คุณหมอ นิยาย
คุณเชื่อในรักแรกพบมั้ย?
น้ำเน่า....
หากใครสบถคำนั้นในใจหรือจะสบถออกมาเป็นคำพูด ขอบอกไว้เลยว่าคุณคิด..ถูก!
น้ำเน่า...โคตรน้ำเน่า ..ยิ่งกว่าน้ำเน่า...
หากแต่ว่ามันเกิดขึ้นกับฉัน.... ถึง2ครั้ง
เกือบ30ปีก่อน...
.
.
.
.
.
.
.
ฉัน ‘ นิยาย ’ เป็นชื่อที่แปลกมากสำหรับ30ปีที่แล้ว ในขณะที่เด็กรุ่นเด็กกันชื่อ หมู หมา กา ไก่ นก แมว ปู ปลา ให้เลิศหรูหน่อยแบบคนรวยๆก็คงชื่อ ประมาณ ไพลิน พลอย มณี หรืออะไรที่มันสวยงาม แต่ประเด็นไม่ใช่ชื่อฉัน แต่เป็น ‘เขา’ คนที่ยื่นอยู่ตรงหน้าฉันเมื่อ30ปีก่อน...
หน้าคณะ.. ‘ สัตวแพทย์ศาสตร์’
หน้าคณะที่ต้องเดินผ่านทุกวันเพื่อไปเรียนแลปฟิสิกส์ที่คณะวิทยาศาสตร์
วันนั้น.....วันวาเลนไทน์ ดอกไม้..ขนม อาจจะไม่เยอะเหมือนสมัยนี้แต่ ก็ถือว่ามากพอสมควร
รวมทั้งหนึ่งใน ‘หมอหมา’ หน้าตาดีที่ยื่นดอกกุหลาบแรก..ในชีวิต(ที่มีผู้ชายมาให้) ส่งมาให้ฉัน ทำไมถึงรู้ว่าเป็นนักเรียนสัตวแพทย์? เพราะเสื้อเขามันปักอยู่
‘ปฏิญาณ..’
“ ให้ฉัน?” ฉันถามเขาอย่างงงๆ เขายื่นให้พร้อมพร้อมรอยยิ้มแบบอายๆ ...
น่ารัก~
ความรู้สึกแรกที่ฉันสัมผัสได้หลังจากที่สบตาเขา ผู้ชายตัวสูง ผมสั้นที่อยู่เกือบระต้นคอ ปากอมส้มนิดๆ แต่หน้าแดงมาก เพราะเขาอายมั้ง?
ความรู้สึกที่สอง..... ‘ชอบ’
และสาม...ประทับใจ
“ คะ..ครับ”
“ อ่อ ค่ะ..ขอบคุณมากนะค่ะ ว่าแต่คุณชื่อ...”
“ เอ่อ...พี่ชื่อติ เรียนสัตตะปี3 ”
ฉันยังไม่ทันถามจบประโยคแต่เขาก็รีบตอบกลับมาแล้ว ทำเอาฉันเละเพื่อนๆที่ยื่นอยู่ใกล้ๆขำน้อยๆไปตามๆกัน
“ ฉันชื่อนิ...”
“ พี่รู้แล้วครับ น้องชื่อนิยาย แพทย์ศาสตร์ปี1 พี่เอ่อ...”
“ ค่ะ?”
แอบอึ้ง? เขารู้จักเราได้อย่างไร... เด็กปีหนึ่งไม่ได้ใส่อะไรที่บ่งบอกคณะของตัวเอง และที่สำคัญคือชื่อ..นิยาย รู้ได้ไงว่ะ ?
“ พี่คือ..เอ่อ..”
