่มีความร้อน แข็งเหมือนศพ..จนกว่าจีนจะตื่นแล้วกลับมาเข้าเปลือกตามเคย”

“พอแล้วจีน! เหลวไหล” ผมหัวเสีย ไม่ได้คุยเรื่องนี้กันอีก


จีนงัวเงียตื่นขึ้น ถ้าพูดตามภาษาของคนเพี้ยนอย่างจีน ต้องบอกว่า ตอนนี้แฟนผมกลับจากอีกโลกมาเข้าเปลือกแล้ว

“ถ้าง่วงก็ไปนอน”

คนตรงหน้าคลี่ยิ้มบางเบา “พี่เอกกลับมาจริงๆด้วย”

ผมเงียบกริบ นิ่งไปนิดเมื่ออีกฝ่ายเอาแก้มซุกแนบอก สองแขนสวมกอดรอบเอวเหมือนพยายามเหนี่ยวรั้ง กลิ่นหอมเจือจางยังเป็นที่คุ้นเคย 

..ผมไม่รู้ว่ารักจีนหรือเปล่า..บางทีอาจเป็นแค่ความสงสาร..

..แต่ผมตอบไม่ได้..ว่าทำไมยังต้องกลับมาหากันทุกครั้งไป..

“เอากับข้าวไปเก็บแล้วขึ้นนอน” ผมแกะมือเล็กออก ผลักไหล่เบาๆ

จีนพยักหน้าอย่างว่าง่าย เก็บอาหารบนโต๊ะทิ้งลงถุงพลาสติก

“บอกแล้วไงว่าไม่ต้องทำ” ผมเดินผ่านกระจกเงา รอยลิปสติกสีแดงตรงซอกคอตัดกับสีผิว คิดว่าจีนเห็น..แต่แสร้งทำไม่รับรู้

“จีนกลัวพี่เอกหิว”

“พี่เคยกลับมากินมั้ยล่ะ” ผมเช็ดมันออก สำรวจดูว่าไม่เหลือรอยอีก

“เคยสิ..” จีนหัวเราะแผ่วเบา “อย่างน้อยก็ในความฝัน”

จีนไม่เคยปริปากต่อว่าเรื่องพฤติกรรมสำส่อนของผม ไม่เคยก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว แต่คำพูดทุกคำ..แสดงถึงความคาดหวังที่หนักอึ้ง

มันบีบเค้นความรู้สึกกันเข้าไปทุกที

..ผมชั่วมากใช่ไหม..


..............................................................................


ผมกระแทกประตูรถด้วยความหงุดหงิด สองเท้าเหยียบถึงบ้านตั้งแต่ตะวันยังไม่ตกดิน พอก้าวเข้ามาในห้องรับแขกได้ก็ระบายอารมณ์เอากับแฟ้มเอกสารเป็นตั้ง

วันนี้ผมทำงานพลาด ไม่มีอะไรหนักหนาเลย แค่ลูกค้ารายใหญ่ยกเลิกสัญญากับบริษัทและถูกเจ้านายประจานต่อหน้าที่ประชุมเท่านั้น

“จีน..” ผมส่งเสียงเรียก กวาดตามองไปทั่วแล้วไม่เห็นคนๆนั้นนั่งอยู่ในที่ประจำเหมือนเคย “จีน!!”

มีเสียงหัวร่อต่อกระซิกดังมาจากด้านใน ผมเดินดุ่มไปหลังบ้าน กระชากประตูห้องครัวออก แดดตอนบ่ายสามร้อนแสบผิว เนื้อตัวขาวซีดนั้นขึ้นสีแดงเรื่อ ผมค่อนข้างประหลาดใจ จีนมักจะไม่ออกมาเสวนากับผู้คน..เว้นแต่วันนี้

ร่างเล็กยืนอยู่ข้างกำแพงอิฐ สายตาจับจ้องอยู่อีกฟากของผนัง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนทอประกายสดใสอย่างไม่เคยเป็น

เงาดำสูงใหญ่โน้มตัวอยู่เหนือแนวกั้น กระซิบกระซาบอะไรบางอย่างกันสองคน จีนยิ้มแย้ม พูดคุยโต้ตอบก่อนที่ทั้งสองจะหัวเราะขึ้นมา

..ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน..ตั้งแต่ตอนไหน..

..สัปดาห์..เดือน..หรือปี..

..ที่จีนไม่ได้มีรอยยิ้มให้ผมคนเดียว..

“จีน!” ผมกระชากเสียง ก้าวยาวๆเข้าไปขัดจังหวะ

จีนหันมามอง “พี่เอก..”

ชายแปลกหน้าหุบรอยยิ้มลง

“เรียกแล้วทำไมไม่ตอบ!”

“จีนไม่ได้ยิน..”

“เข้าบ้าน” ผมสั่ง คว้าแขนแล้วลากให้ตามติด

..ใครบางคนที่อยู่เบื้องหลังยังคงมองตามอย่างไม่ลดละ..

“ทำไมวันนี้กลับเร็ว” เจ้าตัวถลาตามแรงกระชาก

“กลับช้าก็มีปัญหา กลับเร็วยังมีปัญหาอีก ไม่พูดมากสักเรื่องเป็นมั้ย!”

จีนเงียบกริบ ผมเงียบกริบ รู้ตัวดีว่าพาลพาโล อารมณ์เสียจากที่ทำงานแล้วระบายความเครียดกับคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว

..ผมแค่หวังว่าจะเจอจีนอยู่ที่เดิม..

..ไม่ใช่ที่ใหม่..กับคนใหม่..

ผมทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา จีนค่อยๆขยับเข้ามากอดไว้ด้วยสองแขน

“ไม่เป็นไรนะ” เสียงนุ่มนวลปลอบประโลม “ไม่เป็นไร..”

“หุบปากเถอะ” ผมสั่ง ก้มหน้าลงซบฝ่ามือด้วยความเหนื่อยล้า

“เดี๋ยวมันก็ผ่านไปเอง”

“บอกให้หุบปาก!!”

โดยไร้การโอ้โลม ผมผลักจีนลงกับพื้น ฉีกกระชากเสื้อผ้าของคนข้างใต้ออก มือตระโบมเฟ้น ขยำขยี้เนื้อกายละเอียดอย่างผู้ที่อยู่เหนือกว่า

ผมกดข้อมือเล็กลงกับแผ่นกระเบื้อง แทรกตัวสอดประสานเป็นหนึ่งเดียว ความรู้สึกอบอุ่นซึมวาบ ไม่สนใจกับแรงดิ้นรน..ไม่สนใจกับหยดน้ำตา

ผมครางในลำคอ สอดมือเข้าใต้ข้อพับขา ยกปลายเท้าอีกฝ่ายขึ้นแนบข้าง ดึงดันกดตัวเข้าออก ทั่วร่างเสียดสีจนร้อนวาบไปทุกส่วน

จีนหนีด้วยสัญชาตญาณ หากเมื่อรู้ว่าสู้แรงไม่ได้ก็นิ่งงันไป ผมขยับตัวหนักหน่วง หายใจรินรดอยู่ข้างซอกคอ ขบกัดจนผิวบางขึ้นรอย กระทำการหยาบกระด้างบนพื้นหินเย็นชืด ด้านชากับเล็บที่จิกทึ้งบนแผ่นหลัง

มีแต่ผมคนเดียวที่พึงพอใจกับการหักหาญ จีนเม้มปากแน่น ไม่ยอมแสดงปฏิกิริยาตอบรับ แต่อย่าหวังเลย..ผมไม่มีวันให้ใครมองเมินกันได้

ผมใช้ความมีชั้นเชิงตักตวงความสุข จีนหันหน้าหนี ครวญครางในลำคอไปตามแรงปรนเปรอ ยิ่งกรีดร้องมากเท่าไหร่ ผมยิ่งสมใจมากขึ้นเท่านั้น

“จีนรักใคร” ผมกระซิบถามทั้งที่ตัวยังเคลื่อนไหวอยู่ด้านบน

“รักพี่เอก..” จีนกอดผมแน่น “รักพี่เอก..”

