พิชญถูกส่งตัวกลับมาที่บ้านพฤทธาการ เด็กหนุ่มมึนงงกับสถานการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้นอีก พาตัวเขามาแล้วก็ส่งกลับไป เห็นเขา
เป็นตัวอะไรกันแน่ ด่าอเล็กซานเดอร์ว่าทำอะไรตามอำเภอใจจนเคยตัว ไม่มีใครอยู่กับคนอย่างเขาได้หรอกแบบนี้
เมื่อกลับมาถึงบ้านพิชญก็ออกอาการฮึดฮัดจนเปียวต้องเอ่ยถามว่าเกิดอะไรขึ้น คนเป็นน้องเลยพาลพาโลเอากับพี่ชาย
“เพราะนายนั่นล่ะเปียว เพราะนายไม่ยอมบอกให้มิสเตอร์แอลช่วยฉัน ฉันเลยต้องถูกจับตัวไปทำเหมือนเป็นของเล่นแบบนี้
โอ๊ย! เจ็บใจโว้ย!!”
เด็กหนุ่มร้องอย่างเหลืออด หลายครั้งหลายหนที่ต้องตกเป็นเบี้ยล่างของคนนั้น ทั้งที่เขาอยากจะเริ่มต้นใหม่กับใครสักคน แต่ก็
ต้องถูกดึงกลับไปในวังวนของคนๆนั้นอีกจนได้ แย่ที่สุด
“พี่ขอโทษ”
เปียวเอ่ยบอกน้องอย่างรู้สึกผิด ไม่รู้ว่าน้องต้องพบเจอกับอะไรมา แต่ดูจากลักษณะท่าทางของน้องชายแล้วมันคงไม่น่าพิสมัย
สักเท่าไหร่ พิชญถอนใจหนักหน่วงก่อนบอก
“ช่างมัน ปล่อยมันไป ฉันไม่อยากคิดถึงมันอีกแล้ว เพราะยังไงก็คงไม่ได้เจอกันแล้วล่ะ”
พูดจบเด็กหนุ่มก็ก้าวเข้าบ้านไปทันที เปียวมองตามน้องชายแล้วงงว่าน้องพูดถึงใคร เมื่อเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาอลันก็ดูเหมือนอีก
ฝ่ายจะรู้อะไรบางอย่างแต่ไม่ยอมบอก เปียวจึงคาดคั้นจนได้คำตอบมาว่าอเล็กซานเดอร์ พี่ชายต่างมารดาของอลันจับตัวพิชญ
ไป และทั้งคู่ก็มีความสัมพันธ์บางอย่างที่ซับซ้อน อลันเองก็ไม่แน่ใจว่าที่พี่ชายของตนเองทำอยู่นี้เพราะอะไร เพราะแค่นึกสนุก
เพราะมีใจ หรือเพียงแค่เพราะหวงของ…
++++++++++++++
“แกว่าไงนะ เจ้าคม!!”
เสียงตวาดก้องดังมาจากในห้องคุณปู่ของคม เจ้าของเสียงตวาดนั้นหอบหายใจหนัก สีหน้าดูเครียดขึ้ง มือเหี่ยวย่นกุมหน้าอก
ด้านซ้ายของตนเอง คมก้าวเข้าไปหาหมายจะช่วยพยุงคุณปู่ไปนั่งพัก แต่ท่านกลับปัดมือหลานชายอย่างเขาออก คุณย่าคู่ชีวิตผู้
แสนดีจึงเป็นคนพาท่านไปนั่งที่เก้าอี้แทน เมื่อท่านนั่งลงแล้วคมจึงคุกเข่าลงกับพื้น คุณปู่มองหลานชายด้วยหางตา รู้สึกโกรธจน
ความดันจะขึ้น
“ผมรักฮิโระครับปู่ ถึงยังไงผมก็เลิกกับฮิโระอย่างที่ปู่ต้องการไม่ได้”
คมเอ่ยบอกคุณปู่ด้วยน้ำเสียงแฝงแววเป็นกังวล อยากให้ผู้มีพระคุณยอมรับความรักระหว่างตนเองกับชายหนุ่มอีกคน คนที่เป็นที่
รักของเขา และเป็นที่เอ็นดูของคุณปู่เช่นกัน
“ผู้หญิงดีๆมันหายากนักหรืออย่างไร แกถึงได้ต้องมารักชอบคนเพศเดียวกันเช่นนี้น่ะ หา เจ้าคม?” คุณปู่เอ่ยถามหลานชาย
อาการหายใจติดขัดเริ่มดีขึ้นมาแล้ว
“ความรัก มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าหญิงหรือชาย แต่เพราะคนๆนั้นคือคนที่เรารู้สึกว่ารัก ต่อให้เขาคือเพศเดียวกัน ผมก็ยังจะรัก” คม
ยังยืนยันความรู้สึกที่ตนเองมีให้คุณปู่ได้รับรู้
“แล้วทำไมถึงต้องเป็นคนนี้ เขาอยู่ที่สูง แต่แกกำลังจะทำให้เขาตกต่ำไปกับแกด้วยนะเจ้าคม เคยคิดบ้างไหม!?”