“ ?? ”
“ พี่...เอ่อ...คือ อา...เอิ่ม...เอ่อ..พี่ ”
เพื่อนของเขาลุ้น เพื่อนฉันก็ลุ้น รวมถึงฉันเอง..ลุ้นว่า..เขาจะบอกอะไร
“ พี่ติค่ะ เรามีเรียนแลปนะค่ะ ไว้อีก2ชั่วโมงมารอที่หน้าคณะสิค่ะ แล้วค่อยคุยกับนิยายใหม่ ถ้าจะอ้ำอึ้ติดอ่างแบบนี้ ”
เพื่อนของฉันคงทนไม่ไหวเลยดึงตัวฉันออกมาก่อน พร้อมพูดให้เขาได้ยิน
ฉันเดินมาห่างจากเขาเกือบร้อยเมตร อีกแค่ ไม่กี่เมตรก็จะพ่นเขตของคณะสัตวแพทยศาสตร์แล้ว ถ้าไม่คิดว่ามีเสียงหนึ่งที่ตะโกนไล่หลังมาอย่างดังจนทำให้ฉันต้องหยุดขาตัวเองไว้
“ พี่ชอบนิยาย ให้โอกาสพี่ได้มั้ย! ”
เงียบ......
ขาฉันแข็งจนก้าวไม่ออก .... เพื่อนของฉันเอาแขนมาสะกิดแบบล้อๆ ฉันเพิ่งระลึกได้ว่า... หน้าตัวเองเริ่มร้อนขึ้นมา มีเสียงโห่แซวจากเพื่อนๆของเขา และขำพูดล้อจากเพื่อนของฉัน
“ ได้มั้ยครับ!?”
เขาตะโกนไล่หลังมาอีกที่ ฉันต้องหันหลังกลับไปมอง ในมือกำดอกกุหลาบแน่น เพราะมันไร้หนาม หน้าฉันคงจะแดงมาก
ฉันตะโกนคำๆหนึ่งที่ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า...มันทำให้ฉันได้พบกับคนที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับฉันตลอดไป...
.
.
.
.
‘ ค่ะ’
วันนั้น...จำได้ว่า แลปฟิสิกส์ที่ฉันไม่ชอบ...มันเปลี่ยนไปแล้ว...
.
.
.
.
.
.
.
ฉันยิ้ม..ยิ้มอยู่คนเดียว..ทั้ง2ชั่วโมงของคาบแลป
ความรักแรกพบครั้งที่สองเกิดเมื่อ 21 ปีก่อน
ฉันไม่เคยเห็นหน้าเด็กคนนี้มาก่อน...เขาเป็นคนแปลกหน้าที่ใช้ชีวิตอยู่ในตัวฉันมาตลอด 9เดือน...
‘ นิทาน’
เทวดาน้อยๆ ที่เกิดมาจากความรักแรกพบครั้งนั้น กับ ‘ เขา’ หรือหลังจากที่เราแต่งงานกันฉันมักเรียกเขาว่า ‘ติ’ เฉยๆ
ตอนที่ฉันรู้ผลตรวจว่ากำลังตั้งท้อง ติเห่อลูกมาก
ติบอกว่าอยากเป็นคนตั้งชื่อลูก
เขาบอกว่าอยากมีลูกสาว จะได้ขี้อ้อนๆ น่ารักๆ
ฉันบอกว่าอยากมีลูกชาย จะได้หล่อๆ...เหมือนเขา(แต่ไม่ได้บอกนะ เดี๋ยวเขาหลงตัวเอง)
เขาบอกว่าจะให้ชื่อลูกว่า ‘อธิฐาน’
ฉันบอกว่า อยากให้ลูกชื่อ ‘ อุดมการณ์’
เขาบอกว่าผลอุลตร้าซาวเป็นลูกสาว
แต่ฉันเป็นหมอเลยบอกไปว่าเป็นลูกชายแน่ๆ เพราะหลายรายแล้วที่บอกว่าลูกสาวแต่ออกมาเป็นชาย
วันนั้นเราเถียงกันจนเหนื่อย จนฉันแพ้ท้องไปหลายครั้ง ติก็เหมือนกัน เขาแพ้ท้องแทนฉัน...
เราสรุปกันว่า...ไม่ว่าลูกจะเป็นเพศอะไร เราทั้งสองพร้อมจะรับเสมอและที่สำคัญ เราไม่อยากเลือกเพศให้ลูก เราอยากให้เขาเลือกเพศเอง ไม่ว่าจะหญิงชาย...