จีนต่อต้านผมได้ไม่นานหรอก ผมรู้ดี..ในยามที่ผมอ่อนแอ ผมจะแสดงความมีอำนาจได้กับใคร และใคร..ที่จะยอมเป็นเบี้ยล่างให้ผมได้ทุกเวลา

“รักคนเดียว..”

เมื่อพายุอารมณ์ผ่านพ้นไป ทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบ ผมล้มตัวลงนอนบนพื้นเย็นเฉียบ เสียงฝนด้านนอกดึงสติกลับมา

ผมหอบหายใจ ความสุขท่วมท้นราวกับไม่ได้พบเจอมานานปี

“จีน..” ผมพึมพำ ขยับเข้าไปหาคนที่นอนขดตัวนิ่ง จูบลงบนลาดไหล่ จีนหันกลับมาซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดเหมือนสัตว์ตัวน้อยที่กำลังขวัญเสีย

เราไม่ได้มีเซ็กซ์กันมาครึ่งปี ครั้นพอต้องการ..ผมกลับใช้กำลังขืนใจ

“ไม่เป็นไร จีนไม่เจ็บ” เจ้าตัวยิ้มจาง ดึงมือผมออกจากราวเอว

ผมลุกขึ้นยืน สวมกางเกงกลับเข้าที่ ม่านระเบียงข้างสวนยังไม่ได้ปิดเลยเดินไปรูดมันเข้า ฝนยังคงเทเหมือนฟ้ารั่ว แสงสีขาวสว่างวาบในจังหวะหนึ่ง

..เงาร่างใครบางคนยืนจ้องจากบานหน้าต่างชั้นสอง..

“ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร”

“เพื่อนบ้าน” จีนตอบโดยไม่เงยหน้า

“รู้จักกันตอนไหน” ผมไม่ชอบสายตาของเขา

“คุณหมอย้ายมาเมื่อสามวันก่อน”

ผมเลิกคิ้ว “คุณหมอ?”

จีนยังนอนนิ่งบนพื้น ทั้งร่างเปลือยเปล่า “เขาเป็นจิตแพทย์”

“ดีนี่” ผมกลับเข้ามาทาบทับบนตัวขาวโพลน กระชับสะโพกเบื้องล่างไว้ก่อนจะรูดซิปลง ค่อยๆยัดเยียดตัวเองกลับเข้าไปใหม่อีกหน

จีนจิกเล็บลงต้นแขนตัวเอง ครางแผ่วเบาในลำคอ

“จีนน่าจะคุยกับเขานะ” ผมกระซิบ “จะได้เลิกยุ่งกับความฝันซะที”

เรามีอะไรกันหลายครั้งในคืนนั้น แม้จะเคยบอกว่าเบื่อหน่าย แต่บางอย่างที่ร้างราไปแล้วกลับมาลิ้มรสอย่างเก่า..มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเร้าใจ

“ถ้าความจริงมันมีความสุข..พี่เอกคิดว่าจีนจะฝันทำไม”

ผมนิ่งงัน มองคนที่เคย ‘ว่าง่าย’ อย่างไม่เชื่อหู “พูดมาใหม่”

จีนไม่ยอมเผชิญหน้ากับผม ได้แต่นอนขดตัวอยู่บนเตียง ใช้ผ้าพันร่างเปลือยจนมิดเสมือนตัวอ่อนที่กำลังห่อหุ้มกายเป็นรังไหม

“จีนไม่มีความสุข” เจ้าตัวพึมพำ

“อยู่กับพี่มันแย่อย่างนั้นเลยรึไง” ผมเริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง

“ไม่รู้..”

ผมก้าวเข้าไปหา รั้งหัวไหล่มนเข้ามากกกอด จูบปลอบแผ่วเบาบนหน้าผาก จีนหลับตาพริ้ม หยาดน้ำใสรินลงเงียบเชียบ “ถึงพี่จะนอนกับผู้หญิงไปทั่ว แต่กับผู้ชาย..จีนน่าจะรู้ว่าพี่มีจีนคนเดียว แค่นี้ไม่พอใจ?”

จีนส่ายหัว พลิกหนีออกห่างผม “แค่ความฝัน..”

ผมถอนใจอย่างเหนื่อยหน่าย จีนควรจะรู้ ผมไม่เคยยอมลงให้ใครมากถึงขนาดนี้ การเปลี่ยนแปลงสันดานผู้ชายไม่ใช่เรื่องปุบปับ และถึงแม้ผมจะคบหากับคนรักมาห้าปีแล้ว มันก็ไม่ได้แปลว่าผมจะอิ่มง่ายๆจากเรื่องพรรค์นั้น

“แค่ในฝัน..ขอคนที่รักกันจริง”

จีนอาจจะสิ้นสุดความอดทน ถึงได้พูดเรื่องนี้ซ้ำไปมา “เอาเป็นว่าพี่จะพยายาม..” ผมรับปากส่งๆเพราะไม่หวังจะทะเลาะกัน “ถ้าได้..ก็คือได้”

“แต่ถ้าไม่ได้..พี่ให้จีนฝันต่อไป..คงง่ายกว่า”


.....................................................................................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-05-2013 17:47:03 โดย nigiri-sushi »

ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page

เราสองคนได้รับเชิญไปงานเลี้ยงของเพื่อนบ้านคนใหม่ ‘เขา’ ผู้ชายที่ผมเคยเห็นหน้าเมื่อวันก่อนเป็นคนออกมาต้อนรับ สีหน้านิ่งเรียบและเฉยชามีรอยยิ้มเปื้อนเมื่อได้พบกับจีน และดูเหมือนว่าจีนเอง..ก็ยิ้มตอบกลับไปเช่นกัน
   
“ขอบคุณที่มานะครับ” เสียงกังวานทุ้มต่ำฟังดูลึกล้ำเหมือนก้นสมุทร ดวงตาของเขาเป็นสีดำสนิท โครงหน้าคมสันเด่นสง่าอยู่ใต้เงามืด
   
ผมมองฝ่ามือที่ยื่นมาทักทายจีน ใบหน้าขาวเนียนขึ้นสีแดงซ่านเมื่อปลายนิ้วทั้งสองสัมผัสกัน กิริยาเขินอายอย่างที่ปรากฏ..ไม่เคยมีมานานแล้ว
   
“ผม..เอกรัตน์” คำแนะนำตัวสั้นๆง่ายๆที่แทรกเข้าไปกลางคันทำให้เขาหันมามองผมอย่างเสียไม่ได้ “ดีใจที่ได้เพื่อนใหม่”
   
บ้านใหญ่ข้างบ้านของผมร้างมานาน มีต้นไม้ใบหญ้ากับวัชพืชขึ้นจนรก ผมมัวแต่หมกมุ่นอยู่กับโลกของตัวเองซ้ำยังกลับดึกเกินกว่าจะรับรู้ว่าบัดนี้มันมีใครบางคนเข้ามาอาศัยและจับจองเป็นเจ้าของเสียแล้ว
   
เขากระตุกยิ้มบางเบา ไม่แม้แต่จะแนะนำตัวเอง
   
..คิดจะสร้างศัตรูตั้งแต่แรกเลยสินะ..
   
