..........ตอนพิเศษ นี้ เป็นเรื่องที่เขียนลงในไดอารี่ ของผมนะครับ ซึ่งเป็นกิจวัตร อีกอย่างหนึ่งซึ่งผมต้องทำก่อนนอน ไม่ว่าจะดึกแค่ไหนก็ต้องเขียน เพราะผมจะได้เก็บไว้เป็นความจำ เผื่อตอนแก่ตัวลงจะจำ ได้ว่าชั่วชีวิตหนึ่งเกิดเหตุการณ์อะไรบ้างที่ทำให้ชีวิตมีความสุข ตอนแรกตั้งใจว่า จะแลกกันเขียนกับน้องลักยิ้มคนละเดือน แต่ยังไม่มีโอกาสสักที ตอนนี้อาจไม่สนุกเท่าไหร่ แต่สำหรับผมมันเป็นความทรงจำที่ดีครับตอนที่ 1/2 ( มี 2 ตอนนะครับ )
11 เม.ย. 51
สวัสดีไดอารี่ ที่รัก
...กำลังนั่งเฝ้า คนที่ฉันรักอยู่ที่โรงพยาบาล รู้สึกเจ็บปวดใจมากที่ดูแลเค้าไม่ดี แค่มาอยู่ด้วยไม่กี่วันยังป่วยหนักขนาดนี้ แล้ววันข้างหน้าฉันจะทำยังไง นึกแล้วก็ไม่อยากให้อภัยตัวเอง โกรธตัวเองนักเชียว
เค้ามาอยู่กับฉันหลายวันแล้ว ฉันมีความสุขมาก ความรู้สึกนี้ มันไม่เคยเกิดขึ้นกับฉันมา 3 ปีแล้วซินะ
ทุกๆ เช้า ฉันจะพบ แปรงสีฟันที่ถูกบีบยาแล้ว วางอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำ
ทุกๆ เช้า ฉันจะพบ กลิ่นกาแฟหอมอ่อนๆ พร้อมแซนวิชน่ารักๆ หลังจากอาบน้ำเสร็จ
ทุกๆ เช้า เค้าจะยกมือไหว้ฉัน และหอมแก้มฉันก่อนไปทำงาน
...ไม่น่าเชื่อ ว่าเด็กผู้ชาย อายุ 18 คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนรักของฉัน จะทำอะไรน่ารักๆ ได้มากมายขนาดนี้ ถึงจะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่มาก ฉันรู้สึกอิ่มเอมใจบอกไม่ถูก มันทำให้วันนั้นทั้งวัน ฉันแอบยิ้มคนเดียว เหมือนคนบ้า งงตัวเอง สงสัยตรูจะบ้าไปแล้วแน่ๆ ขนาดนั่งเขียนอยู่ยังยิ้มเลย เฮ้อ
...เมื่อวันพุธ ( 9 เม.ย.51 ) ก็เหมือนกับทุกๆ เช้าที่ผ่านมา แต่สิ่งผิดปกติ วันนี้เค้าไม่ค่อยสดใสเหมือนเคย ฉันก็ถามว่าเป็นไรป่าว เค้าก็ตอบว่า
“ ไม่ครับ พี่ไปทำงานเถอะเดี๋ยวสาย ” แล้วเค้าก็ยกมือไหว้ พร้อมกับหอมแก้มฉันเหมือนเคย
...วันนั้นทั้งวันฉันทำงานแบบหงุดหงิดในใจ ไม่รู้ซิ แต่รู้ว่ามันไม่เหมือนทุกๆ วัน ฉันโทรหาเค้า ก็ไม่ได้รับสาย โทรหาเข้าห้องก็ไม่รับ คิดในใจอาจจะไปเที่ยวข้างนอกก็ได้ แต่ก็กังวลใจอยู่ดี ทำไมต้องมีประชุมด้วยนะ
...ฉันกลับมาถึงห้องตอนเย็น ตกใจมาก เค้านอนซมอยู่บนเตียง ตัวร้อน แต่คงร้อนไม่เท่าใจฉัน ฉันถามว่าทำไมไม่รับโทรศัพท์ หรือ โทรหาพี่ ทำไมทำอย่างนี้ หลายสิบคำถามที่ออกมาจากปากฉัน แต่ไม่มีสักคำตอบ นอกจาก
“ ผมไม่อยากให้พี่เสียงานครับ แล้วผมก็ไม่เป็นไรมากด้วย “ ฉันก็ว่า
“ ทำไมทำอย่างนี้ สำหรับพี่ ไม่มีสิ่งใดสำคัญเท่าเธอนะ อย่างงั้นต้องไปหาหมอเดี๋ยวนี้ “" ผมไม่ไปได้ไหมครับ ผมไม่อยากไป กินยาแล้วเดี๋ยวก็หาย " เฮ้อ ฉันก็ใจอ่อนอีกตามเคย ใจอ่อนในเรื่องไม่เข้าท่าด้วย
...ตลอดคืนนั้น ฉันแทบไม่ได้นอนเลย เพราะเค้าไข้ขึ้นและเพ้อตลอดเวลา หาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้ตัวก็ไม่หายร้อน จะอุ้มพาไปโรงพยามบาลก็ คำนวณดูแล้วฉันตายแน่ๆ สงสารเค้าแทบขาดใจ ทำไมฉันไม่ป่วยแทนนะ