“ปู่ครับ ความรักของผมมันน่าดูถูกขนาดนั้นเลยหรือ ความรักของหลานชายปู่คนนี้นมันน่าดูถูกใช่ไหมครับปู่?”
คมเอ่ยถามแกมตัดพ้อคุณปู่ ชายชรานิ่งไปกับคำตัดพ้อของหลานชาย ก่อนโบกมือไล่ให้หลานชายออกไปจากห้อง คมยิ่ง
รู้สึกย่ำแย่ ชายหนุ่มกราบลาคุณปู่ที่ตักแล้วจึงลุกเดินออกไปด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง เหตุเพราะเขาไม่อยากปิดบังซ่อนเร้นเรื่องราว
ระหว่างตนเองกับฮิโรยูกิ เนื่องด้วยเห็นว่าปู่เองก็เอ็นดูฮิโรยูกิไม่น้อย เอ่ยถามถึงอยู่ทุกบ่อย แต่ผลสุดท้ายเมื่อเอ่ยบอก ผลลัพธ์
ที่ออกมาคือผู้มีพระคุณบอกให้เขาเลิกกับอีกคนไปเสีย ให้ดูแลในฐานะนายกับลูกน้องที่ภักดี หาใช่ให้รักชอบกันในเชิงชู้สาวไม่
เมื่อคมเดินออกจากห้องไปแล้ว คุณย่าที่รู้สึกสงสารหลานชายยิ่งนักจึงเอ่ยพ้อคุณปู่ที่ทำให้หลานเศร้าโศกเช่นนั้น
“ทำไมปู่ต้องทำแบบนี้ด้วยล่ะ เจ้าคมมันโตแล้วนะปู่ ถึงมันจะเป็นอะไรยังไงมันก็ไม่เคยทำให้ปู่ผิดหวังสักครั้งเลยไม่ใช่หรือ?”
“ย่าพูดแบบนี้แสดงว่าย่ายอมรับได้หรือไงที่เจ้าคมมันมีคนรักเป็นผู้ชายน่ะ หา?” คุณปู่ย้อนถามคู่ชีวิต
“มันก็... ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ย่าคิดว่าย่ารับได้” คุณย่าอึกอักก่อนเอ่ยบอกอย่างมั่นใจ
“แต่ปู่รับไม่ได้!”
“เอ๊ะ! ปู่นี่ยังไงกัน?”
“เรื่องเจ้าคมน่ะช่างมันเถอะ ที่ปู่รับไม่ได้เพราะมันไปรักใคร่ชอบพอกับนายน้อยฮิโระต่างหาก ปู่ทะนุถนอมกล่อมเกลี้ยง เลี้ยงดูมา
กับมือ มันน่าไหมที่เจ้าคมจะมาทำแบบนี้ ยังไงปู่ก็รับไม่ได้!”
จบคำพูดคุณปู่ คุณย่าก็ถึงกับนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถามเมื่อเข้าใจในสิ่งที่คุณปู่พูดเมื่อครู่
“เดี๋ยว... เดี๋ยวนะจ๊ะปู่ นี่ปู่อย่าบอกนะว่าที่ขัดขวางความรักของเจ้าคมมัน ไม่ใช่เพราะปู่หวงหลานชายตัวเอง แต่เป็นเพราะปู่หวง
หลานเจ้านายน่ะ?”
