ขากลับบ้านผมกับมิ้นท์ต้องผ่านสี่แยกไฟแดง ไม่ค่อยมีรถวิ่งผ่านหรอกครับ จะแหกไฟแดงก็ได้ แต่ผมชอบที่จะหยุดรถตามกฎ
จราจรมากกว่า แล้วก็ ทดสอบไอ้มิ้นท์นิดหน่อย
“ว่าไง..ตอนนี้สีอะไร..” ผมเอี้ยวหน้าถามมันขณะที่หยุดรถ
“หา!..เอ่อ...” ไอ้มิ้นท์มันกระซิบมาด้วยเสียงประหม่าๆ
“ตอบเร็ว..”
บรื้น~
รถกระบะคันหนึ่งวิ่งผ่านพวกเราไป
“ก็ไฟเขียวอ่ะดิ..พายทำไมมึงไม่ออกรถ เดี๋ยวคันหลังมาก็เสยตูดหรอก..”
“ฮ่าๆๆ..ไม่มีใครเสยหรอก..ไอ้กระบะคันเมื่อกี๊มันแหกไฟแดง..”
“...”
ผมคว้ามือมันมากอดเอวผมไว้
“ฝึกไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็สังเกตได้ แต่ไม่อนุญาตให้ข้ามแยกที่มีไฟคนเดียวนะ..”
“อืม..”
มิ้นท์ไม่ได้ชักมือกลับ แต่มันกอดเอวผมไว้ แน่นขึ้น
พอกลับถึงบ้านไอ้มิ้นท์มันก็ทิ้งให้ผมนั่งดูบอล ส่วนตัวเองก็เดินเข้าครัวทำมื้อเย็น ก็อยากช่วยนะครับ แต่ผมไม่สันทัดเรื่องในครัว เกรงว่าจะไปเป็นตัวเกะกะเปล่าๆ ผมเลือกนั่งดูทีวีจะดีกว่า
ผมชอบดูทีวี เพราะมันมีเรื่องราวให้ผมได้เสพ
แต่มิ้นท์มันไม่ชอบครับ
แต่สักวัน..ผมจะทำให้มันนั่งดูทีวีกับผมให้ได้ ก็ถ้า..ได้นอนตักมันแล้วก็ดูทีวีไปด้วยก็คงดี
หลังจากกินมื้อเย็นผมก็รับหน้าที่ล้างจานตามระเบียบ..ไอ้มิ้นท์มันอาบน้ำเสร็จแล้วก็มานั่งรอผม
ตัวหอมว่ะ..
ผมถือผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำแล้วก็จัดการทุกอย่างให้เสร็จภายใน15นาที
“เช็ดหัวให้หน่อยคับ” ผมบอกมัน
มิ้นท์หยิบผ้าขนหนูผืนเล็กจากตู้เสื้อผ้าเดินมาหาผมที่นั่งรอมันอยู่ตรงฟูกที่นอน
“หอมจัง”
“ทะลึ่งละ ไปนั่งที่เก้าอี้สิ เดี๋ยวที่นอนเปียก พูดหลายรอบแล้วนะ” มันดุผมครับ
“พูดกันดีๆก่อนดิ..” ผมทำหน้ากวนแล้วก็ยักคิ้วให้ไอ้มิ้นท์
“ชิ..ขอเรียนเชิญท่านเสด็จลงนั่งที่เก้าอี้ตัวนั้นด้วยพะยะค่ะ”
“ฮ่าๆๆๆ” เล่นเอาซะผมหัวเราะร่วนเลย คงต้องยอมลุกแล้วครับ
ผมนั่งให้มิ้นท์เช็ดหัวให้ ทั้งเนื้อทั้งตัวก็มีแค่ผ้าขนหนูผืนเดียว
“พุงออกแล้วนะ..” น้ำเสียงเผด็จการมากครับ