หรือนอกจากนี้
นิทาน ชื่อนิทาน เพราะติตั้ง
ประณิธาน ฉันตั้ง แต่ว่าเราตกลงกันว่าถ้าลูกโตแล้วถามว่าใครตั้งชื่อให้บอกลูกสลับกัน
เพราะ ติเป็นผู้ชายแต่ตั้งชื่อลูกได้น่ารักมาก ส่วนฉันตั้งชื่อลูกได้แมนมาก
แต่เจตนาการตั้งชื่อของเราเหมือนกันคือ...ตั้งในคล้ายกับชื่อของอีกคน
‘ประณิธาน’ กับ ‘ปฏิญาณ’
‘นิทาน’กับ ‘นิยาย’
เทวดาน้อยกำเนิดมาและโตมาด้วยความรักของฉันกับติ เราตั้งใจเลือกโรงเรียนอนุบาลและประถมที่ดีให้เขา อาจจะไม่ดีที่สุดแต่ฉันมั่นใจว่าดีสำหรับเขา
นิทานสอบเข้าโรงเรียนมัธยมชื่อดังของจังหวัดได้ ถึงจะไม่ได้ท็อปหรืออะไร แต่ฉันภูมิใจในตัวเขา เขาทำตัวดีเป็นเด็กดีมาตลอด มีแค่ช่วงหนึ่งที่เขาเพ้อคิดว่าตัวเองมองเห็นด้ายแดง...
ไม่ใช่ว่าคนเป็นแม่คนนี้จะไม่เชื่อ
แต่..มันดูผิดหลักทางการแพทย์ไปหน่อยแต่ฉันก็เชื่อลูกนะ....
ความจริงเรื่องมันเริ่มหลังจากที่ฉันคิดว่าอะไรมันแปลกไปหน่อย หลังจากที่ลูกตกบันไดที่โรงเรียน ทั้งๆที่ควรจะฟื้นแต่กลับหลับนานเกินไป
ก่อนหน้าวันเกิดนิทาน1วัน มีเด็กผู้ชายหน้าตาดีทีเดียวมาบอกฉันว่าเขาเป็นคนเตะบอลไปโยนนิทานทำให้นิทานตกบันได ฉันเข้าใจว่ามันเป็นอุบัติเหตุ แต่...
มีบางอย่างที่แปลกไป..ในแววตาเด็กคนนั้น แสดงความรักใคร่ พอๆกับแววตาที่ติมองฉันในวันนั้น ที่ฉันจำได้...
ลูกของฉันกำลังมีผู้ชายมาชอบ....อืม...จะว่าแปลกก็คงไม่แล้วล่ะสำหรับสมัยนั้น เพราะคนที่เรียกว่า ‘เกย์’น่ะ มันเริ่มมีตั้งแต่สมัยฉันเรียนแพทย์แล้ว ฉันเข้าใจและไม่ว่าอะไร รวมถึงติเองก็น่าจะรู้
ฉันประทับใจเด็กนั้นหลายอย่างรวมทั้ง บทสนทนาแรกของเขา
‘ สวัสดีครับคุณหมอทั้งสอง ผมชื่อ อุดมการณ์นะครับ’
อุดมการณ์ชื่อที่ฉันชอบ และเคยคิดจะตั้งชื่อนี้ให้ลูก....