...แต่สิ่งที่เค้าเพ้อออกมามันทำให้ฉันปวดใจยิ่งกว่า เพราะรู้ว่าในจิตใจลึกๆ เค้าคิดอะไรอยู่ในใจตลอดเวลา
เค้าเพ้อแต่
“ พี่อย่าทิ้งผมนะครับ ผมรักพี่มากนะ “ ...ฉันปวดใจบอกไม่ถูก แล้วทำไมน้ำตาเวรมันต้องไหลออกมาด้วยไม่เข้าใจ ดีนะที่เค้าไม่เห็น ฉันก็จับมือเค้าไว้แน่น ฉันบอกว่า
“ พี่อยู่นี้แหละครับ ไม่ทิ้งไปไหน พี่รักเธอมากนะ “ แต่กว่าจะหลับได้ เล่นเอาฉันเสียน้ำตาไปหลายปี๊ป กะว่าตอนเช้า ถ้าไม่หายยังไงก็ต้องพาไปหาหมอให้ได้
...ตอนเช้า ( 10 เม.ษ. 51 ) ฉันตื่นขึ้นมาแบบเพลียๆ เค้ายังไม่ตื่นเลย แต่ตัวก็ยังร้อนอยู่ ฉันโทรไปลาป่วยกับนายเสร็จ ก็ไปซื้อโจ๊ก มาเตรียมให้ แล้วก็ปลุกให้มากิน แต่ดูท่าจะไม่ไหว เลยบอกว่าจะพาไปหาหมอ แต่เค้าก็ไม่ยอม เลยต้องใช้คำพูดเด็ดขาด ฉันถามเค้าว่า
"รักพี่มั้ยครับ " ……..
"รักครับ รักมากด้วย " เป็นคำตอบที่ตอบอย่างรวดเร็วที่สุด
" ถ้ารัก ก็ต้องไปหาหมอกับพี่ " ........สำเร็จ รู้งี้พูดตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว กำ ตรูไม่น่าใจอ่อนเลยเมื่อคืน
...คืนนี้ ( 11 เม.ย. 51) เป็นคืนที่สองแล้วที่ฉันเฝ้าไข้คนที่เปรียบดังหัวใจ แต่ที่น่าเจ็บใจที่สุดก็พวกพยาบาลที่นี้ ปากไม่ดี ถามฉันว่า
" พี่มาเฝ้าหลานชายเหรอค่ะ ไม่เห็นคุณพ่อ คุณแม่น้องเค้าเลย " ฉันสบตากับคนรัก แล้วนึกขำในใจ
แต่ฉันก็ตอบกลับอย่างภาคภูมิใจที่สุด และหน้าด้านที่สุดว่า
“ ไม่ใช่หลานหลอกครับ คนรักของผมเอง “ " ค่ะ "เป็นคำพูดเดียวที่ออกมาจากพยาบาลคนนั้น หลังจากนั้นฉันไม่รู้หลอก ว่าพยาบาลคนนั้นจะเอาไปพูดอะไรบ้าง แต่ที่เปลี่ยนไปคือ ทุกครั้งที่มีพยาบาลเข้ามา ฉันจะพบกับรอยยิ้ม ที่เป็นมิตร และหน้าที่แดงๆ ของพยาบาล เค้าจะอายอะไรฉันนะ เป็นฉันซิต้องหน้าแดง หรือว่า ฉันหน้าด้าน
...แต่ฉันก็ดีใจนะที่ครั้งนี้เค้าไม่สบาย เพราะมันทำให้ฉันรู้ว่า เค้าสำคัญมากแค่ไหน และในใจลึกๆ เค้าคิดอะไรอยู่ เราได้คุยกันมากขึ้น และเป็นครั้งแรกที่ฉันได้ดูแลเค้าในฐานะ “ คนรัก “
...ฉันดูแลทุกอย่างป้อนข้าว ป้อนยา เช็ดตัว อย่างหลังนี้สำคัญเลย ไม่รู้เป็นไรทำไมเวลาเช็ดตัว ฉันถึงรู้สึกแปลกๆ เราไม่กล้าสบตากัน ใจก็เต้นแรงผิดปกติ กว่าจะเช็ดตัวเสร็จ
นับได้ว่าเป็นช่วยเวลาที่หัวใจทำงานผิดปกติมากที่สุด
...แต่ฉันก็ไม่ให้อภัยตัวเองอยู่ดี ที่ดูแลเค้าไม่ดีเท่าที่ควร คิดแล้วก็เจ็บใจตัวเอง สมควรแล้วที่สุดท้าย ฉันก็ป่วยอีกคน ฮาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
...คุณแม่ ผมขอโทษนะครับ ที่ดูแลลูกแม่ไม่ดี แต่ผมก็รักลูกชาย ของคุณแม่ที่สุด
ตีสาม ยี่สิบห้านาที / ปลายมีน
สีฟ้าฉัน หมายถึง ตัว ผมเอง
เค้า หมายถึง ตัว น้องลักยิ้มเรื่องกาด มีลงตอนสองครับ ตอนไป เชียงใหม่แล้ว