“ฮื้อออ..ไม่มีอ่ะ..จับดูได้เลย กล้ามทั้งนั้น..” ผมเถียงเลยครับ เล่นพูดซะกูเสียความมั่นใจ วันๆใช้แต่แรงงานมันจะเอาไขมันไปสะสมไว้ตรงไหนวะ
“นี่ล่ะ..อะไรอ่ะ” ไอ้มิ้นท์มันจิกลงตรงพุงผม
เจ็บนะเนี่ย ผมตัวงอเลย
“โห..ที่จิกมาเนี่ยเค้าเรียกว่าพุงใช่ปะ..แล้วเนี่ยเค้าเรียกว่าอะไร อ่ะ มึงท้องรึเปล่าเนี่ย” คราวนี้ผมเลยแกล้งมันบ้าง คว้าหมับที่พุงนิ่มๆของมันแล้วก็เอาหัวซุกซะเลย
“ฮ่าๆๆ..ไอ้บ้า ปล่อยเลยนะ” ไอ้มิ้นท์หัวเราะเสียงดังเพราะมันบ้าจี้ครับ
“หึๆ..หอมจัง นิ่มด้วย วันหลังขอยืมซิตร้าใช้มั่งดิ หอมดีว่ะ”
“พอเลย..ไปใส่เสื้อได้และ เดี๋ยวต้องกินพาราก่อนได้ทาซิตร้า..” มิ้นท์มันว่าแล้วดุนหลังผมให้ลุกขึ้นไปหาเสื้อผ้าใส่ ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ เสื้อกล้ามกับกางเกงบอลย้วยๆ ใส่แล้ว โคตรสบายยยยยยยยยย
“พาย..”
“คับ..” ผมถามมันขณะที่เดินมานั่งลงบนฟูก ปิดไฟให้เรียบร้อย
“มึงห้ามถอดเสื้อต่อหน้าคนอื่นนะ..”
“หึๆ..ได้ดิ..ไมอ่ะ หวงเหรอ”
“...” ไม่ตอบแต่ก้มหน้างุดเลยครับ มันล้มตัวลงนอน
ผมนอนตามมิ้นท์แล้วก็สอดแขนกอดมันไว้หลวมๆ ร้อนนะ ทั้งๆที่มีพัดลมปั่น แต่มันก็ร้อน ขนาดเพิ่งอาบน้ำเสร็จนะเนี่ย แต่..กูแพ้กลิ่นซิตร้าว่ะ ถึงร้อนก็ทนได้จะนอนดมแม่งทั้งคืน
“เบื่อคนปากแข็งว่ะ..”
“เออ..” มันกระแทกเสียงกลับมา
“เออ..อะไร..พูดดีๆสิคับ”
“เออ..ก็หวงไงเล่า..”
“ฮ่าๆๆ..ขี้หวงแบบนี้รักตายเลย” ผมกอดมันแล้วก็ไซร้คอมันเล่น
“ฮื่อ..อย่าดิ วันนี้จัดของคนเดียวเลยอ่ะ เหนื่อย..เมื่อยด้วย”
มันพูดแล้วหันกลับมาทำตาบ้องแบ๊วใส่ผม หารู้ไม่ ว่าทำแบบนี้ยิ่งกระตุ้นอารมณ์นะเนี่ย
“เมื่อยเหรอ นวดให้เอาป่าว..” ผมถามมัน
มันส่ายหน้าให้ผมก่อนซุกแก้มลงมาที่หน้าอกผม
“ไม่เอา อยากนอนกอด..ร้อนรึเปล่าล่ะ”
“ร้อนดิ..แต่กูชอบกลิ่นซิตร้า กอดแบบนี้แหละดีแล้ว คืนนี้กูก็ตั้งใจว่าจะไม่สะกิดมึง เพราะพรุ่งนี้ต้องออกแต่เช้าเลยว่ะ”
“กี่โมงอ่ะ..”
“เจ็ดโมงมั้ง..”
“ตื่นไหวเหรอ..”
