มาต่อให้แล้วตามสัญญาครับ ตอนนี้เขียนขึ้นใหม่ ไม่ได้ลอกมาจากไดอารี่เพราะในไดอารี่ ผมเขียนสำหรับไว้เตือนความจำ เขียนไว้อ่านคนเดียว เขาใจคนเดียวนะครับ ถ้าลอกเอามา เดี๋ยวเพื่อนๆ จะ งง แต่ก็ต่อเนื่องกันครับ
อ๋อ ..... ตอนแรกที่ตั้งใจไว้ จะมีแค่ 2 ตอน แต่พิมพ์ไปพิมพ์มาชักยาว เรื่องที่กาด เอาไว้ตอนจบ ตอน 3 แล้วกันนะครับ

……………………………….

หลังจากน้องลักยิ้มออกจากโรงพยาบาล เราก็ไปเชียงใหม่กันครับ เพราะครอบครัวของเราไปถึงกันหลายวันแล้ว อาจจะผิดแผนที่วางไว้สักหน่อย แต่ก็ถือว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมามันทำให้เราได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันมากขึ้น
ถึงสวนส้มของยายน้องลักยิ้ม หน้าบ้านเค้าเล่นน้ำกันน่าสนุก คึกคักมากๆ ครับ อยากออกมาเล่นน้ำด้วย แต่น้องลักยิ้ม ไม่ยอมให้ออกมา บอกให้เล่นกันสองคนในบ้านก็ได้ เฮ้อ!!! ( คิดในใจชวนเล่นน้ำอะไรอ่ะสองคน มันจะสนุกตรงไหน ) แต่น้องลักยิ้มห้ามผมไม่ได้หรอก ยิ่งห้ามยิ่งชอบ
เข้าไปกราบยายน้องลักยิ้ม , แม่น้องลักยิ้ม , พ่อผม , แม่ภัท เสร็จ ก็ รีบชวนไอ่แบงค์กับภรรเมีย ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ผมตั้งใจจะเลือกชุดที่บางที่สุด อิอิ อยากแกล้งน้องลักยิ้มห้ามดีนัก พอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ลงมาข้างล่าง น้องลักยิ้มเห็นเข้าโมโหใหญ่ แต่ผมกับชอบๆๆๆๆๆๆๆๆ ยิ่งโมโห คนอะไรยิ่งน่ารัก น่าจูบ 5555 หรือผมจะโรคจิต
ผมออกมาเล่นกับละอ่อนลูกคนงานที่สวน ยอมรับจริงๆ ครับว่า ละอ่อนแม่ริมน่ารักทุกๆคน ขอบอกว่าสนุกมากๆ แต่คนที่ไม่สนุกสงสัยจะมีอยู่คนเดียว ยืนหน้าบิดเลย ยิ่งเวลาละอ่อนมันสาดน้ำผม แล้วผมหยอกกลับ น้องลักยิ้มยิ่งออกอาการ 5555 สนุกจริงๆ แกล้งเด็ก พอผมหนำใจแล้วก็ชวนน้องลักยิ้มเข้าบ้าน เดินเข้ามาก็ไม่พูดอะไรเลยไม่รู้จะงอนอะไรนักหนา แต่ดีงอนแบบนี้ชอบ ไม่ง้อด้วยเพราะผมไม่ได้ทำอะไรผิด อิอิ
ตอนเย็น ยายน้องลักยิ้มสั่งอาหารมาทาน กันที่บ้าน และก็ถือว่าเป็นวันสำคัญอีกวันครับ ที่ผมจะแนะนำให้พ่อผม กับแม่ภัทได้รู้จักกับน้องลักยิ้ม ถึงเวลาแล้วที่ผมต้องเรียนให้ท่านทราบ ว่าผมได้เริ่มชีวิตรักใหม่กับคน คนนึงอีกครั้ง คิดอยู่นานครับ ว่าจะหาโอกาสบอกท่านยังไงดี ไม่ได้กลัวว่าท่านไม่ยอมรับนะครับ สำหรับผมท่านเป็นทุกสิ่งทุกอย่าในชีวิต เป็นพ่อที่ดีที่สุดครับ และแม่ภัทก็เป็นแม่อีกคนที่ผมรักและเคารพท่านมาก แต่ผมอายที่จะบอกท่านว่าคนรักของผมอายุห่างกันเกือบรอบ
ตลอดเวลาน้องลักยิ้มดูแลพ่อผมอย่างดี ( ถ้าท่านไม่ระแคะระคายก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว ) ผมรู้สึกดีครับที่พ่อผมไม่ได้มีอาการต่อต้านน้องลักยิ้ม พอทานข้าวเสร็จผมก็บอกกับพ่อ และแม่ภัทว่า ผมมีเรื่องอยากพูดกับท่าน ก็มาคุยกับท่านที่นอกชานครับ ( บรรยากาศดีสุดๆ ) ตอนแรกน้องลักยิ้มจะตามมาด้วย แต่ผมห้ามไว้ก่อน ไม่อยากให้ละอ่อนน้อยของผมบ่อน้ำตาแตกซะก่อน
ตื่นเต้นมากๆ ครับ ตื่นเต้นยิ่งกว่าโดนคณะกรรมการพิจารณาตำแหน่ง ผศ.พิเศษ สัมภาษณ์ซะอีก
ท่านถามผมว่า " มีอะไรจะคุยกับพ่อ " ผมรวบรวมความกล้าอยู่นานครับ ผมก็บอกท่านว่า