ผมโอบกระชับรอบไหล่ของจีนเมื่อหมอนั่นทำท่าเหมือนจะเข้ามา ดวงตาสีเข้มวาวโรจน์ขึ้นก่อนจะทอแสงอ่อนโยนเมื่อจีนหันไปยิ้มให้
   
“มาทางนี้เถอะครับ ผมให้เด็กเตรียมมื้อค่ำไว้” เขาผายมือ เดินนำเราไปยังสวนหลังบ้านที่ปูพื้นหญ้าสีเขียวสดไว้รอบบริเวณ
   
เสียงน้ำพุขนาดย่อมไหลรินลงสู่อ่างหินอ่อนเบื้องล่าง แสงสลัวจากเทียนและโคมไฟบนเสาเหล็กดัดจับบนม่านน้ำที่กระเซ็นลงยอดเฟื่องฟ้า
   
งานเลี้ยงที่ว่าเป็นแค่การกินมื้อค่ำด้วยกัน ผมคิดว่าคงมีพวกเราสามคน แต่เปล่าเลย เขาเชิญ ‘เด็ก’ ของเขามานั่งร่วมโต๊ะกับเราด้วย
   
ร่างโปร่งบางและอ่อนไหวเหมือนสายหมอกเคลื่อนเชื่องช้า ชายผ้าสีขาวที่ทิ้งตัวลงเคลียข้อเท้ากลมกลึงฉุดรั้งเสน่ห์ยั่วยวนอย่างน่าประหลาด ดวงตาสีน้ำเงินเข้มค่อยๆช้อนมองมาทางผมและคลี่ริมฝีปากสีสดคล้ายจะเยาะยิ้ม

ราวกับมีกระแสไฟแล่นพล่านไปทั่ว ผมถูกดึงดูดด้วยกิริยาทั้งหมดจนไม่อาจถอนสายตา ความลึกลับคล้ายทะเลอันมืดดำทำให้หัวใจเต้นแรง

..มันเป็นความสวยงามของค่ำคืนที่กลั่นตัวมาเป็นคน..

คุณหมอหนุ่มกระตุกยิ้มอีกครั้ง “เด็กรับใช้ของผมเอง” เขาเลื่อนเก้าอี้ให้กับจีน แต่ในวินาทีนี้ ผมแทบไม่สนอะไรอีกแล้ว

“ชื่อ?” ผมถามขึ้น กวาดมองทั่วร่างอย่างพอใจ

..นอกจากจีนแล้ว..ผมไม่เคยมองผู้ชายที่ไหน..

..จะมีก็คงครั้งนี้กระมัง..

“ไม่มี” เสียงที่ตอบกังวานใสซ้ำนัยน์ตายังเปล่งประกายคล้ายดวงดาว

..เหมือนคนทั่วไป..เล่นตัวเพื่อให้คุณค่าของตนสูงขึ้น..

..ผมไม่จำเป็นต้องรู้ชื่อก็ได้..ขอแค่เป็นเซ็กซ์ชั้นยอดก็พอ..

จีนขยับตัวอย่างอึดอัด ก้มหน้าลงต่ำด้วยอารมณ์ที่ไม่คงที่

..ผมรู้..จีนไม่อยากให้ผมทำนิสัยเดิมๆ..

..แต่ช่วยไม่ได้..ในเมื่อวันนี้จีนทำกับผมก่อนเอง..

เนื้อชิ้นโตย่างกึ่งสุกกึ่งดิบรสชาติอร่อยขึ้นเป็นพิเศษเมื่อแกล้มกับไวน์ที่แดงฉานราวเลือด ขณะที่ผมปาดมีดลงบนสเต็ก สายตาก็ไม่ได้ละไปจากรูปหน้าสะสวยของอีกคนเลย ไม่ได้สนใจกระทั่งหยดสีแดงชุ่มฉ่ำที่ไหลลงจากมุมปาก
   
เด็กของเขาหัวเราะคิกคักพลางยื่นผ้ามาซับรอยเปื้อนนั้นให้ จีนนั่งนิ่ง มือที่จับมีดสั่นริกอย่างเห็นได้ชัดเมื่อผมจงใจจับบนข้อมือขาวสะอาดของคนอื่น
   
“บริการให้มากกว่านี้หน่อยสิ” เจ้าของบ้านพูดเรียบง่าย “ดูเหมือนคุณเอกจะถูกใจเรา” ในทันทีที่จบประโยค ร่างเล็กนั้นก็ลุกขึ้นยืน
   
“จะไปไหน” ผมถามอย่างเสียดาย
   
เด็กหนุ่มแสนสวยยกปลายนิ้วเรียวยาวขึ้นแตะปากพลางขยับตาให้อย่างมีความนัย ผมลุกขึ้นตามมือที่เชื้อเชิญให้จับ
   
วินาทีนั้น จีนผวาเข้ามาขยุ้มชายเสื้อผมไว้
   
“พี่เอกสัญญาแล้ว..” ดวงตาคู่เดิมอ่อนล้าลง “พี่จะมีจีนคนเดียว”
   
ผมส่ายหัว แกะมือของจีนออกพลางปฏิเสธ “ไปล้างมือแค่นั้นละ”
   
จีนมองตามผมที่เดินหายเข้าไปในตัวบ้านกับเด็กคนนั้นพร้อมๆกับที่น้ำตาหยดหนึ่งร่วงลงมา ผมเห็น..แต่เลือกจะเฉยเมย
   
เราสองคนบดเบียดจูบเข้าหากันอย่างรุนแรง ผมไม่คิดจะไปไกลนัก ซอกผนังข้างห้องน้ำคือสถานที่ลับตา มีแสงเทียนเลือนรางช่วยปลุกเร้ากำหนัด
   
ผมผลักตัวเล็กบางของอีกฝ่ายเข้าไปชนกำแพง ปลดซิปกางเกงอย่างเร่งร้อนพอๆกับที่ลงมือกระชากกางเกงของเขาออกเช่นกัน
   
ร่างตรงหน้าส่งยิ้มเชิญชวน ปลายเท้าทั้งสองแยกออกพลางสอดนิ้วเข้าแทนคำอนุญาต ผมโถมเข้าไป ยัดเยียดตนด้วยความสุขสม
   
ปลายลิ้นสีชมพูแลบเลียออกมาพร้อมกับเปล่งเสียงครวญครางเพราะหู ผมกระแทกกระทั้นเข้าออกในร่างขาวนวล ขยุ้มไหล่ลาดราวกับจะฉีกกระชากเขาออกเป็นเสี้ยวในขณะที่เคลื่อนไหวไม่หยุดด้วยความพึงพอใจ
   
เมื่อทุกอย่างจบลง ผมหลั่งน้ำรักเข้าไปในตัวเขา เด็กน้อยที่แสนจะเย้ายวนทรุดลงบนพื้นและหันมากอบกุมส่วนกลางให้ เขากลืนกินผมอีกครั้งเพื่อจะรีดเร้นทุกหยาดหยดลงสู่ลำคอเพรียวระหง ดวงตาสีน้ำเงินเข้มช่างสวยจับใจ
   
“พอแล้ว..” ผมกระซิบบอก จูบข้างใบหูขาว รู้สึกติดใจจนต้องเอ่ยปากขอนัดเจอกันอีกครั้ง คนที่ไม่มีชื่อของผมพยักหน้ารับคำ
   