“ก็นี่ไง..เลยต้องงดกิจกรรมรอบดึก..” ผมบอกแบบเซ็งๆ รู้สึกจั๊กจี้ที่หน้าอก เพราะไอ้มิ้นท์มันทำปากขมุบขมิบ
“ทำไมมึงต้องทำงานหนักแบบนี้ด้วย..” มันถามผมครับ
เออ.. ไม่รู้สิ ถ้าจะบอกว่าผมทำเพื่อมัน มันก็ใช่ส่วนหนึ่ง แต่พอคิดๆดู ถึงผมไม่ทำงานหักโหม แต่ผมก็ใช้ชีวิตกับมันได้อย่างมีความสุข
ขอแค่มีไอ้มิ้นท์นอนซบอกผมแบบนี้ทุกคืนก็พอ
“กำลังใจกูดีมั้ง...เจอหน้ามึงกูก็หายเหนื่อยละ” แถวบ้านเรียกหยอดครับ
“เว่อร์ ฟังแล้วจะอ๊วก..”
“แพ้ท้อง?”
“ตลกนะ..”มันจิกพุงผมอีกแล้วครับ แต่นอนแบบนี้มึงไม่ได้กินเนื้อกูหรอก คราวนี้ก็ไม่เจ็บว่ะ
“มิ้นท์”
“หืม..”
“ขอเพราะๆหน่อย..”
“ครับ..”
“ขอแบบหวานๆ..”
“จ๋า~”
“เอาแบบใส่ลูกอ้อนด้วยจ้ะ เช่น ว่าไงจ๊ะ ผัวจ๋า”
“ชักเยอะแล้วนะมึง.. ไปอยู่คณะตลกท่าจะรุ่ง กะล่อนได้ตลอด”
“กูกะล่อนแค่มึงนี่ล่ะ...”
“...”
“มิ้นท์..”
“...”
“มิ้นท์..เงียบไมคับ ง่วงแล้วเหรอ?”
“พาย..”
“ว่าไงจ๊ะ..”
“ทำไมถึงเป็นกู..”
“ไม่รู้ดิ กูชอบลูกหมา..”
“หือ..ว่ากูเป็นหมาเหรอ..”
“ฮ่าๆ..ก็มิ้นเป็นลูกหมาหลงทางนี่..”
“อืม..จริงด้วยเนอะ..”
ผมกอดมันแน่นก่อนฝังจมูกลงบนหัวทุยๆของมัน
“มึงมีกูนะ..” ผมบอกมัน ไอ้มิ้นเลื่อนตัวขึ้นมา มองหน้าผม
“อืม..รู้แล้ว..”
“แล้วมิ้นท์ล่ะ..?” ผมถามมันบ้างครับ เพื่อความเสมอภาค
“มึงก็มีกูนี่แหละ..กูเป็นเจ้านาย มึงเป็นลูกแมวเชื่องๆในกำมือกู” มันบอกผมแล้วก็ยักคิ้วทำเท่ห์
หมั่นไส้ปนหมั่นเขี้ยว ลูกแมวอย่างกูอยากกัดเนื้อนิ่มๆของเจ้านายมากเลยว่ะ
“หึ..มิ้นท์ มึงจำได้รึเปล่า ที่เคยให้กูอธิบายเรื่องสีน่ะ..”
“อืม..ทำไมเหรอ..”
“ตอนนี้กูรู้ความหมายอยู่2สี” ผมบอกไอ้มิ้นท์ครับ
“สีไหนเหรอ..”
“มึงจำความรู้สึกตอนที่หนีออกมาได้ปะ..?”