คุณปู่ไม่ตอบคำถาม แต่คุณย่าก็พอจะเข้าใจได้ว่าสิ่งที่ท่านคิดนั้นมันเป็นจริง
“โธ่ถัง ไอ้เราก็หลงเครียดไปทำไมนะนี่ เฮ่ย ไปหาอะไรเย็นๆทานสักหน่อยดีกว่า”
“อ้าว? ทิ้งปู่เฉยเลย เดี๋ยวก่อนสิย่าเอ้ย~”
คุณปู่ลุกตามคุณย่าที่ก้าวออกจากห้องไป หากคมรู้ว่าที่ตนเองคิดมากเป็นกังวลไปนั้นมันไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตอย่างที่คิดไว้จะ
เป็นเช่นไรกันหนอ?
+++++++++++++
หลังจากวันที่คมได้คุยกับคุณปู่เรื่องของตนเองกับฮิโรยูกิไปแล้วนั้น หลายวันต่อมาคุณปู่ก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพราะโรค
หัวใจที่ท่านเป็นอยู่กำเริบขึ้นมา มันเป็นไปตามสภาพร่างกายของท่านที่แก่ชราลง แต่นั่นมันกลับทำให้คมคิดไปว่าที่ท่านเป็น
เช่นนั้นสาเหตุอาจจะมาจากตัวเขา ทั้งเขาและปู่ไม่ได้คุยกันถึงเรื่องดังกล่าวอีก พยายามเลี่ยงให้ถึงที่สุด
เมื่อคมเปลี่ยนไป นับวันที่อยู่ใกล้ชิดกันฮิโรยูกิก็ยิ่งสังเกตเห็นถึงความผิดปรกตินั้น แต่ในเมื่อเจ้าตัวเขาไม่ยอมบอกออกมาว่าเกิด
อะไรขึ้น ฮิโรยูกิจึงต้องคาดเดาเอาว่าคงเป็นเพราะคุณปู่เข้าโรงพยาบาลคมจึงเป็นกังวล แต่นั่นอาจจะเป็นเพียงส่วนหนึ่ง สาเหตุ
หลักเขาคงต้องหาความจริงเอาเอง เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้วชายหนุ่มจึงไปหาคุณปู่ของคมที่โรงพยาบาล
คมได้ลางานมาดูแลคุณปู่เพราะอลันไม่อยากใช้คมในขณะที่คมกำลังมีปัญหาเช่นนี้ อลันจึงได้ให้ลูกน้องคนสนิทลาได้โดยไม่
กระทบกับวันลาพักร้อนของคม เมื่อฮิโรยูกิมาถึงที่โรงพยาบาลที่คุณปู่ของคมพักรักษาตัวอยู่ ชายหนุ่มไหว้ผู้อาวุโสในห้อง ทั้งคุณ
ปู่และคุณย่าของคม นำกระเช้าเยี่ยมไข้ส่งให้คมเอาไปเก็บ ก่อนที่ตนเองจะเข้าไปถามไถ่อาการของชายชราที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่
บนเตียงคนไข้ คุณปู่เอ่ยใช้ให้คมออกไปซื้อของให้ท่านที่ห้างสรรพสินค้านอกโรงพยาบาล ก่อนไปคมก็อดไม่ได้ที่จะเหลียวมอง
หนุ่มตี๋ที่นั่งอยู่ข้างๆปู่ของตนเอง
เมื่อคมออกไปแล้วฮิโรยูกิที่พูดคุยกับคุณปู่อยู่เมื่อครู่ก็นั่งเงียบ บรรยากาศในห้องดูอึดอัดและเงียบจนเพียงแค่ขยับตัวก็ได้ยินทั่ว
“คุณปู่รู้เรื่องผมกับพี่คมแล้วสินะครับ”
ฮิโรยูกิเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน เมื่อสังเกตได้ถึงปฏิกิริยาที่คมมีต่อตนเองเมื่ออยู่ต่อหน้าปู่ ผู้อาวุโสมองชายหนุ่มตรงหน้า เงียบฟัง
ในสิ่งที่อีกฝ่ายจะพูดต่อไป
“ผมรู้ว่ามันคงทำใจลำบากที่จะยอมรับเรื่องนี้ แต่ว่า…” ฮิโรยูกิหยุดถ้อยคำที่จะพูดเมื่อรู้สึกแน่นในอกขึ้นมา
“แต่ว่าผมก็อยากจะบอกว่าผมกับพี่คมรักกันจริงๆ ไม่ใช่แค่ความรู้สึกวูบวาบชั่วครั้งคราว”
เมื่อเอ่ยจนจบประโยคฮิโรยูกิก็เงียบลงอีกครั้ง คุณปู่ที่มองชายหนุ่มนิ่งอยู่นั้นจึงเอ่ยบ้าง
“นายน้อยก็รู้ใช่ไหมว่าแบบนี้มันไม่ปรกติ?”