ตอนที่กลับเข้ามายังโต๊ะอาหาร จีนก็กลับบ้านไปแล้ว
   
“อะไรที่มีแต่ไม่รักษา..ระวังจะหายไปแล้วเรียกร้องกลับมาไม่ได้อีก”
   
ผมหันขวับไปมองหน้าเจ้าของบ้านที่ทำเป็นสั่งสอน วินาทีนั้น ผมอยากชกหน้าเขาสักหมัด แต่ท้ายที่สุด ผมก็ได้แต่ลำพองใจที่ทำให้เด็กของเขาติดใจรสรักของผมได้ “บอกตัวเองดีกว่ามั้งครับ ระวังคนใกล้ตัวจะเอาใจออกห่าง”
   
คนฟังได้แต่กระตุกยิ้มอย่างยโส ผมเกลียดท่าทางถือดีของหมอนี่จริงๆ
   
คืนนั้น จีนเข้านอนโดยไม่รอ ผมเองก็ไม่ได้สนใจกับร่างเล็กที่แทบจะจมหายไปกับฟูกเท่ากับการพะวงคิดถึงบทรักที่ดำเนินไปอย่างน่าตื่นเต้นนั่น
   
ผมนอนกระสับกระส่ายไปมา หลับตาแล้วได้แต่นึกถึงภาพยั่วยวน ความรู้สึกร้อนรุ่มทำให้ส่วนล่างเจ็บปวด เมื่อไม่คิดจะบำบัดความต้องการด้วยตนเอง ผมจึงเลือกที่จะกระชากไหล่จีนเข้ามาหา บดจูบลงไปบนเรียวปากนุ่มพร้อมกับดึงทึ้งชุดนอนตัวเก่าของจีนออก
   
จีนสะดุ้งตื่นในวินาทีนั้น ผมขยับตัวขึ้นเหนือร่าง รู้สึกตื่นเร้าที่ได้ใช้กำลังและแสดงความเหนือกว่า ผมขยับขึ้นไปด้านบน ขยุ้มผมของจีนและบังคับให้คนรักใช้ปากให้อย่างที่เด็กของเขาทำ จีนเบือนหน้าหนี ทั้งผลักทั้งดันผมออก
   
“ไม่!” จีนปฏิเสธ “จีนไม่อยากใช้อะไรร่วมกับคนอื่น!”
   
ผมบันดาลโทสะ ตวัดร่างจีนลงนอนคว่ำแล้วกระชากสะโพกมนขึ้นสูง กระแทกตัวเองลงไปด้วยอารมณ์โกรธ แม้ว่าจีนจะร้องไห้ ผมก็ไม่สนใจ
   
..ผมข่มขืนคนรักของตนเองครั้งแล้ว..ครั้งเล่า..



.........................................................................



ความสัมพันธ์ของผมกับจีนย่ำแย่ลงถึงขีดสุดเมื่อผมยังคงนัดเจอกับเด็กหนุ่มคนเดิม เรามีเซ็กซ์กันอย่างไม่ผูกมัด ผมจึงไม่เห็นว่าจะเป็นเรื่องผิดตรงไหน
   
..ผมนอกกาย..แต่ไม่เคยนอกใจ..
   
..ผมไม่รู้ว่ารักจีนหรือไม่..แต่ผมไม่เคยเอาใครมาแทนที่..
   
..ถ้าเป็นเซ็กซ์..จะมีกับใครก็ได้..

..แต่คนที่ผมเลี้ยงดูและยินยอมให้อยู่ข้างกาย..มีเพียงจีนคนเดียว..

..แค่นี้ทำไมถึงไม่เข้าใจ?..

ผมกลับมาถึงบ้านในคืนวันหนึ่ง จีนไม่ได้นั่งอยู่เพียงลำพังอย่างที่เห็นจนเจนตา วันนี้มีเพื่อนบ้านที่ผมเกลียดมาเป็นแขกไม่รับเชิญบนโต๊ะอาหารด้วย

“ว่างมากเหรอครับ” ผมถามอย่างยียวน เดินเข้าไปด้านหลังแล้วเท้าแขนลงคร่อมพนักเก้าอี้ที่จีนนั่งอยู่ แสดงความเป็นเจ้าของอย่างเด่นชัด

ผู้ชายที่เจ้าชู้มักไม่ยอมให้ใครมาลบเหลี่ยม ผมอาจจะมีคนอื่นมากหน้าหลายตาแต่ไม่มีทางยินยอมให้ตนถูกสวมเขาอย่างแน่นอน

“ว่างพอจะทำอะไรหลายๆอย่าง” คุณหมอตอบกลับ

“หลายๆอย่างที่ว่า..คงไม่ใช่มาทำแทนผมหรอกใช่มั้ย”

เขายักไหล่ ลุกขึ้นยืนแล้วขอตัวกลับ ก่อนจากไป ยังก้มหน้ามากระซิบกับจีนอย่างคนสนิทสนม “ดูแลตัวเองด้วยนะครับ ถ้ามีอะไรก็เรียกผมได้ตลอด”

“ขอบคุณ..แต่ไม่จำเป็น” ผมส่งแขก ไล่ทางอ้อมด้วยคำพูดและสายตา 

เมื่อกลับเข้ามาในบ้าน ผมก็ไล่เบี้ยเอากับคนรัก “ตั้งแต่เมื่อไหร่”

จีนเงยหน้ามอง ดวงตานิ่งเรียบ ไร้ความรู้สึก

“ถามว่าตั้งแต่เมื่อไหร่!”

“คิดว่ายังไงล่ะ” จีนย้อนถาม และนั่นทำให้ผมเดือดดาล

“มันทำอะไรลงไปบ้าง” ผมมองสำรวจทั่วตัวจีน ไม่ว่าส่วนไหน ดวงตา จมูก ปาก ใบหน้าหรือร่างกายทุกส่วนก็ต้องเป็นของผมทั้งหมด!

จีนลุกขึ้นยืน เก็บจานชามบนโต๊ะไปล้างโดยไม่เรียกผมกินข้าวเหมือนแต่ก่อน ทำราวกับว่ามื้อนี้..เพื่อเพื่อนบ้านคนนั้น “ในความเป็นจริง..เขาก็แค่พูดคุย” เจ้าตัวพึมพำ “แต่ในความฝัน..เรารักกันไปแล้ว”

คืนนั้น ผมครึ่งหลับครึ่งตื่นตลอดเวลา รู้สึกว่ารอบด้านมืดมิด อึดอัดเหมือนกำลังอยู่ในที่แคบ กดดันและร้อนระอุจนหยดเหงื่อผุดซึมทั่วแผ่นหลัง

ผมไม่อยากยอมรับว่าที่จีนพูดจะเป็นความจริง ผมเชื่อว่าเขาประชด

..ถ้าจีนอยากจะนอกใจ..คงทำไปตั้งนานแล้ว..