" ตอนนี้ผมพร้อมจะเริ่มชีวิตใหม่กับใครสักคนแล้ว แล้วผมก็เจอคน คนนั้นแล้ว ถึงแม้ว่าเค้าจะเด็กกว่า แต่เค้าก็พิสูจน์ให้ผมเห็นแล้วว่า เค้ารักผมจริง "
พูดได้แค่นี้สิ่งที่อยากพูดก็ลืมซะหมด พูดต่อไม่ได้ ตอนแรกผมก็ไม่รู้หลอกว่าพ่อผมจะรู้เรื่องมากแค่ไหนแต่ปรากฏว่า พ่อผมรู้หมดแล้ว แม่ต้นเค้าคุยกับพ่อตอนนั้นรถมานะครับ พ่อผมบอกว่า
“ พ่อดีใจ ลูกจะได้มีความสุขอีกครั้ง ไม่ใช่จมอยู่กับสิ่งที่มันเรียกกลับคืนมาไม่ได้ “ พ่อผมบอกว่า พ่อไม่ห้าม ไม่โกรธ แต่จะโกรธมากกว่าถ้าไม่บอกให้พ่อรู้ “
“ เมื่อตัดสินใจแล้ว ก็ต้องช่วยกันประคับประคองกันไป น้องยังเด็ก ยังติดนิสัยเด็กอยุ่ เราผ่านวัยนั้นมาแล้วต้องเข้าใจ “
ที่สำคัญ พ่อผมบอกอีกว่า
“ ต้องไว้ใจกัน เพราะน้องต้องพบอะไรอีกหลายอย่างในวันข้างหน้า ต้องเชื่อใจ และไว้ใจกัน อย่าเอาอารมณ์ อยู่เหนือเหตุผล ต้องพูด ต้องคุยกันให้มากๆ “
“ พ่อคิดว่าภัทเค้าก็ต้องดีใจ ที่ลูกมีความสุข ภัทคงไม่สุขใจนัก ถ้ามีส่วนทำให้ลูกต้องอยู่กับอดีต ภัทคงส่ง....มาให้ดูแลลูก ให้ทำในสิ่งที่ภัทไม่สามารถทำได้อีก พ่อรักลูกและรักคนที่ลูกรัก “
ตอนแรกกะจะไม่ร้องนะครับ แต่ทนไม่ได้จริงๆ มันร้องออกมาโดยไม่รู้ตัวเหมือนกัน ผมดีใจมากๆครับ ที่พ่อผม กับแม่ภัทยอมรับน้องลักยิ้มได้ เพราะเท่ากับผมได้ยกย่อง ให้น้องลักยิ้มได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวผม และผมก็จะยกย่อง ให้เกียรติน้องลักยิ้มได้มีหน้าในสังคมของผมเช่นเดียวกัน ในสังคมที่เค้ายอมรับได้นะครับ
มีอยู่หลายครั้งที่ผมพาน้องลักยิ้มไปออกงานด้วย ตอนแรกน้องลักยิ้มก็ไม่ยอมไปหรอกครับ กลัวผมจะอาย แต่ผมบอกว่า
“ เมื่อเธอมาเป็นคนรักพี่ และกำลังจะเป็น............ พี่ก็ต้องให้เกียรติ ยกย่องเธอให้อยู่ในสังคมของพี่ ไม่ใช่มาอยู่แต่ในบ้าน แอบๆ หลบๆ เหมือนเล่นซ่อนหา “
และทุกครั้งผมก็จะแนะนำน้องลักยิ้มกับเพื่อนๆ และ คนที่ผมเคารพว่า " น้องลักยิ้มเป็นคนรักของผมเองครับ "
หลังจากที่ผมบอกพ่อผมเสร็จ ผมก็ไปตามน้องลักยิ้มครับ พอน้องลักยิ้มเห็นน้ำตาผม ก็ใจไม่ดีถามแต่ว่า
“ พ่อพี่ว่าไงครับ ไม่ยอมรับผม ( น้องลักยิ้ม ) หรอ เพราะผมเด็กไปหรอ “ ต่างๆ นานาครับที่น้องลักยิ้มถามออกมา แล้วน้องลักยิ้มก็บอกว่า
“ เดี๋ยวผมจะไปคุยกับพ่อพี่เอง ว่าผมรักพี่จริงๆ เห็นมั้ยให้ผมไปด้วยแต่แรกก็ไม่เชื่อ “ น่าสงสารน้องลักยิ้มคิดไปเรื่อย ผมก็เลยบอกน้องลักยิ้มว่า
“ จะไปคุยอะไรอีก ไปกราบท่านซะ แล้วก็อย่าลืมสัญญากับท่าน ว่าจะดูแลพี่อย่างดี “
แค่นั้นแหละครับ น้องลักยิ้มของเพื่อนๆ โชว์ลักยิ้มใหญ่ เป็นลักยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข ดวงตาของละอ่อนน้อยของผม ที่ดูหมองเศร้าในตอนแรก แปล่งประกายขึ้นอีกครั้ง
คืนนั้นก็เป็นอีกคืนหนึ่งที่ผมมีความสุขมากๆ ความรู้สึกเหมือนตอนที่ผมกับภัท เราไปกราบพ่อกับแม่ครั้งแรก อบอุ่นใจมากๆ ครับ และมีความสุขมากด้วย สุขจนบางครั้งผมคิดว่า ผมฝันไป เคยถามเพื่อนหลายๆ คนครับว่า
" มริงบอกตรูหน่อยซิ ว่าชีวิตของตรูตอนนี้มันคือเรื่องจริง "
มันก็บอกกลับมาว่า
" ออ ไอ่เจี้ย 5555555 "
ปล.ไม่รู้ว่าเขียนดีหรือเปล่านะครับ ยอมรับว่า เขียนอยากกว่า เอกสารวิชาการซะอีก ติ ชม กันได้ครับ