ผมถามไอ้มิ้นท์ครับ จริงๆก็ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องไปรื้อฟื้นความหลังแบบนั้นหรอกครับ เพราะมันเป็นความทรงจำที่ไม่น่าจดจำสักเท่าไหร่ คือไอ้มิ้นท์มันเคยอยู่บ้านเด็กกำพร้าตั้งแต่เด็ก จะเรียกว่าตั้งแต่เกิดก็ได้ครับ มันถูกเอาไปทิ้งไว้ที่นั่นตั้งแต่อายุได้แค่ไม่กี่เดือน ท่าทางอ้อนแอ้นกับผิวบอบบางทำให้มันโดนหมั่นไส้เป็นประจำครับ เพราะมันเป็นผู้ชาย แต่เสือกดูดีกว่าผู้หญิงบางคน ก็เลยโดนอิจฉา จนมันโดนแกล้งหนักข้อเข้าก็เลยตัดสินใจหนีออกมา ผมเจอมันครั้งแรกสภาพอย่างกับลูกหมา จะเรียกว่าผมเก็บมันมาจากข้างถนนก็ได้นะ
จากวันนั้นไอ้มิ้นท์มันก็เข้มแข็งขึ้นมาก ผมเห็นมันยิ้มมากขึ้น
และมันทำให้ผมยิ้มด้วย
“จำได้ปะ..” ผมลองถามมันอีกครั้ง
“อืม..ตอนนั้น..นึกว่าต้องตายแล้ว..”
“แบบนั้นล่ะ..สีเทา..มันเป็นแบบนั้น..”
“งั้นมันก็ไม่สวยน่ะสิ..”
“ใช่ ไม่สวย ไม่สดใส..”
“สดใส?”
“เวลาอยู่ในที่ๆสว่างมากแล้วรู้สึกปลอดภัย อบอุ่นใจ นั่นล่ะ สดใส..”
“อ้อ..งั้นสีเทาก็ไม่สดใส เหมือนหม่นๆไม่มีแสงน่ะเหรอ..”
“อืม..”
“แล้วอีกสีล่ะ..”
“งั้นต้องถามก่อน..ตอนนี้มิ้นท์รู้สึกยังไง?”
“ตอนนี้น่ะเหรอ?”
“อืม..ตอนนี้เลยนะ นอนกอดกันแบบนี้ มิ้นท์รู้สึกยังไง”
“ร้อน..”
“ฮ่าๆๆ แต่ก็ยังกอดซะแน่น”
“....” ไอ้มิ้นท์มันซุกหน้าลงที่อกของผม
แบบนี้ก็ไม่รู้เรื่องน่ะสิ ไม่ได้ๆ กูต้องเปลี่ยนท่า ผมพลิกตัวขึ้นไปอยู่เหนือมัน เลยกลายเป็นไอ้มิ้นท์นอนหงายมองผมตาแป๋วอยู่ในความมืด
ผมก้มลงทาบริมฝีปากบนกลีบปากของมันแล้วก็จูบเบาๆที่แก้มซ้ายแก้มขวา ก่อนจะไปจบที่หน้าผาก ผมเอาจมูกถูที่จมูกไอ้มิ้นท์เบาๆก่อนถามมัน
“แล้วแบบนี้ล่ะ รู้สึกยังไง?”
“...” มันไม่ตอบผมครับ หลบตาแถมยังเอามือปิดหน้าอีก
ผมค่อยๆจับข้อมือมันเลื่อนออกไป แล้วก็ก้มลงจูบซับน้ำตาให้มัน
“ตอบได้รึยัง ว่ารู้สึกยัง..ตอนนี้กูรู้สึกแบบนี้ แล้วมึงล่ะ”
ไอ้มิ้นมันเงียบไปสักพัก ผมได้ยินมันสะอื้นเบาๆ
“ฮึก..กูรักมึง.. ห้ามทิ้งกูนะ..” มันชูแขนกอดคอผม
ผมล้มตัวลงให้ไอ้มิ้นท์ขี้แยมันนอนหนุนอกอีกครั้ง
“กูก็รักมึง..กูจะไม่มีวันทิ้งมึง” ผมตอบมันด้วยเสียงหนักแน่นที่สุด
...
...
...
“มิ้นท์”
“หืม..”
“ความรู้สึกของกูกับมึงกำลังเป็นสีชมพู..”
จบ
http://www.youtube.com/v/i-QLdpjZntM?