อุณหภูมิในห้องร้อนมากจนผมนอนกระสับกระส่าย รู้สึกตัวว่าลืมตาขึ้นแต่ทั่วร่างขยับไม่ได้ เหมือนกับเพิ่งตื่นจากความฝันแต่ยังไม่กลับสู่ความเป็นจริง

ลำคอที่แห้งผากทำให้ผมเรียกหาจีน สายตาที่เริ่มปรับให้ชินกับความมืดเบนไปยังคนข้างกายที่นอนหลับสนิท หากฉับพลันนั้น..ผมกลับชะงักงัน

เงาดำสูงใหญ่กำลังเคลื่อนไหวเชื่องช้าอยู่เหนือคนรักของผม จีนขยับตัวไปมาคล้ายเป็นการโต้ตอบ ปลายนิ้วเรียวจิกทึ้งผ้าปูที่นอน ริมฝีปากเผยอครวญครางด้วยความสุขสม แขนอีกข้างกอดรัดบนแผ่นหลังหนา

เรียวขาเปล่าเปลือยโอบรัดรอบบั้นเอวของร่างด้านบน สะโพกเล็กหยัดขึ้นเป็นการรับแรงสอดใส่ก่อนจะลากแขนขึ้นไปกอดบนบ่ากว้างเพื่อพยุงตัว

ผมจำได้ว่าลุกพรวดขึ้นจากที่นอนแล้วเปิดโคมไฟตรงหัวเตียงเพื่อจะเพ่งมองภาพนั้นให้เต็มตา ในวินาทีที่ไฟสว่างวาบ..ผมก็รู้ตัวว่าสิ่งที่เห็น

..คือภาพหลอน..

จีนยังนอนหลับสนิท ลมหายใจสม่ำเสมออย่างเดิมไม่เปลี่ยน

ผมกุมขมับด้วยความเหนื่อยอ่อน คิดว่าคงเก็บเอาเรื่องที่จีนพูดตอนหัวค่ำมาคิดสะระตะแล้วหลอกหลอนตนเองด้วยความฝัน

“จีน..” ผมพึมพำ ขยับเข้าไปหา จีนยังนอนนิ่ง ลมหายใจแผ่วเบาคล้ายจะจางลงจนหายไปได้ทุกเมื่อ “จีน..” ไม่มีคำตอบรับใดๆ
ผมกอดจีนไว้ด้วยสองแขน แน่นอน..จีนไม่รับรู้การกระทำของผม

“ขอโทษนะ..”


.........................................................................................



หลังจากวันนั้น จีนดูล่องลอย จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เรียกเท่าไหร่ก็แทบจะไร้ปฏิกิริยาตอบกลับ จากเดิมที่เหมือนท่อนไม้อยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งเหมือนซากศพ
   
จีนมักยิ้มอย่างไร้ความหมาย ทั้งดวงตาก็เหม่อมองไปยังกำแพงข้างบ้านบ่อยครั้งจนผมแทบจะอดกลั้นความโกรธเอาไว้ไม่ได้

“จีนเจอแล้ว” เจ้าตัวบอกกับผมในวันหนึ่ง “ผู้ชายคนนั้น..”

ผมไม่เข้าใจอะไรทั้งสิ้น

“แค่ในฝัน..ขอคนที่รักกันจริง”

“มันคือความฝัน” ผมบอกจีน

“ใช่..แต่เรารักกัน”

“พี่บอกว่าจีนแค่ฝัน!”

จีนจงใจมองเมินผม “เขาบอกรักจีน เขาจะมีจีนคนเดียว” ดวงตาคู่เดิมไม่ได้ละไปจากกำแพงสีแดงอิฐนั่นเลย “พี่เอกเห็นมั้ย เขามาหาจีนหลายคืนแล้ว เรามีอะไรกันเพราะความรัก เขาจะไม่ทรยศจีน เขาจะไม่นอกใจจีน”

ผมร้องไห้ คุกเข่าอ้อนวอนให้จีนหยุดพูด

..เพราะผมกลัว..

..อะไรจริง?..และอะไรฝัน?..

“อีกไม่นานหรอก อีกไม่นาน” จีนพึมพำ ท่าทีเหม่อลอย “จีนจะไปอยู่ในความฝันของตัวเอง..เพราะไม่มีความจริงอะไรอีกแล้วในโลกนี้..ที่จะช่วยรั้งกัน”

ภาพหลอนมาหาผมบ่อยขึ้น แม้ไม่ชัดเจนในความเป็นจริง แต่ดูราวจะจับต้องได้ทุกครั้งที่ล้มตัวลงนอน ผมมักสะดุ้งกลางดึก และเห็นจีนกำลังร่วมรักกับผู้ชายในฝันอยู่ข้างกาย ครั้นพอจงใจจะเพ่งมอง ทุกอย่างกลับสลายหายไป
   
ในบางครั้ง ผมเห็นตนเองนอนนิ่ง และมีเด็กหนุ่มไร้ชื่อคนนั้นกำลังควบคุมเกมรักอยู่ด้านบน ร่างบอบบางพลิ้วไหวและมอบความสุขมากมายทางกายให้ จงใจปรนเปรอให้ผมเสพกามจนแทบสำลัก ทั้งที่ควรจะพอใจ แต่ผมกลับเป็นทุกข์อย่างแสนสาหัสเพราะไม่ได้มีเพียงผมคนเดียวที่กำลังร่วมรัก
   
ขณะที่ผมนอนกับคนอื่น ผมเห็นจีนกับคนที่นึกเกลียดชังกำลังรวมหัวทรยศผมอยู่ด้วยไม่ต่างกัน มันใกล้แค่เพียงเอื้อมมือ

..แต่ผมขัดขวางพวกเขาไม่ได้เลย..

ในช่วงเวลาที่ผมกำลังต่อสู้กับความเป็นจริงและความฝัน พยายามแยกแยะให้ออกว่าสิ่งที่เกิดเป็นภาพหลอนหรือไม่ จีนก็เดินเข้ามาหาผม

..และขอเลิกความสัมพันธ์ทั้งหมด..
   
“เขาจะพาจีนไป” จีนบอก “ไม่กลับมาอีก”
   
เราทะเลาะกันในคืนวันฝนตกขณะที่ผมขับรถกลับบ้าน ทั้งที่ผมหันมาเอาใจเพื่อจะให้จีนเย็นลง จีนกลับบอกว่าจะไปเพราะคุณหมอรออยู่ ผมห้ามไว้แต่จีนยังคงดื้อดึง ในเมื่อพูดกันดีๆไม่รู้เรื่อง ผมจึงใช้กำลัง
   
จีนกระชากพวงมาลัยรถด้วยความโกรธ ถนนเปียกลื่นจนล้อไถลไปตามเส้นทางคดเคี้ยว ผมเหยียบเบรคอย่างแรงแต่ทุกอย่างพลันดับวูบ 
   
..ความทรงจำในช่วงนี้ของผมขาดหายไป..

..คิดเท่าไหร่ก็เห็นเพียงแสงสีขาวลางๆ..
   
ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่จีนพูดเป็นความจริงหรือไม่ แต่ในวันต่อมา..และต่อๆมา ผมไม่เคยเจอจีนอีกเลย ผมเที่ยวตามหา ถามคนที่พอจะรู้จักว่าจีนไปไหน
   
..ไม่มีใครบอกผมได้สักคน..
   
ผมมีข้าวของเครื่องใช้บางอย่างที่เคยบ่งบอกว่าจีนอยู่ด้วยกัน แต่ผมกลับไม่มีรูปถ่ายสักใบเดียวที่แสดงถึงความสัมพันธ์ของเรา
   
..ผมไม่รู้ว่ารักจีนหรือเปล่า..แต่ผมนึกถึงจีนตลอดเวลา..
   
..บนหมอนที่ผมหนุน..มีแต่หยดน้ำตาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน..
   
“อะไรที่มีแต่ไม่รักษา..ระวังจะหายไปแล้วเรียกร้องกลับมาไม่ได้อีก”


..

..

..

..

..

..