“แต่ถ้าเรามองให้มันปรกติมันก็ปรกติได้นี่ครับปู่”
ฮิโรยูกิเอ่ยแย้งอย่างดื้อดึง คุณปู่มองหน้าหลานชายเจ้านายแล้วถอนใจก่อนเอ่ย
“พูดน่ะมันง่าย แต่นายน้อยก็น่าจะรู้ว่ามันยากนักที่ใครๆจะเข้าใจมันได้ ต่อให้บอกว่ารักกันแค่ไหน แต่นั่นมันก็แค่ความเข้าใจของ
คุณกับเจ้าคมเท่านั้น”
“............” ฮิโรยูกินั่งเงียบเมื่อคุณปู่สอนสั่ง
“ปู่ไม่อยากให้คุณถูกมองไม่ดี คุณมีหน้าที่การงานที่ดี มีครอบครัวที่ดี เป็นบุคคลที่จะเป็นหน้าเป็นตาให้กับวงศ์ตระกูล แต่กลับ
ต้องถูกหลานของปู่ดึงให้ต่ำลงมา ปู่ไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น”
“ผมเข้าใจแล้วครับ เข้าใจดี เพราะผมเป็นผู้ชาย ผมถึงรักพี่คมไม่ได้”
“..............”
“ถ้าเลือกเกิดได้ผมก็อยากเลือกเป็นอะไรก็ได้ที่จะทำให้ปู่ยอมรับ แต่มัน...”
“………………”
“มันก็แค่ความคิดเพ้อเจ้อของผมฝ่ายเดียว”
“………………”
“ที่จริงแล้วปู่รังเกียจสินะที่ผมไม่มีพ่อมีแม่ เป็นลูกตาสีตาสาที่ไหนก็ไม่รู้ เป็นแค่เด็กที่ถูกเก็บมาเลี้ยง”
“ปู่ไม่เคยคิดเรื่องนั้นเลยนะครับนายน้อย ตาแก่คนนี้ไม่เคยคิดดูถูกคุณสักนิด ตาแก่คนนี้ที่เคยกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดูคุณมาไม่เคย
คิดร้ายกับคุณแม้สักครั้ง แม้แต่ในตอนนี้ก็ตาม ทุกอย่างที่ทำก็เพื่อคุณทั้งนั้น”
“ปู่ ผมขอโทษ ผมรักปู่นะ แต่ผมก็รักพี่คมด้วย ปู่ให้เราคบกันไม่ได้หรือครับ ให้เราได้รักกัน ได้อยู่ด้วยกันไม่ได้หรือครับ?”
ฮิโรยูกิเอ่ยวอน น้ำเสียงที่เอ่ยฟังดูเจ็บปวดไม่แพ้สีหน้า คุณปู่มองชายหนุ่มตรงหน้า ตอนนี้คนที่อยู่ต่อหน้าท่านไม่ใช่เด็กผู้ชายตัว
น้อยๆอีกต่อไปแล้ว เป็นชายหนุ่มเต็มตัว เป็นนักธุรกิจหนุ่มผู้มีความสามารถ ไม่จำเป็นที่ท่านจะต้องห่วงกังวลอะไรอีกต่อไปแล้ว
… … … … … … … …
คมกลับเข้ามาในห้องพักผู้ป่วยอีกครั้งพร้อมของใช้ที่คุณปู่สั่งให้ออกไปซื้อ สถานการณ์ภายในห้องพักกลายกลับ มีแต่เสียง
หัวเราะและรอยยิ้มของปู่กับย่าและฮิโรยูกิ
หนุ่มตี๋หันไปมองคมที่เปิดประตูเข้ามาแล้วยิ้มให้ คมยิ้มตอบด้วยความงวยงง ชายหนุ่มวางของไว้บนชั้นเก็บของ ก่อนเลี่ยงไปนั่ง
ที่โซฟาสำหรับนอนเฝ้าไข้ สายตาจับจ้องมองฮิโรยูกิที่กำลังคุยกับปู่ย่าของเขาอย่างออกรส ไม่นานจากนั้นพ่อกับแม่ของคมก็
มาถึง คมจึงขออนุญาตพาฮิโรยูกิกลับที่พัก
เมื่อทั้งสองออกจากโรงพยาบาลมาแล้วต่างก็ยังไม่มีใครเอ่ยปากพูดอะไรออกมาก่อน จนเมื่อรถของคมจอดลงที่ใต้คอนโด-
มิเนียมของฮิโรยูกิ แล้วปล่อยให้ความเงียบโอบล้อมรอบกายอยู่นานคมถึงได้เอ่ยขึ้นมา
“ฮิโระ พี่มีเรื่องจะถาม”
“ครับ?” ฮิโรยูกิหันมาเลิกคิ้วเชิงถาม
คมมองหน้าคนรักอย่างตัดสินใจ ก่อนเอ่ยคำถามออกไป แต่กลับดูไม่แน่ใจในสิ่งที่ถามสักเท่าไหร่นัก
“สมมติว่า... ความรักของเราไม่ได้รับการยอมรับจากคนในครอบครัว... ฮิโระจะทำยังไง?”
“ผมว่าพี่คมคงมีคำตอบสำหรับเรื่องนี้อยู่แล้ว”
ฮิโรยูกิมองตาคมไม่มีหลบ รู้ว่าคมเองก็คงเป็นกังวลกับเรื่องที่เอ่ยถามไม่น้อย แต่ก็ไม่อยากจะให้กระทบใจเขาจึงได้เกริ่นนำว่า
มันคือเรื่องสมมติ รอยยิ้มบางแต่ปนเศร้าแตะแต้มริมฝีปากหนุ่มตี๋ ไม่ว่าคมจะตัดสินใจอย่างไร เขาก็ยินดีจะยอมรับมัน เขาคิดว่า
อย่างนั้นนะ
คมมองรอยยิ้มของฮิโรยูกิแล้วพลอยรู้สึกหน่วงในอกตามไปด้วย มือหนาเอื้อมจับมือของอีกคนมากุม มองตาคนตรงหน้าอย่าง
แน่แน่ว ก่อนที่จะเอ่ยถ้อยคำต่อมาด้วยน้ำเสียงที่มั่นคงไม่คลอนแคลน
“ไม่ว่ายังไง ความรู้สึกของพี่ก็ไม่เปลี่ยน ฮิโระจะฝ่าฟันมันไปพร้อมพี่ได้ไหม?”
“พี่คม”
ฮิโรยูกิโผเข้ากอดคนรักแน่น ความรู้สึกหน่วงจนหนักในอกเมื่อครู่มันมลายหายเพียงเพราะคำถามเดียวจากคนรักเท่านั้น อยาก
จะบอกกับคมเหลือเกินว่า ต่อให้อุปสรรคมันหนักหนายิ่งกว่านี้ ฮิโรยูกิ คาเสะคนนี้ก็พร้อมจะฝ่าฟันมันไป แค่เพียงคนที่ร่วมฟันฝ่า
คือคมเท่านั้น
สองหนุ่มเดินเคียงกันไปที่ลิฟท์เพื่อขึ้นห้องพัก เมื่อเข้ามาในห้องแล้วฮิโรยูกิก็ไปหาน้ำหาท่าเย็นๆมารับแขกกิตติมศักดิ์ วางแก้ว
น้ำลงบนโต๊ะกระจกเตี้ยๆหน้าโซฟาแล้วฮิโรยูกิก็นั่งลงบนที่เท้าแขน คมยกน้ำหวานเย็นชื่นใจขึ้นดื่ม
“พี่คม ผมมีอะไรจะบอก”
“หืม อะไร?”
“ปู่ยอมให้เราคบกันแล้วนะ”
“หือ ว่าไงนะ?” คมถือแกวน้ำที่ยกขึ้นดื่มค้างเมื่อได้ฟังคำบอกเล่านั้น
“ปู่ใจดี ยอมรับความรักของเราแล้ว” ฮิโรยูกิเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มกว้าง
“ล้อพี่เล่น?”
“..............” ฮิโรยูกิส่ายหน้ายิ้มๆ
“จริงหรือ?”
คมเอ่ยถามซ้ำอีกอย่างไม่อยากเชื่อ หนุ่มตี๋พยักหน้ายืนยันว่ามันเป็นจริงดังที่ตนเองได้ว่าไป ที่จริงแล้วคุณปู่ของคมก็ไม่ได้ใจ
แข็งอะไรขนาดนั้น แล้วยิ่งท่านเอ็นดูฮิโรยูกิอยู่แล้วด้วย ยิ่งทำให้เรื่องมันง่ายขึ้น ที่ท่านห่วงก็เพราะท่านรักทั้งสองคน แต่เมื่อเห็น
ว่าการที่จะพรากทั้งคู่ให้ห่างกันนั้นมันไม่ได้ทำให้ใครมีความสุขได้เลย อีกทั้งคมกับฮิโรยูกิก็โตๆกันแล้ว คุณปู่ของคมจึงไม่ได้
คัดค้านเรื่องนี้อีก
“ทำได้ไง พี่พยายามพูดอธิบายแทบตายปู่ยังไม่ยอมฟังเลย”
เมื่อฟังที่อีกคนเล่าคมยิ่งไม่อยากจะเชื่อ ฮิโรยูกิคุยกับปู่ของเขาแค่ไม่ถึงชั่วโมง เรื่องที่ว่ามันยากนักหนาสำหรับเขากลับ
กลายเป็นเรื่องง่ายๆเพียงเท่านี้เอง
“เพราะปู่รักผมไง” ฮิโรยูกิเอ่ยบอก
“แสดงว่าปู่ไม่รักพี่งั้นสิ?” คมเอ่ยถาม แสร้งทำเสียงน้อยใจ
“อย่าน้อยใจนะครับ พี่คมคนดี”
ฮิโรยูกิลุกจากที่เท้าแขนมานั่งคร่อมซ้อนตักของคม หันหน้าเข้าหาชายหนุ่มตัวโตก่อนคล้องแขนเรียวโอบรอบลำคอหนา
“ถึงใครไม่รัก แต่ผมรักพี่นะ”
ฮิโรยูกิแตะจูบริมฝีปากคนรักเบาๆ ก่อนผละออกมาแล้วอมยิ้มตาพราว คมวาดแขนโอบรอบเอวของหนุ่มตี๋ ฮิโรยูกิเคลื่อนใบหน้า
เข้าไปหาจนริมฝีปากของทั้งคู่แตะกันอีกครั้ง ต่างแลกจุมพิตแสนร้อนให้แก่กัน
ร่างสูงเพรียวขยับสะโพกที่นั่งทับบนตักของคม ให้ร่างกายส่วนล่างเสียดสี คมครางครึ้มในลำคอขณะที่คนทำหัวเราะในลำคอผะ
แผ่ว คมรวบจับสะโพกสอบที่ขยับไหวให้อยู่นิ่งเมื่อเริ่มทานทนไม่ไหว ก่อนช้อนใต้สะโพกแล้วเบี่ยงกายของคนรักให้นอนราบไป
กับโซฟา ฮิโรยูกิหัวเราะ คมจึงจูบปิดปากเสียอีกที ช่างยั่วดีนัก
คมผละจูบมามองหน้าคนที่นอนยั่วเขาอยู่ตรงหน้า เท้าศอกข้างหนึ่งกับโซฟา ขณะที่มืออีกข้างลูบไล้ต้นขาภายนอกเนื้อผ้า
ฮิโรยูกิไล้ปลายนิ้วไปตามโครงหน้าของคม ระเรื่อยลงมาที่ต้นคอแกร่ง วนมาที่หน้าอก สายตาโลมไล้ตามปลายนิ้ว กัดปาก
ตนเองอีกนิดส่งให้อารมณ์ของคมกระเจิดกระเจิงไปกันใหญ่ ก่อนลากปลายนิ้วมาที่ริมฝีปากหนา คมอ้างับปลายนิ้วนั้น ฮิโรยูกิ
ยิ้มชอบใจ ก่อนเอ่ยบอกกับคนที่งับนิ้วเขาเล่นด้วยน้ำเสียงแปร่งปร่า
“ตอนนี้ปู่พี่คมยอมรับเราแล้ว ที่เหลือพี่คมต้องจัดการเองแล้วล่ะครับ”
“อลัน?” คมทำน้ำเสียงเชิงถาม ฮิโรยูกิพยักหน้า
“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนได้ไหม ยั่วพี่ขนาดนี้เตรียมใจมาดีหรือยังที่จะโดนจัดหนัก?” คมบอกปัดก่อนเอ่ยถามคนช่างยั่ว
“เตรียมมาทุกวันนั่นล่ะครับ เพราะไม่เห็นพี่จะทำเบาๆสักที…”
คำตอบที่ได้ทำเอาคมแทบจะดิ้นตาย ทั้งสีหน้า ทั้งน้ำเสียง ทั้งคำพูด ทำไมถึงได้ดูยั่วยวนเขาขนาดนี้กัน โอย จะทนไม่ไหวแล้ว
นะที่รัก
ฮิโรยูกิเชิดหน้าขึ้นสูงเมื่อคมโน้มหน้าลงหา เปิดพื้นที่ให้คมได้โลมเล้าอย่างเต็มที่ ลิ้นสากลากไล้ลงมาตามไหปลาร้า งับยอดอก
ผ่านเนื้อผ้าแล้วตวัดลิ้นดูดดุนจนเปียกชุ่ม คมขยับกายขึ้นถอดเสื้อตนเองออก ตามด้วยเข็มขัดที่เอว สายตาชายหนุ่มยังจับจ้อง
คนรักไม่ห่างหาย ฮิโรยูกิแลบลิ้นไล้เลียริมฝีปากตนเอง ลิ้นสีแดงสดตวัดเลียจนคนมองขนลุกซู่ไปทั้งกาย ก่อนโถมตัวลงหาไม่มี
รีรออีกต่อไป...
+++++++++++++++
“ฮัดเช้ย!!”
เสียงจามของชายหนุ่มตัวโตที่นั่งตรวจเอกสารงานอยู่ที่โต๊ะทำงาน ทำให้เปียวที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โซฟารับแขกหันไปมอง
อลันจามแล้วถูจมูกไปมาก่อนเปรย
“ใครนินทาวะ?”
“เป็นหวัดหรือเปล่า?”
เปียวเอ่ยแย้งยิ้มๆ ก่อนหันมาให้ความสนใจกับหนังสือที่อ่านค้างไว้ในมือต่อ อลันเหลือบตามองสูงท่าทีครุ่นคิดก่อนส่ายหน้า
อาจจะเป็นอย่างที่เปียวว่าก็ได้
อลันลงมือทำงานต่อ วันนี้งานเดินไวทั้งที่ไม่มีผู้ช่วยอย่างคมอยู่ นั่นเพราะมีกำลังใจดีๆมานั่งคอยอยู่ในห้องด้วย เปียวนั่งรออลัน
ทำงานให้เสร็จเพื่อที่จะได้ไปทานอาหารเย็นด้วยกัน ใช้เวลาช่วงสั้นๆในหนึ่งวันด้วยกัน ก่อนที่ต่างคนก็ต่างแยกกลับบ้านของแต่
ละคนไป เป็นเช่นนี้มาพักหนึ่งแล้ว แต่ทั้งคู่ก็มีความสุขดี ห่างกันบ้าง เพื่อให้ได้คิดถึงกันสักนิดก็ไม่เลวนัก
TBC
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามกันมาตลอดค่ะ
เดี๋ยวมาจิ้มบวกให้นะคะ 
ปล. ขอบคุณ คุณudongjay ด้วยนะคะที่ทำสารบัญมาให้ เอาไปแปะที่หน้าแรกแล้วเน้อ ขอบคุณหลายๆ 
ปล.2 ขอบคุณทุกท่านที่นึกถึงและช่วยเชียร์นิยายทุกเรื่องของใหม่ด้วยนะคะ ขอบคุณๆ 
วันใหม่ค่ะ