การณ์เป็นเด็กแม้ว่านิทานจะยังไม่ฟื้นแต่เขาก็พยายามจะมาดูแลและเฝ้านิทานแทนฉันที่ต้องเข้าเวรส่วนติที่ต้องกลับไปทำงานที่ฟาร์มบ่อยๆ(ติทำฟาร์มค่ะ เพราะเขาจบด้านสัตวแพทย์มา) การณ์อยู่เฝ้าจนเขาต้องกลับบ้านที่กรุงเทพ
เพียงการณ์กลับได้ไม่กี่ชั่วโมง.... นิทานก็รู้สึกตัวแต่ก็หลับไปอีก
เช้าวันนั้นเป็นวันเกิดนิทาน นิทานฟื้นแล้ว .. ฉันอยากให้ลูกรู้จักกับการณ์ การณ์เป็นคนดี ฉันสัมผัสได้
ฉันโทรหาการณ์พยายามบอกเป็นนัยๆว่านิทานฟื้นแล้ว แต่...เขาตอบกลับมาว่า
‘ ผมก็อยากไปเยี่ยมนะครับ แต่ตอนนี้ผมกำลังเตรียมขึ้นเครื่องไปเรียนต่อที่ออสเตรเลีย ’
มันเป็นโอกาสอันเลวร้ายของนิทานเองแหละที่ไม่ได้เจอคนดีๆแบบการณ์
แต่เมื่อวานก่อนนี้เอง ที่ฉันได้เจอการณ์อีกครั้ง แต่...ที่โรงพยาบาลนะ เพราะการณ์ประสบอุบัติเหตุ ส่วนนิทานเห็นเหตุการณ์จึงไปช่วย ฉันไปเยี่ยมการณ์เช้าอีกวัน แต่กลับต้องไปเยี่ยมลูกตัวเองแทน เพราะเป็นลม ฉันฝากอาหารที่ตั้งใจทำให้ลูกเป็นข้าวเช้าไว้กับพยาบาล เพราะอาหารของฉันกลายเป็นของเยี่ยมคนป่วย
เฮ้อ.... อุตส่าห์ได้เจอกันแล้วแท้ๆ
ขณะที่เตรียมจะกลับไปเข้าเวรที่โรงพยาบาลเอกชนใกล้ๆ ฉันเจอกับคุณวาดหวังแม่ของการณ์ เธอเล่าเรื่องราวให้ฉันฟังว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันจึงเล่าเรื่องของฉันบ้างว่าฉันรู้จักลูกชายของเธอแล้ว แล้วฉันก็กลับไปเข้าเวร
บ่าย2กับอีก10นาที โทรศัพท์ในห้องพักแพทย์ก็ดังขึ้น ปลายสายขอเรียกสายฉัน
ฉันตอบไปว่า ฉันกำลังถือสายอยู่
ปลายบอกว่าเขาคือคุณวาดหวัง ที่โทรมาคือจะแจ้งว่า ลูกชายฟื้นแล้ว
ฉันแสดงความยินดี....
เธอบอกว่าจะให้ฉันคุยกับการณ์ เพราะเขามีเรื่องอยากคุยกับฉัน
ฉันรอสายสักพัก คราวนี้เป็นการณ์ ประโยคแรกในรอบ7ปีที่เขาทัก ฉันหน้าบานได้อีกครั้ง....
“สวัสดีครับ ‘คุณแม่’ ”
ฉันหวังว่า โอกาสครั้งนี้จะไม่หลุดไปจากมือลูกฉันเหมือน7ปีที่แล้ว
แม่ของฉันเคยบอกฉันว่า...คนเป็นแม่ทำเพื่อลูกเสมอ
ฉันเชื่อหมดหัวใจ....
การณ์กับฉันคุยกันนานพอสมควร ปลายสายของการณ์ขอตัวก่อน ฉันไม่ได้ว่าอะไร แต่ขณะที่จะวางสายฉันร้องห้ามการณ์ไปก่อน...และบอกเจตนาเดิมที่ยังมั่นคงเหมือน7ปีก่อนที่ฉันไม่มีโอกาสได้พูด...
.
.
.
.
.
‘ แม่ฝากดูแลนิทานด้วยนะลูก...การณ์’
----------------
วู้ๆๆๆๆ กว่าจะปั่นเสร็จ
555 เจอคำผิด สะกิดด้วยนะ><
ป.ล. ช่วงนี้ ภัสมิขออัพเรื่องนี้ต่อไปสักหลายวัน เพราะมันจะจบเเล้ว เเต่วันศุกร์ ภัสจะเขามาเปิดเรื่องใหม่นะค่ะ
เตรียมตัวไปอ่านกันได้เลย 555
สำหรับ
คุณmira>> ภัสออกตัวไว้ก่อนว่าไม่ค่อยรู้เรื่องนี้เท่าไร เพราะภัสใช้ภาษาพูดมากว่า คือว่าปกติภัสชอบใช้คำว่าหม่อม จนติดปากเลยลามมาถึงนิยาย เเต่ภัสไม่ขอเเก่ตอนต้นนะค่ะ เเต่ตอนต่อไปสัญญาว่าจะไม่ผิดอีก 555 ขอโทษที่ทำให้อรรถรสในการอ่านลดลงเพราะการใช้ภาษาผิด
ภัส+เป็ดให้ทุกคนที่เเก้ให้ภัสค่ะ
----------
สำหรับคืนนี้... ฝันดี...นะค่ะ