“พอได้แล้วครับคุณเอกรัตน์” เสียงทุ้มต่ำบอก “หายใจช้าๆ ค่อยๆลืมตาขึ้นมา”
   
ผมรู้สึกว่าร่างกายที่หนักอึ้งในตอนแรกเปลี่ยนเป็นเบาโหวง สัมผัสแรกคือพนักวางแขนเหล็กที่เย็นเฉียบเพราะไอหนาวจากเครื่องปรับอากาศ เปลือกตาที่กะพริบถี่ค่อยๆปรับแสงและรับรู้ได้ว่าตนเองอยู่ในห้องสี่เหลี่ยม
   
ผมนอนอยู่บนเก้าอี้ยาว ถัดไปเบื้องหลังมีใครอีกคนอยู่ด้วย ชายหนุ่มคนนั้นก้มหน้าเขียนอะไรบางอย่างในชาร์จที่วางพาดตัก ปากพึมพำต่อ
   
“วันนี้เราพอแค่นี้ก่อนนะครับ ผมจะนัด..”
   
รูปหน้าคมสันเงยขึ้นพลางยิ้มให้เล็กน้อย ดวงตาสีดำสนิททำให้เลือดในกายผมเย็นยะเยือกคล้ายจะจับตัวเป็นก้อนน้ำแข็ง ความทรงจำบางอย่างผุดวาบคล้ายจะดันตัวขึ้นมาจากก้นบึ้งอันมืดมิด
   
..ผู้ชายคนนั้น!!..
   
..คนที่พรากจีนไปจากผม!!..
   
กว่าจะรู้ตัว ผมก็เอื้อมมือออกไป บีบเค้นลงบนลำคออีกฝ่ายสุดแรง ความโกรธเกรี้ยวทำให้ภาพเบื้องหน้าพร่ามัว เขาพยายามยกแขนขึ้นป้องกัน แต่ผมชกลงบนโหนกแก้มเขาเต็มแรง หยดเลือดสาดกระเซ็นขึ้นเปื้อนบนหลังมือ
   
“เอาจีนคืนมา!” ผมตวาดเขา ดวงตาพร่าเลือนไปด้วยหยดน้ำ
   
..เอาคนรักของผมคืนมา..
   
มีเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นข้างนอก เจ้าหน้าที่หลายคนกรูกันเข้ามาจับตัว ผมทั้งด่า ทั้งตะคอก ขู่อาฆาตและหวังจะเข้าไปทำร้ายเขาอีก..เอาให้สมกับความผิดที่เขากระทำไว้กับผม แต่ก็เท่านั้น ผมถูกจับตัวไปอีกห้อง ผู้ชายตัวใหญ่ถึงห้าคนเข้ามาจับแขนจับขาและกดลงบนช่วงศีรษะ ความเจ็บแปลบแล่นพล่านเมื่อเข็มฉีดยาปักเข้ามาที่ผิวกาย ความรู้สึกง่วงงุนเกิดขึ้นหลังจากนั้น
   
..ผมกำลังเข้าสู่ความฝัน..
   
..ฝันที่มีจีน..


......


จิตแพทย์หนุ่มนวดคลึงลงบนลำคอของตนเองพลางตอบคำถามพยาบาลที่เข้ามาช่วยดูอาการว่าได้รับบาดเจ็บตรงส่วนไหนอีกหรือไม่

“ผมโอเคแล้ว” เขายิ้ม พยักพเยิดบอกผู้ช่วยว่าสภาพอย่างนี้คงรับเคสไม่ได้อีก “ช่วยแคนเซิลรอบบ่ายให้หน่อยได้มั้ย สังขารไม่เอื้อ”

พยาบาลสาวหัวเราะคิกพลางบอกว่าจะจัดการธุระทุกอย่างให้พลางยื่นประวัติการรักษาที่คุณหมอขอมา “คุณเอกรัตน์เป็นอะไรคะ ตอนแรกเห็นดีๆ”

“ผมไปสะกิดความทรงจำบางอย่างของเขาเข้าน่ะ” เขาเปิดดูประวัตินายเอกรัตน์..คนไข้จิตเวชที่ดูแลอยู่ “วันนี้ผมลองให้เขาเล่าเรื่องแบบอิสระ เขาตั้งต้นที่ความสัมพันธ์ของตัวเองกับคนรักและพอจะระลึกเรื่องราวส่วนหนึ่งได้ว่าความสัมพันธ์ค่อนข้างมีปัญหามาโดยตลอด”

“มีปัญหา?”

“เรื่องนอกใจส่วนใหญ่” ชายหนุ่มพลิกเอกสาร “เท่าที่ถามเพื่อนของเขา ที่ผ่านมาเป็นผู้หญิง แต่รายล่าสุดเป็นผู้ชาย แฟนเขาขอเลิกเลยทะเลาะกัน”

“เกี่ยวกับอุบัติเหตุคราวนั้นด้วยใช่มั้ยคะ”

เขาพยักหน้า คนไข้รายนี้ถูกแอดมิตในคืนวันฝนตกโดยมีเขาเป็นคนพาส่งเนื่องจากเป็นคนพบรถยนต์ที่คุณเอกรัตน์ขับมาประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำอยู่ข้างทาง เขาช่วยคุณเอกรัตน์ออกมาได้ก่อน ฝ่ายนั้นยังพอมีสติที่จะตะโกนบอกเขาว่า คุณจีน..คนรักของตนติดอยู่ด้านใน

เขากลับเข้าไปช่วยได้ไม่ทันเพราะร่างของคุณจีนติดอยู่ใต้ซากเหล็กฝั่งที่นั่งข้างคนขับที่พังไปทั้งแถบ จังหวะนั้นสะเก็ดไฟเกิดลุกขึ้น แรงระเบิดทำให้เขาต้องพลิกหนีลงไปในพงหญ้าที่ต่ำกว่า คุณเอกรัตน์จึงได้เห็นคนรักของตนเองเสียชีวิตต่อหน้าต่อตาโดยมีกองเพลิงลุกท่วมรถทั้งคัน

เขาเองยังจดจำได้..ถึงมือเล็กๆข้างนั้นที่ไขว่คว้าขอความช่วยเหลือ

..กับดวงตาตัดพ้อ..ที่ไม่ว่าจะนานเท่าไหร่ก็ไม่มีทางลืมได้ลง..

คุณเอกรัตน์ไม่ได้สติถึงสองวันเต็ม เมื่อฟื้นขึ้นมาก็เรียกหาแต่คนรักของตนเอง หลังจากนั้นจึงทราบข่าวว่าคุณจีนเสียชีวิตแล้ว ทางโรงพยาบาลจำเป็นต้องรอให้คุณเอกรัตน์ไปรับศพเนื่องจากคุณจีนไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน

ทันทีที่ได้เห็นสภาพศพถูกเผาจนไหม้เกรียมคุณเอกรัตน์ก็ล้มทั้งยืน ประวัติการทำฟันเป็นตัวยืนยันว่าร่างงอก่องอขิงที่เห็น..ครั้งหนึ่งเคยเป็นคนรักตน

เมื่อการฌาปนกิจผ่านพ้นไป คุณเอกรัตน์เริ่มมีอาการทางจิตหลังอยู่บ้านเพียงลำพังได้ระยะหนึ่ง คือมีอาการซึมเศร้าและเห็นภาพหลอน ไม่สามารถรับรู้วันเวลา ซ้ำยังมีความทรงจำที่ไม่ปะติดปะต่อ

เขาเป็นคนรับคุณเอกรัตน์เข้ามาในแผนกจิตเวชเมื่อเพื่อนบ้านแจ้งมาว่าคุณเอกรัตน์มีท่าทางไม่ปกติ มักจะพูดพึมพำอยู่คนเดียวและส่งเสียงร้องไห้เอะอะในยามค่ำคืน มีการแสดงกิริยาคล้ายพูดคุยกับใครบางคนอยู่ตลอด

“แล้วทำไมเขาต้องทำร้ายคุณหมอด้วย”

“มันมีสองเหตุผล หนึ่ง..การที่ผมช่วยคุณจีนออกมาจากรถไม่ได้เท่ากับว่าผมทำให้เขาต้องสูญเสียคนรักไป ถึงเขาจะลืมเรื่องที่เกิดแต่ความรู้สึกยังคงอยู่” ร่างสูงถอนหายใจ ความรู้สึกย่ำแย่ที่ไม่อาจช่วยเหลือคุณจีนได้ยังติดอยู่ในอก “และสอง..ผมคือผู้ชายในฝันของคุณจีน” เขายื่นชาร์จคนไข้อีกรายให้ดู

“เมื่อต้นปี..คุณจีนมีประวัติรักษา Hypersomnia แต่ดูเหมือนจะมีอาการทางจิตร่วมด้วยเลยถูกส่งมาที่แผนกของเรา ผมให้เขาเล่าเรื่องเหมือนที่ทำกับคุณเอกรัตน์ เลยพอจะรู้ความสัมพันธ์ของพวกเขาอยู่บ้าง ดูเหมือนว่าคุณจีนพยายามหลบเลี่ยงความจริงด้วยการสร้างความฝัน ที่สำคัญคือ..อะไรบางอย่างในตัวผมทำให้คุณจีนประทับใจแล้วเกิด erotomanic delusion คิดไปว่าผมกับเขารักกัน ผมเลยต้องยุติการรักษาและส่งเคสต่อให้จิตแพทย์รายอื่น ผมคิดว่าคุณจีนคงไปเล่าเรื่องของผมให้คุณเอกรัตน์ฟัง บวกกับวันนี้ผมไปสะกิดแผลในใจของคุณเอกรัตน์เข้า เขาเลยปะติดปะต่อเรื่องขึ้นมาแล้วควบคุมตัวเองไม่ได้”

“แล้วเรื่องเพื่อนบ้าน..” เธอถาม

“การเล่าเรื่องโดยอิสระ เขาจะหยิบประสบการณ์ตรงไหนมาพูดก็ได้ อย่างบ้านที่เขาเล่าก็ร้างมาเป็นสิบปีแล้วครับ ไม่เคยมีใครเข้าไปอยู่หรือซื้อต่อ ถ้าให้ตีความ การมาของเพื่อนบ้านคนใหม่ที่เป็นจิตแพทย์ก็คือการที่ผมก้าวเข้าไปเป็นผู้ชายในฝันของคุณจีนและทำให้พวกเขามีปัญหากัน คุณเอกรัตน์เลยเริ่มมีอาการหวาดระแวง เห็นภาพคุณจีนกับผู้ชายอีกคน” เขาอธิบาย “ในเคสนี้ คุณเอกรัตน์นอกใจคนรักมาโดยตลอดแต่เขารู้สึกผิดไม่เท่ากับครั้งล่าสุดที่เขาไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนอื่นทั้งที่เคยสัญญาแล้วว่าจะไม่ทำ พอคนรักเขาขอเลิกขึ้นมาเลยทะเลาะกันรุนแรง แล้วก็เกิดอุบัติเหตุตอนขับรถอย่างที่ว่า ที่เขาจำเรื่องตอนรถคว่ำไม่ได้เพราะกลไกทางจิตที่เกิดคือการเก็บกดเรื่องที่ทำให้เขารู้สึกผิดมากลงไปในระดับจิตใต้สำนึก เขาจำได้และจำไม่ได้เป็นบางเรื่อง อย่างเรื่องแฟนเสียชีวิตไปแล้ว เขาจำไม่ได้เลย แต่เรื่องราวก่อนหน้า เขาจำได้เป็นห้วงๆ”

“เท่าที่อ่านชาร์จดู” เธอว่า “เขาพูดเกี่ยวกับความฝันเยอะมาก”

“ความฝันเป็นตัวที่ช่วยเยียวยาจิตใจในขณะที่เราหลับ ในความฝัน เราจะเป็นอะไรก็ได้และโลกที่เราอยู่จะเป็นอะไรก็ได้เหมือนกัน ในบางครั้งความฝันก็เหมือนภาพหลอนหรือภาพลวงตา คุณจีนเองก็เลือกจะหลบเลี่ยงความจริงด้วยการนอนหลับแล้วฝันไป คนไข้ที่เป็น Hypersomnia ค่อนข้างจะเหมือนน้ำที่นิ่งสนิท เฉื่อยชา ขาดสมาธิจนคนรอบด้านมองว่าเป็นพวกน่าเบื่อ บวกกับคุณเอกรัตน์เองก็ชอบแสวงหาสิ่งแปลกใหม่เสมอ ความสัมพันธ์ของพวกเขาเลยไม่ราบรื่นเท่าไหร่ จริงๆการคบกันของพวกเขาแทบจะเข้ากันไม่ได้เลยทีเดียว”

เธอพยักหน้า “แล้วเคสคุณเอกรัตน์จะทำยังไงต่อคะ”

ชายหนุ่มเดินไปที่ห้องพักผู้ป่วย มองผ่านกระจกใสบานเล็กไปยังเตียงคนไข้สีขาวโพลน “ต้องรอดูกันต่อ ผมจะพยายามช่วยเหลือเขาให้มากที่สุด..”

เสียงเพลงแผ่วเบาดังเล็ดลอดออกมา

When I want you..in my arms

when I want you..and all your charms

Whenever I want you, all I have to do

“is dream..dream..dream..” คุณเอกรัตน์นอนนิ่ง สายตาจับจ้องที่ฝ้าเพดาน ริมฝีปากขยับพึมพำ

In the night and I need you to hold me tight

whenever I want you, all I have to do is dream

“..ถึงแม้ว่าจะต้องปลุกเขาขึ้นมาจากความฝันก็ตาม”

..I need you so, that I could die, I love you so..

..and that is why..whenever I want you..

..all I have to do..is ‘dream’..






FIN



เป็นคุณหมอที่ไม่มีชื่อ 5555+ แต่แอบชอบเล็กๆ เอาไว้จะให้บททีหลังเมื่อนึกขึ้นได้นะ อิอิ
ขออนุมานว่าคุณหมออยู่ใน Wrath ด้วยก็แล้วกัน  :hao3:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-05-2013 18:01:11 โดย nigiri-sushi »

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
เรื่องนี้ผูกเรื่องได้เยี่ยมมากเลยค่ะ

PAAPAENG~

  • บุคคลทั่วไป
อ้าว!
คุณหมอของพี่กุ้งหรอกหรอ!
ฮาาาาาาาาาาาาาาาาาา

ตอนอ่านเรื่องนี้ครั้งแรกมันบีบหัวใจไม่เบาเลยนะ
อ่านกี่ครั้งก็ยังบีบบบบบบบ TwT

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
อ่านแล้วแบบสงสารทุกคนเลย
คุณหมอคือคนที่รู้เรื่องทุกอย่าง ฮู้ยยยยย

ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2
โรคจิตเต็มๆเลยตอนนี้  :hao5:

ออฟไลน์ Naenprin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-1
 :mew3:

รอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
อ่านตอนแรก คุณหมอลึกลับล่องลอยมาก
ก็เพราะอยู่ในห้วงนึกคิดของคนไข้นี่เอง

บางทีก็อยากหลบไปอยู่ในฝันหวานไม่อยากตื่นมาเจอความจริงเหมือนกัน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Mookkun

  • magKapleVE
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 637
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
    • Consensual free relationships
สุดๆ
;______;//

:pig4:

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1691
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
ตอนล่าสุดอ่านแล้วร้องไห้เลย เศร้ามากอ่ะ

tewava

  • บุคคลทั่วไป
"I Want to Hold Your Hand"  ตอนที่อ่านเรื่องนี้ กำลังนั่งในรถทัวร์สายหนึ่งกำลังจะเดิน

ทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัด ตอนที่พี่ใหญ่โดนทำร้ายและพยายามจะช่วยกันย์

น้ำตาเราเริ่มไหล ตอนอ่านจบเราร้องไห้เลยคิดถึง หมาที่บ้านมาก

คุณแพร แต่งเรื่องนี้ได้เศร้าจริงๆ


ออฟไลน์ ratnalin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
จบแบบบสะเทือนตับมากค่ะ เราอ่านไปร้องไห้ไป ตอบจบนี่แบบไม่ไหวแล้วอ่ะ สงสาร
อยากบอกว่าอินมาก คุณแพรแต่งเก่งมากๆค่ะ

ออฟไลน์ naamsomm

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
สนุกทุกเรื่องเลยค่ะ
ยิ่งเรื่องสุดท้าย
มันสุดยอดมากกกกกกกกก

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
อ่านแล้วชอบทุกเรื่องเลยจ้า
ทำเสียน้ำตาไปหลายหยดเหมือนกันในบางตอน
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆค๊าบบบบบ ^o^

ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page



ลงใหม่หน้า 4 จ้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-06-2015 22:03:46 โดย nigiri-sushi »

ออฟไลน์ Naenprin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-1
Re: [เรื่องสั้น - Hidden Love] Foolish Beat [pg.3, 11/7/56]
«ตอบ #77 เมื่อ11-07-2013 01:44:25 »

ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาสินะ

ออฟไลน์ naamsomm

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
Re: [เรื่องสั้น - Hidden Love] Foolish Beat [pg.3, 11/7/56]
«ตอบ #78 เมื่อ11-07-2013 04:15:10 »

ไม่รู้จะสะใจหรือสมน้ำหน้า(???)คุณเจ้านายดี
ควรจะโดนซะบ้าง
แต่คุณเลขาน่าสงสารสุดๆ
ทำงานตลอด  24  ชั่วโมง   เพราะความรักแท้ๆ

ออฟไลน์ Mookkun

  • magKapleVE
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 637
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
    • Consensual free relationships
Re: [เรื่องสั้น - Hidden Love] Foolish Beat [pg.3, 11/7/56]
«ตอบ #79 เมื่อ11-07-2013 14:23:15 »

นัทน่าสงสารแหะ

คุณเจ้านายใจร้ายเป็นบ้าเลยย
:pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [เรื่องสั้น - Hidden Love] Foolish Beat [pg.3, 11/7/56]
« ตอบ #79 เมื่อ: 11-07-2013 14:23:15 »





ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: [เรื่องสั้น - Hidden Love] Foolish Beat [pg.3, 11/7/56]
«ตอบ #80 เมื่อ11-07-2013 17:58:20 »

ถ้าเจ้าตัวเขารักสนุกอย่างนั้นก็ไม่ต้องไปห่วงเขาหรอก
ได้บทเรียนมาไม่น้อยแล้วยังไม่สำนึก
เอ๊ะ หรือเพราะทุกครั้งนัทจัดการให้หมดเลยได้ใจ
ลองไม่มีนัทสิ อาจคิดได้

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
Re: [เรื่องสั้น - Hidden Love] Foolish Beat [pg.3, 11/7/56]
«ตอบ #81 เมื่อ11-07-2013 18:06:13 »

คุณเลขน่ารักจังเลยยยยยยย
มีคนดีอยู่ข้างๆก็ไม่เคยแลเลยใช่มั้ย?
เป็นเอดส์ไปเถอะแกรรรรรรรร

ออฟไลน์ pockypocky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 179
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: [เรื่องสั้น - Hidden Love] Foolish Beat [pg.3, 11/7/56]
«ตอบ #82 เมื่อ11-07-2013 19:29:08 »

ชอบ Hurt Love ทุกเรื่องเลยยยยย อ่านแล้วมันจี๊ดดดสุดๆ

อีกเรื่องที่ชอบมากๆคือ เรื่องที่นายเอกย้ายเข้าหอพักใหม่ อินไปถึงไขสันหลัง

เรื่องล่าสุดก็สนุกค่ะ แต่สงสารคุณเลขาจัง

แล้วมาต่อไวๆนะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ asosiz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: [เรื่องสั้น - Hidden Love] Foolish Beat [pg.3, 11/7/56]
«ตอบ #83 เมื่อ19-08-2013 13:08:46 »

1 เดือน 5 วันที่รอ

 :sad4:

เมื่อไหร่จะมาต่อกันนะ

tewava

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น - Hidden Love] Foolish Beat [pg.3, 11/7/56]
«ตอบ #84 เมื่อ19-08-2013 21:49:05 »

อยากให้ นัท หนีไป เจ้านายจะได้รู้สึกซะบ้าง

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1691
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
Re: [เรื่องสั้น - Hidden Love] Foolish Beat [pg.3, 11/7/56]
«ตอบ #85 เมื่อ09-11-2013 14:12:57 »

ค้างคากันขนาดนี้ มาต่อเถอะค่า

ออฟไลน์ pipoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 326
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
    • https://twitter.com/dokpeepo
Re: [เรื่องสั้น - Hidden Love] Foolish Beat [pg.3, 11/7/56]
«ตอบ #86 เมื่อ24-11-2013 13:05:01 »

มาต่อเดียวนี้้้้้ :z3: :katai1:

ออฟไลน์ happy-jigsaw

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
Re: [เรื่องสั้น - Hidden Love] Foolish Beat [pg.3, 11/7/56]
«ตอบ #87 เมื่อ10-02-2014 02:16:27 »

พี่ปั้นใจร้ายยยยย ไม่ยอมมาต่อ  :hao5: :hao5:

benji

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น - Hidden Love] Foolish Beat [pg.3, 11/7/56]
«ตอบ #88 เมื่อ22-02-2014 17:41:46 »

 :katai4: :katai4: :katai5: :ling1:
แล้ว นัท จะสมหวัง กับเจ้านาย รึป่าว ข้าวปั้น

สงสาร พี่ใหญ่ สุนัขผู้ซื่อสัตย์

ร้องไห้ไปกับ ปอ  ที่ถูกเพื่อนสนิทแย่งแฟน ทั้งๆที่หวังดีให้มา อยูด้วยตอนที่เดือดร้อน

หลอนมาก กับ ห้องเช่า ชั้นสี่

ฟินฝุดๆ :heaven กับคุณไปร กับ หนุ่มน้อยบ้านหลังสีฟ้ o13
 :pig4:

ปอ.ลิง  อย่าลืมมาต่อ เรื่องของ นัท ให้น้าาาาาาาาาาาา  :mew1:

ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2
Re: [เรื่องสั้น - Hidden Love] Foolish Beat [pg.3, 11/7/56]
«ตอบ #89 เมื่อ04-03-2014 13:20:02 »

รอติดตามนะครับ มาให้ไวเลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด